“เป็นอะไร”
“อุ๊ย พี่เดลล์ ทำไมเข้ามาเงียบๆ ละคะ ตี้ตกใจหมดเลย”
“เหรอ ต้องการให้พี่กอดปลอบหรือป่าว”
“พี่เดลล์ขาดความอบอุ่นหรือไง แล้วแม่พี่รู้หรือป่าวว่าพี่เป็นคนแบบนี้”
“คนแบบนี้!... คนแบบไหน?”
“ชอบพูดจาใต้สะดือและก็ชอบทำตัวเจ้าเล่ห์”
“ใช่ ก็ชอบ”
“ยังมีหน้ามายอมรับอีกนะ”
“ก็มันชอบ” ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอว่าชอบ ซื่อบื้อชะมัดผู้หญิงคนนี้
“...”
“แล้วพี่ก็ไม่ได้ขาดความอบอุ่น… แต่พี่อยากให้ความอบอุ่นกับเรานะ”
“พี่รู้จักความอบอุ่นด้วยเหรอคะ” ที่ฉันถามเพราะเขาน่ะดูเพลย์บอยและดูเจ้าชู้มากๆ คนอะไรเจอกันไม่กี่ครั้งก็ชอบพูดจาอะไรแบบนั้นแล้ว
“ก็เคยนะ ให้ความอบอุ่นแบบเนื้อแนบเนื้อ”
“พี่เดลล์!”
“ไม่อยากลองหน่อยเหรอ”
“ไม่”
“แต่พี่อยาก…”
“ยะ หยุดนะ” หมับ! ฉันโดนพี่เดลล์กอด แต่แทนที่ฉันจะผลักไสกลับกลายเป็นว่าใจฉันเต้นแรงเชียว
“ซ้อมกอดก่อนก็ได้ครับ”
“พี่เดลล์ คือ…”
“คิดว่าพี่ฉวยโอกาส หรือ รู้สึกโดนคุกคามหรือป่าว”
“มะ ไม่ค่ะ ตี้ไม่รู้สึกแบบนั้น”
“ดี”
“อะไรดีคะ”
“ก็ดีแล้วเพราะวันนึงเราอาจจะทำมากกว่าการกอดกัน”
เมื่อเขาพูดจบ ฉันผละตัวเองออกจากอ้อมกอดของเขาทันที
“แบบพี่เนี้ยต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วยเหรอคะ” ฉันหมายถึงการวิงวอนร้องขออะไรแบบนั้น แบบพี่เดลล์น่าจะมีผู้หญิงวิ่งใส่แบบสี่คูณร้อยซะมากกว่า น่าแปลกใจ
“ไม่รู้สิ”
“แล้วพี่มาทำแบบนี้พี่ไม่มีแฟนหรือคนคุยหรือไง”
“หลอกถาม?”
“ไม่ใช่ค่ะ กลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอย”
“ก็บอกแล้ว… พี่ไม่ได้เหมือนไอ้สารเลวนั่น”
“ถึงแบบนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าตี้จะเปิดใจหรือเปิดทางให้พี่เดลล์หรอกนะ”
“ตี้อยู่เฉยๆ พี่ทำเองคนเดียวก็ได้”
“ห๊ะ” ทำไมมันฟังดูแปลก ๆ
“พี่หมายถึงตี้อยู่เฉยๆ เดี๋ยวพี่จีบตี้เอง โอเคไหมครับ”
“...”
“ถ้าในระหว่างนั้น อยากให้พี่เป็นคู่ซ้อมให้ก็ได้นะ พี่ยอมเสียเปรียบ”
“ตี้ว่าเราหยุดคุยเรื่องนี้กันดีกว่าค่ะ”
“หึ แต่รู้ไว้แล้วกัน ยังไงก็หนีพี่ไม่พ้น”
“...”
“ถ้าพี่ได้ตั้งใจกับอะไรสักอย่างแล้ว พี่ต้องได้เท่านั้น”
“ชอบพูดอะไรกำกวม ตี้ไม่คุยด้วยแล้ว”
เราสองคนเดินออกมาจากห้องครัว พี่เดลล์เดินไปนั่งที่โซฟาแบบเดิมแต่ใบหน้าเขาเหมือนแอบอมยิ้มอยู่ตลอดเวลา พอฉันถอนหายใจใส่เขาก็หัวเราะใส่ฉัน
ทำไมฉันกับเขาถึงรู้สึกสนิทสนมกันเร็วขนาดนี้นะ เคยเจอกันก็ไม่กี่ครั้งเอง แต่ละครั้งก็แทบไม่ได้คุยกัน ครั้งนี้ครั้งแรกเลยที่คุยกัน ใช้เวลาด้วยกัน แต่เขาเข้าหาฉันเยอะมากซึ่งมันก็น่าแปลกใจเพราะฉันก็เป็นมนุษย์หวงตัว หวงพื้นที่ส่วนตัวระดับนึงเลยล่ะ แต่เขากลับเข้ามาในพื้นที่ของฉันได้ง่ายๆ ฉันเคยได้ยินประโยคนึงที่ยาหยีมันพูดให้ฟังว่า…
เพราะคนที่ใช่ ไม่จำเป็นต้องใช้เวลานาน...
“แอร๊ยยย” เสียงน้องรามิดังออกมาจากในห้องนอน ฉันจึงรีบเดินไปทันที
“ตื่นแล้วเหรอคะคนสวย”
“ตี้ มิหิว”
“ตื่นมาก็หิวเลยนะแสบ” เรนเดลล์เดินตามเข้ามาในห้องนอนของนัตตี้ เดินเข้ามาอย่างตั้งใจ เพราะอยากสอดส่องห้องนอนของนัตตี้ให้ชัดๆ ส่วนนัตตี้นั้นมัวแต่สนใจน้องรามิ เลยไม่ได้สังเกตว่าอีกคนกำลังใช้สายตาสอดส่องพื้นที่ส่วนตัวของตัวเองอยู่
“เรน อุ้มหน่อยจิ” เรนเดลล์อุ้มหลานรักอย่างเบามือ อุ้มไปนั่งรอที่โต๊ะอาหาร ส่วนเรนเดลล์ก็เข้าครัวไปอุ่นอาหารให้เด็กแสบที่ตื่นมาก็ร้องขอกินทันที
เรื่องน้องรามิ แม่ศิเคยเล่าให้นัตตี้ฟังว่า เมื่อประมาณเกือบสองปีก่อน เรนเดลล์พาคุณแม่ออกไปทำธุระนอกบ้านช่วงตีห้า ท่านออกมาตลาดในช่วงเช้ามืดเพื่อตั้งใจจะใส่บาตร และในช่วงขากลับก็ได้เจอเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดคาดฝัน คือ มีผู้หญิงคนหนึ่งอายุประมาณยี่สิบปีต้นๆ อุ้มเด็กทารกมาทิ้งไว้ตรงกองถังขยะ มีเพียงผ้าอ้อมหนึ่งผืนคลุมไว้เท่านั้น แม่ศิเห็นแบบนั้นจึงรีบไปอุ้มเด็กทารกมาไว้ในอ้อมกอด ทั้งยังจะตะโกนเรียกผู้เป็นแม่ของเด็กคนนั้น ทว่า เรนเดลล์ไม่คิดแบบนั้น หากผู้หญิงคนนั้นรับลูกตัวเองกลับไป ยังไงก็ต้องเอาไปทิ้งที่อื่นอีกอยู่ดี เรนเดลล์ตั้งใจเก็บเด็กคนนี้ไว้โดยบอกแม่ของตัวเองว่า…
“เราเลี้ยงเด็กคนนี้เองก็ได้ครับแม่”
“...”
