หนึ่งอาทิตย์ต่อมา…โรงแรมหรูระดับห้าดาวใจกลางเมืองชั้น5 โซนภัตตาคาร…20:00น.เคนโซ คิณภพ….พรึบ“อะไรครับ?”ผมที่ก้มหน้าก้มตากินอาหารค่ำสุดหรูในภัตตาคารหรูแห่งนี้ด้วยความเอร็ดอร่อยก็ต้องหยุดชะงักลงและเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าพี่ชายสุดที่รักของผม(มั้ง)พรึบพี่ติณห์ไม่ตอบคำถามผมเขากลับยักคิ้วให้ผมและพยักหน้าให้ผมเปิดอ่านซองจดหมายสีชมพูที่เขาเป็นคนยื่นให้ผมดูเอง ผมก็ขมวดคิ้วงุนงงก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบซองจดหมายมาจากมือของพี่ติณห์ พี่ชายคนเดียวของผม“การ์ดแต่งงานเหรอพี่?”ผมที่เปิดซองจดหมายออกก็พบกับการ์ดรูปหัวใจและพอผมอ่านข้อความในจดหมายก็พอจะรู้ว่าเป็นการเชื้อเชิญให้ไปงานแต่งงาน ผมเลยมองหน้าพี่ติณห์และถามเขาออกไปด้วยความตกใจปนตื่นเต้นและดีใจรวมๆกันไป ที่พี่ชายสุดที่รักของผมจะมีเมียกับเขาสักที^_^“อืม…อย่าลืมไปล่ะ….”“ไปแน่นอนอยู่แล้วครับ…พี่ชายสุดหล่อแต่งงานทั้งที^_^”ผมเอ่ยพูดไปพลางยิ้มกว้างอย่างทะเล้นให้พี่ติณห์เขาก็ยิ้มให้ผมใบหน้าของพี่ติณห์เริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆอย่างเขินอาย ผมก็มองหน้าพี่ติณห์ด้วยความขำๆที่เห็นพี่ชายผมเขินได้ขนาดนี้ แสดงว่าผู้หญิงคนที่พี่ติณห์จะแต่งงานด้วยต้องไม่ธรรมดา เพราะพี
“เออๆๆอดีตแฟนก็อดีตแฟน….”“เธอจะกลับมาอยู่ที่นี้ถาวร…เพราะเห็นว่าคุณลุงพ่อของเธอ….ล้มป่วยน่ะ…”“ล้มป่วย?”ผมเอ่ยทวนคำพูดของพี่ติณห์ไปอย่างตกใจและเป็นห่วงคุณลุงภวัตพ่อของวิเวียนอดีตผู้หญิงที่ผมรักเธอมากและครั้งหนึ่งเราเคยใช้ชีวิตร่วมกันแต่มันก็เป็นแค่อดีตที่ผมไม่อยากจะจำ“อืม…ใช่…เมื่ออาทิตย์ก่อนฉันเข้าไปหาท่าน…เอาการ์ดงานแต่งไปให้ท่านน่ะ…”“อาการท่านมองหนักเอาเรื่อง….”“สงสัยท่านคงไม่มีเงินส่งไปให้ลูกสาวท่านผลาญอีกแล้วน่ะ…”พี่ติณห์พูดถูกทุกอย่าง ผมก็พยักหน้าเข้าใจ ลุงภวัตเคยเป็นเลขาของคุณพ่อผมมาตั้งแต่พ่อผมก่อตั้งบริษัทเหมืองเพชรใหม่ๆจนกิจการของพ่อผมเติบใหญ่อย่างทุกวันจนทำให้ผมและวีเวียนลูกสาวของลุงภวัตได้รู้จักกันและสนิทสนมกันจนผมรักเธอเพราะเธอเป็นความรักครั้งแรกของผมและก็ยังเป็นคนแรกของผมอีกด้วย ผมรักเธอมาจึงไปขอร้องอ้อนวอนให้คุณพ่อผมไปขอหมั้นวิเวียนให้ผม จนผมกับวิเวียนได้หมั้นหมายกัน เราสองคนจึงตัดสินใจไปใช้ชีวิตกันสองคนที่ต่างประเทศเพื่อไปเรียนต่อเกรดสิบที่แอลเอ ปีแรกเรามีความสุขกันมากแต่พอเข้าปีที่สองปีสามวิเวียนผู้หญิงที่แสนดีของผมก็เปลี่ยนไป เธอเริ่มกลับบ้านมืดเริ่มเที่ยว และใ
