หลังจากที่เขาพูดเสร็จ เขาก็พูดต่อว่า “ว่าแต่นายไม่ได้อยู่ในแลงคาสเตอร์หรอกเหรอ? ทำไมนายถึงกลับมาที่โอลรัส ฮิลล์เร็วขนาดนี้?”ฮาร์วีย์ยิ้มก่อนจะพูดว่า “เป็นเรื่องบังเอิญจริง ๆ ที่บริษัทของฉันได้ให้ฉันเดินทางมาทำธุระที่โอลรัส ฮิลล์พอดี ฉันเพิ่งมาถึงที่นี่ในช่วงบ่ายของวันนี้เอง ทันทีที่ฉันลงจากรถ ฉันเห็นพวกนายทุกคนคุยกันในกลุ่มแชท นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันตัดสินใจมาที่นี่โดยเร็วที่สุด!”ชาร์ลีถามด้วยความสงสัย “นายไม่ได้ทำธุรกิจของนายเองเหรอ? ทำไมนายถึงกลับไปทำงานบริษัทอีกครั้ง?”ฮาร์วีย์ยิ้มอย่างขมขื่นก่อนจะพูดว่า “ธุรกิจไม่ดีน่ะสิ ธุรกิจของใครจะสามารถไปได้ดีได้ล่ะในตอนนี้? เศรษฐกิจในช่วงสองปีที่ผ่านมาไม่ง่ายเลย และการทำธุรกิจก็ไม่ง่ายเอาซะเลยด้ยย”หลังจากที่เขาพูดจบ ฮาร์วีย์ก็มองไปที่แคลร์ก่อนจะยิ้ม และพูดว่า “ชาร์ลี นี่คือน้องสะใภ้ของฉันหรือเปล่า?”ชาร์ลีพยักหน้าก่อนจะพูดว่า “ใช่แล้ว นี่คือภรรยาของฉันเอง แคลร์”หลังจากที่เขาพูดเสร็จแล้ว เขาแนะนำให้ฮาร์วีย์ให้รู้จักกับแคลร์ “แคลร์ นี่คือฮาร์วีย์ เพื่อนรักของผมในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า”ฮาร์วีย์ยิ้มอีกครั้งก่อนจะพูดว่า “ชาร์ลี นายนี่โชคดีม
หน้าต่างของเมอร์เซเดส เบนซ์ลดลง ชาร์ลีมองดูชายที่อยู่หลังกระจก และจำเขาได้ในทันทีเขาคือแม็กซ์ ไวแอตต์ ชายผู้อยู่ในกลุ่มแชทของพวกเขาในวันนี้ชาร์ลีกับเขาเป็นแค่คนรู้จักธรรมดาเท่านั้นแม็กซ์แต่งตัวในชุดสูทที่ดูรัดเป็นพิเศษกับร่างอ้วนท้วมและรองเท้าหนังของเขา เขาได้จอดรถเมื่อเห็นพวกเขา แม็กซ์โผล่หัวออกไปทางหน้าต่างรถแล้วพูดว่า “โอ้ นี่พวก ขอโทษที่ให้รอ”ความเย่อหยิ่งและความโอหังผุดขึ้นในดวงตาของเขา เขากระแอมในลำคอและอธิบายด้วยน้ำเสียงโอ้อวดว่า “โอ้ พอดีรถติดน่ะ ฉันเลยมาสาย”มีคนอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ “ว้าว แม็กซ์ นี่รถนายเหรอ? ซื้อตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”แม็กซ์หัวเราะอย่างสะใจ “เพิ่งซื้อมาเมื่อสองวันก่อน”ชาร์ลีหรี่ตาอย่างนึกขึ้นได้ ไม่น่าแปลกใจเลยที่ผู้ชายคนนี้กระตือรือร้นที่จะจัดงานเลี้ยง เขาแค่อยากอวดรถใหม่เอี่ยมให้เพื่อนสมัยเด็กของเขาได้เห็น!มีคนถามต่อว่า “เฮ้ แม็กซ์ รถคันนี้รุ่นอะไร? มันต้องแพงมากแน่ ๆ ”แม็กซ์หัวเราะอย่างมีชัยแต่ก็พูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนน้อมถ่อมตนว่า “เปล่า มันเป็นแค่ E300L เองแต่โดยรวมแล้วก็มีค่าใช้จ่ายประมาณครึ่งล้าน”"โว้ว!!"ทุกคนอุทานด้วยความตกใจ
