ในตอนนี้ชายวัยกลางคนได้ตะโกนด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ครอบครัวของชายคนนี้ชอบรังแกและเอาเปรียบผู้อื่นเสียจริง ๆ แกก็ตั้งท้องหลานของพวกเขาแท้ ๆ แต่พวกเขายังไม่ยอมให้สินสอดทองหมั้นแกเลยแม้แต่น้อย พวกเขาไม่กลัวว่าแกจะแท้งลูกหรอกหรือ?”ชายหนุ่มตอบว่า "ทำไมครอบครัวสก็อตสันถึงต้องกลัวล่ะ? พวกเขาอยากให้พี่สาวผมแท้งลูกจะตายไป ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะพวกเขาดูถูกเหยียดหยามพี่สาวผม แล้วคิดว่าเธอไม่คู่ควรที่จะแต่งงานกับคนในตระกูลของพวกเขายังไงล่ะ"หลังจากนั้นเขาก็พูดต่อไปว่า "พี่สาว ทำไมถึงได้มีจิตใจหมกมุ่นมัวเมาอย่างนี้ล่ะ? ทำไมถึงต้องแต่งงานกับไอ้ผู้ชายที่มีนามสกุลสก็อตสันคนนั้นด้วย? ไอ้สารเลวนั่นกับครอบครัวมันเป็นคนชั่วช้า! ทำไมพี่ไม่ไปถามคนแถว ๆ นี้ล่ะว่า มีหญิงสาวคนไหนบ้างที่แต่งงานแล้วไม่ได้รับสินสอดจากครอบครัวของฝ่ายชาย?น้องสาวของซามูเอลเพื่อนแท้ของผมแต่งงานกับผู้ชายธรรมดา ๆ จากจังหวัดที่อยู่ใกล้ ๆ แล้วครอบครัวของฝ่ายชายก็ให้สินสอดแก่ครอบครัวของเพื่อนผม เป็นจำนวนเงินถึงสองแสนแปดหมื่นดอลลาร์ ตอนนี้ซามูเอลได้จ่ายเงินดาวน์เพื่อซื้อบ้านในจังหวัดนั้นแล้ว เงินดาวน์ของเขาก็ได้มาจากเงินสินสอดของพี่สาว แ
ในเวลานี้เสียงด่าทอและดูถูกเหยียดหยามจากชั้นบนได้ทวีความรุนแรงขึ้นแล้วหญิงวัยกลางคนตวาดด้วยความโกรธ "ฉันให้กำเนิดคนสารเลวอย่างแกมาได้อย่างไรกัน? ฉันอุตส่าห์ทำงานอย่างหนักเพื่ออุดหนุนจุนเจือแก และจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยให้ แต่แกไม่ได้หาเงินให้แก่ครอบครัวมากนักในช่วงสองปีที่ผ่านมา แล้วตอนนี้ก็ยังรีบเร่งไปคลอดลูกให้คนอื่นอีก ถ้าฉันรู้ว่าแกเป็นคนที่ไม่มีจิตสำนึกแบบนี้ ฉันคงโยนแกทิ้งตั้งแต่คลอดออกมาแล้วล่ะ!”หญิงสาวร้องไห้ในขณะที่เธอพูดว่า "แม่คะ ที่หนูเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยได้ก็เพราะหนูพึ่งเงินกู้ยืมสำหรับนักศึกษา! ตอนนี้หนูยังต้องจ่ายคืนเงินกู้ก้อนนั้นอยู่เลย ตอนนั้นแม่ไม่อนุญาตให้หนูไปเรียนที่มหาวิทยาลัยด้วยซ้ำ แถมยังจะจับหนูแต่งงานตอนที่หนูอายุสิบแปดปีอีก แม่บอกหนูว่ายิ่งแต่งานได้เร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีคุณค่ามากขึ้นเท่านั้น!”หญิงวัยกลางคนตวาดด้วยความโกรธ "ฉันให้กำเนิดแก่มาก็นับเป็นความกรุณาครั้งยิ่งใหญ่ที่ฉันทำให้แกแล้ว! นอกจากจะไม่สำนึกบุญคุณแล้ว แกยังมีหน้ามาเถียงคำไม่ตกฟากกับฉันตอนนี้อีกเหรอ? แกนี่ช่างเป็นลูกที่กระด้างกระเดื่องต่อผู้มีพระคุณจริง ๆ!”“หนูใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ใ
