เคนเน็ธตัวสั่นด้วยความตกใจจากคำพูดดุดันจากแม่ของเขาเพียงเพราะเขาได้ไปมีเรื่องกับชาร์ลี ไม่เพียงแต่แอนโธนีไม่ต้องการช่วยเขาคนเดียวเท่านั้น แต่เขาต้องการตัดสัมพันธ์กับทั้งครอบครัวของเขาอีกด้วย?ชาร์ลีเลี้ยงเขาด้วยยาชนิดไหนกัน จนทำให้แอนโธนีต้องมนต์สะกดได้ขนาดนี้?!เคนเน็ธรู้สึกร้อนรน และกราดเกรี้ยว เขาระงับอารมณ์ และพูดว่า “แม่ครับ ไอ้แก่นั่นไว้ใจไม่ได้! เขาเป็นแค่ไอ้เฒ่าประสาทเท่านั้น!”บาร์บาร่าตะโกนอย่างโกรธ ๆ ว่า “ฉันไม่สนใจว่าแกไปทำอะไร แต่แกต้องพาแอนโธนีมาที่อีสต์ คลิฟฟ์ในวันเกิดครบรอบ 84 ปีของฉันเพื่อตรวจร่างกาย และรักษาอาการป่วยของฉันด้วย ถ้าแกไม่ทำ ก็รอดู!”ผู้คนเห็นแก่ตัวมากขึ้นเมื่ออายุมากขึ้นยิ่งพวกเขาอายุมากขึ้นเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งกลัวความตายมากขึ้น และปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ บาร์บาร่าไม่ได้อยากรู้เรื่องความบาดหมางระหว่างเคนเน็ธกับแอนโธนี สิ่งที่เธอหวังไว้คือ ให้แอนโธนีกลับมาอยู่ในฐานะแพทย์ประจำตัวของเธออีกครั้งหากเธอมีแอนโธนีอยู่ในชีวิต เธออาจมีชีวิตอยู่ได้จนถึงอายุเก้าสิบปีอย่างแน่นอน แต่ถ้าไม่มีเขาเธออาจจะผ่านอุปสรรคในปีนี้ไปไม่ได้ด้วย
เจสันเปิดฝาถังและพูดขึ้นว่า “พ่อครับ ผมคิดว่าควรเทน้ำมันเบนซินผ่านบานเกล็ดเพื่อให้น้ำมันเบนซินกระจายเข้าไปด้านในจนสุด จากนั้นเมื่อเราจุดไฟจากภายนอกไฟก็จะลุกลามไปรอบ ๆ อย่างรวดเร็วแม้แต่แมลงสาบก็ไม่รอด!”จัสตินพยักหน้าและพูดขึ้นว่า “ดี! มาเผาพวกมันให้เป็นเถ้าถ่านไปเลย ไอ้พวกสารเลวพวกนี้!”แม้ว่าจัสตินจะไม่ได้เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกที่ประสบความสำเร็จในโอลรัสฮิลล์ แต่เขาก็เป็นเบอร์หนึ่งของเมืองเมื่อพูดถึงการสปอยล์ให้ท้ายลูกชายของเขาตระกูลของพวกเขาเคยมีทายาทชายเพียงคนเดียวมาหลายชั่วอายุคน หลังจากให้กำเนิดลูกสาวมาหลายคน แต่ในที่สุดจัสตินก็ได้ลูกชายมาหนึ่งคนนั้นก็คือเจสัน ดังนั้นเขาจึงได้รับการปรนเปรอ และให้ท้ายในทุกวิถีทางตั้งแต่ยังเล็กเมื่อเจสันอยู่ในโรงเรียนประถม ครูของเขาเคยลงโทษเขาด้วยการตีมือครั้งหนึ่งเพราะเขาเป็นตัวก่อกวนในชั้นเรียน ทำให้ขัดต่อกฎของห้องเรียน จากนั้นจัสตินได้พาคนของเขาไปโรงเรียน และทำให้แขนขวาของครูหัก และนั่นทำให้เขาพิการตลอดชีวิตเมื่อเจสันอยู่ในโรงเรียนมัธยมต้น เขาเคยต่อสู้กับเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่โรงเรียน และพ่ายแพ้ จากนั้นจัสตินได้จ้างคนให้สร้างอุบัติเหตุทางรถย
