ควินน์รู้สึกสับสนงงงวยเธอรู้สึกว่าพ่อใช้เวลามากมายในการตามหาชาร์ลีตลอดหลายปีที่ผ่านมา ยิ่งไปกว่านั้น เขาก็ยังกินไม่ได้นอนไม่หลับเพราะหาชาร์ลีไม่เจอด้วย เขามักจะรู้สึกผิดอยู่ในใจลึก ๆ เสมอมาในที่สุดเธอก็ได้พบชาร์ลีโดยบังเอิญแล้ว ก็เป็นธรรมดาที่เธออยากบอกข่าวดีให้พ่อรู้ พ่อจะต้องรู้สึกโล่งใจได้แน่หลังจากผ่านมาหลายปีเธอจึงรีบถามขึ้นว่า “พี่ชาร์ลีคะ ทำไมฉันถึงบอกคนอื่นไม่ได้ว่าฉันเจอพี่”ชาร์ลีถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า “ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม ตอนนี้ก็ผ่านมากว่าสิบปีแล้ว อย่างน้อยที่สุด ฉันก็มีชีวิตที่สงบสุขเมาในโอลรัส ฮิลล์ตอนนี้ ดังนั้นตอนนี้ฉันไม่อยากไปยั่วยุใครในอีสต์คลิฟฟ์"ควินน์ตอบอย่างมีอารมณ์ว่า “พี่ชาร์ลีคะ พี่เป็นนายน้อยของตระกูลเวดนะคะ! ทำไมพี่ถึงเลือกที่จะอยู่ในโอลรัส ฮิลล์ล่ะ? ถ้าพี่เลือกกลับไปที่อีสต์คลิฟฟ์ พี่ก็จะได้รับมรดกอย่างน้อย ๆ ก็ยี่สิบถึงสามสิบเปอร์เซ็นต์จากทรัพย์สินของตระกูลเวดที่มีมูลค่าถึงนับล้านล้านดอลลาร์ไม่ใช่เหรอคะ?”ชาร์ลีโบกมือแล้วพูดว่า “ตอนนี้ฉันไม่ได้ขัดสนอะไร แล้วฉันก็ไม่ค่อยสนใจเรื่องทรัพย์สินหรือมรดกของตระกูลเวดมากนัก ฉันแค่อยากมีชีวิตที่ม
ในขณะที่เธอพูดถึงเรื่องนี้ ควินน์ก็ร้องไห้ออกมาอีกครั้งชาร์ลีรีบยื่นกระดาษทิชชูให้เธอพร้อมกับปลอบโยนเธอเบา ๆ “หยุดร้องร้องไห้ นานา หลายสิ่งหลายอย่างมันไม่ง่ายเหมือนตอนที่เราเล่นสร้างบ้านกันตอนเด็ก ๆ หรอกนะ ฉันต้องยอมรับว่า ฉันเองละเลยในเรื่องนี้ไป ฉันคิดว่าเธอก็เป็นเหมือนฉัน และเนื่องจากเรื่องนี้เกิดขึ้นในตอนที่เรายังเด็ก ฉันเลยนึกว่าเธอคงไม่ได้จริงจังอะไรกับเรื่องนี้ แต่ฉันไม่คาดคิดจริง ๆ ว่าเธอกับลุงโกลดิ้งจะตามหาฉันมานานหลายปีแล้ว”ควินน์ตอบอย่างโกรธเคืองว่า “เล่นสร้างบ้านเหรอ? ไม่ได้จริงจังเหรอ? พี่รู้ไหมว่าพ่อของฉันได้สัญญากับคุณลุงคุณป้าไว้ในตอนนั้น”“นอกจากนี้พี่ยังอาศัยอยู่ในอีสต์คลิฟฟ์เป็นเวลาแปดปี ดังนั้นพี่ก็น่าจะรู้นะว่าเหล่าตระกูลร่ำรวยและมีอำนาจในอีสต์คลิฟฟ์นั้น ไม่ชอบให้ลูกหลานเข้ามาอยู่ในวงการบันเทิง พวกเขาจะไม่ยอมให้ลูกหลานแต่งงานกับดาราสาวในวงการบันเทิงเด็ดขาด เพราะในสายตาของพวกเขา ไม่ว่าคนดังในวงการบันเทิงจะโด่งดังขนาดไหน พวกเขาก็เป็นแค่นักแสดงที่มีอาชีพต่ำต้อย!”“แต่พี่รู้ไหมว่าทำไมฉันถึงอยากเข้ามาอยู่ในวงการบันเทิง?”ชาร์ลีส่ายหัวก่อนจะถามโดยไม่รู้ตัวว่า “ทำไ
