ยามดึกอันเสียงเงียบสงบ..บริเวณรอบชุมชนล้วนต่างหลับใหล..ร่างเพรียวระหงเองก็พึ่งสลบไสลไปเพียงไม่ถึงชั่วโมง..นวลเนื้อนางอ่อนระโหยโรยแรงจากการเคี่ยวกรำ โดยเฮียหมอผู้รู้จุดเสียวของเพศหญิง..คนถูกกระทำถึงจุดสุดยอดนับครั้งไม่ถ้วน..ใจดวงน้อยแทบบิดขาดแต่เหมือนสามีตัวโตจะตายอดตายอยากมาจากไหนก็ไม่อาจรู้ได้..แม้แต่ตอนนี้..ตรงส่วนของน้องสาวของเธอยังมีลี่ซานน้อยคาอยู่..ไม่ยอมถอดถอนออกไป..แม้นเจ้าของมันจะเผลอนอนพักเอาแรงเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็ตาม...สภาพจึงเป็นนอนตะแคงข้างตระกองกอดกันและเมื่อพลังเริ่มมา..ส่วนที่ว่าเริ่มขยายใหญ่ขึ้น..มือของคนเป็นสามีเริ่มรุ่มร่าม..สาละวนกับยอดปทุมถันส่วนบน..ไม่อยากจะตื่นก็จำต้องตื่น"อื้อ..พอแล้ว..เฮียซาน..หนูไม่ไหวแล้ว"เสียงแหบแห้งของคนไม่ได้พักครางอือๆ..แต่เหมือนคำที่ใช้แทนตัวเองว่า 'หนู' ที่เจ้าตัวชอบเผลอใช้เฉพาะบนเตียงจะไปกระตุ้นความใคร่ปนเอ็นดู ของคุณหมอหนุ่ม"เฮียขออีกสองทีนะคะ เดี๋ยวจะให้หนูพักแล้ว"เสียงรัญจวนใจ..มาพร้อมกับที่น้องชายของเขาค่อยๆ ขยับโยกไปมา..พาลให้คนโดนเสียวจวนจะขาดใจ..ริมฝีปากรูปกระจับสีแดงตามธรรมชาติพยายามกั้นเสียงครางเมื่อเห็นเจ้าหล่อนไม่ตอบ
ตรอกจันทร์กระจ่าง หลังจากได้หยุดพักสองวัน จินเยว่พาตัวเองมาที่ตรอกแห่งหนึ่ง ซึ่งขึ้นชื่อลือชาว่าเป็นแหล่งอโคจรประจำพระนคร ที่สำคัญยังเป็นแหล่งที่มีโสเภณีชื่อดังนอกจากที่หญิงสาวจดจำเรื่องราวบนเตียงอันเร่าร้อน สิ่งที่จำได้อีกอย่างคือ 'ครูผู้สอน' ซึ่งที่จริงแล้วก็คือเพื่อนสนิทของเธอตั้งแต่เรียนประถมนามว่า 'สุรี' เจ้าหล่อนทั้งวิธีการใช้มือ ใช้ปาก ทั้งท่วงท่ามัดใจชาย..ใดๆ ล้วนมาจากการที่เพื่อนสมัยเด็กสั่งสอนแทบทั้งสิ้นครั้งหนึ่งก่อนที่จะแต่งงานด้วยความรักเพื่อน..และกลัวเพื่อนโดนผัวทิ้ง สุรีถึงขนาดลากหญิงสาวผู้ไม่ประสาตามไปซ่อนตัวในห้องนอนที่ใช้ทำงานด้วยเล่นเอาไอ้คนอยากรู้อยากเห็นตาเป็นกุ้งยิงเสียหลายวัน ความก๋ากั่นของสองเพื่อนซี้หาได้ธรรมดาไม่สุรีนั้นเป็นเพื่อนผิวสีน้ำผึ้ง...สมัยเด็กจินเยว่คนเดิมเคยมีปมเข้ากับเพื่อนไม่ได้ สังคมลูกหลานคนจีนก็แบบหนึ่ง สังคมลูกหลานคนไทยก็อย่างหนึ่ง...ด้วยความวัยเยาว์ สิ่งใดที่แตกต่างจากกลุ่มย่อมโดนล้อเป็นเรื่องธรรมดา แต่สุรีนั้นแตกต่าง...เจ้าหล่อนเป็นผู้หญิงตรงๆ ปากจัด ใจนักเลง คบคนด้วยนิสัยใจคอเป็นหลัก..ดังนั้นหญิงสาวทั้งสองจึงเข้าได้อย่างดีณ เวลาที่จ
