วิลเลียมรีบเช็ดสีหน้าอันหยิ่งผยองของเขาออกทันที เมื่อได้ยินว่าชายคนนั้นคือลุงออสการ์ย้อนกลับไปตอนที่เขายังเรียนอยู่ที่ โอลรัส ฮิลล์ เขาได้รับรู้เกี่ยวกับตระกูลมัวร์ ตระกูลที่มีอำนาจและมีตำแหน่งสูงสุดในพีระมิดทางสังคมแม้ว่าเขาจะเป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงในฮ่องกงที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน แต่เขาก็ยังเทียบไม่ได้กับตระกูลมัวร์ ความมั่งคั่งของพวกเขามีมูลค่าอย่างน้อยหลายร้อยพันล้านดอลลาร์ สูงกว่าเขาร้อยเท่า ดังนั้นแม้แต่สถานะของพ่อบ้านของพวกเขาก็ยังสูงกว่าและทรงพลังกว่าเขาพอลรู้สึกปลื้มปิติและตกใจกับการปรากฏตัวของลุงออสการ์ในห้องชุดออสการ์ยิ้มและพูด “คุณพอล ตระกูลมัวร์กับคุณรู้จักกันมานาน เมื่อครั้งตระกูลมัวร์ทำธุรกิจส่งออกในสหรัฐฯ ครั้งแรก ผมได้ติดตามนายท่านมัวร์เพื่อดูแลการดำเนินงาน เมื่อใดก็ตามที่เราพบปัญหาทางกฎหมาย พ่อของคุณก็จะเป็นคนแก้ปัญหาทั้งหมดให้เรา นายท่านมัวร์ของเราและพ่อของคุณมีมิตรภาพต่อกัน แต่คุณอาจไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้เพราะคุณยังอยู่ในโรงเรียนในเวลานั้น”ออสการ์กล่าวเสริมว่า “ดังนั้น สำหรับตระกูลมัวร์ คุณคือลูกชายของผู้ช่วยชีวิตพวกเขา เราไม่สามารถละเลยควา
พอลหันไปที่โต๊ะและพูดว่า “ท่านสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ เชิญเพลิดเพลินไปกกับงานได้เลยนะครับ ผมจะไปแล้ว ขอตัวนะครับ”จากนั้น เขาตั้งใจหันไปหาจาค็อบและพูดว่า “ผมไปก่อนนะครับ ลุงวิลสัน”จาค็อบเหลือบมองพอลราวกับกำลังมองดูลูกชายของตัวเองและพูดอย่างอ่อนโยนเหมือนเป็นพ่อ “โอเค ไปทำธุระของลูกเถอะ!”ออสการ์ค่อนข้างประหลาดใจที่เห็นจาค็อบ “โอ้ คุณคือ คุณวิลสัน พ่อตาของปรมาจารย์เวดใช่ไหมครับ?”จาค็อบแปลกใจที่ออสการ์ชื่อดัง พ่อบ้านของตระกูลมัวร์ จะรู้จักเขาเป็นการส่วนตัว เขาจึงถามด้วยท่าทีตกใจว่า “คุณรู้จักผมได้อย่างไรครับ?”“ด้วยความเคารพอย่างสูง คุณวิลสัน ปรใาจารย์เวดเป็นผู้ช่วยชีวิตตระกูลมัวร์ และทุกคนในตระกูลรู้สึกขอบคุณมากสำหรับความช่วยเหลือของเขา! คุณเป็นพ่อตาของเขา ผมจะไม่รู้จักคุณได้อย่างไร?”จาค็อบอ้าปากค้างในความตระหนัก!ออสการ์รู้จักเขาเพราะชาร์ลี ลูกเขยของเขา…เขาตระหนักว่าชาร์ลีมีความทะเยอทะยานมากในการหลอกลวงของเขา เขาคิดว่าชาร์ลีคงเก่งพอที่จะหลอกดอน อัลเบิร์ต และซีค ไวท์ได้ แต่เขาไม่รู้ว่า ชาร์ลีได้หลอกตระกูลมัวร์ ซึ่งเป็นตระกูลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโอลรัส ฮิลล์!พอลที่กำลังฟังการ
