“ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ต้องบอกเชยก็ได้ เชยจะกลับบ้านค่ะ เชยวางสายนะคะ” อบเชยพยายามปรับน้ำเสียงให้กลับมาเหมือนเดิม ในเมื่อมันเป็นความต้องการของดีแลน เธอขวางเขาโดยใช้สิทธิ์อะไรล่ะ?
“เดี๋ยวเชย!...รออยู่ตรงนั้นแหละเดี๋ยวฉันแวะไปรับ”
ถึงแม้จะไม่ได้เห็นหน้า แต่ดีแลนพอเดาออก เสียงนิ่งๆ เย็นๆ แบบนี้ คนตัวเล็กนั่น ต้องคิดมากอีกแน่ๆ
ให้เลือกระหว่างเพื่อนกับคนพิเศษ ดีแลนเลือกได้โดยไม่ลังเล มีเขาอยู่ทั้งคนอดัมเกาะแกะอบเชย คงเป็นได้โดนดีแน่
เกือบยี่สิบนาที หลังจากวางสายจากดีแลน รถยนต์หรูของชายหนุ่มก็แล่นมาจอดเทียบข้าง
ชายหนุ่มลดกระจกด้านข้างลง เมื่ออบเชยยังยืนเฉย หล่อนแสร้งทำเป็นไม่เห็นว่าเขามาถึงแล้ว
“เชย!
มือเรียวเล็กยกขึ้นปาดคราบน้ำตา น้ำอุ่นซ่านไหลรินออกมาเหมือนมีคนเปิดก๊อก อบเชยพยายามสูดลมหายใจลึกๆ เธอไม่ควรนอยด์กับปฏิกิริยามึนตึงของดีแลน เขาเป็นนายจ้าง และเธอเป็นแค่ลูกจ้าง ไม่มีอะไรมากกว่านั้น เมื่อเขาต้องการพื้นที่ส่วนตัว และพื้นที่นั้น เขาไม่อยากให้มีเธอรวมอยู่ด้วย อบเชยตั้งหน้าตั้งตาทำความสะอาด เธอปัดกวาดเช็ดถูตามหน้าที่ และดีแลนยังเก็บตัวเงียบอยู่ชั้นบน ในห้องนอนของเขาพื้นที่หวงห้ามอีกอย่างที่อบเชยยังไม่ได้รับอนุญาตให้เดินเข้าไป เธอทำความสะอาดบ้านทั้งหลัง ยกเว้นห้องนอนดีแลน นั่นคือคำสั่งให้เธอปฏิบัติตาม ซึ่งอบเชยไม่เคยฝืน เธอไม่เคยย่างกรายเข้าไปในห้องนอนของเขาเลย พื้นที่ส่วนตัวของเขา ดีแลนทำความสะอาดเอง เสื้อผ้าของเขา จะถูกนำมาวางไว้หน้าห้อง หลังซักทำความสะอาด จัดการรีดจนเรียบร้อย เธอก็แขวนไว้ในห้องซักรีด ดีแลนจะเป็นคนนำเข้าไปเก็บในห้องนอนเขาเอง หญิงสาวเดินเลยออกไปด้านนอก เธอจัดการทำความสะอาดส
คำแรกดีแลนเป็นคนตอบ เสียงของเขาแข็งกร้าวและทรงอำนาจ ส่วนคำที่สองอบเชยเป็นคนพูด น้ำเสียงเว้าวอน บวกกับแววตาน่าสงสาร จนคนกลางตัดสินใจไม่ถูก “ผมกับคุณผู้หญิงคนนี้มีปัญหากันนิดหน่อยครับ” ท่าทางสุภาพกับคำพูดเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ ดูน่าเชื่อถือ ลุงคนขับรถรับจ้างจึงตัดสินใจที่จะเปิดทางให้ เสียงสตาร์ทรถทำให้อบเชยใจไม่ดี ตอนนี้เธอคงต้องช่วยเหลือตัวเองไปพลางๆ ก่อน ดูท่าแล้วดีแลนคงกำลังโกรธ แต่...