หลังจากที่เธอพูดจบ เธอก็แนะนำชาร์ลีให้รู้จักกับเด็กหนุ่มคนนั้น "ฟรานซิส นี่ชาร์ลีสามีของฉันเองค่ะ"“สามีเหรอ?” ฟรานซิสถามด้วยความประหลาดใจ "คุณแต่งงานแล้วเหรอแคลร์?”แคลร์พยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะยิ้มแล้วพูดว่า "ใช่ค่ะ ฉันแต่งงานมาสามปีกว่าแล้ว พี่สาวของคุณอยู่ไหน? เธออยู่บ้านหรือเปล่า?”ตอนนั้นเอง...เด็กสาวที่มีรอยนิ้วมือห้านิ้วอยู่บนใบหน้าก็เดินเข้ามา เธอฝืนยิ้มแล้วพูดว่า "มาถึงแล้วเหรอแคลร์?”เด็กสาวคนนี้ก็มีความสวยเหมือนกัน แถมยังหุ่นดีเสียด้วย เธอต้องเป็นชนชั้นกลางระดับสูงอย่างแน่นอนอย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่าเด็กสาวคนนี้สวมชุดแต่งงานราคาถูกมาก ๆ เห็นได้จากส่วนที่เป็นผ้าลูกไม้ได้ขาดหลุดลุ่ยแล้วทันใดนั้นก็มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินออกมาจากห้องในเวลานี้ ทั้งคู่ดูเหมือนคนอายุห้าสิบต้น ๆ และตอนนี้พวกเขามีสีหน้าที่ดูเย็นชามาก เมื่อพวกเขาเห็นแคลร์ ทั้งคู่กับหันไปถามแมกโนเลียว่า "สองคนนี้เป็นใคร? มาที่นี่ทำไม?”แมกโนเลียตอบว่า "แคลร์เป็นเพื่อนสมัยเรียนมัธยมของหนูค่ะ เมื่อก่อนนี้เธอเคยมาเยี่ยมบ้านเรา แต่พ่อกับแม่คงลืมเธอไปแล้วมั้งคะ?”แคลร์ตอบอย่างสุภาพว่า "สวัสดีค่ะคุณลุงคุณป้า หนูยังไม่ไ
ชาร์ลียืนเงียบมาพักใหญ่ แต่เมื่อเขาเห็นพ่อของแมกโนเลียหยิบไม้นวดแป้งขึ้นมาไว้ในมือ เขาก็รู้สึกขุ่นเคืองขึ้นมาทันทีถ้าพวกเขาแค่ประชดประชัน ดูถูกเหยียดหยาม ตวาด หรือทำร้ายจิตใจเธอ ก็ไม่เป็นอะไรหรอก เพราะเขากับแคลร์มาที่นี่ก็เพื่อช่วยเพื่อนของเธอให้ได้เข้าพิธีแต่งงาน ดังนั้นสิ่งที่เขาต้องการทำก็คือขับรถออกไปให้เร็วที่สุด เพื่อให้เพื่อนของเธอสามารถแต่งงานได้สำเร็จลุล่วงแต่เขารู้สึกทนไม่ไหวจริง ๆ เมื่อเห็นพ่อแม่รวมทั้งน้องชายของเธอทำตัวงี่เง่าแบบนี้ดังนั้นเขาจึงเข้าไปยืนขวางแคลร์กับแมกโนเลียเอาไว้ด้วยท่าทีที่พร้อมจะให้การปกป้อง หลังจากนั้นเขาก็มองพ่อของแมกโนเลียอย่างเย็นชาในขณะที่พูดว่า "คุณรู้ไหมว่าการกระทำของคุณทั้งหมดนั้นมันเป็นเรื่องผิดกฎหมาย? การเข้าไปแทรกแซงเรื่องการแต่งงานของลูก ๆ นั้นเป็นเรื่องขัดต่อศีลธรรม นอกจากนี้การทำร้ายและการดูหมิ่นเหยียดหยาม ตลอดจนความตั้งใจที่ขายลูกสาวก็เป็นเรื่องผิดกฎหมายเช่นกัน!”พ่อของแมกโนเลียมีสีหน้าเย็นชาในขณะที่พูดว่า "นายคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน? เรื่องภายในครอบครัวของเราไม่เกี่ยวอะไรกับนาย! ฉันไม่ถีบนายออกจากบ้านไปก็นับว่าเป็นบุญแล้ว แล้วยังกล้
ถึงแม้ว่าพ่อของแมกโนเลียจะใช้พละกำลังทั้งหมดที่มีอยู่แล้ว แต่ก็รู้สึกว่าเขาได้ตีไม้นวดแป้งเข้ากับเหล็กกล้า หลังจากนั้นก็มีการสั่นสะเทือนที่แข็งแกร่งและรุนแรงระหว่างนิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้ เขารู้สึกเจ็บปวดมากจนต้องปล่อยไม้นวดแป้งออกทันที แล้วจับข้อมือเอาไว้ในขณะที่ร้องตะโกนด้วยความเจ็บปวดเมื่อเขามองไปที่ไม้นวดแป้งอีกครั้ง เขาก็เห็นว่ามันได้หักออกเป็นสองท่อนแล้ว!ซึ่งนี่ทำให้พ่อของแมกโนเลียตกใจมากชายคนนี้สามารถหักไม้นวดแป้งออกเป็นสองท่อนด้วยมือเปล่า ยิ่งไปกว่านั้นเขายังดูเหมือนว่าไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดอะไรเลย เห็นได้ชัดว่าผู้ชายคนนี้เป็นนักสู้ฝีมือดีตั้งแต่แวบแรกที่เห็น!