ในขณะที่เขานึกถึงอดีตอยู่นั้น สตีเฟนก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้หนักมากจนหายใจติด ๆ ขัด ๆ แล้วจากนั้นเขาก็เงียบเสียงไปชาร์ลีรู้สึกหัวใจเต้นแรงเมื่อเขาได้ยินสตีเฟนร้องไห้สะอึกสะอื้นถึงแม้ว่าเวลาจะล่วงเลยไปหลายปีแล้ว แต่ชาร์ลียังรู้สึกเจ็บปวดและแค้นเคืองอยู่ภายในใจลึก ๆ เมื่อเขาคิดได้ว่าพ่อแม่ของเขาไม่ได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ แต่กลับโดนฆาตกรรม!ในฐานะที่เป็นลูกชาย… เขายอมไม่ได้อย่างเด็ดขาดกับความบาดหมางทางสายเลือดของพ่อแม่เขาจะพยายามอย่างสุดความสามารถในการล้างแค้นให้กับพ่อแม่ ถึงแม้ว่าสตีเฟนจะไม่พูดออกมาก็ตาม!ไม่เช่นนั้นเขาก็ไม่สมควรที่จะเป็นลูกชายของพวกเขา!ชาร์ลีจึงตอบอย่างไม่แยแสว่า “คุณธอมป์สัน คุณไม่ต้องกังวลกับเรื่องนี้หรอกครับ ผมขอสาบานต่อพระเจ้าว่า ผมชาร์ลี เวด จะขอล้างแค้นให้กับการตายของพ่อแม่ด้วยมือของผมเอง! ผมจะจัดการกับทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหารพ่อแม่ของผม และจะไม่ยอมปล่อยให้พวกเขาลอยนวลไปแม้แต่คนเดียว!”“เยี่ยมไปเลยครับ!” สตีเฟนรู้สึกตื่นเต้น แต่พูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูจริงจังว่า “นายน้อยครับ คุณไม่ควรทำอะไรหุนหันพลันแล่นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมยังไม่ได้สะสางเงื่
เมื่อเห็นสตีเฟนวางสายโทรศัพท์แล้ว ผู้อำนวยการก็ถามอย่างนอบน้อมว่า “คุณธอมป์สันครับ ตอนนี้เราควรทำยังไงดีครับ?”สตีเฟนถอนหายใจก่อนจะพูดว่า “ในเมื่อนายน้อยรู้เรื่องนี้แล้ว คุณก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าอีกต่อไป ในอนาคตผมจะจัดการให้คุณกลับไปรับตำแหน่งในตระกูลเวด ขอบคุณสำหรับการทำงานหนักตลอดหลายปีที่ผ่านมา!”ผู้อำนวยการโค้งคำนับทันทีแล้วพูดว่า “คุณธอมป์สัน นายท่านรองตอนที่มีชีวิตอยู่นั้นเป็นคนใจดีและมีเมตตาต่อผมมาก ผมจะยังคงรับใช้นายน้อยชาร์ลีต่อไปจนวันตาย!”สตีเฟนพยักหน้าก่อนจะพูดว่า “พวกคุณทั้งหมดเป็นบุคคลระดับสุดยอด ที่ได้รับการเลี้ยงดูและฝึกฝนโดยนายท่านรอง ซึ่งไม่เพียงแต่เหน็ดเหนื่อยและน่าเบื่อเท่านั้น แต่ยังต้องทุกข์ทรมาณกับความอยุติธรรมมากมาย ในการถูกบีบคั้นและให้อยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเล็ก ๆ เช่นนี้มานานกว่าสิบปี คุณควรใช้โอกาสนี้พักผ่อนให้สบายใจในช่วงเวลานี้ซะนะ”“เมื่อนายน้อยได้สืบทอดมรดกของตระกูลเวดขึ้นมาในวันหนึ่ง พวกคุณทุกคนก็จะกลายเป็นคนที่นายน้อยสามารถพึ่งพาและไว้วางใจได้มากที่สุด ดังนั้นคุณควรจงรักภักดีต่อนายน้อย และเต็มใจเสียสละตัวเองเพื่อเขา!”“คุณเฝ
