บทที่ 33แค่ตัวตัวแทน (2)“ทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้ล่ะครับ” มารุตที่เดินตรวจสอบความเรียบร้อยภายในตัวบ้าน ครั้นออกมายังโถงรับรองก็เห็นผู้หญิงของนายกำลังนั่งอยู่บนพื้นพรม พลางกดสายตาจดจ่อกับเล่มสมุดบางอย่างที่อยู่ตรงหน้าหลังจากที่ไตรพัฒน์พ้นขีดอันตราย แพทย์ประจำตัวก็ให้รอเวลาสำหรับการพักฟื้น เพราะนอกจากจะต้องผ่ากระสุนออกแล้ว ร่องรอยบาดเจ็บตามร่างกายรวมถึงอาการฟกช้ำภายในก็ยังคงต้องรักษาอย่างใกล้ชิดด้วยเช่นกันและในฐานะที่สายป่านเป็นผู้หญิงของเจ้านาย ลูกน้องอย่างเขาก็เสนอให้เจ้าหล่อนพักค้างที่นี่ เผื่อว่าวันถัดไปไตรพัฒน์ตื่นฟื้นแล้วต้องการเจอหน้าเธอ เนื่องจากล่วงรู้ดีว่าตลอดเวลาที่ไม่ได้เจอหน้ากันเจ้านายของเขานั้นโหยหาเธอมากเพียงใด“ป่านนอนไม่หลับน่ะค่ะ เลยหยิบบันทึกการฝึกงานมานั่งทำไปพลาง ๆ” สายป่านหันไปมองยังต้นเสียงก็เห็นว่าเป็นมารุตที่เดินถือไฟฉายเข้ามา พอเจอกับใบหน้าเรียบนิ่งเคร่งขรึมก็ทำให้เธอถึงกับยิ้มแหย เนื่องจากรู้ดีว่าที่นี่ไม่ใช่บ้านของตัวเองที่จะสามารถทำได้ตามอำเภอใจ“แล้วทำไมไม่ทำบนห้องล่ะครับ ห้องคุณไตรก็มีโต๊ะทำงานอยู่” เขาถามเสียงเข้ม เรียวคิ้วยังคงขมวดมุ่นเพราะไม่เข้าใจว่าท
บทที่ 34ปลอดภัยSAIPAN’S PART ;แสงแดดโผล่พ้นจากพื้นดินบ่งบอกเวลาเช้า ฉันตัดสินใจลุกขึ้นจากเตียงและอาบน้ำแต่งตัว จากนั้นก็เดินลงไปยังชั้นล่างเผื่อจะทราบข่าวดีว่าคนบาดเจ็บปลอดภัยและฟื้นตื่นขึ้นมาแม้คำพูดของหมอรินจะทำให้ฉันเสียใจและคิดมาก รวมถึงความเป็นห่วงที่มีต่อคุณไตรทำให้นอนไม่หลับ แต่ด้วยความเหนื่อยล้าของร่างกายกลับทำให้ฉันยังพอปิดเปลือกตาลงได้ ทั้งที่มันเป็นการพักผ่อนเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ตามถึงจะรับรู้สถานะของตัวเองแล้ว แต่ก็ต้องยอมรับโดยดีว่าฉันเป็นห่วงเขามากจริง ๆ มันเลยทำให้ฉันยังหน้าด้านหน้าทนอยู่ในบ้านหลังนี้เพื่อหวังว่าจะได้รับข่าวดีว่าคุณไตรปลอดภัย“ทำไมตื่นเร็วนักล่ะครับ นี่เพิ่งหกโมงกว่าเอง”ครั้นก้าวเท้าลงไปยังบันไดขั้นสุดท้าย เสียงเข้ม ๆ จากทางด้านหลังก็ดังแทรกขึ้นพลันให้ฉันหันไปมองด้วยความตกใจ“ป่านนอนไม่ค่อยหลับน่ะค่ะ แล้วก็เป็นห่วงคุณไตรด้วย”“คุณไตรปลอดภัยแล้วครับ ช่วงตีสี่นายฟื้นขึ้นมา หมอรินตรวจดูอาการก็ปกติทุกอย่าง เหลือแค่รักษาและปล่อยให้ร่างกายพักผ่อนอย่างเต็มที่ก็หายดีแล้ว”ทว่าสิ่งที่ได้ยินทำเอาฉันรีบเงยหน้าขึ้นฉับพลัน ตอนแรกก็ยังไม่มั่นใจว่าฉันหูเพี้ยนเพรา