เขากล้าเสี่ยงทำให้คนแบบนี้รู้สึกขุ่นเคืองได้อย่างไร? จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาต้องรับแรงกระแทกหลังจากที่ได้ต่อยชายคนนี้ไป? เขาสามารถค้นหาเหตุผลกับใครได้บ้าง? อย่างไรก็ตามเขาเป็นเพียงชายชราที่ไม่มีเงินและไม่มีอำนาจอะไรเลย เขาไม่มีทางหาใครมาช่วยล้างแค้นให้เขาได้ด้วยเมื่อเขาคิดได้ดังนี้ เขาก็อดรู้สึกกลัวชาร์ลีขึ้นมานิด ๆ ไม่ได้เมื่อชาร์ลีเห็นว่าเขาไม่กล้าออกมาข้างหน้า เขาจึงบอกแคลร์และแมกโนเลียว่า "ไปกันเถอะ"พ่อและน้องช
แมกโนเลียยังคงเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้า เมื่อชาร์ลีและแคลร์พาแมกโนเลียเดินออกมาจากชุมชนแคลร์คอยปลอบโยนแมกโนเลีย แต่ชาร์ลีไม่ได้ก้าวออกไปข้างหน้าเลยหลังจากเดินออกมาจากชุมชน ก็มีผู้คนมากมายพากันมารุมล้อมและแย่งกันถ่ายรูปรถทั้งสองคันที่จอดอยู่ริมถนนชาร์ลีก้าวไปข้างหน้าเพื่อแยกฝูงชนที่ยืนอยู่หน้ารถแอสตัน มาร์ติน หลังจากนั้นเขาก็เปิดประตูที่นั่งด้านหน้าข้างที่นั่งคนขับ แล้วบอกให้แมกโนเลียเข้าไปก่อนแมกโนเลียตกตะลึงเมื่อเห็นแอสตัน มาร์ติน หนึ่ง-77 อยู่ตรงหน้า เธอถามด้วยความประหลาดใจ "แคลร์ รถคันนี้...”แคลร์ยิ้มก่อนจะพูดว่า "สามีฉันยืมรถสองคันนี้มาจากเพื่อนของเขา ไม่ต้องกังวลนะ เธอจะไม่รู้สึกเสียหน้าอย่างแน่อน ถ้าเราขับรถซูเปอร์สปอร์ตสองคันนี้ไปที่บ้านของครอบครัวเจ้าบ่าว"แมกโนเลียมีรู้สึกผิดอัดแน่นอยู่ในอกในขณะที่พูดว่า "แคลร์ แค่รถบีเอ็มดับเบิลยูของเธอก็ดีพอแล้ว ไม่เห็นต้องไปยืมรถเพื่อนมาเพื่อฉันเลย ฉันทำให้เธอต้องเป็นหนี้บุญคุณคนอื่น ฉันรู้สึกอับอายจริง ๆ...”แคลร์ตอบอย่างจริงจังว่า "แมกโนเลีย เราเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนกันมาหลายปีแล้ว และเราก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ฉันต้องช่วยเธออย่าง
"นี่มันอะไรกันเนี่ย?”เมื่อแม่ของฟรานซิสได้ยินดังนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างก็ดูมืดมนอยู่ตรงหน้าเธอ!หนึ่งร้อยล้านดอลลาร์เหรอ? นี่มันอะไรกัน?แม้ว่าอีกฝ่ายจะมีเงินแค่หนึ่งล้านดอลลาร์ เขาก็สามารถเป็นคนที่ร่ำรวยอย่างไม่น่าเชื่อในสายตาของเธอได้แล้ว ยิ่งถ้าเขามีเงินสิบล้านดอลลาร์ เขาก็จะกลายเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่และทรงพลัง ชนิดที่พวกเขาไม่สามารถรุกรานได้ และถ้าเขามีเงินหนึ่งร้อยล้านดอลลาร์ เขาก็คือพระเจ้า!ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาไม่ได้มีสินทรัพย์เพียงแค่หนึ่งร้อยล้านดอลลาร์เท่านั้น เพราะจริง ๆ แล้ว เขามีรถยนต์สองคันที่มีมูลค่าหนึ่งร้อยล้านดอลลาร์ต่างหาก!เมื่อเธอคิดได้ดังนี้ เธอก็รีบถามขึ้นว่า "แกพูดจริงเหรอ? รถหน้าตาประหลาดทั้งสองนี้มีมูลค่ามหาศาลจริงหรือ?”ฟรานซิสพยักหน้าในขณะที่พยายามดึงแม่ของเขาขึ้นแล้วพูดว่า "แม่คิดว่าผมโกหกแม่เหรอ? แม่คิดว่าผมไม่อยากได้บ้านใหม่หรือไง? แต่ในกรณีนี้ เราจะพยายามบีบบังคับพวกเขาได้ยังไงกัน? ครอบครัวเราจะต้องทนทุกข์ทรมาณและพบกับความลำบาก ถ้าเราไปหาเรื่องกับผู้ยิ่งใหญ่และทรงอิทธิพลเข้า!”แม่ของฟรานซิสตัวสั่นด้วยความตกใจ หลังจากนั้นเธอก็รีบลุกขึ้นจากพื้น ก่อนที่จะ
