คาสึกิพูดกับนานาโกว่า "นานาโกะ ผมเชื่อว่าคุณจะน็อคคู่ต่อสู้ได้ในยกแรกของรอบนี้ ดังนั้นผมคงไม่ต้องไปคอยแนะนำอะไรให้คุณ"นานาโกะถามด้วยความสงสัยว่า "อาจารย์จะไปดูการแข่งขันของออโรร่าเหรอคะ?”“ใช่แล้ว" คาสึกิตอบ "ผมจะไปดูว่าโค้ชของเธอว่าทรงพลังขนาดไหนถึงได้ล้มแฮนสัน ซาเวียร์ด้วยการโจมตีแบบรวดเดียวจบได้ ถ้าเขาเป็นคนที่มีความสามารถจริง ๆ เขาก็เป็นภัยมหันต์ต่อเราในอนาคตอย่างแน่นอน แล้วผมก็อยากดูด้วยว่าออโรร่า ควินตันจะมีความก้าวหน้ายังไงเมื่ออยู่ภายใต้การแนะนำของเขา"จิโร่รีบเข้ามาในขณะที่พูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า "รีบไปเถอะครับคุณยามาโมโตะ ผมจะคอยดูแลคุณอิโตะเองจนกว่าจะแข่งเสร็จ!”คาสึกิแค่ส่ายหัวอย่างช่วยอะไรไม่ได้อันที่จริงเขาก็ไม่ชอบจิโร่อยู่เหมือนกัน เขารู้สึกว่าผู้ชายอย่างจิโร่ช่างมีร่างกายที่อ่อนแอเสียเหลือเกิน และการไร้พลังเช่นนี้ช่างไม่คู่ควรกับลูกศิษย์ที่มีความสามารถโดดเด่นของเขาเลย ยิ่งไปกว่านั้นเขายังอดรู้สึกจงเกลียดจงชังจิโร่อย่างมาก เพราะจิโร่ชอบบินหึ่งอยู่รอบ ๆ ตัวเขาอย่างกับแมลงวันที่น่ารำคาญแต่เนื่องจากเขาได้รับการพิจารณาให้เป็นอาจารย์ที่ทรงคุณค่าของประเทศญี่ปุ่น เ
ในขณะที่เขากำลังจ้องมองนานาโกะอยู่นั้น เขาก็เห็นคนแปลก ๆ จ้องมองเขาจากทางด้านหลังของเธอชาร์ลีขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัวก่อนจะจ้องมองคนคนนั้น เขาเห็นผู้ชายคนหนึ่งซึ่งมีรูปร่างหน้าตาที่คุ้นเคยและน่าเวทนา จ้องมองมาที่เขาด้วยความรู้สึกหวาดกลัวอย่างมากถึงแม้ว่าเด็กคนนี้จะดูเป็นคนสุภาพเรียบร้อย แต่ภายใต้ดวงตาอันเฉียบแหลมของชาร์ลีนั้น เขาสามารถบอกได้เลยว่าผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนดีอะไรเลย แน่นอนว่าเขาเป็นพวกหน้าซื่อใจคดที่เป็นเศษสวะของสังคมเมื่อชาร์ลีเหลือบมองเขา เขาก็เห็นว่าจิโร่ตัวสั่นสะท้านไปทั้งตัว!จิโร่อดที่จะตัวสั่นด้วยความกลัวไม่ได้ เพราะชาร์ลีได้ทิ้งความประทับใจอันสุดซึ้งไว้กับเขาจิโร่เคยเห็นคนที่มีความโหดเหี้ยมมาก่อน เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาในฮ่องกง มีคนลักพาตัวลูกชายของผู้ชายที่ร่ำรวยที่สุดไป หลังจากนั้นเขาก็เดินเข้าไปในวิลล่าของชายผู้ร่ำรวยที่สุดคนนี้ พร้อมกับพกพาระเบิดไว้เต็มร่างกาย ก่อนจะข่มขู่เพื่อรีดไถเงินจำนวนหนึ่งพันล้านดอลลาร์ฮ่องกงจากเขานอกจากนี้เขายังเคยได้ยินเรื่องการปล้นรถหุ้มเกราะในยุโรปที่ทำให้โลกต้องตะลึง พวกโจรได้ปล้นเงินจากรถหุ้มเกราะไปได้มากกว่าหนึ่งร้อยล้านยูโรแต
