“ขออนุญาตนะคะ” พยาบาลที่ยืนรอตามคำสั่งของหมออิดอนได้เอ่ยขึ้นมา ทุกคนจึงหลบทางให้ แล้วเธอก็ค่อย ๆ ประคองให้เมอร์ลินกลับมานอนหงายเหมือนเดิม “ความรู้สึกตอนนี้เป็นยังไงบ้างคะ? เพราะดูแล้วฤทธิ์ยาชาน่าจะหมดแล้วน่ะค่ะ”“เหมือน อึก จะตายเลยครับ มันเจ็บมาก...” ตอบเสียงเบาก่อนเมอร์ลินจะควานหามือของสามีแล้วคว้
และโชคดีที่ของใช้เด็กได้เตรียมไว้แล้วเต็มชั้น การดูแลหลานสาวจึงผ่านพ้นไปด้วยดีเพียงแค่ลืมตาตื่นก็รับรู้ถึงความเจ็บปวดอีกครั้ง เมอร์ลินรู้สึกขอบคุณโจไซอาห์ที่นอนข้างกายไม่ไปไหน แถมยังยอมให้เขาหนุนแขนมาจนเช้าและยังรู้สึกขอบคุณแม่สามีทั้งสอง เพราะพวกท่านอยู่ด้วยเมอร์ลินจึงหายห่วง ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่ม
‘เล่นใหญ่เป็นบ้า...’ เมอร์ลินพึมพำในใจขณะนั่งบนวีลแชร์ที่ถูกเข็นโดยสามี ในอ้อมแขนของเขามีลูกสาวที่หลับสนิทพร้อมกับแบล็กการ์ดที่เหน็บไว้กับผ้าห่อตัว ส่วนร่มคันใหญ่ถูกกางโดยพี่ชายคนโตของสามี รามิเอล ด้วยเหตุผลว่าไม่อยากให้แดดส่องหลานสาว ทางเจฟรีย์ พอร์ช ฝาแฝดและเอมี่ ช่วยกันถือของใช้ต่าง ๆ ที่ต้องเอาก
การเลี้ยงเด็กทารกมันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากสำหรับผู้ชายสองคน ในช่วงที่เมอร์ลินกำลังพักฟื้นร่างกายรวมถึงดูแลแผลผ่าคลอด โจไซอาห์จะต้องเป็นคนรับบทหนักในการเลี้ยงลูกสาว หน้าที่นั้นถูกมารดาทั้งสองสอนสั่ง แม้ในช่วงสัปดาห์แรกจะเป็นไปอย่างยากลำบาก แต่พอสัปดาห์ที่สองของการเลี้ยงลูกสาว โจไซอาห์ทำได้ดีมาก เลี
แงงงงงงงงงงพลันเรเธเซียก็ร้องไห้เสียงสนั่นเล่นเอาเมอร์ลินและโจไซอาห์สะดุ้ง โจไซอาห์ผละออกจากภรรยาแล้วค่อย ๆ อุ้มลูกสาวขึ้นแนบอก ฝ่ามือหนาคอยลูบหลังลูกสาวอย่างปลอบประโลมก่อนมองหน้าเมอร์ลิน“รอลูกหลับ” เป็นอันตกลงว่าทันทีที่ลูกสาวหลับแล้ว คุณพ่อกับคุณแม่มือใหม่ก็จะขอใช้เวลาชดเชยในช่วงที่ขาดหายไป นี่ถ
เสียงจูบเริ่มคลอมาอย่างหยาบโลนพาให้ใจของทั้งคู่สั่นไหว ฝ่ามือหนาสอดเข้ามาในเสื้อภรรยาแล้วสัมผัสผิวกายที่แสนคิดถึง รสสัมผัสวาบหวิวจากฝ่ามือสามีทำเมอร์ลินวูบวาบทั่วทั้งตัว เสื้อที่สวมถูกถอดออกอย่างง่ายดายด้วยความร่วมมือจากเมอร์ลิน โจไซอาห์ไล้ฝ่ามือขึ้นมาสัมผัสกับยอดอกที่ชูชันแผ่วเบา เขากดคลึงและขยี้หน
“แล้วนี่มันเรื่องอะไรกัน?” โจไซอาห์เอ่ยถามขณะคอยกันเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่าง ๆ ออกห่างจากระยะมือเมอร์ลิน เมอร์ลินได้แต่มองตาขวางแล้วกินน้ำผลไม้แทนเบียร์ที่กระหาย ถึงเมอร์ลินไม่ต้องให้นมลูกแต่แผลข้างในก็ไม่มั่นใจว่าหายดีหรือยัง ดังนั้น อะไรก็ตามที่ โจไซอาห์คิดว่าเป็นอันตรายต่อร่างกายเมอร์ลิน เขาจะกัน
“ไม่เป็นไร เธอไปพักแล้วไม่ต้องคิดอะไรเยอะนัก ฉันไม่ได้โกรธหรือโทษว่าเป็นความผิดเธอ”“ขอบคุณค่ะคุณชาย” เคทค้อมศีรษะก่อนเดินออกมา โจไซอาห์มองแผ่นหลังของสาวใช้แล้วได้แต่คิดว่าเธอจะไม่โทษตัวเองจนกลายเป็นแบกรับความรู้สึกผิดไป มันเป็นเรื่องปกติที่เด็กวัยนี้จะงอแงจนเอาไม่อยู่ โจไซอาห์เดินมานั่งที่เตียงแล้ว
ฝ่ามือเรียวที่เหี่ยวย่นตามวัยวางกรอบรูปกรอบใหม่ลงบนโต๊ะที่อัดแน่นด้วยกรอบรูปมากมาย เศษกระดาษที่ถูกตัดถูกขยำรวบใส่ถังขยะ ก่อนจะยกถังขยะนั้นกลับไปไว้ที่ของมัน มารีแอนน์มองภาพเหล่านั้นด้วยรอยยิ้มก่อนจะหันหลังให้เมื่อมีเสียงเรียก ประตูบ้านถูกเปิดออกพร้อมแสงสว่างของช่วงสายสาดส่องเข้ามาด้านในกรอบรูปที่ติ
