หลังจากมื้อค่ำจบลง ทั้งสองแยกย้ายกันไปพักผ่อน โรสนอนอยู่บนเตียง มองเพดานห้องที่สลัวด้วยแสงไฟจากโคมข้างเตียง ในหัวเธอเต็มไปด้วยความคิดวกวน ลูคัสแปลกไปจริงๆหรือเป็นเธอเองที่คิดมากเกินไปกันแน่? เขายังเป็นผู้ชายที่อบอุ่นและใส่ใจเธอ แต่ก็เหมือนมีบางสิ่งในตัวเขาที่ทำให้เธอรู้สึกไม่มั่นคง เธอพลิกตัวอีกครั้ง พยายามจะบอกตัวเองให้หยุดคิด แต่ความสงสัยยังคงเกาะกุมจิตใจวันต่อมาโรสรู้สึกเหนื่อยล้าหนักกว่าปกติ แม้งานวันนี้จะไม่ได้วุ่นวายนัก แต่ความคิดที่วนเวียนในหัวกลับทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกกดทับทั้งวัน บรรยากาศที่ยังคงอึดอัดระหว่างเธอกับลูคัสในช่วงหลังทำให้เธอแทบไม่มีสมาธิทำอะไรได้เต็มที่ระหว่างนั่งรถกลับบ้าน โรสทอดสายตามองออกไปนอกหน้าต่าง แสงไฟจากถนนทอดผ่านใบหน้าที่ดูหม่นหมอง เธอพยายามไล่ความคิดด้านลบออกไป แต่คำพูดของเอเดนในวันนั้นยังคงวนกลับมาเหมือนเสียงสะท้อนในหัว‘อย่าไว้ใจลูคัสมากเกินไป’เธอไม่อยากคิดอะไรมากเกินไป แต่บางอย่างในท่าทีและพฤติกรรมของลูคัสช่วงนี้ก็กำลังผลักดันให้เธอเริ่มตั้งคำถามเมื่อถึงบ้าน ความเงียบที่ต้อนรับเธอยิ่งทำให้รู้สึกหม่นหมอง ลูคัสติดงานถ่ายแบบและบอกเธอไว้แล้วว่าจะกล
“ผมว่าคุณควรพักผ่อนนะครับ” ลูคัสพูดขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มที่ค่อยๆปรากฏบนใบหน้าราวกับไม่มีอะไรผิดปกติ“อืม... ฉันคิดว่าจะอาบน้ำแล้วนอนเลยน่ะ” โรสตอบรับด้วยน้ำเสียงปกติที่สุดเท่าที่ทำได้ ก่อนจะขยับตัวเล็กน้อยเพื่อให้ลูคัสยกศีรษะออกจากไหล่ของเธอเขาละตัวออกอย่างเชื่องช้า แต่ยังคงมองเธออยู่ ลูคัสไม่พูดอะไรต่อ แต่สายตาที่มองตามเธอไปนั้นทำให้บรรยากาศดูน่าอึดอัด โรสเดินเข้าห้องนอนโดยพยายามไม่หันกลับไปมองเขา หัวใจเธอยังคงเต้นแรงและในหัวเต็มไปด้วยคำถาม‘เขารู้หรือเปล่า?’โรสปิดประตูห้อง เสียงฝีเท้าของลูคัสที่เดินไปทางห้องเขาทำให้เธอขนลุกวาบ แม้จะไม่ได้หันไปมอง แต่เธอรู้ดีว่าเขากำลังกลับเข้าไปในห้องนั้น…ผ่านมาเพียงไม่กี่วันหลังจากที่โรสพบรูปถ่ายเก่าของตัวเองในห้องของลูคัส ทุกอย่างรอบตัวกลับเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะความรู้สึกในใจของเธอ สายตาที่เขาเคยมองเธอด้วยความอบอุ่นที่เคยทำให้เธอใจสั่นด้วยความรัก กลับแฝงไปด้วยอะไรบางอย่างที่เธอไม่อาจอธิบายได้ มันไม่ใช่สายตาแบบเดิมที่ทำให้เธอรู้สึกปลอดภัย แต่กลับกลายเป็นสิ่งที่ทำให้หัวใจเธอสั่นระรัวด้วยความกังวลโรสพยายามบอกตัวเองว่าทุกอย่างอาจจะเป็นแค่