ชาร์ลียิ้มก่อนจะพูดว่า "คุณโคบายาชิ คุณเองก็ไม่เลวเหมือนกัน ดูเหมือนคุณจะมีพลังอยู่เต็มเปี่ยมเหมือนกัน แล้วยังอารมณ์ดีด้วย แต่คุณไม่สูงมากเท่านั้นเอง"จิโร่รู้สึกหดหู่เล็กน้อยไปชั่วขณะหนึ่งเขาสูงไม่ถึง 170 เซนติเมตร ถึงแม้เขาจะมีความสูงอยู่ในเกณฑ์ธรรมดาเหมือนชายชาวเอเชียทั่วไป แต่เขาก็ยังห่างไกลกับความสูงในเกณฑ์มาตรฐานของผู้ชายที่สูง หล่อ และร่ำรวยจิโร่ใฝ่ฝันมาตลอดว่าจะสามารถเติบโตได้สูงถึง 180 เซนติเมตร แต่หลังจากพยายามทุกวิถีทางแล้ว เขาก็ยังทำไม่ได้แม้แต่น้อยดังนั้นปัญหาความสูงของเขาจึงเป็นต้นเหตุที่ทำให้เขารู้สึกปวดใจอยู่เสมอในเวลานี้ชาร์ลีซึ่งสูง 185 เซนติเมตร กำลังล้อเรื่องความสูงของจิโร่ต่อหน้านานาโกะ ซึ่งทำให้เขารู้สึกอึดอัดมาก และไม่สามารถควบคุมการแสดงออกทางสีหน้าของเขาได้อีกต่อไปชาร์ลีพูดขึ้นอีกครั้งในเวลานี้ "คุณโคบายาชิ ผมไม่คิดเลยนะว่าคุณจะพูดภาษาออสเกียนได้คล่องแคล่ว! คุณเก่งกว่าพี่ชายของคุณมาก!”จิโร่รีบตอบว่า "พี่ชายของผมเป็นคนขี้เกียจมากในช่วงที่เขายังมีชีวิตอยู่ เขาไม่ได้สนใจเรียนภาษาออสเกียนอย่างจริงจังน่ะครับ"“โอ้...” ชาร์ลีพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะยิ้มแล้
ชาร์ลีมองไปที่ยามาโมโตะ คาสึกิด้วยความสนใจ พูดตามตรง… ชาร์ลีไม่เข้าใจในเรื่องศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวเลย ถ้าไม่เป็นเพราะออโรร่าต้องการเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ เขาก็คงไม่มาวุ่นวายกับผู้คนในแวดวงศิลปะการต่อสู้เช่นนี้หรอกนี่เป็นเพราะในสายตาของเขานั้น ถึงแม้จะมีใครก้าวไปถึงจุดสูงสุดของการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ แต่ก็ยังถือว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับวงนอกในแวดวงของศิลปะการต่อสู้เป็นที่ทราบกันดีว่าศิลปะการต่อสู้นั้น เน้นการฝึกกล้ามเนื้อขั้นพื้นฐาน ส่วนความหนาแน่นของกระดูกไม่ควรถือเป็นทักษะการต่อสู้ ผู้เชี่ยวชาญระดับวงในจะต้องเรียนรู้การใช้พลังลมปราณ รวมทั้งพลังภายในเมื่อต้องเผชิญหน้ากับการต่อสู้อย่างไรก็ตามคนที่เรียนศิลปะการต่อสู้นั้นมีจำนวนมากมายจนน่าตกใจ แม้แต่เด็กอายุสามขวบก็ยังไปฝึกฝนการเตะและต่อยเลย แล้วอย่างนี้เหล่าเด็ก ๆ พวกนี้จะถูกจัดว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้หรือเปล่าล่ะ? ถึงแม้จะมีคนเรียนอยู่มากมาย แต่คนที่สามารถใช้พลังลมปราณนั้นแทบจะเป็นศูนย์ยามาโมโตะ คาสึกิดูเหมือนจะเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญระดับวงนอก และดูเหมือนจะเป็นหนึ่งในเหล่าอาจารย์ทั้งหลาย ถึงแม้ว่าจะเขาดูแก่เท่า
หลังจากพูดไปตามที่คิดแล้ว เขาก็หันไปหาอิโตะ นานาโกะที่แสดงสีหน้าตกใจ เขาพูดด้วยน้ำเสียงเบิกบานใจว่า "คุณอิโตะ คุณมีโครงสร้างกระดูกและเส้นลมปราณที่ดี เมื่อพิจารณาจากมุมมองของศิลปะการต่อสู้ของชาวออสเกียนแล้ว เส้นลมปราณ 'เริ่นม่าย' และ 'ตูม่าย' ของคุณก็เปิดใช้งานได้บางส่วนแล้ว ถ้าสามารถเปิดใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ คุณก็สามารถเป็นสาวกวงในได้แล้ว"“เส้นลมปราณ 'เริ่นม่าย' และ 'ตูม่าย' เหรอ?!” อิโตะถามขึ้นด้วยความประหลาดใจ "นั่นคือเส้นลมปราณในตำนานศิลปะการต่อสู้ของชาวออสเกียนโบราณใช่ไหม? แล้วสาวกวงในหมายถึงอะไรคะ?!”