หลังจากถูกควินน์วิจารณ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ชาร์ลีก็รู้สึกละอายใจเล็กน้อย และเริ่มรู้สึกอึดอัดอยู่ภายในใจมากขึ้นดังนั้นเขาจึงกระแอมกระไอเล็กน้อยแล้วเอ่ยคำขอโทษออกมา “นานา ฉันจะขอรับผิดชอบในเรื่องนี้ ฉันอยากจะขอโทษเธอกับลุงโกลดิ้งจากใจจริง…”“ขอโทษ?” ควินน์พูดด้วยความโกรธ “ในเมื่อพี่อยากจะขอโทษ ถึงแม้ว่าพี่จะไม่ถือว่าพ่อของฉันเป็นญาติผู้ใหญ่ของพี่ แต่พี่ก็ควรไปขอโทษพ่อของฉันแบบซึ่ง ๆ หน้า เพราะท่านเฝ้าตามหาพี่มาหลายปี! ไม่สิ! พี่ไม่ยอมให้ฉันบอกพ่อว่าเจอพี่แล้วด้วยซ้ำ พี่ทำอย่างนี้หมายความว่ายังไง?!”ชาร์ลีมองดูสีหน้าที่แสดงความโกรธเคืองของเธอแล้วพูดอย่างจริงจังว่า “เธอลองคิดดูสิ นานา ฉันอาศัยอยู่ที่สถานสงเคราะห์โอลรัส ฮิลล์มาเป็นเวลาสิบปี แล้วในช่วงนั้นลุงโกลดิ้งก็มาตามหาฉันในโอลรัส ฮิลล์อยู่หลายครั้ง แต่ก็ยังหาฉันไม่เจอ ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นล่ะ? ต้องเป็นเพราะมีคนที่ไม่อยากให้ลุงโกลดิ้งตามหาฉันจนเจอน่ะสิ นี่เป็นเการพิสูจน์ให้เห็นว่าอีกฝ่ายหนึ่งนั้นมีความแข็งแกร่งและทรงอำนาจมาก แล้วฉันก็ไม่รู้ด้วยว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นมิตรหรือศัตรูกับฉันกันแน่ การบอกลุงโกลดิ้งถึงเรื่องนี้มีแต่จะสร้างปัญหาให้ลุง
ดังนั้นหลังจากที่ได้ยินว่ายูลป่วยเป็นมะเร็งตับอ่อน และสภาพร่างกายของเขาทรุดโทรมลง ชาร์ลีก็ตัดสินใจทันทีว่าจะต้องช่วยชีวิตเขา!เขาจึงบอกควินน์ทันทีว่า “งั้นเอาแบบนี้ไหม? หลังจากเราปรึกษาหารือในเรื่องการทำสัญญารับรองยาเสร็จสิ้นแล้ว เธอก็กลับไปอีสต์คลิฟฟ์ก่อน แล้วอีกสองสามวันฉันจะแอบตามไปเยี่ยมลุงโกลดิ้ง เมื่อถึงเวลานั้น ฉันก็มีวิธีของฉันในการรักษาอาการป่วยให้ลุงได้!”ควินน์ตกตะลึงแล้วถามเขาว่า “พี่มีวิธีรักษาแบบไหนที่สามารถรักษาอาการป่วยระยะสุดท้ายของพ่อฉันได้? มีหมอจากทั่วโลกหลายคนบอกฉันว่า ไม่มีทางรักษาอาการป่วยระยะสุดท้ายของพ่อให้หายได้เลย…”ชาร์ลีตอบอย่างจริงจังว่า “ฉันยังไม่สะดวกที่จะเปิดเผยอะไรให้เธอรู้ในตอนนี้ แต่เธอไม่ต้องเป็นกังวลไป ในเมื่อฉันพูดออกมาแล้ว ฉันก็จะต้องทำตามสัญญาอย่างแน่นอน!”ชาร์ลีมียาอายุวัฒนะอยู่ในมือยาที่เขากลั่นออกมาครั้งแรกนั้น สามารถรักษาอาการอัมพาตของร่างกายท่อนล่างได้ ซึ่งโรคนี้นับว่ามีอาการรุนแรงจนเกือบจะใช้วิธีรักษาทางการแพทย์ไม่ได้เลยถ้าเขานำหนึ่งในยาวิเศษเหล่านั้นมาให้ยูล ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะช่วยรักษาโรคมะเร็งตับอ่อนให้หายได้ถ้าเขามีอากา
ควินน์อารมณ์ดีขึ้นเล็กน้อยหลังจากได้ยินคำตอบของชาร์ลีที่ยืนยันหนักแน่นในที่สุดเธอก็หยุดร้องไห้และใช้นิ้วปาดน้ำตาที่เหลืออยู่บนใบหน้าอย่างระมัดระวัง หลังจากนั้นเธอก็หัวเราะกับตัวเองในขณะที่พูดว่า “พี่ชาร์ลีคะ ฉันทำตัวน่าอายให้พี่เห็นซะแล้ว พูดตามตรงนะคะ ฉันไม่ได้ร้องไห้อย่างนี้มาหลายปีแล้ว ส่งผลให้ฉันกลับไปเป็นเหมือนสมัยเด็ก ๆ อีกครั้งหลังจากพ่อป่วย ฉันไม่สามารถหยุดร้องไห้ได้เลยในบางครั้ง ฉันนี่ช่างสิ้นหวังจริง ๆ”ชาร์ลียิ้มเล็กน้อยก่อนจะปลอบโยนเธอ “อย่าคิดแบบนั้นสิ ถือเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนจะมีอารมณ์และความปรารถนาของตัวเอง ถ้าคนคนหนึ่งหัวเราะได้ เขาก็ร้องไห้ได้เช่นกัน ถ้าคนคนหนึ่งมีความสุขได้ เขานั้นก็เศร้าโศกได้เช่นกัน ดังนั้นจึงไม่มีอะไรที่สิ้นหวังในตัวเธอหรอก”ควินน์พยักหน้าเบา ๆ ในขณะที่ถามว่า “พี่ชาร์ลีคะ ตอนนี้พี่ยังต้องเสียน้ำตาอยู่บ้างหรือเปล่าคะ?”