ชาร์ลีขี่จักรยานยนต์ไปที่สตูดิโอของภรรยา ทันทีที่เขาก้าวเข้าไปในสตูดิโอแห่งนั้น แคลร์ก็ถามขึ้นด้วยความประหลาดใจว่า “ทำไมตาของคุณถึงแดงก่ำอย่างนั้นล่ะคุณสามี?”“จริงเหรอ?”ชาร์ลีถามในขณะที่ยื่นมือออกไปขยี้ตาก่อนจะยิ้มแล้วพูดว่า “ลมคงพัดเม็ดทรายบนถนนเข้าตาตอนที่ขี่มอเตอร์ไซค์มาที่นี่ล่ะมั้ง”แคลร์ตอบด้วยความกลุ้มใจว่า “อย่าขี่มอเตอร์ไซค์ไปไหนมาไหนตลอดเวลาสิคะ คุณซื้อรถยนต์ให้ครอบครัวเราตั้งสองคัน แต่คุณกลับต้องขี่รถมอเตอร์ไซค์ทุกวันเลย ฉันรู้สึกแย่มากเลยนะ”“ไม่เป็นไรหรอก” ชาร์ลียิ้มก่อนจะตอบแบบสบาย ๆ ว่า “ผมชอบขี่มอเตอร์ไซค์น่ะ เพราะสะดวก รวดเร็ว เรียบง่าย และยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าด้วย”แคลร์ยิ้มในขณะที่พูดอย่างหมดหนทาง “คุณมักจะทำราวกับว่าไม่มีอะไรสำคัญ และไม่มีอะไรรบกวนคุณเลย”ด้วยเหตุนี้แคลร์จึงปิดคอมพิวเตอร์ก่อนจะลุกขึ้นแล้วพูดว่า “วันนี้ฉันเพิ่งทำงานใหญ่ให้บริษัทเอ็มแกรนด์ กรุ๊ปเสร็จ คุณยังซึ่งเป็นรองประธานบริษัทได้สั่งให้ฝ่ายการเงินจ่ายเงินให้ฉันอย่างรวดเร็ว ฉันซื้อรถให้คุณสักคันดีไหมคะ? คุณจะได้มีรถของคุณเองไว้ใช้ไปไหนมาไหน”“ไม่ ไม่ ไม่จำเป็นต้องซื้อให้ผมหรอก ถ้
ในขณะที่เขายังรู้สึกกระอักกระอ่วนใจอยู่เล็กน้อย ควินน์ก็จ้องมองเขาด้วยความโกรธก่อนจะโพล่งออกมาว่า “ไอแซค คาเมรอน! คุณรู้ใช่ไหมว่าพี่ชาร์ลีอยู่ที่โอลรัส ฮิลล์?”“ห๊ะ? เอ่อ… นี่…” ไอแซคไม่รู้จะตอบคำถามที่ควินน์ถามขึ้นกะทันหันอย่างไรดี เขาจึงทำได้เพียงพูดตะกุกตะกัก และส่งเสียงพึมพำโดยไม่ได้ให้เหตุผลใด ๆ เลยควินน์กัดฟันสีขาวจั๊วะของเธออย่างโกรธเกรี้ยวในขณะที่พูดว่า “คุณเป็นคนที่ไว้ใจไม่ได้เลยจริง ๆ ! ฉันเคยถามคุณถึงที่อยู่ของพี่ชาร์ลีหลายครั้งแล้ว แต่คุณไม่เคยบอกความจริงกับฉันเลยสักครั้งเดียว!”ไอแซคตอบอย่างเขินอายเล็กน้อย “คุณโกลดิ้งครับ อย่าเข้าใจผมผิดนะครับ ผมรู้ว่านายน้อยอยู่ที่โอลรัส ฮิลล์เมื่อไม่นานมานี้เหมือนกันครับ ผมอยู่ที่โอลรัส ฮิลล์ในนามของตระกูลเวดมานานแล้ว แต่ไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลยครับ”โดโรธีถามด้วยความประหลาดใจ “อะไรกันเนี่ย?! ควินน์ อย่าบอกนะว่าชาร์ลี เวดคนนี้คือพี่ชาร์ลีที่เธอตามหามาตลอด?”ควินน์พยักหน้าในขณะที่พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “ใช่แล้ว! ผู้ชายแย่ ๆ คนนี้แหละที่ทำให้ฉันต้องตามหาเขาอย่างยากลำบาก!”โดโรธีถามขึ้นด้วยความประหลาดใจ “โอ้! เยี่ยมไปเลย! ใน
แคลร์ไม่อยากจะเชื่อเลย เธอไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าผู้หญิงแสนสวยที่นั่งอยู่ตรงหน้าเธอนั้นจะเป็นควินน์ โกลดิ้ง… ดาราสาวที่เธอชื่นชอบ!อาจกล่าวได้ว่าควินน์เป็นดาราสาวที่ร้อนแรงและดังที่สุดในออสเกีย และยังเป็นหนึ่งในดาราสาวที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดด้วย แม้แต่คนดังหลาย ๆ คนก็ยังเป็นแฟนคลับของเธอ แถมคนดังพวกนั้นก็ยังโพสต์แสดงความรักและความเสน่หาต่อเธออย่างเปิดเผยทางโซเชียลมีเดียด้วยนี่เป็นเพราะควินน์ไม่ได้แค่สวยอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีสถานภาพทางสังคมที่เยี่ยมยอดอีกด้วย สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ เธอมีทักษะทางการแสดงที่ดีมาก และยังมีความมั่นใจอย่างมากเมื่ออยู่หน้ากล้องด้วย อันที่จริงเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับภาวะจิตใจของชนชั้นสูงที่เธอได้รับการปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก ๆเธอได้รับความนิยมจากแฟน ๆ มากยิ่งขึ้น เนื่องจากมีบุคลิกที่ดูเย็นชาและหยิ่งยโส เธอไม่ได้มีบุคลิกและนิสัยแย่ ๆ เหมือนดาราชั้นนำคนอื่น ๆ และเธอไม่มีวันทำตามแบบอย่างที่ไม่ดีของศิลปินคนอื่น ๆ ในวงการบันเทิงที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะความแข็งแกร่งที่ไม่ธรรมดาของตระกูลโกลดิ้ง ไม่มีใครหรือค่ายบันเทิงค่ายไหนทั่วทั้งออสเกียที่จะสามารถข่มเธอได้เลยตอนที
ถ้าเขามองแบบนี้ก็นับเป็นความฉลาดและมีเหตุผล ที่เขาปิดบังเรื่องเหล่านี้ไม่ให้แคลร์รู้ ไม่เช่นนั้นก็มีโอกาสอย่างมากที่จะทำให้ชีวิตของเธอตกอยู่ในอันตรายในเวลานี้โดโรธีกำลังจ้องมองชาร์ลีด้วยสายตาที่ชั่วร้าย แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามสำหรับโดโรธีแล้ว ชาร์ลีเป็นพวกเดนสังคมที่หักอกควินน์แล้วทำให้เธอต้องผิดหวัง ดังนั้นเขาจึงเป็นหนามยอกอกในสายตาของเธอเป็นธรรมดาเธออยากจะเปิดเผยความจริงกลางโต๊ะดินเนอร์มาก แต่เมื่อเธอคิดถึงเรื่องที่ควินน์เตือนเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เธอก็ล้มเลิกความคิดนั้นไปชั่วคราวแคลร์นั่งข้าง ๆ ควินน์อยู่ที่โต๊ะดินเนอร์ ในขณะที่ชาร์ลีก็นั่งอยู่ข้าง ๆ แคลร์ควินน์จงใจชำเลืองมองชาร์ลีก่อนจะยิ้มแล้วถามแคลร์ว่า “คุณแคลร์แต่งงานกับคุณชาร์ลีมากี่ปีแล้วคะ?”แคลร์รีบตอบว่า “สามปีกว่าแล้วค่ะ ใกล้จะครบสี่ปีแล้ว”ควินน์พยักหน้าเบา ๆ ก่อนจะถามว่า “แล้วมีลูกด้วยกันไหมคะ?”แคลร์ส่ายหัวก่อนจะพูดว่า “ยังค่ะ…”ควินน์จงใจแสร้งทำเป็นประหลาดใจแล้วถามเธอว่า “คุณสองคนแต่งงานกันมาเกือบสี่ปีแล้ว แต่ยังไม่มีลูกด้วยกันเลยเหรอ? คุณกับคุณชาร์ลีเป็นครอบครัวที่มีรายได้ทั้งคู่แต่เลือกที่จะไม่มีลูกเหรอคะ
ในเวลานี้แคลร์ไม่ได้คิดที่จะระวังตัวจากควินน์ ผู้เป็นเหมือนเทพธิดาสำหรับเธอในสายตาของเธอนั้น ควินน์คือแบบอย่างของผู้หญิงร่วมสมัยที่ดูสมบูรณ์แบบไปทุกอย่าง แคลร์รู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องระมัดระวังตัวกับผู้หญิงอย่างควินน์ ผู้ดูสมบูรณ์แบบไปเสียทุกอย่างดังนั้นแคลร์จึงไม่เคยคิดมาก่อนว่า ผู้หญิงอย่างควินน์จะกลับกลายเป็นคู่แข่งทางความรักของเธอได้ชาร์ลีรู้สึกโล่งอกในช่วงเวลานี้เช่นกัน เขาวางแผนจะเดินทางไปอีสต์คลิฟฟ์อย่างลับ ๆ หลังการแข่งขันรอบสุดท้ายของออโรร่าจบลง เพื่อที่เขาจะได้พบกับยูล พ่อของควินน์อย่างลับ ๆเป้าหมายที่แท้จริงของเขานั้นไม่ใช่เพื่อไปพบยูล แต่เพื่อรักษาโรคมะเร็งตับอ่อนระยะลุกลามให้ยูลยูลเป็นน้องชายที่แสนดีของพ่อเขา เป็นเวลาหลายปีแล้วที่ยูลไม่เพียงแต่ไปไหว้พ่อแม่ของเขาในช่วงปีใหม่ทุกปี แต่ยังไม่เคยพักผ่อน หรือล้มเลิกความตั้งใจที่จะตามหาให้เจอว่าเขาอยู่ที่ไหน ดังนั้นชาร์ลีจึงอยากจะแสดงความขอบคุณและตอบแทนในความกรุณาของเขายิ่งไปกว่านั้นเขายังจะใช้โอกาสที่เดินทางไปอีสต์คลิฟฟ์เพื่อไปพบกับสตีเฟนด้วย เผื่อจะได้ข้อมูลหรือเบาะแสอะไรเพิ่มเติมดังนั้นเขาจึงอาจต้องใช้เวลาอย่างน้อย