บทที่ 35ช่วยฉัน (1)หลายวันผ่านไปอาการของคุณไตรดีขึ้นตามลำดับ ด้วยเดิมทีร่างกายที่แข็งแรงอยู่แล้วจึงทำให้บาดแผลถูกยิงและรอยฟกช้ำตามตัวบรรเทาลงไปมาก หากแต่ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนจึงทำให้คุณไตรป่วยไข้ตัวร้อนรุม ๆ และไอคอแห้ง ซึ่งหน้าที่ในการดูแลเขาตอนนี้ก็ตกมาอยู่ที่ฉันไปโดยปริยาย“เดี๋ยวผมช่วยนะครับนายหญิง”เสียงที่เอ่ยแทรกขึ้นทำเอาฉันหยุดฝีเท้าชะงักงัน ทั้งตกใจกับการปรากฏตัวของลูกน้องคุณไตร ทั้งแปลกใจกับสรรพนามที่เขาเรียกกันเมื่อครู่ กระทั่งร่างสูงใหญ่บึกบึนเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า ก่อนจะรับกะละมังที่เตรียมสำหรับการเช็ดตัวให้กับคุณไตรไปถือเอาไว้ฉันมั่นใจว่าตัวเองไม่ได้หูเพี้ยนว่าเขากำลังเรียกฉัน ‘นายหญิง’ จริง ๆ“นายหญิงจะไปเช็ดตัวนายใช่ไหมครับ เดี๋ยวผมช่วยถือไปให้ครับ”“เอ่อ...” เป็นอีกครั้งที่ฉันนิ่งงันและกะพริบตาปริบ ๆ“มีอะไรหรือเปล่าครับ” เป็นเสียงของพี่มารุตที่ดังแทรกขึ้น มันทำให้ฉันได้สติและหันไปมองคาดว่าอาการตกตะลึงคงจะเข้าตาจนถึงกับต้องเดินมาถาม แถมตอนนี้ลูกน้องของเขาก็ค้อมศีรษะลงเล็กน้อย และไม่ได้แก้ไขกับสรรพนามที่เรียกกันอีกด้วย“ผมมาช่วยนายหญิงถือกะละมังน่ะครับ แต่อยู่ ๆ น
บทที่ 36ช่วยฉัน (2)ร่างกายของฉันถูกจับวางให้นั่งลงบนพื้นพรม ในขณะที่คุณไตรก็นั่งประจำที่เก้าอี้ทำงานของเขาแกนกายอวบใหญ่ถูกควักออกมาปรากฏสู่สายตา มือหนาจับชักรูดขึ้นลงช้า ๆ ส่วนมืออีกข้างก็ประคองท้ายทอยของฉันเพื่อให้ขยับเข้าใกล้ชิดสำหรับการครอบครองมันครั้งแรก“คุณไตร...” ฉันเอ่ยเสียงแผ่วเมื่อสายตามองสิ่งตรงหน้าอย่างนึกหวั่นมันไม่ใช่ครั้งแรกที่เห็น หากแต่มันเป็นครั้งแรกที่ได้สัมผัสและแนบกับมันอย่างใกล้ชิดแบบนี้“เด็กดี ช่วยฉันนะ” คุณไตรบอกเสียงอ่อน มือจากที่จับท้ายทอยก็เคลื่อนมาลูบที่เรือนผมของฉันเบา ๆ คล้ายกับเป็นการปลอบประโลมฉันช้อนสายตาสบประสานด้วยความสั่นเทา แต่ไม่นานก็ตัดสินใจโน้มตัวเข้าใกล้ กระทั่งท่อนความอวบใหญ่แตะสัมผัสที่ริมฝีปากฉันถึงได้ทำใจกล้าครอบครองมันเข้าด้านใน ทั้งที่มันอึดอัดและเต็มแน่นจนแทบสำลัก“อ่า! ป่าน...ฮึ่ม!” เพียงเสี้ยววินาทีเสียงครางต่ำก็ดังขึ้น พร้อมกับใบหน้าหล่อเหลาของคุณไตรที่เชยมองด้านบนฉันลอบสังเกตการณ์กระทำของเขาอยู่เนือง ๆ แต่ก็ยังคงทำตามหน้าที่ของตัวเอง แม้ว่าจะไร้ประสบการณ์และเงอะเงิ่นมากแค่ไหน หากแต่เสียงครางต่ำที่ได้ยินแล้วก็พอทำให้วางใจได้ว่าฉ
