Chapter 44
วันรุ่งขึ้นหลังจากที่รับประทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว ลฎาภาก็อยู่เป็นเพื่อนเจ้าตัวกลมเพราะบอกว่าอยากวาดภาพด้วยกันกับเธอ ทั้งยังทำเสียงอ้อนงอแงด้วย ส่วนอวิ่นเยว่นั้นกลับไปที่ห้องทำงานบอกว่ามีงานต้องสะสางให้เสร็จ จวบจนเวลาผ่านไปเกือบเที่ยงเธอจึงปล่อยให้อาหยูนั่งระบายสีอยู่ที่ห้องนั่งเล่นตามลำพังและเดินเข้ามาในครัว ช่วยป้าผ่องเตรียมโต๊ะเพื่อรับประทานอาหารมื้อกลางวัน“วันนี้มื้อเย็นป้าผ่องจะทำอะไรบ้างคะ”หญิงสาวเอ่ยถามขึ้นด้วยความเคยชิน“ป้าทำเสร็จหมดแล้วละเพราะช่วงเย็นป้าไม่อยู่ ลูกสะใภ้ป้าไม่สบายไม่มีใครดูแลหลาน ๆ เลย”“ป้ากลับเลยก็ได้นะคะ เดี๋ยวตรงนี้จอมจัดการเองค่ะ” ลฎาภาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง ทำให้ป้าผ่องมองหญิงสาวอย่างเอ็นดูและคิดว่าคุณเผิงคงเลือกผู้หญิงไม่ผิดแล้วจริง ๆ“เดี๋ยวป้าจัดการครัวและเก็บเสื้อผ้าก่อน ค่อยกลับจ้ะ”ลฎาภาพยักหน้ายิ้มรับขณะที่ยกกับข้าวออกไปวางที่โต๊ะอาหาร“หม่าม้า” อาหยูเดินจ้ำ ๆ เข้ามาหาพลางเอื้อมมือดึงชายเสื้อของเธอหญิงสาวหันไปหาเจ้าตัวกลม &lChapter 45“อวิ่นเยว่ !” อวี้หลันกำมือจิกแน่นด้วยความรู้สึกเจ็บใจ เพราะความเจ็บปวดและรักแทบจะไม่หลงเหลืออยู่ในใจ “ฉันรักคุณค่ะ”อวิ่นเยว่ทำเป็นไม่ได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย เขากุมมือของลฎาภาเดินกลับเข้าไปข้างในทันที“จะไม่คุยกับเธอหน่อยหรือคะ”หญิงสาวเอ่ยถามขึ้นเมื่อเดินเข้ามาในห้องทำงานเขาอวิ่นเยว่คลายมือออกจากมือของเธอโดยที่ไม่หันกลับมา“ไม่มีความจำเป็น”น้ำเสียงเยือกเย็นทำให้ลฎาภารู้สึกตกใจเล็กน้อย ถึงแม้ว่าอยากจะเห็นแก่ตัวมากกว่านี้แต่ผู้หญิงคนนั้นคือแม่ผู้ให้กำเนิดเจ้าตัวกลมออกมาจึงทำใจไม่ลง “แต่เธอเป็นหม่าม้าของอาหยูนะคะ”ชายหนุ่มสะอึกก่อนจะหันมามองหญิงสาว “คุณรู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ?” พอรู้ตัวว่าอารมณ์กำลังขุ่นมัวอยู่ก็คิดได้ว่านั่นเป็นคำถามที่ไม่ควรเอ่ยเลย“สักพักแล้วค่ะ” ลฎาภาพูดต่อไป “เธอเคยมาหาฉัน...เรื่องของคุณ”อวิ่นเยว่มองด้วยสายตาเรียบนิ่ง ก่อนหันหน้าหนีเบือนไปทางอื่น“ผมขอโทษที่ไม่เคยบอกคุณ”นั่นไม่ใช่ประเด็น
Chapter 46วันเวลาล่วงผ่านไปเกือบเดือนอวี้หลันไม่รู้เรื่องข่าวของบริษัทอวิ่นเยว่อีกเลย ทั้งที่พยายามถามแต่เขาไม่ค่อยจะบอก หน้าที่ตอนนี้เป็นเพียงสะใภ้ที่ต้องคอยดูลูกชายเท่านั้นหญิงสาวรู้สึกไม่ค่อยพอใจมากนักเพราะอวิ่นเยว่ดูเหมือนจะทำงานทั้งวันจนไม่มีเวลาให้ อีกทั้งเงินใช้จ่ายที่เคยได้ก็ลดลงไป“ป้าผ่อง คุณแม่ออกไปไหน”“ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ เห็นว่าช่วงเย็น ๆ จะกลับมาค่ะ”หญิงสาวพยักหน้ารับก่อนจะพูดขึ้นต่อไปว่า “ป้าผ่องว่างอยู่ใช่ไหม ? ฉันอยากจะฝากอาหยูไว้สักสามชั่วโมง”“จะออกไปซื้อของใช้เหรอคะ ให้ป้าไปแทนดีกว่าไหม”อวี้หลันมีสีหน้าหงุดหงิด“ไม่ค่ะ ฉันอยากจะออกไปเอง”“ได้ค่ะ เดี๋ยวป้าจะดูแลอาหยูให้เอง” ป้าผ่องตอบรับก่อนที่จะเดินเข้าไปหาเด็กทารกที่นอนอยู่ในแปลของห้องนั่งเล่น ส่วนหญิงสาวมองด้วยสายตารำคาญและใส่รองเท้าเดินออกจากบ้านไปทันทีอวี้หลันเดินออกมาขึ้นรถแท็กซี่เพื่อไปห้างสรรพสินค้า ทั้งที่ก่อนหน้าตั้งใจจะอดทนอีกนิดเพื่อรั้งความสัมพันธ์นี้ไว้ให้ถึงที่สุด ทว่าอวิ่น
Chapter 47“ถ้าไม่มีอะไรแล้วขอตัวก่อนนะคะ” ลฎาภาพูดพร้อมหยิบกระเป๋าและลุกขึ้น ทว่าอวี้หลันลุกขึ้นและเข้ามานั่งเกาะขาไว้ทันที ดวงตากลมเบิกกว้างด้วยความตกใจกับการกระทำของอีกฝ่าย “คุณจะทำอะไร ?!”“ขอร้องนะคะ คืนสามีให้ฉันเถอะค่ะ !”แน่นอนว่าไม่ใช่คำพูดเบา ๆ เหมือนที่สนทนากันก่อนหน้านี้ อวี้หลันจงใจพูดเสียงดังให้พนักงานในร้านและคนที่นั่งอยู่ออกไปไม่ไกลได้ยินอย่างชัดเจนลฎาภาอึ้งและตกใจจนทำอะไรไม่ถูก เมื่อได้สติก็รีบพยายามแกะมือของอีกฝ่ายออกจากขา“คืนครอบครัวของฉันมาเถอะค่ะ ได้โปรด...ฉันแค่อยากอยู่กับลูกและสามีก็เท่านั้น”คำพูดนี้ยิ่งทำให้ลฎาภารู้สึกอายเมื่อคนที่นั่งอยู่ในร้านต่างหันมามอง หล่อนจงใจอยู่แล้วสินะ จงใจให้คนในร้านเห็นราวกับสร้างเรื่องว่าเธอเป็นเมียน้อยที่แย่งสามีมา จนสุดท้ายก็เลิกที่จะยื้อแกะมือของอีกฝ่ายออก“ฉันไม่รู้เหตุผลที่คุณทำแบบนี้นะคะ แต่คุณก็ทิ้งลูกกับสามีไปไม่ใช่เหรอคะ ? ทิ้งให้เขาอยู่ลำพัง...” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงสั่น “คุณไปอยู่ที่ไหนมาคะ ? ทำไมถึงต้องทิ้งลูกตัวเอ
Prologueเธอไม่ควรรักเขาตั้งแต่แรก...หญิงสาวบอกกับตัวเองแบบนั้น ใบหน้าหมองเศร้ามองไปยังต้นไม้และท้องฟ้าที่อยู่เบื้องหน้าแม้ขอบฟ้าตะวันตกดินจะสวยมากขนาดไหนแต่จิตใจที่เจ็บปวดในตอนนี้ไม่ได้ทำให้รู้สึกดีขึ้นเลย ความรู้สึกในใจทรมานจนแทบทำอะไรไม่ถูก ดวงตากลมมองท้องฟ้าสีส้มที่ดวงอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้าไป ก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินไปเรื่อย ๆ อย่างไร้จุดหมาย“แม่หนู...ช่วยยายซื้อหน่อยสิ”หญิงสาวเดินกลับมามองขนมที่เรียงรายอยู่ในกระจาด“ขนมชั้นดอกกุหลาบไหมจ๊ะ”“ไม่ดีกว่าค่ะ หนูเห็นดอกกุหลาบแล้วรู้สึกไม่ค่อยดี”หญิงวัยสี่สิบปลายมองพลางยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น“ขนมใส่ไส้” เธอพูดขึ้นหลังจากนิ่งเงียบอยู่นาน “แล้วก็ขนมตาลค่ะ”“หนูทำงานอยู่แถวนี่เหรอ”“เปล่าค่ะ” เธอตอบด้วยน้ำเสียงแผ่ว “แค่มาเดินเล่นเฉย ๆ ค่ะ”“สามสิบบาทจ้ะ”เธอหยิบเงินจ่ายแล้วเอื้อมมือรับถุงขนมมาจากแม่ค้า“เออ...