วีรา แวงเป็นนักออกแบบชุดแต่งงานที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกชื่อเต็มของเธอก็คือวีรา เอลเลน แวงแม้แต่ลูกสาวของอดีตประธานาธิบดีคลินตันแห่งสหรัฐอเมริกา ก็ยังสวมชุดแต่งงานของเธอในวันแต่งงานวิคตอเรีย… ภรรยาของเดวิด เบคแฮมก็สวมชุดแต่งงานของวีรา แวง ตอนที่เธอแต่งงานกับเดวิด เบคแฮม หรือแม้แต่นักร้องดังอย่างบริตนีย์ สเปียร์ และหลานสาวของเจ้าพ่อคาสิโนแห่งมาเก๊าก็ยังสวมชุดแต่งงานของวีรา แวงในงานแต่งงานด้วยด้วยความที่ 'วีรา แวง' มีอิทธิพลในระดับสากล เธอจึงมักจะเปิดร้านเฉพาะในเมืองชั้นนำทั่วโลกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่านั้น เหตุผลที่เธอตัดสินใจมาเปิดร้านในโอลรัส ฮิลล์ ซึ่งเป็นเมืองรองระดับสอง ก็เพราะเธอมีสัมพันธ์ที่ดีกับจัสมินนั่นเอง จัสมินชอบการออกแบบชุดแต่งงานของเธอมาก จึงตั้งใจที่จะมาลงทุนในร้านของเธอ วีรา แวงมีความเชี่ยวชาญในการออกแบบชุดแต่งงาน ซึ่งโดยทั่วไปแล้วราคาของชุดแต่งงานของวีรา แวงก็จะมีราคาหลายแสนดอลลาร์ดังนั้นผู้คนส่วนใหญ่จึงได้แต่อยากได้ แต่ไม่มีฐานะพอจะซื้อมาใส่ได้ชาร์ลีรู้ดีว่าแคลร์… ภรรยาของเขานั้นต้องหวังจะช่วยให้เพื่อนสมัยเรียนมัธยมของเธอสามารถยืนเชิดหน้าชูตาได้ หลังจากที่
“โอเค” ชาร์ลีพยักหน้าก่อนจะพูดว่า “เอาล่ะ ถึงเวลาที่นายต้องออกเดินทางแล้ว”ในเวลานี้จาเวียร์ก็วิ่งเข้าไปหาพวกเขาพร้อมกับแบตเตอรี่สำรองในมือ หลังจากนั้นเขาก็ยื่นแบตเตอรี่สำรองกับสายชาร์จให้กับดีแลนในขณะที่พูดว่า “ดีแลน นี่แบตเตอรี่สำรอง!”ดีแลนหยิบแบตเตอรี่สำรองใส่ไว้ในเป้ หลังจากปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้ว เขาก็พูดกับทุกคนว่า “คุณยาย คุณตา พ่อ แม่ ลุง อา ผมจะไปแล้วนะคับ…”ทุกคนโบกมือให้เขา “ไปเถอะ อย่าลืมใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนนะ!”ดีแลนมองไปที่ชาร์ลีอีกครั้งก่อนจะโค้งคำนับแล้วพูดว่า “ผมจะไปแล้วนะครับคุณเวด…”ชาร์ลีส่งเสียงพึมพำในขณะที่พูดว่า “รีบไปเถอะ ไม่งั้นนายจะถูกทำโทษที่ไปถึงช้านะ”ดีแลนรีบพยักหน้าในขณะที่พูดว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงครับ! ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ!”ชาร์ลีโบกมือแล้วพูดว่า “อืม ไปได้แล้ว!”ดีแลนพยักหน้าก่อนจะหันกลับไปมองเหล่าญาติ ๆ อย่างไม่เต็มใจ จากนั้นเขาก็เริ่มปั่นจักรยาน Phoenix 28 คันใหญ่อย่างหนักหน่วง หลังจากถีบจักรยานไปได้สองสามครั้ง ในที่สุดดีแลนก็ถีบจักรยานจากไปในลักษณะโคลงเคลงซิลเวียเริ่มร้องไห้อย่างขมขื่น ลีโอนาร์ดจึงรีบคว้าเธอมาปลอบโยนอยู่ในอ้อ
