ชาร์ลีลูบจมูกอย่างเก้ ๆ กัง ๆ ในขณะที่ตอบว่า "อืมมม… ผมเป็นสามีเพื่อนสนิทของคุณ!”ลอรีนตอบด้วยน้ำเสียงที่ฟังค่อนข้างเฉยเมยว่า "ฉันรู้ เป็นสามีจอมปลอมและการแต่งงานจอมปลอมมาสี่ปีแล้ว ฉันสงสัยจังเลยว่าเกมเสแสร้งนี้จะเล่นกันไปอีกนานแค่ไหน"ในขณะที่พวกเขากำลังคุยกันอยู่นั้น รถเบนท์ลีย์รุ่นลิมิเต็ดอิดิชันก็ขับมาที่หน้าคฤหาสน์แล้วจอดอยู่ข้าง ๆ พวกเขา หน้าต่างบริเวณเบาะหลังถูกลดลงมา แล้วผู้หญิงที่แต่งตัวหรูหราก็โผล่หัวออกมา ผู้หญิงคนนั้นมองไปที่ลอรีนแล้วถามว่า "ลอรีน ทำไมเธอถึงออกมาอยู่ตรงนี้?”ทันทีที่ลอรีนเห็นผู้หญิงคนนี้ เธอก็รีบส่งยิ้มให้แล้วพูดว่า "โอ้ คุณป้า! แล้วคุณลุงล่ะคะ?”ผู้หญิงที่อยู่ในรถตอบว่า "เขางานยุ่งน่ะ เขาจะมาตอนเที่ยงก่อนที่งานเลี้ยงจะเริ่มขึ้น"ลอรีนพูดต่อไปว่า "คัซอยู่ไหนล่ะคะ?”ผู้หญิงคนนั้นถอนหายใจแล้วตอบว่า "ป้าไม่เห็นเขาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว โอ๊ยยย! ป้าโกรธมากเลยนะ เขาเป็นคนหัวแข็งมาก! หลังจากผ่าตัดได้ไม่นานเขาก็เริ่มออกไปตระเวนราตรีอีกแล้ว เธอช่วยคุยกับเขาทีได้ไหม?”ลอรีนฝืนยิ้มอย่างขมขื่นแล้วพูดว่า "หนูไม่กล้าทำอย่างนั้นหรอกค่ะ คุณป้าก็รู้ว่าเขาเป็นคนยังไง เวล
ชาร์ลีไม่รู้ว่าญาติของลอรีนคือใคร แต่เขาคิดว่าไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะต้องเดินชนกับเด็กรวยที่หยิ่งยโสสักสองสามคนตอนที่เขาอยู่ในอีสต์คลิฟฟ์ สถานที่แห่งนี้ขึ้นชื่อในเรื่องที่มีคนรวยอยู่มากมาย และเด็กรวยแบบมีอภิสิทธิ์เก้าในสิบคนก็มักจะทำตัวน่ารังเกียจและอวดดีเมื่อเขาและลอรีนเดินเข้ามาในบ้านของตระกูลโทมัสแล้ว ลานหน้าบ้านและโรงรถก็เต็มไปด้วยรถหรูมากมายหลายแบรนด์มีชายสองคนให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นและทักทายแขกอยู่ด้านนอกประตู แล้วลอรีนก็รีบเข้าไปทักทายและพูดว่า "พ่อคะ ลุงคะ หนูขอแนะนำให้รู้จักกับชาร์ลี เวด.. .เพื่อนของหนูที่มาจากโอลรัสฮิลล์ค่ะ"ชายทั้งสองคนมองสำรวจชาร์ลี แล้วลุงของลอรีนก็ตอบว่า "ฉันไม่เคยได้ยินว่ามีสมาชิกของตระกูลเวดอยู่ในโอลรัสฮิลล์ด้วย"ลอรีนรีบชี้แจงอย่างรวดเร็วว่า "โอ้ ชาร์ลีไม่ได้มาจากตระกูลไหนเลยค่ะ เขาเป็นเพื่อนที่เรียนวิทยาลัยเดียวกับหนูน่ะค่ะ"ตอนนั้นนายท่านวิลสันได้ลงนามให้ชาร์ลีเข้าไปเรียนในชั้นปีหนึ่งของมหาวิทยาลัยโอลรัสฮิลล์ ซึ่งเขาไม่เพียงแต่เป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนของแคลร์เท่านั้น แต่ยังเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนของลอรีนด้วยลอรีนไม่ได้ระบุว่า ชาร์ลีเป็นสามีของ