“แม่อยากมีลูกสาวไม่ใช่เหรอ แต่เลี้ยงเป็นหลานสาวก็ได้”
ด้วยอายุที่ต่างกัน ถ้าเป็นลูกสาวคงไม่เหมาะ จึงตัดสินใจให้อยู่ในฐานะหลานสาว เรนเดลล์และคุณแม่ศิเลี้ยงดูน้องรามิให้เติบโตมาอย่างดี และรักน้องรามิยิ่งกว่าแก้วตาดวงใจ
... ส่วนทางฝั่งครอบครัวของเรนเดลล์ตอนนี้มีกันอยู่สามคน คุณพ่อของเรนเดลล์ท่านได้ลาจากโลกนี้ไปแล้วด้วยโรคประจำตัว
ทั้งคู่จึงตัดสินใจเลี้ยงน้องรามิตั้งแต่นั้นมา รามิไม่เคยรับรู้ถึงการขาดความอบอุ่นและน้องก็ไม่เคยถามหาแม่ด้วย อาจจะยังไม่โตพอให้สงสัย แต่ถ้าหากน้องโตเมื่อไหร่และน้องต้องการหาคำตอบ
เรนเดลล์คิดเสมอว่าความจริงเป็นสิ่งไม่ตายก็จริง แต่บางครั้งความจริงมันก็ทำร้ายความรู้สึกได้เช่นกัน เรื่องราวจะต้องถูกบิดเบือนไปบ้างแต่นั่นก็ทำด้วยความเป็นห่วงเป็นใยต่อน้องรามิ~~~
กระทั่งเวลาผ่านไปจนถึงตอนเย็น เรนเดลล์ไม่มีท่าทีว่าอยากกลับบ้าน น้องรามิรายนั้นอยู่ที่นี่ได้ทั้งวันอยู่แล้วเพราะชอบอยู่กับนัตตี้ เธอรักพี่สาวคนนี้เหมือนเป็นพี่สาวแท้ๆ ของตัวเอง เพราะนัตตี้สวยและใจดี รามิสัมผัสได้
“กลับได้แล้ว”
“ไล่?”
“จะว่างั้นก็ได้”
“คืนนี้มาหาได้ป่าว”
“ไม่ได้!”
“ทำไม!”
“แล้วพี่เดลล์จะมาทำไมละคะ”
“มาอ่อย”
“เฮ้อ…”
“งั้นขอเบอร์”
“ไม่ให้ค่ะ”
“งั้นพี่ไปขอที่เมียไอ้วิลล์”
“พี่เดลล์!” ฉันตะคอกเขาเสียงเขียว ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากให้เพื่อนรู้หรือจะปิดบังอะไรเพื่อนนะ พวกมันน่ะพูดมาก ชอบแซว เพราะจริงๆ แล้วเรื่องระหว่างฉันกับเขาสุดท้ายแล้วอาจจะไม่มีอะไรคืบหน้าก็ได้ ไม่ได้เป็นเพราะว่าฉันยังรักไอ้สารเลวนั่นนะ ฉัน…ก็แค่อยากให้เวลาตัวเอง
“เร็ว”
“บังคับ?”
“แล้วแต่จะคิด” พูดจบเขาก็ยื่นโทรศัพท์ของเขามาให้ฉัน ฉันจึงกดเบอร์ไปให้ แต่ไม่ใช่เบอร์ฉันนะ ฉันกดมั่วๆ เอา แต่ใครจะคิดว่า…. พี่เรนเดลล์กดโทรออกทันที
‘ไม่มีหมายเลขที่ท่านเรียก กรุณาตรวจสอบหมายเลขใหม่อีกครั้งค่ะ’
ชิบหายแล้วแม่มึง…. ฉันได้แต่สบถในใจ
“ดื้อนักนะ”
“...” ฉันพูดอะไรไม่ออกนอกจากยิ้มเจื่อนๆ แหม ก็เล่นโทรซะต่อหน้าต่อตาขนาดนี้ ฉันเหมือนคนทำผิดแล้วโดนจับได้อะไรแบบนั้นเลย
“นัต-ตี้” พี่เรนเดลล์เรียกฉันเน้นคำพูด ทำเสียงดุ แววตาเรียบนิ่งแบบนี้คือโกรธเหรอ แล้วมีสิทธิ์อะไรมาโกรธอ่า ความจริงฉันจะให้หรือไม่ให้มันก็เป็นสิทธิ์ของฉันเลยนะ
“เรียกทำไมคะ”
“...” ดื้อ ดื้อมาก น่าจับฟาดก้นสุดๆ เดี๋ยวก่อนเถอะผมทดไว้ในใจก่อน เดี๋ยวจะเอาคืนเป็นการ… ทบต้นทบดอกเลยคอยดู
… “ก็แล้วแต่นะ อย่างที่บอกเดี๋ยวไปขอเบอร์ที่เมียไอ้วิลล์”
“จิ๊” ฉันทำเสียงจิ๊ปากใส่ หมั่นไส้มาก สุดท้ายฉันก็ต้องยอมอ่ะก็ต้องให้เบอร์พี่เรนเดลล์ไปอย่างไม่มีทางเลือก
... ความจริงเรนเดลล์ไม่ได้มีความคิดที่จะไปขอเบอร์กับเมียเพื่อนหรอก ขู่ไปแบบนั้นเฉยๆ
“ก็แค่นี้” เขากดโทรหาฉันอีกครั้งทันที ครั้งนี้ฉันให้เบอร์ฉันจริงๆ เขาโทรเข้ามากลายเป็นว่าฉันก็มีเบอร์เขาแล้วด้วยน่ะสิ
ไม่นานทั้งสองก็กลับไป ตอนนี้ก็ห้าโมงเย็นแล้ว ฉันเลยตัดสินใจลงไปซูเปอร์มาร์เก็ตใต้คอนโด ฉันยังต้องซื้อพวกของใช้จำเป็นอีกหลายอย่าง