เหตุการณ์ก่อนหน้านั้นสองชั่วโมงโรมแรมWหรูระดับห้าดาวใจกลางเมืองชั้นที่8 โซนพนักงานของโรงแรมขวัญเอย กมลวรรรณ…..พรึบ“นี่ขวัญเอยเพื่อนแป้งค่ะ….”ถุงแป้งเพื่อนจากมหาลัยที่เรียนคณะเดียวกับฉันเอ่ยบอกผู้หญิงวัยกลางคนที่เเต่งชุดยูนิฟอร์มสีฟ้าของโรงแรมแห่งนี้ด้วยถ้อยคำและน้ำเสียงสุภาพ ฉันจึงยกมือไหว้ผู้หญิงคนนั้นตามมารยาท“อืม….”หญิงวัยกลางคนยกมือรับไหว้ฉันพลางมองหน้าฉันอย่างพินิจพิจารณาตั้งแต่หัวจรดเท้าเท้าจรดหัว ฉันก็ยืนตัวแข็งทื่อด้วยความเกร็งพลางหันไปมองหน้าถุงแป้งอย่างหวาดกลัว เธอก็ทำเพียงแค่ยิ้มอ่อนให้ฉันที่จริงฉันไม่ค่อยสนิทกับเธอด้วยซ้ำไปหรอก เพราะเธอเป็นคนที่ไม่ค่อยรวยน่ะ แต่เธอเรียนเก่งจนได้เป็นเด็กนักเรียนทุน ฉันที่กำลังมองหางานอยู่ จึงเข้าไปคุยทำความรู้จักกับเธอและบอกถึงจุดประสงค์ของตัวเองว่าฉันอยากหางานสบายๆที่ไม่เหนื่อยไม่ต้องตากแดดทำน่ะ ถุงเเป้งก็เลยชวนฉันมาที่นี้ โรงแรมระดับห้าดาวที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองกรุงแห่งนี้“วันนี้เธอก็ตามยัยถุงแป้งเพื่อดูงานที่เธอจะต้องทำไปก่อน…”“และพรุ่งนี้ค่อยนำเอกสารการสมัครงานมาให้ฉัน…”“ขอบคุณค่ะคุณเกล^_^”ถุงแป้งยิ้มกว้างอย่างดีใจพลางยกมือไหว
“คุณภีม…นี่เขาเป็นใครเหรอ?”“ถึงต้องเตรียมห้องสูทไว้ให้เขาเลย?”ฉันที่ช่วยยัยถุงแป้งดูดฝุ่นตามพรมสีขาวตรงโซนห้องนั่งเล่นของห้องสูทใหญ่หรูหรานี้ก็เอ่ยถามไปอย่างสงสัย“คุณภีมเป็นเจ้าของโรมแรมนี้…และอีกๆหลายๆสาขาที่อยู่ทั่วประเทศน่ะ..”ถุงแป้งที่นำผ้าสีขาวเช็ดไปตามโต๊ะและของตกแต่งซึ่งเธอยืนอยู่ไม่ไกลจากฉันนักเอ่ยตอบฉันมา ฉันก็พยักหน้าเข้าใจ และเราสองคนก็ช่วยกันทำความสะอาดและจัดห้องให้เรียบร้อยเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงเต็มจนทุกอย่างในห้องนี้สะอาดเหมือนใหม่ทุกอย่าง“นี่ถุงแป้ง!!”“คะ!”ถุงแป้งและฉันที่กำลังนั่งพักเหนื่อยที่ห้องพักของแม่บ้านอยู่ถึงกับต้องหันไปมองเสียงเเข็งที่ตะคอกอยู่ด้านหน้าประตูห้องสูทพลางสะดุ้งสุดตัวด้วยความตกใจ ฉันจึงหันไปมองตาม ดีนะที่เธอคนนี้ที่มาเรียกยัยถุงแป้งไม่ใช่คุณเกลอะไรนั้น ไม่งั้นฉันกับยัยถุงแป้งแย่แน่“ลูกค้าเช็คเอาท์ออกไป...มาช่วยพี่ทำความสะอาดห้องหน่อยเร็ว!”“ค่ะๆๆ”ถุงแป้งรีบลุกขึ้นพร้อมกับก้มศีรษะลงอย่างเข้าใจและเธอก็หันมามองหน้าฉันด้วยสีหน้าลำบากใจ“เอ่อ…”“มีอะไร?”ฉันทำถามถุงแป้งเสียงเข้มที่เห็นว่าสีหน้าที่ร้อนรนใจของเธอกำลังจ้องมองฉันอยู่“คือว่าฉัน….ลืมไปว่า
