บาร์บาร่าอ้าปากค้างด้วยความตกใจ และถามอย่างลนลาน “อะไรนะ?! แอนโธนี คุณกำลังพูดถึงอะไร? เรารู้จักกันมาหลายปีแล้ว คุณจะตัดสัมพันธ์กับเราแบบนั้นได้อย่างไรกัน?”เสียงจริงจังของแอนโธนีดังขึ้น “บาร์บาร่า ผมรู้สึกขอบคุณมากสำหรับความช่วยเหลือของพี่ชายวิลสัน เมื่อผมต้องการมันมากที่สุดเขาก็เป็นมิตรที่แท้จริง และผมได้ตอบแทนบุญคุณให้กับครอบครัวของคุณมาหลายปีแล้วโดยไม่ขออะไรตอบแทน ความกตัญญูนั้นเป็นหลักการของผม คุณรู้ใช่ไหม?”"แน่นอนสิ!" บาร์บาร่าตอบ “แต่ฉันไม่เข้าใจว่า ทำไมคุณถึงต้องการหยุดความสัมพันธ์กับพวกเรากะทันหันแบบนี้? หากเป็นความผิดพลาดของฉัน บอกฉันมาได้เลย ฉันจะได้แก้ไข!”“ไมหรอก บาร์บาร่า มันไม่ใช่ความผิดของคุณ จริง ๆ แล้วมันเป็นความผิดของลูกชายของคุณ เคนเน็ธ”“เคนเน็ธ?” บาร์บาร่าพูดด้วยความประหลาดใจ “เกิดอะไรขึ้น? เขาไปทำให้คุณขุ่นเคืองเหรอ? แต่ตอนนี้เขาอยู่ที่โอลรัสฮิลล์นะ!”"ใช่ครับ ผมก็อยู่ที่โอลรัสฮิลล์เหมือนกัน” แอนโธนีพูดอย่างจริงจัง “และผมก็เพิ่งเจอกับเคนเน็ธ บอกตามตรงนะครับว่าเ ขาไม่ได้ทำอะไรผมหรอกครับ แต่เขาทำให้ผู้ช่วยชีวิตของผมขุ่นเคือง ผู้ชายคนนี้มีความสำคัญกับผมมาก จนผ
เวนดี้ไม่ได้เงินจากเคนเน็ธอีกเลย และเขาก็ไม่ได้พูดถึงอะไรเกี่ยวกับการลงทุนที่เหลืออีกด้วยจากสิ่งที่เห็น ดูเหมือนว่าเธอจะได้รับผลประโยชน์ทางการเงินมากขึ้นจากเขาก็ต่อเมื่อเธอช่วยให้เขาฟื้นความเป็นชายได้ไม่อย่างนั้น เคนเน็ธคงจะทอดทิ้งเธอและครอบครัวเธอทั้งหมดอย่างไม่ต้องสงสัยจนถึงตอนนี้เงิน 100 ล้านบาท ที่เคนเน็ธให้มานั้นเพียงพอที่จะแก้ไขปัญหาในวิลสันกรุ๊ปได้ระดับหนึ่ง แต่มันยังห่างไกลที่จะทำให้บริษัทกลับมาสู่จุดสูงสุดได้คริสโตเฟอร์ยืนอยู่ข้าง ๆ เคนเน็ธ และพูดว่า “กินทีละเม็ดครับ ยามันแรงมาก”เคนเน็ธพยักหน้าจากนั้นเขาหยิบยาสามเม็ดออกมาแล้วกลืนลงไปเขาจับมือของเวนดี้และบอกเธอว่า “เวนดี้ ไปชั้นบนกันเถอะ” เขาหวังว่ายานี้จะได้ผลอย่างมหัศจรรย์เวนดี้รีบพยักหน้า เธอโอบแขนรอบตัวเคนเน็ธ และพูดอย่างเขิน ๆ ว่า “ที่รักคะ กลับไปที่ห้องของเราแล้วลองกันใหม่อีกทีนะคะ”เคนเน็ธดึงเวนดี้กลับเข้าไปในห้อง จากนั้นพวกเขาก็เริ่มเล้าโลม เวนดี้พยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยให้เขามีความสุข และคืนความเป็นชายกลับมาอีกครั้งน่าเสียดาย ที่ไม่ว่าเวนดี้จะลองใช้กลเม็ดใดกับเขา มันก็ยังไม่ได้ผล!ด้วยความหงุดหงิ