ชาร์ลียิ้มอย่างขบขันก่อนจะพูดว่า “ฉันคงเสียน้ำตามากเกินไปตอนอายุแปดขวบ ดูเหมือนว่าฉันได้หลั่งน้ำตาที่มีอยู่ในชีวิตนี้ไปหมดแล้ว”ควินน์ใช้สองมือของเธอจับมือของเขาไว้ในขณะที่พูดด้วยดวงตาสีแดงก่ำ “พี่ชาร์ลีคะ พี่ต้องทนทุกข์ทรมาณ
ควินน์มีความรู้สึกที่หลากหลาย เธอมองเข้าไปในดวงตาของเขา แล้วถามด้วยความโกรธเคืองว่า “พี่ไม่กลัวว่าฉันจะบอกเธอว่าฉันเป็นคู่หมั้นโดยชอบธรรมของพี่ แล้วเธอคือมือที่สามในความสัมพันธ์ของเราเหรอคะ?”ชาร์ลีตอบว่า “เธอคิดมาตลอดว่าฉันเป็นเด็กกำพร้า เธอไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับตัวตนหรือภูมิหลังทางครอบครัวของฉันเลย ฉันเองก็ไม่อยากให้เธอรู้เรื่องนี้”ชาร์ลีรู้สึกอายเล็กน้อยแล้วพูดว่า “นั่นคือเหตุผลที่ฉันอยากจะร้องขอเพิ่มเติมด้วย”ควินน์ทำเสียงไม่พอใจก่อนที่จะพูดอย่างโกรธ ๆ “พี่อยากให้ฉันปิดปังความสัมพันธ์ระหว่างพี่กับฉันไม่ให้ภรรยาของพี่รู้ใช่ไหม?”ควินน์ถามอย่างไม่เข้าใจ “เธอเป็นภรรยาของพี่นะคะ พี่จะไม่บอกอะไรเธอเกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงของพี่ซะหน่อยเหรอ? พี่ตั้งใจจะปิดบังเรื่องนี้ต่อไปเรื่อย ๆ เหรอคะ?”ชาร์ลีตอบว่า “ที่ฉันไม่บอกภรรยาไม่ใช่เพราะฉันต้องการจะปิดบังเรื่องนี้ไม่ให้ภรรยารู้หรอกนะ แต่มันยังไม่ถึงเวลาต่างหาก ฉันจะพูดกับภรรยาในเรื่องนี้เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม”ควินน์ย่นจมูกแล้วพูดว่า “ฉันอยากจะรู้จังว่า พี่จะพูดอะไรกับคุณพ่อตอนที่เจอกัน ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าพี่จะพูดกับคุณพ่อยังไงว่าพี่แต
ชาร์ลีตกตะลึงกับคำพูดของควินน์แต่งงานกับคนที่หย่าร้างมาแล้ว? เธอกำลังพูดถึงเขาเหรอ?!เด็กสาวจากตระกูลโกลดิ้งคนนี้ช่างโง่เขลาเกินไปแล้วใช่ไหม? นี่เป็นแค่การตกลงกันด้วยวาจาระหว่างพ่อแม่ของสองครอบครัวตอนที่พวกเขายังเด็ก นี่มันยุคไหนกันแล้ว? ยังมีใครที่คิดจริงจังในเรื่องแบบนี้อยู่อีกเหรอ?”เธอยังอ่อนเยาว์ สวย เย็นชา และหยิ่งยโส เธอดูเหมือนผู้หญิงประเภทที่มีความคิดและแผนการเป็นของตัวเอง แล้วทำไมเธอถึงยังมีความคิดแบบอนุรักษนิยมอยู่อีกล่ะ?ในขณะที่เขาคิดถึงเรื่องนี้อยู่นั้น ชาร์ลีก็อดที่จะพูดไม่ได้ว่า “นานา เธอไม่ควรคิดจริงจังกับเรื่องที่เกิดขึ้นตอนเรายังเป็นเด็กกันอยู่นะ เธอไม่ควรคิดเป็นจริงเป็นจังมากเกินไปแล้วไม่สนใจที่จะหาความสุขให้ตนเองนะ!”ควินน์ตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “ชาร์ลี! พี่นี่ช่างนิสัยไม่ดีและไม่มีจิตสำนึกเลยจริง ๆ ฉันเฝ้ารอพี่มากว่าสิบปีแล้ว แล้วพี่มาบอกให้ฉันอย่าไปคิดอะไรจริงจังอย่างนั้นเหรอ? พี่เชื่อไหมว่าฉันจะจัดงานแถลงข่าวในวันพรุ่งนี้ เพื่อประกาศให้ใคร ๆ รู้ถึงสัญญาแต่งงานของเรา?”ในขณะที่เธอพูดอยู่นั้น เธอพูดในลักษณะที่ดูเป็นการคุกคามอีกฝ่าย “ฉันจะบอกให้พี่ฟังนะว่