หลังจากออกตรอกจันทร์กระจ่าง และเจรจากับเพื่อนรักโดยได้รับผลลัพธ์อันน่าพึงพอใจ ช่วงเย็นร่างเพรียวระหงจึงไปดูตึกอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งมีทำเลเยื้องจากฝั่งของตลาดออกมาหลายล็อตทำเลตรงนี้เธอก็ได้ข้อมูลมาจากลูกค้าในร้านน้ำชาที่มาคุยให้ฟังว่า เจ้าของต้องการขายด่วน เพราะอยากย้ายไปอยู่กับลูกชายที่อาศัยอยู่เขตใต้ ดังนั้นราคาไม่แพงนัก ตกราวๆ สี่หมื่นห้าพันบาท ด้วยความตั้งใจจะขายด่วน ขาเรียวยาวในชุดกางเกงสีดำย้ำเท้าจนมาถึงตรอกที่หมายตา...เดิมถนนสายนี้ อยู่บนถนนเส้นเดียวกันกับตลาดของชุมชน เพียงแต่อาคารฝั่งนี้ ส่วนใหญ่ยังเป็นเพียงแค่ตึกเพื่อการพักอาศัย..ยังไม่ได้มีคนมาเปิดหน้าร้านขายของจริงจัง มือเรียวขาวล้วงสมุดแผนที่..ที่เคยวาดไว้มาเปรียบเทียบ..ดวงตาคมคู่สวยหลุบลงเล็กน้อยโครงภาพที่เห็นทำให้หญิงสาวต่างภพพอจะนึกเปรียบเทียบพระนครในอนาคตได้ชัดเจนมากขึ้นถ้าเธอจำไม่ผิดถนนเส้นนี้ จะถูกเวนคืนในอีกเจ็ดสิบปีข้างหน้า..เพื่อทำสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน..ดังนั้นราคาในปัจจุบัน สี่หมื่นห้าพันบาทจึงเป็นราคาที่ถูกมากหน้าตึกหลังดังกล่าวเงียบสงบ มีเพียงกระถางเฟื่องฟ้าสีชมพูบานสะพรั่ง จินเยว่ตัดสินใจเคาะประตูเผื่อมีคนอาศัยอย
ผ่านไปสองเดือน...ช่วงสายของวันเสาร์หลี่ลี่ซือ...พี่ชายของสามีก็พึ่งฝากจดหมายมากับคนงานว่า...สิ่งของที่เจ้าหล่อนต้องการจะถูกจัดส่งมาในรอบเรือที่จะถึงนี้ เมื่อถึงเวลาเจ้าของร้านอาภรณ์งามได้พาสุรี เฟยเทียน ไปที่โกดังขนาดกลางเพื่อเก็บสินค้าและสิ่งที่หญิงสาวตกลงทำธุรกิจกับพี่สามี ก็คือการสั่งซื้อเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่กำลังได้รับความนิยม และนิตยสารแฟชั่นของต่างประเทศนั่นเองเดิมจินเยว่ก็นึกอยากเดินทางไปดูสินค้าของจริงสักรอบหนึ่ง แต่ยังคงหาเวลา และยังหาวิธีพูดกับคุณหมอหนุ่มไม่ได้ แถมช่วงหลังจากที่เราทั้งสองกลับมามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งแทบทุกคืนเธอสัมผัสได้ชัดเจนมากว่า..เขาช่างกระเซ้าเย้าแหย่ แถมทำตัวโรแมนติกขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดนึกครึ้มอย่างไรไม่รู้มีเขียนจดหมายคำกลอนบอกรัก แทบยังหากระถาง 'ดอกดาหลา' มาปลูกเต็มหลังบ้าน..จนอดนึกในใจไม่ได้ว่าคุณลุงยุคห้าศูนย์หวานกับเมียแบบนี้ทุกคนเลยมั้ยนะ??ดังนั้นความคิดจะไปต่างประเทศจึงถูกพักไว้ก่อน...เมื่อทำอะไรไม่ได้ก็คงได้แต่ต้องไว้ใจ และไว้วานพี่ชายสามีให้ช่วยเลือกสินค้าชั่วคราว ยังดีหลี่ลี่ซือเป็นผู้ชมชอบมโหรสพเป็นที่สุด เวลาออกเรือไปต่างประเทศก็มีสาวๆ สวยๆ