ทั้งจัสตินและเจสันไม่รู้ว่าแอนโธนีมียาวิเศษเหลือเพียงครึ่งเม็ด แต่เคนเน็ธรู้เขารู้เพราะเขาเกือบจะได้มันจากแอนโธนีเมื่อตอนบ่ายเขาไม่กล้าที่จะไปมีเรื่องกับแอนโธนีด้วยตัวเอง แต่ถ้าเขาส่งต่อหน้าที่ให้กับคู่พ่อลูกที่โง่เขลาแล้วนั้น เขาก็สามารถนั่งเอนหลัง และเพลิดเพลินไปกับผลงานของพวกเขาได้ด้วยกลเม็ดง่าย ๆ เพียงไม่กี่อย่างตัวอย่างเช่น ตอนแรกเขาสามารถสร้างยาปลอมขึ้นมาสองสามเม็ด โดยอิงจากของจริงที่เขาเห็นในวันนี้ จากนั้นหลังจากที่พวกเขาลักพาตัวแอนโธนีแล้ว เขาก็ไปค้นหายาของจริงจากแอนโธนีและสลับกับยาปลอม จนถึงตอนนั้นไม่เพียงแต่เขาสามารถรักษาความผิดปกติของเขาได้เท่านั้น แต่เขายังสามารถกล่าวโทษการตายของแอนโธนีว่าเกิดจากน้ำมือของสองพ่อลูกได้เช่นกัน!ในทางกลับกันจัสตินไม่ได้คิดเยอะขนาดนั้นเพราะในความคิดของเขา ศัตรูของศัตรูคือมิตรของเขา เนื่องจากพวกเขามีศัตรูคนเดียวกัน พวกเขาจึงสามารถเป็นเพื่อนร่วมทีมได้ นอกจากนี้พวกเขาสามารถแบ่งความเสี่ยงเท่า ๆ กัน แล้วทำไมจะไม่ร่วมมือกันล่ะ?สำหรับยาวิเศษนี้ เขาไม่รู้ว่าแอนโธนีมีมากแค่ไหน แต่สำหรับเขาแล้วแอนโธนีต้องตาย เพราะเขาและลูกชายโกรธเขามากในตอนนี้
ตรงกันข้ามเอเลนกลับมาโทษตัวเองในสิ่งที่เกิดขึ้นกับเจสัน เธอรู้สึกว่า เขาไม่ควรได้รับการกระทำที่รุนแรงขนาดนี้ เนื่องจากเขามีความตั้งใจที่ดีตั้งแต่แรกดังนั้นเมื่อเธอรับสายของเจสัน เธอจึงดีใจเป็นอย่างมาก แต่ก็รู้สึกผิดเล็กน้อยเสียงที่จริงจังของเจสันดังขึ้นในโทรศัพท์ “คุณน้าครับ ผมต้องขอโทษด้วยสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลเมื่อวันก่อน ผมโดนหลอกแถมยังพาหมอปลอมมารักษาคุณอาอีก ผมเสียใจมากและผมยังไม่มีโอกาสได้ขอโทษคุณน้าเลย…”“โอ้!” เอเลนกล่าว “นี่ เจสันเธอกำลังพูดถึงอะไรกัน! น้าต่างหากล่ะ ที่ต้องรู้สึกขอบคุณมากสำหรับความหวังดีของเธอ และน้าขอโทษสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอด้วย น้าควรจะเป็นคนขอโทษเธอมากกว่านะ!”“ไม่ครับคุณป้า มันเป็นความผิดของผมที่ไม่ตรวจสอบข้อมูลของดร.ลินช์มาให้ดีก่อน”จากนั้นเขากล่าวเสริมว่า “ถ้าวันไหนคุณน้าว่าง ผมอยากจะเชิญคุณน้ามาทานข้าวด้วยกัน ผมจะได้ขอโทษคุณน้าเป็นการส่วนตัวด้วย ถ้าคุณน้าไม่ว่าอะไร”เอเลนตื่นเต้นและดีใจมากที่ได้รับคำเชิญ!พูดตรง ๆ ว่าเธอไม่ได้รู้สึกว่า เจสันผิดเลยในเรื่องนี้ในทางตรงกันข้าม เธอรู้สึกว่า จริง ๆ แล้วเจสันเป็นหนึ่งในเหยื่อของเหต
เอเลนใช้เวลาที่เหลือของการฝันกลางวันในตอนเช้าซ้ำ ๆ เกี่ยวกับของขวัญมูลค่าสิบล้านที่เจสันเตรียมไว้ให้เธอ มันคืออะไร? เธอไม่มีอารมณ์ที่จะเล่นไพ่อีกต่อไปแล้ว เธอจึงรีบไปที่ดีไวด์เล้าจ์เพื่อพบกับเจสันเมื่อถึงเวลาของขวัญจะเป็นอะไรกันนะ? เครื่องประดับ? เพชร? เงินสด? เช็คเงินสด? หรืออย่างอื่น?สำหรับคนอย่างเอเลนแล้วนั้น ของขวัญที่มีมูลค่าขนาดนี้จากเจสันเป็นสิ่งที่น่าดึงดูดใจสุด ๆเมื่อวันก่อน ตอนที่เธอใช้เช็คของแคลร์เพื่อจ่ายค่าโรงพยาบาล และได้ประโยชน์จากเงินจำนวนหนึ่งล้านหกแสนบาท เธอมีความสุขมากจนเธอยิ้มไม่หุบให้กับความฉลาดของเธอมาหลายวันแล้วดังนั้นความคิดที่จะได้รับของขวัญมูลค่าสิบล้านบาทจากเจสัน ทำให้เธอเหมือนขึ้นไปที่สวรรค์ชั้นเจ็ดทันที!