“ก็ได้ครับ…” “ว่าแต่คุณภีมมาเมืองไทยรอบนี้….จะอยู่กี่วันครับ…?” “ก็ไม่รู้สิครับ…อยู่จนกว่าคุณคีรีจะเบื่อผม^_^” “คุณคีรี…?”ฉันที่ได้ยินบทสนาที่ฟังดูสนิทสนมของชายสองคนนั้นได้อย่างชัดเจนและได้ยินเสียงที่คุ้นหูฉัน พี่คีรี มาทำอะไรที่นี้และทำไมเขาดูสนิทสนมกับคุณภีมขนาดนั้น พรึบ “พี่คีรีจริงๆด้วย..”ฉันพึมพำออกมาเมื่อโผล่หัวออกมาจากหลังโซฟาเพื่อดูหน้าผู้ชายสองคนนั้นให้ชัดเจน ก็ต้องถึงกับตกใจที่เป็นพี่คีรีจริงๆด้วย เขากำลังยืนโอบกอดผู้ชายร่างสูงโปร่งในชุดสูทสีดำและทั้งสองคนกำลังยืนจ้องหน้ากันอยู่ก่อนที่จะค่อยๆโน้มใบหน้าหล่อเข้าหากันอย่างช้าๆ “จ๊วฟฟฟฟฟ” “อื้อออ”ทั้งสองมอบจุมพิตที่เร้าร้อนและดุดันให้กันและกัน ผิดกับฉันที่อ้าปากค้างกับภาพเบื้องหน้าที่เห็น พี่คีรี แฟนของฉันกำลังจูบอยู่กับผู้ชาย ที่เขาไม่ยอมจูบฉันก็เพราะว่าเขา ไม่ได้ชอบฉัน “อื้ออ” พรึบ ฉันเอามือปิดปากไม่ให้ส่งเสียงร้องเล็ดลอดออกไปเมื่อผู้ชายรูปร่างหน้าตาที่หล่อดูดีไปหมดทุกสัดส่วนสองคนกำลังจูบกันอย่างดูดดื่มและค่อยๆพากันเดินเข้าไปในห้องน้ำ พรึบ ฉันลุกขึ้นยืนและค่อยๆก้าวขาที่เเข็งทื่อเดินไปดูภาพบาดตาบาดใจเบื้องหน้า กว่า
“มีแต่รี…ได้ไหม?”คุณป้าเจ้าของร้านว่าพร้อมชูกล่องเหล้าให้ฉันดู ฉันก็พยักหน้าว่าได้หมดตอนนี้ ขอแค่กินแล้วเมา เมาเพื่อให้ลืมเธอไปเลย!!!“มีแต่กลมขนาดใหญ่เจ็ดร้อยมิลลิลิตร”“แปดร้อยบาท…”“ได้ค่ะ…เอามาสองกลมเลย!”ฉันตอบเสียงดังฟังชัดพร้อมกับสะอึกจากการร้องไห้มาอย่างหนัก พรึบ“หนึ่งพันหกร้อยบาท”ป้าเจ้าของร้านว่าพร้อมกับยื่นถุงหิ้วสีเข้มมาให้ฉันที่ด้านในบรรจุเหล้าสองกลม ฉันก็ยื่นเงินแบงค์พันสองใบให้เธอและรอเงินทอนเมื่อได้เงินทอนมาจากป้าฉันก็จัดการยัดเงินทอนเก็บลงไปในกระเป๋าช่องลับของกระโปรงพรึบฉันหยิบถุงเหล้าและเก็บเงินทอนเรียบร้อยก็เดินเท้าเปล่าซึ่งฉันเองก็ไม่แน่ใจว่าไปถอดรองเท้าทิ้งไว้ที่ไหนและตอนไหนที่เท้าฉันไม่ได้สวมใส่รองเท้า แต่พอรู้ตัวอีกทีก็เจ็บแสบที่เท้าทั้งสองข้างไปหมดแล้วพรึบฉันทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้สีขาวตัวยาวที่นั่งได้ถึงสามคนและจัดการเปิดขวดเหล้ากลมขึ้นมาและเริ่มกระดกทันที“อ๊าาาาาาห์”ฉันร้องออกมาที่รสชาติขมๆและเข้มๆของเหล้าลงคอฉัน ฉันกระดกเหล้าอย่างเพียวๆจนรู้สึกแสบคอและแสบท้องไปหมด แต่แบบนี้ยิ่งดี ฉันจะได้เมา เมาให้ลืมพี่คีรี!“อึกๆๆๆฮืฮๆๆๆๆ”ฉันเบะปากร้องไห้ออกมาอย่างไม่