ลอรีนพูดด้วยสีหน้าเย็นชาว่า “พ่อคะ หนูไม่สนใจหรอกค่ะ กรุณาอย่าบอกให้หนูไปทำความรู้จักกับเขาอีกนะคะ!”จากนั้นเธอก็มองไปที่ชาร์ลีแล้วพูดว่า “เข้าไปข้างในกันเถอะค่ะชาร์ลี!”“แก!” จาเวียร์ขึ้นเสียงด้วยความเกรี้ยวโกรธ “ทำไมแกถึงหัวดื้อขนาดนี้นะ? ถ้าแกจับคู่กับนายน้อยตระกูลโกลดิ้งไม่ได้ล่ะก็ แกก็ไม่ต้องไปที่โอลรัสฮิลล์อีก!”ลอรีนเหลือบมองชาร์ลีอีกครั้งโดยไม่รู้ตัว ก่อนที่จะตอบพ่อของเธอด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดว่า “หนูชอบโอลรัสฮิลล์ค่ะ! หนูจะไปหาสามีที่นั่น!”จาเวียร์ดุเธอว่า “ว่ายังไงนะ? ไม่มีตระกูลดัง ๆ อยู่ในโอรัสฮิลล์เลยนะ! แล้วแกจะไปหาผู้ชายดี ๆ ที่นั่นได้ยังไงกัน? ลูกสาวฉันจะไปแต่งงานกับผู้ชายสวะ ๆ อย่างนั้นได้ยังไง?ลอรีนตอบด้วยความผิดหวังว่า “พ่อคะ ตอนนี้พ่อทำไมถึงได้หัวสูงนักล่ะคะ?”“ฉันหัวสูงเหรอ?” จาเวียร์คำราม “ฉันทำแบบนี้ก็เพื่อประโยชน์ของตัวแกเองนะ!”ในเวลานี้ลุงของลอรีนพูดขึ้นมาว่า “พอแล้วจาเวียร์ ไม่ต้องไปเร่งเร้าอะไรหรอกน่า ปล่อยให้ลอรีนกับเพื่อนเข้าไปข้างในเถอะ”จาเวียร์รู้สึกขุ่นเคืองเมื่อพี่ชายพูดขึ้นมา “ถ้างั้นแกก็เข้าไปข้างในก่อน ฉันจะให้แม่ของแกพูดกับแกเรื่องนี้ที
ชาร์ลีเดินตามลอรีนเข้าไปในบ้านที่อยู่อาศัยของตระกูลดัง ๆ ในอีสต์คลิฟฟ์นั้นมีความหรูหรามาก เมื่อคุณเดินผ่านประตูเข้าไป แค่ห้องนั่งเล่นห้องเดียวก็เกือบจะใหญ่เท่ากับห้องจัดเลี้ยงเล็ก ๆ แล้วในเวลานี้ห้องนั่งเล่นเต็มไปด้วยผู้คนจำนวนมากมาย และส่งเสียงพูดคุยกันอย่างเซ็งแซ่ บุคคลสำคัญของอีสต์คลิฟฟ์มารวมตัวอยู่ในห้องจัดเลี้ยงกันมากมาย โดยจับกลุ่มคุยกันเป็นกลุ่ม ๆคุณหญิงโธมัสพร้อมกับสามีของเธอกำลังพูดคุยและหัวเราะอยู่กับเพื่อนเก่าวัยเดียวกับเธอหลายคนลอรีนรีบพูดกับชาร์ลีว่า “คุณย่าของฉันอยู่ตรงนั้นไง ไปพบท่านกันเถอะค่ะ”ชาร์ลีพยักหน้าแล้วพูดพร้อมกับยิ้ม “เรามาทันเวลามอบของขวัญที่ผมเตรียมมาให้คุณย่าของคุณพอดีเลย!”พวกเขาเดินเข้าไปอยู่ตรงหน้าคู่สามีภรรยาสูงอายุคู่นั้น แล้วลอรีนก็ทักทายพวกเขาด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่น “คุณย่ากับคุณปู่คะ หนูขอแนะนำเพื่อนให้รู้จักหน่อยนะคะ… นี่คือชาร์ลี เวด เพื่อนสมัยเรียนวิทยาลัยของหนูเองค่ะ!”คุณหญิงโธมัสยิ้มแล้วพูดว่า “โอ้ เพื่อนสมัยเรียนวิทยาลัยของลอรีน! ยินดีต้อนรับจ้ะ!”จากนั้นเธอก็พูดว่า “ว่าแต่ลอรีนจ๊ะ ย่าจำเด็กสาวที่เป็นเพื่อนสนิทกับเธอตอนเรียนวิทยาลัยไ
ตอนนี้ลอรีนพูดกับดีแลนว่า “คัซ ฉันขอแนะนำให้นายรู้จักกับเพื่อนสมัยเรียนวิทยาลัยของฉันนะ”ชาร์ลีหันกลับมาพร้อมกับยิ้มกว้างให้ทันทีที่ลอรีนพูดแบบนั้น ทันทีที่ดีแลนเห็นเขา เขาก็เบิกตากว้างราวกับเห็นผี!เขาตกใจมากจนต้องใช้เวลานานกว่าจะได้สติ จากนั้นเขาก็เริ่มกัดฟันและส่งเสียงคำรามขึ้นมาว่า “โอ้ ชาร์ลี เวด! ฉันกำลังจะไปตามล่าหาแกอยู่พอดี แล้วตอนนี้แกยังกล้ามาโผล่หัวอยู่ที่บ้านคุณย่าฉันอีก! วันนี้ฉันจะฆ่าแกให้ได้!”ลอรีนกรีดร้องด้วยความงงงวยแล้วพูดว่า “นายพูดอะไรอยู่น่ะคัซ? ชาร์ลีเป็นแขกของเรานะ… นายพูดแบบนั้นกับเขาไม่ได้!”ดีแลนตะโกนว่า “เธอไม่รู้เหรอว่าทำไมฉันถึงต้องโดนผ่าตัด?”