อามิยา เธอคือใครคะ? รี้ดรู้ไหมเอ่ย ลองเดากันดูค่ะว่างานจะเข้าใครกันละทีนี้
“เออเนส พรุ่งนี้ต้องเดินทางแล้วนะลูก เตรียมตัวพร้อมหรือยัง” เสียงมัมมาริสาเอ่ยถามความพร้อมเป็นรอบที่สิบของวันนี้แล้ว และเขาคาดว่ากว่าจะผ่านพ้นคืนนี้ไป มัมของเขาคงต้องถามอีกเป็นสิบรอบแน่นอน“เรียบร้อยแล้วครับมัม วันนี้มัมถามผมเป็นรอบที่สิบแล้วนะครับ” เออเนส มาร์ติน หนุ่มหล่ออายุ 25 ปี พูดหยอกเย้ามัมมาริสา เขารู้ดีว่ามัมของเขาตื่นเต้นมากที่จะได้เจอลูกสะใภ้และหลานคนแรกของตระกูลที่ตอนนี้นอนสบายอยู่ในท้องของมาลารินทร์พี่สะใภ้ของเขาได้เกือบสามเดือนแล้ว โดยเซดริกได้นัดทั้งสองครอบครัวเพื่อพบปะพูดคุยทำความรู้จักกันเอาไว้ เพราะจะได้เป็นครอบครัวเดียวกันแล้วในอนาคต และปรึกษาเรื่องการแต่งงานของเขากับมาลารินทร์ด้วยเซดริก คือพี่ชายต่างมารดาของเขา ที่มัมมาริสารักมาก เพราะเลี้ยงพี่ชายมาตั้งแต่อายุสิบขวบ แม่ของเซดริกเสียไปตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก จนแด๊ดโนแอลได้พบรักกับมัมมาริสาที่เป็นหญิงชาวไทย และแต่งงานกัน ห้าปีต่อจากนั้นมัมก็มีเออเนสป็นลูกชายคนแรกและคนเดียว มัมเองอยากมีลูกสาวมาก และพยายามหลายครั้งแต่ก็ไม่มีสักที จนในที่สุดก็ล้มเลิกความหวังไปโดยปริยาย เซดริกและเออเนสรักกันเหมือนพี่น้องกันจริง ๆ เพราะเซ
บรรยากาศภายในลิฟท์เงียบจนได้ยินเสียงหายใจของกันและกัน น้องญาตัวเกร็งอยู่ในอ้อมกอดของเออเนส เธอรู้สึกร้อนๆ หนาว ๆ แบบแปลกๆ ด้วยเพราะไม่เคยอยู่ใกล้บุรุษเพศคนไหนมาก่อน ใจเธอเต้นแรงจนกลัวว่าอีกฝ่ายจะได้ยิน สาวน้อยก้มหน้างุด ไม่กล้ามองใบหน้าหล่อคมตรงหน้านั้น “อยู่กันสองคนแล้ว ไม่ต้องแอ๊บก็ได้มั้งครับ” อยู่ๆ เออเนสก็พูดทำลายความเงียบออกมา ทำให้น้องญาถึงกับงง ในสิ่งที่เขาพูดออกมา “คะ .. อะไรนะ พี่พูดแบบนี้หมายความว่าอะไรเหรอคะ?” สาวน้อยเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มที่กำลังอุ้มเธอไว้แนบอก เธอพอจะเข้าใจความหมายที่เขาพูดอยู่ แต่ไม่อยากเชื่อว่าผู้ชายอย่างเขาจะพูดอะไรแบบนี้ออกมาได้“ก็ที่เธอไปอ่อยฉันถึงสระว่ายน้ำเมื่อกลางวัน แล้วยังลงทุนชนฉันจนเธอล้มแล้วบอกว่าขาแพลงแบบนี้อีก ตอนนี้อยู่กันสองคนแล้ว