วิลเลียมที่คอยดูหมิ่นจาค็อบ จู่ ๆ เขาก็รู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อยออสการ์ให้ความเคารพและนับถือลูกเขยของเขามาก ซึ่งทำให้เห็นว่าจาค็อบเป็นบุคคลสำคัญมากกว่าเขา ในความเห็นของออสการ์เขาถามเพื่อน ๆ เกี่ยวกับข้อมูลของลูกเขยของจาค็อบ ซึ่งบังเอิญไปร่วมงานคืนสู่เหย้าครั้งล่าสุด เขาพูดด้วยรอยยิ้มว่า “โอ้ เขาน่ะเหรอ ฉันคิดว่าเขาเป็นสามีบ้านว่างงาน แต่เราไม่ค่อยแน่ใจว่าเขาทำอาชีพอะไรอยู่”วิลเลียมเป็นนักธุรกิจ เขาได้เห็นชีวิตมากมาย เขารู้ถึงความแตกต่างทัศนคติของออสการ์เพียงอย่างเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะบ่งบอกว่าลูกเขยของจาค็อบไม่ใช่คนที่เขาประมาทได้ เขาต้องเป็นคนที่ทำอะไรที่ยิ่งใหญ่ จนให้ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติจากออสการ์สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกกังวลและกลัวผลที่จะตามมา หลังจากที่เขาเยาะเย้ยจาค็อบก่อนหน้านี้ เขาสามารถบอกได้ว่า จากการกระทำที่ออสการ์มีกับจาค็อบ มันจะจบไม่สวยต่อตัวเขาถ้าเขาสู้กับเจค็อบจริง ๆเขาชำเลืองมองจาค็อบอย่างหวาดกลัวและระมัดระวัง หลังจากที่ลังเลมามาก เขาก็พูดว่า “นี่ จาค็อบ ฉันขอโทษสำหรับสิ่งที่ฉันพูดไปก่อนหน้านี้ ฉันแค่โกรธเลยตะโกนออกไป เราเป็นเพื่อนกัน ฉันหวังว่านายจะไม่คิดมา
ผู้ก่อตั้งมักใช้นามสกุลเป็นชื่อบริษัทที่พวกเขาก่อตั้งตัวอย่างเช่น บริษัท โบอิ้ง ที่มีชื่อเสียง ซึ่งเป็นกลุ่มการบินและอวกาศที่ผลิตเครื่องบินโดยสาร เครื่องบินทหาร และกระสวยอวกาศ ได้รับการตั้งชื่อตามผู้ก่อตั้ง วิลเลี่ยม เอ็ดเวิร์ด โบอิ้งอีกตัวอย่างหนึ่งคือ คอนราด ฮิลตัน ผู้ก่อตั้งกลุ่มฮิลตันที่มีชื่อเสียงระดับโลก บริษัทการบริการนานาชาติสัญชาติอเมริกัน ที่บริหารจัดการและให้สัมปธานโรงแรมและรีสอร์ทมากมาย ตระกูลฮิลตันเป็นหนึ่งในตระกูลที่โดดเด่นในอเมริกาชื่อเต็มของพอล คือพอล สมิท พอลเป็นชื่อจริงของเขา และสมิทนั้นเป็นนามสกุลของเขาพ่อของเขาตั้งชื่อบริษัทกฎหมายว่า 'บริษัท สมิท กรุ๊ป คอร์ปอเรท ลอว์' ตามชื่อตระกูลของเขา ตั้งแต่เขาก่อตั้งบริษัทเขาก็ได้รับชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกหลังจากทำงานหนักมาหลายปีเมื่อพอลตัดสินใจย้ายบริษัทมาที่โอลรัส ฮิลล์l เขาเลือกย่านธุรกิจใจกลางเมืองที่ดีที่สุดในเมืองและเลือกอาคารสำนักงานที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในพื้นที่คือ เจมเดล พลาซ่าตึกห้าสิบแปดชั้น เจมเดล พลาซ่า ตึกระฟ้าห้าดาวที่ดีที่สุดในโอลรัส ฮิลล์ มีผู้เช่าเป็นองค์กรหรือบริษัทชั้นนำในโอลรัส ฮิลล์ ชั้นนำข
พอลอยากรู้เรื่องชาร์ลีมาก ในตอนแรก เขาคิดว่าชาร์ลีเป็นสมาชิกของตระกูลเวดแห่งอีสต์คลิฟฟ์ แม้ว่าข้อสันนิษฐานของเขาจะถูกโต้แย้งในเวลาต่อมา ความสงสัยใหม่เกิดขึ้นในใจของพอล คือคำว่า 'ปรมาจารย์เวด'จุดประสงค์ของพอลในการเชิญชาร์ลีมาดูการจัดวางฮวงจุ้ยที่นี่อันที่จริง เขามีคนคอยตรวจสอบและจัดวางฮวงจุ้ยในสำนักงานของเขาอยู่แล้ว ถ้าชาร์ลีไม่สามารถบอกถึงการมีอยู่ของฮวงจุ้ยพวกนี้ในตอนที่เขาอยู่ที่นี่ก็พิสูจน์ได้ว่าเขาไม่มีสิ่งที่เรียกว่า ปรมาจารย์เวดแต่ถ้าชาร์ลีมองเห็นแผนผังได้ชัดเจน