แล้วแคลร์ก็มองชาร์ลีซึ่งกำลังยืนเคียงข้างเธอด้วยความประหลาดใจและมีความไม่อยากจะเชื่ออยู่บนใบหน้า“นี่… ฉัน… ฉันไม่ได้กำลังฝันไปใช่ไหมคะ? ชาร์ลี ทำไมถึงได้มีสวนผักผลไม้อยู่ในบ้านเราด้วยล่ะ?!” ชาร์ลีมองเธอด้วยความรักใคร่ก่อนจะยิ้มและพูดว่า “เด็กโง่ แน่นอนสิ คุณไม่ได้กำลังฝันไป คุณไม่ได้ชื่นชอบการเก็บผักผลไม้หรอกเหรอ? ผมให้คนหาพันธุ์ผักและผลไม้ที่ดีที่สุดในโอลรัส ฮิลล์มาให้เลยนะ ผมจะดูแลแปลงผักให้คุณด้วยในอนาคต จะได้แน่ใจว่ามันจะออกดอกออกผลมาเยอะ ๆ ให้คุณเก็บได้ตลอดทั้งสี่ฤดูในหนึ่งปีเลย!”แคลร์ซาบซึ้งมากจนดวงตากลายเป็นสีแดงเธอไม่เคยฝันมาก่อนเลยว่าสามีของเธอจะเตรียมเซอร์ไพรซ์ชิ้นใหญ่ไว้ให้เธอ!ตอนที่เธอยังเด็ก เธอเฝ้าฝันมาตลอดที่จะได้ปลูกผักผลไม้บริเวณสนามหน้าบ้านของตัวเอง เธอคงจะพอใจที่สุดแล้ว ถึงแม้มันจะเป็นแค่เพียงต้นมะเขือเทศหรือพริกอย่างไรก็ตาม คุณท่านวิลสันไม่เคยให้โอกาสนี้กับเธอเลยสักครั้งโดยไม่คาดฝัน สามีของเธอก็ได้มอบสวนผักผลไม้ที่ทั้งใหญ่และสวยงามให้เธอในชั่วข้ามคืนแคลร์ยิ่งรู้สึกซาบซึ้งขึ้นไปอีกเพราะคำมั่นสัญญาที่เต็มไปด้วยความรักของชาร์ลีที่มอบให้เธอแม้ว่าชาร์ลี
เช้านี้แคลร์รู้สึกราวกับเป็นผู้หญิงที่มีความสุขมากที่สุดในโลกในทางกลับกันก็มีผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่รู้สึกว่าเธอคือผู้หญิงที่โชคร้ายที่สุดในโลกผู้หญิงคนนั้นก็คือฮันนาห์ซึ่งกำลังอยู่ที่โรงพยาบาลซิลเวอร์วิงเธออยู่ที่แผนกนรีเวชกำลังรอให้ถึงคิวของตัวเอง ก่อนหน้าเธอมีคิวที่ยาวมากและในที่สุดก็ถึงคิวของเธอหลังจากที่เข้าไปในห้อง หมอก็เริ่มการตรวจตามปกติ แต่แม้แต่หมอที่มีประสบการณ์ก็ยังอ้าปากค้างด้วยความงงเมื่อเห็นสภาพที่ฮันนาห์เป็นและถามว่า “เกิดอะไรขึ้นคะ? ทำไมคุณถึงทำแบบนี้กับตัวเองล่ะ? คุณไม่ใส่ใจสุขอนามัยส่วนบุคคลบ้างเลยหรือ?”ถึงแม้จะเป็นหมอผู้หญิงที่เข้ามาดูแลเธอ แต่สีหน้าของฮันนาห์ก็กลายเป็นสีแดงน่าเกลียดจากการเน้นย้ำของหมอ แล้วเธอก็ภาวนาขอให้ตัวเองหายตัวไปจากห้องนี้เดี๋ยวนี้เลย เธอปิดหน้าด้วยความอับอายและพูดว่า “คุณหมอคะ พูดตรง ๆ เลยนะคะ มันเป็นเพราะผู้ชายของดิฉันค่ะ เขาไม่ใส่ใจเรื่องความสะอาดมากเท่าไหร่...”หมอบ่นพร้อมทั้งถอนหายใจหนักหน่วง “คุณควรบอกให้เขาสร้างสุขนิสัยที่ดีและดูแลเรื่องความสะอาดส่วนบุคคลด้วยนะคะ! ดูสิ่งที่เขาทำกับคุณสิ! นี่มันร้ายแรงมากนะคะ หมอต้องเตือนคุณเลย