เมื่อได้สมใจหมาย...สามีตัวโตย่อมอารมณ์ดีเป็นที่สุด กลับกันภรรยาตัวเล็กกว่าแข้งขาถึงกับสั่น มือน้อยหยิบชุดนอนของตัวเองได้ก็รีบเปลี่ยนทันที ก่อนกระโจนขึ้นเตียงนอน นึกอยากสลบไสลไปเสียเดี๋ยวนั้น...ร้านอาหารเหลาที่ไหนก็ไม่นึกอยากไปนึกเจ็บใจตัวเองที่เห็นแก่ทองคำเพียงสามบาทจนต้องมาลำบากสังขาร..ตอนที่ทำก็สุขอยู่หรอก..แต่หลังกิจนี้ซิร่างกายร้าวระบมไปหมด"ไปหาอะไรกินก่อนนะ เฮียชักหิวแล้ว""ไม่ จินจินง่วง...เฮียหิวก็ไปกินเองคนเดียวเถอะ จินจินจะนอน!!"ร่างเพรียวระหงพูดพร้อมกับคว่ำหน้านอนบนเตียง..ดวงตาคู่สวยพริ้ม..สติกึ่งมี กึ่งไม่มี...ในขณะที่เตียงนอนอีกฝั่งยุบลงตามน้ำหนักตัวของคุณสามี นิ้วมือได้รูปสวย..ทำปูไต่ไล้ไปที่แขน ไล่ไปที่ไหปลาร้า ก่อนจะสัมผัสที่แก้มนุ่มๆ"อื่อ อย่าแกล้งจินจินซิ มันจั๊กกะจี๋""เหนื่อยเหรอ? งั้นเฮียให้หนูนอนพักสิบนาที แล้วเราไปหาอะไรกินกันนะ...นอนทั้งแบบนี้ เดี๋ยวคืนนี้จะหิวเอา"น้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใย มาพร้อมกับสัมผัสแผ่วเบาที่ท้องแขน...ชวนให้หลับสบาย..เสียงครางเล็กๆ พร้อมกับร่างเพรียวระหงพลิกตะแคงหน้ามาฝั่งเขา ชายหนุ่มอมยิ้มด้วยความเอ็นดู...เขาพบความลับของเธออีกหนึ่งข้อ...
ช่วงอาทิตย์นั้นจินเยว่พยายามเอาใจคุณสามีเป็นที่สุด ทั้งทำอาหารที่ชอบให้ทาน พักกลางวันถึงกับเอาข้าวไปส่งถึงที่ทำงาน เวลาไม่ได้เฝ้าร้านอาภรณ์งามยังนั่งปักถุงผ้าให้ เพราะเธอสังเกตเห็นว่าชายหนุ่มนิยมพกถุงสีเทาตุ่นๆ ติดตัวอยู่เสมอแน่ละ อะไรที่เป็นเขามักล้วนดูแก่ไปเสียหมด..แต่ก็น่าแปลกมันกับเข้ากันได้อย่างแปลกประหลาด แต่ 'เหอเปา' ที่เขาใช้ก็พาให้เธออดสงสัยไม่ได้ว่าผู้หญิงที่ไหนให้มา‘สมัยเด็กเฮียเป็นหวัดบ่อยอาม้าเลยทำให้ไว้ใส่พวกสมุนไพรนะ’‘งั้นถ้าจินจินทำให้ใหม่..เฮียซานจะใช้มั้ย’เมื่อได้รับคำตอบอันน่าพอใจ เธอจึงอ้อมแอ้มถาม..เห็นแก่ที่เขาเป็นเด็กดีพกของที่แม่ปักให้..เธอผู้เป็นเมียก็จะทำให้เช่นกัน ‘หืม’‘แต่บอกก่อนนะ..ถ้าไม่สวยเฮียห้ามบ่น!!’คนตัวเล็กรีบออกตัวก่อน เพราะพวกงานปักถักร้อย เธอเองก็พึ่งฝึกทำจากแม่ใหญ่เมื่อไม่นานนี้เอง‘จริงเหรอ เอาซิถ้าเธอทำให้ เฮียจะพกติดตัวตลอดเลย’‘อื่ม สัญญาละนะ’‘ครับ’ช่วงนี้คุณหมอหลี่ลี่ซานจึงอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ยิ่งแม่เสือน้อย..กลายเป็นลูกแมวน้อยสุดแสนจะขี้อ้อน..น่ารัก..ช่างเอาใจเป็นนักหนา ผู้ชายบ้านไหนจะไม่หลงกัน แต่แล้วเขาก็ได้รู้ความจริงว่าที่เจ้าหล่อ