แสดงว่าเขาเป็นคนพิเศษโดยคาดไม่ถึง ชาร์ลีจะสามารถเห็นการจัดวางฮวงจุ้ยทั้งหมดได้อย่างรวดเร็วผังการจัดวางเหล่านี้ได้รับการตรวจสอบและศึกษาโดยปรมาจารย์คนก่อนมาเป็นเวลานานก่อนที่จะตัดสินใจจัดเตรียม แต่ชาร์ลีใช้เวลาเพียงแวบเดียวเพื่อดูทั้งหมดชาร์ลีไม่หงุดหงิดกับความสงสัยของพอล ตรงกันข้าม เขาชื่นชมความซื่อสัตย์และตรงไปตรงมาของพอล มันเป็นคุณสมบัติที่หายากมากในคนในสังคมปัจจุบันดังนั้น เขาจึงพูดกับพอลว่า “เป็นเรื่องปกติที่คุณจะอยากรู้เกี่ยวกับความสามารถของผม และต้องการแน่ใจในความสามารถนั้น แต่เนื่องจากผมอยู่ที่นี่แล้ว จ
พอลพยักหน้าขอบคุณและโพล่งว่า “ชาร์ลี ขอบคุณมาก! ผมจะหาคนมาทำทันที!”ชาร์ลียิ้มบนใบหน้าของเขา “เดี๋ยวก่อน ผมยังพูดไม่จบ”พอลกล่าวด้วยความเคารพว่า “โอ้ กรุณาบอกต่อไปครับ”“ขณะติดฟิล์มที่หน้าต่าง คุณต้องวางปี่เซียะสีทองไว้ที่ผนังแต่ละด้าน จำไว้ว่าต้องเป็นปี่เซียะทองคำบริสุทธิ์เท่านั้น จึงจะมีบทบาทสำคัญในการดึงดูดโชคลาภ นอกจากนี้ ปี่เซียะเป็นที่รู้กันดีว่าชอบกินทองคำ เงิน และอัญมณี และไม่สามารถขับถ่ายมันออกมาได้ ซึ่งทำให้ปี่เซียะเป็นสัญลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบในการได้มาและการรักษาซึ่งความมั่งคั่ง การทำเช่นนี้จะสร้างรูปแบบที่สมบูรณ์ในการรักษาความมั่งคั่งเมื่อมีเงินไหลเข้ามา และธุรกิจของคุณจะเจริญรุ่งเรืองและประสบผลสำเร็จในเวลาต่อมา”พอลจับมือชาร์ลีด้วยท่าทางขอบคุณและพูดว่า “ว้าว คุณมีความสามารถและมีพรสวรรค์มากจริง ๆ ! จากนี้ไปผมจะเรียกคุณว่าปรมาจารย์เวดเหมือนกับคนอื่น ๆ!”ชาร์ลีหัวเราะและโบกมือ “อย่าเลย! ถ้าคุณเรียกผมแบบนั้น ต่อหน้าพ่อตาหรือแม่ของคุณ มันคงอึดอัดและน่าอาย”พอลโพล่งว่า “ไม่เป็นไร ผมจะเรียกคุณว่าชาร์ลีต่อหน้าพวกเขาตามปกติ แต่ผมจะเปลี่ยนเป็นปรมาจารย์เวดเมื่อพวกเขาไม่อยู่!”จา
พอลชื่นชมชาร์ลีจากก้นบึ้งของหัวใจเขาเป็นคนอเมริกัน แต่เหมือนชาวออสเกียนมากกว่า! เขาหมกมุ่นอยู่กับวัฒนธรรมดั้งเดิมของออสเกียและปรัชญาฮวงจุ้ยจนถึงเคารพในมันความเห็นและข้อสังเกตก่อนหน้านี้ของชาร์ลี ทำให้เขารู้สึกว่า ความเข้าใจและความเชี่ยวชาญของชาร์ลีในด้านฮวงจุ้ยนั้น เป็นเรื่องที่เข้าใจยาก เขายังเข้าใจด้วยว่าทำไมบางคนถึงยอมมอบวิลล่าหรูให้กับชาร์ลีซึ่งมีมูลค่าหลายร้อยล้านดอลลาร์พอลรู้ดีถึงความสำคัญของปรมาจารย์ด้านฮวงจุ้ยเป็นอย่างมาก ปรมาจารย์ที่ความสามารถไม่เพียงแต่ช่วยให้ผู้คนพัฒนาโชคและรวบรวมความมั่งคั่งได้เท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผู้คนเปลี่ยนโชคและอนาคตของพวกเขาได้อีกด้วย! ดังนั้นอาจารย์ฮวงจุ้ยทุกคนจึงมาพร้อมกับป้ายราคาของตัวเอง ยิ่งดีเท่าไร ค่าธรรมเนียมในการปรากฏตัวก็จะยิ่งสูงขึ้น มีข่าวลือว่า เหลย์ ก๊าเส่ง ชายผู้มั่งคั่งที่สุดของฮ่องกง จะจ่ายเงินหลายร้อยล้านดอลลาร์ฮ่องกงต่อการมาดูหนึ่งครั้งสำหรับปราจารย์ฮวงจุ้ยที่ได้รับมอบหมายนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงรู้สึกว่าเช็คสี่ล้านดอลลาร์ มันยังไม่เพียงพอและเขาควรเขียนเช็คให้เขาเป็นเงินสิบล้านด้วยซ้ำดังนั้น เขาจึงฉีกเช็คสี่ล้านเหรียญแ
