แคลร์ช่วยเธอเลือกชุดเจ้าสาวที่ดูสวยมากชุดหนึ่งที่มีเสื้อแบบเกาะอก หลังจากนั้นเธอก็พูดว่า "ฉันคิดว่าชุดแต่งงานชุดนี้เหมาะกับเธอมาก เป็นชุดเจ้าสาวที่ผ่าเผยและสง่างามมาก แล้วยังเผยให้เห็นกระดูกไหปลาร้าของเธอด้วย ดูเร้าอารมณ์มากเลยล่ะ!แมกโนเลียยืนลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า "ถ้าอย่างนั้นก็เอาตามที่เธอแนะนำก็แล้วกัน ฉันเลือกไม่ถูกจริง ๆ ...”จัสมินยิ้มในขณะที่พูดว่า "คุณเวดช่างมีรสนิยมที่ดีมากจริง ๆ ค่ะ ชุดแต่งงานชุดนี้เป็นชุดยอดนิยมที่มีคะแนนพึงพอใจมากที่สุดของร้านนี้เลยล่ะค่ะ ฉันเองก็คิดว่าชุดนี้ช่างดูเหมาะกับรูปร่างและลักษณะนิสัยของคุณเซเวลล์เป็นอย่างดีเหมือากันค่ะ"หลังจากนั้นจัสมินก็เรียกพนักงานที่มีความเป็นมืออาชีพของทางร้านสองคนเข้ามาทันที ซึ่งพนักงานทั้งสองคนได้นำชุดแต่งงานชุดนั้นไป พร้อมกับนำทางแมกโนเลียไปยังห้องลองชุดอย่างนอบน้อมหลังจากนั้นไม่กี่นาที แมกโนเลียก็เดินออกมาในชุดแต่งงานสีขาวสง่างามพร้อมกับเสื้อเกาะอก เธอรู้สึกไม่ค่อยชินเล็กน้อยในขณะเดินออกมาจากห้องลองชุดดวงตาของแคลร์เปล่งประกายขึ้นทันทีในขณะที่อุทานออกมาว่า "แมกโนเลีย เธอดูสวยจในชุดแต่งงานนี้จริง ๆ !แมกโน
จู่ ๆ แคลร์ก็รู้สึกหึงหวงขึ้นมาทันทีเธอเดาว่าจัสมินต้องมีความประทับใจในตัวชาร์ลี… สามีของเธออย่างมากไม่อย่างนั้นจัสมินคงไม่มองสามีของเธอแบบนี้หรอกซึ่งนี่ทำให้แคลร์ตระหนักขึ้นมาทันทีว่า เธอกับสามียังไม่ใกล้ชิดและสนิทสมกันมากพอ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเธอกับเขาถึงยังมีระยะห่างระหว่างกันระยะห่างนี้จะทำให้บุคคลที่สามเข้ามาแทรกแซงความสัมพันธ์ได้ง่ายเป็นพิเศษถ้าพวกเขาทั้งคู่มีความใกล้ชิดและมีความรู้สึกอันลึกซึ้งต่อกัน และถ้าหัวใจฃองพวกเขาอยู่ใกล้ชิดกัน ก็ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะเปิดช่องว่างให้มือที่สามเข้ามาแทรกแซงในความสัมพันธ์ได้ในขณะที่กำลังคิดถึงเรื่องนี้ จู่ ๆ แคลร์ก็รู้สึกได้ถึงแรงกระตุ้นที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในเวลาเดียวกันนี้ชาร์ลีเห็นแคลร์ยังทำท่างุนงงอยู่ เขาจึงรีบบอกเธอว่า "ที่รัก… เราต้องรีบไปกันแล้ว ไม่อย่างนั้นเราจะสายกันนะ"แคลร์จึงได้สติก่อนที่จะพยักหน้าอย่างผิดธรรมชาติ แล้วพูดอย่างร้อนรนว่า "ถ้าอย่างนั้นก็รีบไปกันเถอะค่ะ!”จัสมินเดินไปส่งคนทั้งสามออกจากร้านชุดเจ้าสาวของเธอจนถึงที่จอดรถ หลังจากเห็นพวกเขาเข้าไปในรถแต่ละคันเรียบร้อยแล้ว เธอก็กลับไปที่ร้านชุดเจ้าสาวอย่า