เดี๋ยวสิหนู เพิ่งมาที่สวนนี้ครั้งแรกใช่ไหม”“คะ ?”“ยายมีเรื่องดี ๆ จะบอก...” ยายขายขนมเว้นวรรคเงียบก่อนพูดต่อไปว่า “ได้ยินมาว่า ศาลข้าง ๆ สวนนี้น่ะศักดิ์สิทธ์มาก ๆ โดยเฉพาะเรื่องความรัก คู่ครอง”หญิงสาวยิ้มราวกับว
Chapter 1แสงตะวันส่องลอดผ่านผ้าม่านในยามเช้าวันหยุด เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นจนน่ารำคาญ หญิงสาวใต้ผ้าห่มขยับตัวเอื้อมมือปิดเสียงก่อนจะซุกตัวลงนอนต่อ ไม่นานนักเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นติดต่อกันหลายครั้ง จำต้องลุกขึ้นจากที่นอนเดินงัวเงียมาเปิดประตู“เมื่อไหร่จะตื่นยะ นอนจนตะวันส่องก้นแล้ว”เสียงแหลมแสบแก้วหูของถลัชนันท์เอ่ยขึ้นมองน้องสาวท้องเดียวกันที่กำลังยกมือขยี้เส้นผมด้วยสีหน้าหงุดหงิด“วันนี้วันหยุดนะ ให้จอมได้นอนซ้อมตายไม่ได้เหรอ ?” ลฎาภาตอบกลับด้วยน้ำเสียงงัวเงีย ตาทั้งสองข้างยังลืมขึ้นไม่เต็มตื่น“ใช่ ! วันหยุด แต่แกไม่คิดจะตื่นมาออกกำลังกาย ไปเดินเล่นนอกจากนอนอืดอยู่ในห้องหรือไงฮะ !”คนฟังถอนหายใจออกมาก่อนจะเอื้อมมือปิดประตูแต่คนเป็นพี่รั้งเอาไว้และมองด้วยสายตาขุ่นเคือง“การนอนเป็นปัจจัยที่สำคัญพี่รู้ไหม ? ทำให้ไม่แก่เร็ว”ถลัชนันท์ถลึงตาใส่ทันที เพราะคำว่า ‘แก่’ นั้นกระทบเต็ม ๆ“รีบอาบน้ำแล้วลงมาซะ” คนเป็นพี่กัดฟันพูดส่งสายตามองน้องสาวก่อนจะหมุนตัวเดินจากไปทันที ขณะที่ลฎาภานั้นมองและยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจแล้วปิดประตูห้องลง เธอเดินกลับเข้ามาในห้องพลางถอนหายใจออกมา ส่งสายตามองไปยังโต๊
Chapter 2หลังจากที่เดินซื้อของรวมถึงแวะรับประทานอาหารมื้อเย็นเสร็จ กว่าจะกลับถึงบ้านก็เกือบสองทุ่ม หญิงสาวทั้งสองช่วยกันขนของจากท้ายรถเดินเข้ามาวางไว้บนโต๊ะในห้องครัว“เดือนหน้าที่บริษัทมีวันหยุดยาวจะกลับบ้านไหม ?” ถลัชนันท์เอ่ยถามขึ้นขณะที่วางของ“จริง ๆ วันหยุดยาวมีตั้งแต่วันนี้และยาวไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะหางานใหม่ได้” หญิงสาวตอบกลับพลางหยิบของที่ซื้อมาจัดใส่เข้าตู้เย็น“อย่าบอกนะว่าเข้ากับเพื่อนร่วมงานไม่ได้ ?”“ใช่ที่ไหนล่ะ เพื่อนที่นี่ดีทุกคนแหละ แต่เดินทางไกล งานก็หนักเงินก็น้อย” หญิงสาวพูดพลางถอนหายใจออกมาเสียงดัง หันหน้ามามองพี่แล้วพูดต่อไปว่า “ก็มันกลับดึกนี่ ก็รู้ว่าขนาดวันหยุดบางทียังต้องเข้าไปเก็บผลการทดลองที่ทำค้างไว้เลย มันเหนื่อยและจอมก็อยากทำงานที่ขึ้นตำแหน่งสูงมากกว่านี้ได้ด้วย”“แล้วบอกแม่หรือยัง ?”