ฉันเปลี่ยนชุดใส่กางเกงยีนส์ขาสั้น เสื้อครอปสั้นสีขาวโชว์เอวคอดแล้วก็ใส่รองเท้าผ้าใบ สะพายกระเป๋าใบเล็กที่ใส่โทรศัพท์กับบัตรเครดิตได้ ฉันเลือกซื้อของอยู่สักพักใหญ่ๆ ก็กลับมาคอนโด จัดของเข้าที่เรียบร้อยก็ไปอาบน้ำ เตรียมตัวดูนอนซีรี่ย์ เลือกไม่ถูกเลยว่าจะดูเรื่องไหนดี ทั้งยาหยีและนาบีพร้อมใจกันส่งมาให้ซึ่งเยอะมาก เลือกไม่ถูกเลยพระเอกมีแต่คนหล่อๆ ทั้งนั้น แต่ฉันก็เลือกมาหนึ่งเรื่องและในขณะที่กำลังนอนดูซีรี่ย์อยู่นั้น…ครืด ครืด…. ฉันหยิบมือถือขึ้นมาดูก็เห็นว่านาบีมันโทรมา(นอนยัง อีนอตอ)“ยัง ดูผู้ชายในซีรี่ย์อยู่”(โอ๊ย อันนั้นเอาไว้ก่อน เราไปดูผู้ชายตัวเป็นๆ กันดีกว่า)“อะไรของแกอีก อีนอบอ”(ก็โทรมาชวนเพื่อนไปดูผู้ชายไง หล่อๆ งานดีทั้งนั้น)“ไม่ไป”(โนวค่า กูกำลังขับรถมารับมึงจะถึงคอนโดแล้วเนี้ย รีบไปแต่งหน้าเปลี่ยนเสื้อผ้าเดี๋ยวนี้เลย)“มึงถามกูสักคำยัง กูอยากไปด้วยรึป่าว”(ถามให้มึงปฎิเสธกูเหรอ อิอิ เร็วๆ รีบเลย ห้ามเกิน 45 นาทีนะ)“มึงจะมาจำกัดเวลากูทำไม”(อีก 30 นาทีกูจะไปถึงคอนโดมึง และอีก 15 นาที คือกูรอมึงได้แค่นี้ รอในรถนะกูจะนั่งฟังเพลงรอ)“เออๆ แล้วไอ้หยีล่ะ”(ใครจะกล้าชวน เดี
เมื่อรู้จุดหมายปลายทางเรนเดลล์รีบขับรถไปทันที และเมื่อมาถึงก็เห็นรถลักษณะตามที่นัตตี้บอกว่าจะรอในรถ ปวดหัว แสบจริงๆ ประโยคนี้วนเวียนในความคิดเรนเดลล์ มันน่ากำราบนักก๊อก! ก๊อก! เสียงเคาะกระจกประตูรถ ทว่าประตูยังไม่ถูกเปิดออกมาก๊อก! ก๊อก! เรนเดลล์เคาะอีกครั้ง นัตตี้จึงค่อยๆ ลดกระจกลง“จ๊ะเอ๋ มาหาใครจ๊ะหนุ่มน้อย”“...” หมั่นเขี้ยวโว๊ยยย เรนเดลล์ที่รู้สึกแบบนั้น“หน้าตาคุ้นๆ นะเรา”“ลงมา”“อือ…” นัตตี้โยกหัวโคลงเคลงไปมา“ตี้ ลงมา”ประโยคเรียกคุ้นหู ทำให้นัตตี้พยายามลืมตามองภายตรงหน้าชัดๆ“เรนเดลล์”“เฮ้อ” ดื้อชะมัด เรียกซะเป็นกูเป็นเพื่อนเล่นเลย“กลับกัน”เรนเดลล์สภาพนัตตี้และเพื่อนของเธอตอนนี้ เห็นทีน่าจะไม่เหลือสติพอให้ตอบคำถามอะไรได้ ผมเคยไปส่งนัตตี้และนาบีที่คอนโดของนาบีครั้งนึง และครั้งนี้ก็คงเป็นครั้งที่สอง@คอนโด นาบีผมให้นัตตี้รอในรถและตอนนี้ก็หลับไปแล้ว ผมจึงไปตามพนักงานผู้หญิงสองคนที่อยู่ตรงล็อบบี้มาช่วยพยุงนาบีไปยังห้องของเธอ ส่วนผมก็เดินตามไปส่งเพื่อเช็คความเรียบร้อย พนักงานพยุงนาบีไปที่ห้องนอน จัดท่าทางเรียบร้อยก็ออกจากห้องมา ไม่ลืมที่ล็อคประตูให้เรียบร้อยเพื่อความปลอดภ
“อื้อ…”จูบกดลึกดูดดื่มด้วยอุณหภูมิจากการจูบที่เร่าร้อน พี่เดลล์จูบฉันหนักหน่วงมาก เหมือนเก็บกดจากอะไรสักอย่าง คล้ายกับว่าความอดทนนั้นได้สิ้นสุดลงแล้ว ทั้งยังเอามือหนากดล็อคท้ายทอยให้ฉันเอียงใบหน้าเพื่อตอบรับรสจูบที่แสนเร่าร้อนแต่นุ่มนวลจากเขา บดจูบอยู่แบบนั้นนานนับหลายนาที สติของฉันค่อยๆ กลับมาและรู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นว่าตอนนี้ฉันตกอยู่ใต้อาณัติของพี่เดลล์ไปแล้ว ตุบ! ตุบ! ฉันตีอกแกร่งพี่เดลล์เพื่อบอกให้เขารู้ว่าฉันเริ่มที่จะหายใจไม่ออก จนเขาผละริมฝีปากออกจากฉันได้เพียงวินาทีเดียวเท่านั้นที่ให้ฉันได้กอบโกยอากาศเพื่อหายใจ แล้วพี่เดลล์ก็ประกบจูบหนักหน่วงอีกครั้งคล้ายกับบอกว่า มันยังไม่พอ… จ๊วบบบ… เสียงจูบจากการดูดดึงริมฝีปาก จูบแลกลิ้นเกี่ยวกระหวัดแสนชุ่มฉ่ำ ร่างกายทั้งสองเริ่มสั่นเทิ้มด้วยความปรารถนายากจะหยุดไว้“ตี้”“คะ”“พี่ขอ…นะ”“แต่ว่า…”“มาถึงขั้นนี้แล้ว”“แต่เราไม่ได้คบกันนะ”“เอากันก่อน เดี๋ยวจีบย้อนหลัง” อาจจะเป็นคำพูดที่ดูเห็นแก่ตัวไปหน่อย แต่สำหรับผมนั้นรู้ดีอยู่แก่ใจว่าไม่มีทางปล่อยนัตตี้ไปแน่นอน“...”“ไม่ตอบ พี่ถือว่าตี้ตกลงนะ”จบประโยคนี้เรนเดลล์อุ้มคนตัวเล็กรีบสาวเท้า