ในเวลานี้พ่อของเดรโกที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็พูดว่า "เดรโก แกควรจะฟังสิ่งที่พ่อแม่ตักเตือนเอาไว้ให้ดีนะ สิ่งที่สำคัญที่สุดเมื่อแกคิดจะแต่งงานก็คือ แกควรหาเจ้าสาวจากครอบครัวที่มีสถานะทางสังคมทัดเทียมกับเรา ตระกูลสก็อตสันอาจไม่ใช่ตระกูลที่ร่ำรวยและมีอิทธิพลมากนัก แต่เรามีทรัพย์สินทั้งหมดหลายสิบล้านดอลลาร์ ครอบครัวของเราถือว่าร่ำรวยที่สุดในบรรดาญาติพี่น้องและเพื่อนฝูง ถ้าแกเชื่อฟังฉันแล้วหาหญิงสาวคนอื่นที่มีความทัดเทียมหรือร่ำรวยกว่าครอบครัวของเรา ความแข็งแกร่งของครอบครัวเราก็จะยิ่งโดดเด่นมากขึ้นในตระกูลสก็อตสัน"เมื่อพูดไปเช่นนี้แล้ว พ่อของเขาก็ถอนหายใจอย่างเศร้าโศกในขณะที่พูดว่า "แกช่างเป็นเด็กที่ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ มีหญิงสาวให้แกเลือกได้ตั้งมากมาย แต่แกกลับเลือกผู้หญิงที่มาจากครอบครัวแสนยากจน แล้วอย่างนี้ญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงของเราจะไม่มองว่าเราเป็นตัวตลกหรอกหรือ?”เดรโกรรู้สึกเจ็บปวดทรมาณใจอย่างหาที่เปรียบมิได้ แน่นอนว่าความรู้สึกของเขาที่มีต่อแมกโนเลียนั้นเป็นความรู้สึกที่จริงใจเป็นอย่างยิ่ง ทั้งคู่คบกันมาตั้งแต่สมัยเรียนในมหาวิทยาลัย ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาไม่เคยทะเลาะเบาะแว้งอะไรกันเลยตลอ
เดรโกผู้น่าสงสารยังไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าพ่อแม่ของเขากำลังคิดวางแผนการอะไรอยู่ในช่วงเวลานี้เขายังคงรอคอยให้ผู้หญิงที่เขารักที่สุดปรากฏตัวแต่เมื่อเวลาผ่านไป เขาก็เริ่มรู้สึกกังวลเล็กน้อยแล้วเหมือนกันเขาไม่ได้กลัวแมกโนเลียจะเปลี่ยนใจ แต่กลัวพ่อแม่ของแมกโนเลียจะไม่ยินยอมให้เธอได้แต่งงานกับเขาในวันนี้ในเวลานี้มีเสียงคำรามของรถซูเปอร์คาร์ดังขึ้นบนท้องถนนญาติพี่น้องรวมทั้งเพื่อนฝูงของตระกูลสก็อตสันทุกคนต่างก็ให้ความสนใจเสียงคำรามเหมือนสัตว์ร้ายนี้จากนั้นก็มีคนตะโกนขึ้นมาว่า "ไอ้บ้าเอ๊ย! นั่นเป็นเสียงของรถบูกัตติ เวย์รอน!”“จริงเหรอ!” ฮานส์ สก็อตสัน ลูกพี่ลูกน้องของเดรโกมองดูรถบูกัตติ เวย์รอนที่กำลังแล่นเข้ามา ในขณะที่พูดด้วยความประหลาดใจว่า "นี่คือรถบูกัตติ เวย์รอน รุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น ของแอร์เมส ซึ่งมีอยู่คันเดียวเท่านั้นในประเทศนี้! ผมเห็นรถคันนี้ในงานแสดงรถยนต์นานาชาติที่โอลรัส ฮิลล์ เมื่อไม่นานมานี้ ว่ากันว่ามีชายลึกลับผู้ร่ำรวยคนหนึ่งซื้อรถคันนี้พร้อมกับรถแอสตัน มาร์ติน วัน-77 ในวันนั้น แต่ผมไม่เห็นรถคันนี้บนท้องถนนอีกเลยนับตั้งแต่วันนั้น! นับเป็นเรื่องไม่คาดฝันที่ได้เห็นมันบนท
ตอนนี้ใคร ๆ ก็ต่างรู้สึกประหลาดใจมากกว่าเดิมรถสองคันนี้กำลังมุ่งหน้าไปยังห้องจัดเลี้ยงจริง ๆ เหรอ?วันนี้มีเพียงครอบครัวเดียวเท่านั้นที่จัดงานแต่งงานในห้องจัดเลี้ยง พวกเขามาร่วมงานแต่งงานที่นี่หรือเปล่า?อย่างไรก็ตาม สมาชิกในตระกูลสก็อตสันทุกคนต่างเข้าใจกันเป็นอย่างดี ในบรรดาคนของตระกูลสก็อตสันทั้งหมดนั้น พ่อของเดรโกเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุด แต่เขามีทรัพย์สินอยู่ที่ราว ๆ สิบล้านดอลลาร์เท่านั้นเอง ส่วนคนอื่น ๆ ที่ฐานะไม่ดีนักก็อาจมีทรัพย์สินอยู่ที่สองสามล้านดอลลาร์ พวกเขาเป็นได้อย่างมากก็คือชนชั้นกลางในโอลรัส ฮิลล์ และไม่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มชนชั้นสูงเลยด้วยซ้ำดังนั้นถ้าดูจากสถานะทางสังคมของครอบครัวแล้ว พวกเขาจะมีเพื่อนที่มีอำนาจเช่นนี้ได้อย่างไร?