บทที่ 37ไม่เคยพอ“คุณไตร...” ฉันพยายามเปล่งเสียงเรียกรั้งให้เขาหยุด หากแต่มันบางเบาและถูกกลืนกลับลงสู่ลำคอดังเดิมเมื่อริมฝีปากฉกฉวยทาบทับซ้ำแล้วซ้ำเล่าสติของฉันถูกพรากให้ดำดิ่งอยู่ในห้วงปรารถนา ลอยล่องไปกับสัมผัสรสจูบไหวหวามของเขาจนไม่อาจกู่กลับได้อีกต่อไปฉันหลับตาพริ้มตอบรับและตอบสนอง ปล่อยตัวปล่อยใจและส่งมอบให้เขาทั้งหมด มือสองข้างยกขึ้นคล้องที่ต้นคอหนา บดเบียดร่างกายให้แนบชิดคลอคลึงหวังเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันริมฝีปากของเราบดคลึงกันเนิ่นนานจนไม่รู้เลยว่าเวลาล่วงเลยไปมากเท่าไร กระทั่งรู้ตัวอีกทีเสื้อผ้าบนร่างกายของตัวเองและเขาได้หลุดหายไปจนหมดแล้วความเปลือยเปล่าถูกกระทบด้วยลมแอร์เย็นฉ่ำ ครั้นสติดวงน้อย ๆ อันเลือนรางถึงได้ย้อนคืนกลับมา จนมันประมวลได้ว่าตอนนี้คุณไตรกำลังเริ่มต้นบทบรรเลงขึ้นแล้ว“คุณไตรไม่ใส่ถุงเหรอคะ” ฉันเอ่ยถามเสียงบางเบา ตอนที่ผงกหัวมองถึงได้เห็นว่าเขากำลังชักรูดลำกายอวบก่อนจะกดจ่อพร้อมสอบกระทั้นที่ปากทาง“อยากสด ได้ไหม?”“ดะ...ได้ค่ะ ป่านกินยาคุมอยู่”“ก็ดี” สิ้นคำตอบเอวหนาก็สอบเข้าหาจนฉันสะดุ้งโหยงแม้ว่าช่องทางจะฉ่ำเยิ้มพร้อมพรักเป็นอย่างดี แต่ด้วยขนาดที่แตกต
บทที่ 38หุ้นส่วนหลายวันผ่านไปหลังจากที่รักษาตัวจนร่างกายหายเป็นปกติ ไตรพัฒน์ก็ให้ความสนใจกับเนื้อหางานต่อทันที ซึ่งในวันนี้เขาได้นัดหมายให้น้องชายเข้ามาหาที่บริษัท เนื่องจากมีธุระสำคัญที่จะต้องพูดคุยกันโดยด่วน รวมถึงมารุตเองก็เป็นหนึ่งในคนสำคัญที่มีส่วนเกี่ยวข้องในวันนี้ด้วยเช่นกันไตรพัฒน์เข้ามาในห้องทำงานพร้อมกับมือขวา กระทั่งเห็นว่าตุลธรได้มานั่งรอที่ห้องแห่งนี้ก่อนแล้วเรียบร้อย แม้ว่าเนื้อหางานในวันนี้จะเป็นงานสำคัญ อีกทั้งตุลธรเองก็ไม่มีหน้าที่ใด ๆ กับส่วนนี้ แต่ไตรพัฒน์เองก็ยังคงหวังในภายภาคหน้าว่าเขาจะดันตุลธรขึ้นนั่งในตำแหน่งสำคัญแทนตัวเอง“มึงทำหน้าแบบนั้นหมายความว่าไง” ไตรพัฒน์นั่งลงบนโซฟาพลางกดสายตามองไปยังน้องชาย ที่ตอนนี้ทำหน้าเหนื่อยหน่ายราวกับแบกโลกไว้ทั้งใบก็ไม่ปานคนเป็นพี่ชายย่อมรู้ดีว่ามันเกิดจากสิ่งใด แต่ที่เขาต้องถามออกไปนั้นก็เหมือนเป็นการติเตียนและย้ำชัดในสถานะว่าต่อให้แสดงอารมณ์ในรูปแบบไหน เขาก็ไม่มีวันตามใจได้เหมือนเรื่องอื่นตุลธรไม่มีหน้าที่กับงานของบริษัท เหตุเพราะเกลียดขยาดจนแทบไม่อยากเข้าใกล้ คงจะมีก็แต่เรื่องเดียวที่ทำงานได้ดีจนออกปากชมอยู่หลายครั้งนั
บทที่ 39ผิดแผน“พี่นุ้ยจะเอาอะไรคะ เดี๋ยวป่านไปสั่งให้ค่ะ” สายป่านถามหลังจากที่เดินเข้ามาด้านในร้านกาแฟพร้อมกับหัวหน้าที่ดูแลการฝึกงาน“อืม...