“ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะหลานรักของทวด”
กิ่งไผ่ไหวเอนลู่ไปตามแรงลมน้ำเสียงอบอุ่นอ่อนโยนคล้ายมีคล้ายไม่มีดังขึ้นอย่างเลือนรางขอบตาของกรรฐ์พลันร้อนผ่าวเขาเหลียวมองไปรอบๆบริเวณก่อนที่จะพบเพียงความว่างเปล่ากรรฐ์จึงดึงสายตากลับมาคืนพร้อมก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยฝีเท้าที่สั่นเล็กน้อยจนกระทั่งเขาหยุดยืนอยู่หน้าเจดีย์ที่ตั้งอยู่เคียงข้างกันดวงตาดอกท้อคู่งามจ้องมองไปยังภาพถ่ายสีขาวซีดที่สีสันค่อยๆจางหายไปตามกาลเวลายกเว้นรอยยิ้มอบอุ่นอ่อนโยนที่ไม่เคยจางหายไปจากใจ
จู่ ๆ บรรยากาศรอบด้านก็พลันเงียบสงัดความเงียบที่เกิดขึ้นแฝงไว้ซึ่งกลิ่นอายของความโศกเศร้าและอาลัยอาวรณ์มือที่สั่นระริกของกรรฐ์ค่อยๆยื่นไปด้านหน้าก่อนจะแตะลงบนรูปถ่ายของคุณทวดกฤษฎิ์ทันใดนั้นความทรงจำมากมายในวัยเยาว์ก็พลันหลั่งไหลเข้ามาในหัวคำพูดมากมายดังวนเวียนไม่หยุดราวกับว่าเขาได้ย้อนเวลากลับไปยังช่วงเวลานั้นที่คุณทวดกฤษฎิ์และคุณทวดที่รักยังคงอยู่เคียงข้างเขา
“เป็นลูกผู้ชายต้องเข้มแข็งต่อให้เจ็บแค่ไหนก็ห้ามมีน้ำตารู้ไหมครับน้องกรรฐ์ ?”
“น้องกรรฐ์รู้แล้วครับคุณทวด โตขึ้นน้องกรรฐ์จะเข้มแข็งเหมือนคุณทวดกฤษฎิ์อ่อนโยนเหมือนคุณทวดที่รักและรักเดียวใจเดียวเหมือนคุณปู่ครับ”
เด็กชายกวีวัธน์ตอบรับคำสอนของคุณทวดด้วยรอยยิ้มในขณะที่กฤษฎิ์มองเหลนชายคนเล็กด้วยความเอ็นดูมือที่เหี่ยวย่นไปตามวัยและกาลเวลายกขึ้นลูบศีรษะของเหลนน้อยเบาๆด้วยความรักใคร่สุดหัวใจ
“ดีมากครับเหลนน้อยของปู่ กับคนรักน้องกรรฐ์ต้องอ่อนโยนและรักเขาให้มากๆนะครับ ทะนุถนอมเขาและดูแลปกป้องเขาให้ดีที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำได้”
เขาในวันนั้นพยักหน้ารับคำพูดของคุณทวดด้วยรอยยิ้มโดยที่ไม่รู้เลยว่าหลังจากวันนั้นเพียงไม่กี่วันคุณทวดที่แสนใจดีของเขาจะจากไปอย่างไม่มีวันกลับและเขายังจำได้ดีว่าวันนั้นเขากับพี่เกรย์ร้องไห้จนตาบวมช้ำร้องเรียกให้คุณทวดฟื้นคืนกลับมาแต่เสียงเรียกของเขากับพี่ชายคงดังไม่พอคุณทวดถึงได้จากไปด้วยรอยยิ้มและสีหน้าที่สุขสงบ
“น้องกรรฐ์กลับมาเมืองไทยแล้วนะครับคุณทวด น้องกรรฐ์กลับมาเพื่อสร้างรากฐานของพิสิฐกุลวัตรดิลกของเราให้แข็งแกร่งขึ้น คุณปู่อยู่บนนั้นไม่ต้องเป็นห่วงนะครับน้องกรรฐ์สัญญาว่าจะดูแลทุกคนทางนี้ให้ดีที่สุด”
จบประโยคหยาดน้ำตาของกรรฐ์พลันรินไหลอย่างไร้สุ้มเสียงเขายืนหลั่งน้ำตาจ้องมองรูปถ่ายของคุณทวดทั้งสองเงียบๆเมื่อร้องจนพอใจแล้วเขาจึงบอกตัวเองว่าจะต้องแข็งแกร่งมากกว่านี้เพื่อที่จะได้ปกป้องทุกคนที่เขารักเหมือนที่คุณทวดกฤษฎิ์คอยปกป้องทุกคนในครอบครัว
“น้องกรรฐ์ไปก่อนนะครับ แล้วน้องกรรฐ์จะกลับมาเยี่ยมคุณทวดใหม่”
เมื่อจมอยู่กับความเศร้ามานานพอสมควรแล้วกรรฐ์จึงตัดใจเอ่ยคำลาในช่วงที่เขากำลังจะหันหลังเดินจากมาพลันสายลมพัดมาวูบหนึ่งดอกไม้แต่ละดอกที่ปลูกอยู่บริเวณรอบๆพริ้วไหวไปตามสายลมคล้ายกำลังโบกมือส่งยิ้มน้อยๆให้กรรฐ์รอยยิ้มบางๆพลันปรากฏอยู่บนใบหน้าหล่อเหลาเขาเดินล้วงกระเป๋าจากไปด้วยฝีเท้าที่เอื่อยเฉื่อยทิ้งภาพเงาเลือนรางของคนสองคนที่กำลังยืนโอบกอดกันเอาไว้ด้านหลังก่อนที่ภาพนั้นจะค่อยๆจางหายสลายไปกับสายลมเมื่อรถของกรรฐ์แล่นจากไป
เมื่อกลับมาจากวัดกรรฐ์ก็โผล่หน้าไปทักทายพี่ชายฝาแฝดพร้อมออดอ้อนให้เขาทำมื้อเย็นให้ทานก่อนที่เขาจะเดินทางกลับมายังคอนโดใจกลางเมืองที่เขาตัดสินใจซื้อเอาไว้ก่อนที่จะเดินทางกลับมายังเมืองไทย หลังจากที่เหนื่อยกับงานอาสามาตลอดทั้งปีกรรฐ์ในตอนนี้เพียงอยากจะหลีกหนีความวุ่นวายและพักผ่อนร่างกายอย่างสบายใจเท่านั้นจนกระทั่งวันเวลาเหล่านั้นของเขากำลังจะหายไปเมื่ออยู่ ๆ วันหนึ่งอุบัติเหตุที่เขาไม่ได้ตั้งใจก็เกิดขึ้นอย่างกะทันหันทำให้รถที่วิ่งตามหลังรถของเขามาติดๆต้องเบรกจนตัวโก่งส่งผลให้ล้อรถของอีกฝ่ายสะบัดเจ้าของรถที่เป็นเด็กน้อยวัยมหาวิทยาลัยจึงกระเด็นลงไปนอนจูบพื้นตามระเบียบ
“ขอโทษนะครับเป็นอะไรมากไหมครับ ?”