ชาร์ลีพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูจริงจังมากขึ้น "ตำนานศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวนั้นมีต้นกำเนิดมาจากศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวแบบดั้งเดิม ก็เหมือนกับเส้นลมปราณ 'เริ่นม่าย' นั่นแหละ สิ่งเหล่านี้ไม่ได้สร้างขึ้นมาเป็นตำนาน แต่เป็นข้อเท็จจริงที่ได้รับการยืนยันจากวารสารทางการแพทย์ของชาวออสเกียน ซึ่งพบว่ามีอายุนับพันปี“สำหรับคำว่าสาวกวงในนั้น ผมจะอธิบายอย่างไรดีล่ะ? ขออธิบายแบบนี้ก็แล้วกัน ด้วยการฝึกฝนอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบันของคุณนี้ คุณไม่มีทางเทียบเทียบความเก่งกาจของศิลปะการต่อสู้ระดับวงใ
”เศษสวะ?”หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น รอยยิ้มขี้เล่นก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของชาร์ลีดูเหมือนว่าคุณยามาโมโตะคนนี้จะมีความหยิ่งผยองเกินไป เขาอาจประเมินความแข็งแกร่งของตัวเองสูงเกินไป สาวกวงนอกที่ไร้ค่าเช่นเขา แม้จะได้รับการฝึกฝนร่างกายชั้นเยี่ยมยอดมาก็ไม่สามารถเอาชนะชาร์ลีได้ถ้าไม่ชอบชาร์ลีที่ความคิดเห็นไม่ตรงกันก็ไม่เป็นไร แต่การมาคาดหวังว่าเขาไม่มีน้ำใจนักกีฬานั้นดูจะสร้างความสับสนงุนงงเกินไปหน่อยเพื่อสร้างความเจ็บแค้นให้มากยิ่งขึ้น เขาถึงยกเรื่องที่ชาวออสเกียนมักจะอ่อนแอขึ้นมาด่าว่า นั่นยิ่งทำให้เลือดของชาร์ลีเดือดปุด ชาร์ลีจึงยิ้มแล้วตอบว่า "ในเมื่อคุณยามาโมโตะเต็มใจที่จะเดิมพัน ทำไมเราไม่มาเพิ่มการเดิมพันกันสักหน่อยล่ะ?”ยามาโมโตะทำเสียงไม่พอใจ "ได้เลย! ไม่ว่าจะเดิมพันกันสักเท่าไหร่ ผมก็จะเล่นให้ถึงที่สุด"สำหรับยามาโมโตะแล้ว ไม่ว่าชาร์ลีจะดูแข็งแกร่งสักแค่ไหน เขาก็มีโอกาสเอาชนะในการต่อสู้ด้วยการชกเพียงหมัดเดียวดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะวางเดิมพัน ไม่ว่าจะรุนแรงแค่ไหน เขาก็มั่นใจว่าจะเอาชนะได้ชาร์ลียิ้ม "ผมเป็นคนมีหลักการ ยุติธรรม และเที่ยงธรรม ในเมื่อคุณบอกว่าคนออสเกียนนั้นอ
แต่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าชาร์ลีจะใส่กำลังภายในและพลังฝ่ามือลงไปในกำปั้นของเขายามาโมโตะมองไปยังหมัดอันน่าอดสูของชาร์ลี แล้วเกือบจะหัวเราะออกมาดัง ๆสีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความดูหมิ่นดูแคลนในขณะที่ส่งเสียงออกมาว่า "หมัดชกแบบนั้นเหรอ? มีความรู้สึกเหมือนเด็กอายุสามขวบกำลังจะต่อยฉันเลย ฉันสามารถปัดป้องด้วยมือข้างเดียว และฉันยังสามารถ...”ยามาโมโตะพยายามจะสื่อข้อความออกไปว่าเขาสามารถปัดป้องการโจมตีด้วยมือข้างเดียวได้ แต่คำพูดเหล่านั้นกลับไม่หลุดออกมาจากปากของเขา กำปั้นของชาร์ลีสัมผัสกับผิวหนังของเขา แล้วร่างกายของเขาก็รู้สึกเหมือนถูกรถไฟชน ความเจ็บปวดรวดร้าวแล่นไปทั่วเรือนร่างของเขาทันทียามาโมโตะส่งเสียงครวญครางดังลั่น แล้วร่างของเขาก็ปลิวข้ามห้องไปด้วยความเร็วสูงร่างกายของเขาโค้งงอเป็นรูปตัวซีในขณะที่ปลิวข้ามห้องออกไปราว ๆ ยี่สิบเมตรเส้นลมปราณของเขาทั้งหมดถูกทำลายโดยพลังฝ่ามือของชาร์ลีพูดให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือในช่วงที่เขาล่องลอยอยู่ในอากาศนั้น ความเป็นนักต่อสู้ชาวญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงของเขา ฉับพลันก็กลับกลายเป็นเศษสวะที่ไร้ประโยชน์ร่างของยามาโมโตะหล่นกระแทกลงกับพื้นเสียงดังลั่น