นี่เธอปล่อยให้เรื่องราวมันผ่านมาขนาดนี้ได้ยังไงกันหลังจากนั้นโรสกลับมาที่พักที่เต็มไปด้วยความรู้สึกอึดอัด เป็นครั้งแรกที่เธอไม่อยากจะเข้าไปที่นั่นทั้งๆที่มันเป็นบ้านของเธอเอง ความเหนื่อยล้าและความวุ่นวายในใจทำให้เธอต้องถอนหายใจออกมา กลิ่นหอมของเทียนหอมที่ลอยอวลในห้องบ่งบอกว่ามีใครบางคนอยู่ข้างใน และเธอก็รู้ดีว่าเป็นใคร ลูคัสนั่งอยู่บนโซฟา กำลังอ่านหนังสือเล่มโปรดอยู่ เขาเงยหน้าขึ้นมามองเธอทันทีที่ได้ยินเสียงประตูปิด "กลับมาแล้วเหรอครับ?" เขาถามเสียงนุ่มพร้อมรอยยิ้มอบอุ่นเช่นเคยโรสฝืนยิ้มกลับให้เขา “อืม วันนี้งานยุ่งนิดหน่อย” เธอพูดเรียบๆพลางถอดรองเท้าและวางกระเป๋าลงบนโต๊ะ“ผมเตรียมอาหารเย็นไว้แล้วนะ ถ้าหิวก็ทานได้เลยครับ” เขาเอ่ยขึ้นเหมือนกับทุกวัน แต่วันนี้โรสรู้สึกถึงบางอย่างที่ต่างออกไป สายตาของเขาที่จับจ้องมาที่เธอนานเกินไปจนเธอรู้สึกแปลกๆ"เดี๋ยวฉันขอไปกินน้ำก่อนนะ" โรสพูดพร้อมเดินเลี่ยงไปที่ครัว ด้วยใจที่เต้นระรัว เธอพยายามบอกตัวเองให้ใจเย็น แต่ความคิดเกี่ยวกับรูปถ่ายใบนั้นยังคงวนเวียนอยู่ในหัวโรสเปิดประตูตู้เย็นและหยิบน้ำออกมา เทใส่แก้วอย่างเงียบๆ แต่เสียงฝีเท้าที่ดังขึ้นด
ลูกบิดหมุนดังแกร๊กเกิดเป็นเสียงเล็กๆที่ดังในความเงียบ เหมือนจะกระตุ้นความหวาดระแวงในหัวใจของเธอ โรสดึงประตูเปิดออกอย่างช้าๆเมื่อเธอก้าวเข้าไปในห้องของเขาอย่างช้าๆ จากการสำรวจอย่างคร่าวๆ เธอพบว่าภายในห้องพักของลูคัสกลับดูเรียบง่ายกว่าที่เธอคาดไว้ เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ สีขาวและเทาของผนังห้องให้ความรู้สึกเย็นชา แต่ก็ไม่ถึงกับน่ากลัว ทุกอย่างดูสะอาดสะอ้าน เป็นห้องพักที่ธรรมดาเสียจนเธออดรู้สึกผิดต่อลูคัสไม่ได้ที่ไม่ไว้ใจเขาเธอเดินสำรวจอย่างระมัดระวัง ความเงียบรอบตัวทำให้เสียงฝีเท้าของเธอดังชัดเจน สายตากวาดมองไปรอบๆ พยายามมองหาอะไรสักอย่างที่อาจอธิบายเกี่ยวกับเรื่องรูปถ่ายรูปนั้นได้ แต่เธอกลับพบเพียงความว่างเปล่า โต๊ะ ตู้ ทุกอย่างดูเรียบง่าย เกินกว่าจะซ่อนอะไรไว้ได้หรือว่าฉันคิดมากไปเอง? เธอคิดในใจ ก่อนจะถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกที่มาพร้อมกับความรู้สึกสับสนปะปนกันจนยากจะอธิบายแต่แล้วสายตาของเธอก็สะดุดกับบางสิ่ง แสงไฟที่ลอดออกมาจากช่องประตูเล็กๆ ของห้องอีกห้องหนึ่งในสุดทางเดินโรสชะงักหยุดนิ่ง ความรู้สึกโล่งใจเมื่อครู่ถูกแทนที่ด้วยความกลัวอีกครั้ง หัวใจเธอเต้นแร
"นี่มันอะไรกัน..." เสียงของโรสเบาหวิว ราวกับหลุดออกมาจากร่างที่แทบจะหมดสติเธอหยิบเอกสารขึ้นมาอย่างระมัดระวัง ลายมือชื่อของลูคัสปรากฏชัดเจนที่มุมล่าง ความจริงเริ่มกระจ่างเมื่อเธอไล่อ่านรายละเอียดที่ระบุการจ่ายเงินเพื่อจ้างผู้หญิงคนนั้นให้เข้ามาใกล้ชิดสามีของเธอ ทุกตัวอักษรราวกับตอกย้ำในสมองว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นจากการวางแผน... การวางแผนของคนที่เธอคิดว่าเขาจริงใจกับเธอโรสรู้สึกเหมือนจะทรงตัวไม่ไหวอีกต่อไป ภาพทุกอย่างที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้พุ่งเข้ามาในหัว เธอเริ่มประกอบชิ้นส่วนปริศนาที่เคยสงสัยเข้าด้วยกัน เหตุการณ์ที่ดูเหมือนไม่มีความเกี่ยวข้องกันกลับเชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายอันซับซ้อน ลูคัส...