เอาอะไรดีนะ เอาเลมอนโซดาดีกว่า เบื่อพวกกาแฟแล้ว อะนี่จ้ะ เอาเงินนี่จ่ายนะ ป่านเองก็สั่งมาด้วยเลย” ครุ่นคิดรายการที่จะสั่งไม่นานก็ตัดสินใจได้ เธอหยิบธนบัตรส่งให้กับเด็กสาว พร้อมกับกำชับให้สั่งเครื่องดื่มมาด้วยกัน เนื่องจากรู้ดีว่าจะต้องได้รับการปฏิเสธกลับมาเช่นทุกครั้ง“เลี้ยงป่านอีกแล้วง่า พี่นุ้ยอย่าใจดีนักสิคะ ถ้าป่านฝึกงานเสร็จแล้วป่านคงใจหายแย่ที่จะไม่ได้เจอหัวหน้าใจดีแบบพี่นุ้ยอีก” สายป่านส่งสายตาอ้อน หากแต่คำพูดที่เอื้อนเอ่ยล้วนออกมาจากหัวใจทั้งสิ้น“พี่ต่างหากที่ใจหาย นี่ก็เหลืออีกไม่ถึงเดือนแล้วด้วย เฮ้อ...ฝึกงานเสร็จแล้วก็มาสมัครที่นี่ได้นะป่าน บริษัทเรายินดีต้อนรับเสมอ”“โหย ป่านนี่เด็กเส้นดี ๆ นี่เอง”“แน่นอนสิ บอกไปเลยนะว่าเป็นเด็กพี่นุ้ย ไม่มีใครกล้าแหย็มแน่!”“คิก ๆ ป่านไปสั่งเครื่องดื่มดีกว่า พี่นุ้ยไปนั่งรอที่โต๊ะก่อนนะคะ เดี๋ยวป่านเอาไปเสิร์ฟให้ถึงที่เลย” หญิงสาวส่งยิ้มร่าก่อนจะเดินแยกไปยังเคาน์เตอร์เครื่องดื่ม และเลือกสั่งตามร
บทที่ 40เหยื่อล่อ (1)“เจ็บหรือเปล่า ถ้าเจ็บบอกฉันนะป่าน” เสียงทุ้มนุ่มหูเอ่ยบอกอย่างอ่อนโยน ขณะที่มือใหญ่ก็บรรจงกดสำลีชุบยาแนบไปกับแผลถลอกตามขาเรียว“ไม่เจ็บเลยค่ะ” สายป่านส่ายหน้าพลางยิ้มออกมาบาง ๆเธอไม่ได้เจ็บกับบาดแผลเลยสักนิด กลับกันเธอเจ็บปวดในหัวใจเสียมากกว่า…หลังจากที่ไตรพัฒน์พาเธอกลับมาที่บ้าน เขาก็จัดการทำแผลให้เธอเองกับมือ ทั้งยังบอกกับนุ้ยหัวหน้างานให้แล้วด้วยว่าสายป่านเกิดอุบัติเหตุจนต้องขอตัวกลับก่อนด้วยเหตุนั้นสายป่านถึงต้องรีบส่งข้อความไปขอโทษขอโพย ทั้งยังถ่ายรูปบาดแผลเล็ก ๆ ไปยืนยันอีกแรง เนื่องจากกลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่พอใจที่ไม่ยอมบอกโดยตรง แต่สิ่งที่นุ้ยตอบกลับมาล้วนแต่มีความเป็นห่วงเป็นใย ทั้งยังอนุญาตให้ลางานได้ในวันพรุ่งนี้ สายป่านเลยคลายกังวลไปได้อีกหนึ่งเรื่อง“ทำไมเธอถึงไปเจอกับมันได้ล่ะ คนของฉันบอกว่าเธอเดินเข้าไปหามันเอง” มาเฟียหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองด้วยความแปลกใจ นัยน์ตาคมเข้มแต่ไม่มีการตำหนิใด ๆ เลยสักนิด ทว่ามันกลับทำให้สายป่านร้อนรุ่มจนแสดงท่าทีกังวลออกมา“อึก! ปะ...ป่าน ป่าน...”“ตอนแรกคนของฉันมันรายงานว่าเธอน่าจะรู้จักกับมัน เพราะเห็นจับมือพูดคุยกันด้วย
บทที่ 45พลาด“กล่อมเด็กเข้านอนเรียบร้อยแล้วเหรอครับ”เมื่อไตรพัฒน์เดินเข้ามาในห้องทำงาน เสียงของมือขวาคนสนิทก็ไม่วายเอ่ยแซวอย่างขบขัน นัยน์ตาพราวเป็นประกาย จนคนที่ถูกถามเป็นต้องรีบปั้นหน้านิ่งขรึมพร้อมกับกดสายตาดุส่งไปให้“ไอ้ตุลย์ไปถึงหรือยัง”“อ้าว นายยังไม่ตอบคำถามผมเลยนะครับ” มารุตเลือกที่จะถามต่อ น้ำเสียงหยอกเย้าไม่เกรงกลัวในอำนาจของผู้เป็นนาย เพราะทำงานด้วยกันมานานหลายปี การได้เห็นนายตัวเองกล่อมเด็กสาวคนโปรดเข้านอนก็นับว่าเป็นเหตุการณ์ที่น่าเก็บภาพเป็นที่ระลึกไว้มากที่สุด“ไอ้รุต!” ไตรพัฒน์ตวัดสายตาดุดันให้กับมือขวา ทั้งที่เปลี่ยนเรื่องเข้าสู่งานในค่ำคืนนี้แล้วก็ยังไม่วายไล่ต้อนเขาถึงสิ่งที่ไม่เคยทำอย่างการง้องอนเด็กในปกครองแต่เขาก็ทำมันไปแล้วจริง ๆ นั่นแหละ...