นิ้วที่เคยทำหน้าที่ตอนนี้ก็เปลี่ยนเป็นลิ้นแทน เรนเดลล์ห่อลิ้นแล้วแยงเข้าไปในร่องกุหลาบ ลิ้นถูกบีบรัดแน่น ซึ่งความรู้สึกที่ถูกบีบรัดนั้นส่งตรงไปยังแก่นกายใหญ่ที่นัตตี้เรียกว่าไข่ยักษ์“หวานมาก”“อ๊ะ อ๊ะ ระ เร็วกว่านี้”… “อื้อออ พี่เดลล์ขา”เรนเดลล์กระดกลิ้นรัวๆ อีกครั้ง เพราะอีกคนนั้นใกล้จะเสร็จเต็มทน เสร็จเมื่อไหร่ก็ถึงตาเขาบ้าง “ฉันจะเย็x เธอให้ยับเลย…น้องตี้” นัตตี้ที่ได้แบบนั้นก็ยิ่งบีบรัดและตอดถี่ๆ ผ่านไปไม่นาน… “กรี๊ดดด”นัตตี้เสร็จคาลิ้นร้ายแม้ว่านัตตี้จะเสร็จไปแล้วแต่เรนเดลล์ยังคงใช้ลิ้นตวัดหยอกล้ออยู่น้ำที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากร่องสวาทของนัตตี้นั้นยังพุ่งกระฉูดจนเกือบถึงไหล่ของเรนเดลล์“Good girl เสร็จได้น่ารักมาก” เรนเดลล์เอ่ยชมด้วยเสียงกระเส่านัตตี้นอนแน่นิ่งแต่หายใจรุนแรงจนนมกระเพื่อมไปตามจังหวะการหายใจ แต่อย่าได้คิดว่าเรนเดลล์จะใจดีให้พัก เรนเดลล์จัดการถอดเสื้อตัวเองออกไปให้พ้นทาง อีกคนนอนเปลือยเปล่าขนาดนั้น อยากเนื้อแนบเนื้อทั้งตัว“ลุกขึ้นมา” คำสั่งจากคนโตกว่าทำให้นัตตี้ลุกขึ้นตามอย่างว่าง่าย แต่ยังคงทรงตัวได้ไม่ดีนัก เพราะยังมีฤทธิ์แอลกอฮอล์หลงเหลือในร่างกายอยู่“พี
“อย่าเกร็ง ให้พี่เข้าไปหาน้องตี้นะ”“...” ในระหว่างที่นัตตี้ฟังเรนเดลล์พูดอยู่ เรนเดลล์ก็ดันท่อนเอ็นเข้ามาอีกครั้ง และครั้งนี้ ก็เข้าจนสุด… ลำ!“อ่าส์” เสียงครางของเรนเดลล์ทำให้นัตตี้ต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง ฟังแล้วโคตรเร้าใจ ถึงแม้จะเจ็บ แต่กลับกระตุ้นอารมณ์ให้จุดติดได้… “เจ็บอยู่ไหม” เรนเดลล์ถามพลางก้มมองไปยังกลางกายที่ตอนนี้เลือดสดๆ สีแดงกำลังไหลย้อนออกมา “เจ็บ ทำตี้เบาๆ นะ”“ถ้าทำได้… จะทำให้”“อึก อื้อ...”เรนเดลล์ไม่สามารถยั้งอารมณ์ได้เลย เขารู้สึกว่าตัวเองมีอารมณ์พลุ่งพล่านกว่าครั้งไหนๆ เลือดสูบฉีดจนผิวกายมีอุณหภูมิที่สูงขึ้น“ตอดแรงแบบนี้ พี่เสียวหัวนะครับ” ถึงแม้น้ำเสียงที่พูดออกมาจะไพเราะขนาดไหนก็ตาม แต่ความหมายในประโยคมันช่างลามกยิ่งนัก“อย่าเร่งค่ะ”“ทำไม เสียวรูเหรอครับ”“พี่เดลล์ชอบพูดทะลึ่ง อึก! ระ เหรอ” ประโยคที่ขาดหายเกิดจากแรงกระแทกจากคนด้านบนที่ตอกอัดใส่รัวๆ ถึงแม้นัตตี้จะถามแบบนี้ แต่ลึกๆ เธอกลับชอบรสนิยมบนเตียงของเรนเดลล์คำหวานบนเตียงแต่การกระทำกลับสวนทาง มันกร้าวใจเหลือเกินตรับ! ตรับ! ตรับ! “อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ” นัตตี้ส่งความทรมานผ่านเสียงออกมา เธอครางก็ยิ่งทำให้เรนเดลล์
“มะ ไม่เอาอะไรทั้งนั้นค่ะ”“ดื้อฉิบหาย”“นี่ ว่าตี้ทำไมคะ”“หรือไม่จริง”“...” ฉันดื้อนั่นแหละ ฉันรู้ตัว และอยู่ๆ ฉันก็ตกใจเพราะพี่เดลล์ลุกจากเก้าอี้และเร่งฝีเท้าก้าวยาวๆมุ่งตรงมาที่ฉัน“ไม่มีสิทธิ์ปฎิเสธ” เรนเดลล์พูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูแข็งกระด้าง“มันก็ต้องตกลงด้วยกันทั้งสองฝ่ายรึป่าวคะ พี่เดลล์จะคิดเองเออเองคนเดียวไม่ได้”จบประโยคนี้ฉันเห็นแววตาวูบไหวของพี่เดลล์ นี่เขาเสียใจเหรอ ไม่ใช่ว่าเขาแค่อยากได้ฉันแค่นั้นไม่ใช่หรือไง เพราะตั้งแต่ที่เรารู้จักกันมา เขาเข้าหาฉันแบบถึงเนื้อถึงตัว แสดงความต้องการแบบไม่ปิดบัง เขา… จะคิดอะไรแบบนั้นกับฉันจริงเหรอ ฉัน…แปลกใจ“...” มันรู้สึกจุกในอกแปลกๆ แหะ จากตอนแรกที่ผมตั้งใจว่ายังไงก็จะไม่ยอม แต่คำพูดจริงจังและท่าทีของนัตตี้ที่ผมดูแล้ว เธอไม่ได้คิดอะไรกับผมเลยจริงๆ ผมควรพยายามต่อไปอีกไหมรักครั้งแรก หัวใจก็แตกสลาย… เร็วเกินไปไหมกับความผิดหวังอยู่ๆเพลงนี้แม่งก็ลอยเข้ามาในหัวผม … “พี่ขอโทษก็แล้วกัน ที่พี่คิดไปเองคนเดียว ขอตัวก่อน” อยู่ตรงนี้ไม่ได้แล้วเว้ย ขอแบกใจช้ำๆ กลับไปย้อมใจก่อนปัง! เสียงประตูปิดลง ภายในห้องก็เงียบงันขึ้นมาทันทีนัตตี้ฉันต้อ