จะมาเสียเวลาทำไม่ล่ะ อยากก็บอกว่าอยาก ง่ายจะตาย” เออเนสพูดออกมาหน้าตาเฉย ราวกับคำพูดแบบนี้เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเขาอย่างนั้นแหละเมื่อคำพูดของเขากระจ่างชัดขนาดนี้ก็ไม่ต้องเพิ่มคำอธิบายใด ๆ ปฏิญญาก็เข้าใจได้อย่างถ่องแท้ ... เขากำลังคิดว่าเธออ่อยเขางั้นเหรอ“ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้” เธอเอ่ยบอกเออเนสเสียงแข็ง ทำให้
แสงแดดตอนสายสาดส่องลอดมาจากกระจกห้องนอน ทำให้ร่างเล็กของปฏิญญาค่อยๆ ลืมตาขึ้น ปากเล็กอ้าปากหาวหวอดๆ เมื่อคืนเธอปวดข้อเท้ามากๆ ขยับแทบไม่ได้เลย แม่ของเธอต้องพยุงพาเข้าห้องน้ำ อาบน้ำกินข้าว แต่มันก็ยังปวดมากจนนอนไม่หลับ นางปทุมมาศต้องเรียกให้กินยาแก้ปวดทุก 4 ชม. เธอรับยาเม็ดจากมือแม่แล้วใส่ปาก หลังจากนั้นก็ดื่มน้ำตามลงไป น่าแปลกว่าตอนนี้เธอกลับกินยาเม็ดเองได้แล้ว ขนาดแม่เธอที่บดยามาให้เธอตั้งแต่เล็กจนโตยังแปลกใจเลย แต่เธอก็ยังปวดข้อเท้าตุบๆ นอนหลับๆ ตื่นๆ กว่าจะหลับลงได้ก็เกือบตีสามหลังจากทานข้าวเช้าที่แม่บ้านนำมาให้ที่ห้องพักแล้ว นางปทุมมาศก็นำผ้าขนหนูชุบน้ำมาเช็ดหน้าเช็ดตาและเนื้อตัวให้ลูกสาว จะได้สบายตัวขึ้น แล้วจึงให้ทานยา และให้น้องญานอนพักไปก่อน เพราะเซดริกได้ติดต่อให้คุณหมอช่วยมาตรวจดูอาการให้ โดยคุณหมอแจ้งว่าจะมาตรวจให้ราวๆ 11 โมงเช้าก๊อกๆๆ ..เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น นางปทุมมาศรีบเดินไปเปิดประตู มัมมาริสา เออเนส เซดริก และมาลารินทร์ ก้าวเข้ามาในห้องเพื่อเยี่ยมดูอาการของเด็กสาว"น้องญาเป็นยังงัยบ้างคะคุณมาศ พี่กับเออเนส อยากขอดูอาการน้องสักหน่อยค่ะ" มัมมาริสาพูดด้วยน้ำเสียงห่
เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากทานอาหารเช้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็เตรียมตัวออกเดินทางตามที่ตกลงกันไว้ ทุกคนขึ้นประจำที่บนรถตู้เพื่อเดินทางไปพักที่บ้านนางปทุมมาศ ขาดแต่มัมมาริสาซึ่งคงกำลังพูดคุยกับแด๊ดโนแอลและเออเนสอยู่ เพราะสองคนพ่อลูกจะต้องกลับฝรั่งเศสวันนี้ มาลารินทร์กับเซดริกนั่งด้านหน้าคู่กับคนขับ ส่วนนางปทุมมาศกับนางวิมาลานั่งเบาะแรก ดังนั้นช่วงต่อจากนั้นจึงว่างยาว น้องญาเลือกเข้าไปนั่งเบาะหลังท้ายสุดเพราะเป็นเบาะติดกันยาว ทำให้เธอสามารถนั่งยืดแข้งยืดขาได้อย่างสบายใจแกร๊ก...