จิโร่โกรธและผิดหวังอย่างมากในเวลานี้ยาแก้โรคกระเพาะของนักปรุงยามีสรรพคุณในการรักษาแบบเดียวกับยาแก้โรคกระเพาะโคบายาชิ นี่เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการทดสอบเพื่อวัดความสามารถด้วยตัวมันเองแต่ประสิทธิภาพของยาแก้โรคกระเพาะของนักปรุงยานั้นมีความแข็งแกร่งกว่ายาแก้โรคกระเพาะโคบายาชิ!ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่แย่ยิ่งกว่าก็คือข้อกำหนดของบรรจุภัณฑ์ ปริมาณสุทธิของยา และราคาของยาแก้โรคกระเพาะของนักปรุงยา ล้วนเหมือนกับยาแก้โรคกระเพาะโคบายาชิทุกประการ!นี่ทำให้จิโร่รู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก!ยาแก้โรคกระเพาะของนักปรุงยานั้นดีกว่ายาแก้โรคกระเพาะโคบายาชิเป็นอย่างมาก แต่ปริมาณและราคายานั้นเท่ากันทุกอย่างนี่ไม่ได้เป็นการผลักดันให้ยอดขายของยาแก้โรคกระเพาะโคบายาชิไปถึงทางตันหรอกเหรอ?!นอกจากนี้การที่ควินน์ โกลดิ้งให้การรับรองยาแก้โรคกระเพาะของนักปรุงยา ก็ทำให้ยานี้กลายเป็นที่นิยมอย่างมากในตลาดของชาวออสเกียนอย่างฉับพลันทันที นี่เท่ากับเป็นการตัดอนาคตในการขยายตลาดที่จะนำยาแก้โรคกระเพาะโคบายาชิเข้าสู่ตลาดของชาวออสเกียน!ยิ่งไปกว่านั้น การพ่ายแพ้ให้กับยาแก้โรคกระเพาะโคบายาชิในตลาดภายในประเทศของชาวออสเกียนนั้นเป็
ผู้ช่วยของเขาตอบด้วยความลำบากใจ “ท่านประธานครับ ผมไม่รู้เรื่องนั้นเลยครับ ทางนั้นรีบวางสายโดยไม่ยอมให้ผมได้ถามรายละเอียดอะไรเลย…”“ไอ้สารเลวเอ๊ย!” จิโร่ตอบอย่างโกรธเกรี้ยว “ถ้าเป็นอย่างนั้น เราคงทำได้แค่หาวิธีจัดการกับบริษัทนักปรุงยาเภสัชกรรม ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ฉันจะต้องเข้าไปซื้อสูตรปรุงยาที่ได้รับสิทธิบัตรนั้นให้ได้ไม่ว่าจะต้องเสียเงินมากมายขนาดไหน!”ผู้ช่วยถามอย่างระมัดระวังว่า “ท่านประธานครับ ยานั้นใช้ได้ผลดีหรือเปล่าครับ?”“มันใช้ได้ผลดีมากเลยล่ะ…” จิโร่ตอบด้วยท่าทางที่ดูสิ้นหวัง “ดีกว่ายาแก้โรคกระเพาะโคบายาชิอย่างน้อยสิบเท่า!”ผู้ช่วยของจิโร่ตกใจมาก “สิบเท่า? มีความแตกต่างกันมากถึงขนาดนั้นเลยเหรอครับ?!”จิโร่พยักหน้า จากนั้นก็พูดด้วยสีหน้าที่ดูเศร้าหมอง “อย่าแพร่เรื่องนี้ออกไปสู่สาธารณะล่ะ ถ้าเราได้สูตรปรุงยาแก้โรคกระเพาะของนักปรุงยา เราก็จะสามารถพลิกผันทุกอย่างได้ แม้กระทั่งยกระดับโคบายาชิ ฟาร์มาขึ้นไปอีกขั้น แต่ถ้าเราไม่ได้สูตรปรุงยานั้นมาล่ะก็ โคบายาชิ ฟาร์มาต้องเดือดร้อนแน่!”ทันทีที่ได้ยินดังนี้ผู้ช่วยของจิโร่ก็อดที่จะถามไม่ได้ว่า “ท่านประธานครับ สูตรปรุงยาดี ๆ แบบน