ลอรีนโพล่งออกมาว่า “แม่ฉันบอกว่าเธอกลืนสร้อยคอเข้าไป”“ถูกต้อง!” ดีแลนตะโกนอย่างโกรธจัด เขาพูดต่อว่า “แล้วทำไมฉันต้องทำแบบนั้นล่ะ? ก็เพราะได้เวรนี่แหละ!”ชาร์ลีแสยะยิ้ม “โคช ช่วยทำตัวเป็นคนมีเหตุผลและซื่อสัตย์หน่อยนะ ฉันบังคับให้นายกลืนสร้อยคอเส้นนั้นเหรอ? ฉันง้างปากนายออกแล้วยัดสร้อยคอเข้าไปในคอหอยนายเหรอ?”ดีแลนเงียบไปเขาจะพูดอะไรได้อีกล่ะ? สิ่งที่ชาร์ลีพูดล้วนเป็นความจริง เขาไม่ได้บังคับให้ดีแลน คัชกลืน
เมื่อชาร์ลีเห็นดีแลนยังคงมีทัศนคติเหมือนเมื่อก่อนนี้ เขาจึงอดที่จะทำเสียงเยาะเย้ยไม่ได้ แล้วพูดขึ้นว่า “ดีแลน ดูเหมือนว่านายจะไม่ยอมเรียนรู้จากความผิดพลาดในอดีตเลยนะ นายลืมไปแล้วเหรอว่า ทำไมนายถึงต้องกลืนสร้อยคอเข้าไปเมื่อคราวที่แล้วน่ะ?”ในตอนนั้นเหตุผลที่ทำให้ดีแลนถูกบังคับให้กลืนสร้อยคอเข้าไปก็เพราะเขาแพ้พนันชาร์ลี เขายกย่องตัวเองอย่างมากเพียง เพราะเขาซื้อสร้อยคอที่มีมูลค่าหลายสิบร้อยล้าน แล้วเชื่อว่ายาวิเศษที่ชาร์ลีมอบให้จัสมินนั้นเป็นของไร้ค่าแต่เขาไม่คาดคิดเลยว่า จะสามารถขายยาวิเศษได้ ในราคาสูงถึงสองหมื่นล้านบาทในงานเลี้ยงวันเกิดของจัสมินหลังจากดีแลนกลับบ้านไปแล้ว เขาก็ครุ่นคิดถึงเรื่องนี้ ยิ่งเขาคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกว่ามีบางสิ่งบางอย่างผิดปกติเขาคิดมาโดยตลอดว่า เป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีใครยอมจ่ายเงินถึงสองหมื่นล้านบาทเพื่อซื้ออะไรที่ดูโง่เง่าแบบนั้นดังนั้นเขาจึงสรุปได้แต่เพียงว่า ทราวิสและชาร์ลีต่างร่วมมือกันเพื่อหลอกลวงเขา!ถึงแม้จะดูเหมือนว่าทราวิสได้จ่ายเงินไปสองหมื่นล้านเพื่อซื้อยาวิเศษะเม็ดนั้น แต่มีความเป็นไปได้อย่างมากที่ชาร์ลีจะคืนเงินให้ทราวิ
ชาร์ลีพยักหน้าก่อนจะพูดว่า “โอเค ถ้าอย่างนั้นก็มาวางเดิมพันกัน ถ้าฉันแพ้ ฉันจะกินภาพวาด ถ้านายแพ้ นายก็กินจี้หยก”“ไอ้ระยำ!” ดีแลนกัดฟันแล้วพูดต่อ “ได้! แต่ฉันไม่เชื่อแก! งั้นก็ตกลงตามนั้น! ฉันซื้อจี้หยกนั้นมาสองร้อยสี่สิบล้านบาท! ฉันมีใบเสร็จไว้ให้ตรวจสอบด้วย แล้วภาพวาดพัง ๆ ของแกล่ะราคาเท่าไหร่?”ชาร์ลีไม่รู้จริง ๆ ว่าภาพวาดนี้มีมูลค่าเท่าไหร่ แต่เขารู้ว่าราคาภาพ ‘Portrait de Famille’ ที่วาดโดยอ็องรี มาตีสนั้นมีราคาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ดังนั้นชาร์ลีจึงมั่นใจว่าราคาภาพวาดของเขาจะต้องมีราคาสูงกว่าจี้หยกนั้นอย่างแน่นอนถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงภาพวาด แต่ก็ไม่ใช่ภาพกราฟฟิตี้ที่วาดแบบส่งเดช แต่เป็นภาพวาดที่ศิลปินมืออาชีพได้รังสรรค์ขึ้นมาอย่างงดงามมีอยู่ครั้งหนึ่งที่ภาพวาดยอดนิยมของอ็องรี มาตีส เคยถูกประมูลไปในราคามากกว่าสี่พันล้านบาท นอกจากนี้… นี่ยังเป็นราคาประมูลภาพวาดเมื่อสิบปีก่อน ถ้าภาพวาดนี้ถูกประมูลขึ้นอีกครั้งในวันนี้ ราคาของภาพวาดนั้นก็อาจพุ่งขึ้นเกินแปดพันล้านบาทด้วยซ้ำไปยูลไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป ดังนั้นของต่าง ๆ ที่เขาทำการสะสม ถึงแม้จะเป็นเพียงภาพว