เขาไม่ได้เข้ามาในชีวิตเธอโดยบังเอิญ เขาวางแผนทุกอย่างไว้แล้วน้ำตาของเธอไหลออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า ทำไม...ทำไมเธอต้องมาเจอกับเรื่องที่โหดร้ายแบบนี้ เธอโดนทำร้ายจากคนที่เธอไว้ใจถึงสองครั้ง มันเป็นตลกร้ายอะไรกันความโกรธ ความเจ็บปวด และความรู้สึกที่โดนทรยศผสมปนเปกันจนยากจะแยกแยะ เธอแทบจะสติแตก หัวใจของเธอรู้สึกเหมือนถูกฉีกออกเป็นเสี่ยงๆ ตัวของเธอสั่นเทิ้มจนห้ามไม่ได้ เธอเอามือกุมศีรษะ พยายามรวบรวมสต
“แต่เธอไม่มีสิทธิ์ทำแบบนั้น!” โรสเริ่มตะโกนออกมา น้ำไหลรินอีกครั้ง “มันไม่ใช่เรื่องของเธอ เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้ามายุ่งกับชีวิตของฉัน!”ลูคัสยิ้มอย่างอ่อนโยนให้เธอ แต่ดวงตาเต็มไปด้วยความหม่นหมอง “มันเป็นเรื่องของผมเสมอ คุณรู้ไหมว่าผมต้องทนมองคุณอยู่กับคนแบบนั้นมานานแค่ไหน เขาไม่สมควรมีคุณ โรส คุณคู่ควรกับคนที่เห็นค่าคุณ... คนที่รักคุณจริงๆ”“และคนที่รักฉันจริงๆ ก็คือเธออย่างนั้นเหรอ?” โรสพูดเสียงเยาะ ตอนนี้หัวใจของเธอเต้นแรงไปด้วยความโกรธ“ใช่” ลูคัสตอบอย่างมั่นใจ ราวกับคำตอบนั้นไม่มีอะไรต้องสงสัย “ผมทำทุกอย่างเพื่อคุณ คุณเจ็บปวด ผมเจ็บปวด คุณสูญเสีย ผมก็สูญเสีย ผมแค่อยากให้คุณเป็นของผม... ของผมคนเดียว...”คำพูดสุดท้ายของเขาทำให้โรสรู้สึกเหมือนอากาศในห้องถูกดูดหายไปจนหมด เธอไม่เคยเห็นด้านนี้ของเขามาก่อน ด้านที่เต็มไปด้วยความหลงใหลที่ไม่อาจหยุดยั้ง ด้านที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ... แม้จะต้องทำลายทุกอย่างเพื่อแลกมันมาก็ตามโรสมองเขาอย่างไม่เชื่อสายตา ความบ้าคลั่งที่แฝงอยู่ในแววตาของลูคัสทำให้เธอรู้สึกเหมือนหัวใจจะหยุดเต้น เธอสะบัดตัวสุดแรงหวังจะหลุดจากอ้อมแขนนั้น แต
แต่ลูคัสไม่หยุด การกระทำของเขาก้าวร้าวและดุดันขึ้นทุกขณะ เสื้อผ้าที่ปกปิดร่างกายของเธอถูกกระชากออกทีละชิ้น ขณะที่เธอยังคงดิ้นรนด้วยเรี่ยวแรงที่ลดน้อยลงเรื่อยๆ หัวใจของเธอเต้นระส่ำด้วยความตื่นตระหนกและอับอายเมื่อเสื้อผ้าถูกดึงออกไปจนหมด โรสหยุดดิ้นรนและทิ้งร่างกายลงราวกับหมดสิ้นแรงต่อสู้ และสิ้นหวังจนไม่อาจคิดหาหนทางหนีจากสถานการณ์ตรงหน้า ดวงตาของเธอว่างเปล่า ไม่มีแววโกรธเกรี้ยวหรือความหวาดกลัวหลงเหลืออยู่เธอหลับตาลง น้ำตาที่เคยหลั่งไหลเหือดหายไปพร้อมกับความหวังสุดท้ายที่ถูกกลืนกิน ความเหนื่อยล้าทั้งกายและใจตรึงเธอให้จมอยู่ในความเฉยชา