“นี่เธอเป็นเพื่อนของเราจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าด้วยหรือเปล่านะ?” แม็กซ์พึมพำกับตัวเองเขาเริ่มนึกย้อนไปถึงความทรงจำเก่า ๆ ของเขา พยายามนึกถึงเรื่องที่เกี่ยวข้องกับหญิงสาวสวยคนนี้เขายังคงสวมชุดสุภาพเรียบร้อยและมีรอยยิ้มแย้มแจ่มใสบนใบหน้าของเขา เขามองที่ชาร์ลี และพูดขึ้นว่า “เฮ้ นายคือชาร์ลีใช่ไหม? ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ!"ชาร์ลียิ้มแล้วพูดว่า “บัตต์ ทรัมเป็ต?”บัตต์ ทรัมเป็ตเป็นฉายาของแม็กซ์ เมื่อสมัยที่พวกเขาอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาเป็นคนที่ตะกละตัวอ้วนที่ผายลมบ่อย ๆ และที่สำคัญกว่านั้น เขาผายลมทุกที่ที่เขาไป และเมื่อไหร่ก็ตามที่เขาต้องการ เขาจะผายลมในชั้นเรียน ระหว่างเล่นเกม ระหว่างมื้ออาหารและขณะนอนหลับในตอนนั้น ทุกคนต่างเดือดร้อนเพราะตดของเขา เขาจึงได้ฉายาว่าบัตต์ ทรัมเป็ตใบหน้าของแม็กซ์เปลี่ยนเป็นสีเขียวเมื่อได้ยินชาร์ลีพูดถึงฉายาของเขา แต่ก่อนที่เขาจะพูดอะไร ชายหนุ่มข้างหลังเขาพูดขึ้นอย่างขุ่นเคืองว่า “นี่ ชาร์ลี ระวังลิ้นนายไว้นะ! นายกล้าดียังไงที่ทำให้ผู้จัดการไวแอตต์ของเราอับอายต่อหน้าทุกคน? แม็กซ์เป็นถึงผู้บริหารของบริษัทชั้นนำเชียวนะ! ให้ความเคารพด้วย!”ชาร์ลีชำเ
แม็กซ์เริ่มกระวนกระวายมากขึ้นเมื่อเห็นภรรยาคนสวยของชาร์ลี เขาจึงยิ้มเยาะเย้ยถากถางและพูดว่า “นี่ ชาร์ลี ฉันไม่ได้เจอนายมาตั้งหลายปีแล้ว นายดูเปลี่ยนไปมากเลยนะ นายดูดีขึ้นมากเลยล่ะ เหมือนพวกผู้ชายบริการและไอพวกขี้แพ้!จากนั้นเขาก็สแกนดูชาร์ลีตั้งแต่หัวจรดเท้า พลางส่ายหัวและพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยว่า “ถ้าฉันรู้ว่าการเป็นสามีที่ไม่ได้ทำอะไรมันง่ายแค่ไหน ฉันก็จะไม่ต้องไปเสียเวลาตั้งหลายปีเพื่อที่จะทำงานของฉัน ดูฉันสิ หลังจากทำงานหนักมาหลายปี สุขภาพก็แย่ แต่ในที่สุดฉันก็ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้บริหาร มันคงน่าละอายไม่น้อยที่จะเปรียบเทียบตัวเองกับราชาขี้แพ้อย่างแก!”แม็กซ์จงใจล้อชาลีด้วยท่าทีเหยียดหยาม เพราะเขาต้องการเพิ่มสถานะทางสังคมของเขารวมทั้งเลือกปฏิบัติต่อชาร์ลีเขาอดไม่ได้ที่จะมองดูสเตฟานีที่ยังสาวและน่าดึงดูดใจเนื่องจากเขาจีบแคลร์ไม่ได้ สเตฟานีที่เด็กกว่า เธอมีผิวอ่อนเยาว์และใบหน้าที่ไร้ที่ติของเธอจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดอันดับที่สอง!เมื่อพวกเขาอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ทำไมเขาถึงไม่สังเกตว่าเด็กหญิงตัวน้อยคนนี้สามารถกลายเป็นคนสวยได้! ไม่อย่างนั้นเขาคงจะจีบเธอไปนานแล้ว
แม็กซ์ยิ้มอย่างเขินอายและพูดว่า “โอ้ สเตฟานี่ อย่าเข้าใจฉันผิด ฉันแค่ล้อเล่นกับชาร์ลีเท่านั้นเอง เธอก็รู้จักพวกเรานี่ เราก็เคยหยอกล้อกันบ่อยมากในสมัยก่อน จริง ๆ แล้วเราเป็นเพื่อนกัน!”