ลฎาภาส่ายหน้าทันที “มีหวังให้กลับมาช่วยทำงานที่บ้านแน่ ๆ”คนเป็นพี่ยิ้มหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินคำตอบ แน่นอนว่ารู้นิสัยของน้องสาวดีที่ไม่ชอบกลับไปทำงานรีสอร์ทที่บ้านเกิด เพราะต้องรับมือกับแขกเดาไม่ได้และรวมถึงเธอด้วย“แต่แกจะมานั่ง ๆ นอน ๆ แบบนี้โดยไม่หางานทำไม่ได้นะ”ลฎาภามอ
Chapter 3“ทำ…ไม…ฮือ ๆ …”“พี่อาร์ตบอกเลิกเหรอ”ลฎาภาเอ่ยถามเสียงแผ่วพลางส่งสายตามองพี่สาว ก่อนจะลุกขึ้นจากโซฟาเดินเข้าไปหา พี่สาวเอาแต่ร้องไห้ออกมา ครั้นจะพูดก็พูดไม่รู้เรื่อง แม้จะพยายามกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้เพื่อที่จะพูดมันออกมา“เขานอกใจ…คนเลว…ฮือ ๆ…”ลฎาภาก้าวมาใกล้ดึงพี่สาวเข้ามากอดเพื่อปลอบประโลมโดยไม่ถามอะไรเป็นการซ้ำเติม“ถ้าอยากจะร้องไห้ วันนี้ก็เสียใจให้สุด ๆ ไปเลยนะ แค่วันเดียว”หญิงสาวปลอบพลางใช้มือลูบหลัง เธอรู้ดีว่าแฟนหนุ่มปัจจุบันที่คบกันอยู่นั้นพี่สาวจริงจังมากถึงขั้นอยากแต่งงานสร้างครอบครัวด้วยกัน แต่เป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว อย่างน้อยก็รู้ว่าเขานอกใจก่อนที่จะแต่งงาน“จอม…พี่รักเขานะ…ฮือ…พี่ยังรักเขา”ลฎาภาได้แค่เงียบเพราะไม่เคยมีแฟนจึงไม่เข้าใจความรู้สึกนี้เท่าไหร่“เขานอกใจ…พี่…มะ…มาตลอดหนึ่งปี...”หญิงสาวฟังแล้วรู้สึกขุ่นเคืองแทนเพราะว่าตลอดห้าปีที่ผ่านมาพี่สาวของหล่อนไม่เคยนอกใจฝ่ายชายเลยสักนิด แม้จะมีผู้ชายมากมายเข้ามาจีบหรือขอคุยด้วยแก้เหงาก็ตาม“จำที่แม่เคยบอกได้ไหม ? ผู้ชายที่รักจริง จะไม่มีวันนอกใจเด็ดขาด”คำนี้ถลัชนันท์ไม่เคยลืม ทว่าหัวใจข้างในจุกจนแทบหายใจไม่ออก
Chapter 4ลฎาภายกมือบีบกำแน่น ลูบใบหน้าแล้วเดินไปเดินมาในห้องน้ำสี่เหลี่ยมเพราะยังออกไปไหนไม่ได้ เป็นเวลาหลายนาทีจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาดูเวลาและข้อความที่เข้ามา แต่ก็ยังมีคนเข้ามาอยู่เรื่อยๆ ทำให้ยังไม่สามารถเปิดประตูออกไป สิบนาทีผ่านไปหลังจากที่นั่งอยู่บนฝาชักโครก เธอหันไปวางโทรศัพท์บนชักโครกรวมถึงเอกสาร แล้วลุกขึ้นแนบหูกับประตู เพื่อฟังเสียงฝีเท้าอีกครั้งหนึ่ง จนกระทั่งมีเสียงก๊อกเปิดล้างมือแล้วจึงก้มมองเงาที่ผ่านออกไป...รอจนกระทั่งทุกอย่างในห้องน้ำไม่มีเสียงลฎาภาหยิบกระเป๋าแล้วค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออกส่งสายตามองผ่านช่อง เมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่เธอจึงเปิดประตูออก ทว่า...“เฮ้ย...!!”เสียงอุทานดังขึ้นทำให้ลฎาภาตกใจและรีบก้มหน้าลงทันทีก่อนจะรีบหันตัวและวิ่งออกจากห้องน้ำไป แต่ก็ไม่ระวังเพราะมัวแต่ตกใจและอายจึงชนกับคนที่กำลังเดินเข้ามาในห้องน้ำ“ผม...เข้าห้องผิด ?”ชายหนุ่มเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแปลกใจพลางเดินถอยหลังดูสัญลักษณ์ข้างหน้าอีกครั้ง ทว่าคนชนทำอะไรไม่ถูกเพราะรู้สึกอายจนอยากจะแทรกแผ่นดินหนี“มะ...ไม่ค่ะ ขอโทษค่ะ