กรรฐ์เอ่ยถามเด็กน้อยที่นอนราบอยู่บนพื้นด้วยน้ำเสียงร้อนรนสายตาก็มองประเมินร่างกายของอีกฝ่ายว่าได้รับบาดเจ็บมากแค่ไหนเมื่อเห็นว่าคู่กรณีไม่ได้เจ็บหนักถึงขั้นกระดูกหักกรรฐ์จึงยื่นมือไปช่วยประคองเด็กหนุ่มรูปหล่อที่ปากเต็มไปด้วยขี้ดินให้ลุกขึ้นนั่ง
“อูย เบาๆหน่อยครับเบาๆเจ็บตรงนี้ เจ็บ”
ไวน์ยื่นมืออีกข้างที่ไม่เป็นอะไรมากไปประคองมือข้างที่เคล็ดจนแทบขยับไม่ได้เอาไว้ด้วยความเจ็บจนน้ำตาคลอเบ้า
กรรฐ์ “_”
เจ้าเด็กนี่จะสำออยเกินไปแล้วเห็น ๆ กันอยู่ว่าร่างกายไม่ได้รับบาดเจ็บมากแล้วน้ำตาที่คลอเบ้าใกล้จะไหลออกมาอยู่รอมร่อนั่นมันอะไรกัน
“เจ็บมากไหม?”
กรรฐ์ยื่นมือไปจับมือข้างที่เด็กหนุ่มบอกว่าเจ็บและออกแรงบีบเบาๆใบหน้าหล่อเหลาของเด็กหนุ่มพลันเหยเกทันทีด้วยความเจ็บ
“ถ้าสบายดีผมคงไม่ร้องบอกว่าเจ็บหรอกครับ”
กรรฐ์ “_” อืมนอกจากเจ้าน้ำตาแล้วเจ้าเด็กนี่ยังปากดีอีกด้วยแฮะ เด็กเวร!
“ขอโทษนะครับที่กลับรถกะทันหันผมไม่ทันมองด้านหลังจริงๆเดี๋ยวผมจะพาคุณไปส่งที่โรงพยาบาลค่ารักษาผมจะเป็นคนออกให้ทั้งหมดแล้วก็ยังมีอะไรนะ อ๋อ ค่าทำขวัญผมยินดีชดเชยให้เต็มที่ครับส่วนเรื่องแจ้งความถ้าคุณต้องการผมก็ยินดีเพราะผมเป็นคนผิดจริงๆ”
ต่อให้กรรฐ์จะร่ำรวยล้นฟ้าทั้งยังมีอำนาจและเป็นมาเฟียนักฆ่าที่ยิ่งใหญ่มากแค่ไหนแต่นิสัยลูกผู้ชายที่ทำผิดแล้วยอมรับผิดอย่างที่สุภาพบุรุษพึงกระทำสิ่งเหล่านี้เขาถูกอบรมสั่งสอนและปลูกฝังจากคุณทวดมาตั้งแต่ยังเด็กเพราะฉะนั้นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็นเพราะความประมาทของเขาๆจึงยอมรับผิดอย่างไม่ลังเลหากเปลี่ยนเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่กรรฐ์ก็ไม่แน่ว่าเขาคนนั้นจะยอมรับผิดเพราะสังคมสมัยนี้ทุกคนล้วนเห็นแก่ตัวและมักจะมองว่าการกระทำของตนเองนั้นถูกเสมอน้อยครั้งที่จะมีคนยอมรับผิดอย่างลูกผู้ชายคำพูดที่กรรฐ์เอ่ยออกไปจึงทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกนับถือความเป็นสุภาพบุรุษของเขาจากใจ
“ตอนนี้ช่วยพาผมไปส่งโรงพยาบาลก่อนได้ไหมครับ ? ส่วนเรื่องแจ้งความค่อยคุยรายละเอียดกันทีหลังผมเจ็บมือจะตายอยู่แล้ว”
ไวน์เอ่ยบอกชายหนุ่มรูปหล่อที่ตัวเขาเองยังมองจนตาค้างด้วยสีหน้าซีดเผือดเหงื่อเม็ดเล็กๆพลันผุดขึ้นบนหน้าผากความเจ็บปวดจากอาการเคล็ดขัดยอกค่อยๆทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เขาไม่เชื่อคำพูดของผู้ชายคนนี้ทั้งหมดแต่เป็นเพราะตอนนี้เขาเจ็บข้อมือมากต่างหากในเมื่อคู่กรณีเป็นฝ่ายเสนอว่าจะพาเขาไปส่งโรงพยาบาลเขาจึงตอบรับน้ำใจของอีกฝ่ายอย่างไม่ลังเล แต่ถ้าหากว่าอีกฝ่ายหน้าตาโหดเหี้ยมหรือไว้หนวดเครายาวเฟื้อยจนทำให้เขารู้สึกกลัวต่อให้อีกฝ่ายพูดจนน้ำลายบูดเป็นตายอย่างไรไวน์ก็ไม่ยอมขึ้นรถไปกับเขาแน่นอนแต่ผู้ชายคนนี้กลับแต่งตัวดีสะอาดสะอ้านทั้งเนื้อทั้งตัวเต็มไปด้วยแบรนด์เนมส่วนรถที่ขับไม่ต้องพูดถึงราคาเกิดใหม่อีกสิบชาติก็ไม่รู้ว่าไวน์จะมีปัญญาซื้อรถคันนี้ได้ไหม
ทั้งการพูดจาที่อ่อนโยนเป็นสุภาพบุรุษทั้งยอมรับผิดทั้ง ๆที่เขายังไม่ทันได้พ่นวาจากล่าวหาคนแบบนี้ชวนให้นึกเชื่อถือน้ำใจที่อีกฝ่ายแสดงออกมาไม่น้อยและที่สำคัญดวงตาดอกท้องดงามที่อ่อนโยนของเขานั้นต่างหากที่ดึงดูดไวน์ให้ตอบตกลงผู้ชายที่อ่อนโยนขนาดนี้คงได้รับการสั่งสอนมาจากที่บ้านเป็นอย่างดีแน่นอนอย่ามองว่าเขาเป็นเพียงเด็กหนุ่มอายุยี่สิบกว่าปีที่ยังไม่รู้จักโลกกว้างหรือรู้จักมองคนให้ออกมากพอตั้งแต่เขาเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลายเขาก็เริ่มช่วยครอบครัวทำงานโดยรับจ้างเป็นเด็กเสิร์ฟที่ผับบาร์แล้วจนกระทั่งตอนนี้เขาเลื่อนขั้นมาเป็นบาร์เทนเดอร์ในคลับหรูหราที่พวกนักร้องดาราชอบมาเที่ยวเขาจึงมั่นใจว่าประสบการณ์ที่แม้จะน้อยนิดแต่เขามองคนไม่ผิดอย่างแน่นอนหรือต่อให้ผิดและถูกหลอกถนนเส้นนี้มีกล้องวงจรปิดหากเกิดว่าต้องสู้คดีเขาก็มั่นใจว่าตนเองจะต้องชนะคดีเช่นกัน
“เดินไหวไหมครับถ้าไม่ไหวเดี๋ยวผมช่วยอุ้มไปขึ้นรถ ?”
ไวน์ “_” คำถามนี่มันอะไรกันมีผู้ชายที่ไหนเสนอตัวอุ้มผู้ชายด้วยกันพี่รูปหล่อคนนี้คงไม่ใช่ผู้ชายที่ชอบผู้ชายหรอกใช่ไหม ?