ลูคัสที่ตอนพยายามจะทำให้ตัวเองแข็งตัวเพื่อที่จะได้เข้าไปในร่างกายของเธอ แต่มันไม่เป็นอย่างใจคิด ร่างกายของเขาไม่ยอมทำตามคำสั่งจ เขาขมวดคิ้ว ความหงุดหงิดเริ่มก่อตัวขึ้นในใจ ร่างกายของเขาไม่ตอบสนองตามที่เขาต้องการ อารมณ์ที่พลุ่งพล่านกลับถูกหยุดไว้ด้วยภาพของโรสที่นิ่งเงียบและว่างเปล่าราวกับไม่มีวิญญาณอยู่ในนั้น"ทำไม..." ลูคัสพูดกับตัวเองและพยายามอีกครั้งแต่ความล้มเหลวเดิมยังคงเกิดขึ้น สายตาของเขากวาดมองไปยังโรส ร่างกายที่เคยเปล่งประกายชีวิตชีวาบัดนี้กลับ
เสียงของเอเดนเปลี่ยนเป็นจริงจังทันที แววความห่วงใยเจืออยู่ในทุกคำพูด“คุณอยู่ที่ไหน? เดี๋ยวผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้” เอเดนไม่ได้ถามรายละเอียดอะไร แต่เขารู้ว่าเธอต้องได้รับความช่วยเหลือแบบเร่งด่วนน้ำตาของโรสไหลไม่หยุด ร่างกายอ่อนแรงจนเธอแทบยืนไม่ไหว เธอพยายามตอบออกมาอย่างลำบาก “ฉันอยู่แถวๆคอนโดของลูคัส...”“โอเค ใจเย็นๆนะครับโรส” เสียงเขาฟังดูมั่นคงขึ้นราวกับพยายามปลอบโยนเธอ “ไปอยู่ที่ที่มีคนเยอะๆ ที่ปลอดภัย ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้เลย โอเคไหม?”โรสพยักหน้าตอบรับช้าๆแม้เขาจะมองไม่เห็นก็ตาม เธอตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่อ่อนแรง “ฉันจะไปรอที่ร้านสะดวกซื้อใกล้ๆนี้...”“ดีมาก ผมจะไปเดี๋ยวนี้เลย รอผมก่อนนะ” เอเดนย้ำเสียงหนักแน่นก่อนจะวางสายไปโรสเดินมาถึงร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งใกล้ๆ เมื่อเธอออกมาจากคอนโดของลูคัสก็ดูเหมือนว่าจะเป็นช่วงเวลาเย็นแล้ว เธอไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าใช้เวลาอยู่ในนั้นนานขนาดนี้ แสงไฟสีขาวจากป้ายหน้าร้านสาดส่องลงมา ล้อมรอบเธอด้วยความสว่างไสวที่ให้ความรู้สึกปลอดภัยเพียงน้อยนิด โรสยืนอยู่ใต้แสงไฟสลัวของร้านสะดวกซื้อ ผู้คนเดินผ่านไปมาในอย่างบางตา เธอพยายามกลั้นน้ำตาที่ไหลไม่หยุด มือทั้งสองกำโ
โรสยังคงขยับสะโพกรับการกระแทกของเขาอย่างไม่ยอมให้เขาหยุด เธอรู้สึกถึงความเสียวซ่านที่ทวีคูณขึ้นทุกครั้งที่เขากระแทกเข้าไป“อ๊า... ลูคัส... ไม่ไหวแล้ว... ฉันจะเสร็จแล้ว!” โรสบอกเสียงกระเส่า ขาของเธอสั่นระริก มือของเธอยังบีบยอดอกของตัวเองเพื่อระบายความเสียวซ่านไปพร้อมๆกับสะโพกที่ขยับรับการกระแทกจากเขาลูคัสมองดูร่างของเธอด้วยสายตาที่มืดลง พยายามเก็บอารมณ์ของตัวเองไว้จนแทบจะทนไม่ไหว “คุณไม่ไหวแล้วใช่ไหม?” เขาพูดเสียงต่ำ ขยับสะโพกเข้าไปลึกและแรงขึ้น “ผมไม่อยากหยุดเลย โรส...”