ในบรรดาทั้งสองคนที่กำลังเดินมาทางพวกเขา คนที่ยืนอยู่ข้างหน้าสวมชุดสีขาวเขาสวมผ้าไหมสีขาวและเสื้อผ้าของเขาก็พลิ้วไหวในอากาศ สิ่งที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่าคือ ความจริงที่ว่าในตอนนี้ไม่มีแม้แต่ฝนสักหยดบนตัวเขาเลยชายอีกคนสวมชุดสีดำ และเขามีร่างกายที่ดูบึกบึนและแข็งแรงมากยิ่งไปกว่านั้น เขาเห็นได้ว่าชายทั้งสองคนได้สร้างเกราะหุ้มล้อมร่างกายของพวกเขาไว้ ราวกับว่าน้ำฝนไม่สามารถโดนตัวพวกเขาได้เลยชาร์ลีมองไปที่ชายทั้งสองและเขาก็ตระหนักได้ว่าทั้งสองคนนั้นมีทักษะในการต่อสู้ที่ดีมากในขณะเดียวกันนี้ แซคารีซึ่งนั่งอยู่ในรถมองออกไปนอกหน้าต่างรถและใบหน้าของเขาก็ซีดทันทีราวกับเห็นผี! ตอนนี้เขาจึงรีบเปิดประตูรถก่อนที่จะพยายามวิ่งหนีชาร์ลีลืมตาอย่างรวดเร็วและรีบคว้าคอเสื้อของแซคารีก่อนที่เขาจะพูดขึ้นว่า “นายจะวิ่งหนีทำไม?”“คู่หูพี่น้องจอมโหด… พวกเขาคือคู่หูพี่น้องจอมโหด!” แซคารีตะโกนด้วยความตื่นตระหนกขณะพยายามดิ้นรนให้หลุดจากมือของชาร์ลี "คุณเวด ปล่อยผมไปเถอะครับ ผมไม่อยากโดนพวกเขาฆ่าตาย…”ชายร่างกำยำในชุดดำส่งเสียงผ่านจมูกและพูดว่า “ดูเหมือนว่าแกจะฉลาดนะที่แกรู้ว่าเราเป็นใคร แต่ถึงยังไง ก็ไม่ม
แคลร์นั้นไม่เต็มใจจริง ๆ เธอไม่อยากทิ้งชาร์ลีไว้ “ไม่ค่ะ ฉันไม่อยากทำแบบนั้น! ฉันจะอยู่กับคุณ!"ในเวลานี้ ชาร์ลีตอบอย่างเย็นชาว่า “ไปเถอะนะ! ถ้าคุณยังอยู่ตรงนี้กับผม คุณจะทำให้ผมเสียสมาธิและมันจะไม่ดีแน่ถ้าพวกเราทุกคนโดนทำร้าย!”แคลร์พยักหน้าก่อนที่เธอจะพาลอรีนไปที่รถของพวกเขาลอรีนเดินเซไปในตอนที่แคลร์ดึงเธอออกไป และในตอนนี้ได้มีหินสีขาวหล่นออกจากมากระเป๋าขอลอรีนและตกลงไปที่พื้นชาร์ลีหัวเราะเยาะขณะจ้องไปที่คู่หูพี่น้องจอมโหด “พวกแกไม่ได้เป็นอะไรนอกจากมดสองตัวสำหรับฉัน พวกแกบอกว่าจะกำจัดฉันงั้นเหรอ? ฉันเดาว่าพวกแกคงอยากตายสินะ!”ชายร่างล่ำยิ้มเยาะก่อนจะพูดว่า “ทำไมเราไม่เห็นใครที่เป็นหมดเลยล่ะ?”หลังจากนั้นชายร่างล่ำก็พุ่งเข้าไปหาชาร์ลีขณะที่เขาพยายามจะชกเข้าที่ใบหน้า กำปั้นของเขาแข็งแกร่งมากและดูเหมือนว่าเขาจะชกเข้าที่ใบหน้าของชาร์ลีตรง ๆแต่ชาร์ลีเห็นหมัดเข้ามาที่เขาและเขาก็พูดเบา ๆ ว่า “ฉันเดาได้ว่าพวกแกคงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วจริง ๆ นั่นแหละ”หลังจากนั้น ชาร์ลีก็ยกขาขึ้นก่อนจะเตะชายคนนั้นอย่างแรงที่หว่างขาแม้ว่าชายร่างล่ำในชุดดำจะเคลื่อนไหวเร็วมาก แต่เขาก็ไม่เร็วเท่าชาร์