ทันทีที่เขามาถึงประตูออฟฟิศ เขาก็เจอกับสเตฟานี่ซึ่งเป็นเพื่อนสมัยเด็กเข้าโดยบังเอิญ โดยเธอเพิ่งเดินออกมาจากออฟฟิศแห่งนั้น เมื่อเธอเห็นชาร์ลีก็พูดอย่างมีความสุขว่า “พี่ชาร์ลี ทำไมถึงมาที่นี่ได้ล่ะคะ?”ชาร์ลียิ้มเล็กน้อยแล้วบอกว่า “ฉันมีเรื่องจะมาถามคุณลูอิสหน่อยน่ะ เขาอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”“อยู่ค่ะ” สเตฟานี่ยิ้มก่อนจะเข้ามาจับแขนชาร์ลีในขณะที่พูดด้วยความเสน่หาว่า “พี่ชาร์ลีคะ พี่ไม่ได้มาที่นี่นานแล้วนะ ฉันคิดถึงพี่จัง!”ชาร์ลียิ้มแล้วพูดว่า “ถ้าคิดถึงแล้วทำไมไม่โทรมาหาล่ะ?”“ฉันกลัวว่าพี่จะยุ่งอยู่น่ะสิ!” สเตฟานี่ตอบด้วยเสียงหวานนุ่ม “ฉันไม่อยากขัดจังหวะการทำงานของพี่ค่ะ!”ชาร์ลีตอบ “โอเค ไว้สักวันฉันจะเลี้ยงมื้อค่ำเธอแล้วกันดีไหม เธอไปทำงานของเธอก่อนเถอะ ฉันจะเข้าไปหาคุณลูอิสแล้ว”สเตฟานีตอบว่า “ได้เลยค่ะพี่ชาร์ลี พี่เข้าไปหาคุณลูอิสก่อน ฉันจะเข้าไปในครัวหน่อยว่าเตรียมอาหารค่ำให้เด็ก ๆ กันหรือยัง อย่าเพิ่งรีบกลับนะคะ! พอทำงานเสร็จแล้วฉันจะรีบมาหาพี่ทันทีเลย”“ได้เลย”หลังจากสเตฟานีเดินจากไปแล้ว ชาร์ลีก็เคาะประตูห้องทำงาน คุณนายลูอิสก็ส่งเสียงที่ฟังดูใจดีออกมาจากข้างใน “นั่นชาร์
“โอเค” ชาร์ลีพยักหน้าก่อนจะพูดว่า “เอาล่ะ ถึงเวลาที่นายต้องออกเดินทางแล้ว”ในเวลานี้จาเวียร์ก็วิ่งเข้าไปหาพวกเขาพร้อมกับแบตเตอรี่สำรองในมือ หลังจากนั้นเขาก็ยื่นแบตเตอรี่สำรองกับสายชาร์จให้กับดีแลนในขณะที่พูดว่า “ดีแลน นี่แบตเตอรี่สำรอง!”ดีแลนหยิบแบตเตอรี่สำรองใส่ไว้ในเป้ หลังจากปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้ว เขาก็พูดกับทุกคนว่า “คุณยาย คุณตา พ่อ แม่ ลุง อา ผมจะไปแล้วนะคับ…”ทุกคนโบกมือให้เขา “ไปเถอะ อย่าลืมใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนนะ!”ดีแลนมองไปที่ชาร์ลีอีกครั้งก่อนจะโค้งคำนับแล้วพูดว่า “ผมจะไปแล้วนะครับคุณเวด…”ชาร์ลีส่งเสียงพึมพำในขณะที่พูดว่า “รีบไปเถอะ ไม่งั้นนายจะถูกทำโทษที่ไปถึงช้านะ”ดีแลนรีบพยักหน้าในขณะที่พูดว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงครับ! ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ!”ชาร์ลีโบกมือแล้วพูดว่า “อืม ไปได้แล้ว!”ดีแลนพยักหน้าก่อนจะหันกลับไปมองเหล่าญาติ ๆ อย่างไม่เต็มใจ จากนั้นเขาก็เริ่มปั่นจักรยาน Phoenix 28 คันใหญ่อย่างหนักหน่วง หลังจากถีบจักรยานไปได้สองสามครั้ง ในที่สุดดีแลนก็ถีบจักรยานจากไปในลักษณะโคลงเคลงซิลเวียเริ่มร้องไห้อย่างขมขื่น ลีโอนาร์ดจึงรีบคว้าเธอมาปลอบโยนอยู่ในอ้อ