เคนเน็ธตัวสั่นด้วยความตกใจจากคำพูดดุดันจากแม่ของเขาเพียงเพราะเขาได้ไปมีเรื่องกับชาร์ลี ไม่เพียงแต่แอนโธนีไม่ต้องการช่วยเขาคนเดียวเท่านั้น แต่เขาต้องการตัดสัมพันธ์กับทั้งครอบครัวของเขาอีกด้วย?ชาร์ลีเลี้ยงเขาด้วยยาชนิดไหนกัน จนทำให้แอนโธนีต้องมนต์สะกดได้ขนาดนี้?!เคนเน็ธรู้สึกร้อนรน และกราดเกรี้ยว เขาระงับอารมณ์ และพูดว่า “แม่ครับ ไอ้แก่นั่นไว้ใจไม่ได้! เขาเป็นแค่ไอ้เฒ่าประสาทเท่านั้น!”บาร์บาร่าตะโกนอย่างโกรธ ๆ ว่า “ฉันไม่สนใจว่าแกไปทำอะไร แต่แกต้องพาแอนโธนีมาที่อีสต์ คลิฟฟ์ในวันเกิดครบรอบ 84 ปีของฉันเพื่อตรวจร่างกาย และรักษาอาการป่วยของฉันด้วย ถ้าแกไม่ทำ ก็รอดู!”ผู้คนเห็นแก่ตัวมากขึ้นเมื่ออายุมากขึ้นยิ่งพวกเขาอายุมากขึ้นเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งกลัวความตายมากขึ้น และปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ บาร์บาร่าไม่ได้อยากรู้เรื่องความบาดหมางระหว่างเคนเน็ธกับแอนโธนี สิ่งที่เธอหวังไว้คือ ให้แอนโธนีกลับมาอยู่ในฐานะแพทย์ประจำตัวของเธออีกครั้งหากเธอมีแอนโธนีอยู่ในชีวิต เธออาจมีชีวิตอยู่ได้จนถึงอายุเก้าสิบปีอย่างแน่นอน แต่ถ้าไม่มีเขาเธออาจจะผ่านอุปสรรคในปีนี้ไปไม่ได้ด้วย
เจสันเปิดฝาถังและพูดขึ้นว่า “พ่อครับ ผมคิดว่าควรเทน้ำมันเบนซินผ่านบานเกล็ดเพื่อให้น้ำมันเบนซินกระจายเข้าไปด้านในจนสุด จากนั้นเมื่อเราจุดไฟจากภายนอกไฟก็จะลุกลามไปรอบ ๆ อย่างรวดเร็วแม้แต่แมลงสาบก็ไม่รอด!”จัสตินพยักหน้าและพูดขึ้นว่า “ดี! มาเผาพวกมันให้เป็นเถ้าถ่านไปเลย ไอ้พวกสารเลวพวกนี้!”แม้ว่าจัสตินจะไม่ได้เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกที่ประสบความสำเร็จในโอลรัสฮิลล์ แต่เขาก็เป็นเบอร์หนึ่งของเมืองเมื่อพูดถึงการสปอยล์ให้ท้ายลูกชายของเขาตระกูลของพวกเขาเคยมีทายาทชายเพียงคนเดียวมาหลายชั่วอายุคน หลังจากให้กำเนิดลูกสาวมาหลายคน แต่ในที่สุดจัสตินก็ได้ลูกชายมาหนึ่งคนนั้นก็คือเจสัน ดังนั้นเขาจึงได้รับการปรนเปรอ และให้ท้ายในทุกวิถีทางตั้งแต่ยังเล็กเมื่อเจสันอยู่ในโรงเรียนประถม ครูของเขาเคยลงโทษเขาด้วยการตีมือครั้งหนึ่งเพราะเขาเป็นตัวก่อกวนในชั้นเรียน ทำให้ขัดต่อกฎของห้องเรียน จากนั้นจัสตินได้พาคนของเขาไปโรงเรียน และทำให้แขนขวาของครูหัก และนั่นทำให้เขาพิการตลอดชีวิตเมื่อเจสันอยู่ในโรงเรียนมัธยมต้น เขาเคยต่อสู้กับเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่โรงเรียน และพ่ายแพ้ จากนั้นจัสตินได้จ้างคนให้สร้างอุบัติเหตุทางรถย