ในวินาทีต่อมา ทุกอย่างดูเบลอไปหมด ร่างของชายในชุดสีขาวตอนนี้กลายเป็นเหมือนเงาขณะที่เขากำลังเหาะไปหาชาร์ลีทันทีที่ชายในชุดสีขาวชกไปในอากาศ มวลของอากาศก็พุ่งออกมารอบตัวเขาในขณะที่เขาบังคับให้สายฝนรอบตัวกระจายไปข้างหลังเมื่อใดก็ตามที่หยดน้ำฝนสัมผัสกับหมัดของเขา หยดน้ำฝนก็จะกลายเป็นไอน้ำทันที“เขาจะฆ่าแล้ว!”แซคารีตกใจมาก เขาแทบอยากจะคลานไปซ่อนใต้ท้องรถในเวลานี้ ลอรีนซึ่งถูกแคลร์ดึงเข้าไปในรถก็รู้สึกหวาดกลัวจนแทบกลั้นหายใจ เธอรู้สึกกังวลเป็นอย่างมากในตอนนี้ เพราะเธอกลัวว่าวันนี้ผู้ช่วยชีวิตของเธอจะตายที่นี่เพราะเธอแม้ว่าแคลร์จะรู้สึกกังวลมาก แต่เธอก็รู้สึกว่าชาร์ลีจะสามารถเอาชนะทั้งสองคนได้อย่างแน่นอนชาร์ลีจ้องไปที่ชายในชุดขาวด้วยสีหน้าเย็นชาเขาไม่กลัวรังสีอาฆาตแค้นในดวงตาของชายคนนี้เลย ทันทีที่ชายในชุดสีขาวเข้ามาใกล้เขามากขึ้น ชาร์ลีก็คว้ากำปั้นของชายคนนั้นก่อนจะบิดมันไปร้อยแปดสิบองศา!มีเสียงการแตกหักของข้อมือตามมาด้วยเสียงกรีดร้องโหยหวนจากชายในชุดขาว ฝ่ามือทั้งหมดของเขาหัก กระดูกผิดรูป และเส้นเลือดของเขาแตกทั้งหมด ในเวลานี้ข้อมือของเขาหย่อนห้อยไปมากลางอากาศ"พี่ชาย!"ชา
ถึงแม้ว่ามันจะดูเป็นการตบธรรมดา ๆ แต่การตบของชาร์ลีนั้นเต็มไปด้วยเรกิทั้งหมดที่ชาร์ลีรวบรวมไว้ก็พุ่งเข้ามาในหัวของชายคนนั้นและวิ่งไปตามร่างกายไหลสู่เส้นลมปราณของเขาในขณะที่มันแทบจะระเบิดเส้นเลือดทั้งหมดในร่างกายเนื่องจากเส้นเลือดที่สำคัญของเขาได้แตกไปแล้ว มันจึงทำให้เขาสูญเสียทักษะทั้งหมดของเขาไปด้วย!ชายในชุดสีขาวตกใจกลัวขณะที่เขากรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดจะมีใครมีพลังจิตวิญญาณและเรกิที่แข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไร? เขาไม่สามารถเข้าใจได้จริง ๆ ว่าชาร์ลีเป็นใครกันแน่เป็นไปได้อย่างไรที่จะมีใครในโอลรัสฮิลล์ที่มีทักษะที่น่าทึ่งเช่นนี้?ยิ่งไปกว่านั้น เขารู้สึกราวกับว่าทักษะของชาร์ลีนั้นไม่มีใครเทียบได้ผู้ชายคนนี้มาจากไหน?เขามาที่นี่พร้อมกับน้องชายของเขาเพื่อฆ่า ทำไมดูเหมือนพวกเขาจะถูกฆ่าแทนล่ะ?ในเวลาเดียวกันนี้ชาร์ลีชกชายคนนั้นเข้าที่หน้าท้อง เพียงหมัดเดียวเองนั้นก็ทำให้ชายในชุดขาวก็รู้สึกราวกับว่าเขากลายเป็นคนไร้ประโยชน์ไปแล้ว เขาไม่สามารถแม้แต่จะขยับมือหรือเท้าได้ในตอนนี้และรู้สึกราวกับว่าเขาอยู่ห่างจากความตายเพียงก้าวเดียวชาร์ลีดึงชายคนนั้นขึ้นมา ในขณะที่จ้องมองไปที่เขา
ในเวลานี้ลอรีนรู้สึกเหมือนเพิ่งโดนฟ้าผ่า!เธอจ้องไปที่ชาร์ลีและเธอรู้สึกราวกับว่าเธอตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดจริง ๆชาร์ลีไม่รู้ว่าลอรีนจำได้แล้วว่าเขาเป็นผู้ช่วยชีวิตของเธอชาร์ลีเพียงแค่หัวเราะหลังจากกำจัดสองคู่หูพี่น้องจอมโหดได้แล้วคู่หูพี่น้องจอมโหด? แม้ว่าชื่อของพวกเขาจะฟังดูเท่มากแต่ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าหมาป่าคู่หนึ่ง!แววตาของแซคารีเต็มไปด้วยความหวาดกลัวคู่หูพี่น้องจอมโหดได้ออกอาละวาดและคร่าชีวิตผู้คนนับไม่ถ้วนเป็นเวลาหลายปี ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาไม่เคยแพ้การต่อสู้ใด ๆ มาก่อนในชีวิตทุกคนในทางตอนใต้กลัวพวกเขาจนหัวหดใครจะคาดคิดว่า คู่หูพี่น้องจอมโหดจะตายในเงื้อมมือของชาร์ลีในวันนี้? แซคารีรู้สึกว่านี่ไม่น่าเชื่อจริง ๆคุณเวดนี่น่าประทับใจขนาดนั้นเลยเหรอ?