Chapter 33
ช่วงเที่ยงของวันทำงานหลังจากที่อวิ่นเยว่รับประทานอาหารเสร็จแล้ว ยังพอมีเวลาเหลือที่จะนัดพบเจอหน้าหญิงสาวบ้างจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพิมพ์ส่งข้อความหาทันที ถึงแม้จะผ่านมาหลายวันแล้วตั้งแต่ที่พูดว่า ‘มาเป็นหม่าม้าของอาหยูได้ไหม ?’ แน่นอนว่ายังไม่ได้คำตอบในทันที และคราวนี้ไม่ได้ใจร้อนเร่งรัดเธอด้วย เพียงแต่พยายามเฝ้ารอและค่อย ๆ ขยับเข้าหาทีละน้อยลฎาภาเดินเข้ามาหาอวิ่นเยว่หลังจากที่ได้รับข้อความว่าให้ขึ้นมาคุยกันบนดาดฟ้า อันที่จริงเธอก็ลังเลอยู่ว่าควรจะมาพบดีไหม...“มีอะไรหรือเปล่าคะ ?” ลฎาภาเอ่ยถามขึ้นอวิ่นเยว่ยื่นกาแฟส่งให้ขณะหันหลังพิงกับระเบียงดาดฟ้าลฎาภามองก่อนเอื้อมมือรับ “ฉันต้องกลับไปทำงาน...”“ยังไม่หมดเวลาพักเที่ยง” อวิ่นเยว่ส่งสายตามอง นี่เป็นครั้งแรกที่เขานัดเธอออกมาพบในตอนเที่ยง เจอหน้ากันเพียงไม่กี่นาทีก็ยังดีกว่าไม่ได้เจอ พอเธอเข้าเวลางานแล้วคงไม่มีเวลามาคุยกับเขา อีกทั้งเย็นนี้ก็ไม่ได้เจอกัน“เย็นนี้ผมให้ป้าผ่องไปรับอาหยู” ชายหนุ่มเกริ่นขึ้น พลางถอนหายใจออกมาอย่างเสีChapter 34“คือ...ที่ฉันขอพบคุณก็อยากให้คุณช่วยค่ะ” อวี้หลันเข้าประเด็นทันที เธอวางช้อนส้อมมองลฎาภาด้วยสายตาอ้อนวอน “คือฉันอยากปรับความเข้าใจกับเขาค่ะ อยากให้คุณช่วยนัดอวิ่นเยว่มาพบฉันได้ไหมคะ”ลฎาภาอ้ำอึ้งด้วยความรู้สึกลำบาใจ ส่วนหนึ่งเพราะไม่อยากเข้าไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของอวิ่นเยว่ อีกส่วนไม่อยากให้เจอกัน เธอไม่รู้ว่าเรื่องผิดใจนั้นคือเรื่องอะไร แต่ความรู้สึกกลับบอกว่า...ผู้หญิงคนนี้อันตราย“ฉันก็อยากจะช่วยนะคะ แต่...” ลฎาภาพูดเว้นวรรคพลางสูดหายใจเข้าลึก ๆ ส่งสายตามอง “เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวค่ะ ฉันไม่อยากเข้าไปยุ่ง”อวี้หลันมองด้วยสายตาไม่พอใจแต่ก็ฝืนแสร้งยิ้มให้อีกฝ่าย “คุณไม่สนิทกับอวิ่นเยว่เหรอคะ ? ฉันคิดว่าถ้าคุณพูดเขาอาจจะยอมมา”ผู้หญิงคนนี้ต้องการอะไรกันแน่ !ลฎาภาชักเริ่มไม่ไว้ใจอีกฝ่ายเพราะคำพูดที่สื่อออกมา“ฉันว่าคุณน่าจะพบเขาเองมากกว่ามาหาฉัน” ลฎาภาพูดก่อนหยิบเงินจำนวนหนึ่งวางไว้บนโต๊ะ แล้วหยิบกระเป๋าก่อนลุกขึ้น “ขอโทษนะคะ ฉันคงทำตามที่คุณขอไม่ได้ แล้วฉันกั