อีกตัวอย่างหนึ่งของความสุภาพคือเมื่อมีคนสองสามคนรีบไปจ่ายเงินในเวลาเดียวกันหลังอาหารเย็นทุกคนรีบไปจ่าย แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จริงใจที่จะจ่าย ความตั้งใจของพวกเขาเพียงเพื่อแสดงความพยายาม เพราะไม่อย่างนั้นมันก็คงดูไม่เป็นผู้ใหญ่สักเท่าไหร่ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่คนสองสามคนจะมารวมตัวกันรอบ ๆ แคชเชียร์ เพื่อที่จะโต้เถียง และยืนกรานที่จะจ่ายเงินจากภาพที่ไม่มีวันรู้จบนี้ ชาร์ลีชื่นชมความเฉลียวฉลาดและความเด็ดขาดของพอล เขาจึงหยุดเรื่องไร้สาระทั้งหมดเมื่อชาร์ลีบอกว่าเขาจะต้องไปแล้ว นี่เป็นวิธีการสื่อสารที่ดีระหว่างคนฉลาดพอลเดินตามชาร์ลีออกจากห้องทำงาน และมาที่ลิฟต์ของล็อบบี้ เขากดลิฟต์ให้ชาร์ลี จากนั้นทั้งคู่ก็มองไปที่หน้าจอที่แสดงให้เห็นว่ามีลิฟต์ขึ้นมาจากชั้นหนึ่งและหยุดอยู่ตรงหน้าพวกเขาทันทีที่ลิฟต์หยุด ก่อนที่เขาจะทันพูดอะไร ประตูก็เปิดออก จากนั้นหญิงสาวร่างะผอมเพรียวในชุดสูทและกระโปรงที่รัดรูปก็ได้ปรากฏตัวขึ้นในลิฟต์ผู้หญิงคนนี้สวยและมีเสน่ห์มาก เธอมีกลิ่นอายของความเย้ายวนใจและความเซ็กซี่ออกมา เธอสามารถทำให้หัวใจของผู้ชายทุกคนนั้นสั่นไหวพอลกระพริบตาด้วยความงุนงงและอุทานว่า “คุ
“โอเค” ชาร์ลีพยักหน้าก่อนจะพูดว่า “เอาล่ะ ถึงเวลาที่นายต้องออกเดินทางแล้ว”ในเวลานี้จาเวียร์ก็วิ่งเข้าไปหาพวกเขาพร้อมกับแบตเตอรี่สำรองในมือ หลังจากนั้นเขาก็ยื่นแบตเตอรี่สำรองกับสายชาร์จให้กับดีแลนในขณะที่พูดว่า “ดีแลน นี่แบตเตอรี่สำรอง!”ดีแลนหยิบแบตเตอรี่สำรองใส่ไว้ในเป้ หลังจากปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้ว เขาก็พูดกับทุกคนว่า “คุณยาย คุณตา พ่อ แม่ ลุง อา ผมจะไปแล้วนะคับ…”ทุกคนโบกมือให้เขา “ไปเถอะ อย่าลืมใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนนะ!”ดีแลนมองไปที่ชาร์ลีอีกครั้งก่อนจะโค้งคำนับแล้วพูดว่า “ผมจะไปแล้วนะครับคุณเวด…”ชาร์ลีส่งเสียงพึมพำในขณะที่พูดว่า “รีบไปเถอะ ไม่งั้นนายจะถูกทำโทษที่ไปถึงช้านะ”ดีแลนรีบพยักหน้าในขณะที่พูดว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงครับ! ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ!”ชาร์ลีโบกมือแล้วพูดว่า “อืม ไปได้แล้ว!”ดีแลนพยักหน้าก่อนจะหันกลับไปมองเหล่าญาติ ๆ อย่างไม่เต็มใจ จากนั้นเขาก็เริ่มปั่นจักรยาน Phoenix 28 คันใหญ่อย่างหนักหน่วง หลังจากถีบจักรยานไปได้สองสามครั้ง ในที่สุดดีแลนก็ถีบจักรยานจากไปในลักษณะโคลงเคลงซิลเวียเริ่มร้องไห้อย่างขมขื่น ลีโอนาร์ดจึงรีบคว้าเธอมาปลอบโยนอยู่ในอ้อ