ในเวลานี้ชาร์ลีเหลือบมองร่างทั้งสองที่นอนอยู่บนพื้น ก่อนที่เขาจะหันกลับมาและมองไปที่ลอรีนซึ่งอยู่ในสภาพมึนงง เขาเตือนเธอเบา ๆ ว่า “ลอรีน ลูกพี่ลูกน้องของคุณจ้างคู่หูพี่น้องจอมโหดมาฆ่าคุณ ผมเชื่อว่าเขาจะพยายามทำอีกแน่นอน คุณควรให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของคุณในช่วงสองสามวันนี้นะ จะเป็นการดีที่สุดหากคุณสามารถจ้างบอดี้
นี่ไม่ได้หมายความว่า แม้ว่าเธอจะรักชาร์ลีเธอก็ไม่ได้ทำให้เพื่อนสนิทของเธอผิดหวังหรอกใช่ไหม?บางทีเพื่อนสนิทของเธออาจจะโล่งใจด้วยซ้ำถ้าสุดท้ายแล้วเธอเป็นแฟนกันกับชาร์ลี!ขณะที่เธอคิดถึงเรื่องนี้ลอรีนรีบพูดกับชาร์ลีว่า “งั้นฉันขอบคุณล่วงหน้าเลยแล้วกันค่ะ ชาร์ลี!”ชาร์ลียิ้มให้ลอรีนก่อนที่เขาจะตอบว่า “ไม่ มันไม่มีปัญหาอะไรเลยครับ”รอยยิ้มของเขาทำให้หัวใจของลอรีนเต้นเร็วขึ้นแม้ว่าเหตุผลต่าง ๆ จะบอกเธอว่าไม่มีความหวังเลยสำหรับเธอ เนื่องจากชาร์ลีเป็นสามีของเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะมีความคิดแปลก ๆ เข้ามาในหัวของเธอเนื่องจากแรงกระตุ้นทางอารมณ์ที่เธอรู้สึกชาร์ลีไม่รู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับความคิดของลอรีนในเวลานี้ ดังนั้นเขาจึงให้เบอร์ของเขากับลอรีนโดยไม่ลังเลอะไรในเวลาเดียวกันนี้ แซคารีก้าวไปข้างหน้าก่อนที่เขาจะพูดด้วยน้ำเสียงที่ประจบขึ้นว่า "คุณเวดครับ คุณช่างเหลือเชื่อจริง ๆ ! แม้แต่คนที่น่ากลัวอย่างคู่หูพี่น้องจอมโหดก็ไม่สามารถเอาชนะคุณได้เลย คุณเป็นพระเจ้าในหมู่มวลมนุษย์จริง ๆ ครับ!”หลังจากนั้นแซคารีก็คุกเข่าลงต่อหน้าชาร์ลีอย่างรวดเร็วชาร์ลีมองไปที่แซคารีด
เมื่อพวกเขาขับรถกลับเข้าไปในเมือง พายุอันน่าหวาดหวั่นก็ค่อย ๆ บรรเทาลงราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก่อนหน้านี้สายลมในฤดูใบไม้ผลิได้พัดพาเมฆฝนออกไปและสายรุ้งก็ทอแสงอยู่บนท้องฟ้าราวกับภาพวาด ทุกคนที่มองขึ้นไปต่างก็หลงใหลในความงดงามของธรรมชาติที่เห็นตรงหน้าชาร์ลีหยุดรถตรงทางเข้าตลาดสินค้าโบราณและส่งแซคารีตรงนี้ทันทีที่แซคารีลงจากรถ เขาก็โค้งคำนับชาร์ลีอย่างเคารพ และกล่าวว่า “ขอบคุณมากครับ ปรมาจารย์เวด!”ชาร์ลีมองไปที่เขาและพูดอย่างเรียบเฉยว่า “แซคารี ห้ามไปบอกใครเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ เข้าใจไหม?”“แน่นอนครับ! ไม่ต้องห่วงเลยครับ ปรมาจารย์เวด” แซคารีกล่าวด้วยน้ำเสียงที่สุภาพและจริงจัง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความชื่นชมในขณะที่เขามองว่าชาร์ลีเป็นเหมือนเทพเจ้าชาร์ลีพยักหน้าและขับรถออกไป ในทางกลับกันแซคารียืนอยู่ที่เดิม และเฝ้าดูเขาจากไปจนไม่กล้าขยับตัวด้วยซ้ำแม้ว่ารถจะหายลับไปจากสายตาของเขาแล้วก็ตามตรงมาที่โรงแรม ชาร์ลีขับมาส่งลอรีนซึ่งยังคงอยู่ในรถลอรีนอาศัยอยู่ในแชงกรีลามาโดยตลอด นับตั้งแต่เธอมาถึงโอลรัสฮิลล์ ทีมรักษาความปลอดภัยของโรงแรมอยู่ในอันดับต้น ๆ ของเมืองและเป็นหน