“อ๋อครับ นึกว่าชั้นยังไม่มีใคร”“...”“ขอโทษครับ ผมแซวเล่น”“ไม่เป็นไรค่ะ” ฉันพูดพร้อมยิ้มบางๆ เป็นมารยาทไปให้ เขาน่ะอยู่ชั้น 28 แต่เขาก็ถามฉันนะว่าให้ไปส่งก่อนไหมเพราะของหนักมาก ฉันเลยบอกว่าไม่เป็นไร แค่นี้ก็ช่วยได้มากแล้วฉันกล่าวขอบคุณและก็เดินแยกย้ายออกมาในเหตุการณ์เมื่อสักครู่ แน่นอนว่าคนที่แอบซุ่มนัตตี้อยู่ เห็นทุกอย่างชัดเจน เห็นแม้กระทั่งสายตาที่ผู้ชายคนนั้นมองนัตตี้‘ไอ้หน้าจืดนั่นมันเป็นใครวะ?’และคนที่แอบซุ่มดูทุกอย่างอยู่นั้นเห็นสองสาวที่คุ้นเคย นั่นก็คือยาหยีและนัตตี้กำลังเดินเข้าคอนโดไป ยาหยีมีสีหน้าท่าทางปกติแต่แอบชำเลืองมองนาบีบ่อยๆ ส่วนนาบีเองนั้นกลับมีท่าทางที่แปลกไป สีหน้ากลับดูไม่สดใส และความสงสัยนั้นก็ทำให้เรนเดลล์โทรหาวิลล์ทันทีว่าสาวๆ มีเรื่องอะไรกันติ๊ด!“ไอ้วิลล์ รับสายช้าฉิบหาย”(กูว่างมากมั้ง) วิลล์พูดด้วยน้ำเสียงที่ติดหงุดหงิด“จะมาหงุดหงิดใส่กูทำไมวะ…. อ้อ กูรู้ละ”(อะไรของมึง)“เมียมึงหนีมาอยู่กับเพื่อนนี่เอง”(มึงรู้?)“รู้สิวะ”(รู้ได้ยังไง?)“เดี๋ยวกูค่อยเล่าให้ฟังแล้วทีหลังแล้วกัน แต่มึงบอกกูมาก่อนว่าสาวๆ มีเรื่องอะไรกัน”(เมียกูบอกแค่ว่าเป็นเรื่องข
กริ๊ก!นัตตี้เปิดประตูเพื่อจะรับอาหาร ทว่า ก็ต้องตกใจ เพราะ… “พี่เดลล์” ผู้ชายที่หายหน้าหายตาไปหลายวัน เป็นคนเดียวกันที่ทำให้ฉันกระวนกระวายใจ ชิส์“พิซซ่ามาส่งครับ” เรนเดลล์พูดจบก็ไล่สายตามองชุดที่นัตตี้ใส่ โห… เบาๆ แต่โคตรเซ็กซี่“...” ฉันพูดไม่ออกอ่ะ ไม่รู้จะพูดอะไรก่อนดีเพราะไม่คิดว่าพี่เดลล์จะมาหาตอนเช้าขนาดนี้“ไม่รับแขกหน่อยเหรอ” เรนเดลล์ยกยิ้มมุมปาก เมื่อเห็นสีหน้าตกใจของนัตตี้“อะ อ๋อ ขอบคุณค่ะ จะเข้ามาข้างในก่อนไหมคะ”“ครับ พี่ซื้อชานมฮอกไกโดมาฝาก” เรนเดลล์พูดพลางยกมือที่ถือชานมให้ดูซึ่งมีทั้งหมดสองแก้ว“ค่ะ”ฉันเปิดประตูกว้างขึ้นให้พี่เดลล์เดินเข้าไปก่อน จากนั้นก็ปิดประตู พี่เดลล์มุ่งตรงไปที่ตู้เย็นเพราะเอาชานมที่ซื้อมาแช่ตู้เย็นไว้ก่อน และเขาก็เดินออกมาจากครัวพร้อมจานสองใบ“พี่ขอฝากท้องด้วยได้ไหม”“ได้ค่ะ”“เป็นอะไรรึป่าว?”“แค่งงว่าพี่เดลล์จะมาอีกทำไมในเมื่อ…” และแล้วฉันก็ตัดสินใจพูดสิ่งที่อยู่ภายในใจ“กินก่อน แล้วเดี๋ยวเรามาคุยกัน”“ค่ะ”“แล้วนี่มื้อเช้า ทำไมถึงทานอะไรแบบนี้”“ตี้เน้นสะดวกค่ะ สั่งมากินคนเดียวก็ไม่คิดว่าจะมีใครมาขอแชร์มื้อเช้าด้วย”แหนะ! ประชดประชัน เรนเด
1 ปีผ่านไปตอนนี้ฉันตั้งครรภ์ได้แปดเดือนแล้วนะ พี่เดลล์ขยันส่งการบ้านทุกคืน ฉันไม่ท้องก็จะคงแปลกเอามากๆ แล้วล่ะ สมใจพี่เดลล์เลยสิ เขาบอกด้วยนะว่าอยากได้ลูกสาวหน้าตาน่ารักเหมือนแม่ หยอดคำหวานทุกวัน พี่เดลล์ไม่เปลี่ยนไปเลย ไม่เคยบกพร่องในเรื่องของการดูแลเลยสักนิด เขาใส่ใจฉันมาก เขาเคยบอกว่าเรื่องนั้นก็ทำให้เขาเองก็มีปมในใจที่ละเลยความรู้สึกฉันจนเรื่องมันเกือบจะเลวร้าย แต่เราผ่านเรื่องนั้นด้วยกันมาได้แล้ว ไม่ต้องไปย้อนคิดถึงมันอีกและฉันยังโชคดีมากๆ ที่พี่เดลล์และเพื่อนๆ ไปช่วยได้ทันเวลา ในขณะที่ฉันกำลังอุ้มท้อง ยาหยีคลอดลูกนำไปแล้ว เรามีลูกในเวลาที่ใกล้เคียงกัน หวังว่าโตมาจะเป็นเพื่อนเล่นกันได้นะ ยาหยีได้ลูกชาย ส่วนฉันได้ลูกสาวสมใจพี่เดลล์เขาเลยล่ะชุดเด็ก ของเล่นเด็กเต็มบ้านไปหมดเลย อ้อ… ลืมบอกไป ตอนนี้เราย้ายมาอยู่บ้านหลังใหญ่แล้วนะ บ้านที่แม่ศิยกให้ฉันเป็นของขวัญวันแต่งงาน แน่นอนว่าถ้ามีลูกแล้วต้องอยู่คอนโด แม้จะใหญ่แค่ไหนก็ตามคงไม่สะดวกเท่าการอยู่บ้านหลังใหญ่และมีพื้นที่รอบบ้านให้เด็กๆ ได้วิ่งเล่น“น้ำส้มคั้นครับที่รัก” เรนเดลล์หัดทำน้ำส้มด้วยตัวเองหลังจากที่รู้ว่าเมียตัวเองท้อง อะไ