Chapter 35ลฎาภาหลับตาปี๋และรีบผละออกพลางก้มหน้าหลบด้วยความเขินอายชายหนุ่มยืนอึ้งพลางยกมือขึ้นแตะริมฝีปากแล้วหัวเราะในลำคอ“นั่นคือคำตอบของคุณ ?”อวิ่นเยว่คลี่ยิ้มที่มุมปากพลางดึงเธอเข้ามากอด มือข้างหนึ่งล็อกไม่ให้ถอยหนี ก่อนโน้มใบหน้าลงจุมพิตประทับที่หน้าผากแผ่วเบา แก้มทั้งสองข้างของเธอแดงก่ำจนต้องยกมือขึ้นปิดเพราะเขินอายเกินกว่ารับไหว ทว่าเขาไม่ยอมให้ทำตามต้องการอวิ่นเยว่เชยคางบังคับลฎาภาขึ้นให้สบตาเธอกลอกตาไปมา พยายามบ่ายเบี่ยงหนี “อา...หยู กำลังระ…”ริมฝีปากของอวิ่นเยว่ประทับลงโดยไม่ให้อีกฝ่ายตั้งตัว หญิงสาวตกใจทว่าเสียงร้องข้างในใจก็ตัดสินให้ตอบรับความต้องการของตัวเองชายหนุ่มบดจูบคลอเคลียเป็นเวลานานจนเธอเริ่มรู้สึกว่ากำลงขาดอากาศหายใจ เพียงแค่เผยอปากรับอากาศเข้าไปกลับกลายเป็นเปิดโอกาสให้เขารุกล้ำเข้ามา ดวงตากลมเบิกกว้างตกใจเมื่อรู้สึกว่าลิ้นของเธอกับเขากำลังสัมผัสถึงกัน !ไม่นะ ! แบบนี้มัน...อวิ่นเยว่ถอนริมฝีปากออกด้วยความเสียดายเมื่อรู้สึกถึงแรงน้อย ๆ ที่พยายามผลักออก เขาจูบที่ขมับอีกครั้งขณะ
Chapter 36แสงแดดช่วงบ่ายสี่โมงส่องจ้าเข้ามาภายในตัวบ้านฝั่งห้องครัว มือสองข้างของหญิงสาวขะมักเขม้นกับการเตรียมอาหารมื้อเย็น สำหรับเธออาจจะกลายเป็นความเคยชินแล้วก็ได้ที่เข้าครัวทำอาหารให้เขาและเจ้าตัวกลม ทั้งก่อนหน้านี้ตอนอาศัยอยู่บ้านเช่ากับพี่สาว ก็ไม่ใช่คนที่ทำอาหารมื้อเย็นตรงเวลา หรือถ้าพี่สาวไม่กลับมากินด้วยก็บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปสองห่อเป็นมื้อเย็นลฎาภาล้างผักเสร็จแล้วจึงหยิบกระทะและหม้อมาตั้งที่เตาเตรียมประกอบอาหารมื้อเย็น เธอหันตัวไปมาหยิบของบนโต๊ะจนกระทั่งรู้สึกว่ามีสายตาจ้องมองอยู่จึงเงยหน้าไปมองเจ้าตัวกลมชะเง้อคอออกมาจากทางหลังกำแพง ดวงตาแววเป็นประกาย ลฎาภาหันกลับไปปิดเตาแก๊สแล้วเดินมาหา โน้มตัวลงมา“หิวแล้วเหรอ”อาหยูส่ายหน้าเป็นคำตอบ “อาหยูอยากทำกับข้าวกับหม่าม้าด้วย”น้ำเสียงสดใสดูมีความหวังของเจ้าตัวกลมทำให้ลฎาภาลำบากใจที่จะตอบปฏิเสธไปไม่น้อย เพราะแววตาดูอ้อนเหลือเกิน“อาหยู” เสียงเข้มของอวิ่นเยว่เอ่ยขึ้นขณะเดินเข้ามาหา เจ้าตัวกลมเงยหน้ามองส่งสายตาด้วยคำถาม “ป๊ะป๋าจะช่วยหม่าม้าทำเอง ไปนั่งรอก่
Chapter 37เสียงคลื่นกระทบเข้าชายฝั่งช่วงบ่ายสองของวันหยุด ถลัชนันท์ขยับตัวไปมากลิ้งนอนอยูในห้องพักตั้งแต่มาถึงช่วงสาย ฮันนีมูน…เมื่อได้ยินว่าต้องไปเพราะถูกแม่สามีในนามบังคับมาจึงขัดอะไรไม่ได้ดวงตากลมมองผ่านหน้าต่างจากในห้องไปยังชายหาดของจังหวัด M แสงอาทิตย์สะท้อนกับพื้นน้ำเห็นเป็นประกาย หญิงสาวขยับตัวลุกขึ้นหยิบเสื้อคลุมแล้วเดินออกมานั่งตากลมที่ริมระเบียงบ้านพัก ครั้นหันไปมองบ้านพักหลังข้าง ๆ เห็นศรันภัทรกำลังนั่งจิบกาแฟอ่านหนังสือพิมพ์อย่างสบายใจฮันนี่มูน