ไอ้บ้าเอ๊ย!”ดีแลนตะโกนออกไปอย่างเย็นชา “แกใกล้จะถึงวันตายเข้าไปทุกทีแล้ว แต่ยังกล้าปฏิเสธความผิดพลาดของตัวเองในเวลาเช่นนี้อีก ยอมรับมาเถอะว่าแกโกหก! แกกล้ามากนะที่เอาคุณโกลดิ้งจากโกลดิ้งกรุ๊ปเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย ถ้าคุณโกลดิ้งตำหนิเราในเรื่องนี้ แกจะรับผิดชอบไหวเหรอ?”ชาร์ลียิ้มก่อนจะพูดว่า “ถ้านายไม่เชื่อผม ก็โทรไปหาคุณโกลดิ้งได้เลย แล้วถามว่าเขาเป็นคนมอบภาพวาดนี้ให้ฉันด้วยตัวเองหรือเปล่า”“เฮอะ!” ดีแลนแสยะปากแล้วพูดต่อว่า “ถึงฉันจะเป็นนายน้อยของตระกูลโคช ฉันก็ไม่มีสิทธิ์ไปติดต่อคุณโกลดิ้งโดยตรงหรอก ตอนนี้แกมาอวดอ้างสร้างเรื่องก็เพราะแกรู้ว่า ฉันไม่สามารถโทรถามคุณโกลดิ้งว่าภาพวาดเป็นของจริงหรือของปลอมใช่ไหมล่ะ?”ชาร์ลีไม่ได้แสดงความคิดเห็นออกมา แต่พูดเพียงว่า “ไม่มีประโยชน์ที่จะโต้เถียงและคุยโวในเรื่องนี้โดยไม่ได้ทำอะไรเลย ฉันว่าทางที่ดีเราควรหาผู้เชี่ยวชาญในการประเมินราคามาตรวจสอบที่นี่จะดีกว่านะ”“ไม่จำเป็น” ดีแลนหัวเราะเยาะในขณะที่พูดว่า “จะบอกอะไรให้นะ ฉันได้เชิญริกลีย์ที่เป็นนายน้อยคนโตของตระกูลโกลดิ้งมาที่นี่ในวันนี้ด้วย ถ้าภาพวาดนี้เป็นของแท้ ก็คงเป็นภาพวาดที่อยู่ใ
“โอเค” ชาร์ลีพยักหน้าก่อนจะพูดว่า “เอาล่ะ ถึงเวลาที่นายต้องออกเดินทางแล้ว”ในเวลานี้จาเวียร์ก็วิ่งเข้าไปหาพวกเขาพร้อมกับแบตเตอรี่สำรองในมือ หลังจากนั้นเขาก็ยื่นแบตเตอรี่สำรองกับสายชาร์จให้กับดีแลนในขณะที่พูดว่า “ดีแลน นี่แบตเตอรี่สำรอง!”ดีแลนหยิบแบตเตอรี่สำรองใส่ไว้ในเป้ หลังจากปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้ว เขาก็พูดกับทุกคนว่า “คุณยาย คุณตา พ่อ แม่ ลุง อา ผมจะไปแล้วนะคับ…”ทุกคนโบกมือให้เขา “ไปเถอะ อย่าลืมใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนนะ!”ดีแลนมองไปที่ชาร์ลีอีกครั้งก่อนจะโค้งคำนับแล้วพูดว่า “ผมจะไปแล้วนะครับคุณเวด…”ชาร์ลีส่งเสียงพึมพำในขณะที่พูดว่า “รีบไปเถอะ ไม่งั้นนายจะถูกทำโทษที่ไปถึงช้านะ”ดีแลนรีบพยักหน้าในขณะที่พูดว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงครับ! ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ!”ชาร์ลีโบกมือแล้วพูดว่า “อืม ไปได้แล้ว!”ดีแลนพยักหน้าก่อนจะหันกลับไปมองเหล่าญาติ ๆ อย่างไม่เต็มใจ จากนั้นเขาก็เริ่มปั่นจักรยาน Phoenix 28 คันใหญ่อย่างหนักหน่วง หลังจากถีบจักรยานไปได้สองสามครั้ง ในที่สุดดีแลนก็ถีบจักรยานจากไปในลักษณะโคลงเคลงซิลเวียเริ่มร้องไห้อย่างขมขื่น ลีโอนาร์ดจึงรีบคว้าเธอมาปลอบโยนอยู่ในอ้อ