และแล้ววันนี้ที่รอคอยก็มาถึง วันแต่งงานของฉันกับพี่เดลล์พิธีช่วงเช้าก็มีแค่คนสนิทกันเอง มีครอบครัวทางฝั่งฉันสองคนคือฉันกับคุณพ่อ และครอบครัวทางพี่เดลล์ที่มีผู้ใหญ่คนอื่นๆ มาร่วมงานในตอนเช้าด้วย นั่นก็คือครอบครัวของมินนี่ อ้อ ฉันคงลืมบอกไปสินะ ว่ามินนี่ได้มาขอโทษฉันแล้วนะที่เธอไม่ระวังคำพูดและแสดงท่าทางที่ดูสนิทสนมจนเกินไปจนทำให้ฉันเข้าใจผิด ตอนนั้นฉันเองไม่ได้โกรธหรอก แค่รู้สึกเสียใจ และส่วนนึงมันก็เป็นฉันเองที่เข้าใจผิดไปเอง วันนี้เธอพาแฟนสาวมาด้วยนะ น้องคนนี้คือคนในบทสนทนาของเหตุการณ์วันนั้น หน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มเลยล่ะ ก็ไม่รู้ว่าไปทำอีท่าไหนน้องถึงได้รับรักมินนี่แล้วด้วย รวดเร็วจริงๆงานช่วงเช้าจัดทำตามพิธีสงฆ์แล้วก็แห่ขบวนขันหมาก ชุดไทยที่เลือกมาเป็นสีเงินปักตกแต่งด้วยสีแดง สีตัดกันสุดๆ ใส่แล้วผิวขาวออร่ามากๆ ฝั่งเจ้าบ่าวก็ไม่น้อยหน้าเลย ใส่ชุดไทยฉบับเจ้าบ่าวปกติทั่วไปแต่ออร่าความหล่อนั้นพุ่งมาก อื้มมม หล่อจนใจเจ็บเลยล่ะ หน้าที่กั้นประตูเงินประตูทองจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากยาหยีและนาบี อ้อ มีเพิ่มด้วยอีกหนึ่งคน นั่นก็คือมินนี่นั่นเอง แต่ละคนโหดกับพี่เดลล์มากๆ สั่งทำนั่นทำนี่กว่าจะป
เช้าแสงแดดยามเช้ากับหมอกบางๆ ที่ปกคลุม สามสาวที่นัดกันแต่งตัวสวยและตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อมารอดูพระอาทิตย์ขึ้นและเก็บภาพบรรยากาศสวยๆ “สวยจังเลยอ่า” นัตตี้“อยากมาอีกจัง” นาบี“มาครั้งหน้าก็คงคิวมึง แต่คงเป็นที่อื่น”“หือ ยังไงนะ” นัตตี้ที่งง อะไรคือคิวของนาบี“...” นาบีกัดฟันทำตาเขียวปั๊ดใส่ยาหยี เธอรู้ว่ายาหยีหมายถึงอะไร แต่แล้วทำไมต้องมาแซวเธอหรือว่า…ผ่านไปไม่นานสามสาวก็เดินไปเรื่อยๆ สำรวจทุกพื้นที่ สนุกจนลืมทานอาหารเช้าจนกระทั่งเดินมาถึงซุ้มดอกไม้หลากสีให้ความโดดเด่นตัดกับชุดเดรสยาวสีขาวและตัดกับธรรมชาติที่เป็นสีเขียว ซึ่งทุกอย่างสวยงามลงตัว“ตรงนี้เขาทำใหม่เหรอ ตอนดูหน้าเพจไม่เห็นมี”“เขาทำมาเพื่อใครบางคนละมั้ง”“อ้าว งั้นคงไม่ใช่ที่สำหรับลูกค้าแบบเรา งั้นไปกันเถอะ” ในระหว่างที่นัตตี้กำลังยืนโพสต์ท่าให้เพื่อนๆ ถ่ายรูปให้ตรงซุ้มดอกไม้ พอได้ฟังแบบนั้นจากปากเพื่อนว่าตรงนี้เขาคงทำใหม่ให้ใครบางคน ซึ่งเธอคิดว่าคงเป็นโซนพิเศษของลูกค้าท่านอื่นที่อาจจะมีการจัดตกแต่งไว้เพื่อเซอร์ไพรส์ของคู่รักคู่หนึ่ง แค่คิดตามเธอก็แอบอมยิ้มออกมา น่าอิจฉาผู้หญิงคนนั้นจังเมื่อนัตตี้กำลังก้าวขาเดินออกจากซุ
วันนี้นัตตี้ได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว แน่นอนว่าเดอะแก๊งส์กลุ่มใหญ่ก็มารวมกันที่โรงพยาบาลกันจนครบทุกคน เพราะเรนเดลล์อยากชวนทุกคนไปทานข้าวด้วยกัน อยากขอบคุณที่วันนั้นทุกคนช่วยเหลือเขาเป็นอย่างดี ทั้งไปเป็นเพื่อนเขาที่เชียงใหม่ ไปด้วยกันหมดทุกคน เขารู้สึกซึ้งใจและอยากขอบคุณ ซึ่งนัตตี้เองพอรู้ความจริงทั้งหมดเธอก็รู้สึกแบบนั้นเช่นเดียวกัน@ ร้านอาหารฟิวชั่นแห่งหนึ่งเรื่องสั่งอาหารก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของสาวๆ จัดการกันไป นัตตี้ นาบี และยาหยีก็ตัวตึงในเรื่องของการกินจุกินเยอะกินเกินตัว