แต่เขารู้ดีว่าโรสต้องการอะไร และเขาก็รู้ว่าต้องการทำให้เธอถึงจุดสูงสุดก่อนถึงเวลาของเขา เขาหลับตาลงก่อนจะกระแทกอีกครั้งด้วยความแรงที่เพิ่มขึ้น “ปล่อยออกมาเลยครับ เสร็จออกมาเลย”ทันใดนั้นโรสก็ปล่อยเสียงครางออกมาในลำคออย่างไม่อาจควบคุมได้ ร่างกายของเธอกระตุกไปตามจังหวะที่เขากระแทกเข้าออก ความเสียวที่พุ่งเข้ามาทำให้เธอหลุดเสียงร้อง "อ๊า... ลูคัส... ฉัน... ฉันเสร็จแล้ว!" ร่างของเธอสั่นระริก ขาเกร็งจนเกือบจะล้มแต่ยังคงยืนอยู่ได้เพราะลูคัสยังคอยจับเธอไว้แน่นลูคัสกระแทกเข้าไปอีกครั้ง เขาครางเสียงแหบพร่า ในที่สุดเขาก็ปลดปล่อ
หลังจากกิจกรรมอันเร่าร้อนหลังโขดหินนั้นจบลง ลูคัสพาเธอกลับมาที่ห้องเพื่อทำความสะอาดและพักผ่อนเมื่อถึงห้องพัก ลูคัสกุมมือโรสแน่น รู้ดีว่าไม่มีสิ่งใดสามารถกั้นเขาไม่ให้เข้าใกล้เธอได้อีกแล้ว เมื่อประตูปิดลง เขาจูงเธอตรงไปยังห้องน้ำ เสียงน้ำอุ่นที่กระทบพื้นดังแว่วเป็นจังหวะ แต่สิ่งที่ก้องอยู่ในใจเขาเป็นเพียงเสียงหายใจของเธอ ที่แผ่วเบาแต่สะกดเขาไว้จนไม่อาจหันเหสายตาไปทางอื่นได้ในแสงสลัวจากไฟในห้องน้ำ ลูคัสมองโรสอย่างที่เขาทำไม่ได้ในที่แจ้ง ร่างกายที่ยังมีละอองน้ำทะเลเคลือบผิวดูเย้ายวนจนเขาต้องเผลอกลืนน้ำลายอย่างลืมตัว มือหนาเอื้อมไปปลดปมบิกินี่ของเธอออกอย่างแผ่วเบา ดวงตาของเขาจ้องมองเธออย่างไม่ปิดบังความรู้สึก“คุณสวย...จนผมไม่อยากละสายตาเลย” ลูคัสเอ่ยเสียงพร่า เขาโน้มตัวเข้าใกล้ ปลายจมูกแตะหน้าผากเธอเบาๆ ก่อนจะเลื่อนลงมาที่แก้ม โรสหลับตา ปล่อยให้เขาละเลียดจูบที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน“พอเถอะลูคัส...” โรสพูดเสียงกระเส่า แต่มือของเธอกลับเผลอเกาะต้นแขนเขาแน่นลูคัสยิ้มมุมปาก เขารู้ดีว่าเธอกำลังสู้กับตัวเอง “คุณพูดให้ผมหยุด...แต่ร่างกายคุณบอกให้ผมไปต่อ คุณจะเอายังไงดีครับ คุณโรส” น้ำเสียงแฝง
อีกภาพที่เขาจับได้คือตอนที่เธอก้มลงเก็บลิปสติกที่ตกอยู่บนพื้น ผมของเธอปรกลงมาบังใบหน้า เธอปัดมันไปด้านหลังอย่างไม่ใส่ใจ ท่าทางธรรมดานั้นกลับดูดึงดูดจนเขารู้สึกว่ามือที่จับกล้องสั่นเล็กน้อย แล้วก็มีภาพหนึ่ง เป็นช่วงที่โรสหัวเราะพร้อมกับเพื่อนร่วมงาน แสงสะท้อนจากรอยยิ้มของเธอดูอบอุ่นจนทำให้ห้องทั้งห้องดูมีชีวิตชีวาขึ้น ลูคัสมองผ่านเลนส์ เขารู้สึกเหมือนเธอเป็นภาพถ่ายที่ยังไม่ได้ใส่กรอบ เป็นชั่วขณะที่เขาอยากหยุดเวลาไว้ตรงนั้นลูคัสรู้ดีว่าการกระทำแบบนี้อาจจะไม่ถูกต้อง แต่เขาก็ไม่อาจห้ามตัวเองได้ ทุกครั้งที่เธอเคลื่อนไหว กล้องในมือก็เหมือนเป็นเพียงทางเดียวที่เขาจะยึดโยงเธอไว้ได้ในโลกของเขาเองเขาเริ่มสะสมภาพของเธอไว้ในแฟ้มส่วนตัวอย่างเงียบๆแต่ความอยากรู้อยากเห็นไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น เมื่อเขารู้ว่าโรสทำงานที่ไหน และพักอาศัยอยู่ที่ใด ลูคัสก็เริ่มสะกดรอยตามเธอในวันหยุดที่เขาควรจะพักผ่อน ลูคัสกลับขับรถไปจอดอยู่ใกล้คาเฟ่ที่โรสชอบแวะไป เขานั่งอยู่ในมุมร้านที่เธอไม่สังเกตเห็น มองดูเธอจิบกาแฟและอ่านหนังสือ บางครั้ง เขาเดินตามเธอไปในห้างสรรพสินค้า จับภาพเธอผ่านหน้าจอโทรศัพท์ขณะเธอเลือกซื้อของใช้เ