พรืด..เสียงประตูรถตู้เลื่อนเปิดออก ร่างของมัมมาริสายืนอยู่ตรงประตู น้องญายิ้มให้ มัมยิ้มตอบแล้วเดินขึ้นไปนั่งใกล้กับนางวิมาลาและนางปทุมมาศ น้องญาจึงไม่ได้สนใจอะไรอีก เธอนอนเหยียดยาวแบบสบายใจ เพราะทุกคนมากันครบแล้ว ตอนนี้รถกำลังเคลื่อนตัวออกจากโรงแรม เธอกะว่าจะนอนหลับให้สบาย เพราะวันก่อนที่เจ็บข้อเท้า เธอแทบจะไม่ได้นอนเลย เพียงครู่เดียวคนตัวเล็กก็หลับไปน้องญารู้สึกตัวอีกทีเมื่อรถโยกโยนตอนขับผ่านลูกระนาด เธอลืมตาขึ้นมาเล็กน้อย แต่เพราะเธอยังง่วงอยู่มากจึงสะลึมสะลือเหมือนกึ่งหลับกึ่งตื่น รู้สึกได้ว่ามีฝ่ามือหนากำลังลูบ
หลังจากส่งมัมมาริสากับเออเนสขึ้นไปห้องพักเรียบร้อยแล้ว นางปทุมมาศกับน้องญาก็ลงมาที่ครัวเพื่อเตรียมอาหาร แต่เนื่องจากไม่ได้อยู่บ้านเสียหลายวันจึงไม่มีของสดเหลือติดบ้านเลย น้องญาจึงอาสาขับรถมอเตอร์ไซด์ออกไปซื้อของในตลาดสดที่เคยไปอยู่ประจำ เพราะตลาดอยู่ไม่ห่างจากบ้านมากนัก ขณะนั้นเออเนสกับมัมมาริสาก็เดินมายังครัวพอดี เธอเดินตรงมายังเด็กสาวพร้อมกับเอามือลูบหัวทุยเบาๆ อย่างเอ็นดู“ไหน .. วันนี้น้องญาจะทำอะไรให้มัมกินจ๊ะ” มัมมาริสาเอ่ยถามเด็กสาว พลางกอดเอวคอดนั้นไว้หลวม ๆ“วันนี้หนูจะทำแกงเขียวหวานปลากราย ทานกับขนมจีน ปลาทับทิมทอดสามรส หอยลายผัดฉ่า แกงส้มชะอมกุ้ง แล้วก็กุ้งทอดกระเทียมค่ะ” น้องญาเอ่ยเมนูให้มัมมาริสาฟัง นางถึงกับตาโต“โอ้โห.. เมนูน่าทานทั้งนั้นเลย แต่กุ้งทอดกระเทียมนี่ทำให้ใครแถวนี้เป็นพิเศษหรือเปล่าน๊า” มัมมาริสาเอ่ยแซว น้องญายิ้มหวานจนตาหยี“พอดีมีแต่อาหารรสจัดค่ะ แม่กลัวพี่เออเนสจะทานไม่ค่อยได้ เลยให้ทำเมนูที่ไม่เผ็ดให้ด้วย หนูเลยจะทำกุ้งทอดกระเทียมค่ะ”น้องญาตอบ มัมมาริสายิ้ม ขนาดเมนูที่จะทำให้ยังเลือกเป็นกุ้งที่ลูกชายคนเล็กเธอชอบเสียด้วย แสดงออกให้เห็นถึงความใส่ใจของเด็ก