สเตฟานีสูดลมหายใจและหันไปโดยไม่สนใจเขาในเวลาเดียวกันนี้ ผู้หญิงผมขาวและใบหน้าที่ใจดีก็เดินออกมาจากทางเข้าสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เธอถามขึ้นเมื่อเห็นพวกเขาว่า “เอ๊ะ ทำไมพวกเธอยังยืนอยู่ตรงนี้อีก? ฉันคิดว่าพวกเธอไปร้านอาหารแล้ว”ทุกคนรีบหันกลับมามองและประหลาดใจที่เห็นว่าเป็นคุณนายลูอิสที่กำลังพูดกับพวกเขาคุณนายลูอิสมีรอยยิ้มที่อ่อนโยนบนใบหน้าของเธอ เธอดีใจที่ได้เห็นพวกเขา เมื่อสายตาของเธอจับจ้องไปที่ชาร์ลี พวกเขาก็รู้สึกซาบซึ้งใจกันขึ้นมาในทันทีทุกคนมองไปที่คุณนายลูอิสด้วยสายตาที่จริงจังและตื่นเต้นด้วยความสามารถของเขา ชาร์ลีสามารถรู้ได้อย่างรวดเร็วว่าคุณนายลูอิสหายดีแล้ว และเธอก็สบายดีอีกด้วย!เขารู้สึกโล่งใจอย่างมากและถอนหายใจในเวลาเดียวกัน ถ้าเขาสามารถช่วยได้เร็วกว่านี้ คุณนายลูอิสก็คงไม่ต้องเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายไตด้วยซ้ำ! เพราะยาอายุวัฒนะก็เพียงพอแล้วที่จะรักษาเธอและทำให้เธออายุน้อยลงอีกสองสาม
แคลร์รีบขึ้นว่า “ไม่ต้องกังวลนะคะ คุณนายลูอิส ชาร์ลีดูแลหนูได้ดีมาก”แล้วเธอก็หน้าแดงและกล่าวขอโทษ “คุณนายลูอิสคะ ฉันต้องขอโทษที่ไม่สามารถไปเยี่ยมคุณได้ที่อีสต์คริฟฟ์ หนูไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณฟื้นและกลับมาที่โอลรัส ฮิลล์แล้วถ้าชาร์ลีไม่บอกหนู หนูต้องขอโทษด้วยนะคะ…"“โอ้ ไม่ ได้โปรดอย่าเลยที่รัก พวกเธอช่วยไว้มากแล้ว พวกเธอดูแลฉันในโรงพยาบาลเมื่อฉันป่วยหนัก ฉันอาจเสียชีวิตจากความเจ็บป่วยแล้วด้วยซ้ำ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอสองคนที่ช่วยฉันด้วยเงิน…”ดวงตาของคุณนายลูอิสแดงก่ำด้วยน้ำตาและเธอก็สำลัก “ฉันขอบคุณหนูมากนะแคลร์ หนูต้องดูแลเรื่องตระกูลวิลสันเช่นเดียวกับเรื่องของฉัน มันคงเป็นเรื่องยากสำหรับหนูมาก ฉันรู้สึกขอบคุณและรู้สึกผิดมากในเวลาเดียวกัน ฉันเป็นภาระของพวกเธอทั้งคู่ ควรเป็นฉันที่พูดขอโทษ!”แคลร์จับมือเธอแน่นแล้วพูดว่า “คุณนายลูอิส อย่าลืมว่าหนูเป็นภรรยาของชาร์ลี! คุณคือนางฟ้าแม่ทูนหัวของเขา ซึ่งหมายความว่าคุณเป็นนางฟ้าแม่ทูนหัวของหนูด้วยนะคะ!”คุณนายลูอิสหลั่งน้ำตาอย่างซาบซึ้งต่อคำพูดของแคลร์และเธอรู้สึกว่าหญิงสาวคนนี้แตกต่างจากเมื่อก่อนเล็กน้อยเมื่อเธอพบเธออีกครั้งในครั้งนี้แม้ว่าจะ
ในเวลาเดียวกันนี้ ขณะที่สเตฟานีจ้องไปที่แคลร์ แววตาของเธอก็มีความหึงหวงและปวดร้าวเธอชอบชาร์ลีตั้งแต่ยังเป็นเด็กและใฝ่ฝันที่จะเป็นเจ้าสาวของชาร์ลีมาโดยตลอด เธอไม่ได้ลืมความฝันนี้ แต่จากภาพที่เห็น ความฝันของเธอไม่มีวันเป็นจริงนั่นคือเหตุผลที่เธออิจฉาแคลร์มากยิ่งขึ้น ในความเห็นของเธอ แคลร์เป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดในโลกเพราะเธอแต่งงานกับผู้ชายที่ดีที่สุดในโลกคุณนายลูอิสยิ้มอย่างอ่อนโยนและกล่าวว่า “มันก็ใช่ การทำงานของหนูเป็นสิ่งสำคัญ แต่ครอบครัวก็เช่นกัน มีลูกตั้งแต่ยังเด็กจะดีกว่า เพราะไม่อย่างนั้นจะส่งผลต่อสุขภาพเชียวนะ”แคลร์พยักหน้า เธอหน้าแดงราวกับแอปเปิ้ลสเตฟานีกล่าวแทรกขึ้นว่า “คุณนายลูอิส เจ้าของร้านเพิ่งโทรมาบอกว่าไฟฟ้าในร้านมีปัญหา วันนี้เลยต้องปิดร้านน่ะค่ะ ดูเหมือนเราต้องไปหาร้านอื่นกัน”คุณนายลูอิสกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่เป็นไร สิ่งที่สำคัญที่สุดคือฉันดีใจที่ได้พบพวกเธอทุกคนในวันนี้ ฉันไม่ได้เจอพวกเธอมานานแล้ว ฉันมีความสุขมาก”แม็กซ์ผู้ซึ่งถูกละเลยมาโดยตลอด กระพริบตาอย่างซุกซนเมื่อได้ยินเรื่องนี้ เขาเดินไปข้างหน้าและโพล่งทันทีว่า “คุณนายลูอิส ให้ผมได้จัดการเรื่อ