เมื่องานเลี้ยงวันเกิดสิ้นสุดลง และแขกคนอื่น ๆ ได้กลับไปแล้ว ดีแลนก็เข็นรถจักรยาน Phoenix 28 คันใหม่ออกมาในเวลานี้จู่ ๆ ดีแลนก็นึกถึงเพลงฮิตที่เขาเคยเห็นในคลิปวิดีโอสั้น ๆ…เพลงนี้ก็คือเพลง ‘ขี่มอเตอร์ไซต์แสนรักของฉัน’...ในขณะที่เขานึกถึงเพลงนี้ เขาก็มองไปที่จักรยาน Phoenix 28 ในสภาพเก่าที่ดูน่าเกลียดนั้น แล้วอดที่จะถอนหายใจไม่ได้ในขณะที่คิดกับตัวเองว่า ‘ถ้าฉันขี่มอเตอร์ไซค์ไปโอลรัสฮิลล์ได้ก็คงจะดีไม่น้อย เพราะจะทำให้ฉันสามารถเดินทางได้ประมาณสามถึงสี่ร้อยกิโลเมตรต่อวัน ซึ่งจะช่วยให้ฉันเดินทางไปถึงโอลรัสฮิลล์ได้เร็วที่สุด จะได้ไม่ต้องทนทุกข์กับความคับข้องใจและความอยุติธรรมมากมายในระหว่างทาง…’แต่ช่างน่าสงสารเหลือเกินที่เขารู้ว่าชาร์จะไม่มีทางเปิดโอกาสให้เขาได้ต่อรองอะไรเลย เขาจึงทำได้แค่เข็นจักรยานออกมาเพื่อเตรียมตัวออกเดินทางเจริล… ลุงของเขาถือหมวกกันน็อกสีเขียวอยู่ในมือ ในขณะที่พยายามจะสวมให้กับดีแลน ดีแลนหลบเลี่ยงหมวกใบนั้นในขณะที่ถามอย่างอึดอัดใจว่า “ทำไมถึงซื้อหมวกกันน็อกสีเขียวมาให้ผมล่ะลุง? หมวกสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของผู้ชายที่โดนสวมเขานะ…”“อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลยน่า” เจร
"หา? เร็วไปไหม? คุณจะไม่อยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่ออีกสักสองสามวันเหรอ?”“ผมทำธุระของผมเสร็จหมดแล้วน่ะ ไม่มีธุระอะไรให้ผมต้องอยู่ที่นี่อีก ผมจะออกเดินทางพรุ่งนี้เลย”เมื่อลอรีนได้ยินดังนี้ เธอก็พูดขึ้นอย่างไม่ลังเลเลยว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะออกจากอีสต์คลิฟฟ์พรุ่งนี้ด้วย เราเดินทางกลับโอลรัสฮิลล์พร้อมกันดีไหมคะ? เราจะได้นั่งเครื่องบินลำเดียวกันชาร์ลีอยากจะปฏิเสธเธอ แต่เมื่อเขาเห็นสีหน้าที่แสดงความวิงวอนของเธอแล้ว เขาก็ปฏิเสธเธอไม่ลงเพราะไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม… นับเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนเป็นเพื่อนกัน ที่ต้องนั่งเครื่องบินลำเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถหลบเลี่ยงการนั่งเครื่องบินเที่ยวบินเดียวกับเธอได้ชาร์ลีจึงพูดว่า “ได้สิ เรากลับด้วยกันก็ได้”ลอรีนรีบพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวคุณให้รายละเอียดบัตรประจำตัวกับฉันมานะ ฉันจะได้ซื้อตั๋วเครื่องบินของเราพร้อมกัน!”“โอเค”***ในขณะที่งานเลี้ยงวันเกิดยังคงดำเนินอยู่นั้น ลุงและอารองของดีแลนก็ได้ตระเตรียมการเดินทางด้วยการปั่นจักรยานไปยังโอลรัสฮิลล์ให้ดีแลนเรียบร้อยแล้วพวกเขาได้ให้คนไปซื้อจักรยาน Phoenix 28 รุ่นเก่ามา แล้วติดตั้งชั้นวางสัมภา