ในขณะนี้ยามาโมโตะตัวสั่นด้วยความกลัว ตลอดชีวิตที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกหวาดกลัวเท่านี้มาก่อน เขาไม่เคยพบใครที่ทรงพลังขนาดนี้ซึ่งเกินความรู้และความสามารถของเขาไปมากปรมาจารย์ประเภทไหนกันที่สามารถมีพลังทำลายล้างได้สูงขนาดนี้ แค่ชกเบา ๆ ก็สามารถทำลายความเป็นอาจารย์สอนศิลปะการต่อสู้จนหมดสิ้น และทำให้เขากลายสภาพเป็นเศษสวะได้ปัญหาในตอนนี้ก็คือ… เขาไม่เพียงแต่ทำลายชายคนหนึ่งด้วยการชกเพียงหมัดเดียวเท่านั้น แต่เขายังรู้สึกไม่พอใจ และต้องการสลักคำที่น่าอับอายไว้บนหน้าผากของผู้แพ้ด้วยหลังจากครุ่นคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น คาสึกิ ยามาโมโตะก็รีบวิงวอนของร้องทันที "คุณครับ ทักษะการต่อสู้ของผมยังเทียบกับมาตรฐานของคุณไม่ได้ เป็นเพราะการกระทำของผมเองจึงถูกทำลายจนหมดสภาพแบบนี้ ได้โปรดเถอะครับ ผมขอร้อง ช่วยปล่อยผมให้อยู่อย่างมีศักดิ์ศรีสักหน่อยได้ไหม? อย่าสลักคำที่น่าอายนั้นไว้บนหน้าผากของผมเลย ขอร้องล่ะครับ!”นานาโกะที่อยู่เคียงข้างยามาโมโตะก็น้ำตาคลอเช่นกัน เธอโค้งคำนับจนสุดตัว แล้วเริ่มส่งเสียงวิงวอนขอร้อง "คุณคะ โปรดไว้ชีวิตอาจารย์ของฉันด้วยค่ะ เห็นแก่อายุที่มากแล้วของเขาด้วยเถอะนะคะ?”ชาร์ลีหันไปหา
“โอเค” ชาร์ลีพยักหน้าก่อนจะพูดว่า “เอาล่ะ ถึงเวลาที่นายต้องออกเดินทางแล้ว”ในเวลานี้จาเวียร์ก็วิ่งเข้าไปหาพวกเขาพร้อมกับแบตเตอรี่สำรองในมือ หลังจากนั้นเขาก็ยื่นแบตเตอรี่สำรองกับสายชาร์จให้กับดีแลนในขณะที่พูดว่า “ดีแลน นี่แบตเตอรี่สำรอง!”ดีแลนหยิบแบตเตอรี่สำรองใส่ไว้ในเป้ หลังจากปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้ว เขาก็พูดกับทุกคนว่า “คุณยาย คุณตา พ่อ แม่ ลุง อา ผมจะไปแล้วนะคับ…”ทุกคนโบกมือให้เขา “ไปเถอะ อย่าลืมใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนนะ!”ดีแลนมองไปที่ชาร์ลีอีกครั้งก่อนจะโค้งคำนับแล้วพูดว่า “ผมจะไปแล้วนะครับคุณเวด…”ชาร์ลีส่งเสียงพึมพำในขณะที่พูดว่า “รีบไปเถอะ ไม่งั้นนายจะถูกทำโทษที่ไปถึงช้านะ”ดีแลนรีบพยักหน้าในขณะที่พูดว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงครับ! ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ!”ชาร์ลีโบกมือแล้วพูดว่า “อืม ไปได้แล้ว!”ดีแลนพยักหน้าก่อนจะหันกลับไปมองเหล่าญาติ ๆ อย่างไม่เต็มใจ จากนั้นเขาก็เริ่มปั่นจักรยาน Phoenix 28 คันใหญ่อย่างหนักหน่วง หลังจากถีบจักรยานไปได้สองสามครั้ง ในที่สุดดีแลนก็ถีบจักรยานจากไปในลักษณะโคลงเคลงซิลเวียเริ่มร้องไห้อย่างขมขื่น ลีโอนาร์ดจึงรีบคว้าเธอมาปลอบโยนอยู่ในอ้อ
