หลังจากได้ยินน้ำเสียงเกรี้ยวกราดของราเชล ชายที่มีใบหน้าหยิ่งยโสซึ่งดูเหมือนจะเป็นหัวหน้ากลุ่มก็พูดอย่างเย็นชาว่า “นี่บ้านของพี่ชายคนโตของฉันนะราเชล ฉันต้องขออนุญาตก่อนเข้าบ้านของเขาด้วยเหรอ?”ราเชลพูดด้วยสีหน้าบึ้งตึง “เอเดรียน ฉันเป็นภรรยาของพี่ชายแก ซึ่งก็หมายความว่าบ้านหลังนี้เป็นของฉันครึ่งหนึ่ง ถ้าแกบุกเข้ามาโดยไม่ขออนุญาต เขาก็เรียกว่าเป็นการบุกรุกนะ!”เอเดรียนแสยะยิ้ม เขากวาดตามองราเชลแล้วพูดด้วยสีหน้าบูดบึ้ง “โอ้ ราเชล เธอยังจำได้ด้วยเหรอว่าเธอเป็นภรรยาของพี่ชายฉัน? แล้วเธอทำหน้าที่ภรรยาของเธอสำเร็จหรือยังล่ะ?”ยูลลุกขึ้นยืนด้วยความลำบากแล้วตำหนิติเตียนว่า “เอเดรียน แกพูดกับพี่สะใภ้อย่างนั้นได้อย่างไร? ‘ภรรยาของพี่ชายคนโตควรได้รับความเคารพแบบเดียวกับแม่’ แกรู้บ้างไหม?“ว่าไงนะ?” เอเดรียนทำเสียงเย้ยหยัน “พี่ชายอย่าลืมสิว่าเธอเป็นคนนอกของตระกูลโกลดิ้ง นอกจากนี้ในฐานะลูกสะใภ้คนโตของตระกูลโกลดิ้ง เธอไม่สามารถให้กำเนิดทายาทที่เป็นผู้ชายได้ ส่งผลให้ไม่มีหลานชายคนโตไปร่วมทำพิธีในงานศพของพ่อแม่ของเราได้! เธอเป็นตัวกาลกิณีของครอบครัวเรา!เมื่อได้ยินดังนั้น ใบหน้าของราเชลก็เปลี่ยนเป
วิลเฮล์มยิ้มอย่างภาคภูมิใจในตัวเอง “แหม! ควินน์ ช่างเป็นคนอารมณ์ร้อนซะจริงนะ เราเป็นคนรุ่นราวคราวเดียวกันในตระกูลโกลดิ้ง เธออายุมากกว่าฉันแล้วจะยังไงเหรอ? อย่าลืมนะว่าเธอเป็นแค่ผู้หญิงที่จะต้องแต่งงานกับผู้ชายคืนอื่นไปไม่ช้าก็เร็ว พอแต่งออกไปแล้วเธอก็ไม่ใช่คนของตระกูลโกลดิ้งอีกต่อไป เธอจะกลายเป็นคนนอก… รู้ตัวไหม?”ชาร์ลีอ้าปากเหมือนจะพยายามจะพูดอะไร แต่เขาก็ยั้งใจเอาไว้เพราะไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามนี่เป็นเรื่องภายในของตระกูลโกลดิ้ง เขาในฐานะคนนอกไม่มีสิทธิ์เข้าไปแทรกแซง เขาไม่มีเหตุผลที่เหมาะสมที่จะเข้าไปก้าวก่ายในเวลานี้นอกจากนี้ก็ยังไม่ชัดเจนว่าจุดประสงค์ที่เอเดรียนและโรแกนมาที่นี่ในวันนี้คืออะไร ฉะนั้นเขาจึงตัดสินใจรอดูสถานการณ์อีกสักพักหนึ่งก่อนในเวลานี้ยูลส่งเสียงตวาดอย่างโกรธเกรี้ยว “พอได้แล้ว! หยุดพูดกันซะที!”เสียงคำรามอันเกรี้ยวกราดของเขาทำให้ผู้คนเหล่านั้นเงียบเสียงลงได้ เขาหันไปหาเอเดรียนและโรแกน แล้วถามอย่างเย็นชาว่า “เอเดรียน โรแกน ฉันไม่สนใจหรอกว่าพวกแกมาที่นี่กันทำไม แต่แกมีอะไรจะพูด ก็หยุดพูดจาอ้อมค้อมเหมือนผู้ชายตุ้งติ้งได้แล้ว พูดออกมาตรง ๆ ซะ อย่าทำให้ตระกูลของเร