ในส่วนของอาหารของมื้อนี้ประกอบไปด้วย เปาะเปี๊ยะสดบาร์บีคิว ห่อหมกเพนเนปู เกี๊ยวซ่ากุ้งผัดไทย สเต๊กทีโบนย่างจิ้มแจ่ว ข้าวอบใบบัว เกี๊ยวซ่าราดหน้า อาหารที่สั่งคูณสองทุกจาน ทั้งยังมีผลไม้ของของหวานตบท้ายอีกด้วยนัตตี้นับจากวันนี้ไป ฉันจะใช้ชีวิตให้มีความสุขที่สุดเพื่อชดเชยจากความเจ็บปวดที่ผ่านมา รอบข้างฉันมีเพื่อนที่น่ารักและกวนส้นตีนในเวลาเดียว แต่พวกมันนี่แหละที่อยู่เคียงข้างเสมอมา ฉันรักพวกมันที่สุด หลังจากวันนี้ไปฉันต้องวางแผนการใช้ชีวิต ฝึกงานเสร็จก็เคลียร์ทำเรื่องจบของกับทางมหาวิทยาลัย และหลังจากที่เรียนจบก็
@ โรงพยาบาล XXXนัตตี้ยังต้องอยู่ รพ. เพื่อเฝ้าดูอาการอีกสองวัน ช่วงนี้เพื่อนๆ ก็โทรมาถามอาการแทนการมาเยี่ยม เพราะมีหวานใจที่เพิ่งจะคืนดีกันหมาดๆ คอยดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่น่าจะต้องห่วงอะไรแล้ว ส่วนแม่ศิก็มาหาทุกวันหลังจากแวะส่งน้องรามิที่โรงเรียนท่านก็แว๊บมาที่โรงพยาบาลก่อนกลับบ้านทุกครั้ง ท่านทำอาหารมาให้ลูกชายและว่าที่ลูกสะใภ้ทานทุกเช้า“เรื่องนั้น… มันโดนจำคุกแล้วนะ”“...”“ยังกลัวอยู่ไหม”“กลัวค่ะ แต่ตี้รังเกียจมากกว่า ตี้…ขยะแขยง”“อืม ตำรวจไม่ให้ประกันตัวด้วย”“สมควรแล้วค่ะ”เรนเดลล์ดูแลนัตตี้เป็นอย่างดีเหมือนที่ผ่านมา จับอาบน้ำจับแต่งตัว นัตตี้แทบไม่ต้องทำอะไรเอง ตอนนี้ทั้งสองคนก็รอคุณแม่มาหาและทานข้าวเช้าพร้อมกันสามคน ใช้เวลาเพียงไม่นานแม่ศิก็เดินทางมาถึง“พรุ่งนี้ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วใช่มั้ยลูก”“ค่ะคุณแม่”“ช่วงนี้ไปอยู่ที่บ้านกับแม่ก่อนมั้ย”“ไม่เป็นไรค่ะ พอดีคอนโดตี้อยู่ใกล้ที่ฝึกงานมากกว่า”“เอางั้นก็ได้ลูก”ทั้งสามคนนั่งทานข้าวด้วยกันคุยกันไปเรื่อยเปื่อยจนกระทั่ง… ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! “วันนี้เพื่อนตี้โทรมาบอกว่าไม่ได้มานี่นา เพื่อนพี่เดลล์หรือป่าวคะ”“ไม่นะ… เดี๋ยวพี่ไปดูเ
แม่ศิและน้องรามิเดินทางมาถึงโรงพยาบาลได้สักพักใหญ่ๆ อาหารที่เตรียมมาให้ผู้ป่วยก็จะเป็นของชอบนัตตี้ทั้งนั้น อาทิ เช่น ต้มจืดไข่น้ำ อกไก่ต้มน้ำปลา ลาซานญ่าอบชีสส่วนผลไม้ก็จะเป็น องุ่น กีวี่ แตงโม และยังทำน้ำส้มคั้นของโปรดมาให้ว่าที่ลูกสะใภ้อีกด้วย ทั้งยังแวะซื้อชานมฮออกไกโดมาเกือบยี่สิบแก้วมาแช่ตู้เย็นไว้ให้หนุ่มๆ สาวๆ ที่ค่อนข้างอยู่กันหลายคนท่านรู้จักนัตตี้มาก่อนเรนเดลล์ แน่นอนว่าเรื่องอาหารการกินท่านย่อมรู้มากกว่าเรนเดลล์แน่นอนว่านัตตี้ชอบทานอะไรบ้าง ไม่ได้มีแค่นี้ มีมากกว่านี้อีก แต่เมนูเหล่านี้คัดสรรมาให้ผู้ป่วยทานอาหารอ่อนๆ ท่านตั้งใจทำให้สุดฝีมือ“หนูตี้ ลูก” ท่านเรียกด้วยเสียงสั่นเครือ ตั้งแต่เกิดเรื่องท่านรู้สึกเป็นห่วงมาก เพราะท่านรู้เรื่องราวในชีวิตก่อนหน้านี้ของนัตตี้ดีทุกเรื่อง อย่างที่รู้กันว่าทั้งสองคนรักกันให้ความอบอุ่นเหมือนแม่กับลูก นัตตี้เล่าเรื่องทุกอย่างให้แม่ศิฟัง ท่านเข้าใจดีว่านัตตี้เผชิญกับอะไรมาบ้าง“แม่ศิ…” นัตตี้ก็ตอบกลับด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเช่นกัน ญาติผู้ใหญ่ที่เธอเหลืออยู่ก็คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากแม่ศิ พ่อแท้ๆ ของเธอก็ไม่เคยสนใจตั้งแต่ที่แม่ของนัตตี้จากไ