ในขณะที่ทุกคนยังรู้สึกงุนงงอยู่นั้น ชาร์ลีได้เปิดประตูรถบูกัตติ เวย์รอน แล้วก้าวลงจากรถมาเป็นคนแรกฝูงชนต่างตกใจจนพูดไม่ออกเมื่อเห็นเขาลงจากรถมาชาร์ลียังเด็กมากจริง ๆ เขาดูเหมือนชายหนุ่มที่มีอายุมากที่สุดแค่ประมาณยี่สิบห้าถึงยี่สิบหกปีเท่านั้น เขามีอายุน้อยมากแต่สามารถซื้อรถหรูราคาแพงมาขับได้ ซึ่งนี่ทำให้ทุกคนรู้สึกว่าเขาช่างเป็นคนที่ไม่ธรรมดาแ
ในขณะที่สมาชิกของตระกูลสก็อตสันทุกคนต่างตกตะลึง แคลร์ก็ลุกออกจากที่นั่งคนขับของรถแอสตัน มาร์ตินแคลร์มองไปที่เดรโกก่อนจะยิ้มอย่างสุภาพแล้วพูดว่า "เดรโก เราไม่ได้เจอกันนานเลย ขอแสดงความยินดีกับนายและแมกโนเลียด้วยนะ! หวังว่าทั้งคู่จะมีความสุขในการแต่งงานครั้งนี้นะจ๊ะ!”เดรโกก็ตกใจเช่นกันเมื่อเห็นแคลร์แคลร์เป็นเพื่อนสมัยเรียนมัธยมปลายของแมกโนเลีย และเป็นหนึ่งในเพื่อนสนิทของแมกโนเลียด้วย ดังนั้นเขาจึงได้พบกับแคลร์หลายครั้ง เพราะถือเป็นคนรู้จักที่คุ้นเคยกันทั้งสามคนนอกจากนี้เดรโกยังได้ยินเรื่องสถานการณ์ครอบครัวของแคลร์มาก่อน เขาได้ยินมาว่าครอบครัวของแคลร์มีบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการปรับปรุงและตกแต่งอาคารใหม่ แต่นั่นก็เป็นเพียงบริษัทเล็ก ๆ ไม่ใช่บริษัทใหญ่โตอะไร แล้วยังแต่งงานกับลูกเขยที่อาศัยอยู่ในครอบครัวเดียวกันด้วย ซึ่งดูเหมือนลูกเขยคนนี้จะไม่ค่อยมีความสามารถอะไรเลยแต่ในความคิดของเขานั้น วิลสัน กรุ๊ปเป็นแค่บริษัทที่มีมูลค่าการตลาดสูงสุดประมาณสิบล้านถึงหนึ่งร้อยล้านดอลลาร์ เขายังได้ยินข่าวลือเมื่อไม่นานมานี้ด้วยว่า บริษัทได้ยุติกิจการลงเแล้วเนื่องจากใกล้จะล้มละลายเต็มทีถ้าเป็นอย่
ชาร์ลีชำเลืองมองเติร์กอย่างเหยียดหยันก่อนจะพูดอย่างรังเกียจว่า "เรียกผมว่านายน้อยเวดก็ได้"เติร์กรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย นี่มันยุคไหนกันเนี่ย? ทำไมถึงยังมีคนเรียกตัวเองว่านายน้อยในสมัยนี้กันอยู่อีก?เป็นไปได้ไหมว่าเขาเป็นนายน้อยที่มีพื้นเพมาจากตระกูลขนาดใหญ่ที่แข็งแกร่งและมีอำนาจ?ถ้าเป็นเช่นนั้น เขาก็กำลังเผชิญหน้าอยู่กับบุคคลที่น่าเกรงขามเป็นอย่างมากอยู่ล่ะสิ!ดังนั้นเติร์กจึงรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากในขณะที่พูดว่า "โอ้ นายน้อยเวด ตระกูลของผมทำธุรกิจแป้งสาลีน่ะครับ เรามีโรงโม่แป้งอยู่ในโอลรัส ฮิลล์ บางทีคุณอาจจะเคยลองชิมแป้งสาลีที่ผลิตโดยตระกูลของผมมาก่อนก็ได้ แป้งสาลีของเรายี่ห้อ 'เดอะ โกลเด้น แฟมิลี่' ครับ"ชาร์ลีขมวดคิ้วแล้วถามว่า "เดอะ โกลเด้น แฟมิลี่? นั่นไม่ใช่ชื่อละครทางโทรทัศน์หรอกหรือ?”เติร์กรู้สึกอับอายเล็กน้อยในขณะตอบว่า "เราแค่พยายามใช้ประโยชน์จากความคลั่งไคล้ โดยละครเรื่องนั้น พุ่งความสนใจไปที่ผงทอง แต่ครอบครัวของเราผลิตแป้งสาลีแทน ซึ่งผมคิดว่าก็ไม่ได้ต่างอะไรกันมากนัก"ชาร์ลีพ่นเสียงอย่างเย็นชาก่อนจะถามขึ้นว่า "คุณสก็อตสัน คุณมีลูกสะใภ้ที่กำลังจะแต่งงานเข้าไปอยู่