“จะเคนโซไหนก็ช่างผมเถอะครับ…!!”เสียงของผู้ชายคนนั้นเปล่งออกมาอย่างไม่ค่อยพอใจ“ว่าแต่พี่มาเมาอะไรที่เปลี่ยวๆแบบนี้?”“ไม่กลัวโดนลากไปรุมโทรมเหรอไง?”“ดูแต่งตัวดิ!”พรึบ“อื้อออ…ไม่เอา…ฉันร้อน!”ฉันเอ่ยบอกเขาไปพลางพยายามดึงเสื้อแจ็คเก็ตที่หนักมากออกไปจากร่างของฉันที่โดนเคนโซเอาคุมร่างของฉันไว้พรึบ“ถ้าไม่ใส่…ก็กลับบ้าน!”เคนโซว่าพร้อมกับคว้าข้อมือของฉันและออกแรงดึงร่างของฉันให้ลุกขึ้นพรึบ“ไม่กลับ!!”ฉันสะบัดข้อมือตัวเองอย่างแรงให้หลุดจากการจับกุมของเคนโซและเอ่ยตะคอกใส่เขากลับไป“อย่าดื้อได้เปล่าวะ!!”เคนโซตวาดเสียงดังใส่ฉัน แต่ตอนนี้ฉันไม่กลัวเขา และไม่กลัวใครทั้งนั้น“อย่ามายุ่ง!!”ฉันแผดเสียงดังใส่เคนโซ จนเขาทำเพียงแค่ยืนมองฉันเฉยๆ“พี่เป็นอะไรเนี่ย…ทำตัวเป็นยัยขี้เมาเหมือนคนอกหักแบบนี้”“ฉันไม่ได้อกหัก!!”ฉันเงยหน้าขึ้นไปตะโกนเสียงดังตอบเขาไป“เขาก็แค่ไม่รัก…ฉัน”และฉันก็พูดเสียงแผ่วเบาอย่างคนที่จุกอยู่ในอก นี้เป็นการอกหักและการผิดหวังครั้งแรกในชีวิตของฉัน ซึ่งฉันไม่เคยเตรียมใจกับเรื่องอย่างนี้มาก่อน เพราะฉันคิดว่าฉันโชคดีที่สุดที่ได้พี่คีรีเป็นแฟน และคิดมาตลอดว่าเขารักฉันมาก “ฮืฮๆๆๆใช
บ้านเช่า Aห้องนั่งเล่น00:30น.เคนโซ คิณภพ….“ฮืฮๆๆๆๆ”“อยากให้เธอฟังคำๆนึงว่าฉันยังคิดถึง~~~~”“ตอนที่สองเราได้คอลกัน นั่งริมทะเลมองจันทร์~~~”“เธอพูดว่าเธอนั้นรักฉัน เธอพูดมันแบบนั้น~~~”“ตั้งแต่ที่เธอนั้นทิ้งฉันไป ฉันยังรักเธอไม่มีคนใหม่~~”“ครั้งนึงเราเคยรักกัน~~~”“แม้เวลาจะผ่าน แต่ความทรงจำมันติดฉัน~~~”“ครั้งนึงเราเคยพบกัน~~~”“ฮืฮออออ”ผมที่นั่งมองพี่ขวัญเอยที่เธอนั่งอยู่บนโซฟาตัวเดียวกับผม เธอกำลังร้องเพลงไม่สิ โหยหวยมากกว่า เธอทั้งร้องเพลงทั้งร้องไห้ จนผมอดที่จะสงสารเธอไม่ได้จึงต้องยื่นมือไปลูบแผ่นหลังเธอเพื่อปลอบโยนเธอ เธอก็หยุดชะงักการร้องเพลงและหันไปหยิบแก้วเหล้าที่มีน้ำแข็งที่ชงเสร็จสรรพพร้อมดื่มโดยฝีมือผมน่ะสิ ก็เธอเล่นกระดกเหล้าเพียวๆแบบนั้น ผมอดที่จะสงสารลำคอและลำไส้เธอไม่ได้น่ะ ก็เลยไปซื้อน้ำแข็งโซดาเอามาผสมกับเหล้าให้เธอดื่ม เห็นเธอบอกผมว่า อยากเมา อยากเมาเพื่อลืมเธอ ผมเข้าใจดีว่าการอกหักมันเป็นยังไง ผมเลยใจดีเป็นคนชงเหล้าให้พี่ขวัญเอยคนสวยขวัญใจของผม^_^และผมจะเป็นคนยื่นอกให้เธอซบ เพราะสวยๆแบบพี่ขวัญเอย ผมไม่อยากปล่อยให้หลุดมือไป ผมอยากได้พี่ขวัญเอยจนใจจะขาดอยู่แล
“พี่กำลังทำให้ผมคลั่ง!”เคนโซเอ่ยเสียงกระเส่าออกมาเมื่อฉันอ้าปากดูดกลืนท่อนเอ็นยักษ์ของเคนโซและใช้มือรูดขึ้นรูดลงเพื่อสร้างความเสียวซ่านให้เคนโซ ร่างของเคนโซสั่นสะท้านไปด้วยความเสียว มือหนาเริ่มปรนเปรอความสุขให้ฉันโดยการใช้ปลายนิ้วเรียวของเขาสอดใส่เข้าไปในร่องสวาทของฉัน“อื้อออ”ฉันบิดเอวไปมาอย่างเสียวซ่านและอ้าขาให้กว้างขึ้นเพื่อยอมรับความเสียวซ่านที่เคนโซมอบให้พรึบ“ผมไม่ไหวแล้วครับ…พี่เอย…”“อยากกระแทกพี่เต็มทนแล้ว…”เคนโซจับศีรษะของฉันที่ผงกขึ้นลงไปกับท่อนเอ็นของเขาออกมาและเอ่ยบอกฉัน