ฮันนาห์มึนงงและสับสนเมื่อเห็นผลตรวจ!ไม่เพียงแค่เธอจะเป็นโรคหนองใน แต่เธอยังเป็นซิฟิลิสด้วย?!ไอ้ผู้คุมระยำคือราชาแห่งโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ดี ๆ นี่เอง!เขาคือต้นเหตุของความเดือดร้อนทั้งหลายทั้งปวงของเธอจริง ๆ ขาของฮันนาห์เหลวยวบเป็นเยลลี่ เธอจึงรีบเอนตัวพิงกำแพงและนั่งลงบนพื้น ขณะที่ปาดน้ำตา เธอก็เปิดดูรายงานหน้าที่สามด้วยมืออันสั่นเทารายงานแผ่นที่สามบอกว่า: ตรวจหาเชื้อเอชไอวี ค่าตัวแปรที่ต้องการวัดคือ 0.11 ตามด้วยค่าอ้างอิงระบุว่า ผลเป็นลบในที่สุดฮันนาห์ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกเธอรู้สึกโชคดีอย่างล้นเหลือที่ไม่มีเชื้อโรคเอดส์ ไม่อย่างนั้นมันคงเป็นจุดจบสำหรับเธออย่างแน่นอนเธอกลืนน้ำลายอย่างโล่งใจ ในที่สุดก็พบความสบายใจได้บ้างเล็กน้อย จากนั้นก็พลิกไปหน้าสุดท้ายของผลตรวจฮอโมนส์ฮิวแมนคอริออนิกโกนาโดโทรฟิน (เอชซีจี): 5324.2!เธออ่านค่าซ้ำแล้วซ้ำเล่า กลอกตาขึ้นข้างบนและก็เกือบจะเป็นลมนี่มัน… ค่าชี้วัดการตั้งครรภ์ว่าเป็นบวกไม่ใช่หรือ?!จากนั้นเธอก็รีบดูหมายเหตุที่อยู่ด้านหลัง ค่าชี้วัดบ่งบอกว่าตั้งครรภ์ได้สี่ถึงแปดสัปดาห์ห้วงเวลาสอดคล้องกับช่วงที่เธออยู่ที่เหมืองถ่านหิน
ฮันนาห์ตกตะลึงจนนิ่งไปชั่วครู่ เมื่อเธอรวบรวมสติได้ ความคิดแรกของเธอก็คือต้องกำจัดทารกให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ เธอหันไปหาหมออย่างรวดเร็วและถาม “คุณหมอคะ นัดหมายสำหรับการทำแท้งที่เร็วที่สุดคือวันไหนคะ?”“ถ้าคุณต้องการ ดิฉันสามารถจัดให้ได้ในสัปดาห์ถัดไปค่ะ เร็วที่สุดก็คือวันจันทร์”ฮันนาห์ตัวสั่นเทิ้มและตื่นตระหนกเมื่อได้ยินว่าจะต้องรอจนถึงวันจันทร์ แล้วเธอจึงถามอย่างกระวนกระวาย “ทำไมดิฉันต้องรอจนถึงวันจันทร์เลยล่ะคะ? ถ้ามันเกี่ยวกับเรื่องเงิน ดิฉันสามารถจ่ายเพิ่มเป็นสองเท่าหรือสิบเท่าของราคาเลยนะคะ!”สถานการณ์ในตอนนี้จริงจังมาก ช้าไปหนึ่งวันอาจมีความเป็นไปได้สูงว่าการตั้งครรภ์ของเธออาจถูกค้นพบได้ เธอจึงอดไม่ได้ที่จะกระวนกระวายใจหมอส่ายหน้าและระบุว่า “มันไม่เกี่ยวกับเรื่องเงินหรอกค่ะ แต่มีเพียงการตรวจรักษาทางคลีนิคเท่านั้นที่เปิดในช่วงสุดสัปดาห์ หากคุณต้องการทำแท้งเด็ก คุณก็ต้องรอจนถึงวันจันทร์”“ก็ได้ค่ะ… เราจะทำมันในวันจันทร์เลยค่ะ”สีหน้าของฮันนาห์เปลี่ยนเป็นบูดบึ้ง เธอตื่นตระหนกแต่ก็ต้องยอมรับชะตากรรมอย่างไรเสีย เธอก็ไม่สามารถจัดการเรื่องนี้ได้ด้วยมือของเธอเองการทำแท้
คริสโตเฟอร์บอก “แม่บอกให้เธอไปตลาดแล้วซื้อเนื้อมาตอนขากลับ แล้วกลับบ้านมาทำมื้อเที่ยงด้วย”ฮันนาห์รู้สึกหงุดหงิดแต่ก็ตอบอย่างเรียบ ๆ “ได้ ฉันจะแวะที่ตลาดแล้วกลับมาบ้าน”…ชาร์ลีกับแคลร์ใช้เวลาอยู่ในสวนเล็ก ๆ ของพวกเขาทั้งเช้า เก็บบรรดาผักต่าง ๆแคลร์มีความสุข รู้สึกมีชีวิตชีวาและไร้ความกังวลเหมือนสาวน้อยวัย 18 เธอเก็บผักอย่างร่าเริง พรวนดินและรดน้ำต้นไม้อย่างตั้งใจเอเลนยังอยากถ่ายรูปเอาไปลงโซเชียล เธอชักเริ่มหมดความอดทนเมื่อคู่สามีภรรยานั้นใช้เวลาอยู่ในสวนนานไม่เลิกราเมื่อชาร์ลีกับแคลร์เดินเข้าบ้านมาพร้อมผักตะกร้าใหญ่ เธอก็รีบวิ่งลงไปด้านล่างพร้อมมือถือ ก่อนถ่ายรูปเซลฟี่และรูปของสวนทุกมุมหลังจากยืนกลางแสงแดดแผดเผาถ่ายรูปจนนับไม่ถ้วน