ลิเลียนเป็นแบบฉบับของคนที่มีความเห็นแก่ตัวไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม เธอจะพิจารณาอยู่อย่างเดียวว่า… นั่นจะนำผลประโยชน์มาให้เธอหรือเปล่าถ้ามีใครนำผลประโยชน์อะไรมาให้เธอ ถึงแม้จะเป็นแค่คนเก็บขยะข้างถนน เธอก็จะต้อนรับเขาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มและท่าทีที่เป็นมิตรแต่อย่างไรก็ตาม ถ้าอีกฝ่ายไม่สามารถหยิบยื่นผลประโยชน์ใด ๆ ให้เธอได้ เธอก็จะไม่ให้เกียรติเขาแม้แต่นิดเดียว ต่อให้คนคนนั้นเป็นถึงประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาก็ตามดังนั้นถึงแม้ว่าชาร์ลีพร้อมทั้งภรรยาจะขับรถหรูระดับสุดยอดที่มีราคามากกว่าหนึ่งร้อยดอลลาร์เพื่อมาส่งแมกโนเลียเข้าพิธีแต่งงาน นั่นก็ไม่สามารถเปลี่ยนความคิดของลิเลียนที่มีต่อแมกโนเลียได้เลยเธอรู้ว่าการยกย่องใครนั้นเป็นเรื่องที่ดูผิวเผินมาก แต่การได้รับผลประโยชน์ทางกายภาพต่างหากที่เป็นของจริงแล้วถ้าแมกโนเลียมีเพื่อนที่ร่ำรวยและทรงอิทธิพลอย่างมากล่ะ? เธอสามารถนำเงินของเขามาให้ครอบครัวได้สักนิดไหม? เธอจะสามารถดูแลธุรกิจครอบครัวในอนาคตได้หรือเปล่า? เธอสามารถพาทั้งครอบครัวให้ก้าวหน้าขึ้นไปอีกระดับได้ไหม?ถ้าเธอทำอย่างที่ว่ามาได้ ลิเลียนก็จะปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดีโดยอัตโนมั
“โอเค” ชาร์ลีพยักหน้าก่อนจะพูดว่า “เอาล่ะ ถึงเวลาที่นายต้องออกเดินทางแล้ว”ในเวลานี้จาเวียร์ก็วิ่งเข้าไปหาพวกเขาพร้อมกับแบตเตอรี่สำรองในมือ หลังจากนั้นเขาก็ยื่นแบตเตอรี่สำรองกับสายชาร์จให้กับดีแลนในขณะที่พูดว่า “ดีแลน นี่แบตเตอรี่สำรอง!”ดีแลนหยิบแบตเตอรี่สำรองใส่ไว้ในเป้ หลังจากปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้ว เขาก็พูดกับทุกคนว่า “คุณยาย คุณตา พ่อ แม่ ลุง อา ผมจะไปแล้วนะคับ…”ทุกคนโบกมือให้เขา “ไปเถอะ อย่าลืมใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนนะ!”ดีแลนมองไปที่ชาร์ลีอีกครั้งก่อนจะโค้งคำนับแล้วพูดว่า “ผมจะไปแล้วนะครับคุณเวด…”ชาร์ลีส่งเสียงพึมพำในขณะที่พูดว่า “รีบไปเถอะ ไม่งั้นนายจะถูกทำโทษที่ไปถึงช้านะ”ดีแลนรีบพยักหน้าในขณะที่พูดว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงครับ! ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ!”ชาร์ลีโบกมือแล้วพูดว่า “อืม ไปได้แล้ว!”ดีแลนพยักหน้าก่อนจะหันกลับไปมองเหล่าญาติ ๆ อย่างไม่เต็มใจ จากนั้นเขาก็เริ่มปั่นจักรยาน Phoenix 28 คันใหญ่อย่างหนักหน่วง หลังจากถีบจักรยานไปได้สองสามครั้ง ในที่สุดดีแลนก็ถีบจักรยานจากไปในลักษณะโคลงเคลงซิลเวียเริ่มร้องไห้อย่างขมขื่น ลีโอนาร์ดจึงรีบคว้าเธอมาปลอบโยนอยู่ในอ้อ