ควินน์ยิ้มเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า “ฉันจะขยับไปข้างหน้าหน่อยนะ หน้าของคุณจะได้ดูเล็กลงนิดนึง แล้วคุณจะดูสวยมากขึ้น”ผู้หญิงสองคนยังคงถ่ายรูปเซลฟี่ด้วยกันราวกับพวกเธอเป็นพี่น้องกันหลังจากถ่ายรูปเสร็จ แคลร์ก็ถือโทรศัพท์มือถือไว้ในมือในขณะที่ถามอย่างตื่นเต้นว่า “คุณโกลดิ้งคะ ฉัน… สามารถโพสต์รูปนี้บน WeChat ของฉันได้ไหมคะ?”อันที่จริงแคลร์เป็นผู้หญิงที่ไม่มีความหลงตัวเองเลยเมื่อชาร์ลีซื้อรถบีเอ็มดับเบิ้ลยูให้เธอ เธอก็ไม่ได้โพสต์อวดเพื่อน ๆ บน WeChat เลยเมื่อชาร์ลีจัดงานแต่งงานของพวกเขาที่สกาย การ์เด้นในโรงแรมแชงกรีล่า เธอก็ไม่ได้โพสต์อวดเพื่อน ๆ บน WeChatเมื่อชาร์ลีพาเธอไปขับรถ และสัมผัสกับรถซูเปอร์สปอร์ตที่มีราคาหลายล้านดอลลาร์ เธอไม่ได้โพสต์อวดเพื่อน ๆ บน WeChat เช่นกันถึงแม้ว่าเธอจะย้ายเข้าไปอยู่ในวิลล่าชั้นเยี่ยมที่ธอมป์สัน เฟิร์สท์ แคลร์ไม่ได้โพสต์อวดเพื่อน ๆ บน WeChat เหมือนกันมีอยู่ครั้งเดียวที่เธอโพสต์ ‘อวด’ เพื่อน ๆ บน WeChat นั่นก็คือตอนที่ชาร์ลีสร้างสวนผักของเธอขึ้นมาในชั่วข้ามคืนแต่ครั้งนี้เธอไม่สามารถระงับความตื่นเต้นของเธอได้จริง ๆไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ควินน์ก็เป
“โอเค” ชาร์ลีพยักหน้าก่อนจะพูดว่า “เอาล่ะ ถึงเวลาที่นายต้องออกเดินทางแล้ว”ในเวลานี้จาเวียร์ก็วิ่งเข้าไปหาพวกเขาพร้อมกับแบตเตอรี่สำรองในมือ หลังจากนั้นเขาก็ยื่นแบตเตอรี่สำรองกับสายชาร์จให้กับดีแลนในขณะที่พูดว่า “ดีแลน นี่แบตเตอรี่สำรอง!”ดีแลนหยิบแบตเตอรี่สำรองใส่ไว้ในเป้ หลังจากปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้ว เขาก็พูดกับทุกคนว่า “คุณยาย คุณตา พ่อ แม่ ลุง อา ผมจะไปแล้วนะคับ…”ทุกคนโบกมือให้เขา “ไปเถอะ อย่าลืมใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนนะ!”ดีแลนมองไปที่ชาร์ลีอีกครั้งก่อนจะโค้งคำนับแล้วพูดว่า “ผมจะไปแล้วนะครับคุณเวด…”ชาร์ลีส่งเสียงพึมพำในขณะที่พูดว่า “รีบไปเถอะ ไม่งั้นนายจะถูกทำโทษที่ไปถึงช้านะ”ดีแลนรีบพยักหน้าในขณะที่พูดว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงครับ! ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ!”ชาร์ลีโบกมือแล้วพูดว่า “อืม ไปได้แล้ว!”ดีแลนพยักหน้าก่อนจะหันกลับไปมองเหล่าญาติ ๆ อย่างไม่เต็มใจ จากนั้นเขาก็เริ่มปั่นจักรยาน Phoenix 28 คันใหญ่อย่างหนักหน่วง หลังจากถีบจักรยานไปได้สองสามครั้ง ในที่สุดดีแลนก็ถีบจักรยานจากไปในลักษณะโคลงเคลงซิลเวียเริ่มร้องไห้อย่างขมขื่น ลีโอนาร์ดจึงรีบคว้าเธอมาปลอบโยนอยู่ในอ้อ