“พี่เมอร์ลิน เอ่อ ยินดีด้วยนะครับกับการแต่งงาน” อูรีเอลเอ่ยอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ“เออ ขอบใจ” และเมอร์ลินก็ขอบใจห้วน ๆ เพราะยังไม่ชอบหน้าอูรีเอลเหมือนเคย“ผมรู้ว่านายเกลียดผม แต่ช่วยรับของขวัญชิ้นนี้ได้หรือเปล่า?” อิการาชิพูดขึ้นมาก่อนวางกล่องบางอย่างที่มีขนาดเท่าฝ่ามือลง เมอร์ลินไม่ได้แสดงท่าทางรังเกีย
เมื่อได้เวลาอันสมควร เรเธเซียก็ถูกเมอร์ลินอุ้มพามาที่กลางสนาม จากซุ้มแต่งงานกลายเป็นโต๊ะที่มีเค้กช็อกโกแลตและลูกสตอเบอร์รี่วางเรียงเป็นชั้น ๆ บนเค้กมีเทียนเลขสามปักอยู่พร้อมตัวอักษร HBD.SIASIA เขียนอยู่ ผู้คนมากมายที่รายล้อมล้วนเป็นคนที่รักหนูน้อยเรเธเซียคนนี้ แต่เสียใจด้วยที่ในสายตาของเรเธเซียมีแต่
“แต่เรเธเซียคงยังไม่รู้สินะว่าตัวเองจะเป็นพี่สาวแล้ว” พอพูดแล้วก็หันมองเจ้าหญิงน้อยที่สนใจแต่เล่นกับคุณลุงมาเวอริค เมอร์ลินยิ้มบางก่อนสายตาจะสะดุดกับใบหน้าที่ดูซีดเล็กน้อยของอิการาชิ ตามจริงไม่จำเป็นต้องใส่ใจ แต่เขาก็ไม่อยากให้ใครมาตายในที่ของเขา เมอร์ลินจึงขอตัวแล้วเดินเข้ามาหาพี่ชาย“จะตายเหรอ? ถ้
‘ถ้าเซียเซียเห็นดาดี๊กับมามี๊จุ๊บ ๆ กัน เซียเซียต้องปิดตาแบบนี้นะคะ’ทั้งบอกและทำให้ดูเป็นตัวอย่าง การอบรมของคุณอาฝาแฝดก็เลยประสบความสำเร็จ ยกเว้นโอนิกซ์ที่ยืนจ้องตาแป๋ว ซึ่งแน่นอนว่ารามิเอลกับอิดอนได้แต่กำหมัดอยากซัดหน้าโจไซอาห์เหลือเกินช่วงเวลานี้นับเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขรองลงมาจากตอนเห็นหน้าลู
โจไซอาห์ทำให้พี่ชายอย่างมาเวอริครู้สึกอุ่นใจที่จะฝากน้องชาย แม้ความเป็นจริงเขาจะไม่มีสิทธิ์เข้ายุ่งเพราะทั้งคู่เคยแต่งงานกันแล้ว แต่พอได้รับหน้าที่พี่ชายจากเมอร์ลิน ความหวงน้องมันก็ทำงานเกินหน้าตาทันที“พ่อได้ยินและได้รับรู้ถึงความรักที่ลูกมีต่อภรรยา ขอให้พระเจ้าทรงมอบพรแด่ลูก” บาทหลวงกล่าวขึ้นพร้อม
เมอร์ลินอยากจะจับมาฟัดให้รู้แล้วรู้รอดเพราะความน่ารักของลูกสาวและอยากขอบคุณฝาแฝด เพราะฝาแฝดเลยนะ เรเธเซียถึงได้น่ารักน่าชังและสวยสมเป็นเจ้าหญิงน้อย ส่วนมงกุฎดอกไม้นี้สองสาวก็คงร่วมแรงด้วยแต่น่าจะให้เรเธเซียได้มีส่วนทำมากกว่า คนที่บอกให้เอามาให้ก็คงเป็นสองคนนั้นอีก ซึ่งความเป็นจริงก็ตรงตามที่เมอร์ลิน
“อะไรล่ะ ว่ามาเลย พี่ให้เราได้ทุกอย่าง” มาเวอริคยกมือจับไหล่น้องชายแล้วบีบเบา ๆ หวังให้เมอร์ลินได้ใจเย็นลง“มันไม่มีโอกาสพูดแล้วนอกจากวันนี้เท่านั้น ผมเลยจะขอทำตัวเป็นน้องชายขี้แยครั้งแรกและครั้งสุดท้ายนะครับ” สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนยกมือทาบทับลงบนหลังมือพี่ชายที่บีบไหล่ตน “ตั้งแต่เกิดจนออกจากตระกู
เมื่อครอบครัวทางฝ่ายเจ้าสาวมาครบ ต่อไปก็เป็นครอบครัวทางฝ่ายเจ้าบ่าว รถเบนซ์วิ่งยาวมาเป็นขบวน คันแรกที่จอดเป็นของผู้นำตระกูลและภรรยาฝาแฝดที่ขนาบข้าง ตามด้วยลูกชายคนโต คนรอง คนกลางและลูกสาวฝาแฝด เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าครอบครัวนี้ไม่จำเป็นต้องบรรยายความหรูหราและความดูดีใด ๆ หากไม่นับเรื่องความดีของพ