เธอก็เร่งเข้ามาในบ้านก่อนชโลมเจลว่านหางจระเข้บนใบหน้าและแขนเพื่อป้องกันผิวไหม้ ขณะที่ทาเธอก็เลื่อนดูรูปในมือถือไปด้วย ก่อนเลือกมา 9 รูปอย่างตั้งใจเพื่อโพสต์ลงบนโชเชียลพร้อมคำอธิบายว่า “ดูสวนผักของเราสิ ผักน้อย ๆ น่ารักของฉันโตอย่างสวยงามเพราะการดูแลอย่างตั้งใจของฉันเอง”เมื่อรูปอัปโหลดไปเรียบร้อย เธอก็ได้รับการกดถูกใจและความเห็นมากมายชื่นชมสวนของ
พอได้ยินว่าโจรขโมยผักเป็นย่าของตัวเอง แคลร์ก็ถอนหายใจอย่างรู้สึกช่วยไม่ได้ก่อนกล่าว “แม่คะ ถ้าเป็นคุณย่า ก็ปล่อยเขาเถอะค่ะ ย่าจะเก็บอะไรก็ให้เขาเอาไปเถอะ มันก็แค่ผักเอง”เอเลนโพล่งออกมาอย่างเหยียดหยาม “ไม่ได้นะ ลูกจะพูดแบบนั้นไม่ได้ ที่ผ่านมาย่าของลูกเคยให้อะไรเราบ้างล่ะ? ลืมไปแล้วหรือไง ว่าเขาทำกับเรายังไง? หึ แล้วดูสิ หลังจากก่อเรื่องอะไรมาตั้งมากมาย ยังจะกล้ามาขโมยผักจากสวนเราอีก?! แม่ไม่มีทางยอม!”แคลร์ส่ายหน้าอย่างเป็นทุกข์ “คุณแม่คะ อย่าคิดมากเกินไปเลย โอเคไหม? คุณย่าก็แค่อยากแบ่งไปกินบ้างพอเห็นผักในสวนเราสดและใหญ่ดี อย่าขี้เหนียวเลยค่ะ”เอเลนพึมพำอย่างรำคาญใน “ลูกนี่ทรยศกันแท้ ๆ เชอะ!” เธอหันหลังกลับ ก่อนเดินขึ้นบันไดกลับห้องไปอย่างโกรธเกรี้ยวแต่ยิ่งเอเลนคิดเรื่องนี้มากแค่ไหนเธอก็ยิ่งรู้สึกพ่ายแพ้ พวกเขามีสวนผักที่สวยงามเต็มไปด้วยผักคุณภาพดีมากมาย เธอไม่อยากแบ่งให้คุณท่านวิลสันนั่นสักชิ้น! แต่ลูกสาวเธอกลับคิดเห็นต่างออกไปแถมไม่ถือสาหาความ! ถ้าพวกเขาปล่อยให้คุณท่านวิลสันมาขโมยผักได้ตามใจ เธอต้องมาขโมยอีกแน่ แถมกลับมาอีกเป็นครั้งที่สอง ที่สาม หรือเป็นร้อยครั้งคิดได้ดังนั้น
ฮันนาห์รู้สึกหวาดหวั่นกับผลการตรวจ แต่เธอก็อยากเอาใจคุณท่านวิลสันและสามีด้วยการบริการพวกเขา เธอมีเงินพิเศษเหลืออยู่จากการขายเครื่องทำกาแฟ เธอเลยใช้เงินนี้ซื้อซี่โครงและเนื้อหมูเพื่อเอามาทำอาหารมื้ออร่อยให้ครอบครัวคุณท่านวิลสันขมวดคิ้วเมื่อรู้ว่าฮันนาห์ซื้อผักมาด้วย เธอพูดอย่างไม่พอใจ “โธ่เอ๊ย จะเสียเงินซื้อผักไปทำไมกัน?”ฮันนาห์ถามอย่างประหลาดใจ “คุณแม่คะ เราจะกินแค่เนื้อสัตว์ไม่ได้นะคะ! เราต้องให้แต่ละมื้อมีสารอาหารพวกวิตามินเกลือแร่ครบอย่างที่ร่างกายต้องการ”คุณท่านวิลสันดึงมือเธอไปที่ครัวก่อนชี้ให้ดูตะกร้าเต็มไปด้วยผักที่เธอไปขโมยมา “เห็นนั่นไหม? ฉันไปขโมยผักสดพวกนี้มาจากสวนของชาร์ลี พวกนั้นมีสวนผักใหญ่โตอยู่หน้าบ้าน เราแค่เอื้อมมือข้ามรั้วไปเด็ดมาก็ได้แล้ว ต่อไปเราไม่ต้องเปลืองเงินซื้อผักอีกแล้ว”ฮันนาห์นึกขึ้นได้ว่าเธอเห็นสวนของชาร์ลีอยู่ระหว่างก่อสร้างบางอย่างเมื่อเธอออกไปตอนเช้า เธอสงสัยและแปลกใจแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรนักเธอมองตะกร้าผักใกล้ ๆ ก่อนร้องบอก “ว้าว คุณแม่คะ จริงด้วย ผักพวกนี้ดูสดน่ากิน ดูดีกว่าผักออแกนิกที่ฉันซื้อมาจากตลาดซะอีก”คุณท่านวิลสันพยักหน้าพร้อมยิ้มอย่