เมื่องานเลี้ยงวันเกิดสิ้นสุดลง และแขกคนอื่น ๆ ได้กลับไปแล้ว ดีแลนก็เข็นรถจักรยาน Phoenix 28 คันใหม่ออกมาในเวลานี้จู่ ๆ ดีแลนก็นึกถึงเพลงฮิตที่เขาเคยเห็นในคลิปวิดีโอสั้น ๆ…เพลงนี้ก็คือเพลง ‘ขี่มอเตอร์ไซต์แสนรักของฉัน’...ในขณะที่เขานึกถึงเพลงนี้ เขาก็มองไปที่จักรยาน Phoenix 28 ในสภาพเก่าที่ดูน่าเกลียดนั้น แล้วอดที่จะถอนหายใจไม่ได้ในขณะที่คิดกับตัวเองว่า ‘ถ้าฉันขี่มอเตอร์ไซค์ไปโอลรัสฮิลล์ได้ก็คงจะดีไม่น้อย เพราะจะทำให้ฉันสามารถเดินทางได้ประมาณสามถึงสี่ร้อยกิโลเมตรต่อวัน ซึ่งจะช่วยให้ฉันเดินทางไปถึงโอลรัสฮิลล์ได้เร็วที่สุด จะได้ไม่ต้องทนทุกข์กับความคับข้องใจและความอยุติธรรมมากมายในระหว่างทาง…’แต่ช่างน่าสงสารเหลือเกินที่เขารู้ว่าชาร์จะไม่มีทางเปิดโอกาสให้เขาได้ต่อรองอะไรเลย เขาจึงทำได้แค่เข็นจักรยานออกมาเพื่อเตรียมตัวออกเดินทางเจริล… ลุงของเขาถือหมวกกันน็อกสีเขียวอยู่ในมือ ในขณะที่พยายามจะสวมให้กับดีแลน ดีแลนหลบเลี่ยงหมวกใบนั้นในขณะที่ถามอย่างอึดอัดใจว่า “ทำไมถึงซื้อหมวกกันน็อกสีเขียวมาให้ผมล่ะลุง? หมวกสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของผู้ชายที่โดนสวมเขานะ…”“อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลยน่า” เจร
"หา? เร็วไปไหม? คุณจะไม่อยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่ออีกสักสองสามวันเหรอ?”“ผมทำธุระของผมเสร็จหมดแล้วน่ะ ไม่มีธุระอะไรให้ผมต้องอยู่ที่นี่อีก ผมจะออกเดินทางพรุ่งนี้เลย”เมื่อลอรีนได้ยินดังนี้ เธอก็พูดขึ้นอย่างไม่ลังเลเลยว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะออกจากอีสต์คลิฟฟ์พรุ่งนี้ด้วย เราเดินทางกลับโอลรัสฮิลล์พร้อมกันดีไหมคะ? เราจะได้นั่งเครื่องบินลำเดียวกันชาร์ลีอยากจะปฏิเสธเธอ แต่เมื่อเขาเห็นสีหน้าที่แสดงความวิงวอนของเธอแล้ว เขาก็ปฏิเสธเธอไม่ลงเพราะไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม… นับเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนเป็นเพื่อนกัน ที่ต้องนั่งเครื่องบินลำเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถหลบเลี่ยงการนั่งเครื่องบินเที่ยวบินเดียวกับเธอได้ชาร์ลีจึงพูดว่า “ได้สิ เรากลับด้วยกันก็ได้”ลอรีนรีบพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวคุณให้รายละเอียดบัตรประจำตัวกับฉันมานะ ฉันจะได้ซื้อตั๋วเครื่องบินของเราพร้อมกัน!”“โอเค”***ในขณะที่งานเลี้ยงวันเกิดยังคงดำเนินอยู่นั้น ลุงและอารองของดีแลนก็ได้ตระเตรียมการเดินทางด้วยการปั่นจักรยานไปยังโอลรัสฮิลล์ให้ดีแลนเรียบร้อยแล้วพวกเขาได้ให้คนไปซื้อจักรยาน Phoenix 28 รุ่นเก่ามา แล้วติดตั้งชั้นวางสัมภา