เมื่อเวลา 11.30 น. เอเลนอำลาเพื่อนของเธอ จากนั้นก็ขึ้นรถแท็กซี่ตรงไปที่ดีไวด์เล้าจ์เมื่อเธอมาถึงร้านอาหาร เธอก็ยืนอยู่ตรงประตูทางเข้าตามที่ตกลงกันไว้ และรอให้เจสันมาถึงในไม่ช้า รถเมอร์เซเดสเบนซ์สีดำคันใหม่ก็ค่อย ๆ มาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอจากนั้นประตูรถก็เปิดออก ชายหนุ่มในชุดสูท และรองเท้าหนังก็ก้าวออกจากรถนั่นคือเจสันเขาหล่อและดูมีสไตล์มาก ข้
ไม่มีอะไรอยู่ในใจของเธอนอกจากเงิน!สำหรับเธอแล้วนั้น องค์ประกอบที่สำคัญที่สุดที่เธอมองหาจากลูกเขยก็คือ พวกเขาต้องร่ำรวย และเต็มใจที่จะให้เงินกับเธอ ไม่อย่างนั้นพวกเขาก็ไม่มีอะไรนอกจากความน่ารังเกียจในสายตาของเธอไม่ว่าพวกเขาจะดีแค่ไหนก็ตามผู้ชายอย่างเจสันเป็นผู้สมัครที่ดีที่สุดในการเป็นลูกเขย เพราะเขาเต็มใจที่จะจ่ายเงินให้กับว่าที่แม่ยายของเขา!เขาเป็นคนใจกว้างมาก และให้รถเมอร์เซเดสเบนซ์เป็นของขวัญก่อนที่เขาจะอยู่ด้วยกันกับลูกสาวของเธอเสียอีก แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้าแคลร์แต่งงานกับเขา? เขาจะมอบวิลล่าหลังใหญ่ หรือเรือยอชต์สุดหรูให้เธอเลยหรือเปล่า?เธอดีใจมากและภาพจินตนาการของเธอก็โลดแล่น!อย่างไรก็ตาม เธอยังคงต้องทำตัวให้สุภาพไว้ก่อน เธอจับแขนของเจสันอย่างจริงจังว่า “เจสัน น้าประทับใจในความใจดีของเธอมาก แต่รถราคาแพงมาก มันจะดีเหรอ ถ้าน้าจะรับมันไว้แบบนี้?”“ทำไมจะไม่ดีล่ะครับ?” เจสันตอบ “คุณน้า มันเป็นสัญลักษณ์แห่งการขอบคุณของผม รับมันไปเถอะครับ!”เอเลนยิ้มอย่างมีความสุขสุด ๆ เมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของเขา เธอใส่กุญแจลงในกระเป๋าถือของเธอ และพูดอย่างมีความสุขว่า “ถ้าอย่างนั้น น้าจะรับม
ในตอนนี้แคลร์ ชาร์ลี และจาค็อบเพิ่งทานอาหารกลางวันที่บ้านเสร็จขณะที่ชาร์ลีกำลังไปที่ห้องครัวเพื่อล้างจานตามปกติ จู่ ๆ เขาก็ได้รับโทรศัพท์จากไซล่าทันทีที่เขารับสาย ไซล่าพูดขึ้นด้วยความรู้สึกผิดขณะว่า "คุณเวดคะ ไม่ทราบว่าตอนนี้คุณกำลังทำอะไรอยู่คะ?”“ผมอยู่บ้านครับ ไม่ได้ทำอะไร” ชาร์ลีตอบด้วยท่าทางสบาย ๆ หลังจากนั้นเขาก็ถามขึ้นว่า “เป็นอะไรไป? มีอะไรอยากบอกผมหรือเปล่า?”ในตอนนี้ไซล่าตอบกลับอย่างรวดเร็วว่า “สาเหตุที่ฉันโทรหาคุณในวันนี้ ก็เพราะว่าฉันต้องการรายงานบางอย่างให้คุณทราบค่ะ”"ว่ามาสิ"ไซล่ารีบอธิบายต่อว่า “นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อวานเจสัน แกรนท์และเคนเน็ธ วิลสันมาที่คลินิกของคุณปู่ และขอร้องให้รักษาพวกเขา! คุณปู่ของฉันไม่รู้ว่า เคนเน็ธได้ไปทำให้คุณขุ่นเคือง เขาเกือบจะให้ยาวิเศษอีกครึ่งหนึ่งกับเคนเน็ธที่คุณเคยให้คุณปู่ไปก่อนหน้านี้!”ชาร์ลีถามด้วยความอยากรู้ว่า “ทำไมล่ะ? ครอบครัวของคุณมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเคนเน็ธเหรอ? ทำไมคุณปู่ของคุณถึงเต็มใจที่จะให้ยาล้ำค่ากับเขา?”ชาร์ลีรู้ดีว่าแอนโธนีมองว่ายาวิเศษที่เขามอบให้เป็นสมบัติหายาก เขารู้ว่ายานี้มีความสำคัญต่อแอนโธนีมากเ