เหอะ ! นี่มันเหมือนมาเที่ยวคนเดียวมากกว่าถลัชนันท์มองชายหนุ่มด้วยสายตาขุ่นเคือง เพราะทันทีที่มาถึงที่พักเขาก็บอกว่าเปิดจองบ้านพักอีกหลังแยกไว้แล้ว เธอจ้องมองเขาอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในบ้านพักทางด้านศรันภัทรเงยหน้าขึ้นพอดีมองเห็นหญิงสาวขึงตามองใส่ก่อนเดินกลับเข้าไปด้านใน เขาไหวไหล่เล็กน้อยแล้วเอื้อมมือหยิบแก้วกาแฟขึ้นจิบอย่างสบายใจไม่นานนักเสียงข้อความโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เขาจึงละสายตาจากหนังสือพิมพ์ตรงหน้าเอื้อมมือหยิบขึ้นมาเปิดอ่านแววตาของชายหนุ่มเปลี่ยนไปเมื่อได้อ่านข้อ
Chapter 38“งั้นพวกพี่ไปก่อนนะ”ลฎาภาพยักหน้าตอบรับก่อนที่ทุกคนจะเดินไป“มีอะไรคะ” น้ำเสียงของลฎาภาดูไม่เต็มใจที่จะถามเท่าไหร่ เพียงมองใบหน้าของผู้หญิงคนนี้ในใจก็รู้สึกหวาดกลัวและสังหรณ์ไม่ค่อยดี“เราไปกินข้าวแล้วคุยไปไหมคะ”“ไม่ค่ะ” ลฎาภาปฏิเสธทันที “ไปที่ร้านกาแฟดีกว่าค่ะ”อวี้หลันฉีกยิ้มหวานให้ก่อนเดินนำไปทันที ส่วนลฎาภาเดินตามขณะที่ครุ่นคิดไปด้วย ไม่รู้ว่าคราวนี้จะมาขอร้องให้ช่วยอะไรอีกเธอจะดูเห็นแก่ตัวไปไหมนะ ? ถ้าปฏิเสธไปอีกครั้งลฎาภาผลักประตูเข้ามาในร้านกาแฟ มือของเธอจับไว้ให้อวี้หลันเดินตามเข้ามา ก่อนจะพากันไปนั่งในมุมที่เงียบหลังจากสั่งกาแฟมาดื่มแล้ว ในตอนนี้อีกฝ่ายยังไม่เปิดประเด็นพูดคุยทันที กลับเอาแต่นั่งนิ่งจิบกาแฟไปอย่างใจเย็น“มีอะไรหรือเปล่าคะ” ลฎาภาเอ่ยถามขึ้น“ฉันก็แค่...” อวี้หลันก้มหน้าต่ำลงพลางสูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะพูดต่อไปว่า “อยากขอให้คุณช่วยให้ฉันคืนดีกับอวิ่นเยว่ค่ะ”“ในฐานะเพื่อนเหรอคะ” ลฎาภาถ
Chapter 39เวลาผ่านไปจนกระทั่งหญิงสาวรับประทานอาหารจนเกือบหมดจานจึงวางช้อน—ส้อมลง เอื้อมมือดื่มน้ำก่อนจะใช้ผ้าเช็ดปากพลางขยับตัวลุกขึ้น“เดี๋ยวฉันไปห้องน้ำก่อนนะคะ”อวิ่นเยว่พยักหน้ารับรู้ขณะที่เธอเดินออกมาลฎาภาเดินตรงไปยังห้องน้ำที่อยู่อีกทางกระทั่งปิดประตูห้องน้ำลง เสียงถอนหายใจออกมาอย่างหนักก็ดังขึ้นเป็นระยะ เธอไม่ได้อยากทำธุระส่วนตัวหรอกเพียงแค่อยากใช้เวลาเงียบ ๆ สักพัก เพื่อเรียกและทวนสติของตัวเองกลับคืนมาคำพูดของอวี้หลันทำให้เธอตัดสินใจไม่ถูก แม้จะอยู่กับเขาแล้วมีความสุข ทว่าแวบหนึ่งของจิตใต้สำนึกก็รู้สึกผิดขึ้นมา คิดถึงเรื่องนี้อยู่ ๆ น้ำตาก็ไหล ความรู้สึกจุกอยู่ที่อกจนหายใจไม่ออก ความรู้สึกบางอย่างพรั่งพรูจนหญิงสาวเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคืออะไร...รู้เพียงว่าเจ็บปวด เศร้าและทรมานนิ้วปาดน้ำตาบนใบหน้า พลางกลั้นเสียงสะอื้นดังออกมาเป็นระยะ เป็นเวลานานเกือบสิบนาทีกว่าที่จะหยุดร้องและปรับสีหน้า ลฎาภาสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เอื้อมมือหยิบกระเป๋าสะพายที่แขวนอยู่ตรงประตูก่อนจะเปิดประตูออกมา ดวงตากลมเบิกกว้างเล็กน้อยด้วยความตกใจที่มีผู้หญิง
Chapter 40เธอมองเขาก่อนหลบสายตา “ไม่มีอะไรค่ะ”อวิ่นเยว่ไม่ได้ถามต่อแต่ก็จ้องมองเธอกระทั่งลฎาภาเงยหน้าขึ้นสบตา“ผมเป็นห่วงคุณ”ดวงตากลมมองชายหนุ่มด้วยความรู้สึกที่เอ่อล้นอย่างบอกไม่ถูก ความปรารถนาและเสียงเรียกร้องภายในใจผลักดันให้ก้าวเข้าไปหาชายหนุ่มเขย่งปลายเท้ายื่นใบหน้าไปประทับริมฝีปากที่ปากของชายหนุ่ม“ขอโทษค่ะ” เธอผละออกยกมือขึ้นสัมผัสที่ปากตัวเอง ไม่คิดว่าจะเผลอสติหลุดถึงขนาดนี้อวิ่นเยว่ยิ้มมุมปากเอื้อมมือคว้าแขนของหญิงสาวแล้วดึงเข้ามาประชิดที่ตัวเขา ลฎาภาเบิกตากว้างด้วยความตกใจพลางยกมือดันแผ่นอกแกร่งออกห่าง ทว่าชายหนุ่มกลับใช้มืออีกข้างรั้งตัวเธอเข้ามาแนบชิด ก่อนโน้มใบหน้าลงประทับจุมพิตที่ริมฝีปากอิ่มในทันทีมือเรียวเล็กที่ออกแรงดันเขาออกหยุดลงเมื่อริมฝีปากประทับลงจูบอย่างอ่อนโยน ลฎาภาหลับตาพริ้มรับสัมผัสและการเล้าโลมเพียงเล็กน้อย นั่นอาจเป็นเพราะความรู้สึกที่อยู่ในใจของเธอทำให้ไม่ต่อต้านหรือขัดขืนเลยสักนิด หากเพียงแต่เป็นความจริงและได้อยู่ในอ้อมกอดเขาแบบนี้นานอีกหน่อย...เนิ่นนานกว่าที่อวิ่นเยว่จะปล่อยเธ
Chapter 41เพราะเหนื่อยจากการเดินทางในช่วงเช้าจึงไม่ได้ไปไหนนอกจากอยู่ที่พัก จนกระทั่งตะวันเริ่มลับขอบฟ้า เสียงร้องประท้วงถึงอาหารมื้อเย็นก็ดังขึ้นเป็นระยะ ๆ จากเจ้าตัวกลมที่เพิ่งนอนตื่นขยับตัวลุกขึ้นจากโซฟาเดินออกมาหาลฎาภาที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ริมระเบียงด้วยท่าทางงัวเงีย“หม่าม้า”ลฎาภาละสายตาจากหนังสือวางไว้บนตักก่อนจะหันมาหาเจ้าตัวกลม“อาหยูหิวแล้วใช่ไหม ?”อาหยูพยักหน้าพลางใช้มือลูบท้องน้อยหญิงสาวขยับตัวลุกขึ้นและพาเจ้าตัวกลมเดินเข้ามาด้านใน “อาหยูรอตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวหม่าม้าจะไปเรียกป๊ะป๋าก่อน”เมื่อพูดจบลฎาภาก็เดินไปเปิดประตูห้องนอน ดวงตากลมมอง ชายหนุ่มนั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะโซฟาตัวเล็ก ใบหน้าคมขรึมจดจ้องกับงานตรงหน้า เธอหันปิดประตูและเดินเข้าไปอย่างเงียบ ๆชายหนุ่มรู้ว่าหญิงสาวเดินเข้ามาจึงละสายตาขึ้น “ขอโทษผมทำงานจนลืมเวลา”ลฎาภามองใบหน้าภายใต้กรอบแว่นสีดำเป็นครั้งแรก คงเป็นเพราะเขานั่งทำงานล้ามาทั้งวัน ทั้งยังต้องจ้องแสงไฟจากโทรศัพท์และจอโน้ตบุ๊กเป็นเวลานานอวิ่นเยว่ปิดหน้าจอโน้ต