“เอ่อ มะ ไม่เป็นไรครับแค่ช่วยพยุงก็พอผมเดินเองได้ครับ”
ไวน์เอ่ยปฏิเสธด้วยความกระอักกระอ่วนใจก่อนที่กรรฐ์จะพยุงเขาเดินไปขึ้นรถแต่เดินไปได้เพียงไม่กี่ก้าวไวน์ก็เหมือนจะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ารถของเขายังคงล้มอยู่บนถนนฝีเท้าที่กำลังก้าวเดินจึงชะงักลงกรรฐ์ที่เดาความคิดของอีกฝ่ายออกจึงพูดขึ้นเพื่อให้เขาสบายใจ
“เรื่องรถไม่ต้องเป็นห่วงนะครับถ้ามันพังจนซ่อมไม่ได้เดี๋ยวผมซื้อคันใหม่ให้เองครับ”
กรรฐ์เอ่ยบอกเด็กหนุ่มอย่างใจป้ำความจริงแล้วสภาพรถก็ไม่ได้เสียหายมากเท่าไหร่เพราะเด็กหนุ่มไม่ได้ขับมาด้วยความเร็วรถจึงไม่ได้รับความเสียหายมากนักแต่สีของรถที่ดูซีดกับสภาพความเก่าที่เหมาะจะเอาไปทำเป็นเศษเหล็กทำให้กรรฐ์คิดว่าควรจะซื้อรถคันใหม่ให้อีกฝ่ายดีกว่าเขาจึงได้เอ่ยออกไปแบบนั้นส่วนไวน์เมื่อได้ฟังคำพูดที่ใจกว้างของคู่กรณีเด็กหนุ่มก็ได้แต่ลอบยินดีอยู่ในใจแต่ดูจากสภาพรถที่น่าจะขับต่อไปได้หัวใจที่เต้นกระหน่ำด้วยความยินดีก็พลันห่อเหี่ยวลง
ความใจดีของคนเรามีขีดจำกัดเสมอในเมื่อไอ้ดำลูกรักของเขายังใช้งานได้รถคันใหม่ที่พี่รูปหล่อบอกจะซื้อให้เขาคงไม่มีวาสนาจะได้เชยชมอดทนนะไอ้ดำลูกรักหรือถ้าแกไม่ไหวแล้วจะแกล้งพังแล้วสตาร์ทไม่ติดไปเลยยิ่งดีฉันจะสัญญาว่าจะทำสุสานรถให้แกพร้อมจุดธูปไหว้วันละสามดอกเพราะฉะนั้นพังไปเถอะนะลูกรักถือซะว่าวาสนาระหว่างเราจบลงแค่นี้ ถุย ถุย ถุย เขาคิดอะไรบ้าบออยู่ในหัวเนี่ยไอ้ดำอยู่กับเขามาตั้งหลายปีอยู่ดีๆจะมาแช่งให้มันพังเพราะอยากได้รถคันใหม่เขานี่มันช่าง...ก็อยากได้คันใหม่จริงๆนั้นแหละไปเถอะลูกพังไปเถอะนะถือซะว่าพี่ไวน์ขอร้อง
โรงพยาบาล N
หลังจากที่กรรฐ์ส่งคนเจ็บเข้าห้องฉุกเฉินเรียบร้อยแล้วเขาจึงหาที่นั่งรออยู่ไม่ไกลพร้อมตอบข้อความของพี่ชายที่ทักมาบอกให้เขาไปรับพี่ของขวัญพี่สาวคนโตของครอบครัวที่พาสามีและลูกๆเดินทางกลับมาถึงเมืองไทยในวันพรุ่งนี้ความจริงในใจของกรรฐ์นั้นอยากจะบอกปฏิเสธแต่พี่ชายของเขากลับเอ่ยดักคออย่างรู้ทันทำให้กรรฐ์ที่ต่อให้อยากปฏิเสธมากแค่ไหนก็ได้แต่จำใจตอบรับอย่างเลี่ยงไม่ได้เขาคงต้องรีบเคลียร์เรื่องทางนี้ให้เสร็จเร็วไวจะได้ไปรับพี่ของขวัญได้ทันเวลา
เวลาต่อมาไวน์ที่ถูกพาไปทำแผลและทำการตรวจร่างกายอย่างละเอียดก็นั่งรถเข็นออกมาจากห้องฉุกเฉินด้วยสีหน้าที่ดูดีขึ้นกว่าตอนที่เดินทางมาถึงเล็กน้อยมือของเด็กหนุ่มถูกพันด้วยผ้ายืดพันเคล็ดมองดูคล้ายขนมบ๊ะจ่างทำให้กรรฐ์รีบหันหน้าหนีไปทางอื่นเพื่อซ่อนรอยยิ้มและแววตาขบขันของตัวเองไม่ให้เด็กหนุ่มเห็น
“ผลตรวจเป็นยังไงบ้างครับ ?”
กรรฐ์เอ่ยถามเด็กหนุ่มด้วยความอยากรู้ถึงแม้ว่าเขาจะประเมินอาการเบื้องต้นแล้วพบว่าเด็กหนุ่มได้รับบาดเจ็บเป็นแผลถลอกตามร่างกายและข้อมือเคล็ดเท่านั้นไม่มีอาการร้ายแรงให้น่าเป็นห่วงแต่นั่นคือการประเมินภายนอกโดยใช้เพียงสายตาของเขาเท่านั้นส่วนบาดแผลภายในจะต้องตรวจให้ละเอียดเพื่อป้องกันอาการบาดเจ็บร้ายแรงที่จะตามมาถ้าหากไม่ได้ตรวจดูร่างกายให้ละเอียด
“ผมคงต้องขอบคุณตัวเองที่ไม่ได้ขับรถเร็วจนเกินไปก็เลยได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะถ้าขับมาเร็วกว่านี้คุณคงต้องไปนั่งร้องไห้บีบน้ำตาสำนึกผิดอยู่หน้าโลงศพของผมแล้วล่ะครับ”
ไอ้เด็กเวร!!
กรรฐ์พ่นคำด่าหยาบคายอยู่ในใจทันทีที่เด็กหนุ่มตรงหน้าพูดจบดวงตาดอกท้อที่เคยเจือด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนพลันปรากฏแววขุ่นเคืองอยู่จางๆแต่ไวน์กลับยักไหล่น้อยๆอย่างไม่แยแสใครใช้ให้เขาไม่ดูตาม้าตาเรือกลับรถกะทันหันจนเขาต้องตกอยู่ในสภาพนี้กันล่ะเขายังต้องทำงานหาเลี้ยงครอบครัวแต่มือกลับใช้งานไม่ได้เพราะถูกคุณหมอสั่งห้ามไม่ให้ใช้งานหนักเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ทำให้เขาต้องขอลาหยุดงานรายได้หลักอย่างทิปที่เคยได้คืนละห้าพันถึงหนึ่งหมื่นก็พลันหายวับไปในพริบตาคำพูดที่เขาเหน็บอีกฝ่ายไปก็ถือว่าหายกันแล้วหรือว่าแค่นั้นยังไม่พอนะสงสัยคงต้องหาคำพูดมาเหน็บอีกสักประโยคสองประโยคความอึดอัดและความโกรธที่อยู่ในใจถึงจะได้คลายลงบ้าง
“อืม ไม่ตายก็ดีแล้วขี้เกียจไปนั่งเสแสร้งร้องไห้อยู่หน้าโลงศพของนาย เพราะฉันไม่ค่อยถนัดแนวนั้นสักเท่าไหร่”
ความคิดที่ว่าคำพูดของตัวเองกับความประมาทของเขานั้นถือว่าหายกันแล้วพลันหายไปไหนพริบตาไวน์เงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายด้วยใบหน้าบูดบึ้งนี่เขาอุตส่าห์เหน็บพี่รูปหล่อด้วยคำพูดเจ็บๆแล้วคิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะเหน็บเขาเจ็บยิ่งกว่าฝีปากแบบนี้มันช่างแซบยิ่งกว่าพวกแม่ค้าปากตลาดที่ตะโกนด่าทอกันด้วยคำหยาบเสียอีก