หลังจากนั้นงานเลี้ยงวันเกิดก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการมีการจัดที่นั่งให้กับชาร์ลีเป็นพิเศษในฐานะที่เขาเป็นแขกผู้มีเกียรติสูงสุด โดยเขาได้นั่งอยู่ข้างนายท่านโธมัสกับลอรีนและริกลีย์หลังจากนั้นสมาชิกของตระกูลโธมัสก็ผลัดกันดื่มอวยพรให้เขา โดยทั้งการแสดงออกทางสีหน้า น้ำเสียง และการกระทำล้วนเต็มไปด้วยการสรรเสริญเยินยอ ชาร์ลีไม่มีอะไรจะพูดมากนัก เมื่อมีคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็แค่ดื่มอวยพรกลับไป ซึ่งถึงแม้ดีแลนจะเป็นคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็ดื่มอวยพรกลับไปอย่างง่ายดายในเวลานี้ริกลีย์ก็ยังมาดื่มอวยพรให้กับชาร์ลีอย่างระมัดระวังด้วย โดยเขาได้เยินยอแล้วพูดว่า “คุณเวดครับ ผมมีเรื่องจะถามคุณหน่อยครับ…”ชาร์ลีรู้อยู่แล้วว่าเขาจะถามอะไรก่อนที่เขาจะเริ่มพูดออกมาด้วยซ้ำไป เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการให้ชาร์ลีช่วยฟื้นคืนสมรรถภาพ เพื่อให้เขากลับมาแข็งแกร่งได้อีกครั้งแต่เมื่อพิจารณาถึงเรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่ครอบครัวของพวกเขาได้ทำกับครอบครัวของยูลแล้ว ชาร์ลีก็ยังแน่ใจว่าเขาจะไม่ยอมฟื้นคืนสมรรถภาพให้พวกเขาในตอนนี้ผู้ที่เป็นผู้ใหญ่แล้วจะต้องชดใช้และรับผิดชอบต่อการกระทำของพวกเขา ไม่อย่างนั้นแล้วพวกเขาจะได้บทเ
ชาร์ลีหยิบภาพวาดที่ยูลมอบให้เขาจากมือของดีแลน ก่อนจะยื่นให้กับยายของลอรีนด้วยตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็พูดว่า “คุณยายโธมัสครับ นี่เป็นของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผมครับ ผมหวังว่าคุณยายจะรับมันไว้ และผมอยากจะขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นไปเมื่อกี้นี้ ด้วยวันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณยาย ผมหวังว่าคุณยายคงจะให้อภัยผมนะครับ”คุณท่านโธมัสรู้สึกปลื้มใจแล้วรีบพูดขึ้นว่า “คุณเวด ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ จริง ๆ แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้เป็นเพราะหลานชายของฉันทำอะไรผิดไป ฉันมาคิดดูแล้ว… ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะเราละเลยในการอบรมสั่งสอนหลานของเรา จึงทำให้คุณเวดต้องเดือดร้อน”ในขณะที่เธอพูดอยู่นั้น เธอก็มองดูภาพวาดก่อนจะพูดว่า “คุณเวดคะ ภาพวาดนี้มีมูลค่ามากเหลือเกิน ฉันคงรับของขวัญชิ้นนี้ไว้ไม่ได้หรอกค่ะ!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “คุณยายโธมัสครับ ของขวัญชิ้นนี้เป็นเพียงของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผม มูลค่าของของขวัญชิ้นนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลย คุณยายไม่ต้องเกรงใจผมหรอกครับ พูดตามตรงนะครับ ผมไม่ได้ใช้จ่ายเงินกับของขวัญชิ้นนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะคุณโกลดิ้งจากโกลดิ้งกรุ๊ปมอบภาพวาดนี้ให้ผม แล้วผมก็นำมา