หลังจากรับประทานอาหารเช้ากันเรียบร้อยแล้ว นางปทุมมาศกับน้องญาก็เข้าครัวเพื่อเตรียมตัวทำขนม โดยมีมัมมาริสาคอยเป็นลูกมือช่วยหยิบจับโน่นนี่ไปตามเรื่อง นางวิมาลาก็พักผ่อนอยู่ที่บ้าน ส่วนมาลารินทร์ไม่เข้ามาด้วยเพราะเธอยังแพ้ท้องเวลาได้กลิ่นถั่วก็ยังเหม็นอยู่ เพราะวันนี้ต้องมีกวนถั่วเพื่อทำไส้ขนมเม็ดขนุนด้วย น้องญากำลังคัดเลือกไข่เป็ดและทำความสะอาดเพื่อใช้ทำขนมเม็ดขนุนกับฝอยทองกรอบ หลังจากนั้นเธอก็ให้แม่กับมัมมาริสาทำกันไป ส่วนเธอก็แยกตัวไปทำขนมอาลัวให้เออเนสน้องญาผสมสีอ่อนๆ ลงไปในแป้งที่กวนสุกแล้ว เธอตักแป้งใส่ถุงบีบที่มีหัวบีบรูปดาว แล้วค่อยๆ บีบลงไปในถาดทีละอัน เออเนสมองคนตัวเล็กที่กำลังบีบขนมลงถาดอย่างตั้งอกตั้งใจ น่าแปลกที่ขนมที่บีบลงไปในถาดมีขนาดเท่ากันทุกชิ้นบ่งบอกถึงฝีมือและความใส่ใจของคนทำอย่างเด่นชัด เขาค่อยๆ เดินมาด้านหลังของเด็กสาวที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาบีบขนมจนไม่ได้สังเกตุว่ามีใครมายืนซ้อนอยู่ที่ด้านหลัง ร่างสูงยื่นหน้าเข้าไปใกล้กับแก้มนุ่มของเธอแล้วจรดจมูกโด่งลงยังผิวแก้มนวลเบาๆ จนเด็กสาวสะดุ้ง"หอมจัง" เออเนสพูดเบาๆ ทำสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้กับการกระทำของตัวเองเมื่อสักครู่ จนน้อง
1 ปีผ่านไป...ณ. ปารีส @ ฝรั่งเศสตอนนี้ปฏิญญาเดินทางมาอยู่ที่ฝรั่งเศสได้เกือบเดือนแล้ว โดยมัมมาริสาเดินทางมารับด้วยตนเองเมื่อเธอเรียนจบ หลังจากที่คุยกันแล้วว่าเธอคงจะเข้าเรียนในปีการศึกษาหน้า มัมมาริสาอยากให้เธอมาอยู่ที่นี่และลองใช้ชีวิตให้คุ้นชินก่อน เพราะเธอยังต้องปรับตัวอีกมาก อีกเหตุผลหนึ่งคือเธออยากเลือกสายวิชาและมหาวิทยาลัยที่เธออยากเรียนด้วยตัวเอง ซึ่งข้อนี้มัมมาริสาให้สิทธิ์เธอเต็มที่"ได้เวลาอาหารกลางวันแล้วค่ะ" ปฏิญญาบอกทุกคนที่ตอนนี้นั่งคุยกันอยู่ที่ห้องนั่งเล่น ให้ไปรับประทานอาหารด้วยกัน เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุด ทุกคนจึงอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา"มีแต่อาหารไทยน่าทานทั้งนั้นเลย น้องญามาอยู่นี่มัมต้องเจริญอาหารแน่ๆ " มัมมาริสาพูดพลางส่งยิ้มหวานให้เธอ"วันนี้มีอะไรบ้างล่ะ หน้าตาน่าทานนะ แต่แด๊ดไม่รู้จักชื่อเลย" แด๊ดโนแอลเอ่ยถามเด็กสาว"วันนี้มีแกงเลียงกุ้งสด กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา แกงจืดเต้าหู้อ่อน กุ้งทอดกระเทียมค่ะ" น้องญาตอบแด๊ด"กุ้งทอดกระเทียมทำพิเศษให้พี่เออเนสใช่ไหมเนี่ย ไม่เห็นมีอะไรพิเศษให้มัมบ้างเลย ชักจะน้อยใจแล้วนะ"มัมมาริสาเอ่ยหยอกเย้า ในขณะที่คนที่ถูกกล่าวถึงนั่งยิ้