เมื่องานเลี้ยงวันเกิดสิ้นสุดลง และแขกคนอื่น ๆ ได้กลับไปแล้ว ดีแลนก็เข็นรถจักรยาน Phoenix 28 คันใหม่ออกมาในเวลานี้จู่ ๆ ดีแลนก็นึกถึงเพลงฮิตที่เขาเคยเห็นในคลิปวิดีโอสั้น ๆ…เพลงนี้ก็คือเพลง ‘ขี่มอเตอร์ไซต์แสนรักของฉัน’...ในขณะที่เขานึกถึงเพลงนี้ เขาก็มองไปที่จักรยาน Phoenix 28 ในสภาพเก่าที่ดูน่าเกลียดนั้น แล้วอดที่จะถอนหายใจไม่ได้ในขณะที่คิดกับตัวเองว่า ‘ถ้าฉันขี่มอเตอร์ไซค์ไปโอลรัสฮิลล์ได้ก็คงจะดีไม่น้อย เพราะจะทำให้ฉันสามารถเดินทางได้ประมาณสามถึงสี่ร้อยกิโลเมตรต่อวัน ซึ่งจะช่วยให้ฉันเดินทางไปถึงโอลรัสฮิลล์ได้เร็วที่สุด จะได้ไม่ต้องทนทุกข์กับความคับข้องใจและความอยุติธรรมมากมายในระหว่างทาง…’แต่ช่างน่าสงสารเหลือเกินที่เขารู้ว่าชาร์จะไม่มีทางเปิดโอกาสให้เขาได้ต่อรองอะไรเลย เขาจึงทำได้แค่เข็นจักรยานออกมาเพื่อเตรียมตัวออกเดินทางเจริล… ลุงของเขาถือหมวกกันน็อกสีเขียวอยู่ในมือ ในขณะที่พยายามจะสวมให้กับดีแลน ดีแลนหลบเลี่ยงหมวกใบนั้นในขณะที่ถามอย่างอึดอัดใจว่า “ทำไมถึงซื้อหมวกกันน็อกสีเขียวมาให้ผมล่ะลุง? หมวกสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของผู้ชายที่โดนสวมเขานะ…”“อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลยน่า” เจร
"หา? เร็วไปไหม? คุณจะไม่อยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่ออีกสักสองสามวันเหรอ?”“ผมทำธุระของผมเสร็จหมดแล้วน่ะ ไม่มีธุระอะไรให้ผมต้องอยู่ที่นี่อีก ผมจะออกเดินทางพรุ่งนี้เลย”เมื่อลอรีนได้ยินดังนี้ เธอก็พูดขึ้นอย่างไม่ลังเลเลยว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะออกจากอีสต์คลิฟฟ์พรุ่งนี้ด้วย เราเดินทางกลับโอลรัสฮิลล์พร้อมกันดีไหมคะ? เราจะได้นั่งเครื่องบินลำเดียวกันชาร์ลีอยากจะปฏิเสธเธอ แต่เมื่อเขาเห็นสีหน้าที่แสดงความวิงวอนของเธอแล้ว เขาก็ปฏิเสธเธอไม่ลงเพราะไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม… นับเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนเป็นเพื่อนกัน ที่ต้องนั่งเครื่องบินลำเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถหลบเลี่ยงการนั่งเครื่องบินเที่ยวบินเดียวกับเธอได้ชาร์ลีจึงพูดว่า “ได้สิ เรากลับด้วยกันก็ได้”ลอรีนรีบพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวคุณให้รายละเอียดบัตรประจำตัวกับฉันมานะ ฉันจะได้ซื้อตั๋วเครื่องบินของเราพร้อมกัน!”“โอเค”***ในขณะที่งานเลี้ยงวันเกิดยังคงดำเนินอยู่นั้น ลุงและอารองของดีแลนก็ได้ตระเตรียมการเดินทางด้วยการปั่นจักรยานไปยังโอลรัสฮิลล์ให้ดีแลนเรียบร้อยแล้วพวกเขาได้ให้คนไปซื้อจักรยาน Phoenix 28 รุ่นเก่ามา แล้วติดตั้งชั้นวางสัมภา