คนที่ควรโกรธน่าจะเป็นเธอมากกว่า เขากำลังจะมีความสุขกับแก๊งสาวสุดเอ็กซ์! ที่ยืนอวดสัดส่วนอยู่หน้าประตูบ้านกลุ่มนั้น แต่ละนางเหมือนคัดออกมาจากฟาร์มโคนม เมื่อแต่ละคนพกความอุดมสมบูรณ์มาแบบไม่บันยะบันยัง อบเชยก้มมองเนินอกของตัวเอง ด้านหน้ากับด้านหลังแทบจะไม่ต่างกัน ดูมๆ ของเธอเป็นกระเปราะ หากเทียบกับหน้าอกหน้าใจภูเขาไฟของผู้หญิงเหล่านั้น&nbs
สวนหลังบ้านริมสระน้ำ เกิดปาร์ตี้ย่อยๆ ขึ้น อดัมกำลังสนุกเต็มที่ ทรงพลเองก็ไม่น้อยหน้า บนตักเลขานุการหนุ่ม มีสาวน้อยหน้าตาสวยหวานนั่งเกยอยู่หมิ่นๆ มือของทรงพลโอบอยู่รอบเอวคอด เขากำลังสนุกจนลืมทักทายเจ้านาย เมื่อสาวสวยในอ้อมแขนน่าสนใจมากกว่า “ไม่กลับมาได้ยังไง ที่นี่บ้านผมนะอดัม” ชายหนุ่มตอบ เขาทิ้งตัวนั่งบนเก้าอี้ตัวหนึ่งที่ยังว่างอยู่ พร้อมทั้งรั้งอบเชยนั่งใกล้ๆ บนเก้าอี้ตัวที่ว่างข้างเขา สาวสวยคนหนึ่งมองดีแลนตั้งแต่เขาเดินผ่านประตูเข้ามา หล่อนถลามายืนขนาบด้านข้าง ส่งสายตายั่วยวนมาให้ เผื่อหนุ่มหล่อตรงหน้าจะสนใจ เจ้าหล่อนไม่สนใจผู้หญิงแต่งตัวเชยๆ ที่นั่งก้มหน้างุดอยู่ใกล้ๆ เขาสักนิด “คุณจะรับเครื่องดื่มอะไรดีคะ?” เสียงหวานชะอ้อนถาม “เชยกินน้ำอะไรดีล่ะ?” ดีแลนไม่ได้ตอบสาวสวยนางนั้น เขาหันมาถามอบเชยแทน หญิ
สิ้นคำถาม อดัมก็ลงไปนอนกองที่เพื่อน เขายกมือตะปบมุมปาก ตรงนั้นมีรอยแตก มีลิ่มเลือดไหลทะลักออกมา ดีแลนยืนจังก้า เขาก้ม มองอดัมด้วยสายตาวาววับ ใช่...ดีแลนเพิ่งจะกระแทกสันมือกับปากของคู่ค้ารายใหญ่ ณ. ตอนนั้น เขาโกรธจนระงับอารมณ์ไม่ไหว คำพูดของอดัม ทำลายศักดิ์ศรีของอบเชย ผู้หญิงของเขาโดนดูถูก ดีแลนคงไม่ยอมอยู่เฉยๆ “คุณดี!!” อบเชยอุทานเสียงหลง เธอผวาเข้าไปเกาะแขนดีแลนไว้ พยายามปลอบให้ดีแลนสงบลง “ใจเย็นๆ ค่ะ เพื่อนของคุณดีคงพูดเพราะเมา เขาไม่ผิดหรอก เขากับเชยเจอกันในสถานะการณ์ที่ทำให้เขาเข้าใจแบบนั้น” “คุณเป็นอะไรไปดีแลน ผมถามแค่นี้เอง?” อดัมยังไม่รู้ตัวว่าเพราะอะไรเขาถึงโดนต่อย เขาถูกประคองขึ้นมาจากพื้นด้วยฝีมือของสี่สาว ที่มีสีหน้าตื่นตกใจ “คุณไม่ควรใช้คำถามแบบนั้นเพื่อถามผมนะอดัม คุณก็รู้ว่านั่นคือการ