เมื่องานเลี้ยงวันเกิดสิ้นสุดลง และแขกคนอื่น ๆ ได้กลับไปแล้ว ดีแลนก็เข็นรถจักรยาน Phoenix 28 คันใหม่ออกมาในเวลานี้จู่ ๆ ดีแลนก็นึกถึงเพลงฮิตที่เขาเคยเห็นในคลิปวิดีโอสั้น ๆ…เพลงนี้ก็คือเพลง ‘ขี่มอเตอร์ไซต์แสนรักของฉัน’...ในขณะที่เขานึกถึงเพลงนี้ เขาก็มองไปที่จักรยาน Phoenix 28 ในสภาพเก่าที่ดูน่าเกลียดนั้น แล้วอดที่จะถอนหายใจไม่ได้ในขณะที่คิดกับตัวเองว่า ‘ถ้าฉันขี่มอเตอร์ไซค์ไปโอลรัสฮิลล์ได้ก็คงจะดีไม่น้อย เพราะจะทำให้ฉันสามารถเดินทางได้ประมาณสามถึงสี่ร้อยกิโลเมตรต่อวัน ซึ่งจะช่วยให้ฉันเดินทางไปถึงโอลรัสฮิลล์ได้เร็วที่สุด จะได้ไม่ต้องทนทุกข์กับความคับข้องใจและความอยุติธรรมมากมายในระหว่างทาง…’แต่ช่างน่าสงสารเหลือเกินที่เขารู้ว่าชาร์จะไม่มีทางเปิดโอกาสให้เขาได้ต่อรองอะไรเลย เขาจึงทำได้แค่เข็นจักรยานออกมาเพื่อเตรียมตัวออกเดินทางเจริล… ลุงของเขาถือหมวกกันน็อกสีเขียวอยู่ในมือ ในขณะที่พยายามจะสวมให้กับดีแลน ดีแลนหลบเลี่ยงหมวกใบนั้นในขณะที่ถามอย่างอึดอัดใจว่า “ทำไมถึงซื้อหมวกกันน็อกสีเขียวมาให้ผมล่ะลุง? หมวกสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของผู้ชายที่โดนสวมเขานะ…”“อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลยน่า” เจร
"หา? เร็วไปไหม? คุณจะไม่อยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่ออีกสักสองสามวันเหรอ?”“ผมทำธุระของผมเสร็จหมดแล้วน่ะ ไม่มีธุระอะไรให้ผมต้องอยู่ที่นี่อีก ผมจะออกเดินทางพรุ่งนี้เลย”เมื่อลอรีนได้ยินดังนี้ เธอก็พูดขึ้นอย่างไม่ลังเลเลยว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะออกจากอีสต์คลิฟฟ์พรุ่งนี้ด้วย เราเดินทางกลับโอลรัสฮิลล์พร้อมกันดีไหมคะ? เราจะได้นั่งเครื่องบินลำเดียวกันชาร์ลีอยากจะปฏิเสธเธอ แต่เมื่อเขาเห็นสีหน้าที่แสดงความวิงวอนของเธอแล้ว เขาก็ปฏิเสธเธอไม่ลงเพราะไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม… นับเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนเป็นเพื่อนกัน ที่ต้องนั่งเครื่องบินลำเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถหลบเลี่ยงการนั่งเครื่องบินเที่ยวบินเดียวกับเธอได้ชาร์ลีจึงพูดว่า “ได้สิ เรากลับด้วยกันก็ได้”ลอรีนรีบพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวคุณให้รายละเอียดบัตรประจำตัวกับฉันมานะ ฉันจะได้ซื้อตั๋วเครื่องบินของเราพร้อมกัน!”“โอเค”***ในขณะที่งานเลี้ยงวันเกิดยังคงดำเนินอยู่นั้น ลุงและอารองของดีแลนก็ได้ตระเตรียมการเดินทางด้วยการปั่นจักรยานไปยังโอลรัสฮิลล์ให้ดีแลนเรียบร้อยแล้วพวกเขาได้ให้คนไปซื้อจักรยาน Phoenix 28 รุ่นเก่ามา แล้วติดตั้งชั้นวางสัมภา