เมื่อมองไปที่จาค็อบที่กำลังเดินไปบนเส้นทางที่ไม่มีวันกลับ ชาร์ลีก็ส่ายหัวอย่างสลดใจและกลับไปที่ห้องแคลร์อาบน้ำเสร็จแล้วและเธอก็ใส่ชุดนอนผ้าไหมสายเดี่ยวสีม่วงชุดนอนของเธอเผยให้เห็นไหล่ ผิวของเธอเนียนนุ่มราวกับชุดนอนผ้าไหม ชุดนอนเปิดแผ่นหลังและแนบร่างของเธอไว้อย่างอบอุ่น ชาร์ลีรู้สึกว่าคอของเขาจะแห้งผิดปกติในคืนนี้ขณะที่เขาจ้องมองไปที่แคลร์อย่างจริงจังเธอนอนตะแคงบนเตียง ชุดนอนที่บางและนุ่มลื่นพาดอยู่บนส่วนโค้งที่สง่างามบนเรือนร่างและคลุมต้นขาของเธอ ขาเรียวยาวของเธอเหยียดอย่างขี้เกียจอยู่บนเตียงแคลร์หน้าแดงอย่างเขินอายเมื่อเธอสังเกตการจ้องมองที่ดูผิดหูผิดตาของชาร์ลี เธอพูดขึ้น “หยุดมองฉันแบบนั้นเลย ทำอย่างกับคุณไม่เคยเห็นมาก่อนอย่างนั้นแหละ”ชาร์ลีฉาบรอยยิ้มอาย ๆ บนใบหน้าของเขา “ที่รัก ความสวยของคุณมันไม่เคยพอ”แคลร์กลอกตากับคำพูดที่ไร้สาระของเขา แต่มีประกายแห่งความมีความสุขในดวงตาของเธอชาร์ลีทำให้เธอประหลาดใจจริง ๆ ในวันนี้ ตลอดเวลาเธอคิดว่าชาร์ลีมีทักษะในการทำนายดวงชะตาพอ ๆ กับศิลปะการต่อสู้ แต่เธอไม่เคยคาดหวังว่าเขาจะมีพลังที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้เขายังได้ช่วยชีวิตเพื่อนสนิทขอ
“โอเค” ชาร์ลีพยักหน้าก่อนจะพูดว่า “เอาล่ะ ถึงเวลาที่นายต้องออกเดินทางแล้ว”ในเวลานี้จาเวียร์ก็วิ่งเข้าไปหาพวกเขาพร้อมกับแบตเตอรี่สำรองในมือ หลังจากนั้นเขาก็ยื่นแบตเตอรี่สำรองกับสายชาร์จให้กับดีแลนในขณะที่พูดว่า “ดีแลน นี่แบตเตอรี่สำรอง!”ดีแลนหยิบแบตเตอรี่สำรองใส่ไว้ในเป้ หลังจากปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้ว เขาก็พูดกับทุกคนว่า “คุณยาย คุณตา พ่อ แม่ ลุง อา ผมจะไปแล้วนะคับ…”ทุกคนโบกมือให้เขา “ไปเถอะ อย่าลืมใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนนะ!”ดีแลนมองไปที่ชาร์ลีอีกครั้งก่อนจะโค้งคำนับแล้วพูดว่า “ผมจะไปแล้วนะครับคุณเวด…”ชาร์ลีส่งเสียงพึมพำในขณะที่พูดว่า “รีบไปเถอะ ไม่งั้นนายจะถูกทำโทษที่ไปถึงช้านะ”ดีแลนรีบพยักหน้าในขณะที่พูดว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงครับ! ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ!”ชาร์ลีโบกมือแล้วพูดว่า “อืม ไปได้แล้ว!”ดีแลนพยักหน้าก่อนจะหันกลับไปมองเหล่าญาติ ๆ อย่างไม่เต็มใจ จากนั้นเขาก็เริ่มปั่นจักรยาน Phoenix 28 คันใหญ่อย่างหนักหน่วง หลังจากถีบจักรยานไปได้สองสามครั้ง ในที่สุดดีแลนก็ถีบจักรยานจากไปในลักษณะโคลงเคลงซิลเวียเริ่มร้องไห้อย่างขมขื่น ลีโอนาร์ดจึงรีบคว้าเธอมาปลอบโยนอยู่ในอ้อ