“โอวววว...” หญิงสาวเผลอตัวคราง ดวงตาเบิกกว้างหนักกว่าเก่า ก็คนที่ยืนอวดโฉมอยู่ เขากำลังทำอะไรบางอย่าง ที่ทำให้หัวใจเธอทำงานหนักมากขึ้น มันเป็นอันตรายกับเธอเสียด้วย เพราะจุดศูนย์รวมการมองเห็น โฟกัสไปที่...จุดเดียว ปลายนิ้วแข็งแรง ลากตามความยาวขององคาพยพ อบเชยมองตามปลายนิ้วตาไม่กะพริบ เผลอกลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ เสียหลายครั้ง รู้สึกเหมือนกับว่าหนังหน้ากำลังจะระเบิด หากเธอไม่ชักสายตากลับออกมาเสียก่อน แต่...มันเป็นการยากที่จะถอนสายตาออกมาเสียจริงๆ อบเชยถอนใจแรงๆ เธอเผลอตัวขยับเดิน เพื่อที่ภาพที่เห็นจะได้ชัดขึ้น ดีแลนทำเหมือนกับว่าเขากำลังสำรวจสัดส่วนที่เป็นของสำคัญคู่กายของเขา มือแข็งแรงโลมลูบไปตลอดความยาว ดูเหมือนว่าเขาจะจับสัดส่วนที่ยื่นออกมาแน่นเกินไปสักนิด เพราะฝ่ามือของดีแลนกำรอบความใหญ่โอฬารและค่อยๆ ขยับขึ้น...ลง อบเชยหน้าร้อนปรี๊ด ผิวแก้มร้อนฉ่า อุณหภูมิรอบตัวดูเหมือนจะร้อนขึ้นจนเธอเริ่มอึด
ดีแลนดันประตูให้เปิด มันเป็นช่องเล็กๆ ข้างตู้ เขาเข้าไปหลบอยู่ด้านใน ตอนที่ปิดงับประตูเขาเห็นเงาของอบเชยเคลื่อนไหว...คนขี้สงสัยคนนั้น กำลังย่องมาที่ห้องทำงานของเขาเป็นแน่ เมื่อเงาที่เคลื่อนไหวได้ กลับยืนแข็งเหมือนรูปปั้น คนความจำดีอย่างอบเชย ต้องจำรูปปั้นนี้ได้แน่ เพราะหล่อนทำความสะอาดบ้านเขาทุกซอกทุกมุม มีหรือจะไม่เคยผ่านตา ที่เขาเลือกใช้ห้องนี้ เพราะห้องนอนของเขา ยังเป็นความลับนั่นเอง แต่หลังจากคืนนี้...อบเชยควรทำความรู้จักบ้านของเขาทุกซอกทุกมุม รวมทั้งห้องนอนที่เป็นเขตหวงห้ามสำหรับหล่อนด้วย เกือบสิบนาทีที่เงาประหลาดนั่น อยู่ในท่าเดิมจนอบเชยอดสงสัยไม่ได้ เธอขยับเดินขึ้นบันไดทีละขั้น เงานั่นก็ยังอยู่ที่เดิมไม่เคลื่อนไหวหรือ...บางทีเธออาจจะตาฝาดตั้งแต่ต้น หญิงสาวยกมือขึ้นตบเบาๆ ข้างขมับ “ไอ้เชย เมาควันบุหรี่จนเพี้ยนไปแล้วหรือไงหะ!!” มันอาจจะเป็นเพราะเธอนั่งดมกลิ่นบุหรี่ที่อดัมพ่นควันทิ้งไ
“ไม่!” ดีแลนตอบกลับทันควัน “ถ้าเชยไม่ค้างที่นี่ ก็ต้องให้ฉันไปส่ง” คำตอบเหมือนเดิม อบเชยต้องเลือกสักทาง จะค้าง หรือจะกลับ“โห! คุณดีไม่มีทางเลือกให้เชยเลยนี่คะ!” หญิงสาวแย้งเสียงหลง เธอมีทางเลือกสองทาง ซึ่งไม่น่าทำพอๆ กัน“เชย...ค้างหรือกลับ เลือกเอา” ดีแลนพูดต่อ เขายิ้มมุมปาก ไม่ว่าอบเชยเลือกทางไหน ก็อยู่ในแผนเขาทั้งนั้น“เชยเสนอทางที่สามได้ไหมคะ เชยจะเรียกแท็กซี่มารับ คุณดีจะได้สบายใจว่าเชยกลับบ้านได้อย่างปลอดภัยจริงๆ” ข้อเสนอของอบเชยน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด“ไม่...