ใบหน้าหล่อเหยเก ฉันก็พยักหน้ารับรู้ เพราะฉันเองก็ไม่ไหวแล้วกับการเล้าโลมที่เคนโซมอบให้ฉันพรึบ“อื้ออเคน…เคนขา…”ฉันครางกระเส่าเรียกเคนโซเสียงหวานอย่างอารมณ์พาไป เคนโซก็ยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจและเขาก็จัดการจับร่างของฉันให้ลุกขึ้นมานั่งยองๆคร่อมร่างของเขาโดยที่ฉันหันหน้าเข้าหาเขาเคนโซเป็นคนจัดท่าทางทุกท่า อย่างเชี่ยวชาญและชำ่ชองเพราะฉันไม่เคยทำและไม่รู้จะทำยังไงด้วย“อื้อออ”ฉันครางกระเส่าด้วยความเสียวซ่านเมื่อเคนโซจับลำกายใหญ่ของเขาถูเสียดสีไปกับร่องสวาทของฉันและจัดการดันท่อนเอ็นร้อนระอุของเขาเข้ามาในร่องส
จี๋ๆๆๆๆ“พี่เอยนี่…เซ็กส์จัดจริงๆนะครับ..”“โคตรขี้หงี่เลย…”“ใครได้พี่ไปเป็นเมียเนี่ย…คงจะน้ำหมดตัวแน่..”เคนโซกระซิบเสียงแหบพร่าที่ข้างหูฉัน “พูดมาก!”ฉันก็หันไปมองหน้าเคนโซอย่างเอาเรื่อง เคนโซก็ยิ้มกริ่มให้ฉันก่อนจะโน้มหน้ามากดปลายจมูกโด่งของเขาแนบลงมาบนแก้มนวลของฉัน“ฟอดดดด”“อื้ออเคน…”ฉันครางกระเส่าถี่รัวเมื่อเคนโซยื่นมือมาดึงเสื้อสายเดี่ยวของฉันลงมาให้พ้นเต้าอวบอิ่มของฉันและเขาก็ใช้ปลายนิ้วเขี่ยวนไปรอบๆปานยอดปทุมถันและยอดปทุมถันสีชมพูสดของฉัน“หัวนมสีชมพู…ใหญ่จัง…”“พี่เอยเซ็กซี่และหุ่นเย้ายวนขนาดนี้…แฟนพี่ปล่อยพี่หลุดมือมาได้ไง…?”เคนโซเอ่ยออกมาอย่างสงสัย เขาเงยใบหน้าหล่อใสของเขามองหน้าฉัน ฉันก็เม้มริมฝีปากแน่น“ถ้าจะเอาฉัน…เลิกพูดถึงแฟนเก่าฉันซะ”ฉันกดเสียงต่ำแววตาจริงจังใส่เคนโซไป เขาก็ไหวไหล่เล็กน้อยก่อนจะก้มหน้าลงไปหายอดปทุมถันของฉันและจัดการยื่นปลายลิ้นสากของเขาเลียไปรอบๆปานสีชมพูสดของฉันจนมันเปียกชุ่มพรึบ“อ๊ะ!”ฉันร้องออกมาเมื่อเคนโซถอดกางเกงขาสั้นของฉันออกไปจากท่อนล่างของฉัน และจัดการจับขาของฉันให้ขึ้นมายันเป็นรูปตัวเอ็มบนเก้าอี้ที่มีพนักพิงที่ฉันนั่งอยู่ แผ่นหลังของฉันแนบ
เช้าวันต่อมา….บ้านเช่าA…โต๊ะอาหารของบ้าน08:30น.ขวัญเอย กมลวรรณ…พรึบ“ทำอะไรอยู่เหรอครับ…พี่ขวัญเอยขวัญใจของผม^_^”เสียงทุ้มหวานเอ่ยขึ้นพร้อมกับร่างสูงของเคนโซที่นั่งลงเก้าอี้ตัวข้างๆฉัน ฉันที่กำลังกินข้าวเช้าอยู่ก็หันไปมองหน้าเขาด้วยสายตาดุๆ แต่ไอ้เด็กบ้าเคนโซมันกลับยิ้มละมุนให้ฉัน“นอนอยู่….”ฉันตอบเขาเสียงเรียบอย่างไม่ใส่ใจนักก่อนจะหันมาก้มหน้าก้มตากินข้าวมันไก่ในจานของฉันต่อ ฉันซื้อมาและแช่ไว้ในตู้เย็นเมื่อวันก่อน วันนี้หิวข้าวแต่เช้าเลยนำมาเวฟ“กวนผมเหรอครับ?”เคนโซชะโงกหน้ามาใกล้ฉันมากขึ้นและเอ่ยถามฉัน ที่ฉันตอบเขาอย่างกวนๆไปเพราะดูก็รู้ว่าฉันกำลังนั่งกินข้าวอยู่ยังจะถามอีกว่าฉันทำอะไร!