หลังจากนั้นงานเลี้ยงวันเกิดก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการมีการจัดที่นั่งให้กับชาร์ลีเป็นพิเศษในฐานะที่เขาเป็นแขกผู้มีเกียรติสูงสุด โดยเขาได้นั่งอยู่ข้างนายท่านโธมัสกับลอรีนและริกลีย์หลังจากนั้นสมาชิกของตระกูลโธมัสก็ผลัดกันดื่มอวยพรให้เขา โดยทั้งการแสดงออกทางสีหน้า น้ำเสียง และการกระทำล้วนเต็มไปด้วยการสรรเสริญเยินยอ ชาร์ลีไม่มีอะไรจะพูดมากนัก เมื่อมีคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็แค่ดื่มอวยพรกลับไป ซึ่งถึงแม้ดีแลนจะเป็นคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็ดื่มอวยพรกลับไปอย่างง่ายดายในเวลานี้ริกลีย์ก็ยังมาดื่มอวยพรให้กับชาร์ลีอย่างระมัดระวังด้วย โดยเขาได้เยินยอแล้วพูดว่า “คุณเวดครับ ผมมีเรื่องจะถามคุณหน่อยครับ…”ชาร์ลีรู้อยู่แล้วว่าเขาจะถามอะไรก่อนที่เขาจะเริ่มพูดออกมาด้วยซ้ำไป เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการให้ชาร์ลีช่วยฟื้นคืนสมรรถภาพ เพื่อให้เขากลับมาแข็งแกร่งได้อีกครั้งแต่เมื่อพิจารณาถึงเรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่ครอบครัวของพวกเขาได้ทำกับครอบครัวของยูลแล้ว ชาร์ลีก็ยังแน่ใจว่าเขาจะไม่ยอมฟื้นคืนสมรรถภาพให้พวกเขาในตอนนี้ผู้ที่เป็นผู้ใหญ่แล้วจะต้องชดใช้และรับผิดชอบต่อการกระทำของพวกเขา ไม่อย่างนั้นแล้วพวกเขาจะได้บทเ
ชาร์ลีหยิบภาพวาดที่ยูลมอบให้เขาจากมือของดีแลน ก่อนจะยื่นให้กับยายของลอรีนด้วยตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็พูดว่า “คุณยายโธมัสครับ นี่เป็นของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผมครับ ผมหวังว่าคุณยายจะรับมันไว้ และผมอยากจะขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นไปเมื่อกี้นี้ ด้วยวันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณยาย ผมหวังว่าคุณยายคงจะให้อภัยผมนะครับ”คุณท่านโธมัสรู้สึกปลื้มใจแล้วรีบพูดขึ้นว่า “คุณเวด ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ จริง ๆ แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้เป็นเพราะหลานชายของฉันทำอะไรผิดไป ฉันมาคิดดูแล้ว… ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะเราละเลยในการอบรมสั่งสอนหลานของเรา จึงทำให้คุณเวดต้องเดือดร้อน”ในขณะที่เธอพูดอยู่นั้น เธอก็มองดูภาพวาดก่อนจะพูดว่า “คุณเวดคะ ภาพวาดนี้มีมูลค่ามากเหลือเกิน ฉันคงรับของขวัญชิ้นนี้ไว้ไม่ได้หรอกค่ะ!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “คุณยายโธมัสครับ ของขวัญชิ้นนี้เป็นเพียงของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผม มูลค่าของของขวัญชิ้นนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลย คุณยายไม่ต้องเกรงใจผมหรอกครับ พูดตามตรงนะครับ ผมไม่ได้ใช้จ่ายเงินกับของขวัญชิ้นนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะคุณโกลดิ้งจากโกลดิ้งกรุ๊ปมอบภาพวาดนี้ให้ผม แล้วผมก็นำมา