หลังจากนั้นงานเลี้ยงวันเกิดก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการมีการจัดที่นั่งให้กับชาร์ลีเป็นพิเศษในฐานะที่เขาเป็นแขกผู้มีเกียรติสูงสุด โดยเขาได้นั่งอยู่ข้างนายท่านโธมัสกับลอรีนและริกลีย์หลังจากนั้นสมาชิกของตระกูลโธมัสก็ผลัดกันดื่มอวยพรให้เขา โดยทั้งการแสดงออกทางสีหน้า น้ำเสียง และการกระทำล้วนเต็มไปด้วยการสรรเสริญเยินยอ ชาร์ลีไม่มีอะไรจะพูดมากนัก เมื่อมีคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็แค่ดื่มอวยพรกลับไป ซึ่งถึงแม้ดีแลนจะเป็นคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็ดื่มอวยพรกลับไปอย่างง่ายดายในเวลานี้ริกลีย์ก็ยังมาดื่มอวยพรให้กับชาร์ลีอย่างระมัดระวังด้วย โดยเขาได้เยินยอแล้วพูดว่า “คุณเวดครับ ผมมีเรื่องจะถามคุณหน่อยครับ…”ชาร์ลีรู้อยู่แล้วว่าเขาจะถามอะไรก่อนที่เขาจะเริ่มพูดออกมาด้วยซ้ำไป เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการให้ชาร์ลีช่วยฟื้นคืนสมรรถภาพ เพื่อให้เขากลับมาแข็งแกร่งได้อีกครั้งแต่เมื่อพิจารณาถึงเรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่ครอบครัวของพวกเขาได้ทำกับครอบครัวของยูลแล้ว ชาร์ลีก็ยังแน่ใจว่าเขาจะไม่ยอมฟื้นคืนสมรรถภาพให้พวกเขาในตอนนี้ผู้ที่เป็นผู้ใหญ่แล้วจะต้องชดใช้และรับผิดชอบต่อการกระทำของพวกเขา ไม่อย่างนั้นแล้วพวกเขาจะได้บทเ
ชาร์ลีหยิบภาพวาดที่ยูลมอบให้เขาจากมือของดีแลน ก่อนจะยื่นให้กับยายของลอรีนด้วยตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็พูดว่า “คุณยายโธมัสครับ นี่เป็นของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผมครับ ผมหวังว่าคุณยายจะรับมันไว้ และผมอยากจะขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นไปเมื่อกี้นี้ ด้วยวันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณยาย ผมหวังว่าคุณยายคงจะให้อภัยผมนะครับ”คุณท่านโธมัสรู้สึกปลื้มใจแล้วรีบพูดขึ้นว่า “คุณเวด ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ จริง ๆ แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้เป็นเพราะหลานชายของฉันทำอะไรผิดไป ฉันมาคิดดูแล้ว… ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะเราละเลยในการอบรมสั่งสอนหลานของเรา จึงทำให้คุณเวดต้องเดือดร้อน”ในขณะที่เธอพูดอยู่นั้น เธอก็มองดูภาพวาดก่อนจะพูดว่า “คุณเวดคะ ภาพวาดนี้มีมูลค่ามากเหลือเกิน ฉันคงรับของขวัญชิ้นนี้ไว้ไม่ได้หรอกค่ะ!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “คุณยายโธมัสครับ ของขวัญชิ้นนี้เป็นเพียงของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผม มูลค่าของของขวัญชิ้นนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลย คุณยายไม่ต้องเกรงใจผมหรอกครับ พูดตามตรงนะครับ ผมไม่ได้ใช้จ่ายเงินกับของขวัญชิ้นนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะคุณโกลดิ้งจากโกลดิ้งกรุ๊ปมอบภาพวาดนี้ให้ผม แล้วผมก็นำมา