น้องญานอนตัวแข็งทื่ออยู่ในอ้อมกอดของเออเนส เธอสบสายตาของชายหนุ่ม สายตาของเขานั้นเต็มไปด้วยแรงปรารถนาอย่างปิดไม่มิด"รังเกียจฉันเหรอ" เขาเอ่ยถามหลังจากที่เธอยังนอนตัวแข็งทื่อและดันอกแกร่งของเขาให้ห่างจากตัวเธอ"ปะ..เปล่าค่ะ ไม่ได้รังเกียจ แต่น้องญาว่ามันไม่เหมาะสมที่จะทำแบบนี้ คะ..คือ.. น้องญายังเด็กอยู่เลยค่ะ" หญิงสาวรีบตอบเพราะกลัวเขาเข้าใจผิด ใครจะไปรังเกียจชายหนุ่มรูปหล่อ สะอาดเนี๊ยบตั้งแต่หัวจรดเท้าแบบเขาล่ะ"ปีนี้อายุเท่าไหร่" เขาถามพลางใช้มือลูบผมที่ปรกหน้าของเธอออกและไล้ข้อนิ้วไปตามกรอบหน้าเนียนใสของหญิงสาว"19 ค่ะ อีกสามเดือนก็จะเต็ม 20" เธอตอบชายหนุ่ม หัวใจเต้นแรงแทบจะทะลุออกมานอกอก เกิดมาจนป่านนี้ยังไม่เคยนอนร่วมเตียงกับผู้ชายคนไหนแบบนี้มาก่อน"จะ 20 แล้ว ไม่ใช่เด็กแล้วนะ" เขาบอกกับเธอพลางลูบไล้ไปทั่วผิวกายนวลเนียนของเด็กสาว เธอรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ทุกที่ที่เขาสัมผัส เออเนสขยับเข้ามาใกล้จนลมหายใจร้อนของเขาปะทะริมฝีปากอวบอิ่มของเธอ แต่ก่อนที่เขาจะประทับจูบลงที่ริมฝีปากสวยนั้น เสียงโทรศัพท์ของน้องญาก็ดังขึ้นกริ้งงงงงงงงงง.... หน้าจอแสดงชื่อมัมมาริสา ปฏิญญาฉวยโอกาสนั้นรีบลุกจากเตี
ตุ้บบบบ เสียงกล่องอาหารและขนมที่ร่วงหล่นพื้น ทำให้เออเนสกับหญิงสาวคนนั้นหันมามองยังต้นเสียงทันที เออเนสเมื่อเห็นปฏิญญายืนอยู่ที่หน้าประตูเขาถึงกับหน้าถอดสี รีบปล่อยกอดหญิงสาวคนนั้นทันที ส่วนหญิงสาวคนนั้นก็หันหลังกลับมามองปฏิญญาแบบเต็มตัวปฏิญญาสังเกตุเห็นหญิงสาวคนนั้นคล้ายคนเอเซียหรือน่าจะเป็นลูกครึ่ง ซึ่งจัดว่าเป็นผู้หญิงที่สวยมากคนหนึ่งเลยทีเดียว ดวงตาของเธอคนนั้นแดงก่ำคล้ายกับผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก พิศมองไปมารูปร่างหน้าตาของผู้หญิงคนนี้ดูละม้ายคล้ายกับตัวของเธอเอามากๆ"สาวเอเซียคงเป็นสเปคของเขาสินะ?" ปฏิญญาคิดในใจ ดูเหมือนคนที่ได้สติก่อนจะเป็นเออเนส เขารีบผละจากหญิงสาวคนนั้นแล้วเดินเข้ามาหาปฏิญญาทันที ร่างสูงย่อตัวลงเก็บถุงอาหารที่ร่วงพื้นขึ้นมาแล้วกอดประคองแฟนสาว