เมื่องานเลี้ยงวันเกิดสิ้นสุดลง และแขกคนอื่น ๆ ได้กลับไปแล้ว ดีแลนก็เข็นรถจักรยาน Phoenix 28 คันใหม่ออกมาในเวลานี้จู่ ๆ ดีแลนก็นึกถึงเพลงฮิตที่เขาเคยเห็นในคลิปวิดีโอสั้น ๆ…เพลงนี้ก็คือเพลง ‘ขี่มอเตอร์ไซต์แสนรักของฉัน’...ในขณะที่เขานึกถึงเพลงนี้ เขาก็มองไปที่จักรยาน Phoenix 28 ในสภาพเก่าที่ดูน่าเกลียดนั้น แล้วอดที่จะถอนหายใจไม่ได้ในขณะที่คิดกับตัวเองว่า ‘ถ้าฉันขี่มอเตอร์ไซค์ไปโอลรัสฮิลล์ได้ก็คงจะดีไม่น้อย เพราะจะทำให้ฉันสามารถเดินทางได้ประมาณสามถึงสี่ร้อยกิโลเมตรต่อวัน ซึ่งจะช่วยให้ฉันเดินทางไปถึงโอลรัสฮิลล์ได้เร็วที่สุด จะได้ไม่ต้องทนทุกข์กับความคับข้องใจและความอยุติธรรมมากมายในระหว่างทาง…’แต่ช่างน่าสงสารเหลือเกินที่เขารู้ว่าชาร์จะไม่มีทางเปิดโอกาสให้เขาได้ต่อรองอะไรเลย เขาจึงทำได้แค่เข็นจักรยานออกมาเพื่อเตรียมตัวออกเดินทางเจริล… ลุงของเขาถือหมวกกันน็อกสีเขียวอยู่ในมือ ในขณะที่พยายามจะสวมให้กับดีแลน ดีแลนหลบเลี่ยงหมวกใบนั้นในขณะที่ถามอย่างอึดอัดใจว่า “ทำไมถึงซื้อหมวกกันน็อกสีเขียวมาให้ผมล่ะลุง? หมวกสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของผู้ชายที่โดนสวมเขานะ…”“อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลยน่า” เจร
"หา? เร็วไปไหม? คุณจะไม่อยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่ออีกสักสองสามวันเหรอ?”“ผมทำธุระของผมเสร็จหมดแล้วน่ะ ไม่มีธุระอะไรให้ผมต้องอยู่ที่นี่อีก ผมจะออกเดินทางพรุ่งนี้เลย”เมื่อลอรีนได้ยินดังนี้ เธอก็พูดขึ้นอย่างไม่ลังเลเลยว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะออกจากอีสต์คลิฟฟ์พรุ่งนี้ด้วย เราเดินทางกลับโอลรัสฮิลล์พร้อมกันดีไหมคะ? เราจะได้นั่งเครื่องบินลำเดียวกันชาร์ลีอยากจะปฏิเสธเธอ แต่เมื่อเขาเห็นสีหน้าที่แสดงความวิงวอนของเธอแล้ว เขาก็ปฏิเสธเธอไม่ลงเพราะไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม… นับเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนเป็นเพื่อนกัน ที่ต้องนั่งเครื่องบินลำเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถหลบเลี่ยงการนั่งเครื่องบินเที่ยวบินเดียวกับเธอได้ชาร์ลีจึงพูดว่า “ได้สิ เรากลับด้วยกันก็ได้”ลอรีนรีบพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวคุณให้รายละเอียดบัตรประจำตัวกับฉันมานะ ฉันจะได้ซื้อตั๋วเครื่องบินของเราพร้อมกัน!”“โอเค”***ในขณะที่งานเลี้ยงวันเกิดยังคงดำเนินอยู่นั้น ลุงและอารองของดีแลนก็ได้ตระเตรียมการเดินทางด้วยการปั่นจักรยานไปยังโอลรัสฮิลล์ให้ดีแลนเรียบร้อยแล้วพวกเขาได้ให้คนไปซื้อจักรยาน Phoenix 28 รุ่นเก่ามา แล้วติดตั้งชั้นวางสัมภา