ทั้งจัสตินและเจสันไม่รู้ว่าแอนโธนีมียาวิเศษเหลือเพียงครึ่งเม็ด แต่เคนเน็ธรู้เขารู้เพราะเขาเกือบจะได้มันจากแอนโธนีเมื่อตอนบ่ายเขาไม่กล้าที่จะไปมีเรื่องกับแอนโธนีด้วยตัวเอง แต่ถ้าเขาส่งต่อหน้าที่ให้กับคู่พ่อลูกที่โง่เขลาแล้วนั้น เขาก็สามารถนั่งเอนหลัง และเพลิดเพลินไปกับผลงานของพวกเขาได้ด้วยกลเม็ดง่าย ๆ เพียงไม่กี่อย่างตัวอย่างเช่น ตอนแรกเขาสามารถสร้างยาปลอมขึ้นมาสองสามเม็ด โดยอิงจากของจริงที่เขาเห็นในวันนี้ จากนั้นหลังจากที่พวกเขาลักพาตัวแอนโธนีแล้ว เขาก็ไปค้นหายาของจริงจากแอนโธนีและสลับกับยาปลอม จนถึงตอนนั้นไม่เพียงแต่เขาสามารถรักษาความผิดปกติของเขาได้เท่านั้น แต่เขายังสามารถกล่าวโทษการตายของแอนโธนีว่าเกิดจากน้ำมือของสองพ่อลูกได้เช่นกัน!ในทางกลับกันจัสตินไม่ได้คิดเยอะขนาดนั้นเพราะในความคิดของเขา ศัตรูของศัตรูคือมิตรของเขา เนื่องจากพวกเขามีศัตรูคนเดียวกัน พวกเขาจึงสามารถเป็นเพื่อนร่วมทีมได้ นอกจากนี้พวกเขาสามารถแบ่งความเสี่ยงเท่า ๆ กัน แล้วทำไมจะไม่ร่วมมือกันล่ะ?สำหรับยาวิเศษนี้ เขาไม่รู้ว่าแอนโธนีมีมากแค่ไหน แต่สำหรับเขาแล้วแอนโธนีต้องตาย เพราะเขาและลูกชายโกรธเขามากในตอนนี้
ตรงกันข้ามเอเลนกลับมาโทษตัวเองในสิ่งที่เกิดขึ้นกับเจสัน เธอรู้สึกว่า เขาไม่ควรได้รับการกระทำที่รุนแรงขนาดนี้ เนื่องจากเขามีความตั้งใจที่ดีตั้งแต่แรกดังนั้นเมื่อเธอรับสายของเจสัน เธอจึงดีใจเป็นอย่างมาก แต่ก็รู้สึกผิดเล็กน้อยเสียงที่จริงจังของเจสันดังขึ้นในโทรศัพท์ “คุณน้าครับ ผมต้องขอโทษด้วยสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลเมื่อวันก่อน ผมโดนหลอกแถมยังพาหมอปลอมมารักษาคุณอาอีก ผมเสียใจมากและผมยังไม่มีโอกาสได้ขอโทษคุณน้าเลย…”“โอ้!” เอเลนกล่าว “นี่ เจสันเธอกำลังพูดถึงอะไรกัน! น้าต่างหากล่ะ ที่ต้องรู้สึกขอบคุณมากสำหรับความหวังดีของเธอ และน้าขอโทษสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอด้วย น้าควรจะเป็นคนขอโทษเธอมากกว่านะ!”“ไม่ครับคุณป้า มันเป็นความผิดของผมที่ไม่ตรวจสอบข้อมูลของดร.ลินช์มาให้ดีก่อน”จากนั้นเขากล่าวเสริมว่า “ถ้าวันไหนคุณน้าว่าง ผมอยากจะเชิญคุณน้ามาทานข้าวด้วยกัน ผมจะได้ขอโทษคุณน้าเป็นการส่วนตัวด้วย ถ้าคุณน้าไม่ว่าอะไร”เอเลนตื่นเต้นและดีใจมากที่ได้รับคำเชิญ!พูดตรง ๆ ว่าเธอไม่ได้รู้สึกว่า เจสันผิดเลยในเรื่องนี้ในทางตรงกันข้าม เธอรู้สึกว่า จริง ๆ แล้วเจสันเป็นหนึ่งในเหยื่อของเหต