หลังจากนั้นงานเลี้ยงวันเกิดก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการมีการจัดที่นั่งให้กับชาร์ลีเป็นพิเศษในฐานะที่เขาเป็นแขกผู้มีเกียรติสูงสุด โดยเขาได้นั่งอยู่ข้างนายท่านโธมัสกับลอรีนและริกลีย์หลังจากนั้นสมาชิกของตระกูลโธมัสก็ผลัดกันดื่มอวยพรให้เขา โดยทั้งการแสดงออกทางสีหน้า น้ำเสียง และการกระทำล้วนเต็มไปด้วยการสรรเสริญเยินยอ ชาร์ลีไม่มีอะไรจะพูดมากนัก เมื่อมีคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็แค่ดื่มอวยพรกลับไป ซึ่งถึงแม้ดีแลนจะเป็นคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็ดื่มอวยพรกลับไปอย่างง่ายดายในเวลานี้ริกลีย์ก็ยังมาดื่มอวยพรให้กับชาร์ลีอย่างระมัดระวังด้วย โดยเขาได้เยินยอแล้วพูดว่า “คุณเวดครับ ผมมีเรื่องจะถามคุณหน่อยครับ…”ชาร์ลีรู้อยู่แล้วว่าเขาจะถามอะไรก่อนที่เขาจะเริ่มพูดออกมาด้วยซ้ำไป เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการให้ชาร์ลีช่วยฟื้นคืนสมรรถภาพ เพื่อให้เขากลับมาแข็งแกร่งได้อีกครั้งแต่เมื่อพิจารณาถึงเรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่ครอบครัวของพวกเขาได้ทำกับครอบครัวของยูลแล้ว ชาร์ลีก็ยังแน่ใจว่าเขาจะไม่ยอมฟื้นคืนสมรรถภาพให้พวกเขาในตอนนี้ผู้ที่เป็นผู้ใหญ่แล้วจะต้องชดใช้และรับผิดชอบต่อการกระทำของพวกเขา ไม่อย่างนั้นแล้วพวกเขาจะได้บทเ
ชาร์ลีหยิบภาพวาดที่ยูลมอบให้เขาจากมือของดีแลน ก่อนจะยื่นให้กับยายของลอรีนด้วยตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็พูดว่า “คุณยายโธมัสครับ นี่เป็นของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผมครับ ผมหวังว่าคุณยายจะรับมันไว้ และผมอยากจะขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นไปเมื่อกี้นี้ ด้วยวันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณยาย ผมหวังว่าคุณยายคงจะให้อภัยผมนะครับ”คุณท่านโธมัสรู้สึกปลื้มใจแล้วรีบพูดขึ้นว่า “คุณเวด ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ จริง ๆ แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้เป็นเพราะหลานชายของฉันทำอะไรผิดไป ฉันมาคิดดูแล้ว… ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะเราละเลยในการอบรมสั่งสอนหลานของเรา จึงทำให้คุณเวดต้องเดือดร้อน”ในขณะที่เธอพูดอยู่นั้น เธอก็มองดูภาพวาดก่อนจะพูดว่า “คุณเวดคะ ภาพวาดนี้มีมูลค่ามากเหลือเกิน ฉันคงรับของขวัญชิ้นนี้ไว้ไม่ได้หรอกค่ะ!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “คุณยายโธมัสครับ ของขวัญชิ้นนี้เป็นเพียงของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผม มูลค่าของของขวัญชิ้นนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลย คุณยายไม่ต้องเกรงใจผมหรอกครับ พูดตามตรงนะครับ ผมไม่ได้ใช้จ่ายเงินกับของขวัญชิ้นนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะคุณโกลดิ้งจากโกลดิ้งกรุ๊ปมอบภาพวาดนี้ให้ผม แล้วผมก็นำมา