ถ้าเชยจะกลับ ฉันขอไปส่งเอง แค่เห็นเชยเดินเข้าประตูบ้านแบบปลอดภัย ก็น่าจะดีกว่าปล่อยให้เชยไปกับใครก็ไม่รู้ตอนเที่ยงคืน” ดีแลนส่ายหน้า เขาไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอใหม่ เที่ยงคืนไปแล้ว รถแท็กซี่ไว้ใจได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ เขาไม่ไว้ใจให้อบเชยต้องไปกับคนไม่รู้จัก เขาไปส่งเองดีกว่าเป็นไหนๆ“ก็คุณดีเมา” หญิงสาวแย้งเสียงขุ่น“เมาที่ไหน ไม่เมา” ดีแลนรีบปฏิเสธ เขาขยับมาใกล้ๆ ยื่นหน้าให้อบเชยมองตร
หญิงสาวรีบตอบ นั่นเป็นข้อห้ามที่ปรารถนาย้ำแล้วย้ำอีก แม้อบเชยจะสงสัย แต่เธอก็ไม่เคยย่างกลายเข้าไปในห้องนอนของเขา เพราะประตูห้องมันล็อกอยู่ตลอดเวลานั่นเอง “อยากเห็นไหมล่ะ?” ดีแลนถามเสียงปร่า อบเชยส่ายหน้าแรงๆ “อยากเข้าไปดูไหม?” ดีแลนถามย้ำ...แต่ก็เหมือนเดิม อบเชยส่ายหน้าแรงขึ้นกว่าเก่าเสียอีก เขตหวงห้ามตอนที่ดีแลนคิดอะไรแปลกๆ อยู่ในหัวแถมบ้านทั้งหลังมีแค่เธอกับเขา หากไม่อยากพลาดซ้ำ อบเชยควรอยู่ห่างๆ เขาไว้ก่อน “แต่ฉันอยากให้เชยเห็นนี่” ชายหนุ่มพูดหน้าตาย ก่อนจะร
อบเชยผวาเยือก หลังสิ้นเสียงหวานหวาม ดีแลนแนบเรียวปากร้อนผ่าว เขาบดจูบเบาๆ พยายามที่จะยั้งความรุ่มร้อนในกายเอาไว้ เพราะถึงตนเองกับอบเชยจะผ่านจุดอันตรายกันมาแล้ว แต่ตอนนั้นเขาเมา และจำอะไรไม่ได้เลย ดีแลนไม่รู้ว่าความปรารถนาที่เขายัดเหยียดให้อบเชยจะมากน้อยแค่ไหน เขาอยากจะมอบสิ่งดีๆ ให้ และลบล้างความทรงจำแย่ๆ ความใคร่คือความปรารถนาที่ล้นอก แต่สำหรับดีแลน เขาอยากมอบแต่สิ่งสวยงามให้อบเชย ครั้งนี้เขาจึงอยากแก้ตัวสอนบทรักที่เกิดจากความรัก ไม่ใช่ตัณหา ราคะเท่านั้น ให้อบเชยได้รู้จัก“ขา คุณดี...ชะ เชย”หญิงสาวขานรับเสียงแผ่วปร่า เธอรู้สึกเหมือนใจจะขาด ลมหายใจสะดุด และรู้สึกปั่นป่วนทรมาน“ฉันจะทำให้เชยมีความสุข เรามาล้างความทรงจำเก่าๆ และมีความสุขไปพร้อมกันนะเชย”ดีแลนกระซิบตอบ เขาพรมจุมพิตทั่วแผ่นท้อง ก่อนจะค่อยๆ กระถดตัวลงต่ำ จุดมุ่งหมายคือปลายทางสวรรค์ที่จะช่วยปลดเปลื้องความทรมานให้กับตนเองและอบเชยอบเชยพยักหน้ารับรู้ เธอสูดลมหายใจลึกๆ พยายามทำตัวสบายๆ เธอไม่มีอะไรให้หวาดกลัว เมื่อเธอกับดีแลน มีสิทธิ์ทำแบบนี้ได้ ในฐานะสามี ภ