หลังจากวางสายคุณแม่ ผมก็ขอเข้าพบคุณหมอทันทีเพราะอยากสอบถามอาการของเธอ“ผมมาติดต่อขอพบคุณหมอเจ้าของคนไข้ นางสาว นัฐนิษา ภิรมรักษ์ ครับ”“เชิญด้านในเลยค่ะ คุณหมอรออยู่”“ขอบคุณนะครับ”… “สวัสดีครับคุณหมอ”“ครับ เชิญนั่งครับ”“คุณเป็นญาติของคนไข้ใช่ไหมครับ”“เป็นแฟนครับ”“โอเคครับ ถ้างั้นเราต้องคุยกันค่อนข้างยาวหน่อยนะครับ เพราะหมอจะแนะนำวิธีดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด”“ผู้ป่วย?”“ครับ คนไข้มีภาวะเป็นผู้ป่วยได้ และอาจจะไม่เป็นก็ได้ ขึ้นอยู่สภาพแวดล้อมและสภาพจิตใจ งั้นเดี๋ยวหมอขอสอบถามประวัติผู้ป่วยก่อนหน้านี้นะครับ ว่าเจอเคยเหตุการณ์ที่กระทบจิตใจอะไรมาบ้าง เพื่อที่หมอจะได้วินิจฉัยว่าอยู่ในความร้ายแรงขั้นใดนะครับ”เรนเดลล์เล่าทุกอย่างให้คุณหมอฟัง เริ่มจากนัตตี้สูญเสียแม่ ปัญหาเรื่องครอบครัวใหม่ก็ตามมา ปัญหาเรื่องพ่อ เรื่องพี่ชายต่างแม่ที่เมื่อก่อนก็โดนคุกคามทางวาจา จนย้ายออกมาอยู่คนเดียว และเปิดใจมีแฟนคนแรกก็เจอเหตุการณ์ไม่ดีเพราะโดนหลอก จนมาคบกับเขาและมีเรื่องเข้าใจผิดกันและยังไม่ทันได้อธิบาย จนเหตุการณ์ล่าสุดที่พี่ชายต่างแม่ตั้งใจคุกคามและต้องการจะขืนใจก็เกิดขึ้นซะก่อน และมันก็ยังไม่ได้เกิ
@สนามบินเชียงใหม่ ลูกน้องไอ้วิลล์มันทำงานเร็วมาก ตอนนี้เราอยู่สนามบินเชียงใหม่เรียบร้อยกำลังเดินทางไปยังที่พักที่น้องตี้จองไว้ ที่ใช้คำว่าเราเพราะตอนนี้มากันหกคน มีผม ไอ้วิลล์ ไอ้เจย์ ไอ้แท็ค น้องยาหยีและน้องนาบีอีกด้านสองวันผ่านไปที่ฉันปิดเครื่องโทรศัพท์ไว้ วันนี้อากาศดีสุดๆ และฉันก็อยากถ่ายวิวธรรมชาติซะด้วยสิ มันสวยมาก ฉันไม่ได้สนใจว่าใครจะโทรจะไลน์ก็ช่างมัน เมื่อฉันเปิดเครื่อง ทั้งโทรทั้งไลน์มีแจ้งเตือนเยอะแยะเต็มไปหมด แต่ฉันไม่ได้เปิดอ่านของใครสักคน และไม่โทรกลับหาใครด้วย ปล่อยเอาไว้แบบนั้นแหละ และเมื่อถ่ายรูปจนพอใจฉันก็กลับเข้าที่พัก เพราะเริ่มเหนื่อยและเริ่มหิว ตั้งใจว่าจะเข้าไปอาบน้ำก่อนและค่อยออกมาเปิดหูเปิดตายังโซนอาหารของรีสอร์ทโซนอาหารอาหารน่าทานหลายอย่างมากๆ ฉันเจริญอาหารมากกว่าเมื่อวานทานได้เยอะขึ้น ที่นี่มีไวน์ให้ด้วยนะ ฉันดื่มไปสามแก้วกำลังดีเพื่อจะได้นอนหลับได้ง่ายขึ้น และตอนนี้กำลังจะกลับเข้าที่พัก … ในระหว่างที่นัตตี้กำลังนั่งดื่มไวน์อยู่ มีสายตาคู่หนึ่งจดจ้องไม่วางตา และสังเกตรอบข้างแล้วว่าเธอมาคนเดียว“หึ บทจะเจอก็เจอง่ายจัง แถมยังมาเจอกันในที่ไกลๆ แบบนี้ด้
@ เชียงใหม่ ที่พักออนเซ็น แอท XXXฉันแบกใจพังๆ มากลบดานที่นี่ ฉันเลือกที่นี่เพราะฉันกับเขาเราเคยดูที่นี่ไว้ด้วยกัน เขาบอกว่าจะพาฉันมาหลังจากฝึกงานเรียบร้อยแล้ว แต่ตอนนี้ฉันขอมาก่อน ขอมาพักใจก่อน การทำอะไรคนเดียวมันไม่ง่ายแต่ก็ไม่ยาก อ่อ ตอนลงเครื่อง ฉันแว๊บไปห้างสรรพสินค้าในตัวเมืองมาแล้ว ซื้อสายชาร์ตแบต ของใช้ส่วนตัวและเสื้อผ้าเท่าที่จำเป็น ฉันโทรมาจองที่พักกะทันหัน โชคดีว่ามันมีห้องว่างให้กับคนใจพังๆ คนนี้ ห้องที่ฉันเลือก ไม่สิ เป็นห้องที่มันเหลือพอดี แต่ก็เป็นห้องที่ชอบตั้งแต่ดูไว้กับเขาครั้งนั้น ห้องรอยัล เรสxxx ห้องใหญ่มากไม่เหมาะกับการอยู่คนเดียวเลยสักนิดเมื่ออยู่กับตัวเอง ฉันคิดอะไรๆ ได้หลายอย่างมากเลยนะ มาคิดๆ ดูแล้ว ฉันไม่เหมาะกับการมีคนรักเลยสักนิด นับประสาอะไรกับคนในครอบครัวผู้ชายที่เรียกว่า ‘พ่อ’ ฉันก็ไม่รู้ว่าตั้งแต่ตอนไหนที่ท่านไม่รักฉัน เพราะตอนที่ครอบครัวเรายังมีความสุขด้วยกัน ท่านรักแม่และรักฉันมาก มากจนไม่คิดว่าวันนึงเรื่องทุกอย่างมันกลายเป็นแบบนี้รักที่เกิดจากเลือดเนื้อเชื้อไขยังหมดรักได้ แล้วนับประสาอะไรกับความรักจากคนอื่น ฉันไม่ควรคาดหวัง… ในระหว่างที่ฉันคิดอะ