คุณนายลูอิสรีบอุทานว่า “แม็กซ์ ฉันเข้าใจถึงเจตนาที่ดีของนายนะ แต่เราไม่ต้องไปที่หรูขนาดนั้นเพื่อฉลองการฟื้นตัวของฉันหรอกนะ มันแพงเกินไปน่ะ!"เธอกล่าวต่อ “อีกอย่างมันเป็นแค่อาหาร ฉันทำอาหารให้พวกเธอกินก็ได้ ไปกินข้าวในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ากันเถอะ วิธีนี้จะช่วยให้พวกเธอประหยัดเงินเพื่อวัตถุประสงค์อื่นได้ อย่าใช้มันกับฉันเลย มันไม่คุ้มหรอก…”เธอเป็นคนประหยัดมาทั้งชีวิตซึ่งเธอไม่เคยไปสถานที่หรูหราเช่นนี้มาก่อน ยิ่งไปกว่านั้น เธอจะรู้สึกอึดอัดและไม่สบายใจที่จะทานอาหารในที่ที่ต้องใช้เงินเป็นจำนวนมากอย่างไรก็ตาม แม็กซ์ยิ้มและพูดว่า “คุณนายลูอิส ได้โปรดอย่าพูดอย่างนั้นเลยครับ คุณเลี้ยงดูเรามาตลอด ถึงเวลาที่เราต้องตอบแทนคุณแล้ว นอกจากนี้ผมไม่ใช่คนเดียวที่จะจ่ายเงินสักหน่อย ผมจะแชร์กับพวกเขาต่างหาก!”เมื่อเห็นความลังเลของคุณนายลูอิส เขาจึงโน้มน้าวต่อว่า “คุณนายลูอิส ไม่ต้องกังวล มันจะไม่แพงเกินไป โรงแรมไฮแอทเป็นของลูกค้าของบริษัทของผม ผมจะได้รับส่วนลดบางส่วนเมื่อไปที่นั่น ดังนั้นค่าใช้จ่ายจะเพียงไม่กี่ร้อยเหรียญเองครับ!”ทุกคนโล่งใจเมื่อได้ยินคำพูดของเขา อันที่จริง เงินไม่กี่ร้อยเหรียญนั่นย
“โอเค” ชาร์ลีพยักหน้าก่อนจะพูดว่า “เอาล่ะ ถึงเวลาที่นายต้องออกเดินทางแล้ว”ในเวลานี้จาเวียร์ก็วิ่งเข้าไปหาพวกเขาพร้อมกับแบตเตอรี่สำรองในมือ หลังจากนั้นเขาก็ยื่นแบตเตอรี่สำรองกับสายชาร์จให้กับดีแลนในขณะที่พูดว่า “ดีแลน นี่แบตเตอรี่สำรอง!”ดีแลนหยิบแบตเตอรี่สำรองใส่ไว้ในเป้ หลังจากปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้ว เขาก็พูดกับทุกคนว่า “คุณยาย คุณตา พ่อ แม่ ลุง อา ผมจะไปแล้วนะคับ…”ทุกคนโบกมือให้เขา “ไปเถอะ อย่าลืมใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนนะ!”ดีแลนมองไปที่ชาร์ลีอีกครั้งก่อนจะโค้งคำนับแล้วพูดว่า “ผมจะไปแล้วนะครับคุณเวด…”ชาร์ลีส่งเสียงพึมพำในขณะที่พูดว่า “รีบไปเถอะ ไม่งั้นนายจะถูกทำโทษที่ไปถึงช้านะ”ดีแลนรีบพยักหน้าในขณะที่พูดว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงครับ! ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ!”ชาร์ลีโบกมือแล้วพูดว่า “อืม ไปได้แล้ว!”ดีแลนพยักหน้าก่อนจะหันกลับไปมองเหล่าญาติ ๆ อย่างไม่เต็มใจ จากนั้นเขาก็เริ่มปั่นจักรยาน Phoenix 28 คันใหญ่อย่างหนักหน่วง หลังจากถีบจักรยานไปได้สองสามครั้ง ในที่สุดดีแลนก็ถีบจักรยานจากไปในลักษณะโคลงเคลงซิลเวียเริ่มร้องไห้อย่างขมขื่น ลีโอนาร์ดจึงรีบคว้าเธอมาปลอบโยนอยู่ในอ้อ