“แล้ววันนี้ไม่ไปเรียนหรือไง?”ฉันถามเคนโซกลับพร้อมกับยื่นมือไปเลื่อนหน้าจอไอแพดตรงหน้าฉันที่ตอนนี้ฉันกำลังนั่งดูซีรีย์เกาหลีอยู่“วันนี้วันเสาร์ครับ…วิลัยปิด…”“อ้อเหรอ?”ฉันเอ่ยตอบรับเคนโซไปด้วยน้ำเสียงกวนๆ“ครับ…แล้วพี่เอยล่ะครับ…ไม่ไปเรียนเหรอ?”เคนโซเองก็ถามฉันเสียงกระแทกกลับมา“วันนี้ฉันไม่มีเรียน…และก็ขี้เกียจออกไปไหนด้วยอ่ะ..”ฉันตอบเขาไปแต่ไม่ได้หันไปมองหน้าเขา“อื้อ”ฉันหันขวับไปมองเคนโซอย่า
“อื้ออ…จุก..”เธอร้องบอกผมเมื่อผมกระแทกลำกายใหญ่ของผมเข้าไปในร่องสวาทของเธออย่างเน้นๆและลึกมาก มากจนผมรับรู้ได้ว่าส่วนหัวของลำกายใหญ่ของผมไปแตะสัมผัสกับอะไรสักอย่างที่อยู่ด้านในของเธอ“ใหญ่จัง…อ๊ะ!”เสียงพูดของพี่เอยขาดหายไปเมื่อผมดึงลำกายใหญ่ออกจนเกือบสุดลำและกระแทกกลับเข้าไปในร่องสวาทของเธอใหม่อย่างสุดลำเช่นกันและมันก็เป็นอยู่แบบนั้นหลายทีพั่บ!“อ๊ะ!”เธอร้องเสียงหลง ผมก็มองหน้าเธอก่อนจะก้มหน้าลงไปซุกไซ้ซอกคอของเธออย่างลุ่มหลงในกลิ่นกายหอมๆและนุ่มๆของเธอ“อื้ออออ”เสียงหวานครางกระเส่า ผมอดใจไม่ไหวอีกต่อไปจึงขยับลำกายใหญ่ของผมเข้าออกร่องสวาทของเธอแรงขึ้นและถี่ขึ้นพั่บๆๆๆๆๆๆๆๆ“อ๊ะๆๆๆๆๆๆ”เสียงของพี่เอยครางกระเส่าถี่รัวร่างของเธอขยับเขยื้อนไปตามแรงกระแทกของผมเต้าอวบอิ่มกระเพื่อมเด้งไปมาอย่างน่ามอง ยิ่งมองผมก็ยิ่งมีความต้องการเธอเพิ่มมากขึ้นจนกระแทกถี่รัวและเน้นอย่างเป็นจังหวะรัวเร็ว“อ๊าาาาห์ซี๊ดดด!”ผมสูดปากออกมาอย่างเสียวซ่านไปทั่วทั้งลำกายใหญ่ ด้านในของพี่เอยตอดรัดลำกายใหญ่ของผมถี่รัวพร้อมกับร่างเล็กที่ชักกระตุกของเธอ ผมจึงผ่อนสะโพกลงเมื่อรับรู้ได้ว่าเธอกำลังเสียวซ่านเป็นอย่างมากที่ผมพ
“นายเพิ่งจะมีอะไรกับแฟนนายมา…?”“ยังไม่พออีกเหรอไง?”พี่เอยมองหน้าผมพร้อมกับเอ่ยถามผม ผมก็ยิ้มให้เธอ“มีนาน่ะ…จืดชืด…สู้พี่เอยไม่ได้หรอกครับ…”ผมพูดไปตามความจริง พี่เอยน่ะ..เด็ดสุดและผมชอบสุดตั้งแต่ผมมีอะไรกับผู้หญิงมา“ผมน่ะ…ชอบผู้หญิงเซ็กส์จัดแบบพี่…”“ไอ้เด็กบ้า!”พี่เอยว่าผมเสียงเข้มหน้าตาเขินอายจนแดงก่ำ ผมก็ยิ้มให้เธออย่างน่ารักๆก่อนจะขยับใบหน้าหล่อเข้าไปหาพี่เอยใหม่อีกครั้งและจัดการซุกไซ้ซอกคอหอมๆของเธอต่อทันที“อื้อออ”เสียงหวานของพี่เอยครวญครางออกมาเมื่อผมยื่นมือไปลูบไล้เต้าอวบอิ่มของเธออย่างนุ่มนวลและนวดคลึงเบาๆเพื่อสร้างอารมณ์ให้เธอ พี่เอยก็แอ่นหน้าอกขึ้นลงสู้กับมือของผม ผมจึงยิ่งได้ใจที่รู้ว่าร่างกายของเธอกำลังตอบสนองผม ผมก็ไม่รอช้าเลื่อนริมฝีปากขึ้นไปหาริมฝีปากอวบอิ่มของพี่เอยและจัดการจูบเธอทันที“อื้ออจ๊วฟฟฟ”“จ๊วฟฟฟฟ”ผมดูดดื่มริมฝีปากของพี่เอยอย่างอ่อนโยนและนุ่มนวลเธอก็คล้อยตามผม เธอจูบตอบผมมันเป็นสัญญาณว่าเธอยินดีรับข้อเสนอของผมสินะ“จ๊วฟฟฟ”ผมเริ่มจูบพี่เอยแรงขึ้นจากจูบที่อ่อนโยนก็กลายเป็นเร้าร้อนด้วยอารมณ์ที่ร้อนรุ่มของเราทั้งคู่ ผมยื่นมือลงไปหาเนินสามเหลี่ยมของเธอร่างขอ