เมื่องานเลี้ยงวันเกิดสิ้นสุดลง และแขกคนอื่น ๆ ได้กลับไปแล้ว ดีแลนก็เข็นรถจักรยาน Phoenix 28 คันใหม่ออกมาในเวลานี้จู่ ๆ ดีแลนก็นึกถึงเพลงฮิตที่เขาเคยเห็นในคลิปวิดีโอสั้น ๆ…เพลงนี้ก็คือเพลง ‘ขี่มอเตอร์ไซต์แสนรักของฉัน’...ในขณะที่เขานึกถึงเพลงนี้ เขาก็มองไปที่จักรยาน Phoenix 28 ในสภาพเก่าที่ดูน่าเกลียดนั้น แล้วอดที่จะถอนหายใจไม่ได้ในขณะที่คิดกับตัวเองว่า ‘ถ้าฉันขี่มอเตอร์ไซค์ไปโอลรัสฮิลล์ได้ก็คงจะดีไม่น้อย เพราะจะทำให้ฉันสามารถเดินทางได้ประมาณสามถึงสี่ร้อยกิโลเมตรต่อวัน ซึ่งจะช่วยให้ฉันเดินทางไปถึงโอลรัสฮิลล์ได้เร็วที่สุด จะได้ไม่ต้องทนทุกข์กับความคับข้องใจและความอยุติธรรมมากมายในระหว่างทาง…’แต่ช่างน่าสงสารเหลือเกินที่เขารู้ว่าชาร์จะไม่มีทางเปิดโอกาสให้เขาได้ต่อรองอะไรเลย เขาจึงทำได้แค่เข็นจักรยานออกมาเพื่อเตรียมตัวออกเดินทางเจริล… ลุงของเขาถือหมวกกันน็อกสีเขียวอยู่ในมือ ในขณะที่พยายามจะสวมให้กับดีแลน ดีแลนหลบเลี่ยงหมวกใบนั้นในขณะที่ถามอย่างอึดอัดใจว่า “ทำไมถึงซื้อหมวกกันน็อกสีเขียวมาให้ผมล่ะลุง? หมวกสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของผู้ชายที่โดนสวมเขานะ…”“อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลยน่า” เจร
"หา? เร็วไปไหม? คุณจะไม่อยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่ออีกสักสองสามวันเหรอ?”“ผมทำธุระของผมเสร็จหมดแล้วน่ะ ไม่มีธุระอะไรให้ผมต้องอยู่ที่นี่อีก ผมจะออกเดินทางพรุ่งนี้เลย”เมื่อลอรีนได้ยินดังนี้ เธอก็พูดขึ้นอย่างไม่ลังเลเลยว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะออกจากอีสต์คลิฟฟ์พรุ่งนี้ด้วย เราเดินทางกลับโอลรัสฮิลล์พร้อมกันดีไหมคะ? เราจะได้นั่งเครื่องบินลำเดียวกันชาร์ลีอยากจะปฏิเสธเธอ แต่เมื่อเขาเห็นสีหน้าที่แสดงความวิงวอนของเธอแล้ว เขาก็ปฏิเสธเธอไม่ลงเพราะไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม… นับเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนเป็นเพื่อนกัน ที่ต้องนั่งเครื่องบินลำเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถหลบเลี่ยงการนั่งเครื่องบินเที่ยวบินเดียวกับเธอได้ชาร์ลีจึงพูดว่า “ได้สิ เรากลับด้วยกันก็ได้”ลอรีนรีบพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวคุณให้รายละเอียดบัตรประจำตัวกับฉันมานะ ฉันจะได้ซื้อตั๋วเครื่องบินของเราพร้อมกัน!”“โอเค”***ในขณะที่งานเลี้ยงวันเกิดยังคงดำเนินอยู่นั้น ลุงและอารองของดีแลนก็ได้ตระเตรียมการเดินทางด้วยการปั่นจักรยานไปยังโอลรัสฮิลล์ให้ดีแลนเรียบร้อยแล้วพวกเขาได้ให้คนไปซื้อจักรยาน Phoenix 28 รุ่นเก่ามา แล้วติดตั้งชั้นวางสัมภา