Chapter 47“ถ้าไม่มีอะไรแล้วขอตัวก่อนนะคะ” ลฎาภาพูดพร้อมหยิบกระเป๋าและลุกขึ้น ทว่าอวี้หลันลุกขึ้นและเข้ามานั่งเกาะขาไว้ทันที ดวงตากลมเบิกกว้างด้วยความตกใจกับการกระทำของอีกฝ่าย “คุณจะทำอะไร ?!”“ขอร้องนะคะ คืนสามีให้ฉันเถอะค่ะ !”แน่นอนว่าไม่ใช่คำพูดเบา ๆ เหมือนที่สนทนากันก่อนหน้านี้ อวี้หลันจงใจพูดเสียงดังให้พนักงานในร้านและคนที่นั่งอยู่ออกไปไม่ไกลได้ยินอย่างชัดเจนลฎาภาอึ้งและตกใจจนทำอะไรไม่ถูก เมื่อได้สติก็รีบพยายามแกะมือของอีกฝ่ายออกจากขา“คืนครอบครัวของฉันมาเถอะค่ะ ได้โปรด...ฉันแค่อยากอยู่กับลูกและสามีก็เท่านั้น”คำพูดนี้ยิ่งทำให้ลฎาภารู้สึกอายเมื่อคนที่นั่งอยู่ในร้านต่างหันมามอง หล่อนจงใจอยู่แล้วสินะ จงใจให้คนในร้านเห็นราวกับสร้างเรื่องว่าเธอเป็นเมียน้อยที่แย่งสามีมา จนสุดท้ายก็เลิกที่จะยื้อแกะมือของอีกฝ่ายออก“ฉันไม่รู้เหตุผลที่คุณทำแบบนี้นะคะ แต่คุณก็ทิ้งลูกกับสามีไปไม่ใช่เหรอคะ ? ทิ้งให้เขาอยู่ลำพัง...” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงสั่น “คุณไปอยู่ที่ไหนมาคะ ? ทำไมถึงต้องทิ้งลูกตัวเอ
Chapter 46วันเวลาล่วงผ่านไปเกือบเดือนอวี้หลันไม่รู้เรื่องข่าวของบริษัทอวิ่นเยว่อีกเลย ทั้งที่พยายามถามแต่เขาไม่ค่อยจะบอก หน้าที่ตอนนี้เป็นเพียงสะใภ้ที่ต้องคอยดูลูกชายเท่านั้นหญิงสาวรู้สึกไม่ค่อยพอใจมากนักเพราะอวิ่นเยว่ดูเหมือนจะทำงานทั้งวันจนไม่มีเวลาให้ อีกทั้งเงินใช้จ่ายที่เคยได้ก็ลดลงไป“ป้าผ่อง คุณแม่ออกไปไหน”“ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ เห็นว่าช่วงเย็น ๆ จะกลับมาค่ะ”หญิงสาวพยักหน้ารับก่อนจะพูดขึ้นต่อไปว่า “ป้าผ่องว่างอยู่ใช่ไหม ? ฉันอยากจะฝากอาหยูไว้สักสามชั่วโมง”“จะออกไปซื้อของใช้เหรอคะ ให้ป้าไปแทนดีกว่าไหม”อวี้หลันมีสีหน้าหงุดหงิด“ไม่ค่ะ ฉันอยากจะออกไปเอง”“ได้ค่ะ เดี๋ยวป้าจะดูแลอาหยูให้เอง” ป้าผ่องตอบรับก่อนที่จะเดินเข้าไปหาเด็กทารกที่นอนอยู่ในแปลของห้องนั่งเล่น ส่วนหญิงสาวมองด้วยสายตารำคาญและใส่รองเท้าเดินออกจากบ้านไปทันทีอวี้หลันเดินออกมาขึ้นรถแท็กซี่เพื่อไปห้างสรรพสินค้า ทั้งที่ก่อนหน้าตั้งใจจะอดทนอีกนิดเพื่อรั้งความสัมพันธ์นี้ไว้ให้ถึงที่สุด ทว่าอวิ่น