ถึงแม้ว่าเอเดรียนและโรแกนจะเห็นชาร์ลีตั้งแต่เดินเข้ามาในบ้านแล้ว แต่พวกเขาต่างก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับการอยู่ตรงนั้นของเขาเลยเป้าหมายในการมาเยือนของเขาในวันนี้คือยูล ราเชล และควินน์ ดังนั้นพวกเขาจึงทำเหมือนว่าชาร์ลีและเหล่าคนรับใช้เหล่านั้นคือสิ่งที่มองไม่เห็นพวกเขาไม่คิดไม่ฝันว่าชายหนุ่มคนนี้จะกล้าเรียกพวกเขาว่าไอ้สารเลว พวกเขาจึงรู้สึกโกรธชาร์ลีขึ้นมาทันทีจริง ๆ แล้วตระกูลโกลดิ้งเป็นตระกูลอันดับสามในอีสต์คลิฟฟ์ เมื่อพูดในแง่ของความร่ำรวย โดยมีมูลค่าทรัพย์สินโดยรวมอยู่ที่หลายล้านล้านดอลลาร์ มีเพียงตระกูลเวดและตระกูลซูลซ์เท่านั้นที่อยู่เหนือกว่า ถึงแม้ว่าเอเดรียนและโรแกนจะได้รับทรัพย์สินของตระกูลโกลดิ้งเพียงคนละ 25% เท่านั้น แต่พวกเขาก็ได้ชื่อว่าเป็นมหาเศรษฐีอันดับต้น ๆ ของเมืองนี้ ที่เอาชนะผู้ที่ติดอันดับในรายช่ือผู้ชายที่ร่ำรวยที่สุดในโลกได้พวกเขารับไม่ได้ที่มีชายหนุ่มจากไหนก็ไม่รู้มาตะโกนด่าเขา เอเดรียนจึงชี้หน้าชาร์ลีอย่างเดือดดาล แล้วตะโกนว่า “ไอ้หนู รู้ไหมว่าฉันเป็นใคร? กล้าดียังไงมาพูดกับฉันแบบนี้! แกอยากจะตายหรือไง?”ชาร์ลีทำเสียงเย้ยหยัน “ฉันรู้! แกมันก็คือไอ้คนเฮงซวยหม
ในเวลานี้ชายหนุ่มที่มีอายุแก่กว่าและใจเย็นกว่าวิลเฮล์มเล็กน้อยได้พูดขึ้นมาว่า “พี่ชาย นี่เป็นเรื่องของครอบครัวโกลดิ้ง ฉะนั้นกรุณาอย่าเข้ามาก้าวก่ายในเรื่องนี้ดีกว่านะครับ”คนที่พูดก็คือริกลีย์ โกลดิ้ง ลูกชายของเอเดรียนซึ่งเป็นหลานชายคนโตของนายท่านโกลดิ้งเนื่องจากควินน์เป็นผู้หญิง ริกลีย์จึงถือเป็นหลานคนโตของตระกูลชาร์ลีมองไปที่ริกลีย์แล้วพูดเรียบ ๆ ว่า “ถ้าคุณมีอะไรจะพูดก็พูดดี ๆ อย่าทำเป็นกร่างเข้ามาเห่าหอนในบ้านคนอื่นเหมือนฝูงหมาบ้า ตระกูลโกลดิ้งถือเป็นตระกูลที่น่านับถือในอีสต์คลิฟฟ์ ฉะนั้นก็โปรดควบคุมตัวเองเวลาอยู่ข้างนอกด้วย อย่าปล่อยให้คนอื่นคิดว่าคุณไม่มีการศึกษาป่าเถื่อน!”“แก…” เมื่อวิลเฮล์มได้ยินดังนั้น เขาก็กัดฟันอย่างโกรธเกรี้ยวและอยากกระโจนเข้าใส่ชาร์ลีริกลีย์หยุดเขาไว้ได้ทัน จากนั้นเขาก็มองชาร์ลีด้วยสายตาเย็นชา แล้วพูดกับเอเดรียนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ว่า “พ่อครับ เลิกอ้อมค้อมและเข้าประเด็นกันได้แล้ว”เอเดรียนจ้องมองชาร์ลีอย่างเย็นชา เขาตัดสินใจแล้วว่าไม่ว่าเด็กคนนี้จะเป็นใคร เขาก็ต้องชดใช้ด้วยเลือดหลังจากทำธุระในวันนี้เสร็จแล้ว เขาอยากจะสั่งสอนเด็กคนนี้ให้เรียนรู้ความเ
เอเดรียนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ รีบหัวเราะแล้วพูดว่า “นี่ โรแกน แกพูดกับพี่ชายเราแบบนั้นได้ยังไง? ตอนนี้เขาอ่อนแอมาก ถ้าแกทำให้เขาโกรธแล้วเขาเกิดตายขึ้นมาก่อนจะทันได้เปลี่ยนพินัยกรรม เราก็ต้องไปต่อสู้กับพี่สะใภ้และหลานสาวของเราน่ะสิ ฉันไม่อยากจะทำแบบนั้นหรอกนะ”โรแกนหัวเราะคิกคักอย่างชั่วร้าย “เอเดรียน พี่พูดถูก ฉันทำเกินไปหน่อย ขอโทษที!”จากนั้นเขาก็หันไปหายูล ยิ้มอย่างเสแสร้งแล้วพูดว่า “พี่ยูล ฉันขอโทษ เมื่อกี้นี้ฉันใช้คำรุนแรงเกินไปหน่อย ได้โปรดอย่าถือสาเลยนะ”เอเดรียนหัวเราะเบา ๆ อยู่ข้าง ๆ แล้วพูดว่า “อย่างไรก็ตามนะ ยูล ถึงแม้โรแกนจะใช้คำรุนแรงเกินไปหน่อย แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรผิด พี่ลองคิดดูสิ ไม่มีใครทนเห็นทรัพย์สินของครอบครัวมูลค่าหลายแสนล้านตกไปอยู่ในมือของคนนอก ถ้าพี่ร่วมมือกับเรา ราเชลกับนานาก็ยังได้รับส่วนแบ่ง 20% เมื่อพี่จากไปแล้ว…”เมื่อพูดมาถึงจุดนี้ สีหน้าของเอเดรียนดูน่ากลัวมากและน้ำเสียงของเขาก็ฟังดูหมองม่นเหลือเกิน เขากัดฟันแล้วคำรามออกมาว่า “แต่ถ้าพี่ไม่ยอมร่วมมือกับเรา ฉันก็อาจหมดความอดทนและลงมือทำอะไรบางอย่างกับพี่และครอบครัวของพี่ ก่อนที่พี่จะลงไปนอนอยู่ในหลุม ถ้าครอ
ยูลหันไปหาเอเดรียนแล้วพูดในขณะที่กัดฟันด้วยความตกตะลึงว่า “เอเดรียน! บอกให้พวกเขาหยุดเดี๋ยวนี้ อย่าทำร้ายชาร์ลีนะ! ฉันยอมรับเงื่อนไขของแกแล้ว!”ในความคิดเห็นของยูลนั้น ชาร์ลีไม่ได้เป็นเพียงลูกเขยในอนาคตของเขาเท่านั้น แต่ยังเป็นสายเลือดของเพื่อนรักที่เสียชีวิตไปนานแล้วของเขาด้วย ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เขาจะไม่ทนนั่งดูให้ชาร์ลีต้องตายไปเฉย ๆ เพราะเขาหรอกถ้าเป็นอย่างนั้นเขาคงรู้สึกละอายใจที่ต้องไปพบหน้าพ่อแม่ของชาร์ลี ถ้าเขาต้องไปอยู่ในปรโลกหลังตายไปแล้วในขณะที่ยังถือข้อมือของตัวเองอยู่นั้น เอเดรียนก็กัดฟันอย่างเดือดดาลแล้วก่นด่าว่า “อ้อ ตอนนี้ต้องการประนีประนอมกับเราแล้วเหรอ? สายไปแล้วล่ะ! ไอ้เด็กนั่นทำร้ายฉัน ฉันคงต้องฆ่ามันทิ้งซะ!”จากนั้นเขาก็หันไปหาบอดี้การ์ดแล้วพูดว่า “ฆ่ามันซะ! เดี๋ยวนี้เลย!”สีหน้าบูดบึ้งและแฝงความเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของบอดี้การ์ดสองคนนั้น หนึ่งในนั้นเป็นที่รู้จักในนาม ‘จ้าวนักรบ’ ส่วนอีกคนหนึ่งคือ ‘จ้าวดินแดน’ คนพวกนี้ขึ้นชื่อในเรื่องความโหดเหี้ยมในโลกใต้ดิน ตอนนี้พวกเขาถูกเด็กสารเลวที่รู้ศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวนิด ๆ หน่อย ๆ ทำให้ขายหน้า พวกนั้นรู