Chapter 61 (special III)“นี่...” เธอเรียกเขาด้วยเสียงสะอื้นก่อนจะใช้มือดึงเสื้อจากทางด้านหลัง “ทำไมถึงยอมมารับฉันล่ะ”“ไม่รู้สิ” ศรันภัทรตอบโดยไม่หันหลังกลับไปงั้นเหรอ...?ถลัชนันท์ปล่อยมือออกจากเสื้อของเขา ก่อนจะสาวเท้าเดินเข้าไปกอดชายหนุ่มทางด้านหลัง นั่นไม่ใช่ความรู้สึกที่รักเลยเพียงแต่ว่าอยากทำยังไงก็ได้ให้ความเจ็บปวดนี้หายไป“มีอะไรกับฉันได้ไหม” เป็นคำพูดสิ้นคิดหรือความต้องการในส่วนลึกกันแน่ เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันเพียงแต่ถ้ามันปลอบใจจากความเจ็บปวดได้แล้วล่ะก็... “แค่ครั้งนี้ แล้วพรุ่งนี้ฉันสัญญาว่าจะหย่ากับคุณ ขอร้องละ”ศรันภัทรยืนอึ้งจนทำอะไรไม่ถูก เมื่อได้ยินคำพูดจากปากหญิงสาว เขาเองตอนนี้ยังสับสนมากที่จะบอกว่ารู้สึกชอบผู้หญิงคนนี้แบบคนรักจริง ๆรู้ดีว่ามันไม่มีทางเกิดขึ้น...ถลัชนันท์คลายมือออกจากชายหนุ่มยกมือขึ้นปาดน้ำตา บางทีก็คิดว่าพอแล้วกับความรักที่เข้ามา“ขอโทษค่ะ ฉันคงบ้าไปหน่อย” เธอพูดเสียงสั่นพลางหัวเราะ “ถ้ายังไงพรุ่งนี้เราไปหย่ากันนะค
(special I)เวลาทำงานผ่านไปจวบจนกระทั่งหมดวันแล้ว ถลัชนันท์ขยับตัวเก็บกองเอกสารบนโต๊ะให้เข้าที่ ก่อนจะหยิบกระเป๋าสะพายเช็กชื่อออกจากบริษัทไป แต่ละวันผ่านไปก็ช่างยาวนานซะเหลือเกิน และก็ไม่ค่อยแตกต่างกันมากนัก ตื่นเช้าออกไปทำงานกลับมาบ้านกินข้าวและเข้านอน ถึงแม้ว่าช่วงเดือนนี้จะเริ่มสนทนากับสามีที่แต่งงานด้วยมากขึ้นก็ตาม ทว่าความสัมพันธ์รักใคร่ก็ไม่ได้พัฒนาตามไปด้วยเลยหญิงสาวเดินออกจากลิฟต์แล้วหยุดชะงักเมื่อเสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าดังขึ้น มือข้างหนึ่งล้วงเข้าไปหยิบขึ้นมาดูปลายสายที่โทร. เข้ามา“มีอะไรหรือเปล่าคะ” ถลัชนันท์เอ่ยถามอย่างทันทีเมื่อรู้ว่าคนที่โทร.มาคือสามีนั่นเอง น้อยครั้งที่เขาจะติดต่อมาหาหรือยอมพูดคุยด้วย[เปล่า คุณแม่บอกวันนี้คุณจะไม่กลับมากินข้าวที่บ้าน เลยให้ผมโทร.มาถามว่ากลับดึกไหม ?]พอได้ฟังก็รู้สึกสมเพชตัวเองมานิดหนึ่ง ทว่าเรื่องนี้ก็เริ่มชินไปซะแล้ว อีกอย่างแม่สามีไม่ได้ใจร้ายเหมือนในละครหลังข่าว ตรงข้ามกันกลับทำดีกับเธอด้วยซ้ำไป“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ฉันมีนักเดตกับเพื่อนสมัยเรียน” เธอตอบกลับไปแล้วพูดต่อไปว่า &ld