“เฮอะ ฝันไปเถอะผมไม่ตายง่ายๆหรอกครับ”
กรรฐ์เผยรอยยิ้มยียวนพร้อมจ้องมองเด็กหนุ่มด้วยสายตาที่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกร้อนๆหนาวๆอย่างบอกไม่ถูก
“หืม? ฉันก็นึกว่านายอยากตายเร็วๆซะอีกเห็นออกจากห้องฉุกเฉินมาก็พูดแช่งตัวเองแล้ว” กรรฐ์เอ่ยแซวเด็กหนุ่มด้วยน้ำเสียงขบขัน
“นี่คุณพูดให้มันดีๆนะไม่ใช่เพราะคุณหรอกเหรอที่ทำให้ผมตกอยู่ในสภาพแบบนี้” ไวน์โต้กลับคืนอีกฝ่ายอย่างไม่ยอมแพ้
“ก็ขอโทษแล้วไงที่ประมาทหรือต้องก้มลงกราบนายถึงจะพอใจ”
น้ำเสียงผ่อนคลายตอบกลับเด็กหนุ่มด้วยท่าทีสบายๆทำเอาไวน์โมโหจนสีหน้าพลิกกลับเปลี่ยนสีไปมาหลังจากนั้นสงครามน้ำลายก็พลันเริ่มขึ้นพยาบาลสาวที่ทำหน้าที่เข็นรถเข็นได้แต่เหลือบมองคนเจ็บทีญาติคนเจ็บทีเมื่ออีกฝ่ายสนทนากันราวกับว่ากำลังโต้วาทีอย่างไม่มีใครยอมใครทำให้เธอได้เปิดโลกทัศน์เรียนรู้สิ่งใหม่ๆว่าที่จริงแล้วผู้ชายหน้าตาดีนั้นปากแซบไม่แพ้ผู้หญิงเลย
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิสาวสวยผมสั้นที่สวมแว่นตาปกปิดใบหน้างดงามสาวเท้าเดินไปข้างหน้าด้วยความเร่งรีบเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นกองทัพนักข่าวที่ไม่รู้ว่าพากันไปสืบมาจากไหนว่าเธอไปเที่ยวอิตาลีและมีกำหนดกลับในวันนี้ทุกคนจึงได้พร้อมใจกันมารอคอยเธอที่นี่ทั้งที่การไปเที่ยวของเธอครั้งนี้มินตรามั่นใจว่าตัวเธอนั้นไม่ได้เผลอหลุดปากบอกใครนอกจากเพื่อนสาวทั้งสามคนที่เธอลากไปเที่ยวด้วยกันแล้วก็มีพี่เอื้อยผู้จัดการส่วนตัวกับพี่ยีนส์บอสของเธอเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้มินตราพยายามคิดถึงความเป็นไปได้ต่างๆนานาก่อนที่สายตาของเธอจะปะทะเข้ากับนักข่าวสายบันเทิงช่องหนึ่งที่คอยตามจิกตามกัดเธอราวกับเจ้ากรรมนายเวรทันใดนั้นมินตราก็หมุนตัวเลี้ยวไปอีกด้านหนึ่งทันทีท่าทีที่ดูมีพิรุธของเธอทำให้ไอลดานักข่าวสาวที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับมินตรามาตลอดรีบสาวเท้าตามเธอไปทันทีต่อให้อีกฝ่ายจะผมสั้นเสมอหูหรือใส่แว่นดำปกปิดใบหน้าไอลดามั่นใจว่าคนที่กำลังเดินหนีเธอคือมีน มินตราแน่นอน หึ คิดว่าจะหลบเธอพ้นเหรอไม่มีทางซะหรอก“นี่กะจะกัดกันไม่ปล่อยจริงๆสินะ”มินตราพึมพำเสียงเบาอย่างไม่สบอารมณ์เธอเหลือบมองไปทางด้านซ้ายทีทางด้านขวาทีก่อนที่ใบหน้
หลังกลับจากอิตาลีมินตราใช้วันหยุดที่เหลือก่อนเริ่มงานด้วยการพักผ่อนอยู่ที่บ้านเธอปิดประตูไม่ต้อนรับแขกแม้กระทั่งเพื่อนสนิททั้งสามคนที่พร้อมใจกันมากดออดหน้าห้องเพื่อชวนเธอไปชอปปิงแต่มินตราไม่แม้แต่จะเยี่ยมหน้าออกมาให้เพื่อนได้เห็นเธอทำเพียงส่งข้อความบอกให้ทั้งสามคนให้ไสหัวกลับไปส่วนตัวเองก็คลุมโปงนอนต่อด้วยความง่วงเมื่อคืนเธอเผลอดูซีรีส์ดึกจนเกินไปวันนี้เธอจึงไม่มีอารมณ์อยากจะออกไปไหนจริงๆอีกทั้งพรุ่งนี้เธอยังต้องเริ่มทำงานอีกเพราะฉะนั้นวันนี้เธอจะขอนอนพักผ่อนให้ฉ่ำปอดไปจนถึงบ่ายเลยใครจะโทรมาก็ดีหรือส่งข้อความมาก็ช่างมินตราไม่สนซะอย่างใครจะทำอะไรเธอได้พรีม : กลับเหอะพวกมึงสงสัยเมื่อคืนมีนมันดูซีรีส์หนักไปเช้านี้ถึงลุกจากเตียงไม่ขึ้นแล้วพรีมเอ่ยชวนเพื่อนทั้งสองคนกลับเมื่อต่างคนต่างได้รับข้อความ ‘ไสหัวไปไกลๆ’ กันถ้วนหน้าดรีม : เออ กลับก็กลับกูบอกพวกมึงแล้วว่าให้โทรมาชวนมันก่อนไม่ใช่บุกมาถึงคอนโดแบบนี้แล้วเป็นไงหอนไหมล่ะมึง ?ดรีมเอ่ยตำหนิเพื่อนสาวทั้งสองคนอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนหน้าที่พวกเธอจะมาที่นี่เธอเสนอความคิดเห็นแล้วว่าให้โทรมาชวนมินตราก่อนจะได้ไม่มาเสียเที่ยวแต่เพื่อนที่แสนดีของเธ
คฤหาสน์พิสิฐกุลวัตรดิลก(เก้าทัพ)“คุณย่าครับพี่กรรฐ์หิวข้าวจังเลยครับ”น้ำเสียงออดอ้อนที่ดังมาก่อนตัวคนทำให้นับดาวที่กำลังนั่งถักไหมพรมเผยรอยยิ้มอ่อนโยนออกมาด้วยความเอ็นดูแต่ก็แค่เพียงชั่วครู่เท่านั้นใบหน้าที่อ่อนเยาว์กว่าวัยก็กลับมาเรียบเฉยดังเดิมก่อนที่เจ้าของคำพูดจะปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าพร้อมทิ้งตัวลงนั่งข้างๆเธอใบหน้าหล่อเหลาของเขาฉีกยิ้มหวานอย่างประจบประแจงดวงตาดอกท้องดงามกระพริบปริบๆอย่างออดอ้อนทำเอานับดาวที่กำลังตั้งใจถักไหมพรมต่อจำต้องหยุดมือและหันมาสนใจหลานชายคนเล็กที่ตั้งแต่กลับมาเมืองไทยก็โผล่หน้ามาให้เธอเห็นแทบนับครั้งได้คนเป็นย่าแบบเธอมีหรือที่จะไม่โกรธ“ดูทำหน้าเข้าสิไม่ไช่เด็กน้อยแล้วนะเราทำเป็นอ้อนไปได้”นับดาวแสร้งดุหลานชายที่ยกยิ้มจนตาโค้งหยีชวนให้คุณย่าอย่างเธอใจอ่อนยวบราวกับขี้ผึ้งลนไฟเวลาที่โกรธเจ้าเด็กนี่ทีไรเธอไม่เคยโกรธได้นานเลยจริงๆเธอไม่ได้ใจอ่อนนะแต่ใครใช้ให้หลานชายเธอขี้อ้อนกันล่ะยิ้มทีก็ราวกับดอกทานตะวันบานเต็มทุ่งเจอแบบนี้ใครจะไปทำใจโกรธได้ลงมีแต่จะยิ่งเอ็นดูนะสิไม่ว่า>>_เฮ้อ เธอแพ้ให้เจ้าเด็กนี่อีกแล้วสินะไอ้หยูกหมาน้อยของย่านับดาว“ไปเที่ยวเตร่อยู่ข้าง