บ้านหลังเล็กในเขตชานเมืองยามค่ำคืน เงาของแสงไฟจากหลอดไฟเก่าๆกระพริบอยู่เหมือนมันกำลังจะดับ ลูคัสในวัยเด็กนั่งตัวสั่นอยู่ในมุมมืดของห้องเก็บของเล็กๆ ซึ่งเป็นที่เดียวที่เขารู้สึกปลอดภัย ตุ๊กตาเก่าๆที่มีรอยเย็บซ่อมเต็มตัวอยู่ในอ้อมแขนเล็กๆของเขาราวกับมันเป็นสิ่งเดียวที่ปกป้องเขาได้ เสียงทะเลาะวิวาทดังระงมมาจากห้องนั่งเล่น เป็นเสียงของผู้ชายตะคอกด่าทอผสมกับเสียงผู้หญิงที่พยายามห้ามปรามแล้วเสียงขวดแก้วก็แตกกระจายดังสนั่น เศษแก้วปลิวกระจายไปทั่วพื้น ทำให้ลูคัสสะดุ้งเฮือก น้ำตาที่พยายามกลั้นไว้ก็ไหลรินออกมา เขากดหน้าซุกกับตุ๊กตาและเอามือน้อยๆปิดหูทั้งสองข้างของตัวเองเอาไว้ เพื่อปิดกั้นเสียงเอาไว้ แต่เสียงที่น่าสะพรึงนั้นยังดังอยู่ เสียงแห่งความเจ็บปวด เสียงแห่งความโกรธที่ดูเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุด"ลูคัส!" เสียงกระซิบดังขึ้นเบาๆ ก่อนที่พี่สาวของเขาจะปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตู เธอพุ่งเข้ามาในห้องพร้อมกับปิดประตูอย่างรวดเร็วก่อนจะกอดเขาไว้แน่น ร่างกายของเธอสั่นระริกไม่ต่างจากเขา "ไม่ต้องกลัว พี่จะปกป้องเธอเอง"ลูคัสเงยหน้าขึ้นมองพี่สาว ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความความอ่อนโยน เธอพยายามจะปลอบเขาทั้ง
โรสถอยเท้าหนี ความรู้สึกสงสารและโกรธแค้นประดังเข้ามาในใจ เธอยกมือขึ้นปาดน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้ เธอพยายามพูดด้วยเสียงที่นิ่งที่สุด แต่ก็ยังสั่นอย่างเห็นได้ชัด “ความรักของเธอมันหนักเกินไปสำหรับฉัน ลูคัส ฉันไม่สามารถทนรับมันได้อีกแล้ว ฉันแค่...อยากให้ทุกอย่างจบ...”เขาทรุดลงไปอีกครั้ง หมอบกราบแทบเท้าของเธอ ร่างสูงใหญ่ดูอ่อนแอและสิ้นหวังอย่างน่าเวทนา “ได้โปรด...อย่าพูดแบบนั้น ผมขอโทษ...ขอโทษจริงๆ...ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะครับ”โรสมองเขาด้วยสายตาเปื้อนน้ำตา หัวใจเธอเจ็บปวดเหมือนโดนบีบให้แตกสลาย แต่เธอก็ต้องรวบรวมความเข้มแข็งไว้ เธอไม่สามารถให้ตัวเองใจอ่อนได้อีกแล้วเอมี่ขยับมายืนข้างๆ สายตาจ้องมองลูคัสอย่างไม่ไว้ใจ ก่อนจะหันมาพูดกับโรส “เธอไม่จำเป็นต้องอยู่ฟังอะไรแบบนี้แล้ว ไปจากที่นี่กันเถอะโรส”ลูคัสเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง น้ำตาอาบแก้ม เขาดูเหมือนคนที่หมดสิ้นทุกสิ่ง “โรส...ได้โปรด...ผมไม่มีคุณไม่ได้...”โรสหลับตาลง พยายามสะกดน้ำตาที่ไหลไม่หยุด เธอรู้ดีว่าการกลับไปหาลูคัสไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง แม้หัวใจของเธอจะเจ็บปวดกับสภาพของเขา แต่เธอก็ไม่สามารถลืมสิ่งที่เขาเคยทำได้...โรสทรุดตัวลงนั่