เมื่องานเลี้ยงวันเกิดสิ้นสุดลง และแขกคนอื่น ๆ ได้กลับไปแล้ว ดีแลนก็เข็นรถจักรยาน Phoenix 28 คันใหม่ออกมาในเวลานี้จู่ ๆ ดีแลนก็นึกถึงเพลงฮิตที่เขาเคยเห็นในคลิปวิดีโอสั้น ๆ…เพลงนี้ก็คือเพลง ‘ขี่มอเตอร์ไซต์แสนรักของฉัน’...ในขณะที่เขานึกถึงเพลงนี้ เขาก็มองไปที่จักรยาน Phoenix 28 ในสภาพเก่าที่ดูน่าเกลียดนั้น แล้วอดที่จะถอนหายใจไม่ได้ในขณะที่คิดกับตัวเองว่า ‘ถ้าฉันขี่มอเตอร์ไซค์ไปโอลรัสฮิลล์ได้ก็คงจะดีไม่น้อย เพราะจะทำให้ฉันสามารถเดินทางได้ประมาณสามถึงสี่ร้อยกิโลเมตรต่อวัน ซึ่งจะช่วยให้ฉันเดินทางไปถึงโอลรัสฮิลล์ได้เร็วที่สุด จะได้ไม่ต้องทนทุกข์กับความคับข้องใจและความอยุติธรรมมากมายในระหว่างทาง…’แต่ช่างน่าสงสารเหลือเกินที่เขารู้ว่าชาร์จะไม่มีทางเปิดโอกาสให้เขาได้ต่อรองอะไรเลย เขาจึงทำได้แค่เข็นจักรยานออกมาเพื่อเตรียมตัวออกเดินทางเจริล… ลุงของเขาถือหมวกกันน็อกสีเขียวอยู่ในมือ ในขณะที่พยายามจะสวมให้กับดีแลน ดีแลนหลบเลี่ยงหมวกใบนั้นในขณะที่ถามอย่างอึดอัดใจว่า “ทำไมถึงซื้อหมวกกันน็อกสีเขียวมาให้ผมล่ะลุง? หมวกสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของผู้ชายที่โดนสวมเขานะ…”“อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลยน่า” เจร
"หา? เร็วไปไหม? คุณจะไม่อยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่ออีกสักสองสามวันเหรอ?”“ผมทำธุระของผมเสร็จหมดแล้วน่ะ ไม่มีธุระอะไรให้ผมต้องอยู่ที่นี่อีก ผมจะออกเดินทางพรุ่งนี้เลย”เมื่อลอรีนได้ยินดังนี้ เธอก็พูดขึ้นอย่างไม่ลังเลเลยว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะออกจากอีสต์คลิฟฟ์พรุ่งนี้ด้วย เราเดินทางกลับโอลรัสฮิลล์พร้อมกันดีไหมคะ? เราจะได้นั่งเครื่องบินลำเดียวกันชาร์ลีอยากจะปฏิเสธเธอ แต่เมื่อเขาเห็นสีหน้าที่แสดงความวิงวอนของเธอแล้ว เขาก็ปฏิเสธเธอไม่ลงเพราะไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม… นับเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนเป็นเพื่อนกัน ที่ต้องนั่งเครื่องบินลำเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถหลบเลี่ยงการนั่งเครื่องบินเที่ยวบินเดียวกับเธอได้ชาร์ลีจึงพูดว่า “ได้สิ เรากลับด้วยกันก็ได้”ลอรีนรีบพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวคุณให้รายละเอียดบัตรประจำตัวกับฉันมานะ ฉันจะได้ซื้อตั๋วเครื่องบินของเราพร้อมกัน!”“โอเค”***ในขณะที่งานเลี้ยงวันเกิดยังคงดำเนินอยู่นั้น ลุงและอารองของดีแลนก็ได้ตระเตรียมการเดินทางด้วยการปั่นจักรยานไปยังโอลรัสฮิลล์ให้ดีแลนเรียบร้อยแล้วพวกเขาได้ให้คนไปซื้อจักรยาน Phoenix 28 รุ่นเก่ามา แล้วติดตั้งชั้นวางสัมภา