เมื่องานเลี้ยงวันเกิดสิ้นสุดลง และแขกคนอื่น ๆ ได้กลับไปแล้ว ดีแลนก็เข็นรถจักรยาน Phoenix 28 คันใหม่ออกมาในเวลานี้จู่ ๆ ดีแลนก็นึกถึงเพลงฮิตที่เขาเคยเห็นในคลิปวิดีโอสั้น ๆ…เพลงนี้ก็คือเพลง ‘ขี่มอเตอร์ไซต์แสนรักของฉัน’...ในขณะที่เขานึกถึงเพลงนี้ เขาก็มองไปที่จักรยาน Phoenix 28 ในสภาพเก่าที่ดูน่าเกลียดนั้น แล้วอดที่จะถอนหายใจไม่ได้ในขณะที่คิดกับตัวเองว่า ‘ถ้าฉันขี่มอเตอร์ไซค์ไปโอลรัสฮิลล์ได้ก็คงจะดีไม่น้อย เพราะจะทำให้ฉันสามารถเดินทางได้ประมาณสามถึงสี่ร้อยกิโลเมตรต่อวัน ซึ่งจะช่วยให้ฉันเดินทางไปถึงโอลรัสฮิลล์ได้เร็วที่สุด จะได้ไม่ต้องทนทุกข์กับความคับข้องใจและความอยุติธรรมมากมายในระหว่างทาง…’แต่ช่างน่าสงสารเหลือเกินที่เขารู้ว่าชาร์จะไม่มีทางเปิดโอกาสให้เขาได้ต่อรองอะไรเลย เขาจึงทำได้แค่เข็นจักรยานออกมาเพื่อเตรียมตัวออกเดินทางเจริล… ลุงของเขาถือหมวกกันน็อกสีเขียวอยู่ในมือ ในขณะที่พยายามจะสวมให้กับดีแลน ดีแลนหลบเลี่ยงหมวกใบนั้นในขณะที่ถามอย่างอึดอัดใจว่า “ทำไมถึงซื้อหมวกกันน็อกสีเขียวมาให้ผมล่ะลุง? หมวกสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของผู้ชายที่โดนสวมเขานะ…”“อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลยน่า” เจร
"หา? เร็วไปไหม? คุณจะไม่อยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่ออีกสักสองสามวันเหรอ?”“ผมทำธุระของผมเสร็จหมดแล้วน่ะ ไม่มีธุระอะไรให้ผมต้องอยู่ที่นี่อีก ผมจะออกเดินทางพรุ่งนี้เลย”เมื่อลอรีนได้ยินดังนี้ เธอก็พูดขึ้นอย่างไม่ลังเลเลยว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะออกจากอีสต์คลิฟฟ์พรุ่งนี้ด้วย เราเดินทางกลับโอลรัสฮิลล์พร้อมกันดีไหมคะ? เราจะได้นั่งเครื่องบินลำเดียวกันชาร์ลีอยากจะปฏิเสธเธอ แต่เมื่อเขาเห็นสีหน้าที่แสดงความวิงวอนของเธอแล้ว เขาก็ปฏิเสธเธอไม่ลงเพราะไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม… นับเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนเป็นเพื่อนกัน ที่ต้องนั่งเครื่องบินลำเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถหลบเลี่ยงการนั่งเครื่องบินเที่ยวบินเดียวกับเธอได้ชาร์ลีจึงพูดว่า “ได้สิ เรากลับด้วยกันก็ได้”ลอรีนรีบพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวคุณให้รายละเอียดบัตรประจำตัวกับฉันมานะ ฉันจะได้ซื้อตั๋วเครื่องบินของเราพร้อมกัน!”“โอเค”***ในขณะที่งานเลี้ยงวันเกิดยังคงดำเนินอยู่นั้น ลุงและอารองของดีแลนก็ได้ตระเตรียมการเดินทางด้วยการปั่นจักรยานไปยังโอลรัสฮิลล์ให้ดีแลนเรียบร้อยแล้วพวกเขาได้ให้คนไปซื้อจักรยาน Phoenix 28 รุ่นเก่ามา แล้วติดตั้งชั้นวางสัมภา