เมื่อโรสย้ายเข้าไปอยู่กับเอมี่ เธอใช้เวลาหลายชั่วโมงในการเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้น ตั้งแต่เรื่องของลูคัสจนถึงเอเดน เสียงของเธอสั่นเล็กน้อยเมื่อเล่าถึงช่วงเวลาที่เธอถูกหักหลัง ความรู้สึกอับอายและเจ็บปวดผสมปนเปจนแทบพูดไม่ออก แต่เอมี่ฟังอย่างเงียบๆโดยไม่ขัดอะไร จนกระทั่งทุกอย่างถูกถ่ายทอดออกไปจนหมด"แล้วทำไมเธอไม่บอกฉันตั้งแต่แรก?!" เอมี่พูดขึ้น น้ำเสียงเต็มไปด้วยความโกรธและผิดหวัง "ถ้าเธอเล่าให้ฉันฟัง บางทีเรื่องมันอาจจะไม่บานปลายแบบนี้ก็ได้"โรสก้มหน้าลง น้ำตารื้นขึ้นมาอีกครั้ง เธอพึมพำด้วยความรู้สึกผิด "ฉันไม่กล้าเล่า... ฉันอาย"เอมี่ขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ "อายเรื่องอะไร? เรื่องแบบนี้เธอต้องบอกฉันสิ ฉันคือเพื่อนของเธอนะ""ฉันรู้สึกอายที่จะบอกว่าฉันคบกับคนที่อายุน้อยกว่าตัวเองมากขนาดนั้น ตอนแรกมันเหมือนแค่เรื่องสนุก ฉันไม่คิดว่ามันจะลากยาวมาจนถึงจุดนี้... ฉันไม่คิดว่ามันจะซับซ้อนและเลวร้ายแบบนี้เลย"เอมี่ถอนหายใจออกมายาว ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มลง "ไม่ว่ามันจะเป็นยังไง เธอไม่ควรเก็บไว้คนเดียวแบบนี้อีก เข้าใจไหม? ต่อไปถ้าเกิดอะไรขึ้น เธอต้องบอกฉันทันที เราจะหาทางแก้ไปด้วยกัน"โรสพยักห
แม้ว่าลูคัสอาจมีปัญหาในจิตใจของเขาเอง แต่เธอก็ไม่สามารถให้อภัยสิ่งที่เขาทำได้ ความเจ็บปวดจากการถูกล่วงละเมิดทั้งทางร่างกายและจิตใจยังคงหลอกหลอนเธอทุกครั้งที่หลับตา แต่เมื่อมองเรื่องราวของตัวเองกับสามี มันยิ่งเห็นชัดเจนขึ้น การที่เธอเลิกกับสามีมันไม่ใช่ความผิดของลูคัสอย่างที่เขาพูด แม้ว่าลูคัสจะจ้างผู้หญิงคนนั้นเพื่อเข้าไปใกล้สามีของเธอ แต่สุดท้ายการที่สามีของเธอนอกใจมันก็คือการตัดสินใจของเขาเอง ลูคัสอาจเป็นตัวกระตุ้น แต่เขาไม่ได้เป็นต้นเหตุของความล้มเหลวในชีวิตแต่งงานของเธอความคิดนี้ทำให้เธอเริ่มสงบลง เธอหยุดกล่าวโทษทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับลูคัสหรือใครก็ตาม เธอเริ่มยอมรับความจริงว่าชีวิตเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ และบางครั้ง ความเจ็บปวดก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเส้นทางที่ต้องเดินผ่านแต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนสำหรับเธอในตอนนี้คือเธอไม่ต้องการที่จะมีความสัมพันธ์ใดๆอีกแล้ว ความรักที่เคยทำให้เธอมีความสุข ตอนนี้กลับเป็นสิ่งที่เธอเข็ดหลาบที่สุด เธอไม่อยากเสี่ยงเปิดใจให้ใครอีก ไม่อยากแบกรับความเจ็บปวดที่อาจเกิดขึ้นซ้ำๆในสองวันนั้น โรสพยายามฝึกที่จะเริ่มต้นดูแลตัวเอง เธอเปิดหน้าต่างให้ลมเย็นๆ ของช่วงเช