ช่วงที่ภรรยาคนสวยไม่อยู่บ้าน...อารมณ์คุณหมอหนุ่มเต็มไปด้วยความขึ้งเคียด แต่ในขณะเดียวกันความตั้งใจที่จะลาพักร้อนยาวกลับแวบขึ้นมาในหัว ทั้งที่ชีวิตนี้แทบไม่เคยคิดเรื่องนี้เลย สาเหตุก็เพราะห่วงคนไข้ และอีกเช่นกัน ถ้ามองอีกมุมก็เป็นโอกาสอันดี...เมื่อเจ้าหล่อนไม่อยู่บ้าน เขาเองก็ตั้งใจจะโหมงานให้เต็มที่ ซึ่งหลี่ลี่ซานได้ทำการแลกเวรกับเพื่อน เผื่อรอบหน้าถ้าจินจินจะไปไหนเขาจะได้ลางานยาวไปอยู่เป็นเพื่อนเธอได้ โอกาสอันดีที่ว่าไม่ใช่แค่หลี่ลี่ซานที่ต้องทนคิดถึงเมีย และรีบเปลี่ยนเวรกับเพื่อน แต่เป็นโอกาสอันดีของเจียวเจียวด้วยเช่นกันเจ้าหล่อนเทียวไล้เทียวขื่อ ทั้งที่โรงพยาบาลทั้งที่บ้าน โดยอ้างว่าแม่ไม่สบายบ้าง ย่าไม่สบายบ้าง ทำเอาซุนเหยียนกับเฟยเทียนเริ่มกังวล..แต่พฤติกรรมคุณหมอหนุ่มก็ยังสุภาพเสมอต้นเสมอปลาย...อันใดควรปฏิเสธก็ปฏิเสธ อันใดควรช่วยเหลือก็ช่วยเหลือ..และส่วนใหญ่เป็นเรื่องปฏิเสธแทบทั้งหมด ทำเอาหญิงสาวผู้เป็นญาติภรรยาหงุดหงิดแทบกรี๊ด เพราะความสุภาพใจดี และการวางตัวของเขานี้เองแถมพอจะนัดทานข้าวเย็น ชายหนุ่มก็เพียงแต่ยิ้มรับ ก่อนจะอ้างถึงภรรยาคนสวยที่อีกไม่นานจะกลับมาว่า‘รอจินจินกล
จวบจนเวลาผ่านไปร่วมเดือนคนที่คิดถึงนักคิดถึงหนาก็กลับมา ก่อนกำหนดล่วงหน้าสองวันร่างเพรียวระหงอยู่ในเสื้อสูทตัดเข้าชุด กับกางเกงสีเดียวกัน ทั้งดูทันสมัย และทะมัดทะแมงผิดยุคที่ผู้หญิงนิยมสวมผ้าซิ่นกับกระโปรง ผมดำยาวสลวยถูกมัดเป็นหางม้าง่ายๆ เจ้าหล่อนเคยบอกเขาว่าไม่ชอบไว้ผมยาว...ร่ำๆ จะไปตัดหลายรอบ แต่สำหรับเขาแล้วผมของเธอทั้งนุ่มสลวย ทั้งหอมกรุ่น ถ้าเจ้าตัวจะตัดคงได้มีทะเลาะกับเขาเป็นแน่ก็ใครละเป็นคนเช็ดผม..หวีผม..ทำผมให้ทุกเช้าไม่ใช่สามีสุดหล่อคนนี้หรือไง?ดังนั้น...หน้าที่ดูแลผมจึงตกมาเป็นของเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้...จากคนถักผมเปียไม่เป็นก็ได้มาถักเปียเป็นก็หลังแต่งงานนี้แหละ!ที่ท่าเรือใหญ่ ประจำพระนคร ภรรยาตัวร้ายโบกมือโหยงเหยง พร้อมกับส่งยิ้มหวานมาให้ โดยมีเฟยเทียน กับเฮียเก๋งเดินตามหลังมาด้วย...ร่างสูงโปร่งก็รีบแทรกผู้คนเพื่อเดินไปรับทันที เมื่อมายืนตรงหน้า..มือใหญ่รีบหันไปแย่งถือกระเป๋าเดินทางใบโต ก่อนจะบุ้ยหน้าไปยังรถจิ๊บราคาหลักหมื่น และมันก็ทำให้หญิงสาวคนสวยตาโต"เฮียไปเอารถมาจากไหน""รถของบ้านพี่ใหญ่น่ะ เฮียกลัวของเธอเยอะแล้วจะขนกลับลำบาก"เขาอธิบายอารมณ์ดี หญิงสาวพยักหน้าหงึกห
ณ มหาวิทยาลัย J ชื่อดังระดับต้นๆ ของประเทศหลังตึกคณะบริหารธุรกิจ...หญิงสาวในชุดนักศึกษากำลังยืนรอชายหนุ่มทายาทของตระกูลดังอย่างใจจดใจจ่อ...ท่าทางกระสับกระส่ายพาลให้เพื่อนสาวที่มาด้วยสองคนหัวเราะคึกคัก "ยัยซีลีนเธอจะตื่นเต้นอะไรขนาดนั้นยะ ทำเหมือนไม่เคยอ่อยผู้ไปได้"เพื่อนที่มาด้วยกันแซวเมื่อเห็นดาวคณะนิเทศกระสับกระส่ายใบหน้าสวยเฉี่ยวตามสมัยนิยมถูกแต่งแต้มเป๊ะปัง จนหนุ่มๆ พากันเหลียวหลังมองด้วยความชื่นชม...นอกจากหน้าตาที่ดีเลิศ โปรไฟล์เจ้าหล่อนก็แสนจะไม่ธรรมดา..