หลังจากนั้นงานเลี้ยงวันเกิดก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการมีการจัดที่นั่งให้กับชาร์ลีเป็นพิเศษในฐานะที่เขาเป็นแขกผู้มีเกียรติสูงสุด โดยเขาได้นั่งอยู่ข้างนายท่านโธมัสกับลอรีนและริกลีย์หลังจากนั้นสมาชิกของตระกูลโธมัสก็ผลัดกันดื่มอวยพรให้เขา โดยทั้งการแสดงออกทางสีหน้า น้ำเสียง และการกระทำล้วนเต็มไปด้วยการสรรเสริญเยินยอ ชาร์ลีไม่มีอะไรจะพูดมากนัก เมื่อมีคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็แค่ดื่มอวยพรกลับไป ซึ่งถึงแม้ดีแลนจะเป็นคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็ดื่มอวยพรกลับไปอย่างง่ายดายในเวลานี้ริกลีย์ก็ยังมาดื่มอวยพรให้กับชาร์ลีอย่างระมัดระวังด้วย โดยเขาได้เยินยอแล้วพูดว่า “คุณเวดครับ ผมมีเรื่องจะถามคุณหน่อยครับ…”ชาร์ลีรู้อยู่แล้วว่าเขาจะถามอะไรก่อนที่เขาจะเริ่มพูดออกมาด้วยซ้ำไป เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการให้ชาร์ลีช่วยฟื้นคืนสมรรถภาพ เพื่อให้เขากลับมาแข็งแกร่งได้อีกครั้งแต่เมื่อพิจารณาถึงเรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่ครอบครัวของพวกเขาได้ทำกับครอบครัวของยูลแล้ว ชาร์ลีก็ยังแน่ใจว่าเขาจะไม่ยอมฟื้นคืนสมรรถภาพให้พวกเขาในตอนนี้ผู้ที่เป็นผู้ใหญ่แล้วจะต้องชดใช้และรับผิดชอบต่อการกระทำของพวกเขา ไม่อย่างนั้นแล้วพวกเขาจะได้บทเ
ชาร์ลีหยิบภาพวาดที่ยูลมอบให้เขาจากมือของดีแลน ก่อนจะยื่นให้กับยายของลอรีนด้วยตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็พูดว่า “คุณยายโธมัสครับ นี่เป็นของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผมครับ ผมหวังว่าคุณยายจะรับมันไว้ และผมอยากจะขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นไปเมื่อกี้นี้ ด้วยวันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณยาย ผมหวังว่าคุณยายคงจะให้อภัยผมนะครับ”คุณท่านโธมัสรู้สึกปลื้มใจแล้วรีบพูดขึ้นว่า “คุณเวด ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ จริง ๆ แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้เป็นเพราะหลานชายของฉันทำอะไรผิดไป ฉันมาคิดดูแล้ว… ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะเราละเลยในการอบรมสั่งสอนหลานของเรา จึงทำให้คุณเวดต้องเดือดร้อน”ในขณะที่เธอพูดอยู่นั้น เธอก็มองดูภาพวาดก่อนจะพูดว่า “คุณเวดคะ ภาพวาดนี้มีมูลค่ามากเหลือเกิน ฉันคงรับของขวัญชิ้นนี้ไว้ไม่ได้หรอกค่ะ!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “คุณยายโธมัสครับ ของขวัญชิ้นนี้เป็นเพียงของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผม มูลค่าของของขวัญชิ้นนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลย คุณยายไม่ต้องเกรงใจผมหรอกครับ พูดตามตรงนะครับ ผมไม่ได้ใช้จ่ายเงินกับของขวัญชิ้นนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะคุณโกลดิ้งจากโกลดิ้งกรุ๊ปมอบภาพวาดนี้ให้ผม แล้วผมก็นำมา