“โอเคครับ ไม่พูดแล้วครับ ตอนนี้คุณตุลย์ไปรอยังจุดนัดหมายแล้วครับนาย คนของเรารายงานว่าอีกสิบนาทีลูกค้าก็จะเดินทางมาถึง” มารุตยกมือปิดปากตัวเองเมื่อได้ยินน้ำเสียงเข้ม ๆ ของนายที่แสดงออกว่าไม่มีทีท่าจะเล่นด้วย จากนั้นถึงได้วกกลับเข้าเรื่องการส่งสินค้าที่เขาได้มอบหมายให้ตุลธรผู้เป็นน้องชายจัดการ“แล้วเรื่องหนอนมึงคิดว่าใคร”
บทที่ 44เลี้ยงส่งวันสุดท้ายของการเป็นนักศึกษาฝึกงานไม่มีภาระความรับผิดชอบใด ๆ นอกเหนือจากการเลือกร้านอาหารให้กับหัวหน้าสาวเลี้ยงอำลาก่อนจะแยกจากกันเมื่อถึงเวลาเลิกงานเหล่าพนักงานออฟฟิศก็รวมตัวกัน โดยมีการนัดหมายและจุดหมายปลายทางเป็นสถานที่เดียวกันก็คือร้านอาหารไม่ใกล้ไม่ไกลจากบริษัท จุดประสงค์ก็เพื่อเป็นการเลี้ยงส่งน้องเล็กสุดอย่างสายป่านที่จะไม่ได้มาทำงานที่บริษัทอีกต่อไปแล้ว“โห พี่นุ้ย...สั่งอาหารไว้รอแล้วเหรอคะเนี่ย”ทันทีที่เดินเข้ามาในห้องอาหารที่ถูกจองไว้ล่วงหน้าก็เป็นต้องตกตะลึงเบิกตากว้าง ไม่คิดว่าหัวหน้าสาวที่สนิทสนมกันจะเลือกจองห้องรับรองพิเศษเพื่อความเป็นส่วนตัว อีกทั้งยังสั่งอาหารไว้ล่วงหน้าที่ตอนนี้กำลังวางเรียงรายอยู่เต็มโต๊ะจนเธอตาลายไปหมด“ระดับพี่นุ้ยไม่ธรรมดาอยู่แล้วแหละป่าน” เสียงจากทางด้านหลังซึ่งเป็นของหนึ่งในพี่ที่ทำงานที่เธอเองก็สนิทสนมด้วยเช่นกัน“ใช่จ้ะ เลี้ยงส่งป่านทั้งทีนี่นา ป่านน่ะเป็นเด็กฝึกงานคนแรกของบริษัทเราเลยนะ แถมพี่เองก็ทั้งรักทั้งเอ็นดู นี่ยังเสียดายเลยที่ครบกำหนดฝึกงานแล้ว ไม่งั้นพี่จะขอให้บอสทำสัญญาว่าจ้างต่อนะเนี่ย”“โอ๊ย อย่าเพิ่งพูดกันเลย
บทที่ 43ระบายอารมณ์ฉันเดินไปเดินมาภายในตัวบ้านเนื่องจากเป็นห่วงและไม่รู้ว่าคุณไตรจะเป็นยังไงบ้าง หลังจากที่เขาเก็บตัวอยู่ในห้องทำงานหลายชั่วโมง ก็มีเพียงพี่มารุตคนเดียวเท่านั้นที่สามารถเข้าไปได้ ลองสอบถามจากพี่มารุตตอนที่เขาเดินออกมาก็ได้รับเพียงการส่ายหน้า นั่นเลยทำให้ฉันเลือกที่จะรอคอยเขาอยู่ด้านล่าง และหวังให้เขากลับมาเป็นตัวของตัวเองได้ในไม่ช้าเหตุการณ์ในวันนี้นับว่าเป็นเรื่องใหญ่สำหรับบริษัทไทรอัมพ์มาก นอกจากจะพลาดการร่วมหุ้นกับนักธุรกิจคนสำคัญแล้ว เขายังถูกหยามหน้ากับบริษัทคู่แข่งที่หวังแย่งชิงพื้นที่ทางธุรกิจอีกด้วยแล้วสิ่งที่เจ็บช้ำที่สุดที่ทำให้คุณไตรเดือดดาลมากขนาดนี้ก็คงไม่พ้นเรื่องข้อมูลที่ถูกเผยแพร่ออกไป พอรู้ว่าเขาไม่ได้พูดเรื่องนี้กับใคร หากแต่มันหลุดรอดถึงอีกฝ่ายจนถูกตัดหน้าแก่งแย่งแบบนี้ มันเลยทำให้คิดเป็นอื่นไม่ได้เลยว่าเขากำลังถูกหักหลังจากคนที่เป็นหนอนแฝงตัวและสิ่งที่ทำให้ฉันสะท้อนใจก็คือเรื่องนี้...หากฉันคิดร่วมมือเป็นนางนกต่อหวังพรากชีวิตของเขา ฉันก็ไม่ต่างจากหนอนบ่อนไส้ดี ๆ นี่เอง!“ผมว่าคุณไปหาอะไรรองท้องสักหน่อยน่าจะดีนะครับ นั่งรอแบบนี้มันก็ไม่มีอะไรดีข