หลังจากนั้นงานเลี้ยงวันเกิดก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการมีการจัดที่นั่งให้กับชาร์ลีเป็นพิเศษในฐานะที่เขาเป็นแขกผู้มีเกียรติสูงสุด โดยเขาได้นั่งอยู่ข้างนายท่านโธมัสกับลอรีนและริกลีย์หลังจากนั้นสมาชิกของตระกูลโธมัสก็ผลัดกันดื่มอวยพรให้เขา โดยทั้งการแสดงออกทางสีหน้า น้ำเสียง และการกระทำล้วนเต็มไปด้วยการสรรเสริญเยินยอ ชาร์ลีไม่มีอะไรจะพูดมากนัก เมื่อมีคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็แค่ดื่มอวยพรกลับไป ซึ่งถึงแม้ดีแลนจะเป็นคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็ดื่มอวยพรกลับไปอย่างง่ายดายในเวลานี้ริกลีย์ก็ยังมาดื่มอวยพรให้กับชาร์ลีอย่างระมัดระวังด้วย โดยเขาได้เยินยอแล้วพูดว่า “คุณเวดครับ ผมมีเรื่องจะถามคุณหน่อยครับ…”ชาร์ลีรู้อยู่แล้วว่าเขาจะถามอะไรก่อนที่เขาจะเริ่มพูดออกมาด้วยซ้ำไป เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการให้ชาร์ลีช่วยฟื้นคืนสมรรถภาพ เพื่อให้เขากลับมาแข็งแกร่งได้อีกครั้งแต่เมื่อพิจารณาถึงเรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่ครอบครัวของพวกเขาได้ทำกับครอบครัวของยูลแล้ว ชาร์ลีก็ยังแน่ใจว่าเขาจะไม่ยอมฟื้นคืนสมรรถภาพให้พวกเขาในตอนนี้ผู้ที่เป็นผู้ใหญ่แล้วจะต้องชดใช้และรับผิดชอบต่อการกระทำของพวกเขา ไม่อย่างนั้นแล้วพวกเขาจะได้บทเ
ชาร์ลีหยิบภาพวาดที่ยูลมอบให้เขาจากมือของดีแลน ก่อนจะยื่นให้กับยายของลอรีนด้วยตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็พูดว่า “คุณยายโธมัสครับ นี่เป็นของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผมครับ ผมหวังว่าคุณยายจะรับมันไว้ และผมอยากจะขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นไปเมื่อกี้นี้ ด้วยวันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณยาย ผมหวังว่าคุณยายคงจะให้อภัยผมนะครับ”คุณท่านโธมัสรู้สึกปลื้มใจแล้วรีบพูดขึ้นว่า “คุณเวด ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ จริง ๆ แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้เป็นเพราะหลานชายของฉันทำอะไรผิดไป ฉันมาคิดดูแล้ว… ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะเราละเลยในการอบรมสั่งสอนหลานของเรา จึงทำให้คุณเวดต้องเดือดร้อน”ในขณะที่เธอพูดอยู่นั้น เธอก็มองดูภาพวาดก่อนจะพูดว่า “คุณเวดคะ ภาพวาดนี้มีมูลค่ามากเหลือเกิน ฉันคงรับของขวัญชิ้นนี้ไว้ไม่ได้หรอกค่ะ!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “คุณยายโธมัสครับ ของขวัญชิ้นนี้เป็นเพียงของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผม มูลค่าของของขวัญชิ้นนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลย คุณยายไม่ต้องเกรงใจผมหรอกครับ พูดตามตรงนะครับ ผมไม่ได้ใช้จ่ายเงินกับของขวัญชิ้นนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะคุณโกลดิ้งจากโกลดิ้งกรุ๊ปมอบภาพวาดนี้ให้ผม แล้วผมก็นำมา