ชาร์ลีตอบเพียงว่า “ใช่ครับ เดี่ยวผมจะเข้าไปในช่วงบ่าย”“เยี่ยมไปเลยค่ะคุณเวด!” ไซล่าตะโกนอย่างตื่นเต้นก่อนที่เธอจะพูดว่า “งั้นฉันขอไปบอกข่าวดีกับคุณปู่ก่อนนะคะ เขาต้องตื่นเต้นมากแน่ ๆ !”หลังจากที่เขาทำความสะอาดในครัวเสร็จแล้ว ชาร์ลีก็ออกมาจากครัว และเขาก็เห็นว่าแคลร์พร้อมที่จะออกจากบ้านแล้วเช่นกัน หลังจากนั้นเขาก็ถามว่า “ที่รัก คุณกำลังไปที่สตูดิโอใช่ไหม?”แคลร์ส่ายหัวก่อนจะพูดว่า “ไม่ใช่ค่ะ พอดีว่าแม่โทรหาฉัน แม่บอกฉันว่า เขามีเพื่อนที่สนใจจะปรับปรุงวิลล่า ฉันเลยจะไปที่นั่นเพื่อดูสถานที่หน่อยน่ะค่ะ"ชาร์ลีตอบอย่างรีบร้อน “คุณจะไปแถวไหนเหรอครับ?”แคลร์ตอบทันทีว่า “วิลล่าริมแม่น้ำค่ะ”ชาร์ลียิ้มก่อนตอบว่า “เยี่ยมเลย! คุณช่วยส่งผมที่คลินิกซีรีนเวิลด์ระหว่างทางไปวิลล่าได้ไหมครับ? พอดีผมอยากไปเยี่ยมดร.ซิมมอนส์น่ะ”แคลร์ประหลาดใจมาก และเธอถามว่า “คุณจะไปพบดร.ซิมมอนส์เหรอคะ? ทำไมไม่ให้ฉันไปกับคุณด้วยเลยล่ะ? ซื้อของไปเยี่ยมเขากันเถอะค่ะ! ฉันอยากจะขอบคุณที่ช่วยรักษาพ่อของฉันเหมือนกัน!”แคลร์รู้สึกขอบคุณแอนโธนีมาก เพราะเธอรู้สึกมาตลอดว่าเขาคือคนที่รักษาพ่อของเธอจากอาการอัมพาตของเขาชา
“โอเค” ชาร์ลีพยักหน้าก่อนจะพูดว่า “เอาล่ะ ถึงเวลาที่นายต้องออกเดินทางแล้ว”ในเวลานี้จาเวียร์ก็วิ่งเข้าไปหาพวกเขาพร้อมกับแบตเตอรี่สำรองในมือ หลังจากนั้นเขาก็ยื่นแบตเตอรี่สำรองกับสายชาร์จให้กับดีแลนในขณะที่พูดว่า “ดีแลน นี่แบตเตอรี่สำรอง!”ดีแลนหยิบแบตเตอรี่สำรองใส่ไว้ในเป้ หลังจากปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้ว เขาก็พูดกับทุกคนว่า “คุณยาย คุณตา พ่อ แม่ ลุง อา ผมจะไปแล้วนะคับ…”ทุกคนโบกมือให้เขา “ไปเถอะ อย่าลืมใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนนะ!”ดีแลนมองไปที่ชาร์ลีอีกครั้งก่อนจะโค้งคำนับแล้วพูดว่า “ผมจะไปแล้วนะครับคุณเวด…”ชาร์ลีส่งเสียงพึมพำในขณะที่พูดว่า “รีบไปเถอะ ไม่งั้นนายจะถูกทำโทษที่ไปถึงช้านะ”ดีแลนรีบพยักหน้าในขณะที่พูดว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงครับ! ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ!”ชาร์ลีโบกมือแล้วพูดว่า “อืม ไปได้แล้ว!”ดีแลนพยักหน้าก่อนจะหันกลับไปมองเหล่าญาติ ๆ อย่างไม่เต็มใจ จากนั้นเขาก็เริ่มปั่นจักรยาน Phoenix 28 คันใหญ่อย่างหนักหน่วง หลังจากถีบจักรยานไปได้สองสามครั้ง ในที่สุดดีแลนก็ถีบจักรยานจากไปในลักษณะโคลงเคลงซิลเวียเริ่มร้องไห้อย่างขมขื่น ลีโอนาร์ดจึงรีบคว้าเธอมาปลอบโยนอยู่ในอ้อ