ค่ำคืนแสนหวานอันยาวนานได้ผ่านพ้นไปเข้าสู่เช้าวันหยุดสุดสัปดาห์ ร่างเล็กบนเตียงขยับตัวปรือตาด้วยความหนักอึ้ง หันมองพื้นที่เตียงว่างเปล่าก่อนใช้แรงที่เหลืออยู่น้อยนิดพยุงร่างกายขึ้นนั่ง สะโพกปวดร้าวระบมไปหมดจนไม่มีแรงจะขยับ ดวงตากลมมองรอบห้องที่เงียบสนิทไร้วี่แววของชายหนุ่มประตูห้องถูกเปิดออกหญิงสาวรีบยกผ้านวมขึ้นปิดบังร่างกาย พลางส่งสายตามองอวิ่นเยว่เดินเข้ามาหา“คุณตื่นแล้วหรือ” เขาเดินเข้ามาหาลฎาภาพยักหน้าแทนคำตอบด้วยความเขินอายพลางขยับตัวลงจากเตียงแต่ว่าขาสั่นจนแทบไม่มีแรง ชายหนุ่มยิ้มที่มุมปากก่อนเดินเข้ามาอุ้มเธอขึ้น นัยน์ตาคมมองร่างเปลือยที่เชยชมมาทั้งคืนมีร่องรอยตีตราจนนับไม่ถ้วน“ฉันเดินเองได้ค่ะ”อวิ่นเยว่หัวเราะในลำคอ “แสดงว่ายังมีแรงเหลือสินะ”“คุณเผิง !” เธอแก้มแดงผ่าวร้อนขึ้นมาทันทีชายหนุ่มยิ้มขำก่อนจะอุ้มหญิงสาวมายังห้องน้ำ เขาวางเธอลงบนขอบอ่างอาบน้ำก่อนเอ่ยถามขึ้นว่า “คุณอาบน้ำไหวไหม ?”“ไหวค่ะ คุณออกไปเลยนะคะ” ลฎาภาตอบกลับในทันทีอวิ่นเยว่ยิ้มข
Chapter 57การเคลื่อนไหวของร่างกายรุกล้ำเข้ามาโดยที่ไม่รู้ตัวเลยสักนิด อวิ่นเยว่ดันร่างเล็กให้ชนชิดกับผนังกำแพง บดจูบขยี้ริมฝีปากด้วยความโหยหา คราวนี้ทำเธอหายใจลำบากจึงต้องดันเขาออกห่าง แต่กลายเป็นว่าการพักนั้นทำให้ชายหนุ่มรุกล้ำลิ้นเข้ามาได้สำเร็จ“อื้อ” เสียงร้องครางดังประท้วงบอกจนต้องถอนจูบออกด้วยความเสียดาย อวิ่นเยว่จ้องมองใบหน้าเนียนสวยแดงก่ำก้มหลบเขินอาย มือข้างหนึ่งเชยขึ้นให้สบตาอีกครั้งและจูบหยอกเย้าเบา ๆ จนสติสัมปชัญญะของหญิงสาวหลุดล่องลอยไปลฎาภาควบคุมความต้องการของร่างกายไม่ได้ราวกับว่าไม่ฟังสิ่งที่สมองสั่งการสักนิด เธอเผลอให้ความปรารถนาที่อยู่ภายในจิตใจเข้าครอบงำจนหมดสิ้น จูบเร่าร้อนอ่อนโยนจนแทบระทวยนี้กลับรู้สึกคุ้นเคยโหยหามากที่สุดแต่...ที่บ้าที่สุดคือการตอบสนองเผลอไปกับคารมของเขา !อวิ่นเยว่จูบซับไปตามใบหน้าไล่จนมาถึงต้นคอของหญิงสาว มือที่เคยรั้งเอวไว้คลายออกล้วงเข้าไปในสาบเสื้ออย่างรวดเร็ว ไม่รอช้าที่จะใช้มือปลดเสื้อผ้าส่วนบนออกโยนทิ้งลงพื้นในขณะที่สติของเธอกำลังหลุดลอย“คุณเผิง” เธอเอ่ยเรียกชื่อเขา ทั้งที่ยิ่งเร
Chapter 56อวิ่นเยว่ผ่อนลมหายใจซุกที่หัวไหล่ของเธอ “นะ”เพียงคำเดียวก็รู้ถึงความหมายที่เขาต้องการบอกว่า ‘ขอซุกหน้าอกแบบอาหยูด้วยคน’“ทำไมอาหยูถึงได้ แล้วผมไม่ ?”ไม่น่าถามนะคำถามนี้ คุณเผิง !