“มึงอัดคลิปอะไรอยู่อะควีน ?”ดรีมที่เพิ่งเงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์มือถือเอ่ยถามด้วยความสนใจเมื่อเห็นว่าเพื่อนสนิทกำลังอัดคลิปเหตุการณ์น่าสนใจที่อยู่ตรงหน้าก่อนที่เธอจะเพ่งมองไปยังชายหญิงที่กำลังยืนสนทนากันอยู่ไม่ไกลทันใดนั้นดวงตาคู่งามของดรีมก็พลันเบิกกว้างด้วยความตกตะลึงพรึงเพริดกับเสี้ยวหน้าหล่อเหลาที่เกินพรรณนาของใครบางคนที่ต่อให้เธอพบเจอเขาเพียงหนึ่งครั้งเธอก็ยังคงจดจำใบหน้าหล่อเหลาล่มบ้านล่มเมืองของเขาได้ขึ้นใจ“พอดีเจอเรื่องสนุกของคู่อริไอ้มีนมันน่ะก็เลยกะจะถ่ายส่งไปให้ไอ้มีนมันดูสักหน่อย”ควีนเอ่ยตอบดรีมโดยที่ไม่หันกลับมาสายตาของเธอยังคงจ้องมองภาพหนุ่มหล่อสีหน้าเย็นชาที่กำลังสะบัดมือของวิเวียนทิ้งอย่างไม่ใยดีด้วยความสะใจในขณะที่ดรีมเองก็ตื่นเต้นเช่นกันที่ได้พบกับผู้ชายคนนั้นของมินตราอีกครั้งที่เมืองไทยเธอคิดไม่ถึงเลยว่าโลกจะกลมเช่นนี้ถ้ามินตรารู้ว่าผู้ชายที่เธอรู้สึกดีด้วยตั้งแต่แรกพบอยู่ที่เมืองไทยเพื่อนของเธอจะดีใจมากแค่ไหนกันนะ“โอ๊ย! กูโคตรสะใจมันต้องอย่างนี้สิลูกพี่หน้าตาดีไม่พอยังหยิ่งได้ใจอีกด้วยเอาเลยจ้ะพี่จ๋าสะบัดนางจิ้งจอกออกไปไกลๆอย่าให้มันมาเกาะแกะพี่ได้อีก”เสียงพูดด้
เช้าวันต่อมาสตูดิโอ“ไงยายตัวแสบหนีไปเที่ยวมาสนุกไหม ?”ทันทีที่เห็นมินตราเปิดประตูห้องแต่งตัวเข้ามายีนส์ก็แกล้งอมยิ้มเอ่ยทักทายอีกฝ่ายด้วยท่าทีผ่อนคลายทั้ง ๆที่ในใจนั้นแทบอยากจะเดินเข้าไปโบกหัวอีกฝ่ายที่ชอบแกว่งเท้าหาเสี้ยนมาตำเท้าเธออยู่เป็นประจำด้วยความโมโห“ไม่มีพี่ยีนส์ไปด้วยมีนเที่ยวไม่สนุกเลยสักนิด”มินตราแสร้งถอดถอนใจคล้ายกับว่าการหนีไปเที่ยวอย่างกะทันหันของเธอในครั้งนี้นั้นไม่สนุกเลยสักนิดซึ่งในความเป็นจริงที่แม้แต่ผียังมองเห็นเต็มสองตาก็คือเธอนั้นทั้งเที่ยวเล่นดื่มกินอย่างสนุกสนานไร้ซึ่งความกังวลใจใดๆทั้งสิ้น“เหอะ ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดีเลยนะยายตัวแสบสร้างเรื่องสร้างราวทิ้งไว้ให้คนอื่นตามเก็บตามเช็ดแต่ตัวเองกลับหนีไปเที่ยวอย่างสบายใจแบบนี้มันใช้ได้ที่ไหนกัน ?”ยีนส์แค่นเสียงเหอะใส่มินตราพลางเอ่ยตำหนิสาวสวยที่ตรงเข้ามากอดเธอเธอด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความขุ่นเคืองใจเธอรู้ดีถึงเหตุผลที่มินตราเดินทางไปเที่ยวอิตาลีอย่างกะทันหันเพราะหลังจากที่อีกฝ่าย ‘สร้างเรื่อง’ เอาไว้ยายตัวแสบที่กำลังถูไถใบหน้างามออดอ้อนเธอก็ติดปีกบินไปไกลถึงเมืองนอกเมืองนาส่วนเรื่องที่สร้างเอาไว้ก็มีเธอคอยเป็น
“เหอะ มีแฟนอยู่แล้วยังมีหน้ามาขอควงแขนเราอีก”กรรฐ์แค่นเหอะเสียงเย็นชาหัวใจดวงน้อยคล้ายมีคลื่นอารมณ์กระเพื่อมปั่นป่วนขึ้นระลอกหนึ่งความสงบเยือกเย็นที่เคยเป็นมาโดยตลอดคล้ายถูกรบกวนจนทำให้รู้สึกหงุดหงิดใจอย่างบอกไม่ถูกเขาพยายามปรับอารมณ์ของตัวเองให้กลับมาปกติเย็นชาเหมือนเดิมก่อนจะเดินตรงไปยังกองถ่ายแบบของนิตยสารที่อยู่ตรงหน้าด้วยท่าทีเกียจคร้านเมื่อวานกรรฐ์ยังเป็นเพียงคนว่างงานที่เพิ่งไปมีเรื่องนอกบ้านมาแต่อยู่ ๆวันนี้มารดาที่เคารพรักก็โทรมาปลุกเขาตั้งแต่เช้าพร้อมขอร้องให้เขาช่วยรับงานถ่ายแบบนิตยสารชื่อดังซึ่งเจ้าของหนังสือเป็นเพื่อนรุ่นพี่คนสนิทในวงการบันเทิงของมารดาเนื่องจากช่างภาพเกิดอุบัติเหตุในระหว่างที่กำลังเดินทางมากองถ่ายทำให้ทางทีมงานหาช่างภาพคนอื่นมาแทนไม่ทันคนว่างงานที่ตั้งใจจะนอนตื่นสายอย่างเขาจึงทำได้เพียงจำใจตอบตกลงและเดินทางมาที่นี่ด้วยความเร่งรีบ“อร้าย นั่นใครอะแกทำไมหล่อขนาดนี้ ?”“ตายแล้ว ! นี่ฉันกำลังนอนฝันยังไม่ตื่นหรือไงถึงได้เจอเทพบุตรตั้งแต่เช้า”“แก แก ดูนั่นสิใครอะไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเลย”“นี่อย่าบอกนะว่าวันนี้คุณมีนมีถ่ายแบบกับนายแบบคนนี้ด้วย”“OMG! ทำไมโลกนี