เมื่องานเลี้ยงวันเกิดสิ้นสุดลง และแขกคนอื่น ๆ ได้กลับไปแล้ว ดีแลนก็เข็นรถจักรยาน Phoenix 28 คันใหม่ออกมาในเวลานี้จู่ ๆ ดีแลนก็นึกถึงเพลงฮิตที่เขาเคยเห็นในคลิปวิดีโอสั้น ๆ…เพลงนี้ก็คือเพลง ‘ขี่มอเตอร์ไซต์แสนรักของฉัน’...ในขณะที่เขานึกถึงเพลงนี้ เขาก็มองไปที่จักรยาน Phoenix 28 ในสภาพเก่าที่ดูน่าเกลียดนั้น แล้วอดที่จะถอนหายใจไม่ได้ในขณะที่คิดกับตัวเองว่า ‘ถ้าฉันขี่มอเตอร์ไซค์ไปโอลรัสฮิลล์ได้ก็คงจะดีไม่น้อย เพราะจะทำให้ฉันสามารถเดินทางได้ประมาณสามถึงสี่ร้อยกิโลเมตรต่อวัน ซึ่งจะช่วยให้ฉันเดินทางไปถึงโอลรัสฮิลล์ได้เร็วที่สุด จะได้ไม่ต้องทนทุกข์กับความคับข้องใจและความอยุติธรรมมากมายในระหว่างทาง…’แต่ช่างน่าสงสารเหลือเกินที่เขารู้ว่าชาร์จะไม่มีทางเปิดโอกาสให้เขาได้ต่อรองอะไรเลย เขาจึงทำได้แค่เข็นจักรยานออกมาเพื่อเตรียมตัวออกเดินทางเจริล… ลุงของเขาถือหมวกกันน็อกสีเขียวอยู่ในมือ ในขณะที่พยายามจะสวมให้กับดีแลน ดีแลนหลบเลี่ยงหมวกใบนั้นในขณะที่ถามอย่างอึดอัดใจว่า “ทำไมถึงซื้อหมวกกันน็อกสีเขียวมาให้ผมล่ะลุง? หมวกสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของผู้ชายที่โดนสวมเขานะ…”“อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลยน่า” เจร
"หา? เร็วไปไหม? คุณจะไม่อยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่ออีกสักสองสามวันเหรอ?”“ผมทำธุระของผมเสร็จหมดแล้วน่ะ ไม่มีธุระอะไรให้ผมต้องอยู่ที่นี่อีก ผมจะออกเดินทางพรุ่งนี้เลย”เมื่อลอรีนได้ยินดังนี้ เธอก็พูดขึ้นอย่างไม่ลังเลเลยว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะออกจากอีสต์คลิฟฟ์พรุ่งนี้ด้วย เราเดินทางกลับโอลรัสฮิลล์พร้อมกันดีไหมคะ? เราจะได้นั่งเครื่องบินลำเดียวกันชาร์ลีอยากจะปฏิเสธเธอ แต่เมื่อเขาเห็นสีหน้าที่แสดงความวิงวอนของเธอแล้ว เขาก็ปฏิเสธเธอไม่ลงเพราะไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม… นับเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนเป็นเพื่อนกัน ที่ต้องนั่งเครื่องบินลำเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถหลบเลี่ยงการนั่งเครื่องบินเที่ยวบินเดียวกับเธอได้ชาร์ลีจึงพูดว่า “ได้สิ เรากลับด้วยกันก็ได้”ลอรีนรีบพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวคุณให้รายละเอียดบัตรประจำตัวกับฉันมานะ ฉันจะได้ซื้อตั๋วเครื่องบินของเราพร้อมกัน!”“โอเค”***ในขณะที่งานเลี้ยงวันเกิดยังคงดำเนินอยู่นั้น ลุงและอารองของดีแลนก็ได้ตระเตรียมการเดินทางด้วยการปั่นจักรยานไปยังโอลรัสฮิลล์ให้ดีแลนเรียบร้อยแล้วพวกเขาได้ให้คนไปซื้อจักรยาน Phoenix 28 รุ่นเก่ามา แล้วติดตั้งชั้นวางสัมภา