เมื่อได้ยินว่าเขาจะต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง ดีแลนก็ส่ายหัวอย่างบ้าคลั่งทันที!เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว เขาคงต้องทนทุกข์ทรมานและรู้สึกคับข้องใจเพียงเล็กน้อย ถ้าเขาต้องอาศัยอยู่ในชุมชนแออัด โดยมีค่าครองชีพเดือนละหนึ่งหมื่นบาท แต่ถ้าเขาต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง เขาก็คงต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมาก และต้องเจอะเจอความยากลำบากมากมายในไซต์ก่อสร้างแห่งนั้นเขาจึงพยักหน้าแบบไม่คิดอะไรทันที “คุณเวดครับ ผมยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดของคุณแล้ว ผมจะไม่ต่อรองอะไรกับคุณแล้วครับ! ขอแค่อย่าส่งผมไปไซต์ก่อสร้างนั้นเลยนะครับ…”ชาร์ลีรู้สึกพอใจมากแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “อย่าลืมปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีหลังจากนายไปถึงที่โอลรัสฮิลล์แล้ว อย่าสร้างปัญหาอะไรเพิ่มขึ้นมาอีกล่ะ ถ้านายยังคงอยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่อไป ทายาทที่ชอบเยาะเย้ยถากถางคนอื่นอย่างนาย ก็อาจก่อให้เกิดหายนะที่ร้ายแรงกว่านี้ได้ในสักวันหนึ่ง นายอาจเข้าไปพัวพันและทำให้ให้ตระกูลโธมัสและตระกูลโคชต้องเดือดร้อนได้!”ในเวลานี้สองพี่น้องอย่างเจริลและจาเวีย์ก็อดที่จะตัวสั่นขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้ดูเหมือนคำพูดของชาร์ลีจะทำให้คนทั้งคู่
สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดก็คือ การปั่นจักรยานอย่างยากลำบากจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ยังพอรับได้ การที่ต้องปั่นจักรยานเป็นเวลาครึ่งเดือน ก็ยังดีเสียกว่าการนอนบนเตียงอยู่ครึ่งเดือนหลังผ่าตัดนอกจากนี้เขายังรู้สึกคับข้องใจอย่างมากในระหว่างการผ่าตัดครั้งล่าสุด ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ยังไม่หายดีเลย ถ้าเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดแบบเดิมอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ เขาก็จะต้องได้รับความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าอย่างแน่นอนในเวลานี้ชาร์ลีพูดขึ้นมาว่า “ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์ก็เพื่อให้นายได้ไปปรับปรุงตัวและกลับเนื้อกลับตัวใหม่ นายคิดว่า การที่ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์เพื่อให้ไปสนุกสนานกับชีวิตที่นั่นเหรอ? จะบอกอะไรให้นะ นายจะต้องปั่นจักรยานธรรมดา ๆ อย่าง Phoenix 28 เท่านั้น ใช้อย่างอื่นไม่ได้เลย! ไม่งั้นฉันจะให้นายปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์พร้อมกับเกวียนที่บรรทุกก้อนอิฐไปจนเต็มคัน!”“แล้วหลังจากนายไปถึงโอลรัสฮิลล์ นอกจากนายจะต้องคอยขับรถรับส่งให้กับลอรีนแล้ว นายต้องเช่าห้องเดี่ยวในชุมชนแออัดคลิฟฟ์คูลส์ด้วย ค่าใช้จ่ายรายเดือนรวมถึงค่าเช่าบ้านของนายจะต้องไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท!”