“ไม่ค่ะ” เธอตอบกลับเสียงเข้มพลางจ้องหน้าเขาเขม็ง“อาหยูเป็นเด็ก”“เหรอ” เขาขานรับอย่างจำใจก่อนจะขยับตัวหันมา นัยน์ตาคมจ้องมองหญิงสาวตรงหน้า เขาต้องใช้ความอดกลั้นอย่างมากที่จะไม่คิดอะไรเกินเลยตอนนี้ ชายหนุ่มเบี่ยงหน้าหลบยกมือขึ้นปิดปากด้วยความเขินอาย ไม่รู้ว่าจะอดทนไปได้นานแค่ไหนกัน“เราขึ้นกันเถอะ อาหยูกำลังรออยู่”อวิ่นเยว่พูดพลางขยับตัวออกห่างจากหญิงสาว ก่อนจะลุกขึ้นโดยลืมไปว่าร่างเปลือยของเขานั้นเธอได้เห็นเต็มสองตา !ลฎาภาอึ้งนิ่งค้างจนทำอะไรไม่ถูก เขาลืมไปไหมว่าเธอยังอยู่ตรงนี้ “คุณเผิงรีบออกไปเลยนะคะ !”อวิ่นเยว่หันมองและเพิ่งคิดได้ว่าตอนนี้โชว์กายให้หญิงสาวมองอยู่นั่นเอง เขาทำหน้านิ่งรีบเดินไปหยิบผ้าขนหนูและเสื้อคลุมเดินออกจากห้องน้ำไปอย่าง
Chapter 55หลังจากรับประทานอาหารมื้อเย็นเสร็จเรียบร้อยแล้ว ป้าผ่องจึงจัดการเก็บครัวและกลับบ้านไป ทางด้านลฎาภาที่ไม่รู้สึกคุ้นชินบ้านหลังใหญ่จึงทำตัวไม่ค่อยถูก ทั้งยังไม่รู้ว่าควรจะไปตรงไหนต่อดี จึงได้แต่ยืนงงอยู่หน้าบันไดเป็นเวลานาน“หม่าม้า” เจ้าตัวกลมเดินเข้ามาดึงชายเสื้อของเธอและออกแรงลาก“อาหยู...”เธอเอ็นดูก่อนจะเอ่ยถามขึ้น “มีอะไรเหรอจ๊ะ”“อาบน้ำกับอาหยูได้ไหม” น้ำเสียงออดอ้อนและแววตาของ เจ้าตัวกลมทำให้ลฎาภานิ่งเงียบไปชั่วขณะ ไม่ใช่ว่าจะปฏิเสธหรอกนะ เพียงแต่ว่าสภาพร่างกายที่ยังพักฟื้นไม่สมบูรณ์ ก็ไม่อยากจะใช้แรงดูแลเด็กมากนัก แต่ถ้าหากปฏิเสธไปจะเป็นการทำร้ายจิตใจหรือเปล่านี่สิ“ไม่ได้เหรอ” เสียงอู้อี้ในปากและท่าทางออดอ้อนของเจ้าตัวกลมทำให้หญิงสาวรู้สึกลำบากใจไม่น้อย ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน อาจเป็นเพราะว่าพ่ายแพ้ต่อเด็กผู้ชายน่ารัก ๆ ทว่าความรู้สึกที่เป็นอยู่ตอนนี้แตกต่างจากการพบกับเด็กคนอื่น ๆ ที่เพิ่งเคยเจอครั้งแรก“แต่ว่านะ...”“ได้สิ” เสียงของอวิ่น
Chapter 54“บางทีฉันอาจจะยังไม่เคยพบเขาเลยก็ได้ ถ้าเป็นแบบนั้นฉันก็คงจำได้สิ แม่ พ่อ พี่และเพื่อนฉันก็ยังจำได้เลย” เธอพูดขึ้น เพราะครั้งแรกที่พบกันก็ไม่ได้รู้สึกว่าคุ้นเคยหรือรู้จักกันเลยสักนิด“แต่ว่านะ...” ถลัชนันท์หยิบโทรศัพท์มือถือของน้องสาวส่งคืนให้ “แกกับเขาเคยคบกันอยู่ไม่ใช่เหรอ และก่อนเกิดอุบัติเหตุแกก็บอกเลิกเขาอยู่เลย นี่ดูสิ...”ลฎาภาเปิดข้อความที่คุยกันแล้วอ่านอย่างไม่เชื่อสายตา ทุกอย่างเป็นไปตามที่พี่สาวบอก ทว่าทำไมกลับรู้สึกจำอะไรไม่ได้เลย ทั้งที่ช่วงเวลาที่ผ่านมาก็ทำงานที่นี่นี่นา “แต่ว่านะ ตอนฉันทำงานพาร์ตไทม์ เป็นพี่เลี้ยงเด็กกับคนใช้น่ะ ก็ไม่มีอะไรไม่มีใครจีบนะ และอีกอย่างถ้าเป็นความจริงในแชทนี้ ฉันเลิกกับเขาแล้วนะ”เธอพูดเสียงแผ่วลงเรื่อย ๆ เพราะความทรงจำที่จำได้ก็คือการจำได้ แต่ถ้าจะถามหน้าตาของเจ้านายด้วยแล้ว...ทำไมกลับนึกไม่ออก รู้แค่ว่าเคยทำ หลังจากนั้นก็เข้าไปทำงานในบริษัทเมื่อถึงเวลาเริ่มงานวันแรก หรืออาจเพราะเจอคนเยอะแยะก็มีลืมบ้างนะอวิ่นเยว่ที่กินข้าวและเอี้ยวหูฟังอยู่ก็หรี่ตามองด้วย