เคนโซ คิณภพ…“เคนโซ…นายจะทำอะไรฉัน?”พี่ขวัญเอยเอ่ยถามผมพลางมองผมด้วยแววตาสั่นไหวที่บ่งบอกว่าเธอกำลังกลัวผม ผมก็กระตุกรอยยิ้มให้เธอก่อนจะมองไปที่เรือนร่างของพี่ขวัญเอยที่ตอนนี้เธอนำผ้านวมมาปกปิดร่างของเธอไว้“ก็ทำให้พี่มีความสุขไงครับ….”“พี่เอยแอบไปดูผมกับมีนาอีกแล้วนะ…”“ไม่สิ…ไม่ใช่แค่ผมกับมีนาแต่พี่เอยแอบดูผมกับผู้หญิงทุกคนที่ผมพามานอนด้วยต่างหากล่ะ…”“และพอดูเสร็จพี่ก็กลับมาช่วยตัวเอง”ผมพูดพร้อมกับมองพี่เอยด้วยแววตากรุ้มกริ่ม พี่เอยก็หลบสายตาผมใบหน้าของเธอแดงก่ำอย่างเขินอาย เธอคงคิดส่าผมไม่รู้สินะ ว่าเธอแอบดูกิจกรรมรักของผมกับผู้หญิงที่ผมพามาน่ะว่าแต่ทำไมเธอน่ารักน่าฟัดขนาดนี้ว่ะ“ถ้าพี่เอยอยากให้ผมช่วยเนี่ย….”“บอกผมตรงๆได้นะครับ..”“หรือว่าถ้าพี่เอยอยากมีอะไรกับผม…แต่ไม่อยากเป็นแฟนหรือเป็นกิ๊กผม…”“เรามามีความสัมพันธ์แบบfriend with benefit^_^”“friend with benefit?”พี่เอยทวนคำพูดของผมด้วยใบหน้างุนงงและสงสัย ผมก็กรีดยิ้มให้เธอก่อนจะเดินมุ่งตรงไปหาเธอบนที่นอนของเธอพรึบผมนั่งลงบนที่นอนนุ่มๆของพี่เอยพลางยิ้มหวานให้เธอ เธอก็มองหน้าผมด้วยแววตางุนงง“ความสัมพันธ์ที่เป็นเหมือนเพื่อนน
“อื้ออออออ!”ฉันครวญครางออกมาอย่างน่าอายแต่นาทีนี้ความเสียวซ่านไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกอับอายมันกลับทำให้ฉันรู้สึกดีเวลาร้องครวญครางออกมาแบบนั้น “อื้ออ๊ะๆๆๆ”ฉันครางถี่รัวเมื่อฉันใช้มือแหวกจีสตริงให้พ้นจากร่องสวาทของฉันและจัดการใช้ส่วนหัวของดิลโด้ถูขึ้นลงไปกับร่องสวาทของฉันอย่างแผ่วเบาทำให้ร่างของฉันชักกระตุกถี่รัวไปด้วยความเสียวซ่าน“อื้ออออ”ฉันหลับตาพริ้มซู้ดปากขึ้นลงอย่างสุขสมเมื่อส่วนหัวของดิลโด้ไปแตะโดนปุ่มกระสันของฉันยิ่งสร้างความเสียวซ่านให้ฉันเพิ่มขึ้นไปอีกฉันจ่อดิลโด้ไว้กับปุ่มกระสันนานเป็นพิเศษเพราะตรงนี้คือจุดเสียวซ่านและมอบความสุขให้ฉันจนฉันเสร็จไปไม่รู้ต่อกี่น้ำและกี่น้ำแล้ว“อื้ออออ”มือเล็กของฉันลูบคลึงเต้าอวบอิ่มพร้อมกับเขี่ยยอดปทุมถันของตัวเองไปด้วยเพื่อสร้างความเสียวให้ฉันเพิ่มขึ้นไปอีกแจ๊ะๆๆๆๆๆ“อื้อออ”เสียงน้ำมากมายที่ออกมาจากร่องสวาทของฉันกระทบกับดิลโด้ที่ทำจากซิลิโคนทำให้เกิดเสียงดัง ฉันค่อยๆใช้นิ้วมือแหวกร่องสวาทที่อวบอิ่มโหนกนูนของฉันให้อ้าออกจากกันอย่างกว้างๆเพื่อจะทำการสอดใส่ดิลโด้เข้าไปในร่องสวาทของฉัน“อื้ออออ”ฉันหลับตาพริ้มครางกระเส่าออกมาด้วยความเสียวซ่านเมื่