เพราะเป็นถึงลูกสาวบริษัทรับเหมารายใหญ่ระดับประเทศ คนที่มาจีบมีตั้งแต่ลูกเศรษฐีด้วยกัน ไปจนนักธุรกิจหนุ่มดาวรุ่ง...แต่ชายที่หญิงสาวตกหลุมรักดันเป็นชายหนุ่มสุดหล่อแสนเย็นชาของคณะบริหาร"คีรีมาทางนั้นแล้วยัยซีลีน"เพื่อนอีกคนรีบสะกิด เมื่อเห็นชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าราวกับหลุดมาจากนิยายจีน..ที่ตอนนี้มีสีหน้าเรียบเฉยติดจะเย็นชาเล็กน้อย..ยิ่งสายตาคมกริบที่กวาดมองยิ่งพาให้หัวใจไฮโซสาวหวั่นไหวร่างอวบอิ่มรีบเดินเข้าไปตรงหน้าตามแรงผลักของคนเป็นเพื่อน"สวัสดีคีรี"เสียงหวานเอ่ยถามขึ้น พร้อมช้อนดวงตากลมโตขึ้นมอง...ชายหนุ่มเพียงหรี่ต
ย้อนไปเมื่อสิบปีก่อนณ MMMO international schoolเด็กหนุ่มชั้นมัธยมปีศึกษาปีที่สี่ผู้มีฐานะเป็นหลานของเจ้าของโรงเรียนเอกชนอันดับหนึ่งของประเทศ..ซึ่งเวลานี้กำลังนั่งอารมณ์ไม่ดีอยู่บริเวณหน้าโถงประชุมของโรงเรียน ใบหน้าหล่อเหลาเริ่มบูดบึ้ง..นัยน์ตาคมกริบกวาดมองหมู่คนที่ผ่านไปผ่านมา..คล้ายกับกำลังใครสักคนอยู่...รุ่นพี่รุ่นน้องผู้หญิงเมื่อสบสายตาเข้าก็แทบเป็นลม..บรรยากาศเย็นชาน่าหลงใหลไม่ได้ทำให้ความนิยมในตัวเด็กหนุ่มน้อยลงเลยไม่ถ้าในโรงเรียนหรือมหาลัยวิทยาลัยมีเดือนคณะ นายคีรี สิริวงษ์ชัย ย่อมเหนือเมนขึ้นไปอีกขั้นแน่ละ ทั้งรูปร่างหน้าตา..รวมถึงฐานะวงศ์ตระกูลที่จัดอยู่ในหนึ่งกลุ่มลูกหลานผู้มีอิทธิพลระดับประเทศ...รวมถึงผลการเรียนอันดับหนึ่งของสายชั้น เมื่อขึ้นเวทีร้องเพลงเสียงก็เพราะเป็นหนักหนา..ต้องเรียกว่า hot ยิ่งกว่า hotดังนั้นตั้งแต่เกิดมาใครๆ ล้วนต่างประจบสอพลอ เชิดชูบูชา ถ้าจะมีคนหนึ่งที่ปฏิเสธมัน ก็คงไม่พ้นนางสาวดาริน กิตติวรชัยกุล เจ้าหล่อนอย่าว่าแต่ประจบเอาใจเขาเลย วันๆ มีแต่ไล่เขาไปให้พ้นๆ หน้าอีกทั้งวันนี้ยัยตัวร้ายยังหลอกให้เขามารอหน้าโถงประชุมใหญ่ได้ครึ่งค่อนชั่วโมง ทั้งๆ
รถสปอร์ตคันหรูยังวิ่งไปตามทางที่คุ้นเคย..เพียงแต่รอบนี้หญิงสาวสายซิ่งกับขับรถด้วยความไวที่ช้าลงกว่าปกติ หลังคารถเปิดประทุนถูกเปิดออก..สายลมยามดึกปะทะหน้าพาให้อารมณ์ดีไม่น้อย..ผมดำสลวยที่เริ่มยาวถูกมัดรวบง่ายๆ ไว้ด้านหลัง น่าแปลกปกติอดีตคู่หมั้นคนสวยจะตัดมันเสียสั้นกุด เพราะเจ้าหล่อนติดนิสัยขี้รำคาญจวบจนรถหรูจอดสนิทตรงลานจอดรถสะพานขึ้น p มันคือสถานที่...ที่หญิงสาวมาทุกครั้งเวลาไม่สบายใจ หรือเวลาที่เขารู้สึกแย่..เธอจะยืนอยู่บนข้างๆ หันมามองหน้าเขา พร้อมเอียงหัวรับฟังเล็กน้อย..แล้วก็ปล่อยเขาพูดไป..แม้จะไม่มีคำแนะนำดีๆ แต่แค่เธอยืนอยู่ตรงนั้น แค่รับฟัง..มันก็ทำให้เขามีความสุข เวลานี้ก็เช่นกัน..