หลังมื้อเที่ยง ซีคก็จัดแจงขนต้นแดฟโฟดิลหนึ่งคันรถมาที่บ้านชาร์ลีต้นแดฟโฟดิลที่เขาส่งมานั้นเป็นเกรดชั้นเลิศดูเขียวสดฉ่ำ และไม่มีสักต้นเดียวที่มีดอกตรงตามที่ชาร์ลีต้องการต้นแดฟโฟดิลนั้นดูเหมือนกุยช่ายมากโดยเฉพาะตอนที่ไม่มีดอกคนที่อาศัยในเมืองมักแยกชนิดของต้นไม้ไม่ค่อยออก แถมส่วนใหญ่คนที่กินกุยช่ายก็มักเคยเห็นกุยช่ายตอนวางขายในตลาดเป็นมัด ๆ ไม่เคยเห็นกุยช่ายเป็นต้นปลูกขึ้นจากดินมาก่อน ดังนั้นจึงมักแยกความแตกต่างระหว่างต้นแดฟโฟดิลและกุยช่ายไม่ได้กุยช่ายนั้นเป็นผักที่หลาย ๆ คนชอบทาน มันเป็นวัตถุดิบแสนอร่อยเมื่อเอาไปใส่ผัด ซุป ทำพาย หรือแม้กระทั่งทำเกี๊ยวแต่ต้นแดฟโฟดิลนั้นทานไม่ได้ทำไมน่ะเหรอ? เพราะว่ามันเป็นไม้ดอกในกลุ่มนาร์ซิซัสดอกนาร์ซิซัสมีสารแอลคาลอยด์ที่มีพิษเมื่อเอเลนบอกชาร์ลีว่าคุณท่านวิลสันชอบทานกุยช่าย เขาก็คิดถึงแดฟโฟดิลขึ้นมาทันทีเขารู้ว่าเมื่อคุณท่านวิลสันตัวร้ายมาขโมยผักสำเร็จเมื่อเช้า เธอจะต้องกลับมาทำเรื่องแย่ ๆ นี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก เพราะงั้นเขาเลยบอกซีคให้หาคนมาปลูกต้นแดฟโฟดิลพวกนี้ที่ริมรั้วของวิลล่าพอเป็นแบบนี้คุณท่านวิลสันก็จะเอื้อมมือข้ามรั้วมาเด็ดแดฟโฟดิ
“โอเค” ชาร์ลีพยักหน้าก่อนจะพูดว่า “เอาล่ะ ถึงเวลาที่นายต้องออกเดินทางแล้ว”ในเวลานี้จาเวียร์ก็วิ่งเข้าไปหาพวกเขาพร้อมกับแบตเตอรี่สำรองในมือ หลังจากนั้นเขาก็ยื่นแบตเตอรี่สำรองกับสายชาร์จให้กับดีแลนในขณะที่พูดว่า “ดีแลน นี่แบตเตอรี่สำรอง!”ดีแลนหยิบแบตเตอรี่สำรองใส่ไว้ในเป้ หลังจากปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้ว เขาก็พูดกับทุกคนว่า “คุณยาย คุณตา พ่อ แม่ ลุง อา ผมจะไปแล้วนะคับ…”ทุกคนโบกมือให้เขา “ไปเถอะ อย่าลืมใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนนะ!”ดีแลนมองไปที่ชาร์ลีอีกครั้งก่อนจะโค้งคำนับแล้วพูดว่า “ผมจะไปแล้วนะครับคุณเวด…”ชาร์ลีส่งเสียงพึมพำในขณะที่พูดว่า “รีบไปเถอะ ไม่งั้นนายจะถูกทำโทษที่ไปถึงช้านะ”ดีแลนรีบพยักหน้าในขณะที่พูดว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงครับ! ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ!”ชาร์ลีโบกมือแล้วพูดว่า “อืม ไปได้แล้ว!”ดีแลนพยักหน้าก่อนจะหันกลับไปมองเหล่าญาติ ๆ อย่างไม่เต็มใจ จากนั้นเขาก็เริ่มปั่นจักรยาน Phoenix 28 คันใหญ่อย่างหนักหน่วง หลังจากถีบจักรยานไปได้สองสามครั้ง ในที่สุดดีแลนก็ถีบจักรยานจากไปในลักษณะโคลงเคลงซิลเวียเริ่มร้องไห้อย่างขมขื่น ลีโอนาร์ดจึงรีบคว้าเธอมาปลอบโยนอยู่ในอ้อ