หลังจากนั้นงานเลี้ยงวันเกิดก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการมีการจัดที่นั่งให้กับชาร์ลีเป็นพิเศษในฐานะที่เขาเป็นแขกผู้มีเกียรติสูงสุด โดยเขาได้นั่งอยู่ข้างนายท่านโธมัสกับลอรีนและริกลีย์หลังจากนั้นสมาชิกของตระกูลโธมัสก็ผลัดกันดื่มอวยพรให้เขา โดยทั้งการแสดงออกทางสีหน้า น้ำเสียง และการกระทำล้วนเต็มไปด้วยการสรรเสริญเยินยอ ชาร์ลีไม่มีอะไรจะพูดมากนัก เมื่อมีคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็แค่ดื่มอวยพรกลับไป ซึ่งถึงแม้ดีแลนจะเป็นคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็ดื่มอวยพรกลับไปอย่างง่ายดายในเวลานี้ริกลีย์ก็ยังมาดื่มอวยพรให้กับชาร์ลีอย่างระมัดระวังด้วย โดยเขาได้เยินยอแล้วพูดว่า “คุณเวดครับ ผมมีเรื่องจะถามคุณหน่อยครับ…”ชาร์ลีรู้อยู่แล้วว่าเขาจะถามอะไรก่อนที่เขาจะเริ่มพูดออกมาด้วยซ้ำไป เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการให้ชาร์ลีช่วยฟื้นคืนสมรรถภาพ เพื่อให้เขากลับมาแข็งแกร่งได้อีกครั้งแต่เมื่อพิจารณาถึงเรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่ครอบครัวของพวกเขาได้ทำกับครอบครัวของยูลแล้ว ชาร์ลีก็ยังแน่ใจว่าเขาจะไม่ยอมฟื้นคืนสมรรถภาพให้พวกเขาในตอนนี้ผู้ที่เป็นผู้ใหญ่แล้วจะต้องชดใช้และรับผิดชอบต่อการกระทำของพวกเขา ไม่อย่างนั้นแล้วพวกเขาจะได้บทเ
ชาร์ลีหยิบภาพวาดที่ยูลมอบให้เขาจากมือของดีแลน ก่อนจะยื่นให้กับยายของลอรีนด้วยตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็พูดว่า “คุณยายโธมัสครับ นี่เป็นของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผมครับ ผมหวังว่าคุณยายจะรับมันไว้ และผมอยากจะขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นไปเมื่อกี้นี้ ด้วยวันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณยาย ผมหวังว่าคุณยายคงจะให้อภัยผมนะครับ”คุณท่านโธมัสรู้สึกปลื้มใจแล้วรีบพูดขึ้นว่า “คุณเวด ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ จริง ๆ แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้เป็นเพราะหลานชายของฉันทำอะไรผิดไป ฉันมาคิดดูแล้ว… ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะเราละเลยในการอบรมสั่งสอนหลานของเรา จึงทำให้คุณเวดต้องเดือดร้อน”ในขณะที่เธอพูดอยู่นั้น เธอก็มองดูภาพวาดก่อนจะพูดว่า “คุณเวดคะ ภาพวาดนี้มีมูลค่ามากเหลือเกิน ฉันคงรับของขวัญชิ้นนี้ไว้ไม่ได้หรอกค่ะ!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “คุณยายโธมัสครับ ของขวัญชิ้นนี้เป็นเพียงของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผม มูลค่าของของขวัญชิ้นนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลย คุณยายไม่ต้องเกรงใจผมหรอกครับ พูดตามตรงนะครับ ผมไม่ได้ใช้จ่ายเงินกับของขวัญชิ้นนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะคุณโกลดิ้งจากโกลดิ้งกรุ๊ปมอบภาพวาดนี้ให้ผม แล้วผมก็นำมา