วันรุ่งขึ้นจิโร่ออกเดินทางตั้งแต่เช้าตรู่ โดยมุ่งตรงไปยังบริษัทนักปรุงยาเภสัชกรรมหลังจากชาร์ลีทานอาหารฝีมือเอเลนแม่ยายของเขาเสร็จแล้ว เขาก็ขอยืมรถของพ่อตาขับไปยังสนามกีฬาโอลรัสอันที่จริงหลังจากเอเลนปรับเปลี่ยนทัศนคติจนกลายเป็นคนว่านอนสอนง่าย ชาร์ลีก็ใช้ชีวิตที่บ้านได้อย่างสบายใจมากขึ้น นับตั้งแต่ชาร์ลีบอกเอเลนว่าจะให้เงินเธอเป็นจำนวนมาก เพื่อเป็นค่าดูแลลูก ๆ หลังแคลร์คลอด เอเลนก็เริ่มพยายามเอาอกเอาใจชาร์ลีบ่อยขึ้น ในขณะเดียวกันก็พยายามเกลี้ยกล่อมให้แคลร์มีลูกให้เร็วที่สุดถึงแม้ว่าเอเลนจะแต่งงานกับจาค็อบมาหลายปีแล้ว แต่ทักษะการทำอาหารของเธอก็ไม่เคยพัฒนาขึ้นเลยตลอดหลายปีที่ผ่านมา ท้ายที่สุดแล้วเธอก็แค่พยายามแกล้งทำดีกับสามีและลูกสาวของเธอเท่านั้นแต่ตอนนี้เอเลนกำลังเริ่มศึกษาและอ่านสูตรการทำอาหารบนโทรศัพท์มือถือ เพียงเพราะเธอต้องการดูแลชาร์ลีซึ่งเป็นลูกเขยของเธอให้ดี เพื่อที่เธอจะได้มีชีวิตที่ดีในอนาคตตอนนี้เธอรู้สำนึกแล้วถึงแม้ว่าชาร์ลีจะเป็นเด็กกำพร้าที่ไม่มีภูมิหลังอะไรเลย แต่เขาก็มีความเชี่ยวชาญในเรื่องการดูฮวงจุ้ย พูดง่าย ๆ ก็คือครอบครัวนี้จะไม่ขัดสนเรื่องเงินทองในอนา
เธอเป็นดั่งดอกไม้ที่ส่งกลิ่นหอมและสุดสวยงาม ใคร ๆ ก็อยากเอาอกเอาใจเธอ และแสดงความเอาใจใส่และห่วงใยเธอถึงแม้ว่าชาร์ลีจะไม่ได้ชอบเธอในเชิงชู้สาว แต่เขาก็ให้ความยอมรับนับถือและชื่นชมในความเป็นตัวเธออย่างมาก ถ้าเขาให้ความชื่นชมใครก็ตาม เขาก็ย่อมไม่อยากให้คนคนนั้นได้รับอันตรายใด ๆ เป็นธรรมดาแต่คู่ต่อสู้ที่นานาโกะจะต้องเผชิญหน้าก็คือสาวซ่าอย่างออโรร่าชาร์ลีหวังเป็นอย่างยิ่งว่าออโรร่าจะสามารถคว้าตำแหน่งผู้ชนะเลิศได้ ในขณะเดียวกันก็สามารถนำเกียรติยศศักดิ์ศรีมาสู่ชาวออสเกียนได้แต่โดยส่วนตัวแล้วเขาไม่อยากให้นานาโกะต้องได้รับบาดเจ็บมากเกินไปบางทีเขาก็อยากชักจูงให้ออโรรารู้จักยับยั้งตัวเองเอาไว้บ้าง เพื่อที่เธอจะได้ไม่ทุ่มพลังไปทั้งหมดหลังจากขึ้นสังเวียนไปแล้ว วิธีนี้จะช่วยให้เธอไม่ต้องทำร้ายนานาโกะมากเกินไปแต่ชาร์ลีล้มเลิกความคิดนี้หลังจากลังเลอยู่พักหนึ่งนี่เป็นเพราะเขารู้ว่าไม่ควรเข้าไปแทรกแซงในการแข่งขันของออโรร่าถ้าเขาพูดเรื่องนี้กับออโรร่า เธอจะต้องตกใจและผิดหวังอย่างแน่นอนเพราะท้ายที่สุดแล้วเขาคือปรมาจารย์เวดที่เธอให้ความชื่นชมอย่างสุดหัวใจ และเขาก็ทำหน้าที่เป็นโค้ชคนปัจ