เมื่องานเลี้ยงวันเกิดสิ้นสุดลง และแขกคนอื่น ๆ ได้กลับไปแล้ว ดีแลนก็เข็นรถจักรยาน Phoenix 28 คันใหม่ออกมาในเวลานี้จู่ ๆ ดีแลนก็นึกถึงเพลงฮิตที่เขาเคยเห็นในคลิปวิดีโอสั้น ๆ…เพลงนี้ก็คือเพลง ‘ขี่มอเตอร์ไซต์แสนรักของฉัน’...ในขณะที่เขานึกถึงเพลงนี้ เขาก็มองไปที่จักรยาน Phoenix 28 ในสภาพเก่าที่ดูน่าเกลียดนั้น แล้วอดที่จะถอนหายใจไม่ได้ในขณะที่คิดกับตัวเองว่า ‘ถ้าฉันขี่มอเตอร์ไซค์ไปโอลรัสฮิลล์ได้ก็คงจะดีไม่น้อย เพราะจะทำให้ฉันสามารถเดินทางได้ประมาณสามถึงสี่ร้อยกิโลเมตรต่อวัน ซึ่งจะช่วยให้ฉันเดินทางไปถึงโอลรัสฮิลล์ได้เร็วที่สุด จะได้ไม่ต้องทนทุกข์กับความคับข้องใจและความอยุติธรรมมากมายในระหว่างทาง…’แต่ช่างน่าสงสารเหลือเกินที่เขารู้ว่าชาร์จะไม่มีทางเปิดโอกาสให้เขาได้ต่อรองอะไรเลย เขาจึงทำได้แค่เข็นจักรยานออกมาเพื่อเตรียมตัวออกเดินทางเจริล… ลุงของเขาถือหมวกกันน็อกสีเขียวอยู่ในมือ ในขณะที่พยายามจะสวมให้กับดีแลน ดีแลนหลบเลี่ยงหมวกใบนั้นในขณะที่ถามอย่างอึดอัดใจว่า “ทำไมถึงซื้อหมวกกันน็อกสีเขียวมาให้ผมล่ะลุง? หมวกสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของผู้ชายที่โดนสวมเขานะ…”“อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลยน่า” เจร
"หา? เร็วไปไหม? คุณจะไม่อยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่ออีกสักสองสามวันเหรอ?”“ผมทำธุระของผมเสร็จหมดแล้วน่ะ ไม่มีธุระอะไรให้ผมต้องอยู่ที่นี่อีก ผมจะออกเดินทางพรุ่งนี้เลย”เมื่อลอรีนได้ยินดังนี้ เธอก็พูดขึ้นอย่างไม่ลังเลเลยว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะออกจากอีสต์คลิฟฟ์พรุ่งนี้ด้วย เราเดินทางกลับโอลรัสฮิลล์พร้อมกันดีไหมคะ? เราจะได้นั่งเครื่องบินลำเดียวกันชาร์ลีอยากจะปฏิเสธเธอ แต่เมื่อเขาเห็นสีหน้าที่แสดงความวิงวอนของเธอแล้ว เขาก็ปฏิเสธเธอไม่ลงเพราะไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม… นับเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนเป็นเพื่อนกัน ที่ต้องนั่งเครื่องบินลำเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถหลบเลี่ยงการนั่งเครื่องบินเที่ยวบินเดียวกับเธอได้ชาร์ลีจึงพูดว่า “ได้สิ เรากลับด้วยกันก็ได้”ลอรีนรีบพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวคุณให้รายละเอียดบัตรประจำตัวกับฉันมานะ ฉันจะได้ซื้อตั๋วเครื่องบินของเราพร้อมกัน!”“โอเค”***ในขณะที่งานเลี้ยงวันเกิดยังคงดำเนินอยู่นั้น ลุงและอารองของดีแลนก็ได้ตระเตรียมการเดินทางด้วยการปั่นจักรยานไปยังโอลรัสฮิลล์ให้ดีแลนเรียบร้อยแล้วพวกเขาได้ให้คนไปซื้อจักรยาน Phoenix 28 รุ่นเก่ามา แล้วติดตั้งชั้นวางสัมภา