Chapter 45“อวิ่นเยว่ !” อวี้หลันกำมือจิกแน่นด้วยความรู้สึกเจ็บใจ เพราะความเจ็บปวดและรักแทบจะไม่หลงเหลืออยู่ในใจ “ฉันรักคุณค่ะ”อวิ่นเยว่ทำเป็นไม่ได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย เขากุมมือของลฎาภาเดินกลับเข้าไปข้างในทันที“จะไม่คุยกับเธอหน่อยหรือคะ”หญิงสาวเอ่ยถามขึ้นเมื่อเดินเข้ามาในห้องทำงานเขาอวิ่นเยว่คลายมือออกจากมือของเธอโดยที่ไม่หันกลับมา“ไม่มีความจำเป็น”น้ำเสียงเยือกเย็นทำให้ลฎาภารู้สึกตกใจเล็กน้อย ถึงแม้ว่าอยากจะเห็นแก่ตัวมากกว่านี้แต่ผู้หญิงคนนั้นคือแม่ผู้ให้กำเนิดเจ้าตัวกลมออกมาจึงทำใจไม่ลง “แต่เธอเป็นหม่าม้าของอาหยูนะคะ”ชายหนุ่มสะอึกก่อนจะหันมามองหญิงสาว “คุณรู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ?” พอรู้ตัวว่าอารมณ์กำลังขุ่นมัวอยู่ก็คิดได้ว่านั่นเป็นคำถามที่ไม่ควรเอ่ยเลย“สักพักแล้วค่ะ” ลฎาภาพูดต่อไป “เธอเคยมาหาฉัน...เรื่องของคุณ”อวิ่นเยว่มองด้วยสายตาเรียบนิ่ง ก่อนหันหน้าหนีเบือนไปทางอื่น“ผมขอโทษที่ไม่เคยบอกคุณ”นั่นไม่ใช่ประเด็น
Chapter 44วันรุ่งขึ้นหลังจากที่รับประทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว ลฎาภาก็อยู่เป็นเพื่อนเจ้าตัวกลมเพราะบอกว่าอยากวาดภาพด้วยกันกับเธอ ทั้งยังทำเสียงอ้อนงอแงด้วย ส่วนอวิ่นเยว่นั้นกลับไปที่ห้องทำงานบอกว่ามีงานต้องสะสางให้เสร็จ จวบจนเวลาผ่านไปเกือบเที่ยงเธอจึงปล่อยให้อาหยูนั่งระบายสีอยู่ที่ห้องนั่งเล่นตามลำพังและเดินเข้ามาในครัว ช่วยป้าผ่องเตรียมโต๊ะเพื่อรับประทานอาหารมื้อกลางวัน“วันนี้มื้อเย็นป้าผ่องจะทำอะไรบ้างคะ”หญิงสาวเอ่ยถามขึ้นด้วยความเคยชิน“ป้าทำเสร็จหมดแล้วละเพราะช่วงเย็นป้าไม่อยู่ ลูกสะใภ้ป้าไม่สบายไม่มีใครดูแลหลาน ๆ เลย”“ป้ากลับเลยก็ได้นะคะ เดี๋ยวตรงนี้จอมจัดการเองค่ะ” ลฎาภาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง ทำให้ป้าผ่องมองหญิงสาวอย่างเอ็นดูและคิดว่าคุณเผิงคงเลือกผู้หญิงไม่ผิดแล้วจริง ๆ“เดี๋ยวป้าจัดการครัวและเก็บเสื้อผ้าก่อน ค่อยกลับจ้ะ”ลฎาภาพยักหน้ายิ้มรับขณะที่ยกกับข้าวออกไปวางที่โต๊ะอาหาร“หม่าม้า” อาหยูเดินจ้ำ ๆ เข้ามาหาพลางเอื้อมมือดึงชายเสื้อของเธอหญิงสาวหันไปหาเจ้าตัวกลม &l
Chapter 43เจ้าตัวกลมสะดุ้งและพยักหน้าหงึก ๆ เป็นการตกลงอย่างปฏิเสธไม่ได้ ในเมื่อสีหน้าของป๊ะป๋าน่ากลัวกว่าคุณปีศาจซะอีกอวิ่นเยว่ยิ้มอย่างพึงใจก่อนหันมาพูดกับหญิงสาว“คุณนั่งรออยู่แถวนี้ก่อนก็ได้”“คุณจะไปไหนคะ ?” ลฎาภาเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัยชายหนุ่มยิ้มที่มุมปาก “ผมจะไปซื้อคุณหมีให้อาหยู”“ให้ฉันไปช่วยไหมคะ ?”