คนหนุ่มสาวชอบติดตามเทรนด์ล่าสุดถ้าคุณต้องการเปรียบเทียบเทรนด์และแฟชั่นที่กำลังเป็นที่นิยมกันอยู่ล่ะก็ ญี่ปุ่นไม่มีทางจะยอมอ่อนข้อให้ออสเกียแน่นอนอาจกล่าวได้ว่ากระแสนิยมและแฟชั่นในประเทศญี่ปุ่นนั้นมีระดับสูงกว่าประเทศออสเกียนั่นคือเหตุผลว่าทำไมจึงมี ‘วัฒนธรรมป็อบ’ ของญี่ปุ่น และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมสาว ๆ ถึงมีทรงผม การทำเล็บ การแต่งหน้า และอื่น ๆ ในสไตล์ญี่ปุ่นอาจกล่าวได้ว่าสาวญี่ปุ่นคือแฟชั่นนิสต้ากันทุกคน นั่นคือเหตุผลว่าทำไมพวกเขาส่วนใหญ่ถึงชอบอาศัยอยู่ในมหานครที่ทันสมัยอย่างโตเกียวแต่อย่างไรก็ตาม นานาโกะเป็นข้อยกเว้นเธอไม่เคยชอบข้าวของทันสมัยหรือกำลังอยู่ในกระแสนิยมเลยในทางตรงกันข้ามเธอชื่นชมวัฒนธรรมที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณมาโดยตลอดยกตัวอย่างเช่น เธอชอบศึกษาศิลปะการชงชา ประวัติชาวออสเกียนโบราณ บทกวีโบราณ และแม้แต่สถาปัตยกรรมและเสื้อผ้าโบราณดังนั้นเมืองเกียวโตจึงเข้ากับอารมณ์และบุคลิกของเธอได้อย่างลงตัวเธอรู้ด้วยว่าเธอจะไม่ได้อะไรดี ๆ จากการแข่งขันในวันนี้เลย ถึงแม้ว่าเธอไม่มีทางพลาดพลั้งถึงแก่ชีวิต แต่ก็ไม่น่ารอดพ้นจากชะตากรรมที่ต้องได้รับบาดเจ็บสาหัสในการแข่งขันค
หญิงสาวทั้งสองคนนี้ไม่ได้ชายตามองผู้ตัดสินหรือมองกันและกันเลย แต่ใช้สายตาจับจ้องไปที่ชาร์ลีซึ่งนั่งอยู่ท่ามกลางผู้ชมจำนวนมากชาร์ลีก็รู้สึกเครียดเล็กน้อยด้วยเหมือนกันเขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าหญิงสาวสองคนนี้จะไม่ยอมเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการแข่งขัน แต่กลับจ้องมองมาที่เขาทันทีที่ขึ้นไปอยู่บนสังเวียนเขาหน้าตาดีขนาดนั้นเลยเหรอ? พวกเธอควรใส่ใจกับเรื่องที่สำคัญกว่าไม่ใช่เหรอ?!ในขณะที่เขากำลังคิดถึงเรื่องนี้อยู่นั้น ผู้ตัดสินที่ยืนอยู่ในสนามประลองก็รู้สึกเขินอายด้วยเหมือนกัน เขากระแอมกระไอสองสามครั้งก่อนจะพูดว่า “พวกคุณฟังที่ผมพูดอยู่หรือเปล่าครับ?”ออโรร่าเป็นคนแรกที่ได้สติ แล้วหน้าก็เริ่มแดงในขณะที่พูดว่า “ขอโทษค่ะกรรมการ ฉันคิดโน่นคิดนี่เพลินไปหน่อยค่ะ”ผู้ตัดสินทำอะไรไม่ถูกก่อนจะมองไปที่นานาโกะแล้วพูดว่า “แล้วคุณล่ะครับ คุณอิโตะ?”ใบหน้าของนานาโกะมีสีแดงระเรื่อขึ้นทันที แล้วรีบพูดเบา ๆ ว่า “ขอโทษค่ะกรรมการ ฉันคิดฟุ้งซ่านอยู่เล็กน้อยน่ะค่ะ”พอพูดจบเธอก็อดที่จะเหลือบมองออโรร่าไม่ได้ แล้วเห็นว่าออโรร่าทำท่าเอียงอายและขวยเขินราวกับหญิงหญิงตัวเล็ก ๆ อยู่ในเวลานี้เธออดสงสัยไม่ได้ว่าออโ