เมื่อได้ยินว่าเขาจะต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง ดีแลนก็ส่ายหัวอย่างบ้าคลั่งทันที!เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว เขาคงต้องทนทุกข์ทรมานและรู้สึกคับข้องใจเพียงเล็กน้อย ถ้าเขาต้องอาศัยอยู่ในชุมชนแออัด โดยมีค่าครองชีพเดือนละหนึ่งหมื่นบาท แต่ถ้าเขาต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง เขาก็คงต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมาก และต้องเจอะเจอความยากลำบากมากมายในไซต์ก่อสร้างแห่งนั้นเขาจึงพยักหน้าแบบไม่คิดอะไรทันที “คุณเวดครับ ผมยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดของคุณแล้ว ผมจะไม่ต่อรองอะไรกับคุณแล้วครับ! ขอแค่อย่าส่งผมไปไซต์ก่อสร้างนั้นเลยนะครับ…”ชาร์ลีรู้สึกพอใจมากแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “อย่าลืมปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีหลังจากนายไปถึงที่โอลรัสฮิลล์แล้ว อย่าสร้างปัญหาอะไรเพิ่มขึ้นมาอีกล่ะ ถ้านายยังคงอยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่อไป ทายาทที่ชอบเยาะเย้ยถากถางคนอื่นอย่างนาย ก็อาจก่อให้เกิดหายนะที่ร้ายแรงกว่านี้ได้ในสักวันหนึ่ง นายอาจเข้าไปพัวพันและทำให้ให้ตระกูลโธมัสและตระกูลโคชต้องเดือดร้อนได้!”ในเวลานี้สองพี่น้องอย่างเจริลและจาเวีย์ก็อดที่จะตัวสั่นขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้ดูเหมือนคำพูดของชาร์ลีจะทำให้คนทั้งคู่
สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดก็คือ การปั่นจักรยานอย่างยากลำบากจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ยังพอรับได้ การที่ต้องปั่นจักรยานเป็นเวลาครึ่งเดือน ก็ยังดีเสียกว่าการนอนบนเตียงอยู่ครึ่งเดือนหลังผ่าตัดนอกจากนี้เขายังรู้สึกคับข้องใจอย่างมากในระหว่างการผ่าตัดครั้งล่าสุด ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ยังไม่หายดีเลย ถ้าเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดแบบเดิมอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ เขาก็จะต้องได้รับความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าอย่างแน่นอนในเวลานี้ชาร์ลีพูดขึ้นมาว่า “ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์ก็เพื่อให้นายได้ไปปรับปรุงตัวและกลับเนื้อกลับตัวใหม่ นายคิดว่า การที่ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์เพื่อให้ไปสนุกสนานกับชีวิตที่นั่นเหรอ? จะบอกอะไรให้นะ นายจะต้องปั่นจักรยานธรรมดา ๆ อย่าง Phoenix 28 เท่านั้น ใช้อย่างอื่นไม่ได้เลย! ไม่งั้นฉันจะให้นายปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์พร้อมกับเกวียนที่บรรทุกก้อนอิฐไปจนเต็มคัน!”“แล้วหลังจากนายไปถึงโอลรัสฮิลล์ นอกจากนายจะต้องคอยขับรถรับส่งให้กับลอรีนแล้ว นายต้องเช่าห้องเดี่ยวในชุมชนแออัดคลิฟฟ์คูลส์ด้วย ค่าใช้จ่ายรายเดือนรวมถึงค่าเช่าบ้านของนายจะต้องไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท!”