การถ่ายแบบเซ็ตที่สองใช้เวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงก็เสร็จเรียบร้อยแต่ครั้งนี้กลับแตกต่างออกไปเมื่อมินตราและคณินต่างพากันออกแบบท่าทางคู่รักด้วยตนเองอย่างไหลลื่นไร้ที่ติทำให้กรรฐ์อดที่จะชื่นชมกับความเป็นมืออาชีพของทั้งคู่ไม่ได้โดยเฉพาะมินตราที่สีหน้าของเธอหวานซึ้งจนทำให้กรรฐ์รู้สึกว่าหัวใจที่สงบเยือกเย็นมาโดยตลอดกำลังถูกสั่นคลอนเพราะเธอ“เอาแต่จ้องหน้าเขาตาไม่กระพริบแบบนี้ชอบเขามากหรือไง หืม ?”คณินเอ่ยถามมินตราด้วยความอยากรู้จากใจเมื่อเห็นว่าน้องสาวคนสนิทเอาแต่นั่งเท้าคางจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาของกรรฐ์ราวกับเด็กสาวที่กำลังตกอยู่ในห้วงแห่งความรักเขารู้จักกับมินตรามานานหลายปีนี่คือครั้งแรกที่เขาเห็นเธอนั่งเหม่อมองใครด้วยสายตาที่เจือไปด้วยรอยยิ้มละมุนละไม“มีนก็ไม่รู้เหมือนกันว่านิยามของคำว่าชอบมากเป็นยังไง มีนรู้แค่ว่าต่อให้นั่งจ้องหน้าเขาทั้งวันโดยที่ไม่ต้องทำอะไรมีนก็พอใจแล้ว”มินตราดึงสายตาที่กำลังมองกรรฐ์กลับมาพร้อมตอบคำถามของคณินที่พยักหน้ารับเป็นเชิงว่าเขาเข้าใจความรู้สึกของเธอเพราะครั้งหนึ่งเขาเองก็เคยรู้สึกแบบนี้กับใครบางคนเหมือนกัน“ชอบก็ไปบอกเขาไม่ใช่เอาแต่นั่งมอง”คณินเอ่ยแนะนำม
“ก่อนจากกันถ้าไม่คิดจะทิ้งหัวใจเอาไว้ก็ไม่เป็นไรค่ะมินตราขอแค่ไลน์ ไอจี ไม่ก็เบอร์โทรก็พอค่ะ”คำพูดเกี้ยวพานที่ราวกับผู้ชายเจ้าชู้เสเพลของมินตราทำให้ใบหน้าเย็นชาของกรรฐ์ปรากฏรอยยิ้มเล็กน้อยนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาถูกผู้หญิงตามตื้อและตามจีบแต่ทุกคนที่เข้ามาต่างพากันเผ่นแนบเพียงแค่ได้เห็นใบหน้าและดวงตาที่เย็นชาไม่อยากให้คนเข้าใกล้ของเขามีเพียงเธอเท่านั้นที่ยังคงซื่อสัตย์ต่อความรู้สึก ชอบ ของตัวเองกรรฐ์มองใบหน้างดงามของมินตราที่หากเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่เขาก็คงเป็นฝ่ายวิ่งตามตื้อและตามจีบเธอแต่สำหรับเขาที่ไม่ค่อยสนใจกับ ความรัก นั้นค่อนข้างตรงกันข้ามถึงแม้การอยู่คนเดียวจะทำให้บางเวลารู้สึกเหงาไปบ้างแต่กรรฐ์เคยชินกับความรู้สึกนั้นไปแล้วแต่มาวันนี้มีคนคนหนึ่งที่กำลังพยายามแสดงความรู้สึกออกมาให้เขาได้รับรู้ว่าเธอนั้น ชอบ เขาด้วยความจริงใจเขาที่ผ่านมามักจะปฏิเสธสาวสวยด้วยวิธีที่หลากหลายคงทำได้เพียง...“ปล่อยมือผมก่อนแล้วผมจะให้”กรรฐ์เหลือบมองมือหอมนุ่มนิ่มที่จับมือของเขาเอาไว้ไม่ยอมปล่อยแต่มินตรากลับจับมือของเขาแน่นยิ่งกว่าเดิม“ไม่เอาไม่ปล่อย ถ้าปล่อยแล้วคุณวิ่งหนีมินตราจะทำยังไง ?”มินตราไม่ไ
บรรยากาศการถ่ายทำละครเรื่อง ‘นิทราคืนสู่ฝัน’ เป็นไปได้ด้วยดีนักแสดงทุกคนต่างทุ่มเทและทำงานกันอย่างเต็มที่รวมถึงขุนพลผู้กำกับหน้าใหม่ไฟแรงเพราะนักแสดงทุกคนผ่านการคัดเลือกมาเป็นอย่างดีละครเรื่องนี้เรียกได้ว่าเป็นละครที่คัดนักแสดงที่มีความสามารถอย่างแท้จริงไม่มีเด็กดัน เด็กฝาก หรือเด็กเส้นแม้แต่คนเดียวการถ่ายทำจึงเป็นไปอย่างราบรื่นนักแสดงต่างสนิทสนมและเข้าหากันด้วยความบริสุทธิ์ใจทำให้มินตรามีความสุขมากที่ได้ถ่ายทำละครเรื่องนี้ในทุกๆวันที่เธอต้องออกกองกรรฐ์มักจะมาทำงานเป็นเพื่อนมินตราเสมอในฐานะผู้จัดการส่วนตัวและคนรักเขาดูแลมินตราเป็นอย่างดีรวมไปถึงทุกคนในกองถ่ายละครด้วยเช่นกันเพราะกรรฐ์มักจะส่งรถฟู้ดทรัคมาที่กองถ่ายละครเพื่อให้ทุกคนได้ทานอาหารและของว่างอร่อยๆเสมอรวมถึงคอยช่วยแก้ไขปัญหาเมื่อกองถ่ายเกิดติดขัดให้เป็นไปอย่างราบรื่นทำให้ทั้งผู้กำกับและนักแสดงต่างซาบซึ้งใจเป็นอย่างมากนักแสดงคนที่ 1 “อิจฉาพี่มีนจังเลยเนอะทำไงพวกเราถึงจะมีแฟนที่รักและใส่ใจขนาดนี้บ้างคิดดูดิตั้งแต่วันแรกที่เริ่มถ่ายทำจนถึงวันนี้ไม่มีวันไหนเลยที่ไม่เห็นพี่กรรฐ์อยู่คอยข้างๆ”นักแสดงคนที่ 2 “นั่นดิ ฉันนี่อิจฉาเป็น
ข่าวการเปลี่ยนตัวผู้กำกับละครเรื่อง ‘นิทราคืนสู่ฝัน’ สร้างความตกตะลึงให้แก่วงการบันเทิงและแฟนละครเป็นอย่างมากเรื่องนี้ถูกพูดถึงบนโลกออนไลน์นานถึงห้าวันแถมยังขึ้นอันดับหนึ่งของการค้นหาโดยไม่ต้องจ่ายเงินเพื่อซื้ออันดับแต่อย่างใดทุกคนต่างคาดเดาถึงสาเหตุการเปลี่ยนตัวผู้กำกับจากเอกภพเป็นขุนพลผู้กำกับหน้าใหม่ไฟแรงที่ขึ้นแท่นผู้กำกับมือทองด้วยเหตุผลต่างๆนานาแม้กระทั่งนักเมาท์วงในที่มักจะทันเหตุการณ์อยู่ตลอดเวลายังไม่สามารถสืบรู้ได้เลยว่าสาเหตุเกิดจากอะไรเพราะกรรฐ์จัดการเรื่องนี้ได้อย่างหมดจดไม่มีใครรู้เลยว่าเบื้องหลังของการเปลี่ยนแปลงที่ทำเอาสะเทือนไปทั้งวงการบันเทิงนั้นเป็นฝีมือของเขาหนึ่งในความสามารถของกรรฐ์คือการมองขาดเรื่องการลงทุนกรรฐ์ทุ่มเงินไปมากกว่าห้าสิบล้านเพื่อแทรกคนของตัวเองเข้าไปเสนอตัวเป็นสปอนเซอร์รายใหญ่ของละครเรื่องนี้ข้อเสนอเรื่องการเปลี่ยนตัวผู้กำกับจึงถูกทีมผู้จัดรับเอาไว้ด้วยความเต็มใจส่วนขุนพลที่เข้าไปแทนที่กรรฐ์เลือกเขาเพราะความสามารถที่โดดเด่นและมุมมองของการกำกับละครที่ไม่เหมือนใครเขาเป็นผู้กำกับหัวสมัยใหม่ที่พร้อมจะยืดหยุ่นและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆอยู่ตลอดเวลาทีมผู้จัดจึง