ร่างเพรียวระหงยังยืนอยู่ตรงนั้นเงียบ ๆ ดวงตาคู่สวยที่เขานึกรักเหม่อมองออกไปยังแม่น้ำสายใหญ่ประจำประเทศ ใบหน้าด้านข้างของเธอยังงดงามราวกับรูปสลัก..ริมฝีปากที่ถูกเคลือบด้วยสีแดงจัดเหมือนสีเสื้อผยอเล็กน้อย..ก่อนที่เธอจะตัดสินใจผินตากลับมามองเขา..เราต่างก็รู้ถึงนัยยะเดียวกัน..เขารู้ว่าเธอจดจำได้..และอะไรบางอย่างในดวงตาเขาก็บ่งบอกว่าเขาจดจำได้เช่นกัน“นายคีรี”“ว่ายังไงนางสาวดาริน”คำเรียกขานที่ชอบใช้แท
"หมายความว่ายังไงคะ!!!"คำตอบของคนเป็นพ่อ ส่งผลให้ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างด้วยความตกใจ...หัวใจดวงน้อยเต้นช้าลง..ความรู้สึกสูญเสียบางอย่างเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว"ป๊ะป๋าก็หมายความตามนั้น ป๊ะป๋าเป็นคนขอถอนหมั้นเอง""อ้าว ได้ยังไงคะ แล้วแบบนี้นายคีรีไม่เสียใจแย่เหรอ""ถ้านายคีรีจะเสียใจก็เป็นปัญหาของนายคีรีซิ เกี่ยวอะไรกับบ้านเราด้วยล่ะแค่วันนั้นขับรถพาอายไปลงเขา...ป๋าก็แทบจะฆ่ามันทิ้งแล้ว..ถอนหมั้นๆ ไปก็ดีแล้ว อีกอย่างหนูก็ไม่เคยชอบพันธะนี้อยู่แล้วนี่""ป๊ะป๋า!!! มันไม่ใช่ความผิดของนายคีรี วันนั้นมันเป็นอุบัติเหตุ..นายคีรีเขาปกป้องอายด้วยซ้ำ""ไม่รู้ ถอนหมั้นแล้วก็คือถอนหมั้น อย่าไปพูดถึงผู้ชายคนนั้นอีกเลย"คนเป็นพ่อผู้หวงลูกสาวรีบตัดจบอารมณ์ดี ก่อนจะหยิบมือถือมาไล่อ่านข่าว ไม่สังเกตสีหน้าซีดเซียวของคนเป็นลูกแม้แต่นิด'เผด็จการชะมัด..เผด็จการเหมือนใครกันนะ ก็เหมือนตัวเธอนะซิ!!'เมื่อออกจากโรงพยาบาลได้สองอาทิตย์คนป่วยเริ่มอาการดีขึ้น...อีกทั้งได้สรุปในใจอีกหลายอย่าง ดังนั้นไอ้คนที่ไม่ชอบออกงานเลี้ยงสังคมหรูหราก็กลับมาออก...เพื่อจะเห็นหน้าใครบางคนและยังสามารถใช้เหตุผลประมาณว่า 'บังเอิญเจอกัน เลยไ
เมื่อคนเป็นพี่กลับบ้านมาแล้วพบน้องชายทำหน้าเครียด ในมือของเขามีสมุดเบิกถอนสมุนไพร ส่งผลให้คนมีชนักติดหลังเสียววาบในใจ...ดวงตาคมกริบหรี่มอง พร้อมโยนสมุดในมือลงบนโต๊ะ"มีอะไรจะแก้ตัวมั้ย?""...""ทำไมเจ้ทำแบบนี้ เจ้ทำมันลงไปได้ยังไง""ลื้อมันบ้าอาซาน อีฮวงนั้งไม่สมควรให้กำเนิดลูกหลานตระกูลหลี่!!""คนที่ไม่สมควรเกิดมาเป็นลูกหลานตระกูลหลี่คือเจ้ต่างหาก ส่วนจินจินเธอดีเกินกว่าผู้หญิงหลงท่ก สันดานเลวอย่างเจ้มาก""อาซาน นี้ลื้อ นี้ลื้อด่าอั๊ว""เออ อั๊วด่าเจ้นี้แหละ เรื่องนี้มันไม่จบแน่ เจ้เตรียมใจไว้ได้เลย"คนเป็นน้องพูดพร้อมกับเก็บสมุดเบิกจ่ายสมุนไพรติดมือไปด้วย เล่นเอาพี่สาวเหงื่อตก แต่หล่อนรู้น้องชายนั้นแสนดีขี้ใจอ่อนมากแค่ไหน...อีกอย่างจินเยว่ก็เสียไปหลายปีแล้ว...ไหนเลยจะมาเอาผิดเธอได้แต่ไอ้คนใจดีมาตลอดชีวิต กับเลือกนำเรื่องไปฟ้องอาปามู่เฉิน กับอาม๊าด้วยรู้ว่าท่านทั้งสองเป็นคนยุติธรรม...เมื่อบุพการีรับรู้เรื่องทุกอย่างก็ถึงกับตกใจ...เพราะสิ่งที่ลูกสาวคนเดียวกระทำเป็นสิ่งที่เลวร้ายมาก มันไม่ต่างทำจากการทำร้ายสายเลือดครอบครัวตระกูลหลี่ดังนั้นตอนหลี่หนิงเกอเดินเข้าห้องทำงานของอาปามู่เฉิน