“อื้อ!ไม่นะ..เราจะให้กิเลสมาครอบงำแบบนี้ไม่ได้…”ฉันพูดเตือนสติตัวเองและหยุดการกระทำทุกอย่างของตัวลงและหันหลังเดินกลับออกมาจากหน้าห้องนั้นกลับเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง“เลิกคิด….”ฉันหลับตาพร้อมกับส่ายศีรษะไปมาให้ฉันเลิกคิดถึงการร่วมรักของสองคนนั้นได้แล้วพรึบฉันทิ้งตัวลงนอนไปกับที่นอนและข่มใจข่มตาให้หลับและมันก็ได้ผล…ฉันหลับจริงๆ คงจะเป็นเพราะฉันอ่อนเพลียและเหนื่อยล้ากับการร้องไห้มาอย่างหนักก็ได้วันนี้ฉันก็ขาดเรียนไม่ได้ไปมหาลัย….เพิ่งรู้นะว่าการอกหักมันทำให้เราไม่มีจิตใจจะทำอะไรเลย มันห่อเหี่ยวหัวใจยังไงแปลกๆ มันเคยมีเขาแต่อตนนี้ไม่มีแล้ว.....30นาทีต่อมา…ห้องนอนขวัญเอย…..พรึบฉันลืมตาตื่นขึ้นมาเพราะฉันหลับจริงแต่ในสมองของฉันยังคงเห็นแต่ฉากเลิฟซีนสุดเร้าร้อนของเคนโซและแฟนของเขา จนทำให้จิตใจของฉันไม่สงบสุข กิเลสก่อเกิดขึ้นภายในใจของฉันจนฉันต้องตื่นขึ้นมาด้วยอาการที่ร้อนรุ่มไปทั้งตัวและตรงจุดเสียวของฉันเต็มไปด้วยความชุ่มแฉะ“อื้ออ”ทำให้ฉันอดใจไม่ไหวที่จะตอบสนองตัวเองด้วยการสัมผัส ฉันยื่นมือทั้งสองข้างไปลูบไล้เต้าอวบอิ่มของฉันผ่านชุดนอนซีทรูสายเดี่ยวผ้าเนื้อบางสีครีมที่ผ้าสามารถมองเห
ผมจะบอกเธอได้ไงล่ะ ว่าผมน่ะใช้ถุงยางหมดแพ็คภายในอาทิตย์เดียว แถมในแพ็คมีหนึ่งโหลนะครับผมจะบอกให้ ผมใช้กับเธอไปแค่สองกล่องนอกนั้นกับคนอื่นทั้งหมด พรึบ “มีไหมครับ?”ผมนี่ถามมีนาทันทีที่เธอเดินออกมาจากร้านขายยาหลังจากที่เธอเข้าไปเกือบราวๆห้านาทีด้วยสีหน้าลุ้นๆกับคำตอบเขาเธอ เพราะขนาดถุงยางของผมที่ใช้เป็นขนาดใหญ่พิเศษซึ่งหาซื้อยากตามท้องตลาดทั่วไป เพราะขนาดเจ้าโลกของผมมีขนาดใหญ่เกินมาตรฐานของชายไทยน่ะครับ ผมโคตรจะภูมิใจในตัวเองตรงนี้มากๆถึงผมจะเรียนโง่เรื่องอื่นห่วยแตก แต่ขอน้องชายใหญ่ไว้ก่อนก็ภูมิใจล่ะ “มีค่ะ^\\^”มีนาเดินเข้ามาใกล้ผมและเอ่ยบอกผมด้วยใบหน้าเขินอาย พรึบ ผมคว้าเอวมีนามาใกล้ชิดร่างผมที่คร่อมมอเตอร์ไซค์อยู่ เธอก็มีสีหน้าที่ตกใจอยู่เล็กน้อยเพราะกลัวคนอื่นจะเห็น แต่ตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดรถสัญจรไปมาก็ไม่ค่อยจะมี ผู้คนตรงนี้ก็ไม่มีเลย “งั้นไปกันดีกว่าครับ…” “พี่อยากฟัดมีนาใจจะขาดแล้ว^_^”ผมเอ่ยบอกเธอเสียงกระเส่าพลางมองต่ำไปที่เรือนร่างของมีนา เธอก็ทำหน้างอใส่ผมอย่างเขินอาย “พี่เคนอ่ะ..”ผมปล่อยเอวของมีนา เธอก็เดินไปขึ้นรถของผมโดยท่านั่งข้าง ผมก็สวมใส่หมวกกันน็อคและรีบสตาร์ทรถออก