หลังจากนั้นงานเลี้ยงวันเกิดก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการมีการจัดที่นั่งให้กับชาร์ลีเป็นพิเศษในฐานะที่เขาเป็นแขกผู้มีเกียรติสูงสุด โดยเขาได้นั่งอยู่ข้างนายท่านโธมัสกับลอรีนและริกลีย์หลังจากนั้นสมาชิกของตระกูลโธมัสก็ผลัดกันดื่มอวยพรให้เขา โดยทั้งการแสดงออกทางสีหน้า น้ำเสียง และการกระทำล้วนเต็มไปด้วยการสรรเสริญเยินยอ ชาร์ลีไม่มีอะไรจะพูดมากนัก เมื่อมีคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็แค่ดื่มอวยพรกลับไป ซึ่งถึงแม้ดีแลนจะเป็นคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็ดื่มอวยพรกลับไปอย่างง่ายดายในเวลานี้ริกลีย์ก็ยังมาดื่มอวยพรให้กับชาร์ลีอย่างระมัดระวังด้วย โดยเขาได้เยินยอแล้วพูดว่า “คุณเวดครับ ผมมีเรื่องจะถามคุณหน่อยครับ…”ชาร์ลีรู้อยู่แล้วว่าเขาจะถามอะไรก่อนที่เขาจะเริ่มพูดออกมาด้วยซ้ำไป เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการให้ชาร์ลีช่วยฟื้นคืนสมรรถภาพ เพื่อให้เขากลับมาแข็งแกร่งได้อีกครั้งแต่เมื่อพิจารณาถึงเรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่ครอบครัวของพวกเขาได้ทำกับครอบครัวของยูลแล้ว ชาร์ลีก็ยังแน่ใจว่าเขาจะไม่ยอมฟื้นคืนสมรรถภาพให้พวกเขาในตอนนี้ผู้ที่เป็นผู้ใหญ่แล้วจะต้องชดใช้และรับผิดชอบต่อการกระทำของพวกเขา ไม่อย่างนั้นแล้วพวกเขาจะได้บทเ
ชาร์ลีหยิบภาพวาดที่ยูลมอบให้เขาจากมือของดีแลน ก่อนจะยื่นให้กับยายของลอรีนด้วยตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็พูดว่า “คุณยายโธมัสครับ นี่เป็นของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผมครับ ผมหวังว่าคุณยายจะรับมันไว้ และผมอยากจะขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นไปเมื่อกี้นี้ ด้วยวันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณยาย ผมหวังว่าคุณยายคงจะให้อภัยผมนะครับ”คุณท่านโธมัสรู้สึกปลื้มใจแล้วรีบพูดขึ้นว่า “คุณเวด ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ จริง ๆ แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้เป็นเพราะหลานชายของฉันทำอะไรผิดไป ฉันมาคิดดูแล้ว… ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะเราละเลยในการอบรมสั่งสอนหลานของเรา จึงทำให้คุณเวดต้องเดือดร้อน”ในขณะที่เธอพูดอยู่นั้น เธอก็มองดูภาพวาดก่อนจะพูดว่า “คุณเวดคะ ภาพวาดนี้มีมูลค่ามากเหลือเกิน ฉันคงรับของขวัญชิ้นนี้ไว้ไม่ได้หรอกค่ะ!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “คุณยายโธมัสครับ ของขวัญชิ้นนี้เป็นเพียงของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผม มูลค่าของของขวัญชิ้นนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลย คุณยายไม่ต้องเกรงใจผมหรอกครับ พูดตามตรงนะครับ ผมไม่ได้ใช้จ่ายเงินกับของขวัญชิ้นนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะคุณโกลดิ้งจากโกลดิ้งกรุ๊ปมอบภาพวาดนี้ให้ผม แล้วผมก็นำมา