ระหว่างที่ชายหนุ่มลงมือทำความสะอาดหลุมศพของภรรยา...หลี่มู่เฉินที่เดาไว้แล้วว่าลูกชายจะมาที่นี้ ก็เดินเข้ามาหาทันที หลังจากที่ยัยหนูจินเยว่เสียไปได้สองเดือน..ลูกชายของเขามักมาทำความสะอาด เอาดอกไม้มาวาง “อาซาน”“อ้าว อาปา มาได้ยังไงครับ”เสียงแห้งถามกลับ พร้อมส่งรอยยิ้มเศร้าหมองไปให้..ใบหน้าภายใต้หมวกสานกันแดด แดงขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากอยู่ด้านนอกเป็นระยะเวลานาน“อื่ม อาปามีเรื่องจะคุยกับลื้อ”หลังจบคำผู้ชายสองวัยจึงเดินไปนั่งใต้ร่มไม้ที่อยู่ไม่ไกลจากหลุมฝังศพจินเยว่นัก“ลื้อแน่ใจแล้วรึ ที่จะลาออกจากโรงพยาบาล”“ครับ”“เห้อ อาซาน..ฟังอาปานะ จินจินอีตายไปแล้ว แต่ลื้อยังมีชีวิตอยู่”“อื่ม ผมรู้..ผมเองก็กำลังใช้ชีวิตอยู่นี้ไง”“แบบที่ลื้อทำอยู่ เขาไม่ได้เรียกว่าการใช้ชีวิตนะอาซาน”เสียงอาปาอ่อนล้า มือหนาหยาบตบหลังลูกชายเบาๆ เพื่อปลอบประโลม“อาปารู้ว่าลื้อรักจินจินมาก”“...”“ไม่งั้นอาปาคงไม่หมั้นหมายลื้อให้จินจินหรอก”“ทำไม...อาปารู้ละครับว่าผมรักจินจิน”น้ำเสียงลูกชายโตเริ่มพร่า..เพราะตัวเขาเองยังไม่รู้ตัวเลยว่ารักเธอตั้งแต่เมื่อไร“จำได้มั้ย ว่าปีหลังๆ มานี้ ลื้อชอบบ่นว่าน้อง..แต่พอกลับมาทีไ
ชาตินี้น้องตามพี่มา ชาติหน้าพี่ยาตามน้องไปความรู้สึกเจ็บปวดเกาะกินทั้งแก่นกระดูก ลามไปยังเนื้อหนังมังสาทุกส่วนก่อนสติสุดท้ายจบลง..ร่างเพรียวระหงสะดุ้งตกใจตื่น..น้ำตาหยดใสไหลลงจากหางตาทั้งสองข้าง..เสียงสะอื้นไห้เจ็บปวด..ก่อนดวงตาดำคู่สวยจะจับโฟกัสทุกอย่างได้..มือเรียวเล็กข้างซ้ายร้อนชื้น..คนที่กุมมือไว้ไม่ปล่อย...ไม่ใช่ใครที่ไหน คือนายคีรี ผู้ที่ทั้งชีวิตไม่เคยปล่อยมือเธอเลยสักครั้งในอดีตวันที่เธอตื่นฟื้นจากอุบัติเหตุครั้งแรก...ความรู้สึกเจ็บปวดไม่ต่างจากตอนนี้แม้แต่น้อย..แต่สิ่งที่ต่างมีเพียงแค่ว่า..เธอจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้...มีเพียงความรู้สึกเจ็บปวดเคียดแค้นที่เกาะกินจิตวิญญาณ.. เธอเกลียดผู้ชายคนนั้นจับใจแต่ครั้งนี้นั้นแตกต่าง..ดารินในวัยสิบสามขวบ ยังคงไร้เดียงสาในเรื่องความรัก กับนางสาวจินเยว่ในวัยยี่สิบผู้ถูกเลี้ยงดูมาอย่างปล่อยปละละเลย และยึดติด รวมถึงดารินหรือจินเยว่ในปัจจุบันที่ทะลุเข้าไปในอดีตเหตุการณ์เดียวกัน...แต่ความเข้าใจต่างกันในครั้งหนึ่งเธอเคยคิดแค่ว่า..ทุกสิ่งทุกอย่างเมื่อทุ่มเทไป ย่อมสมควรได้คืนกลับมา..มีแต่คำถามว่าทำไมเขาไม่เข้าใจ ทำไมเขาไม่ตามใจเธอ...เธอเป็นเม