เมื่อได้ยินว่าเขาจะต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง ดีแลนก็ส่ายหัวอย่างบ้าคลั่งทันที!เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว เขาคงต้องทนทุกข์ทรมานและรู้สึกคับข้องใจเพียงเล็กน้อย ถ้าเขาต้องอาศัยอยู่ในชุมชนแออัด โดยมีค่าครองชีพเดือนละหนึ่งหมื่นบาท แต่ถ้าเขาต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง เขาก็คงต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมาก และต้องเจอะเจอความยากลำบากมากมายในไซต์ก่อสร้างแห่งนั้นเขาจึงพยักหน้าแบบไม่คิดอะไรทันที “คุณเวดครับ ผมยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดของคุณแล้ว ผมจะไม่ต่อรองอะไรกับคุณแล้วครับ! ขอแค่อย่าส่งผมไปไซต์ก่อสร้างนั้นเลยนะครับ…”ชาร์ลีรู้สึกพอใจมากแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “อย่าลืมปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีหลังจากนายไปถึงที่โอลรัสฮิลล์แล้ว อย่าสร้างปัญหาอะไรเพิ่มขึ้นมาอีกล่ะ ถ้านายยังคงอยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่อไป ทายาทที่ชอบเยาะเย้ยถากถางคนอื่นอย่างนาย ก็อาจก่อให้เกิดหายนะที่ร้ายแรงกว่านี้ได้ในสักวันหนึ่ง นายอาจเข้าไปพัวพันและทำให้ให้ตระกูลโธมัสและตระกูลโคชต้องเดือดร้อนได้!”ในเวลานี้สองพี่น้องอย่างเจริลและจาเวีย์ก็อดที่จะตัวสั่นขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้ดูเหมือนคำพูดของชาร์ลีจะทำให้คนทั้งคู่
สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดก็คือ การปั่นจักรยานอย่างยากลำบากจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ยังพอรับได้ การที่ต้องปั่นจักรยานเป็นเวลาครึ่งเดือน ก็ยังดีเสียกว่าการนอนบนเตียงอยู่ครึ่งเดือนหลังผ่าตัดนอกจากนี้เขายังรู้สึกคับข้องใจอย่างมากในระหว่างการผ่าตัดครั้งล่าสุด ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ยังไม่หายดีเลย ถ้าเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดแบบเดิมอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ เขาก็จะต้องได้รับความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าอย่างแน่นอนในเวลานี้ชาร์ลีพูดขึ้นมาว่า “ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์ก็เพื่อให้นายได้ไปปรับปรุงตัวและกลับเนื้อกลับตัวใหม่ นายคิดว่า การที่ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์เพื่อให้ไปสนุกสนานกับชีวิตที่นั่นเหรอ? จะบอกอะไรให้นะ นายจะต้องปั่นจักรยานธรรมดา ๆ อย่าง Phoenix 28 เท่านั้น ใช้อย่างอื่นไม่ได้เลย! ไม่งั้นฉันจะให้นายปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์พร้อมกับเกวียนที่บรรทุกก้อนอิฐไปจนเต็มคัน!”“แล้วหลังจากนายไปถึงโอลรัสฮิลล์ นอกจากนายจะต้องคอยขับรถรับส่งให้กับลอรีนแล้ว นายต้องเช่าห้องเดี่ยวในชุมชนแออัดคลิฟฟ์คูลส์ด้วย ค่าใช้จ่ายรายเดือนรวมถึงค่าเช่าบ้านของนายจะต้องไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท!”