หลังจากนั้นงานเลี้ยงวันเกิดก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการมีการจัดที่นั่งให้กับชาร์ลีเป็นพิเศษในฐานะที่เขาเป็นแขกผู้มีเกียรติสูงสุด โดยเขาได้นั่งอยู่ข้างนายท่านโธมัสกับลอรีนและริกลีย์หลังจากนั้นสมาชิกของตระกูลโธมัสก็ผลัดกันดื่มอวยพรให้เขา โดยทั้งการแสดงออกทางสีหน้า น้ำเสียง และการกระทำล้วนเต็มไปด้วยการสรรเสริญเยินยอ ชาร์ลีไม่มีอะไรจะพูดมากนัก เมื่อมีคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็แค่ดื่มอวยพรกลับไป ซึ่งถึงแม้ดีแลนจะเป็นคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็ดื่มอวยพรกลับไปอย่างง่ายดายในเวลานี้ริกลีย์ก็ยังมาดื่มอวยพรให้กับชาร์ลีอย่างระมัดระวังด้วย โดยเขาได้เยินยอแล้วพูดว่า “คุณเวดครับ ผมมีเรื่องจะถามคุณหน่อยครับ…”ชาร์ลีรู้อยู่แล้วว่าเขาจะถามอะไรก่อนที่เขาจะเริ่มพูดออกมาด้วยซ้ำไป เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการให้ชาร์ลีช่วยฟื้นคืนสมรรถภาพ เพื่อให้เขากลับมาแข็งแกร่งได้อีกครั้งแต่เมื่อพิจารณาถึงเรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่ครอบครัวของพวกเขาได้ทำกับครอบครัวของยูลแล้ว ชาร์ลีก็ยังแน่ใจว่าเขาจะไม่ยอมฟื้นคืนสมรรถภาพให้พวกเขาในตอนนี้ผู้ที่เป็นผู้ใหญ่แล้วจะต้องชดใช้และรับผิดชอบต่อการกระทำของพวกเขา ไม่อย่างนั้นแล้วพวกเขาจะได้บทเ
ชาร์ลีหยิบภาพวาดที่ยูลมอบให้เขาจากมือของดีแลน ก่อนจะยื่นให้กับยายของลอรีนด้วยตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็พูดว่า “คุณยายโธมัสครับ นี่เป็นของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผมครับ ผมหวังว่าคุณยายจะรับมันไว้ และผมอยากจะขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นไปเมื่อกี้นี้ ด้วยวันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณยาย ผมหวังว่าคุณยายคงจะให้อภัยผมนะครับ”คุณท่านโธมัสรู้สึกปลื้มใจแล้วรีบพูดขึ้นว่า “คุณเวด ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ จริง ๆ แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้เป็นเพราะหลานชายของฉันทำอะไรผิดไป ฉันมาคิดดูแล้ว… ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะเราละเลยในการอบรมสั่งสอนหลานของเรา จึงทำให้คุณเวดต้องเดือดร้อน”ในขณะที่เธอพูดอยู่นั้น เธอก็มองดูภาพวาดก่อนจะพูดว่า “คุณเวดคะ ภาพวาดนี้มีมูลค่ามากเหลือเกิน ฉันคงรับของขวัญชิ้นนี้ไว้ไม่ได้หรอกค่ะ!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “คุณยายโธมัสครับ ของขวัญชิ้นนี้เป็นเพียงของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผม มูลค่าของของขวัญชิ้นนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลย คุณยายไม่ต้องเกรงใจผมหรอกครับ พูดตามตรงนะครับ ผมไม่ได้ใช้จ่ายเงินกับของขวัญชิ้นนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะคุณโกลดิ้งจากโกลดิ้งกรุ๊ปมอบภาพวาดนี้ให้ผม แล้วผมก็นำมา