เมื่องานเลี้ยงวันเกิดสิ้นสุดลง และแขกคนอื่น ๆ ได้กลับไปแล้ว ดีแลนก็เข็นรถจักรยาน Phoenix 28 คันใหม่ออกมาในเวลานี้จู่ ๆ ดีแลนก็นึกถึงเพลงฮิตที่เขาเคยเห็นในคลิปวิดีโอสั้น ๆ…เพลงนี้ก็คือเพลง ‘ขี่มอเตอร์ไซต์แสนรักของฉัน’...ในขณะที่เขานึกถึงเพลงนี้ เขาก็มองไปที่จักรยาน Phoenix 28 ในสภาพเก่าที่ดูน่าเกลียดนั้น แล้วอดที่จะถอนหายใจไม่ได้ในขณะที่คิดกับตัวเองว่า ‘ถ้าฉันขี่มอเตอร์ไซค์ไปโอลรัสฮิลล์ได้ก็คงจะดีไม่น้อย เพราะจะทำให้ฉันสามารถเดินทางได้ประมาณสามถึงสี่ร้อยกิโลเมตรต่อวัน ซึ่งจะช่วยให้ฉันเดินทางไปถึงโอลรัสฮิลล์ได้เร็วที่สุด จะได้ไม่ต้องทนทุกข์กับความคับข้องใจและความอยุติธรรมมากมายในระหว่างทาง…’แต่ช่างน่าสงสารเหลือเกินที่เขารู้ว่าชาร์จะไม่มีทางเปิดโอกาสให้เขาได้ต่อรองอะไรเลย เขาจึงทำได้แค่เข็นจักรยานออกมาเพื่อเตรียมตัวออกเดินทางเจริล… ลุงของเขาถือหมวกกันน็อกสีเขียวอยู่ในมือ ในขณะที่พยายามจะสวมให้กับดีแลน ดีแลนหลบเลี่ยงหมวกใบนั้นในขณะที่ถามอย่างอึดอัดใจว่า “ทำไมถึงซื้อหมวกกันน็อกสีเขียวมาให้ผมล่ะลุง? หมวกสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของผู้ชายที่โดนสวมเขานะ…”“อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลยน่า” เจร
"หา? เร็วไปไหม? คุณจะไม่อยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่ออีกสักสองสามวันเหรอ?”“ผมทำธุระของผมเสร็จหมดแล้วน่ะ ไม่มีธุระอะไรให้ผมต้องอยู่ที่นี่อีก ผมจะออกเดินทางพรุ่งนี้เลย”เมื่อลอรีนได้ยินดังนี้ เธอก็พูดขึ้นอย่างไม่ลังเลเลยว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะออกจากอีสต์คลิฟฟ์พรุ่งนี้ด้วย เราเดินทางกลับโอลรัสฮิลล์พร้อมกันดีไหมคะ? เราจะได้นั่งเครื่องบินลำเดียวกันชาร์ลีอยากจะปฏิเสธเธอ แต่เมื่อเขาเห็นสีหน้าที่แสดงความวิงวอนของเธอแล้ว เขาก็ปฏิเสธเธอไม่ลงเพราะไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม… นับเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนเป็นเพื่อนกัน ที่ต้องนั่งเครื่องบินลำเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถหลบเลี่ยงการนั่งเครื่องบินเที่ยวบินเดียวกับเธอได้ชาร์ลีจึงพูดว่า “ได้สิ เรากลับด้วยกันก็ได้”ลอรีนรีบพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวคุณให้รายละเอียดบัตรประจำตัวกับฉันมานะ ฉันจะได้ซื้อตั๋วเครื่องบินของเราพร้อมกัน!”“โอเค”***ในขณะที่งานเลี้ยงวันเกิดยังคงดำเนินอยู่นั้น ลุงและอารองของดีแลนก็ได้ตระเตรียมการเดินทางด้วยการปั่นจักรยานไปยังโอลรัสฮิลล์ให้ดีแลนเรียบร้อยแล้วพวกเขาได้ให้คนไปซื้อจักรยาน Phoenix 28 รุ่นเก่ามา แล้วติดตั้งชั้นวางสัมภา