หลังจากนั้นงานเลี้ยงวันเกิดก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการมีการจัดที่นั่งให้กับชาร์ลีเป็นพิเศษในฐานะที่เขาเป็นแขกผู้มีเกียรติสูงสุด โดยเขาได้นั่งอยู่ข้างนายท่านโธมัสกับลอรีนและริกลีย์หลังจากนั้นสมาชิกของตระกูลโธมัสก็ผลัดกันดื่มอวยพรให้เขา โดยทั้งการแสดงออกทางสีหน้า น้ำเสียง และการกระทำล้วนเต็มไปด้วยการสรรเสริญเยินยอ ชาร์ลีไม่มีอะไรจะพูดมากนัก เมื่อมีคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็แค่ดื่มอวยพรกลับไป ซึ่งถึงแม้ดีแลนจะเป็นคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็ดื่มอวยพรกลับไปอย่างง่ายดายในเวลานี้ริกลีย์ก็ยังมาดื่มอวยพรให้กับชาร์ลีอย่างระมัดระวังด้วย โดยเขาได้เยินยอแล้วพูดว่า “คุณเวดครับ ผมมีเรื่องจะถามคุณหน่อยครับ…”ชาร์ลีรู้อยู่แล้วว่าเขาจะถามอะไรก่อนที่เขาจะเริ่มพูดออกมาด้วยซ้ำไป เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการให้ชาร์ลีช่วยฟื้นคืนสมรรถภาพ เพื่อให้เขากลับมาแข็งแกร่งได้อีกครั้งแต่เมื่อพิจารณาถึงเรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่ครอบครัวของพวกเขาได้ทำกับครอบครัวของยูลแล้ว ชาร์ลีก็ยังแน่ใจว่าเขาจะไม่ยอมฟื้นคืนสมรรถภาพให้พวกเขาในตอนนี้ผู้ที่เป็นผู้ใหญ่แล้วจะต้องชดใช้และรับผิดชอบต่อการกระทำของพวกเขา ไม่อย่างนั้นแล้วพวกเขาจะได้บทเ
ชาร์ลีหยิบภาพวาดที่ยูลมอบให้เขาจากมือของดีแลน ก่อนจะยื่นให้กับยายของลอรีนด้วยตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็พูดว่า “คุณยายโธมัสครับ นี่เป็นของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผมครับ ผมหวังว่าคุณยายจะรับมันไว้ และผมอยากจะขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นไปเมื่อกี้นี้ ด้วยวันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณยาย ผมหวังว่าคุณยายคงจะให้อภัยผมนะครับ”คุณท่านโธมัสรู้สึกปลื้มใจแล้วรีบพูดขึ้นว่า “คุณเวด ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ จริง ๆ แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้เป็นเพราะหลานชายของฉันทำอะไรผิดไป ฉันมาคิดดูแล้ว… ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะเราละเลยในการอบรมสั่งสอนหลานของเรา จึงทำให้คุณเวดต้องเดือดร้อน”ในขณะที่เธอพูดอยู่นั้น เธอก็มองดูภาพวาดก่อนจะพูดว่า “คุณเวดคะ ภาพวาดนี้มีมูลค่ามากเหลือเกิน ฉันคงรับของขวัญชิ้นนี้ไว้ไม่ได้หรอกค่ะ!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “คุณยายโธมัสครับ ของขวัญชิ้นนี้เป็นเพียงของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผม มูลค่าของของขวัญชิ้นนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลย คุณยายไม่ต้องเกรงใจผมหรอกครับ พูดตามตรงนะครับ ผมไม่ได้ใช้จ่ายเงินกับของขวัญชิ้นนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะคุณโกลดิ้งจากโกลดิ้งกรุ๊ปมอบภาพวาดนี้ให้ผม แล้วผมก็นำมา