เมื่อได้ยินว่าเขาจะต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง ดีแลนก็ส่ายหัวอย่างบ้าคลั่งทันที!เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว เขาคงต้องทนทุกข์ทรมานและรู้สึกคับข้องใจเพียงเล็กน้อย ถ้าเขาต้องอาศัยอยู่ในชุมชนแออัด โดยมีค่าครองชีพเดือนละหนึ่งหมื่นบาท แต่ถ้าเขาต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง เขาก็คงต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมาก และต้องเจอะเจอความยากลำบากมากมายในไซต์ก่อสร้างแห่งนั้นเขาจึงพยักหน้าแบบไม่คิดอะไรทันที “คุณเวดครับ ผมยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดของคุณแล้ว ผมจะไม่ต่อรองอะไรกับคุณแล้วครับ! ขอแค่อย่าส่งผมไปไซต์ก่อสร้างนั้นเลยนะครับ…”ชาร์ลีรู้สึกพอใจมากแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “อย่าลืมปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีหลังจากนายไปถึงที่โอลรัสฮิลล์แล้ว อย่าสร้างปัญหาอะไรเพิ่มขึ้นมาอีกล่ะ ถ้านายยังคงอยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่อไป ทายาทที่ชอบเยาะเย้ยถากถางคนอื่นอย่างนาย ก็อาจก่อให้เกิดหายนะที่ร้ายแรงกว่านี้ได้ในสักวันหนึ่ง นายอาจเข้าไปพัวพันและทำให้ให้ตระกูลโธมัสและตระกูลโคชต้องเดือดร้อนได้!”ในเวลานี้สองพี่น้องอย่างเจริลและจาเวีย์ก็อดที่จะตัวสั่นขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้ดูเหมือนคำพูดของชาร์ลีจะทำให้คนทั้งคู่
สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดก็คือ การปั่นจักรยานอย่างยากลำบากจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ยังพอรับได้ การที่ต้องปั่นจักรยานเป็นเวลาครึ่งเดือน ก็ยังดีเสียกว่าการนอนบนเตียงอยู่ครึ่งเดือนหลังผ่าตัดนอกจากนี้เขายังรู้สึกคับข้องใจอย่างมากในระหว่างการผ่าตัดครั้งล่าสุด ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ยังไม่หายดีเลย ถ้าเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดแบบเดิมอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ เขาก็จะต้องได้รับความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าอย่างแน่นอนในเวลานี้ชาร์ลีพูดขึ้นมาว่า “ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์ก็เพื่อให้นายได้ไปปรับปรุงตัวและกลับเนื้อกลับตัวใหม่ นายคิดว่า การที่ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์เพื่อให้ไปสนุกสนานกับชีวิตที่นั่นเหรอ? จะบอกอะไรให้นะ นายจะต้องปั่นจักรยานธรรมดา ๆ อย่าง Phoenix 28 เท่านั้น ใช้อย่างอื่นไม่ได้เลย! ไม่งั้นฉันจะให้นายปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์พร้อมกับเกวียนที่บรรทุกก้อนอิฐไปจนเต็มคัน!”“แล้วหลังจากนายไปถึงโอลรัสฮิลล์ นอกจากนายจะต้องคอยขับรถรับส่งให้กับลอรีนแล้ว นายต้องเช่าห้องเดี่ยวในชุมชนแออัดคลิฟฟ์คูลส์ด้วย ค่าใช้จ่ายรายเดือนรวมถึงค่าเช่าบ้านของนายจะต้องไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท!”