"ลูคัส ฟังฉันนะ..." เสียงของเธอสั่นไหว แต่แฝงด้วยความหนักแน่น “ทุกอย่างมันจบแล้ว ฉัน... ฉันไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เธอกับฉัน มันเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว อย่ามายุ่งกับฉันอีกเลย ปล่อยฉันไปเถอะ”น้ำตาของลูคัสไหลลงมาอีกเป็นสายเขาส่ายหัวไปมาอย่างแรง “ไม่! คุณยังรักผมอยู่ ผมรู้!” เขาพุ่งเข้าไปกอดขาของเธอแน่นจนโรสต้องเซถอยหลังเล็กน้อย“ปล่อยฉัน ลูคัส!” โรสร้องด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ฉันเหนื่อยเกินไปแล้ว เธอ... เธอทำลายทุกอย่างในชีวิตฉัน เธอไม่เข้าใจเหรอ?”ลูคัสกลับยิ่งกอดขาเธอแน่น เขาสะอื้นเหมือนเด็กที่กำลังหวาดกลัวการถูกทอดทิ้ง “ผมขอโทษ ผมรู้ว่าผมผิด แต่ผมทำไปเพราะผมรักคุณ... โรส ให้โอกาสผมอีกครั้งได้ไหม...ขอร้อง...”โรสมองลงไปที่เขา ภาพของลูคัส นายแบบชื่อดังที่ครั้งหนึ่งเคยมีแต่ความมั่นใจในตัวเอง ดูดีและสมบูรณ์แบบในสายตาของทุกคน บัดนี้เขากลับกลายเป็นเพียงชายที่ดูไม่ได้ แตกสลายและหมดสภาพ เธอรู้สึกสมเพชอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ใช่แค่กับเขา... แต่กับตัวเธอเองที่ปล่อยให้ตัวเองตกอยู่ในวังวนนี้นานเกินไปโรสพยายามรวบรวมสติที่เหลืออยู่ก่อนจะพูด "ฉันไม่เหลืออะไรให้เธอแล้วลูคัส ไม่แม้แต่ความเกลียดชัง ฉันแค่...
ในขณะที่เอเดนกำลังพยายามดึงเสื้อผ้าของโรสออก เสียงประตูที่เปิดออกอย่างแรงทำให้ทุกอย่างหยุดชะงัก ร่างสูงใหญ่พุ่งเข้ามาด้วยความเร็ว ก่อนที่โรสจะทันได้ประมวลผล คนที่เข้ามาก็ถีบเอเดนออกจากตัวเธออย่างรุนแรง ร่างของเอเดนกระเด็นไปกระแทกกับพื้นเสียงดัง ลูคัสยืนอยู่ตรงนั้น สายตาของเขาเต็มไปด้วยโทสะที่แทบจะเผาผลาญทุกสิ่งรอบตัว“แกทำอะไรลงไป เอเดน!” ลูคัสคำราม ก่อนพุ่งเข้าไปกระชากตัวเอเดนขึ้นจากพื้นและเหวี่ยงหมัดใส่เขาอย่างไร้ความปรานี เอเดนล้มลงไปอีกครั้ง แต่ลูคัสไม่หยุด เขาใช้เข่าคร่อมร่างของเอเดนไว้ แล้วปล่อยหมัดตามมาอย่างต่อเนื่องลูคัสจมอยู่ในความโกรธแค้น และเอเดนที่ถูกจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัวก็ไร้ความสามารถที่จะตอบโต้ สภาพเขาเละเทะและอ่อนแรงลงเรื่อยๆ จนในที่สุดร่างของเอเดนก็แน่นิ่งไปโรสนั่งอยู่บนเตียง สภาพของเธอดูอิดโรย เสื้อผ้าหลุดลุ่ย และเส้นผมยุ่งเหยิง เธอกอดตัวเองแน่น ร่างกายสั่นสะท้าน ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะความหนาวเหน็บของเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นหรือความกลัวที่เริ่มครอบงำเธอมองลูคัสที่ค่อยๆลุกขึ้นจากร่างของเอเดนด้วยสายตาที่เธออ่านไม่ออก เขาเพิ่งช่วยเธอจากเอเดน แต่แววตาที่เขาหันมาหาเ