เมื่อได้ยินว่าเขาจะต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง ดีแลนก็ส่ายหัวอย่างบ้าคลั่งทันที!เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว เขาคงต้องทนทุกข์ทรมานและรู้สึกคับข้องใจเพียงเล็กน้อย ถ้าเขาต้องอาศัยอยู่ในชุมชนแออัด โดยมีค่าครองชีพเดือนละหนึ่งหมื่นบาท แต่ถ้าเขาต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง เขาก็คงต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมาก และต้องเจอะเจอความยากลำบากมากมายในไซต์ก่อสร้างแห่งนั้นเขาจึงพยักหน้าแบบไม่คิดอะไรทันที “คุณเวดครับ ผมยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดของคุณแล้ว ผมจะไม่ต่อรองอะไรกับคุณแล้วครับ! ขอแค่อย่าส่งผมไปไซต์ก่อสร้างนั้นเลยนะครับ…”ชาร์ลีรู้สึกพอใจมากแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “อย่าลืมปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีหลังจากนายไปถึงที่โอลรัสฮิลล์แล้ว อย่าสร้างปัญหาอะไรเพิ่มขึ้นมาอีกล่ะ ถ้านายยังคงอยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่อไป ทายาทที่ชอบเยาะเย้ยถากถางคนอื่นอย่างนาย ก็อาจก่อให้เกิดหายนะที่ร้ายแรงกว่านี้ได้ในสักวันหนึ่ง นายอาจเข้าไปพัวพันและทำให้ให้ตระกูลโธมัสและตระกูลโคชต้องเดือดร้อนได้!”ในเวลานี้สองพี่น้องอย่างเจริลและจาเวีย์ก็อดที่จะตัวสั่นขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้ดูเหมือนคำพูดของชาร์ลีจะทำให้คนทั้งคู่
สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดก็คือ การปั่นจักรยานอย่างยากลำบากจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ยังพอรับได้ การที่ต้องปั่นจักรยานเป็นเวลาครึ่งเดือน ก็ยังดีเสียกว่าการนอนบนเตียงอยู่ครึ่งเดือนหลังผ่าตัดนอกจากนี้เขายังรู้สึกคับข้องใจอย่างมากในระหว่างการผ่าตัดครั้งล่าสุด ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ยังไม่หายดีเลย ถ้าเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดแบบเดิมอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ เขาก็จะต้องได้รับความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าอย่างแน่นอนในเวลานี้ชาร์ลีพูดขึ้นมาว่า “ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์ก็เพื่อให้นายได้ไปปรับปรุงตัวและกลับเนื้อกลับตัวใหม่ นายคิดว่า การที่ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์เพื่อให้ไปสนุกสนานกับชีวิตที่นั่นเหรอ? จะบอกอะไรให้นะ นายจะต้องปั่นจักรยานธรรมดา ๆ อย่าง Phoenix 28 เท่านั้น ใช้อย่างอื่นไม่ได้เลย! ไม่งั้นฉันจะให้นายปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์พร้อมกับเกวียนที่บรรทุกก้อนอิฐไปจนเต็มคัน!”“แล้วหลังจากนายไปถึงโอลรัสฮิลล์ นอกจากนายจะต้องคอยขับรถรับส่งให้กับลอรีนแล้ว นายต้องเช่าห้องเดี่ยวในชุมชนแออัดคลิฟฟ์คูลส์ด้วย ค่าใช้จ่ายรายเดือนรวมถึงค่าเช่าบ้านของนายจะต้องไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท!”