บทที่ 42ปาดหน้าเค้กSAIPAN’S PART ;บรรยากาศตอนเช้าของบ้านหลังใหญ่ตกอยู่ในความวุ่นวายที่มีกำลังชายชุดดำมากกว่าเดิมสองเท่า เนื่องจากวันนี้เป็นวันที่คุณไตรจะต้องออกไปดีลกับหุ้นส่วนคนใหม่ที่จะร่วมหุ้นกันในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า“หล่อแล้วค่ะ” ฉันเอ่ยพร้อมรอยยิ้มหลังจากที่จัดแจงสวมใส่ชุดสูทราคาแพงให้กับคุณไตร เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับนัดหมายในไม่ช้า“ยังเจ็บอยู่หรือเปล่า” เสียงทุ้มเอ่ยถามกันอย่างอ่อนโยน ขณะที่มือใหญ่ก็ค่อย ๆ ประคองสัมผัสที่ผ้าพันแผลจากการถูกยิงบริเวณต้นแขนของฉันอย่างเบามือหลังจากที่คุณไตรพาฉันกลับมาที่บ้านหลังใหญ่ของเขา เขาก็เรียกหาหมอรินให้มารักษาเป็นการด่วน แต่โชคดีมากที่กระสุนไม่ได้ฝังเข้าสู่เนื้อกาย บาดแผลแค่ฉีกเล็ก ๆ เท่านั้น ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลที่เกิดขึ้นล้วนแต่เป็นความตั้งใจของคนอีกฝ่ายทุกอย่าง“นิดหน่อยค่ะ” ฉันตอบและหลบสายตาลงเพราะไม่อาจหาญพอที่จะมองหน้าเขาได้ตอนนี้รู้สึกอับอายไม่กล้าสู้หน้า ทั้งยังสับสนวุ่นวายจนไม่รู้เลยว่าหลังจากนี้มันจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของตัวเองความจริงที่ถูกเปิดเผยว่าพี่สาวที่หลงเหลืออยู่ในชีวิตนั้นเป็นมือปืนหวังพรากชีวิตคนที่ฉันเผลอมอบควา
บทที่ 41เหยื่อล่อ (2)พลั่ก!“อ๊ะ!” สายป่านร้องขึ้นเมื่อร่างสูงใหญ่ของชายชุดดำผลักให้เข้ามาด้านในโกดังมืดทึบ จนร่างกายล้มลงกระแทกกับพื้น“เฮ้ย เบาหน่อยสิวะ เดี๋ยวน้องเขาก็ระบมหมด” ผู้เป็นนายที่เดินตามมาเอ่ยปราม หากแต่แท้จริงกลับยิ้มหยันพอใจ และไม่ได้มีท่าทีตำหนิคนของตัวเองเลยสักนิด“อย่ามายุ่งกับน้องสาวฉัน!” เส้นด้ายรีบวิ่งเข้ามาผลักคนตัวใหญ่ออกห่าง ก่อนจะตรงปรี่เข้ามาประคองรั้งร่างกายน้องสาวของตัวเองเอาไว้ เพราะไม่ต้องการให้ใครหน้าไหนมาแตะต้องทั้งนั้น“อ้อ...พี่สาวของหวงซะด้วย มึงก็ระวังหน่อยสิวะ ผลักเขาล้มแบบนั้นเกิดผัวน้องเขามาเล่นงานกูจะทำยังไง” เรย์ยียวน รอยยิ้มเหยียดหยันเมื่อเห็นสองพี่น้องมองเขาด้วยความจงเกลียดจงชัง และคนที่พูดถึงก็ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากไตรพัฒน์ที่หวงแหนผู้หญิงคนนี้ยิ่งกว่าอะไร“ต้องการอะไรคุณเรย์ ทำไมต้องเอาน้องสาวของฉันเข้ามาเกี่ยวด้วย!” เส้นด้ายหันไปประจันหน้า น้ำเสียงตวาดกร้าวดังแผดลั่นทั้งหยาดน้ำตาที่ไหลหลั่งหมับ!“ก็เพราะน้องของเธอมันเป็นเหยื่อล่ออย่างดีน่ะสิ!” ร่างสูงให้คำตอบและเดินเข้ามาดึงรั้งเส้นด้ายให้แนบชิด มือใหญ่คว้าหมับที่ใบหน้าสะสวยของเธอ ออกแรง
บทที่ 40เหยื่อล่อ (1)“เจ็บหรือเปล่า ถ้าเจ็บบอกฉันนะป่าน” เสียงทุ้มนุ่มหูเอ่ยบอกอย่างอ่อนโยน ขณะที่มือใหญ่ก็บรรจงกดสำลีชุบยาแนบไปกับแผลถลอกตามขาเรียว“ไม่เจ็บเลยค่ะ” สายป่านส่ายหน้าพลางยิ้มออกมาบาง ๆเธอไม่ได้เจ็บกับบาดแผลเลยสักนิด กลับกันเธอเจ็บปวดในหัวใจเสียมากกว่า…หลังจากที่ไตรพัฒน์พาเธอกลับมาที่บ้าน เขาก็จัดการทำแผลให้เธอเองกับมือ ทั้งยังบอกกับนุ้ยหัวหน้างานให้แล้วด้วยว่าสายป่านเกิดอุบัติเหตุจนต้องขอตัวกลับก่อนด้วยเหตุนั้นสายป่านถึงต้องรีบส่งข้อความไปขอโทษขอโพย ทั้งยังถ่ายรูปบาดแผลเล็ก ๆ ไปยืนยันอีกแรง เนื่องจากกลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่พอใจที่ไม่ยอมบอกโดยตรง แต่สิ่งที่นุ้ยตอบกลับมาล้วนแต่มีความเป็นห่วงเป็นใย ทั้งยังอนุญาตให้ลางานได้ในวันพรุ่งนี้ สายป่านเลยคลายกังวลไปได้อีกหนึ่งเรื่อง“ทำไมเธอถึงไปเจอกับมันได้ล่ะ คนของฉันบอกว่าเธอเดินเข้าไปหามันเอง” มาเฟียหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองด้วยความแปลกใจ นัยน์ตาคมเข้มแต่ไม่มีการตำหนิใด ๆ เลยสักนิด ทว่ามันกลับทำให้สายป่านร้อนรุ่มจนแสดงท่าทีกังวลออกมา“อึก! ปะ...ป่าน ป่าน...”“ตอนแรกคนของฉันมันรายงานว่าเธอน่าจะรู้จักกับมัน เพราะเห็นจับมือพูดคุยกันด้วย
บทที่ 39ผิดแผน“พี่นุ้ยจะเอาอะไรคะ เดี๋ยวป่านไปสั่งให้ค่ะ” สายป่านถามหลังจากที่เดินเข้ามาด้านในร้านกาแฟพร้อมกับหัวหน้าที่ดูแลการฝึกงาน“อืม...เอาอะไรดีนะ เอาเลมอนโซดาดีกว่า เบื่อพวกกาแฟแล้ว อะนี่จ้ะ เอาเงินนี่จ่ายนะ ป่านเองก็สั่งมาด้วยเลย” ครุ่นคิดรายการที่จะสั่งไม่นานก็ตัดสินใจได้ เธอหยิบธนบัตรส่งให้กับเด็กสาว พร้อมกับกำชับให้สั่งเครื่องดื่มมาด้วยกัน เนื่องจากรู้ดีว่าจะต้องได้รับการปฏิเสธกลับมาเช่นทุกครั้ง“เลี้ยงป่านอีกแล้วง่า พี่นุ้ยอย่าใจดีนักสิคะ ถ้าป่านฝึกงานเสร็จแล้วป่านคงใจหายแย่ที่จะไม่ได้เจอหัวหน้าใจดีแบบพี่นุ้ยอีก” สายป่านส่งสายตาอ้อน หากแต่คำพูดที่เอื้อนเอ่ยล้วนออกมาจากหัวใจทั้งสิ้น“พี่ต่างหากที่ใจหาย นี่ก็เหลืออีกไม่ถึงเดือนแล้วด้วย เฮ้อ...ฝึกงานเสร็จแล้วก็มาสมัครที่นี่ได้นะป่าน บริษัทเรายินดีต้อนรับเสมอ”“โหย ป่านนี่เด็กเส้นดี ๆ นี่เอง”“แน่นอนสิ บอกไปเลยนะว่าเป็นเด็กพี่นุ้ย ไม่มีใครกล้าแหย็มแน่!”“คิก ๆ ป่านไปสั่งเครื่องดื่มดีกว่า พี่นุ้ยไปนั่งรอที่โต๊ะก่อนนะคะ เดี๋ยวป่านเอาไปเสิร์ฟให้ถึงที่เลย” หญิงสาวส่งยิ้มร่าก่อนจะเดินแยกไปยังเคาน์เตอร์เครื่องดื่ม และเลือกสั่งตามร