เมื่อเขาได้ยินว่า จะต้องขี่จักรยานจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์ตลอดทาง และต้องอยู่ในโอลรัสฮิลล์ในฐานะคนขับรถเป็นเวลาหนึ่งปี ดีแลนก็รู้เหมือนกำลังจะตายไปแล้วจริง ๆ ประเด็นก็คือระยะทางจากอีสต์คลิฟฟ์ไปโอลรัสฮิลล์นั้น มีระยะทางมากกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะไม่ตายเพราะหมดแรงถ้าต้องปั่นจักรยานไปตลอดทางจริง ๆ เหรอ?แล้วตอนนี้ก็อยู่ในเดือนธันวาคมซึ่งเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว เขาจะต้องขี่จักรยานตลอดทางไปจนถึงภาคใต้ แล้วไม่ได้รับอนุญาตให้พักในโรงแรมเลยด้วย ข้อกำหนดเหล่านี้รุนแรงเกินไปไม่ใช่เหรอ?ดีแลนรู้สึกเสียใจมากและน้ำตาก็เริ่มไหลอาบใบหน้านี่มันเรื่องบ้าบออะไรกันเนี่ย… เขาเป็นนายน้อยคนที่สามของตระกูลโคช แต่จะต้องขี่จักรยานไปจนถึงโอลรัสฮิลล์? เขาจะไม่ล้มตายไปในระหว่างทางหรอกเหรอ?คงจะน่าทึ่งมากถ้าเขาสามารถปั่นจักรยานได้วันละห้าสิบ หรือหกสิบกิโลเมตรระยะทางกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะต้องปั่นจักรยานไปประมาณยี่สิบวัน!แต่นี่มันเดือนธันวาคมแล้วนะ!เขาสะอึกสะอื้นพร้อมกับพูดว่า “คุณเวดครับ ถ้าผมเริ่มปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์ กว่าจะถึงที่นั่นก็คงเป็นเดือนมกราคมแล้ว น้องสาวผมจะต้องกลับมาฉลองปีใหม่ที่
ลอรีนดีใจมากแล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ขอบคุณมากนะคะชาร์ลี!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “รอเดี๋ยวนะ ผมจะไม่บังคับให้เขากลืนจี้หยกเข้าไป แต่ยังต้องลงโทษเขาด้วยวิธีอื่น ไม่งั้นเขาคงไม่จดจำไว้เป็นบทเรียน”ลอรีนรีบถามว่า “คุณจะลงโทษเขาด้วยวิธีไหนคะ ชาร์ลี? คงไม่ร้ายแรงไปกว่าการกลืนจี้หยกเข้าไปแล้วใช่ไหมคะ?”“ไม่หรอกครับ ชาร์ลียิ้มเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า “คุณมั่นใจได้เลยว่า การลงโทษครั้งนี้จะส่งผลดีกับตัวเขาอย่างแน่นอน”ในที่สุดลอรีนก็รู้สึกสบายใจในขณะที่พูดอย่างเสน่หาว่า “ขอบคุณนะคะชาร์ลี ขอบคุณที่ให้อภัยพี่ชายของฉัน และปล่อยเขาไปเพราะเห็นแก่ฉัน ถ้าอย่างนั้น คุณให้โอกาสฉันได้ตอบแทนคุณดีไหมคะ…”ชาร์ลีถามด้วยความประหลาดใจ “คุณจะตอบแทนผมยังไงเหรอ?”ลอรีนกะพริบตาในขณะที่ยิ้มและพูดอย่างตั้งใจว่า “ฉันสัญญาว่าจะแต่งงานกับคุณ และให้กำเนิดลูกชายตัวอ้วน ๆ เพื่อคุณ! คุณคิดว่ายังไงคะ?”ชาร์ลีตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “อย่าพูดอะไรแบบนี้อีก ผมเป็นสามีของเพื่อนสนิทของคุณนะ!”ลอรีนพยักหน้าก่อนจะพูดอย่างจริงจังว่า “ฉันรู้ค่ะ แต่คุณทั้งคู่แต่งงานกันแบบปลอม ๆ นี่! ก็ยังไม่ถือว่าเป็นการแต่งงานกันอย่างแท้จริง! จริง ๆ แล