ร่างเพรียวระหงซุกตัวกอดสามีตัวโตไว้แน่น..หลี่ลี่ซานเองก็เต็มไปด้วยความไม่สบายใจ..เลือกทางไหนก็ผิดทั้งนั้น..มือเรียวได้รูปปัดลูกผมที่ระหน้าด้วยความทะนุถนอม“จินจินแน่ใจนะคะ ที่ทำแบบนี้”“ค่ะ มันเป็นทางเลือกเดียวที่เรามี...ถ้าสมมติวันนี้เฮียซานไม่ไปช่วยเจ้เซียงเซียง.. ถ้าเกิดเจ่เจ้แกเป็นอะไรขึ้นมาจริงๆ เราคงเหมือนมีตราบาปไปตลอดชีวิต อีกอย่างจินจินมีเรื่องจะสารภาพค่ะ”ปลายเสียงเธอแผ่วเบา..ริมฝีปากรูปกระจับถูกกัด“สารภาพเรื่องอะไรครับ”“ผู้ชายคนนั้น...เจ้าน้อยแสนอะไรนั้น...จินจินเป็นคนแนะนำให้ไปจีบเจ่เจ้เซียงเซียงเองค่ะ”“…”“แต่จินจินไม่รู้หรอกนะคะ ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นพวกชอบทุบตีผู้หญิง”น้ำเสียงคนตัวเล็กติดประหม่า ดวงตาคู่สวยช้อนมองสำรวจนึกกลัวว่าเขาจะรังเกียจ..เพียงแต่แววตาใสกระจ่างที่มองมาเต็มไปด้วยความเข้าใจ“จินจินอย่าคิดมากเลยนะคะ เซียงเซียงเลือกของตัวเธอเอง ไม่เกี่ยวกับจินจินเลย”“แล้วเฮียไม่คิดว่าจินจินร้ายเหรอคะ”“อื่อ ร้ายแต่น่ารัก เฮียชอบ”เขาพึมพำตอบ ก่อนจมูกโด่งสวยจะฝังลงไปตรงซอกคอภรรยาตัวน้อยอย่างหลงใหล..ในชีวิตเขาล้วนต้องการเพียงเธอ...แค่เธอก็พอแล้วเช้าวันต่อมาคุณหมอหนุ่มจำต้
ตกเย็นวันนี้โชคดีที่เคลียงานได้เร็ว หญิงสาวจึงได้กลับบ้านก่อน เธอลงมือเข้าครัวทำอาหารเย็นเอง เมนูวันนี้เป็นอาหารไทยง่ายๆ อย่างต้มยำกุ้งน้ำข้น ผัดโป้ยเซียง และไก่กรอบชุบแป้งทอด โดยไม่คิดว่าจะมีแขกผู้ไม่ได้รับเชิญ บุกขึ้นมาถึงบ้าน...คุณนายเหวินผู้เป็นแม่สามี จูงลูกสาวคนเดียวเข้ามาด้วยท่าทางร้อนรน ด้านหลังเองมีเด็กในบ้านเดินตามมาด้วย“สวัสดีค่ะ ม๊า มาได้ยังไงคะ”“จินจิน อาซานกลับมาหรือยัง อั๊วมีเรื่องจะคุยกับอี”แม่สามีตั้งคำถามขึ้นมาแทน“น่าจะใกล้แล้วนะคะ ม๊านั่งรอก่อนนะคะ เดี๋ยวจินจินชงชามาให้”เจ้าของบ้านเชื้อเชิญ ก่อนจะหายเข้าไปในครัว ชงชารสโปรดให้ด้วยความใส่ใจ แต่พอออกมาต้องประหลาดใจ นอกจากแม่สามีที่นั่งรอ ยังมีซุนเหยียนแม่เลี้ยงที่นั่งงงๆ อยู่ด้านข้าง ซึ่งเวลานี้ส่วนใหญ่ม๊ามักจะดูแลอาบน้ำ ป้อนข้าวหลานอยู่ตึกด้านข้าง“อ้าว ม๊าใหญ่ มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ”“พอดีหนิงเกอไปตามม๊ามา..ม๊าก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามีเรื่องอะไร” คำตอบของคนเป็นแม่เลี้ยง คล้ายสัญญาณเตือนอะไรบางอย่างที่ ‘ผิดปกติ’ดวงตาคมคู่สวยหลุบลง ก่อนจะเลือกเก้าอี้ตัวข้างๆ แม่สามี..บุคลิกหลังตรง งามสง่า..บรรยากาศสงบนิ่งเป็นนักหนา