บทที่ 38หุ้นส่วนหลายวันผ่านไปหลังจากที่รักษาตัวจนร่างกายหายเป็นปกติ ไตรพัฒน์ก็ให้ความสนใจกับเนื้อหางานต่อทันที ซึ่งในวันนี้เขาได้นัดหมายให้น้องชายเข้ามาหาที่บริษัท เนื่องจากมีธุระสำคัญที่จะต้องพูดคุยกันโดยด่วน รวมถึงมารุตเองก็เป็นหนึ่งในคนสำคัญที่มีส่วนเกี่ยวข้องในวันนี้ด้วยเช่นกันไตรพัฒน์เข้ามาในห้องทำงานพร้อมกับมือขวา กระทั่งเห็นว่าตุลธรได้มานั่งรอที่ห้องแห่งนี้ก่อนแล้วเรียบร้อย แม้ว่าเนื้อหางานในวันนี้จะเป็นงานสำคัญ อีกทั้งตุลธรเองก็ไม่มีหน้าที่ใด ๆ กับส่วนนี้ แต่ไตรพัฒน์เองก็ยังคงหวังในภายภาคหน้าว่าเขาจะดันตุลธรขึ้นนั่งในตำแหน่งสำคัญแทนตัวเอง“มึงทำหน้าแบบนั้นหมายความว่าไง” ไตรพัฒน์นั่งลงบนโซฟาพลางกดสายตามองไปยังน้องชาย ที่ตอนนี้ทำหน้าเหนื่อยหน่ายราวกับแบกโลกไว้ทั้งใบก็ไม่ปานคนเป็นพี่ชายย่อมรู้ดีว่ามันเกิดจากสิ่งใด แต่ที่เขาต้องถามออกไปนั้นก็เหมือนเป็นการติเตียนและย้ำชัดในสถานะว่าต่อให้แสดงอารมณ์ในรูปแบบไหน เขาก็ไม่มีวันตามใจได้เหมือนเรื่องอื่นตุลธรไม่มีหน้าที่กับงานของบริษัท เหตุเพราะเกลียดขยาดจนแทบไม่อยากเข้าใกล้ คงจะมีก็แต่เรื่องเดียวที่ทำงานได้ดีจนออกปากชมอยู่หลายครั้งนั
บทที่ 37ไม่เคยพอ“คุณไตร...” ฉันพยายามเปล่งเสียงเรียกรั้งให้เขาหยุด หากแต่มันบางเบาและถูกกลืนกลับลงสู่ลำคอดังเดิมเมื่อริมฝีปากฉกฉวยทาบทับซ้ำแล้วซ้ำเล่าสติของฉันถูกพรากให้ดำดิ่งอยู่ในห้วงปรารถนา ลอยล่องไปกับสัมผัสรสจูบไหวหวามของเขาจนไม่อาจกู่กลับได้อีกต่อไปฉันหลับตาพริ้มตอบรับและตอบสนอง ปล่อยตัวปล่อยใจและส่งมอบให้เขาทั้งหมด มือสองข้างยกขึ้นคล้องที่ต้นคอหนา บดเบียดร่างกายให้แนบชิดคลอคลึงหวังเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันริมฝีปากของเราบดคลึงกันเนิ่นนานจนไม่รู้เลยว่าเวลาล่วงเลยไปมากเท่าไร กระทั่งรู้ตัวอีกทีเสื้อผ้าบนร่างกายของตัวเองและเขาได้หลุดหายไปจนหมดแล้วความเปลือยเปล่าถูกกระทบด้วยลมแอร์เย็นฉ่ำ ครั้นสติดวงน้อย ๆ อันเลือนรางถึงได้ย้อนคืนกลับมา จนมันประมวลได้ว่าตอนนี้คุณไตรกำลังเริ่มต้นบทบรรเลงขึ้นแล้ว“คุณไตรไม่ใส่ถุงเหรอคะ” ฉันเอ่ยถามเสียงบางเบา ตอนที่ผงกหัวมองถึงได้เห็นว่าเขากำลังชักรูดลำกายอวบก่อนจะกดจ่อพร้อมสอบกระทั้นที่ปากทาง“อยากสด ได้ไหม?”“ดะ...ได้ค่ะ ป่านกินยาคุมอยู่”“ก็ดี” สิ้นคำตอบเอวหนาก็สอบเข้าหาจนฉันสะดุ้งโหยงแม้ว่าช่องทางจะฉ่ำเยิ้มพร้อมพรักเป็นอย่างดี แต่ด้วยขนาดที่แตกต