เนื่องจากก่อนหน้านี้หญิงสาวทั้งสองคนต่างก็ดูเหม่อลอยกันมาก เมื่อผู้ตัดสินประกาศว่าการแข่งขันได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว หญิงสาวทั้งสองคนนั้นก็ไม่สามารถกลับมามีสติรู้ตัวได้ทันทีดังนั้นบรรยากาศในสังเวียนการต่อสู้จึงดูค่อนข้างแปลกไปเล็กน้อยทันทีที่ผู้ตัดสินประกาศเริ่มการแข่งขัน และเดินถอยห่างจากคนทั้งคู่ออกไปอย่างรวดเร็ว ก็เป็นที่เข้าใจได้ว่านักกีฬาทั้งสองฝ่ายจะต้องจับจังหวะของตนเอง แล้วเริ่มต้นหาทางโจมตีทันที แต่คนทั้งสองกลับยังอยู่ในอาการงุนงงโดยยืนนิ่งอยู่ในสังเวียนนั้นอีกสองสามวินาทีในเวลานี้นี่เองที่มีผู้ชายคนหนึ่งตะโกนขึ้นมาว่า “ออโรร่า! คุณมัวทำอะไรอยู่?! จะยืนงงอยู่อย่างนั้นทำไมกัน?! รีบเอาชนะผู้หญิงชาวญี่ปุ่นคนนั้นเสียทีสิ!”“ใช่แล้วออโรร่า! ถึงเวลาต้องคว้าชัยชนะและนำเกียรติยศศักดิ์ศรีมาสู่ประเทศของเราแล้วนะ!”“โอ้! ออโรร่า ผู้หญิงชาวญี่ปุ่นคนนั้นช่างสวยเสียจริง ๆ สัญญากับผมได้ไหมว่าคุณจะไม่ชกหน้าเธอ?”ออโรร่ารู้สึกกดดันเล็กน้อยการแข่งขันครั้งนี้เป็นการแข่งขันระดับสูงสุดที่เธอเคยเข้าร่วมหลังจากเฝ้ารอมานานแต่นี่ยังเป็นการแข่งขันที่ไม่มีบรรยากาศเอาเสียเลยดังนั้นเ
ชาร์ลีรู้สึกทึ่งและประทับใจกับการตอบโต้ที่ยอดเยี่ยมของนานาโกะเป็นอย่างมากแน่นอนว่าประสบการณ์นั้นไม่สามารถทดแทนด้วยความแข็งแกร่งเพียงอย่างเดียวได้ตอนนี้ออโรร่าเป็นคนขับรถซูเปอร์คาร์ไปเรียบร้อยแล้ว รถของเธอมีพลังและเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วมาก แต่เธอไม่รู้หรือไม่เข้าใจสภาพถนนที่จะขับไปให้ถึงจุดหมาย เธอไม่รู้ว่าจะต้องเลี้ยวตรงไหน และไม่รู้ว่ามีหลุมบ่อหรือทางลัดอยู่ตรงไหนบ้างถึงแม้ว่ารถของนานาโกะจะไม่แรงเท่ารถซูเปอร์คาร์ของออโรร่า แต่เธอก็คุ้นเคยกับสภาพถนนเป็นอย่างดี และเธอก็เข้ากับทุกรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้เป็นอย่างดีด้วยดังนั้นถึงแม้ว่าคนขับรถทั้งสองคนนี้จะต้องมาขับรถแข่งกัน และถึงแม้ว่ารถซูเปอร์คาร์จะชนะการแข่งขันในที่สุด แต่นี่ก็อาจไม่ใช่การแข่งขันที่ง่าย ๆ เสมอไปถึงแม้ว่านานาโกะจะหลบหลีกการโจมตีของออโรร่าได้ แต่เธอก็ไม่กล้าที่จะประเมินคู่ต่อสู้ต่ำนี่เป็นเพราะจากการโจมตีเพียงครั้งเดียว นานาโกะก็สามารถสัมผัสถึงพลังของออโรร่าได้อย่างชัดเจน และเธอรู้ว่าออโรร่ามีพละกำลังที่ทรงพลังเป็นอย่างมาก!โชคดีที่เธอใช้ฝ่ามือในการหลบเลี่ยงการโจมตีได้ ไม่เช่นนั้นถ้าเธอป้องกันการโจมตีด้