เมื่อได้ยินว่าเขาจะต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง ดีแลนก็ส่ายหัวอย่างบ้าคลั่งทันที!เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว เขาคงต้องทนทุกข์ทรมานและรู้สึกคับข้องใจเพียงเล็กน้อย ถ้าเขาต้องอาศัยอยู่ในชุมชนแออัด โดยมีค่าครองชีพเดือนละหนึ่งหมื่นบาท แต่ถ้าเขาต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง เขาก็คงต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมาก และต้องเจอะเจอความยากลำบากมากมายในไซต์ก่อสร้างแห่งนั้นเขาจึงพยักหน้าแบบไม่คิดอะไรทันที “คุณเวดครับ ผมยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดของคุณแล้ว ผมจะไม่ต่อรองอะไรกับคุณแล้วครับ! ขอแค่อย่าส่งผมไปไซต์ก่อสร้างนั้นเลยนะครับ…”ชาร์ลีรู้สึกพอใจมากแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “อย่าลืมปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีหลังจากนายไปถึงที่โอลรัสฮิลล์แล้ว อย่าสร้างปัญหาอะไรเพิ่มขึ้นมาอีกล่ะ ถ้านายยังคงอยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่อไป ทายาทที่ชอบเยาะเย้ยถากถางคนอื่นอย่างนาย ก็อาจก่อให้เกิดหายนะที่ร้ายแรงกว่านี้ได้ในสักวันหนึ่ง นายอาจเข้าไปพัวพันและทำให้ให้ตระกูลโธมัสและตระกูลโคชต้องเดือดร้อนได้!”ในเวลานี้สองพี่น้องอย่างเจริลและจาเวีย์ก็อดที่จะตัวสั่นขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้ดูเหมือนคำพูดของชาร์ลีจะทำให้คนทั้งคู่
สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดก็คือ การปั่นจักรยานอย่างยากลำบากจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ยังพอรับได้ การที่ต้องปั่นจักรยานเป็นเวลาครึ่งเดือน ก็ยังดีเสียกว่าการนอนบนเตียงอยู่ครึ่งเดือนหลังผ่าตัดนอกจากนี้เขายังรู้สึกคับข้องใจอย่างมากในระหว่างการผ่าตัดครั้งล่าสุด ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ยังไม่หายดีเลย ถ้าเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดแบบเดิมอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ เขาก็จะต้องได้รับความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าอย่างแน่นอนในเวลานี้ชาร์ลีพูดขึ้นมาว่า “ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์ก็เพื่อให้นายได้ไปปรับปรุงตัวและกลับเนื้อกลับตัวใหม่ นายคิดว่า การที่ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์เพื่อให้ไปสนุกสนานกับชีวิตที่นั่นเหรอ? จะบอกอะไรให้นะ นายจะต้องปั่นจักรยานธรรมดา ๆ อย่าง Phoenix 28 เท่านั้น ใช้อย่างอื่นไม่ได้เลย! ไม่งั้นฉันจะให้นายปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์พร้อมกับเกวียนที่บรรทุกก้อนอิฐไปจนเต็มคัน!”“แล้วหลังจากนายไปถึงโอลรัสฮิลล์ นอกจากนายจะต้องคอยขับรถรับส่งให้กับลอรีนแล้ว นายต้องเช่าห้องเดี่ยวในชุมชนแออัดคลิฟฟ์คูลส์ด้วย ค่าใช้จ่ายรายเดือนรวมถึงค่าเช่าบ้านของนายจะต้องไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท!”