โดยที่ปฏิญญาได้แต่ยืนตัวแข็งทื่อ"มีย่า นี่ปฏิญญา คู่หมั้นของฉัน ที่เคยเล่าให้เธอฟังไง" เออเนสพูดกับหญิงสาวที่ชื่อมีย่า เธอคนนั้นพยักหน้ารับรู้แล้วคลี่ยิ้มบางๆ ทั้งๆ ที่ดวงหน้ายังคงเศร้าหมอง"น้องญาครับ นี่ อามิยา หรือมีย่า เป็นเพื่อนสนิทของพี่เอง" เออเนสบอกกับแฟนสาว เธอมองหน้าชายหนุ่มด้วยสีหน้าเรียบเฉย พร้อมกับดึงสาย
อมารีเดินไปยังสวนหย่อมของคณะที่มีโต๊ะว่างอยู่ เธอนั่งลงพร้อมกับวางกระเป๋าบนโต๊ะอย่างแรง ใบหน้างอง้ำดวงตาแดงก่ำ เธอหวนคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานตอนบ่ายแล้วก็ยังโมโหไม่หาย หลังจากที่เธอซ้อมเดินแบบและเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จกำลังจะกลับ พี่อลิซก็เดินเข้ามาหา"มารี พี่มีอะไรคุยด้วยหน่อย""เรื่องเปลี่ยนตัวเดินหรือเปล่าคะพี่ลิซ ยัยปฏิญญาโดนเปลี่ยนตัวเหรอ"มารีพูดพลางเหยียดยิ้ม บางทีเธอก็หมั่นไส้ปฏิญญาอยู่เหมือนกัน ที่ใครๆ ต่างก็ชอบพูดชมว่ายัยนั่นสวยอย่างนั้นอย่างนี้ ทั้งๆ ที่เธอก็เห็นว่าไม่ได้สวยอะไรมากมายขนาดนั้นสักหน่อย พอรู้ว่าปฏิญญาโดนเปลี่ยนตัวก็ยิ่งสะใจ"ใช่ เรื่องเปลี่ยนตัวเดินแบบนี่แหละ คุณคริสขอให้เปลี่ยนปฏิญญามาเดินชุดฟินาเล่แทนเธอ" อมารีถึงกับอ้าปากค้างด้วยความงุนงง"อะ อะไรนะ ทำไมเป็นแบบนั้นล่ะ" อมารีถามอลิซพร้อมกับกำมือแน่น"มันเป็นความต้องการของคุณคริส เราคงขัดไม่ได้หรอก เธอคงต้องไปเดินตำแหน่งแทนปฏิญญา""ไม่ค่ะพี่ลิซ มารีจะขอถอนตัวจากงานนี้" อมารีกำมือแน่นด้วยความโกรธ"เธอทำแบบนั้นไม่ได้นะมารี อีกสามวันก็จะเป็นวันงาน แล้วจะไปหาใครมาแทนได้ทันล่ะ" อลิซพูดด้วยน้ำเสียงร้อนรน"ก็ทีเ
"วันนี้เลิกซ้อมเท่านี้นะคะ เดี๋ยวจะนัดซ้อมอีกครั้งก่อนวันงานหนึ่งวันที่โรงแรม Max Martin เดี๋ยวพี่ไลน์นัดอีกทีค่ะ" พี่อลิซบอกกับน้องๆ ทุกคน"เอ่อ..เดี๋ยวน้องปฏิญญาอยู่คุยกับพี่สักครู่นะคะ" พี่อลิซบอกกับปฏิญญา แว่บหนึ่งที่เธอหันไปเพื่อมองหาน้ำฟ้า แต่เธอกลับเห็นอมารีที่ยืนเหยียดยิ้มแปลกๆ ให้กับเธอ"น้องปฏิญญาคะ""คะ""คือพี่มีเรื่องอยากแจ้งน้องนิดนึงค่ะ พี่คริสตี้อยากให้มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งการเดินแบบของน้อง" อลิซพูดเสียงห้วนคล้ายไม่พอใจอยู่ในที"ยังไงเหรอคะ?" ปฏิญญาถามพร้อมกับเตรียมใจล่วงหน้าในขณะที่น้ำฟ้าเดินเข้ามาพอดี"พี่คริสตี้อยากให้น้องมาเดินชุดฟินาเล่แทนอมารีค่ะ""อะ อะไรนะคะ?" ปฏิญญาทวนคำด้วยความงุนงง"พี่คริสเขาเป็นเจ้าของห้องเสื้อ เขาอยากได้แบบไหนก็ต้องตามใจเขาแหละค่ะ" พี่อลิซพูด"แล้วแบบนี้อมารีจะไม่รู้สึกแย่เหรอคะ น้องญาไม่อยากให้อมารีรู้สึกไม่ดี""เรื่องนั้นพี่จัดการเองค่ะ ถ้าอย่างนั้นก็เอาเป็นตามนี้ละกันนะคะ" พี่อลิซพูดทิ้งท้ายก่อนที่จะเดินจากไป"เป็นไรแก ยังคิดเรื่องนั้นอยู่อีกเหรอ" น้ำฟ้าเอ่ยถามปฏิญญาในขณะที่เธอกำลังขับรถกลับไปส่งน้ำฟ้าที่คอนโด"ฉันเป็นห่วงความรู้สึกขอ
รถพอร์ชคันหรูของปฏิญญาเคลื่อนตัวเข้าจอดยังใต้คอนโดราคาแพงของน้ำฟ้า เพราะวันนี้น้ำฟ้ารับปากจะไปเป็นเพื่อนซ้อมเดินแบบเหมือนเช่นเคย ความเป็นจริงเธอนัดกับน้ำฟ้าตอนสิบโมง เพราะพี่จัสมินนัดซ้อมตอนสิบเอ็ดโมง แต่เพราะเออเนสดันพูดไม่ถูกหูเธอขึ้นมาเธอเลยออกมาจากเพนท์เฮาส์ในตอนนั้นทันทีร่างเล็กขมวดคิ้วมุ่นเมื่อเห็นรถสปอตหรูคุ้นตาที่จอดอยู่ข้างๆ กับรถของน้ำฟ้า"นั่นมันรถพี่เซนส์หนิ ทำไมมาจอดที่นี่ได้อะ ยังเช้าอยู่เลยนะ ... หรือว่า..." ใบหน้าสะสวยเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มในทันที"เห็นเงียบๆ แบบนี้ร้ายเงียบเหมือนกันนะพี่เซนส์ คอยดูเถอะ จะแซวให้ม้วนเลย" ปฏิญญาก้าวเข้าไปในลิฟท์แล้วกดไปยังชั้นที่น้ำฟ้าพักอยู่ทันที ปิ๊งงงงง ป่องงงงง เสียงกดออดดังอยู่ที่หน้าประตูคอนโดของน้ำฟ้านานพอสมควรกว่าพื่อนของเธอจะมาเปิดประตูให้"ยะ..ญาญ่า ทำไมมาเร็วจังล่ะ ไหนว่านัดกันตอนสิบโมงไง" น้ำฟ้าเอ่ยถามเมื่อปฏิญญาเดินสาวเท้าเข้ามาในห้อง"ก็ตื่นเร็ว ไม่รู้จะทำอะไรไง เลยมาก่อนเวลา ทำไมอะมาก่อนไม่ได้รึไง หรือว่ามีใครแอบซ่อนเอาไว้เหรอ?" ปฏิญญายิ้มร้ายใส่"เอ่อ..ปะ..เปล่า พอดีฉันเพิ่งตื่นไง เกรงใจแกต้องมารอฉันแต่งตัวนาน" น้ำฟ้าตอบตะก