เมื่อได้ยินว่าเขาจะต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง ดีแลนก็ส่ายหัวอย่างบ้าคลั่งทันที!เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว เขาคงต้องทนทุกข์ทรมานและรู้สึกคับข้องใจเพียงเล็กน้อย ถ้าเขาต้องอาศัยอยู่ในชุมชนแออัด โดยมีค่าครองชีพเดือนละหนึ่งหมื่นบาท แต่ถ้าเขาต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง เขาก็คงต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมาก และต้องเจอะเจอความยากลำบากมากมายในไซต์ก่อสร้างแห่งนั้นเขาจึงพยักหน้าแบบไม่คิดอะไรทันที “คุณเวดครับ ผมยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดของคุณแล้ว ผมจะไม่ต่อรองอะไรกับคุณแล้วครับ! ขอแค่อย่าส่งผมไปไซต์ก่อสร้างนั้นเลยนะครับ…”ชาร์ลีรู้สึกพอใจมากแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “อย่าลืมปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีหลังจากนายไปถึงที่โอลรัสฮิลล์แล้ว อย่าสร้างปัญหาอะไรเพิ่มขึ้นมาอีกล่ะ ถ้านายยังคงอยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่อไป ทายาทที่ชอบเยาะเย้ยถากถางคนอื่นอย่างนาย ก็อาจก่อให้เกิดหายนะที่ร้ายแรงกว่านี้ได้ในสักวันหนึ่ง นายอาจเข้าไปพัวพันและทำให้ให้ตระกูลโธมัสและตระกูลโคชต้องเดือดร้อนได้!”ในเวลานี้สองพี่น้องอย่างเจริลและจาเวีย์ก็อดที่จะตัวสั่นขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้ดูเหมือนคำพูดของชาร์ลีจะทำให้คนทั้งคู่
สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดก็คือ การปั่นจักรยานอย่างยากลำบากจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ยังพอรับได้ การที่ต้องปั่นจักรยานเป็นเวลาครึ่งเดือน ก็ยังดีเสียกว่าการนอนบนเตียงอยู่ครึ่งเดือนหลังผ่าตัดนอกจากนี้เขายังรู้สึกคับข้องใจอย่างมากในระหว่างการผ่าตัดครั้งล่าสุด ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ยังไม่หายดีเลย ถ้าเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดแบบเดิมอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ เขาก็จะต้องได้รับความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าอย่างแน่นอนในเวลานี้ชาร์ลีพูดขึ้นมาว่า “ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์ก็เพื่อให้นายได้ไปปรับปรุงตัวและกลับเนื้อกลับตัวใหม่ นายคิดว่า การที่ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์เพื่อให้ไปสนุกสนานกับชีวิตที่นั่นเหรอ? จะบอกอะไรให้นะ นายจะต้องปั่นจักรยานธรรมดา ๆ อย่าง Phoenix 28 เท่านั้น ใช้อย่างอื่นไม่ได้เลย! ไม่งั้นฉันจะให้นายปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์พร้อมกับเกวียนที่บรรทุกก้อนอิฐไปจนเต็มคัน!”“แล้วหลังจากนายไปถึงโอลรัสฮิลล์ นอกจากนายจะต้องคอยขับรถรับส่งให้กับลอรีนแล้ว นายต้องเช่าห้องเดี่ยวในชุมชนแออัดคลิฟฟ์คูลส์ด้วย ค่าใช้จ่ายรายเดือนรวมถึงค่าเช่าบ้านของนายจะต้องไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท!”