หลังจากนั้นงานเลี้ยงวันเกิดก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการมีการจัดที่นั่งให้กับชาร์ลีเป็นพิเศษในฐานะที่เขาเป็นแขกผู้มีเกียรติสูงสุด โดยเขาได้นั่งอยู่ข้างนายท่านโธมัสกับลอรีนและริกลีย์หลังจากนั้นสมาชิกของตระกูลโธมัสก็ผลัดกันดื่มอวยพรให้เขา โดยทั้งการแสดงออกทางสีหน้า น้ำเสียง และการกระทำล้วนเต็มไปด้วยการสรรเสริญเยินยอ ชาร์ลีไม่มีอะไรจะพูดมากนัก เมื่อมีคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็แค่ดื่มอวยพรกลับไป ซึ่งถึงแม้ดีแลนจะเป็นคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็ดื่มอวยพรกลับไปอย่างง่ายดายในเวลานี้ริกลีย์ก็ยังมาดื่มอวยพรให้กับชาร์ลีอย่างระมัดระวังด้วย โดยเขาได้เยินยอแล้วพูดว่า “คุณเวดครับ ผมมีเรื่องจะถามคุณหน่อยครับ…”ชาร์ลีรู้อยู่แล้วว่าเขาจะถามอะไรก่อนที่เขาจะเริ่มพูดออกมาด้วยซ้ำไป เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการให้ชาร์ลีช่วยฟื้นคืนสมรรถภาพ เพื่อให้เขากลับมาแข็งแกร่งได้อีกครั้งแต่เมื่อพิจารณาถึงเรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่ครอบครัวของพวกเขาได้ทำกับครอบครัวของยูลแล้ว ชาร์ลีก็ยังแน่ใจว่าเขาจะไม่ยอมฟื้นคืนสมรรถภาพให้พวกเขาในตอนนี้ผู้ที่เป็นผู้ใหญ่แล้วจะต้องชดใช้และรับผิดชอบต่อการกระทำของพวกเขา ไม่อย่างนั้นแล้วพวกเขาจะได้บทเ
ชาร์ลีหยิบภาพวาดที่ยูลมอบให้เขาจากมือของดีแลน ก่อนจะยื่นให้กับยายของลอรีนด้วยตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็พูดว่า “คุณยายโธมัสครับ นี่เป็นของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผมครับ ผมหวังว่าคุณยายจะรับมันไว้ และผมอยากจะขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นไปเมื่อกี้นี้ ด้วยวันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณยาย ผมหวังว่าคุณยายคงจะให้อภัยผมนะครับ”คุณท่านโธมัสรู้สึกปลื้มใจแล้วรีบพูดขึ้นว่า “คุณเวด ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ จริง ๆ แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้เป็นเพราะหลานชายของฉันทำอะไรผิดไป ฉันมาคิดดูแล้ว… ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะเราละเลยในการอบรมสั่งสอนหลานของเรา จึงทำให้คุณเวดต้องเดือดร้อน”ในขณะที่เธอพูดอยู่นั้น เธอก็มองดูภาพวาดก่อนจะพูดว่า “คุณเวดคะ ภาพวาดนี้มีมูลค่ามากเหลือเกิน ฉันคงรับของขวัญชิ้นนี้ไว้ไม่ได้หรอกค่ะ!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “คุณยายโธมัสครับ ของขวัญชิ้นนี้เป็นเพียงของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผม มูลค่าของของขวัญชิ้นนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลย คุณยายไม่ต้องเกรงใจผมหรอกครับ พูดตามตรงนะครับ ผมไม่ได้ใช้จ่ายเงินกับของขวัญชิ้นนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะคุณโกลดิ้งจากโกลดิ้งกรุ๊ปมอบภาพวาดนี้ให้ผม แล้วผมก็นำมา