เมื่อได้ยินว่าเขาจะต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง ดีแลนก็ส่ายหัวอย่างบ้าคลั่งทันที!เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว เขาคงต้องทนทุกข์ทรมานและรู้สึกคับข้องใจเพียงเล็กน้อย ถ้าเขาต้องอาศัยอยู่ในชุมชนแออัด โดยมีค่าครองชีพเดือนละหนึ่งหมื่นบาท แต่ถ้าเขาต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง เขาก็คงต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมาก และต้องเจอะเจอความยากลำบากมากมายในไซต์ก่อสร้างแห่งนั้นเขาจึงพยักหน้าแบบไม่คิดอะไรทันที “คุณเวดครับ ผมยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดของคุณแล้ว ผมจะไม่ต่อรองอะไรกับคุณแล้วครับ! ขอแค่อย่าส่งผมไปไซต์ก่อสร้างนั้นเลยนะครับ…”ชาร์ลีรู้สึกพอใจมากแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “อย่าลืมปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีหลังจากนายไปถึงที่โอลรัสฮิลล์แล้ว อย่าสร้างปัญหาอะไรเพิ่มขึ้นมาอีกล่ะ ถ้านายยังคงอยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่อไป ทายาทที่ชอบเยาะเย้ยถากถางคนอื่นอย่างนาย ก็อาจก่อให้เกิดหายนะที่ร้ายแรงกว่านี้ได้ในสักวันหนึ่ง นายอาจเข้าไปพัวพันและทำให้ให้ตระกูลโธมัสและตระกูลโคชต้องเดือดร้อนได้!”ในเวลานี้สองพี่น้องอย่างเจริลและจาเวีย์ก็อดที่จะตัวสั่นขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้ดูเหมือนคำพูดของชาร์ลีจะทำให้คนทั้งคู่
สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดก็คือ การปั่นจักรยานอย่างยากลำบากจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ยังพอรับได้ การที่ต้องปั่นจักรยานเป็นเวลาครึ่งเดือน ก็ยังดีเสียกว่าการนอนบนเตียงอยู่ครึ่งเดือนหลังผ่าตัดนอกจากนี้เขายังรู้สึกคับข้องใจอย่างมากในระหว่างการผ่าตัดครั้งล่าสุด ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ยังไม่หายดีเลย ถ้าเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดแบบเดิมอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ เขาก็จะต้องได้รับความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าอย่างแน่นอนในเวลานี้ชาร์ลีพูดขึ้นมาว่า “ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์ก็เพื่อให้นายได้ไปปรับปรุงตัวและกลับเนื้อกลับตัวใหม่ นายคิดว่า การที่ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์เพื่อให้ไปสนุกสนานกับชีวิตที่นั่นเหรอ? จะบอกอะไรให้นะ นายจะต้องปั่นจักรยานธรรมดา ๆ อย่าง Phoenix 28 เท่านั้น ใช้อย่างอื่นไม่ได้เลย! ไม่งั้นฉันจะให้นายปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์พร้อมกับเกวียนที่บรรทุกก้อนอิฐไปจนเต็มคัน!”“แล้วหลังจากนายไปถึงโอลรัสฮิลล์ นอกจากนายจะต้องคอยขับรถรับส่งให้กับลอรีนแล้ว นายต้องเช่าห้องเดี่ยวในชุมชนแออัดคลิฟฟ์คูลส์ด้วย ค่าใช้จ่ายรายเดือนรวมถึงค่าเช่าบ้านของนายจะต้องไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท!”