เมื่อเขาได้ยินว่า จะต้องขี่จักรยานจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์ตลอดทาง และต้องอยู่ในโอลรัสฮิลล์ในฐานะคนขับรถเป็นเวลาหนึ่งปี ดีแลนก็รู้เหมือนกำลังจะตายไปแล้วจริง ๆ ประเด็นก็คือระยะทางจากอีสต์คลิฟฟ์ไปโอลรัสฮิลล์นั้น มีระยะทางมากกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะไม่ตายเพราะหมดแรงถ้าต้องปั่นจักรยานไปตลอดทางจริง ๆ เหรอ?แล้วตอนนี้ก็อยู่ในเดือนธันวาคมซึ่งเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว เขาจะต้องขี่จักรยานตลอดทางไปจนถึงภาคใต้ แล้วไม่ได้รับอนุญาตให้พักในโรงแรมเลยด้วย ข้อกำหนดเหล่านี้รุนแรงเกินไปไม่ใช่เหรอ?ดีแลนรู้สึกเสียใจมากและน้ำตาก็เริ่มไหลอาบใบหน้านี่มันเรื่องบ้าบออะไรกันเนี่ย… เขาเป็นนายน้อยคนที่สามของตระกูลโคช แต่จะต้องขี่จักรยานไปจนถึงโอลรัสฮิลล์? เขาจะไม่ล้มตายไปในระหว่างทางหรอกเหรอ?คงจะน่าทึ่งมากถ้าเขาสามารถปั่นจักรยานได้วันละห้าสิบ หรือหกสิบกิโลเมตรระยะทางกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะต้องปั่นจักรยานไปประมาณยี่สิบวัน!แต่นี่มันเดือนธันวาคมแล้วนะ!เขาสะอึกสะอื้นพร้อมกับพูดว่า “คุณเวดครับ ถ้าผมเริ่มปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์ กว่าจะถึงที่นั่นก็คงเป็นเดือนมกราคมแล้ว น้องสาวผมจะต้องกลับมาฉลองปีใหม่ที่
ลอรีนดีใจมากแล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ขอบคุณมากนะคะชาร์ลี!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “รอเดี๋ยวนะ ผมจะไม่บังคับให้เขากลืนจี้หยกเข้าไป แต่ยังต้องลงโทษเขาด้วยวิธีอื่น ไม่งั้นเขาคงไม่จดจำไว้เป็นบทเรียน”ลอรีนรีบถามว่า “คุณจะลงโทษเขาด้วยวิธีไหนคะ ชาร์ลี? คงไม่ร้ายแรงไปกว่าการกลืนจี้หยกเข้าไปแล้วใช่ไหมคะ?”“ไม่หรอกครับ ชาร์ลียิ้มเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า “คุณมั่นใจได้เลยว่า การลงโทษครั้งนี้จะส่งผลดีกับตัวเขาอย่างแน่นอน”ในที่สุดลอรีนก็รู้สึกสบายใจในขณะที่พูดอย่างเสน่หาว่า “ขอบคุณนะคะชาร์ลี ขอบคุณที่ให้อภัยพี่ชายของฉัน และปล่อยเขาไปเพราะเห็นแก่ฉัน ถ้าอย่างนั้น คุณให้โอกาสฉันได้ตอบแทนคุณดีไหมคะ…”ชาร์ลีถามด้วยความประหลาดใจ “คุณจะตอบแทนผมยังไงเหรอ?”ลอรีนกะพริบตาในขณะที่ยิ้มและพูดอย่างตั้งใจว่า “ฉันสัญญาว่าจะแต่งงานกับคุณ และให้กำเนิดลูกชายตัวอ้วน ๆ เพื่อคุณ! คุณคิดว่ายังไงคะ?”ชาร์ลีตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “อย่าพูดอะไรแบบนี้อีก ผมเป็นสามีของเพื่อนสนิทของคุณนะ!”ลอรีนพยักหน้าก่อนจะพูดอย่างจริงจังว่า “ฉันรู้ค่ะ แต่คุณทั้งคู่แต่งงานกันแบบปลอม ๆ นี่! ก็ยังไม่ถือว่าเป็นการแต่งงานกันอย่างแท้จริง! จริง ๆ แล