เมื่อมาถึงจุดนี้ทุก ๆ คนที่อยู่ในที่เกิดเหตุต่างตกตะลึงจนพูดอะไรไม่ออกไม่ใช่แค่เอเดรียนและโรแกนที่เข้าไปสร้างปัญหาที่นั่นเท่านั้น แต่สมาชิกทั้งสามคนในครอบครัวของยูลก็ล้วนพูดอะไรไม่ออกด้วยความตกตะลึงเช่นกันจ้าวนักรบและจ้าวดินแดนเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องความโหดเหี้ยมป่าเถื่อนในอีสต์คลิฟฟ์ พวกเขาฆ่าคนมานับไม่ถ้วนและไม่เคยพ่ายแพ้ใครเลย แค่ได้ยินชื่อก็ทำให้คนหน้าซีดตัวสั่นกันได้แล้วแต่ความแข็งแกร่งของเขากลับไร้ประโยชน์ เมื่อพวกเขารวมตัวกันต่อสู้กับชาร์ลีโดยปกติแล้วการท้าทายกันไปมาถือเป็นเรื่องปกติในการต่อสู้กันทางร่างกาย การเตะและต่อยรวมทั้งการหาจุดอ่อนของคู่ต่อสู้ก็นับเป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้ป้องกันตัวแต่ชาร์ลีรีบวิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว แล้วบีบคอคู่ต่อสู้ที่ทรงพลังสองคนราวกับเป็นคู่ต่อสู้ที่ไร้ค่า ซึ่งทำให้ผู้คนสงสัยว่าชาร์ลีมีความแข็งแกร่งขนาดไหนกัน!ชาร์ลีไม่ได้สนใจอาการอ้าปากค้างด้วยความตกใจจากคนรอบข้าง เขามองไปที่ชายสองคนที่อยู่ในมืออย่างดูถูกเหยียดหยาม แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เดี๋ยวจะหาว่าฉันจะไม่ให้โอกาสแกได้มีชีวิต คุกเข่าต่อหน้าฉันแล้วเรียกฉันว่าป๊ะป๋าซะ ถ้าแก
”โอ้” ชาร์ลีพยักหน้ารับรู้แล้วพูดพร้อมกับรอยยิ้ม “สวัสดีจ้าวดินแดน ยินดีที่ได้รู้จัก ฉายาของแกนี่เท่จัง แต่ฉันเองก็มีฉายาเหมือนกันนะ ผู้คนในเมืองของฉันเป็นคนตั้งให้ ฉันสงสัยจังว่าฉายาของใครจะยอดเยี่ยมกว่ากัน ของฉันหรือของแก?”จ้าวดินแดนถามว่า “ฉายาของนายคืออะไร?”ชาร์ลียิ้มอ่อน ๆ “มังกรที่แท้จริง”สีหน้าของจ้าวดินแดนเปลี่ยนไปเมื่อได้ยินคำพูดของชาร์ลีมังกรที่แท้จริง?อะไรกันวะเนี่ย!นี่จะไม่โอ้อวดกันมากไปหน่อยเหรอ?ชาร์ลีไม่สนใจที่จะต่อล้อต่อเถียงอีกต่อไป เขารวบรวมพลังไว้ในมืออีกครั้ง แล้วพูดด้วยสีหน้าที่ดูว่างเปล่า “แกจะมีชีวิตอยู่ต่อไปถ้าคุกเข่า แต่ถ้าไม่แกก็ต้องตาย แกมีเวลาเลือกสามวินาที”จ้าวดินแดนรู้สึกประหวั่นพรั่นพรึงมากเมื่อรู้สึกถึงแรงบีบที่คอเพิ่มมากขึ้น เขาตะโกนออกมาด้วยความกลัว “โอเค! ฉันจะทำ! ฉันจะคุกเข่า!”ชาร์ลีจ้องมองสิ่งที่เรียกว่าจ้าวนักรบแล้วถามว่า “แล้วแกล่ะ พี่จ้าวนักรบ? จะคุกเข่าไหม?“คุณเข่าสิ! ฉันจะคุกเข่าด้วย!”จ้าวนักรบก็รู้ตัวว่าการมีชีวิตรอดแบบเดียวกับหมา ก็ยังดีกว่าการตายแบบสิงโต เขาจึงพยักหน้าโดยไม่ลังเลอะไรเลยชาร์ลียิ้มอย่างพอใจ จากนั้นเขาก็