เมื่อได้ยินว่าเขาจะต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง ดีแลนก็ส่ายหัวอย่างบ้าคลั่งทันที!เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว เขาคงต้องทนทุกข์ทรมานและรู้สึกคับข้องใจเพียงเล็กน้อย ถ้าเขาต้องอาศัยอยู่ในชุมชนแออัด โดยมีค่าครองชีพเดือนละหนึ่งหมื่นบาท แต่ถ้าเขาต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง เขาก็คงต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมาก และต้องเจอะเจอความยากลำบากมากมายในไซต์ก่อสร้างแห่งนั้นเขาจึงพยักหน้าแบบไม่คิดอะไรทันที “คุณเวดครับ ผมยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดของคุณแล้ว ผมจะไม่ต่อรองอะไรกับคุณแล้วครับ! ขอแค่อย่าส่งผมไปไซต์ก่อสร้างนั้นเลยนะครับ…”ชาร์ลีรู้สึกพอใจมากแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “อย่าลืมปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีหลังจากนายไปถึงที่โอลรัสฮิลล์แล้ว อย่าสร้างปัญหาอะไรเพิ่มขึ้นมาอีกล่ะ ถ้านายยังคงอยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่อไป ทายาทที่ชอบเยาะเย้ยถากถางคนอื่นอย่างนาย ก็อาจก่อให้เกิดหายนะที่ร้ายแรงกว่านี้ได้ในสักวันหนึ่ง นายอาจเข้าไปพัวพันและทำให้ให้ตระกูลโธมัสและตระกูลโคชต้องเดือดร้อนได้!”ในเวลานี้สองพี่น้องอย่างเจริลและจาเวีย์ก็อดที่จะตัวสั่นขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้ดูเหมือนคำพูดของชาร์ลีจะทำให้คนทั้งคู่
สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดก็คือ การปั่นจักรยานอย่างยากลำบากจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ยังพอรับได้ การที่ต้องปั่นจักรยานเป็นเวลาครึ่งเดือน ก็ยังดีเสียกว่าการนอนบนเตียงอยู่ครึ่งเดือนหลังผ่าตัดนอกจากนี้เขายังรู้สึกคับข้องใจอย่างมากในระหว่างการผ่าตัดครั้งล่าสุด ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ยังไม่หายดีเลย ถ้าเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดแบบเดิมอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ เขาก็จะต้องได้รับความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าอย่างแน่นอนในเวลานี้ชาร์ลีพูดขึ้นมาว่า “ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์ก็เพื่อให้นายได้ไปปรับปรุงตัวและกลับเนื้อกลับตัวใหม่ นายคิดว่า การที่ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์เพื่อให้ไปสนุกสนานกับชีวิตที่นั่นเหรอ? จะบอกอะไรให้นะ นายจะต้องปั่นจักรยานธรรมดา ๆ อย่าง Phoenix 28 เท่านั้น ใช้อย่างอื่นไม่ได้เลย! ไม่งั้นฉันจะให้นายปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์พร้อมกับเกวียนที่บรรทุกก้อนอิฐไปจนเต็มคัน!”“แล้วหลังจากนายไปถึงโอลรัสฮิลล์ นอกจากนายจะต้องคอยขับรถรับส่งให้กับลอรีนแล้ว นายต้องเช่าห้องเดี่ยวในชุมชนแออัดคลิฟฟ์คูลส์ด้วย ค่าใช้จ่ายรายเดือนรวมถึงค่าเช่าบ้านของนายจะต้องไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท!”