Chapter 53ภายในห้องพักของโรงแรม ทันทีที่อวี้หลันเดินเข้ามาในห้องก็หยิบกระเป๋าเดินทางออกมาด้วยสีหน้าขุ่นเคืองเพราะไม่เคยคิดเลยว่าอวิ่นเยว่จะติดต่อเว่ยเหยียนเมิ่งให้มาหาด้วยแบบนี้ หากรู้ตั้งแต่แรกว่าตอนนั้นเหยียนเมิ่งยังไม่มีอำนาจใด ๆ ในมือของบริษัทเธอก็ไม่แต่งงานด้วยหรอก ต่อให้จะเป็นตระกูลที่ร่ำรวยแต่ว่าต่างคนนำเงินก้อนไปลงทุนและสร้างความมั่งมีเอง ไม่ก็ใช้ความสามารถบริหารงานจนก้าวหน้า แต่ไม่ใช่กับเขาที่กลัวจนทำอะไรไม่เป็นเป็นคุณชายที่ไม่มีอะไรดีนอกจากใช้เงินของตระกูล จนหลายครั้งที่เธอก็ต้องทนคนในบ้านหัวเราะเยาะสมเพช ! ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวของลูกชายคนโต คนเล็ก หรือญาติในตระกูลพอกันทีกับความน่าสมเพชนี้...!หญิงสาวเดินไปหยิบเสื้อผ้าในตู้และของใช้ส่วนตัวที่วางอยู่ยัดใส่ลงในกระเป๋าเดินทางอย่างไว มีทางเดียวคือการรีบกลับไปหย่าให้เสร็จเพื่อคืนชีวิตอิสระของเธออวี้หลันหันมองโทรศัพท์ที่สั่นอยู่ในกระเป๋าสะพายก่อนจะหยิบออกมาดูและกดรับ[อวี้หลัน ผมรักคุณนะ เรากลับมาคุยกันก่อน]เธอทำสีหน้าเบื่อที่อีกฝ่ายพยายามโทร. ตามตื๊อ แน่นอนว่าหลายปีที่พยายามรักและแสร้งทำดีด้วยเพ
Chapter 52“คะ...คุณเป็นใคร ?”“ผมเผิงอวิ่นเยว่ สามีเก่าของเจ้าอวี้หลัน”ชายหนุ่มแนะนำตัวอย่างเป็นทางการพลางหันไปเหลือบมองสีหน้า ของอวี้หลันที่ดูลนลาน“เธอ...แต่งงานแล้ว ?” เหยียนเมิ่งมีท่าทีตกใจสุด ๆ เมื่อได้ยินอีกฝ่ายแนะนำตัว “ทำไมผมถึงไม่เคยรู้...”ไม่แปลกใจที่ไม่รู้เพราะงานแต่งของอวิ่นเยว่จัดเล็ก ๆ ไม่ใหญ่มากนักแขกที่เชิญมาก็ไม่มากมายล้วนเป็นแขกสำคัญเท่านั้น ตรงข้ามกับงานแต่งของ ‘เว่ยเหยียนเมิ่ง’ ที่ถูกจัดขึ้นหรูหราจนในต่างประเทศคนส่วนใหญ่รับรู้กัน ว่าลูกชายคนรองของประธานเว่ย เจ้าของกิจการโรงแรม RX ที่มีสาขาหลายประเทศแต่งงานแล้วอวี้หลันรีบลุกขึ้นและดันอวิ่นเยว่ออกห่างจากเหยียนเมิ่งทันที“เหยียนเมิ่งเรากลับไปคุยกันทีหลัง...”“เธอบอกว่าอยากกลับมาอยู่กับผม” อวิ่นเยว่พูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “และจะทิ้งคุณไป”อวี้หลันเบิกตากว้างด้วยความตกใจและขุ่นเคืองกับคำพูดและน้ำเสียงของอวิ่นเยว่“ไม่จริง...ใช่ไหม ?” เหยียนเมิ่งมีน้ำเสียงผิด