เมื่อได้ยินว่าเขาจะต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง ดีแลนก็ส่ายหัวอย่างบ้าคลั่งทันที!เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว เขาคงต้องทนทุกข์ทรมานและรู้สึกคับข้องใจเพียงเล็กน้อย ถ้าเขาต้องอาศัยอยู่ในชุมชนแออัด โดยมีค่าครองชีพเดือนละหนึ่งหมื่นบาท แต่ถ้าเขาต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง เขาก็คงต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมาก และต้องเจอะเจอความยากลำบากมากมายในไซต์ก่อสร้างแห่งนั้นเขาจึงพยักหน้าแบบไม่คิดอะไรทันที “คุณเวดครับ ผมยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดของคุณแล้ว ผมจะไม่ต่อรองอะไรกับคุณแล้วครับ! ขอแค่อย่าส่งผมไปไซต์ก่อสร้างนั้นเลยนะครับ…”ชาร์ลีรู้สึกพอใจมากแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “อย่าลืมปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีหลังจากนายไปถึงที่โอลรัสฮิลล์แล้ว อย่าสร้างปัญหาอะไรเพิ่มขึ้นมาอีกล่ะ ถ้านายยังคงอยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่อไป ทายาทที่ชอบเยาะเย้ยถากถางคนอื่นอย่างนาย ก็อาจก่อให้เกิดหายนะที่ร้ายแรงกว่านี้ได้ในสักวันหนึ่ง นายอาจเข้าไปพัวพันและทำให้ให้ตระกูลโธมัสและตระกูลโคชต้องเดือดร้อนได้!”ในเวลานี้สองพี่น้องอย่างเจริลและจาเวีย์ก็อดที่จะตัวสั่นขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้ดูเหมือนคำพูดของชาร์ลีจะทำให้คนทั้งคู่
สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดก็คือ การปั่นจักรยานอย่างยากลำบากจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ยังพอรับได้ การที่ต้องปั่นจักรยานเป็นเวลาครึ่งเดือน ก็ยังดีเสียกว่าการนอนบนเตียงอยู่ครึ่งเดือนหลังผ่าตัดนอกจากนี้เขายังรู้สึกคับข้องใจอย่างมากในระหว่างการผ่าตัดครั้งล่าสุด ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ยังไม่หายดีเลย ถ้าเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดแบบเดิมอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ เขาก็จะต้องได้รับความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าอย่างแน่นอนในเวลานี้ชาร์ลีพูดขึ้นมาว่า “ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์ก็เพื่อให้นายได้ไปปรับปรุงตัวและกลับเนื้อกลับตัวใหม่ นายคิดว่า การที่ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์เพื่อให้ไปสนุกสนานกับชีวิตที่นั่นเหรอ? จะบอกอะไรให้นะ นายจะต้องปั่นจักรยานธรรมดา ๆ อย่าง Phoenix 28 เท่านั้น ใช้อย่างอื่นไม่ได้เลย! ไม่งั้นฉันจะให้นายปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์พร้อมกับเกวียนที่บรรทุกก้อนอิฐไปจนเต็มคัน!”“แล้วหลังจากนายไปถึงโอลรัสฮิลล์ นอกจากนายจะต้องคอยขับรถรับส่งให้กับลอรีนแล้ว นายต้องเช่าห้องเดี่ยวในชุมชนแออัดคลิฟฟ์คูลส์ด้วย ค่าใช้จ่ายรายเดือนรวมถึงค่าเช่าบ้านของนายจะต้องไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท!”