เพราะเธอกับดีแลนคงเหมือนคนแปลกหน้า หากบังเอิญย้อนกลับมาเจอกันอีกครั้งต่อให้เธอจงรักภักดีกับเขาแค่ไหน เธอก็คงเป็นได้แค่เศษฝุ่นในสายตาของเขา ไม่มีทางเป็นตัวเป็นตนได้เหมือนตอนนี้ หากตอนนั้นเธอฟูมฟาย และแพร่งพรายความลับในใจให้มารดารู้เข้าดีแลนยกมือกรีดรอยน้ำตาที่เอ่อซึมขึ้นมาให้ เขาโน้มตัวจูบซับรอยน้ำตานั่นอีกที ด้วยความอ่อนโยนที่มี หรือเท่าที่ตนเองจะแสดงออกให้คนตัวเล็กได้รู้หัวไหล่บอบบางสั่นระริก อบเชยคงพยายามกลั้นความเสียใจไว้“ฉันขอโทษ บางครั้งผู้ชายก็ขี้ขลาดเกินกว่าจะยอมรับความจริง”ชายหนุ่มกล่าวปลอบขวัญ ทั้งอบเชยและเขา ยังเด็กมากในตอนนั้น เขาโตกว่าก็จริง แต่หากทำอะไรบุ่มบ่ามลงไป วันนี้คงไม่ได้กอดอบเชยไว้แนบอกเช่นนี้ ในวันที่เขาโตพอที่จะรับผิดชอบชีวิตของอบเชยได้ ดีแลนอดทนมากแค่ไหน อบเชยไม่มีวันเข้าใจ“เชยปวดใจทุกครั้ง ทุกครั้งที่สายตาของคุณดี มีแววตาเกลียดเชยเช่นนั้น”ณ.วันนั้น อบเชยชาด้าน ความรักที่มีต่อมารดา คือสิ่งยึดเหนี่ยวเดียวที่ทำให้อบเชยฝืนยิ้มและประคองตัวเองผ่านวันอันเลวร้ายนั่นมาจนได้&ldquo
“เชยไม่สวย ไม่เซ็กซี่ เหมือนที่คุณดีตั้งความหวังไว้เหรอคะ?” หางเสียงสั่นพร่า ที่เข้าใจมาตลอด ดีแลนชอบที่เธอเป็นเธอ แต่เวลานี้เขากำลังเปรียบเทียบเธอกับใคร คู่ควงเก่าๆ ของเขาอย่างนั้นเหรอ? “โอ้ย!! ไม่ใช่อย่างนั้น” ดีแลนรีบกระโจนลงจากเก้าอี้ เดินมาหยุดข้างอบเชย เขาทรุดนั่งบนส้นเท้า เงยหน้ามองหญิงสาวตรงหน้า “ฉันเคยฝันไว้หน่ะ แต่ไม่ได้อย่างฝันก็ช่างมันเถอะ ขอแค่มีเชย ฉันก็ไม่ต้องการอะไรแล้ว” มันคือความฝันตามประสาผู้ชาย นอนกอดกับคนรู้ใจบนเตียงนุ่มๆ ในบรรยากาศหวานๆ หลังพิธีวิวาห์ “เชยอาจจะดีไม่พอ เหมือนที่คุณดีต้องการนะคะ” ความน้อยใจทำให้อบเชยตัดพ้อต่อ เธอพยายามดึงมือของตัวเอง ออกจากอุ้งมือของอีกฝ่าย “ไปกันใหญ่แล้ว ฉันจะทำให้เชยรู้
หลังพูดออกมา คำพูดเหล่านั้นคือนายเรา ผลสะท้อนของคนกลับกลอก จะไม่มีคนรอบตัวฟังเขาอีก แม้บทสุดท้ายเขาจะพูดความจริง เพราะความเคลือบแคลงฝังอยู่ในความทรงจำเสียแล้ว พูดผิดเพียงครั้งเดียว ก็ลบล้างความเชื่อมั่นของเจ้าของคำพูด ตลอดชีวิต คราใดที่เขาพลาด คนเหล่านั้นก็จะนำคำพูดที่เขาเคยออกปากไว้มาทับถม... “เชยเชื่อคุณดีค่ะ” อบเชยฝืนยิ้ม