เมื่อเขาได้ยินว่า จะต้องขี่จักรยานจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์ตลอดทาง และต้องอยู่ในโอลรัสฮิลล์ในฐานะคนขับรถเป็นเวลาหนึ่งปี ดีแลนก็รู้เหมือนกำลังจะตายไปแล้วจริง ๆ ประเด็นก็คือระยะทางจากอีสต์คลิฟฟ์ไปโอลรัสฮิลล์นั้น มีระยะทางมากกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะไม่ตายเพราะหมดแรงถ้าต้องปั่นจักรยานไปตลอดทางจริง ๆ เหรอ?แล้วตอนนี้ก็อยู่ในเดือนธันวาคมซึ่งเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว เขาจะต้องขี่จักรยานตลอดทางไปจนถึงภาคใต้ แล้วไม่ได้รับอนุญาตให้พักในโรงแรมเลยด้วย ข้อกำหนดเหล่านี้รุนแรงเกินไปไม่ใช่เหรอ?ดีแลนรู้สึกเสียใจมากและน้ำตาก็เริ่มไหลอาบใบหน้านี่มันเรื่องบ้าบออะไรกันเนี่ย… เขาเป็นนายน้อยคนที่สามของตระกูลโคช แต่จะต้องขี่จักรยานไปจนถึงโอลรัสฮิลล์? เขาจะไม่ล้มตายไปในระหว่างทางหรอกเหรอ?คงจะน่าทึ่งมากถ้าเขาสามารถปั่นจักรยานได้วันละห้าสิบ หรือหกสิบกิโลเมตรระยะทางกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะต้องปั่นจักรยานไปประมาณยี่สิบวัน!แต่นี่มันเดือนธันวาคมแล้วนะ!เขาสะอึกสะอื้นพร้อมกับพูดว่า “คุณเวดครับ ถ้าผมเริ่มปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์ กว่าจะถึงที่นั่นก็คงเป็นเดือนมกราคมแล้ว น้องสาวผมจะต้องกลับมาฉลองปีใหม่ที่
ลอรีนดีใจมากแล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ขอบคุณมากนะคะชาร์ลี!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “รอเดี๋ยวนะ ผมจะไม่บังคับให้เขากลืนจี้หยกเข้าไป แต่ยังต้องลงโทษเขาด้วยวิธีอื่น ไม่งั้นเขาคงไม่จดจำไว้เป็นบทเรียน”ลอรีนรีบถามว่า “คุณจะลงโทษเขาด้วยวิธีไหนคะ ชาร์ลี? คงไม่ร้ายแรงไปกว่าการกลืนจี้หยกเข้าไปแล้วใช่ไหมคะ?”“ไม่หรอกครับ ชาร์ลียิ้มเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า “คุณมั่นใจได้เลยว่า การลงโทษครั้งนี้จะส่งผลดีกับตัวเขาอย่างแน่นอน”ในที่สุดลอรีนก็รู้สึกสบายใจในขณะที่พูดอย่างเสน่หาว่า “ขอบคุณนะคะชาร์ลี ขอบคุณที่ให้อภัยพี่ชายของฉัน และปล่อยเขาไปเพราะเห็นแก่ฉัน ถ้าอย่างนั้น คุณให้โอกาสฉันได้ตอบแทนคุณดีไหมคะ…”ชาร์ลีถามด้วยความประหลาดใจ “คุณจะตอบแทนผมยังไงเหรอ?”ลอรีนกะพริบตาในขณะที่ยิ้มและพูดอย่างตั้งใจว่า “ฉันสัญญาว่าจะแต่งงานกับคุณ และให้กำเนิดลูกชายตัวอ้วน ๆ เพื่อคุณ! คุณคิดว่ายังไงคะ?”ชาร์ลีตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “อย่าพูดอะไรแบบนี้อีก ผมเป็นสามีของเพื่อนสนิทของคุณนะ!”ลอรีนพยักหน้าก่อนจะพูดอย่างจริงจังว่า “ฉันรู้ค่ะ แต่คุณทั้งคู่แต่งงานกันแบบปลอม ๆ นี่! ก็ยังไม่ถือว่าเป็นการแต่งงานกันอย่างแท้จริง! จริง ๆ แล