เอเลนใช้เวลาที่เหลือของการฝันกลางวันในตอนเช้าซ้ำ ๆ เกี่ยวกับของขวัญมูลค่าสิบล้านที่เจสันเตรียมไว้ให้เธอ มันคืออะไร? เธอไม่มีอารมณ์ที่จะเล่นไพ่อีกต่อไปแล้ว เธอจึงรีบไปที่ดีไวด์เล้าจ์เพื่อพบกับเจสันเมื่อถึงเวลาของขวัญจะเป็นอะไรกันนะ? เครื่องประดับ? เพชร? เงินสด? เช็คเงินสด? หรืออย่างอื่น?สำหรับคนอย่างเอเลนแล้วนั้น ของขวัญที่มีมูลค่าขนาดนี้จากเจสันเป็นสิ่งที่น่าดึงดูดใจสุด ๆเมื่อวันก่อน ตอนที่เธอใช้เช็คของแคลร์เพื่อจ่ายค่าโรงพยาบาล และได้ประโยชน์จากเงินจำนวนหนึ่งล้านหกแสนบาท เธอมีความสุขมากจนเธอยิ้มไม่หุบให้กับความฉลาดของเธอมาหลายวันแล้วดังนั้นความคิดที่จะได้รับของขวัญมูลค่าสิบล้านบาทจากเจสัน ทำให้เธอเหมือนขึ้นไปที่สวรรค์ชั้นเจ็ดทันที!เมื่อเวลา 11.30 น. เอเลนอำลาเพื่อนของเธอ จากนั้นก็ขึ้นรถแท็กซี่ตรงไปที่ดีไวด์เล้าจ์เมื่อเธอมาถึงร้านอาหาร เธอก็ยืนอยู่ตรงประตูทางเข้าตามที่ตกลงกันไว้ และรอให้เจสันมาถึงในไม่ช้า รถเมอร์เซเดสเบนซ์สีดำคันใหม่ก็ค่อย ๆ มาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอจากนั้นประตูรถก็เปิดออก ชายหนุ่มในชุดสูท และรองเท้าหนังก็ก้าวออกจากรถนั่นคือเจสันเขาหล่อและดูมีสไตล์มาก ข้
ไม่มีอะไรอยู่ในใจของเธอนอกจากเงิน!สำหรับเธอแล้วนั้น องค์ประกอบที่สำคัญที่สุดที่เธอมองหาจากลูกเขยก็คือ พวกเขาต้องร่ำรวย และเต็มใจที่จะให้เงินกับเธอ ไม่อย่างนั้นพวกเขาก็ไม่มีอะไรนอกจากความน่ารังเกียจในสายตาของเธอไม่ว่าพวกเขาจะดีแค่ไหนก็ตามผู้ชายอย่างเจสันเป็นผู้สมัครที่ดีที่สุดในการเป็นลูกเขย เพราะเขาเต็มใจที่จะจ่ายเงินให้กับว่าที่แม่ยายของเขา!เขาเป็นคนใจกว้างมาก และให้รถเมอร์เซเดสเบนซ์เป็นของขวัญก่อนที่เขาจะอยู่ด้วยกันกับลูกสาวของเธอเสียอีก แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้าแคลร์แต่งงานกับเขา? เขาจะมอบวิลล่าหลังใหญ่ หรือเรือยอชต์สุดหรูให้เธอเลยหรือเปล่า?เธอดีใจมากและภาพจินตนาการของเธอก็โลดแล่น!อย่างไรก็ตาม เธอยังคงต้องทำตัวให้สุภาพไว้ก่อน เธอจับแขนของเจสันอย่างจริงจังว่า “เจสัน น้าประทับใจในความใจดีของเธอมาก แต่รถราคาแพงมาก มันจะดีเหรอ ถ้าน้าจะรับมันไว้แบบนี้?”“ทำไมจะไม่ดีล่ะครับ?” เจสันตอบ “คุณน้า มันเป็นสัญลักษณ์แห่งการขอบคุณของผม รับมันไปเถอะครับ!”เอเลนยิ้มอย่างมีความสุขสุด ๆ เมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของเขา เธอใส่กุญแจลงในกระเป๋าถือของเธอ และพูดอย่างมีความสุขว่า “ถ้าอย่างนั้น น้าจะรับม