เมื่อเขาได้ยินว่า จะต้องขี่จักรยานจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์ตลอดทาง และต้องอยู่ในโอลรัสฮิลล์ในฐานะคนขับรถเป็นเวลาหนึ่งปี ดีแลนก็รู้เหมือนกำลังจะตายไปแล้วจริง ๆ ประเด็นก็คือระยะทางจากอีสต์คลิฟฟ์ไปโอลรัสฮิลล์นั้น มีระยะทางมากกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะไม่ตายเพราะหมดแรงถ้าต้องปั่นจักรยานไปตลอดทางจริง ๆ เหรอ?แล้วตอนนี้ก็อยู่ในเดือนธันวาคมซึ่งเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว เขาจะต้องขี่จักรยานตลอดทางไปจนถึงภาคใต้ แล้วไม่ได้รับอนุญาตให้พักในโรงแรมเลยด้วย ข้อกำหนดเหล่านี้รุนแรงเกินไปไม่ใช่เหรอ?ดีแลนรู้สึกเสียใจมากและน้ำตาก็เริ่มไหลอาบใบหน้านี่มันเรื่องบ้าบออะไรกันเนี่ย… เขาเป็นนายน้อยคนที่สามของตระกูลโคช แต่จะต้องขี่จักรยานไปจนถึงโอลรัสฮิลล์? เขาจะไม่ล้มตายไปในระหว่างทางหรอกเหรอ?คงจะน่าทึ่งมากถ้าเขาสามารถปั่นจักรยานได้วันละห้าสิบ หรือหกสิบกิโลเมตรระยะทางกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะต้องปั่นจักรยานไปประมาณยี่สิบวัน!แต่นี่มันเดือนธันวาคมแล้วนะ!เขาสะอึกสะอื้นพร้อมกับพูดว่า “คุณเวดครับ ถ้าผมเริ่มปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์ กว่าจะถึงที่นั่นก็คงเป็นเดือนมกราคมแล้ว น้องสาวผมจะต้องกลับมาฉลองปีใหม่ที่
ลอรีนดีใจมากแล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ขอบคุณมากนะคะชาร์ลี!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “รอเดี๋ยวนะ ผมจะไม่บังคับให้เขากลืนจี้หยกเข้าไป แต่ยังต้องลงโทษเขาด้วยวิธีอื่น ไม่งั้นเขาคงไม่จดจำไว้เป็นบทเรียน”ลอรีนรีบถามว่า “คุณจะลงโทษเขาด้วยวิธีไหนคะ ชาร์ลี? คงไม่ร้ายแรงไปกว่าการกลืนจี้หยกเข้าไปแล้วใช่ไหมคะ?”“ไม่หรอกครับ ชาร์ลียิ้มเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า “คุณมั่นใจได้เลยว่า การลงโทษครั้งนี้จะส่งผลดีกับตัวเขาอย่างแน่นอน”ในที่สุดลอรีนก็รู้สึกสบายใจในขณะที่พูดอย่างเสน่หาว่า “ขอบคุณนะคะชาร์ลี ขอบคุณที่ให้อภัยพี่ชายของฉัน และปล่อยเขาไปเพราะเห็นแก่ฉัน ถ้าอย่างนั้น คุณให้โอกาสฉันได้ตอบแทนคุณดีไหมคะ…”ชาร์ลีถามด้วยความประหลาดใจ “คุณจะตอบแทนผมยังไงเหรอ?”ลอรีนกะพริบตาในขณะที่ยิ้มและพูดอย่างตั้งใจว่า “ฉันสัญญาว่าจะแต่งงานกับคุณ และให้กำเนิดลูกชายตัวอ้วน ๆ เพื่อคุณ! คุณคิดว่ายังไงคะ?”ชาร์ลีตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “อย่าพูดอะไรแบบนี้อีก ผมเป็นสามีของเพื่อนสนิทของคุณนะ!”ลอรีนพยักหน้าก่อนจะพูดอย่างจริงจังว่า “ฉันรู้ค่ะ แต่คุณทั้งคู่แต่งงานกันแบบปลอม ๆ นี่! ก็ยังไม่ถือว่าเป็นการแต่งงานกันอย่างแท้จริง! จริง ๆ แล