คนตรงหน้าคือคนที่ตนเองฝากชีวิต หากเธอปล่อยให้ความระแวงเกาะกุมตั้งแต่นาทีแรกของการเริ่มต้น จากนี้ไปคงหาความสุขไม่ได้ สู้ปล่อยอดีตทิ้งไว้เบื้องหลัง ก้าวไปข้างหน้าจับมือคนของเราไว้แน่นๆ อุปสรรคไม่ได้มีแค่นี้ นี่เพิ่งเป็นการเริ่ม ถนนที่เธอกับดีแลนเดิน ยังอีกยาวไกล มือเรียวเล็กสอดวางบนอุ้งมือหนา อบเชยเงยหน้าขึ้นและยิ้มให้ 
“เพราะพ่อ...คือพ่อแกไงอาตี๋” เดวิดตอบแบบไม่ขยายความ ท่านรู้ อบเชยไม่มีทางทำให้บุตรชายของท่านเจ็บตัว หล่อนบูชาดีแลนยิ่งกว่าเทวดาเสียอีก “อบเชย ถ้าลูกแม่ดื้อนัก บอกแม่ก็ได้นะ เดี๋ยวแม่จัดการให้เอง” ปรารถนาพูดสอด ตอนที่บรรจงหลั่งน้ำเย็นชื่นลงบนปลายนิ้วมือของอบเชย “โห!” เสียงครางท้วงดังเบาๆ จากผู้ชายตัวใหญ่ใบหน้าขาวดั่งไข่ปลอก “ทำไม...มีปัญหาเหรอไงดีแลน ลูกหน่ะ ไม่มีใครกล้าขัดใจหรอกนอกจากแม่” นางเปรยเสียงกระซิบ ก่อนจะหลั่งน้ำสังข์บนปลายนิ้วของดีแลน “ไม่มีใครรักผมเลย!” ชายหนุ่มครางเสียงออดๆ เหมือนมอดกัดไม้ผุๆ “เอ่อ...เชยรักคุณดีค่ะ เชยไม่ตีคุณดีแน่” อบเชยกระซิบเสียงอุบอิบ ผิวแก้มร้อนฉ่า&
บทที่20.วันที่ความรักสุกงอมเวลาเคลื่อนมาถึงฤกษ์ดีช่วงเช้า ดีแลนก็ต้องออกไปตั้งขบวนแห่ขันหมากตามประเพณี เขาได้เจอมารดาที่นั่น รวมทั้งบิดาด้วย แต่ก็ยังไม่เห็นอบเชย “แม่อะ ผมเลยไม่ได้เห็นอบเชยเป็นคนแรกเลย” ดีแลนบ่นพึมพำ ตอนที่เดินผ่านประตูบ้านหวังเข้ามา “เดี๋ยวก็ได้เห็นแล้ว อบเชยไม่หนีไปไหนหรอกน่า” ปรารถนากระซิบดุ เริ่มระอากับความรักออกนอกหน้าของบุตรชายเหลือเกิน เดวิดได้แต่หัวเราะ ท่านส่ายหน้า แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา เมื่อท่านพอจะเข้าใจความคิดของดีแลน สมัยหนุ่ม ท่านเองก็เป็นแบบนี้ ดีแลนใจเต้นตึกตัก เขายืดคอสูงๆ พยายามมองหาอบเชย หญิงหนึ่งเดียวในดวงใจ ณรงค์เดินอยู่ข้างๆ มีอดัม
“ได้ไงคะ!! คุณท่านมาเห็นเข้า เชยอาจจะโดนตำหนินะคะ!” อบเชยลดเสียงลง สีหน้ายุ่งยากใจ หากปรารถนาเดินผ่านประตูเข้ามา นางจะมองว่าเธอเป็นคนอย่างไร “อย่ากลัวไปเลย แม่ฉันใจดีจะตาย” “ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ” อบเชยพยายามอธิบาย เสียงของเธอสั่นพร่า เมื่อเสียงเดินดังใกล้เข้ามาทุกที “ฉันรู้...ฉันหลบไปก่อนก็ได้...” น้ำเสียงและสีหน้าอบเชย ดีแลนเลยอดไม่ได้ที่จะเห็นใจ เขาขยับตัวเตรียมจะลงจากเตียง แต่... “ดีแลน...ลูกควรไปอาบน้ำได้แล้ว...ทีมช่างของแม่รอแต่งตัวให้ลูกอยู่นะ” ปรารถนาพูดดักคอ เหมือนว่าท่านรู้วาบุตรชายอยู่ด้านใน ทั้งที่ยังไม่ทันได้เปิดประตู&nb