เมื่อเขาได้ยินว่า จะต้องขี่จักรยานจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์ตลอดทาง และต้องอยู่ในโอลรัสฮิลล์ในฐานะคนขับรถเป็นเวลาหนึ่งปี ดีแลนก็รู้เหมือนกำลังจะตายไปแล้วจริง ๆ ประเด็นก็คือระยะทางจากอีสต์คลิฟฟ์ไปโอลรัสฮิลล์นั้น มีระยะทางมากกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะไม่ตายเพราะหมดแรงถ้าต้องปั่นจักรยานไปตลอดทางจริง ๆ เหรอ?แล้วตอนนี้ก็อยู่ในเดือนธันวาคมซึ่งเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว เขาจะต้องขี่จักรยานตลอดทางไปจนถึงภาคใต้ แล้วไม่ได้รับอนุญาตให้พักในโรงแรมเลยด้วย ข้อกำหนดเหล่านี้รุนแรงเกินไปไม่ใช่เหรอ?ดีแลนรู้สึกเสียใจมากและน้ำตาก็เริ่มไหลอาบใบหน้านี่มันเรื่องบ้าบออะไรกันเนี่ย… เขาเป็นนายน้อยคนที่สามของตระกูลโคช แต่จะต้องขี่จักรยานไปจนถึงโอลรัสฮิลล์? เขาจะไม่ล้มตายไปในระหว่างทางหรอกเหรอ?คงจะน่าทึ่งมากถ้าเขาสามารถปั่นจักรยานได้วันละห้าสิบ หรือหกสิบกิโลเมตรระยะทางกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะต้องปั่นจักรยานไปประมาณยี่สิบวัน!แต่นี่มันเดือนธันวาคมแล้วนะ!เขาสะอึกสะอื้นพร้อมกับพูดว่า “คุณเวดครับ ถ้าผมเริ่มปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์ กว่าจะถึงที่นั่นก็คงเป็นเดือนมกราคมแล้ว น้องสาวผมจะต้องกลับมาฉลองปีใหม่ที่
ลอรีนดีใจมากแล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ขอบคุณมากนะคะชาร์ลี!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “รอเดี๋ยวนะ ผมจะไม่บังคับให้เขากลืนจี้หยกเข้าไป แต่ยังต้องลงโทษเขาด้วยวิธีอื่น ไม่งั้นเขาคงไม่จดจำไว้เป็นบทเรียน”ลอรีนรีบถามว่า “คุณจะลงโทษเขาด้วยวิธีไหนคะ ชาร์ลี? คงไม่ร้ายแรงไปกว่าการกลืนจี้หยกเข้าไปแล้วใช่ไหมคะ?”“ไม่หรอกครับ ชาร์ลียิ้มเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า “คุณมั่นใจได้เลยว่า การลงโทษครั้งนี้จะส่งผลดีกับตัวเขาอย่างแน่นอน”ในที่สุดลอรีนก็รู้สึกสบายใจในขณะที่พูดอย่างเสน่หาว่า “ขอบคุณนะคะชาร์ลี ขอบคุณที่ให้อภัยพี่ชายของฉัน และปล่อยเขาไปเพราะเห็นแก่ฉัน ถ้าอย่างนั้น คุณให้โอกาสฉันได้ตอบแทนคุณดีไหมคะ…”ชาร์ลีถามด้วยความประหลาดใจ “คุณจะตอบแทนผมยังไงเหรอ?”ลอรีนกะพริบตาในขณะที่ยิ้มและพูดอย่างตั้งใจว่า “ฉันสัญญาว่าจะแต่งงานกับคุณ และให้กำเนิดลูกชายตัวอ้วน ๆ เพื่อคุณ! คุณคิดว่ายังไงคะ?”ชาร์ลีตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “อย่าพูดอะไรแบบนี้อีก ผมเป็นสามีของเพื่อนสนิทของคุณนะ!”ลอรีนพยักหน้าก่อนจะพูดอย่างจริงจังว่า “ฉันรู้ค่ะ แต่คุณทั้งคู่แต่งงานกันแบบปลอม ๆ นี่! ก็ยังไม่ถือว่าเป็นการแต่งงานกันอย่างแท้จริง! จริง ๆ แล