เมื่อได้ยินว่าเขาจะต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง ดีแลนก็ส่ายหัวอย่างบ้าคลั่งทันที!เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว เขาคงต้องทนทุกข์ทรมานและรู้สึกคับข้องใจเพียงเล็กน้อย ถ้าเขาต้องอาศัยอยู่ในชุมชนแออัด โดยมีค่าครองชีพเดือนละหนึ่งหมื่นบาท แต่ถ้าเขาต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง เขาก็คงต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมาก และต้องเจอะเจอความยากลำบากมากมายในไซต์ก่อสร้างแห่งนั้นเขาจึงพยักหน้าแบบไม่คิดอะไรทันที “คุณเวดครับ ผมยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดของคุณแล้ว ผมจะไม่ต่อรองอะไรกับคุณแล้วครับ! ขอแค่อย่าส่งผมไปไซต์ก่อสร้างนั้นเลยนะครับ…”ชาร์ลีรู้สึกพอใจมากแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “อย่าลืมปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีหลังจากนายไปถึงที่โอลรัสฮิลล์แล้ว อย่าสร้างปัญหาอะไรเพิ่มขึ้นมาอีกล่ะ ถ้านายยังคงอยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่อไป ทายาทที่ชอบเยาะเย้ยถากถางคนอื่นอย่างนาย ก็อาจก่อให้เกิดหายนะที่ร้ายแรงกว่านี้ได้ในสักวันหนึ่ง นายอาจเข้าไปพัวพันและทำให้ให้ตระกูลโธมัสและตระกูลโคชต้องเดือดร้อนได้!”ในเวลานี้สองพี่น้องอย่างเจริลและจาเวีย์ก็อดที่จะตัวสั่นขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้ดูเหมือนคำพูดของชาร์ลีจะทำให้คนทั้งคู่
สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดก็คือ การปั่นจักรยานอย่างยากลำบากจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ยังพอรับได้ การที่ต้องปั่นจักรยานเป็นเวลาครึ่งเดือน ก็ยังดีเสียกว่าการนอนบนเตียงอยู่ครึ่งเดือนหลังผ่าตัดนอกจากนี้เขายังรู้สึกคับข้องใจอย่างมากในระหว่างการผ่าตัดครั้งล่าสุด ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ยังไม่หายดีเลย ถ้าเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดแบบเดิมอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ เขาก็จะต้องได้รับความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าอย่างแน่นอนในเวลานี้ชาร์ลีพูดขึ้นมาว่า “ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์ก็เพื่อให้นายได้ไปปรับปรุงตัวและกลับเนื้อกลับตัวใหม่ นายคิดว่า การที่ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์เพื่อให้ไปสนุกสนานกับชีวิตที่นั่นเหรอ? จะบอกอะไรให้นะ นายจะต้องปั่นจักรยานธรรมดา ๆ อย่าง Phoenix 28 เท่านั้น ใช้อย่างอื่นไม่ได้เลย! ไม่งั้นฉันจะให้นายปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์พร้อมกับเกวียนที่บรรทุกก้อนอิฐไปจนเต็มคัน!”“แล้วหลังจากนายไปถึงโอลรัสฮิลล์ นอกจากนายจะต้องคอยขับรถรับส่งให้กับลอรีนแล้ว นายต้องเช่าห้องเดี่ยวในชุมชนแออัดคลิฟฟ์คูลส์ด้วย ค่าใช้จ่ายรายเดือนรวมถึงค่าเช่าบ้านของนายจะต้องไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท!”