เมื่อเขาได้ยินว่า จะต้องขี่จักรยานจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์ตลอดทาง และต้องอยู่ในโอลรัสฮิลล์ในฐานะคนขับรถเป็นเวลาหนึ่งปี ดีแลนก็รู้เหมือนกำลังจะตายไปแล้วจริง ๆ ประเด็นก็คือระยะทางจากอีสต์คลิฟฟ์ไปโอลรัสฮิลล์นั้น มีระยะทางมากกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะไม่ตายเพราะหมดแรงถ้าต้องปั่นจักรยานไปตลอดทางจริง ๆ เหรอ?แล้วตอนนี้ก็อยู่ในเดือนธันวาคมซึ่งเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว เขาจะต้องขี่จักรยานตลอดทางไปจนถึงภาคใต้ แล้วไม่ได้รับอนุญาตให้พักในโรงแรมเลยด้วย ข้อกำหนดเหล่านี้รุนแรงเกินไปไม่ใช่เหรอ?ดีแลนรู้สึกเสียใจมากและน้ำตาก็เริ่มไหลอาบใบหน้านี่มันเรื่องบ้าบออะไรกันเนี่ย… เขาเป็นนายน้อยคนที่สามของตระกูลโคช แต่จะต้องขี่จักรยานไปจนถึงโอลรัสฮิลล์? เขาจะไม่ล้มตายไปในระหว่างทางหรอกเหรอ?คงจะน่าทึ่งมากถ้าเขาสามารถปั่นจักรยานได้วันละห้าสิบ หรือหกสิบกิโลเมตรระยะทางกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะต้องปั่นจักรยานไปประมาณยี่สิบวัน!แต่นี่มันเดือนธันวาคมแล้วนะ!เขาสะอึกสะอื้นพร้อมกับพูดว่า “คุณเวดครับ ถ้าผมเริ่มปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์ กว่าจะถึงที่นั่นก็คงเป็นเดือนมกราคมแล้ว น้องสาวผมจะต้องกลับมาฉลองปีใหม่ที่
ลอรีนดีใจมากแล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ขอบคุณมากนะคะชาร์ลี!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “รอเดี๋ยวนะ ผมจะไม่บังคับให้เขากลืนจี้หยกเข้าไป แต่ยังต้องลงโทษเขาด้วยวิธีอื่น ไม่งั้นเขาคงไม่จดจำไว้เป็นบทเรียน”ลอรีนรีบถามว่า “คุณจะลงโทษเขาด้วยวิธีไหนคะ ชาร์ลี? คงไม่ร้ายแรงไปกว่าการกลืนจี้หยกเข้าไปแล้วใช่ไหมคะ?”“ไม่หรอกครับ ชาร์ลียิ้มเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า “คุณมั่นใจได้เลยว่า การลงโทษครั้งนี้จะส่งผลดีกับตัวเขาอย่างแน่นอน”ในที่สุดลอรีนก็รู้สึกสบายใจในขณะที่พูดอย่างเสน่หาว่า “ขอบคุณนะคะชาร์ลี ขอบคุณที่ให้อภัยพี่ชายของฉัน และปล่อยเขาไปเพราะเห็นแก่ฉัน ถ้าอย่างนั้น คุณให้โอกาสฉันได้ตอบแทนคุณดีไหมคะ…”ชาร์ลีถามด้วยความประหลาดใจ “คุณจะตอบแทนผมยังไงเหรอ?”ลอรีนกะพริบตาในขณะที่ยิ้มและพูดอย่างตั้งใจว่า “ฉันสัญญาว่าจะแต่งงานกับคุณ และให้กำเนิดลูกชายตัวอ้วน ๆ เพื่อคุณ! คุณคิดว่ายังไงคะ?”ชาร์ลีตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “อย่าพูดอะไรแบบนี้อีก ผมเป็นสามีของเพื่อนสนิทของคุณนะ!”ลอรีนพยักหน้าก่อนจะพูดอย่างจริงจังว่า “ฉันรู้ค่ะ แต่คุณทั้งคู่แต่งงานกันแบบปลอม ๆ นี่! ก็ยังไม่ถือว่าเป็นการแต่งงานกันอย่างแท้จริง! จริง ๆ แล