อวิ่นเยว่ส่ายหน้า “ผมฝากคุณดูอาหยูสักพักแล้วจะรีบมา”“ได้ค่ะ” ลฎาภาตอบรับขณะเขาพยักหน้าและเดินกลับเข้าไปในย่านซื้อของฝากทันทีทางด้านอาหยูพอป๊ะป๋าตอบรับว่าจะซื้อให้ก็ไม่ได้ดีใจ ตรงข้ามกันกลับงอนแก้มป่องควันออกหูอีก ลฎาภาสังเกตเจ้าตัวกลมก้มนั่งนิ่งแล้วยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดูเธอยกมือลูบศีรษะของเด็กน้อย ขณะที่เจ้าตัวกลมหันมองและก้มหน้าซบลงที่ตักเป็นเชิงอ้อน“หม่าม้ารักอาหยูไหม”ลฎาภาชะงักมองอาหยูที่เงยหน้าส่งสายตารอคำตอบ“รักสิ” เธอตอบพลางใช้มือขยี้เส้นผมของเจ้าตัวกลม“ก็อาหยูน่ารักนี่นา”เจ้าตั
Chapter 42‘ได้โปรดให้ฉันได้พบเขานะคะ’‘คืนเขาให้ฉันนะคะ ได้โปรด...คืนครอบครัวให้ฉันนะคะ’หญิงสาวยกมือขึ้นปิดเสียงที่ดังขึ้นผ่านเข้ามาในหูจนไม่อาจทนรับได้อีกทั้งความเจ็บปวดที่ไม่เข้าใจตัวเอง ทั้งความเศร้าที่ไม่สามารถรับไหว แววตาสั่นระริกด้วยความหวาดกลัวและสับสน หยดน้ำตาไหลออกมาไม่รู้ตัว มือที่ปิดหูอยู่คลายออกเมื่อเสียงนั้นหายไป‘คุณยังรักเธอไหมคะ ?’เสียงของเธอ ไม่ผิดแน่ !แววตาลฎาภาสั่นระริกเมื่อได้ยินเสียงของตัวเองก้องในหู เธอหลับตาลง อยากหนีไปให้ไกล หากคำถามนี้เป็นคำถามที่ถามเขาเพื่อให้เลือกระหว่างเธอกับอวี้หลันแล้ว ไม่อยากรับรู้ ...หญิงสาวส่ายหน้าหนี ขยับตัวขึ้นจากบ่อน้ำพลางเอื้อมมือหยิบผ้าขนหนู แต่จู่ ๆ ทุกอย่างรอบกายกลับกลายเป็นสีดำมืดมิดไปหมด เธอก้มลงมองร่างกายที่สวมเสื้อผ้าชุดทำงานที่ใส่ประจำเต็มไปด้วยเลือดสีแดง !ลฎาภาไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ดวงตากลมสั่นระริกมองไปยังความมืดเป็นแค่ความฝันเท่านั้น ! นี่คงเป็นความฝันของเธอพื้นที่มืดมิดจนมองไม่เห็นแสง แม้สองเท้าจะพยายามก้าวเดินไปข
Chapter 41เพราะเหนื่อยจากการเดินทางในช่วงเช้าจึงไม่ได้ไปไหนนอกจากอยู่ที่พัก จนกระทั่งตะวันเริ่มลับขอบฟ้า เสียงร้องประท้วงถึงอาหารมื้อเย็นก็ดังขึ้นเป็นระยะ ๆ จากเจ้าตัวกลมที่เพิ่งนอนตื่นขยับตัวลุกขึ้นจากโซฟาเดินออกมาหาลฎาภาที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ริมระเบียงด้วยท่าทางงัวเงีย“หม่าม้า”ลฎาภาละสายตาจากหนังสือวางไว้บนตักก่อนจะหันมาหาเจ้าตัวกลม“อาหยูหิวแล้วใช่ไหม ?”อาหยูพยักหน้าพลางใช้มือลูบท้องน้อยหญิงสาวขยับตัวลุกขึ้นและพาเจ้าตัวกลมเดินเข้ามาด้านใน “อาหยูรอตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวหม่าม้าจะไปเรียกป๊ะป๋าก่อน”เมื่อพูดจบลฎาภาก็เดินไปเปิดประตูห้องนอน ดวงตากลมมอง ชายหนุ่มนั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะโซฟาตัวเล็ก ใบหน้าคมขรึมจดจ้องกับงานตรงหน้า เธอหันปิดประตูและเดินเข้าไปอย่างเงียบ ๆชายหนุ่มรู้ว่าหญิงสาวเดินเข้ามาจึงละสายตาขึ้น “ขอโทษผมทำงานจนลืมเวลา”ลฎาภามองใบหน้าภายใต้กรอบแว่นสีดำเป็นครั้งแรก คงเป็นเพราะเขานั่งทำงานล้ามาทั้งวัน ทั้งยังต้องจ้องแสงไฟจากโทรศัพท์และจอโน้ตบุ๊กเป็นเวลานานอวิ่นเยว่ปิดหน้าจอโน้ต