เมื่อเขาได้ยินว่า จะต้องขี่จักรยานจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์ตลอดทาง และต้องอยู่ในโอลรัสฮิลล์ในฐานะคนขับรถเป็นเวลาหนึ่งปี ดีแลนก็รู้เหมือนกำลังจะตายไปแล้วจริง ๆ ประเด็นก็คือระยะทางจากอีสต์คลิฟฟ์ไปโอลรัสฮิลล์นั้น มีระยะทางมากกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะไม่ตายเพราะหมดแรงถ้าต้องปั่นจักรยานไปตลอดทางจริง ๆ เหรอ?แล้วตอนนี้ก็อยู่ในเดือนธันวาคมซึ่งเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว เขาจะต้องขี่จักรยานตลอดทางไปจนถึงภาคใต้ แล้วไม่ได้รับอนุญาตให้พักในโรงแรมเลยด้วย ข้อกำหนดเหล่านี้รุนแรงเกินไปไม่ใช่เหรอ?ดีแลนรู้สึกเสียใจมากและน้ำตาก็เริ่มไหลอาบใบหน้านี่มันเรื่องบ้าบออะไรกันเนี่ย… เขาเป็นนายน้อยคนที่สามของตระกูลโคช แต่จะต้องขี่จักรยานไปจนถึงโอลรัสฮิลล์? เขาจะไม่ล้มตายไปในระหว่างทางหรอกเหรอ?คงจะน่าทึ่งมากถ้าเขาสามารถปั่นจักรยานได้วันละห้าสิบ หรือหกสิบกิโลเมตรระยะทางกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะต้องปั่นจักรยานไปประมาณยี่สิบวัน!แต่นี่มันเดือนธันวาคมแล้วนะ!เขาสะอึกสะอื้นพร้อมกับพูดว่า “คุณเวดครับ ถ้าผมเริ่มปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์ กว่าจะถึงที่นั่นก็คงเป็นเดือนมกราคมแล้ว น้องสาวผมจะต้องกลับมาฉลองปีใหม่ที่
ลอรีนดีใจมากแล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ขอบคุณมากนะคะชาร์ลี!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “รอเดี๋ยวนะ ผมจะไม่บังคับให้เขากลืนจี้หยกเข้าไป แต่ยังต้องลงโทษเขาด้วยวิธีอื่น ไม่งั้นเขาคงไม่จดจำไว้เป็นบทเรียน”ลอรีนรีบถามว่า “คุณจะลงโทษเขาด้วยวิธีไหนคะ ชาร์ลี? คงไม่ร้ายแรงไปกว่าการกลืนจี้หยกเข้าไปแล้วใช่ไหมคะ?”“ไม่หรอกครับ ชาร์ลียิ้มเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า “คุณมั่นใจได้เลยว่า การลงโทษครั้งนี้จะส่งผลดีกับตัวเขาอย่างแน่นอน”ในที่สุดลอรีนก็รู้สึกสบายใจในขณะที่พูดอย่างเสน่หาว่า “ขอบคุณนะคะชาร์ลี ขอบคุณที่ให้อภัยพี่ชายของฉัน และปล่อยเขาไปเพราะเห็นแก่ฉัน ถ้าอย่างนั้น คุณให้โอกาสฉันได้ตอบแทนคุณดีไหมคะ…”ชาร์ลีถามด้วยความประหลาดใจ “คุณจะตอบแทนผมยังไงเหรอ?”ลอรีนกะพริบตาในขณะที่ยิ้มและพูดอย่างตั้งใจว่า “ฉันสัญญาว่าจะแต่งงานกับคุณ และให้กำเนิดลูกชายตัวอ้วน ๆ เพื่อคุณ! คุณคิดว่ายังไงคะ?”ชาร์ลีตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “อย่าพูดอะไรแบบนี้อีก ผมเป็นสามีของเพื่อนสนิทของคุณนะ!”ลอรีนพยักหน้าก่อนจะพูดอย่างจริงจังว่า “ฉันรู้ค่ะ แต่คุณทั้งคู่แต่งงานกันแบบปลอม ๆ นี่! ก็ยังไม่ถือว่าเป็นการแต่งงานกันอย่างแท้จริง! จริง ๆ แล