เมื่อเขาได้ยินว่า จะต้องขี่จักรยานจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์ตลอดทาง และต้องอยู่ในโอลรัสฮิลล์ในฐานะคนขับรถเป็นเวลาหนึ่งปี ดีแลนก็รู้เหมือนกำลังจะตายไปแล้วจริง ๆ ประเด็นก็คือระยะทางจากอีสต์คลิฟฟ์ไปโอลรัสฮิลล์นั้น มีระยะทางมากกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะไม่ตายเพราะหมดแรงถ้าต้องปั่นจักรยานไปตลอดทางจริง ๆ เหรอ?แล้วตอนนี้ก็อยู่ในเดือนธันวาคมซึ่งเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว เขาจะต้องขี่จักรยานตลอดทางไปจนถึงภาคใต้ แล้วไม่ได้รับอนุญาตให้พักในโรงแรมเลยด้วย ข้อกำหนดเหล่านี้รุนแรงเกินไปไม่ใช่เหรอ?ดีแลนรู้สึกเสียใจมากและน้ำตาก็เริ่มไหลอาบใบหน้านี่มันเรื่องบ้าบออะไรกันเนี่ย… เขาเป็นนายน้อยคนที่สามของตระกูลโคช แต่จะต้องขี่จักรยานไปจนถึงโอลรัสฮิลล์? เขาจะไม่ล้มตายไปในระหว่างทางหรอกเหรอ?คงจะน่าทึ่งมากถ้าเขาสามารถปั่นจักรยานได้วันละห้าสิบ หรือหกสิบกิโลเมตรระยะทางกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะต้องปั่นจักรยานไปประมาณยี่สิบวัน!แต่นี่มันเดือนธันวาคมแล้วนะ!เขาสะอึกสะอื้นพร้อมกับพูดว่า “คุณเวดครับ ถ้าผมเริ่มปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์ กว่าจะถึงที่นั่นก็คงเป็นเดือนมกราคมแล้ว น้องสาวผมจะต้องกลับมาฉลองปีใหม่ที่
ลอรีนดีใจมากแล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ขอบคุณมากนะคะชาร์ลี!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “รอเดี๋ยวนะ ผมจะไม่บังคับให้เขากลืนจี้หยกเข้าไป แต่ยังต้องลงโทษเขาด้วยวิธีอื่น ไม่งั้นเขาคงไม่จดจำไว้เป็นบทเรียน”ลอรีนรีบถามว่า “คุณจะลงโทษเขาด้วยวิธีไหนคะ ชาร์ลี? คงไม่ร้ายแรงไปกว่าการกลืนจี้หยกเข้าไปแล้วใช่ไหมคะ?”“ไม่หรอกครับ ชาร์ลียิ้มเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า “คุณมั่นใจได้เลยว่า การลงโทษครั้งนี้จะส่งผลดีกับตัวเขาอย่างแน่นอน”ในที่สุดลอรีนก็รู้สึกสบายใจในขณะที่พูดอย่างเสน่หาว่า “ขอบคุณนะคะชาร์ลี ขอบคุณที่ให้อภัยพี่ชายของฉัน และปล่อยเขาไปเพราะเห็นแก่ฉัน ถ้าอย่างนั้น คุณให้โอกาสฉันได้ตอบแทนคุณดีไหมคะ…”ชาร์ลีถามด้วยความประหลาดใจ “คุณจะตอบแทนผมยังไงเหรอ?”ลอรีนกะพริบตาในขณะที่ยิ้มและพูดอย่างตั้งใจว่า “ฉันสัญญาว่าจะแต่งงานกับคุณ และให้กำเนิดลูกชายตัวอ้วน ๆ เพื่อคุณ! คุณคิดว่ายังไงคะ?”ชาร์ลีตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “อย่าพูดอะไรแบบนี้อีก ผมเป็นสามีของเพื่อนสนิทของคุณนะ!”ลอรีนพยักหน้าก่อนจะพูดอย่างจริงจังว่า “ฉันรู้ค่ะ แต่คุณทั้งคู่แต่งงานกันแบบปลอม ๆ นี่! ก็ยังไม่ถือว่าเป็นการแต่งงานกันอย่างแท้จริง! จริง ๆ แล