เมื่อเขาได้ยินว่า จะต้องขี่จักรยานจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์ตลอดทาง และต้องอยู่ในโอลรัสฮิลล์ในฐานะคนขับรถเป็นเวลาหนึ่งปี ดีแลนก็รู้เหมือนกำลังจะตายไปแล้วจริง ๆ ประเด็นก็คือระยะทางจากอีสต์คลิฟฟ์ไปโอลรัสฮิลล์นั้น มีระยะทางมากกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะไม่ตายเพราะหมดแรงถ้าต้องปั่นจักรยานไปตลอดทางจริง ๆ เหรอ?แล้วตอนนี้ก็อยู่ในเดือนธันวาคมซึ่งเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว เขาจะต้องขี่จักรยานตลอดทางไปจนถึงภาคใต้ แล้วไม่ได้รับอนุญาตให้พักในโรงแรมเลยด้วย ข้อกำหนดเหล่านี้รุนแรงเกินไปไม่ใช่เหรอ?ดีแลนรู้สึกเสียใจมากและน้ำตาก็เริ่มไหลอาบใบหน้านี่มันเรื่องบ้าบออะไรกันเนี่ย… เขาเป็นนายน้อยคนที่สามของตระกูลโคช แต่จะต้องขี่จักรยานไปจนถึงโอลรัสฮิลล์? เขาจะไม่ล้มตายไปในระหว่างทางหรอกเหรอ?คงจะน่าทึ่งมากถ้าเขาสามารถปั่นจักรยานได้วันละห้าสิบ หรือหกสิบกิโลเมตรระยะทางกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะต้องปั่นจักรยานไปประมาณยี่สิบวัน!แต่นี่มันเดือนธันวาคมแล้วนะ!เขาสะอึกสะอื้นพร้อมกับพูดว่า “คุณเวดครับ ถ้าผมเริ่มปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์ กว่าจะถึงที่นั่นก็คงเป็นเดือนมกราคมแล้ว น้องสาวผมจะต้องกลับมาฉลองปีใหม่ที่
ลอรีนดีใจมากแล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ขอบคุณมากนะคะชาร์ลี!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “รอเดี๋ยวนะ ผมจะไม่บังคับให้เขากลืนจี้หยกเข้าไป แต่ยังต้องลงโทษเขาด้วยวิธีอื่น ไม่งั้นเขาคงไม่จดจำไว้เป็นบทเรียน”ลอรีนรีบถามว่า “คุณจะลงโทษเขาด้วยวิธีไหนคะ ชาร์ลี? คงไม่ร้ายแรงไปกว่าการกลืนจี้หยกเข้าไปแล้วใช่ไหมคะ?”“ไม่หรอกครับ ชาร์ลียิ้มเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า “คุณมั่นใจได้เลยว่า การลงโทษครั้งนี้จะส่งผลดีกับตัวเขาอย่างแน่นอน”ในที่สุดลอรีนก็รู้สึกสบายใจในขณะที่พูดอย่างเสน่หาว่า “ขอบคุณนะคะชาร์ลี ขอบคุณที่ให้อภัยพี่ชายของฉัน และปล่อยเขาไปเพราะเห็นแก่ฉัน ถ้าอย่างนั้น คุณให้โอกาสฉันได้ตอบแทนคุณดีไหมคะ…”ชาร์ลีถามด้วยความประหลาดใจ “คุณจะตอบแทนผมยังไงเหรอ?”ลอรีนกะพริบตาในขณะที่ยิ้มและพูดอย่างตั้งใจว่า “ฉันสัญญาว่าจะแต่งงานกับคุณ และให้กำเนิดลูกชายตัวอ้วน ๆ เพื่อคุณ! คุณคิดว่ายังไงคะ?”ชาร์ลีตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “อย่าพูดอะไรแบบนี้อีก ผมเป็นสามีของเพื่อนสนิทของคุณนะ!”ลอรีนพยักหน้าก่อนจะพูดอย่างจริงจังว่า “ฉันรู้ค่ะ แต่คุณทั้งคู่แต่งงานกันแบบปลอม ๆ นี่! ก็ยังไม่ถือว่าเป็นการแต่งงานกันอย่างแท้จริง! จริง ๆ แล