ปัง !!โครม !!ประตูที่ล็อกอย่างแน่นหนาถูกถีบเปิดเข้ามาอย่างแรงก่อนที่ร่างสูงของกรรฐ์จะวิ่งเข้ามาแล้วยกขาถีบยอดอกของเอกภพจนกระเด็นลงไปนอนกองอยู่บนพื้นด้วยสภาพที่อยากให้อเนจอนาถแค่ไหนก็อเนจอนาถแค่นั้น“พี่กรรฐ์”มินตราถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความดีใจเมื่อเห็นว่าใครที่ถีบประตูเข้ามาดวงตาที่คลอไปด้วยหยาดน้ำตาเป็นประกายด้วยความปรีดาก่อนที่เธอจะร้องเรียกเขาเสียงดังพร้อมโผเข้าสู่อ้อมกอดของกรรฐ์เต็มแรง“ไม่เป็นไรนะคะเด็กดีพี่กรรฐ์มาแล้ว ไม่เป็นไรแล้วนะคะคนเก่ง”อ้อมแขนแกร่งกอดกระชับรัดเอวบางอย่างหวงแหนมือใหญ่ยกขึ้นลูบแผ่นหลังของมินตราอย่างปลอบโยนในขณะที่มินตราซุกใบหน้าเข้าหาอกแกร่งของกรรฐ์อย่างวางใจหยดน้ำตาที่พยายามกลั้นเอาไว้พลันรินไหลเผยความอ่อนแอออกมาจนหมดสิ้น“กะ แก แกเป็นใครกล้าดียังไงถึงได้บุกเข้ามาทำร้ายฉันถึงในนี้”เอกภพที่ค่อยๆลุกขึ้นยืนด้วยท่าทีไม่มั่นคงเพราะอาการเคล็ดขัดยอกที่สะโพกยกมือขึ้นชี้หน้ากรรฐ์ด้วยสีหน้าดุดันเจืออารมณ์โมโหเจียนคลั่งเมื่ออยู่ ๆก็ถูกขัดจังหวะความสุขจากไอ้หนุ่มหน้าหล่อที่เขาไม่คุ้นหน้าคุ้นตามาก่อน“เหอะ กูมากกว่าที่ต้องถามมึงว่ากล้าดียังไงมาแตะต้องผู้หญิงของกู”
การแคสนักแสดงผ่านไปได้ด้วยดีมินตราโชว์ทักษะและศักยภาพอย่างเต็มที่ทำให้คณะกรรมการที่ถูกเชิญมาต่างพึงพอใจเป็นอย่างมากเพียงแต่ว่ายังมีนางเอกที่แสดงความสามารถได้ไม่ด้อยไปกว่ามินตราอีกสองคนนั้นก็คือเมษา ไอรดา นางเอกที่มากความสามารถและผ่านการรับบทนางเอกมาหลายเรื่องกับแอนนี่ ณัชพร นางเอกที่เข้าวงการมาก่อนมินตราสองปีแต่ชื่อเสียงของเธอนั้นไม่ธรรมดาเพราะผ่านการแสดงละครที่รับทั้งบทนางเอกและนางร้ายมากกว่ามินตราถึงสามเรื่องทีเดียวความสามารถที่แทบหาช่องโหว่ตำหนิไม่ได้นี้ทำให้กรรมการต่างหนักใจเป็นอย่างมากสุดท้ายแล้วทุกคนจึงยกอำนาจในการตัดสินใจให้กับเอกภพ ผู้กำกับมือทองที่ไม่ว่าจะกำกับละครหรือภาพยนต์เรื่องไหนเรียกได้ว่านักแสดงดังเป็นพลุแตกอีกทั้งยังสร้างรายได้และเรตติ้งสูงถล่มทลายทำให้นักแสดงมากหน้าหลายตาต่างเข้าหาเขาทางลัดเพื่อให้เขาดันตนเองให้มีชื่อเสียงส่วนบางคนเขาก็ใช้วิธีบังคับเพื่อให้ได้มาเป็นข้อแลกเปลี่ยนซึ่งก็มีทั้งคนที่เต็มใจและไม่เต็มใจสุดท้ายเพื่อแลกกับชื่อเสียงในอนาคตหลายคนจึงต้องกัดฟันยอม“ผลการตัดสินจะประกาศให้ทุกคนได้รับทราบในอีก 3 วันข้างหน้าอาจารย์ขอให้ทุกคนโชคดีนะคะ”ทัตพิชาอาจารย์
ธุรกิจแบรนด์น้ำหอม Phile ของมินตราได้รับการสนับสนุนอย่างล้นหลามทั้งจากแฟนคลับและเพื่อนๆในวงการบันเทิงแบรนด์ของเธอเพิ่งเปิดตัวได้ไม่ถึงเดือนแต่ชื่อแบรนด์กลับถูกค้นหามากที่สุดทางช่องทางต่างๆบนแพลตฟอร์มออนไลน์นอกจากชื่อเสียงของเธอที่ทุกคนต่างเชื่อใจคุณภาพของน้ำหอมที่คัดสรรส่วนผสมมาเป็นอย่างดีคืออีกหนึ่งเหตุผลที่ทุกคนที่ได้ซื้อไปต่างกลับมาซื้อซ้ำโดยเฉพาะกลิ่น ‘รักแรก’ ที่ได้รับการรีวิวไปในทิศทางเดียวกันว่าตกหลุมรักครั้งแรกตั้งแต่ที่ได้ลองใช้ยอดขายของแบรนด์จึงมากขึ้นเรื่อย ๆเรียกได้ว่าธุรกิจน้ำหอมกลายเป็นรายได้หลักของมินตราไปแล้วในตอนนี้หลังจากธุรกิจอยู่ตัวการไลฟ์ขายน้ำหอมของมินตราจึงลดจำนวนวันลงจากสัปดาห์ล่ะ 6 วันเหลือเพียง 4 วันต่อสัปดาห์เพื่อที่เธอจะได้มีเวลาพักผ่อนและหยุดพิจารณาบทละครที่ผู้กำกับต่างเสนอบทมาให้ซึ่งเธอได้อ่านรายละเอียดเรียบร้อยแล้วแต่ยังไม่มีบทบาทไหนถูกใจข่าวละครเรื่อง ‘นิทราหวนคือสู่ฝัน’ ของคุณณัฐสินี นักเขียนชื่อดังที่เธอชื่นชอบก็เปิดรับแคสบทนักแสดงซึ่งกรรมการที่ถูกเชิญมาเพื่อตัดสินคัดเลือกนักแสดงนำชายและหญิงนั้นล้วนมีแต่ผู้อาวุโสที่เป็นปรมาจารย์ด้านการแสดงทั้งนั้นมิน