เมื่อเขาได้ยินว่า จะต้องขี่จักรยานจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์ตลอดทาง และต้องอยู่ในโอลรัสฮิลล์ในฐานะคนขับรถเป็นเวลาหนึ่งปี ดีแลนก็รู้เหมือนกำลังจะตายไปแล้วจริง ๆ ประเด็นก็คือระยะทางจากอีสต์คลิฟฟ์ไปโอลรัสฮิลล์นั้น มีระยะทางมากกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะไม่ตายเพราะหมดแรงถ้าต้องปั่นจักรยานไปตลอดทางจริง ๆ เหรอ?แล้วตอนนี้ก็อยู่ในเดือนธันวาคมซึ่งเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว เขาจะต้องขี่จักรยานตลอดทางไปจนถึงภาคใต้ แล้วไม่ได้รับอนุญาตให้พักในโรงแรมเลยด้วย ข้อกำหนดเหล่านี้รุนแรงเกินไปไม่ใช่เหรอ?ดีแลนรู้สึกเสียใจมากและน้ำตาก็เริ่มไหลอาบใบหน้านี่มันเรื่องบ้าบออะไรกันเนี่ย… เขาเป็นนายน้อยคนที่สามของตระกูลโคช แต่จะต้องขี่จักรยานไปจนถึงโอลรัสฮิลล์? เขาจะไม่ล้มตายไปในระหว่างทางหรอกเหรอ?คงจะน่าทึ่งมากถ้าเขาสามารถปั่นจักรยานได้วันละห้าสิบ หรือหกสิบกิโลเมตรระยะทางกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะต้องปั่นจักรยานไปประมาณยี่สิบวัน!แต่นี่มันเดือนธันวาคมแล้วนะ!เขาสะอึกสะอื้นพร้อมกับพูดว่า “คุณเวดครับ ถ้าผมเริ่มปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์ กว่าจะถึงที่นั่นก็คงเป็นเดือนมกราคมแล้ว น้องสาวผมจะต้องกลับมาฉลองปีใหม่ที่
ลอรีนดีใจมากแล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ขอบคุณมากนะคะชาร์ลี!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “รอเดี๋ยวนะ ผมจะไม่บังคับให้เขากลืนจี้หยกเข้าไป แต่ยังต้องลงโทษเขาด้วยวิธีอื่น ไม่งั้นเขาคงไม่จดจำไว้เป็นบทเรียน”ลอรีนรีบถามว่า “คุณจะลงโทษเขาด้วยวิธีไหนคะ ชาร์ลี? คงไม่ร้ายแรงไปกว่าการกลืนจี้หยกเข้าไปแล้วใช่ไหมคะ?”“ไม่หรอกครับ ชาร์ลียิ้มเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า “คุณมั่นใจได้เลยว่า การลงโทษครั้งนี้จะส่งผลดีกับตัวเขาอย่างแน่นอน”ในที่สุดลอรีนก็รู้สึกสบายใจในขณะที่พูดอย่างเสน่หาว่า “ขอบคุณนะคะชาร์ลี ขอบคุณที่ให้อภัยพี่ชายของฉัน และปล่อยเขาไปเพราะเห็นแก่ฉัน ถ้าอย่างนั้น คุณให้โอกาสฉันได้ตอบแทนคุณดีไหมคะ…”ชาร์ลีถามด้วยความประหลาดใจ “คุณจะตอบแทนผมยังไงเหรอ?”ลอรีนกะพริบตาในขณะที่ยิ้มและพูดอย่างตั้งใจว่า “ฉันสัญญาว่าจะแต่งงานกับคุณ และให้กำเนิดลูกชายตัวอ้วน ๆ เพื่อคุณ! คุณคิดว่ายังไงคะ?”ชาร์ลีตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “อย่าพูดอะไรแบบนี้อีก ผมเป็นสามีของเพื่อนสนิทของคุณนะ!”ลอรีนพยักหน้าก่อนจะพูดอย่างจริงจังว่า “ฉันรู้ค่ะ แต่คุณทั้งคู่แต่งงานกันแบบปลอม ๆ นี่! ก็ยังไม่ถือว่าเป็นการแต่งงานกันอย่างแท้จริง! จริง ๆ แล