Chapter 40เธอมองเขาก่อนหลบสายตา “ไม่มีอะไรค่ะ”อวิ่นเยว่ไม่ได้ถามต่อแต่ก็จ้องมองเธอกระทั่งลฎาภาเงยหน้าขึ้นสบตา“ผมเป็นห่วงคุณ”ดวงตากลมมองชายหนุ่มด้วยความรู้สึกที่เอ่อล้นอย่างบอกไม่ถูก ความปรารถนาและเสียงเรียกร้องภายในใจผลักดันให้ก้าวเข้าไปหาชายหนุ่มเขย่งปลายเท้ายื่นใบหน้าไปประทับริมฝีปากที่ปากของชายหนุ่ม“ขอโทษค่ะ” เธอผละออกยกมือขึ้นสัมผัสที่ปากตัวเอง ไม่คิดว่าจะเผลอสติหลุดถึงขนาดนี้อวิ่นเยว่ยิ้มมุมปากเอื้อมมือคว้าแขนของหญิงสาวแล้วดึงเข้ามาประชิดที่ตัวเขา ลฎาภาเบิกตากว้างด้วยความตกใจพลางยกมือดันแผ่นอกแกร่งออกห่าง ทว่าชายหนุ่มกลับใช้มืออีกข้างรั้งตัวเธอเข้ามาแนบชิด ก่อนโน้มใบหน้าลงประทับจุมพิตที่ริมฝีปากอิ่มในทันทีมือเรียวเล็กที่ออกแรงดันเขาออกหยุดลงเมื่อริมฝีปากประทับลงจูบอย่างอ่อนโยน ลฎาภาหลับตาพริ้มรับสัมผัสและการเล้าโลมเพียงเล็กน้อย นั่นอาจเป็นเพราะความรู้สึกที่อยู่ในใจของเธอทำให้ไม่ต่อต้านหรือขัดขืนเลยสักนิด หากเพียงแต่เป็นความจริงและได้อยู่ในอ้อมกอดเขาแบบนี้นานอีกหน่อย...เนิ่นนานกว่าที่อวิ่นเยว่จะปล่อยเธ
Chapter 39เวลาผ่านไปจนกระทั่งหญิงสาวรับประทานอาหารจนเกือบหมดจานจึงวางช้อน—ส้อมลง เอื้อมมือดื่มน้ำก่อนจะใช้ผ้าเช็ดปากพลางขยับตัวลุกขึ้น“เดี๋ยวฉันไปห้องน้ำก่อนนะคะ”อวิ่นเยว่พยักหน้ารับรู้ขณะที่เธอเดินออกมาลฎาภาเดินตรงไปยังห้องน้ำที่อยู่อีกทางกระทั่งปิดประตูห้องน้ำลง เสียงถอนหายใจออกมาอย่างหนักก็ดังขึ้นเป็นระยะ เธอไม่ได้อยากทำธุระส่วนตัวหรอกเพียงแค่อยากใช้เวลาเงียบ ๆ สักพัก เพื่อเรียกและทวนสติของตัวเองกลับคืนมาคำพูดของอวี้หลันทำให้เธอตัดสินใจไม่ถูก แม้จะอยู่กับเขาแล้วมีความสุข ทว่าแวบหนึ่งของจิตใต้สำนึกก็รู้สึกผิดขึ้นมา คิดถึงเรื่องนี้อยู่ ๆ น้ำตาก็ไหล ความรู้สึกจุกอยู่ที่อกจนหายใจไม่ออก ความรู้สึกบางอย่างพรั่งพรูจนหญิงสาวเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคืออะไร...รู้เพียงว่าเจ็บปวด เศร้าและทรมานนิ้วปาดน้ำตาบนใบหน้า พลางกลั้นเสียงสะอื้นดังออกมาเป็นระยะ เป็นเวลานานเกือบสิบนาทีกว่าที่จะหยุดร้องและปรับสีหน้า ลฎาภาสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เอื้อมมือหยิบกระเป๋าสะพายที่แขวนอยู่ตรงประตูก่อนจะเปิดประตูออกมา ดวงตากลมเบิกกว้างเล็กน้อยด้วยความตกใจที่มีผู้หญิง