“จูบฉันก่อน ฉันจะยอมกลับไปนอนที่ห้อง หากเชยยอมจูบฉัน”“อีกแล้วนะคะ” ตั้งแต่เข้ามาในห้อง ดีแลนปล้นจูบไปจากเธอนับครั้งไม่ถ้วน เขายังมีหน้ามาเรียกร้องเอาอะไรเพิ่มอีกหรือ?“ทำไมล่ะ ฉันจูบไม่ดีเหรอเชย สาวๆ ชมฉันตลอดว่าฉันจูบเก่ง” ดีแลนพูดเย้า“เชอะ!!” มือน้อยๆ ผลักอกคนตัวใหญ่เต็มแรง ซึ่งไม่ได้ทำให้ดีแลนสะเทือน เพราะเขานอนราบอยู่บนที่นอน แถมมือเหนียวๆ ยังคงเกี่ยวเอวของเธอไว้เสียแน่น“นานๆ จะเห็นเชยหึงฉันสักที มันครื้มใจพิลึก” ดีแลนกระเซ้าต่อ การแสดงออกของอบเชย แปลความหมายอื่นไม่ได้ นอกจากอบเชยกำลังไม่พอใจพฤติกรรมฉาวๆ ของเขาสมัยยังเป็นหนุ่ม“ชิ! คุณดีหลงตัวเองค่ะ เชยขี้เกียจฟัง” อบเชยหน้างอง้ำ นึกไม่พอใจจนตัวสั่น อยากโกรธดีแลนนานๆ แต่รู้ดีว่าตนเองใจไม่แข็งพอ ชายตรงหน้าเองก็มีวิธีรับมือ ทุกครั้งหากเธอปั้นปึ้ง...ดีแลนจะรีบตะล่อมจนเธออ่อนลง และครั้งนี้ก็เช่นกัน อบเชยรู้ดี สิ่งที่เขาพูดมาคืออดีต ผู้ชายส่วนใหญ่มีประสบการณ์โชกโชนเกี่ยวกับเรื่องเพศตรงข้าม ดีแลนเองก็ไม่น้อยหน้า เขาเป็นหนุ่มฮอ
“จริงนะ ถามหน่อย เชยรักฉันตั้งแต่ตอนไหน?” ดีแลนพยายามลดความกระหายรสรักที่มีกับคนตัวเล็กในอ้อมกอด เขาเปลี่ยนเรื่องพูด เพื่อให้ความพลุ่งพล่านของตนเองลดน้อยลง“คุณดีล่ะคะ รักเชยตอนไหน?” หากดีแลนอยากรู้ อบเชยก็อยากรู้เช่นกันหญิงสาวจำได้ดี...สมัยก่อน แม้แต่การมอง ดีแลนยังพยายามมองผ่าน เขาเกลียดเธอจับจิต อบเชยเลยอยากรู้ว่าเธอเข้าตาเขาตอนไหน?“ขี้โกง ฉันถามเชยก่อนนะ!” เสียงต่อว่าไม่มีน้ำหนัก ดีแลนแค่ผิดหวังเล็กๆ ที่อบเชยยังไม่ยอมเฉลย“เชยอยากรู้นี่คะ คุณดีตอบเชยก่อนไม่ได้เหรอคะ?” อบเชยทดลองใช้น้ำเสียงแบบเดียวกับดีแลน เวลาที่เขาอ้อนเธอ แววตาวิบวับ กับสีหน้าที่แบกความหวังไว้เต็มเปี่ยมทำให้ดีแลนถอนใจเฮือก เขาแพ้อบเชย...หากเผลอสบตากับหล่อน ปลายนิ้วแข็งแรงจิ้มลงกลางหน้าผากตนเอง พร้อมกับเสียงทุ้มๆ ที่พูดออกมาช้าๆ “ตั้งแต่ยัยเชยคนนี้ยังนุ่งกระโปรงสีน้ำเงินยาวลากพื้น...แอบมองฉันเหมือนคนโรคจิต แ