เมื่อเขาได้ยินว่า จะต้องขี่จักรยานจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์ตลอดทาง และต้องอยู่ในโอลรัสฮิลล์ในฐานะคนขับรถเป็นเวลาหนึ่งปี ดีแลนก็รู้เหมือนกำลังจะตายไปแล้วจริง ๆ ประเด็นก็คือระยะทางจากอีสต์คลิฟฟ์ไปโอลรัสฮิลล์นั้น มีระยะทางมากกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะไม่ตายเพราะหมดแรงถ้าต้องปั่นจักรยานไปตลอดทางจริง ๆ เหรอ?แล้วตอนนี้ก็อยู่ในเดือนธันวาคมซึ่งเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว เขาจะต้องขี่จักรยานตลอดทางไปจนถึงภาคใต้ แล้วไม่ได้รับอนุญาตให้พักในโรงแรมเลยด้วย ข้อกำหนดเหล่านี้รุนแรงเกินไปไม่ใช่เหรอ?ดีแลนรู้สึกเสียใจมากและน้ำตาก็เริ่มไหลอาบใบหน้านี่มันเรื่องบ้าบออะไรกันเนี่ย… เขาเป็นนายน้อยคนที่สามของตระกูลโคช แต่จะต้องขี่จักรยานไปจนถึงโอลรัสฮิลล์? เขาจะไม่ล้มตายไปในระหว่างทางหรอกเหรอ?คงจะน่าทึ่งมากถ้าเขาสามารถปั่นจักรยานได้วันละห้าสิบ หรือหกสิบกิโลเมตรระยะทางกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะต้องปั่นจักรยานไปประมาณยี่สิบวัน!แต่นี่มันเดือนธันวาคมแล้วนะ!เขาสะอึกสะอื้นพร้อมกับพูดว่า “คุณเวดครับ ถ้าผมเริ่มปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์ กว่าจะถึงที่นั่นก็คงเป็นเดือนมกราคมแล้ว น้องสาวผมจะต้องกลับมาฉลองปีใหม่ที่
ลอรีนดีใจมากแล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ขอบคุณมากนะคะชาร์ลี!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “รอเดี๋ยวนะ ผมจะไม่บังคับให้เขากลืนจี้หยกเข้าไป แต่ยังต้องลงโทษเขาด้วยวิธีอื่น ไม่งั้นเขาคงไม่จดจำไว้เป็นบทเรียน”ลอรีนรีบถามว่า “คุณจะลงโทษเขาด้วยวิธีไหนคะ ชาร์ลี? คงไม่ร้ายแรงไปกว่าการกลืนจี้หยกเข้าไปแล้วใช่ไหมคะ?”“ไม่หรอกครับ ชาร์ลียิ้มเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า “คุณมั่นใจได้เลยว่า การลงโทษครั้งนี้จะส่งผลดีกับตัวเขาอย่างแน่นอน”ในที่สุดลอรีนก็รู้สึกสบายใจในขณะที่พูดอย่างเสน่หาว่า “ขอบคุณนะคะชาร์ลี ขอบคุณที่ให้อภัยพี่ชายของฉัน และปล่อยเขาไปเพราะเห็นแก่ฉัน ถ้าอย่างนั้น คุณให้โอกาสฉันได้ตอบแทนคุณดีไหมคะ…”ชาร์ลีถามด้วยความประหลาดใจ “คุณจะตอบแทนผมยังไงเหรอ?”ลอรีนกะพริบตาในขณะที่ยิ้มและพูดอย่างตั้งใจว่า “ฉันสัญญาว่าจะแต่งงานกับคุณ และให้กำเนิดลูกชายตัวอ้วน ๆ เพื่อคุณ! คุณคิดว่ายังไงคะ?”ชาร์ลีตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “อย่าพูดอะไรแบบนี้อีก ผมเป็นสามีของเพื่อนสนิทของคุณนะ!”ลอรีนพยักหน้าก่อนจะพูดอย่างจริงจังว่า “ฉันรู้ค่ะ แต่คุณทั้งคู่แต่งงานกันแบบปลอม ๆ นี่! ก็ยังไม่ถือว่าเป็นการแต่งงานกันอย่างแท้จริง! จริง ๆ แล