MEE_MEEN.K Update IG StoryรูปภาพMEE_MEEN.K ‘First love’ถูกใจโดย MEE_MEEN.K และคนอื่น ๆ อีก 1.2 ล้านSomWhan อร๊าย หวานรับเปิดเทอมอีกแล้วอิจฉาสุดๆไปเลย เอ๊ะ ! ขวดเล็กๆในมือคืออะไร ? อยากรู้ อยากรู้ พี่มีนรีบมาเฉลยน้าOpal.BB เฮ้อ น้องมีนขาความรักของหนูหอมฟุ้งเต็มไอจีไปหมดแล้วลูกว่าแต่ในมือน้ำหอมที่หนูเคยไลฟ์บอกว่าจะทำแบรนด์ใช่ไหมคะ ?ToM_LoVe Meen อกหักรายวันอีกแล้วน้องมีนโพสต์ไอจีทีทำเอาหัวใจของพี่แตกสลายไปเลยทีเดียวแต่ไม่เป็นไรเรื่องหัวใจก็ส่วนหัวใจน้องมีนขายอะไรพี่ทอมพร้อมสนับสนุนเสมอค่ะPRIMA อื้อหื้อ หวานตัดขาเป็นช่วงปิดเทอมที่มีความสุขมากแต่ละวันแต่ละเดย์เฝ้าหน้าจอรอพี่มีนอัพเดทไอจีทุกวันเลย รูปนี้พี่กรรฐ์หล่อมากๆค่ะJEANS_YG พร้อมเปิดตัวแล้วใช่ปะ ?MEE_MEEN.K @ JEANS_YG ถูกต้องนะค้าบรอดูความปังได้เลยค่ะบอสDREAMY_zzzz ขอลองเทสสักอันMEE_MEEN.K @ DREAMY_zzzz เอาไปหลายๆอันเลยPRIME_PP ขอด้วยคนเรื่องแบบนี้พรีมไม่พลาดMEE_MEEN.K @ PRIME_PP จัดไปติดใจอย่าลืมมาอุดหนุนรับรองหอมจนเลิกโสดPRIME_PP @ MEE_MEEN.K ไอหยาถ้า ‘หอมจนเลิกโสด’ จริงกูเหมาหมดโกดังเลยเพื่อนสภาพตอนนี้โสดจนใ
คดีความของปรมินทร์ถูกตัดสินตามกฎหมายโดยที่ไม่มีใครสามารถยื่นมือเข้าไปแทรกแซงได้ศาลจึงสั่งจำคุกเป็นระยะเวลา 3 ปีโดยไม่รอลงอาญาซึ่งคำตัดสินนี้ทำให้ภารดีกรีดร้องดังลั่นห้องตัดสินราวกับคนเสียสติก่อนที่จะถูกพาตัวออกไปส่วนคนที่ไร้ซึ่งความละอายใจอย่างปรมินทร์เองก็ร้องตะโกนโวยวายไม่ยอมรับผลการตัดสินนี้เช่นกันแต่สุดท้ายทุกคนก็จำต้องยอมรับความจริงและดำเนินชีวิตต่อไปสำหรับมินตราชื่อเสียงของเธอได้รับผลกระทบแค่เพียงช่วงแรกที่ปรมินทร์ถูกดำเนินคดีเท่านั้นแต่ในเวลาต่อมาด้วยกระแสจากแฟนคลับทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ยังคงให้การสนับสนุนเธออย่างล้นหลามทำให้เธอกลับมาโด่งดังบนหน้าจออีกครั้งและดูเหมือนจะดังยิ่งกว่าเดิมเพราะทุกคนติดตามทั้งความสามารถและความรักของเธอที่หวานฉ่ำจนทำให้ทั้งแฟนคลับและคนในวงการบันเทิงต่างพากันอิจฉาส่วนงานที่พากันติดต่อเข้ามากรรฐ์พิจารณาตอบตกลงด้วยการถามความสมัครใจของเธอก่อนเสมอซึ่งคนที่ชื่นชอบการทำงานเพื่อพัฒนาศักยภาพและชื่อเสียงของตนเองอย่างมินตราเธอตอบรับทุกงานที่พากันติดต่อเข้ามาทำให้ตอนนี้เธอต้องทำงานไปด้วยและเรียนไปด้วย“เหนื่อยไหมคะ ?”สีหน้าอ่อนล้าที่มินตราเผลอแสดงออกมาเพี
“ไม่ร้องนะคะเด็กดีคนพรรคนั้นไม่คู่ควรให้หนูเสียน้ำตาให้เลยสักนิด”มือใหญ่อบอุ่นยกขึ้นลูบแผ่นหลังของมินตราไปมาเบาๆอย่างปลอบโยนในขณะที่มินตราพยายามกลืนก้อนสะอื้นกลับคืนลงไปก่อนจะเงยหน้าที่เปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาขึ้นมองกรรฐ์ที่กำลังทอดสายตาจ้องมองเธออย่างอ่อนโยน“มีนไม่ได้ร้องไห้ให้ผู้ชายคนนั้นสักหน่อยมีนก็แค่สงสารคุณแม่ที่รักผู้ชายคนนั้นหมดใจแต่กลับได้รับการสวมเขาเป็นการตอบแทน”พูดมาถึงตรงนี้น้ำตาเม็ดโตก็พลันไหลกลิ้งลงมาเปรอะแก้มอีกครั้งกรรฐ์จึงทำได้เพียงยกมือขึ้นปาดหยดน้ำตาออกจากแก้มเนียนให้เธออย่างเบามือเท่านั้น“โอ๋ โอ๋ โอ๋ เด็กดีของพี่กรรฐ์ไม่ร้องนะคะไม่ร้องแล้ว”มินตราสูดลมหายใจเข้าลึกๆพยายามข่มกลั้นความเสียใจเอาไว้สุดฤทธิ์จนกระทั่งเบ้าตาแดงก่ำร้อนผ่าวแต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ได้หลั่งน้ำตาออกมาอีกเรื่องมันผ่านมานานแล้วเธอไม่ควรที่จะร้องไห้เสียใจ“อื้อ มีนไม่ร้องแล้วค่ะ”ดวงตาที่บวมช้ำเพราะผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักหน่วงทำให้กรรฐ์รู้สึกสงสารมินตราจับใจก่อนที่เขาจะหยิบผ้าเช็ดหน้าจากกระเป๋ากางเกงออกมาซับน้ำตาให้เธออีกครั้งอย่างอ่อนโยน“เพื่อนๆของมีนล่ะคะไปไหนกันหมดแล้ว ?”เมื่อสติกลับมามิน
รายการ ‘feeling to Share’ ที่มินตราเป็นแขกรับเชิญให้สัมภาษณ์ถูกปล่อยในอาทิตย์ต่อมาหลังรายการจบลงชื่อของเธอถูกค้นหาทันทีทุกช่องทางบรรดาแฟนคลับส่วนใหญ่ที่ไม่ได้สนใจเรื่องคดีความของปรมินทร์ยังคงแชร์ ‘ทัศนคติความรัก’ ของเธอพร้อมคำพูดสนับสนุนมากมายที่ทำให้มินตรารู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างมากเรียกได้ว่าการให้สัมภาษณ์แบบไม่สนใจว่ากระแสจะถูกตีกลับหรือแฟนคลับอาจจะมองเธอในด้านลบทำให้วงการบันเทิงสั่นสะเทือนไม่น้อยนักร้อง นักแสดงแม้กระทั่งนางแบบชื่อดังที่แอบมีความรักต่างทยอยพากันเปิดเผยความหวานฉ่ำให้แฟนคลับของตนเองรับรู้อย่างไม่กลัวชื่อเสียงหรือความนิยมจะลดลงเพราะทุกคนต่างประทับใจในคำพูดของมินตราที่บอกว่า ‘ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะรัก’ ซึ่งความคิดเห็นของแฟนคลับส่วนใหญ่เป็นไปในทิศทางบวกเพจใหญ่หลายเพจต่างออกมาเปิดเผยคู่รักหลายคู่เรียกได้ว่าวงการบันเทิงอบอวลไปด้วยบรรยากาศหอมหวานของความรักเลยทีเดียว“หวานเกินหน้าเกินตาไปปะว่ะมึงพวกกูอิจฉา”ควีนโอดครวญด้วยความช้ำใจก่อนที่จะตักเค้กก้อนใหญ่ยัดเข้าปากด้วยความขุ่นเคืองทำไมคนสวยขาแบบเธอถึงไม่มีคนมาชอบบ้างนะทั้งที่หน้าตาของเธอก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่แต่อย่างใดออกจะสวยแ