"พี่ขอไลน์น้องญาไว้หน่อยนะคะ เดี๋ยวพี่รวบรวมนางแบบได้ครบแล้วจะทำเป็นไลน์กลุ่มค่ะ เวลานัดซ้อมหรือมีข่าวอะไรแจ้งจะได้ทราบกัน" พี่จัสมินบอกพร้อมกับยื่นโทรศัพท์มาให้เธอ สัปดาห์ต่อมาติ๊ง/ติ๊งเสียงไลน์ของปญิญญาดังขึ้นพร้อมกันกับอมารี ทั้งสองคนต่างหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูทันที"พี่จัสมินทักมานัดให้ไปซ้อมเย็นพรุ่งนี้แล้วอะน้ำฟ้า"ปฏิญญาบอกกับน้ำฟ้า"โอเค เดี๋ยวไปเป็นเพื่อน""ซ้อมอะไรเหรอ?" อมารีเอ่ยถาม"เดินแบบงานการกุศลของมหาลัยน่ะ เมื่ออาทิตย์ก่อนพี่จัสมินกะพี่อแมนด้ามาทาบทามญาญ่าด้วยตัวเองเลยนะ" น้ำฟ้าตอบในขณะที่อมารีกำโทรศัพท์ในมือแน่น"เอ๊ะ! ในกลุ่มมีไลน์ของมารีด้วยนี่นา พี่เขามาทาบทามเธอเหมือนกันเหรอ ดีจังเลยจะได้ไปซ้อมด้วยกัน" ปฏิญญายิ้มให้อมารีในขณะที่อีกฝ่ายพยักหน้าน้อยๆ ด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยหลังจากวันนั้นปฏิญญาก็ไปซ้อมเดินแบบทุกเย็น เพราะเหลือเวลาแค่สามสัปดาห์ก็จะถึงกำหนดงานการกุศลแล้ว"ที่รักกลับค่ำทุกวันเลย เรียนหนักเหรอครับ" เออเนสเอ่ยถามเมื่อแฟนสาวกลับมาถึงเพนท์เฮาส์เกือบสองทุ่ม"ต้นเดือนหน้ามหาลัยจัดงานการกุศลค่ะ รุ่นพี่เขาก็เลยมาขอให้น้องญาไปเป็นนางแบบ ก็เลยต้องซ้อมทุกวันเลย" ป
เออเนสก้มหน้าลงซุกไซร้ซอกคอหอมกรุ่นของแฟนสาว กลิ่นหอมอ่อนๆ รวมกับกลิ่นแอลกอฮอลล์จากลมหายใจของเธอช่วยกระตุ้นอารมณ์ดิบที่กำลังคุกรุ่นอยู่ภายในกายหนุ่มให้รุ่มร้อนมากยิ่งขึ้นฝ่ามือหนาดึงสายชุดเดรสให้ร่นลงมาที่ใต้อก สองเต้าตูมเต่งที่ถูกปิดจุกด้วยสติกเกอร์สีเนื้ออ่อนทะลักล้นออกมาอวดโชว์ต่อสายตาของชายหนุ่ม เออเนสดึงสติกเกอร์ที่ปิดจุกออกแล้วตะโบมดูดดุนยอดอกสีชมพูระเรื่อนั้นอย่างเมามันจนมันเปลี่ยนเป็นสีแดงเถือก"อ๊ะ ..อ๊าาา"ปฏิญญาร้องครางด้วยความเจ็บปนเสียวเมื่อยอดอกทั้งสองข้างถูกดูดดุนอย่างหนัก ในขณะที่ฝ่ามือหนาค่อยๆดึงชายชุดเดรสสั้นถลกขึ้นจนมากองอยู่ที่เอว เออเนสถอดแพนตี้สีดำลายลูกไม้ตัวจิ๋วของเธอออก แล้วส่งนิ้วเข้าไปทักทายร่องรัก ที่ตอนนี้ผลิตน้ำหวานสีใสออกมามากมาย"น้ำเยอะแบบนี้พร้อมแล้วใช่ไหม?" เออเนสก้มลงเอ่ยกระซิบข้างหูด้วยเสียงแหบพร่าจนปฏิญญาขนลุกเกรียว เธอเผลอกัดริมฝีปากด้วยความเสียวซ่านเมื่อเออเนสส่งนิ้วเรียวยาวเข้าไปสำรวจภายในช่องทางรักของเธอพร้อมกับขยับชักเข้าออกถี่ๆ"อ๊ะ..อูยยย ซี๊ดดด" เสียงปฏิญญาสูดปากร้องครางเมื่อเออเนสก้มลงดูดยอดอกอย่างมูมมามอีกครั้ง ในขณะที่ฝ่ามือแกร่งยังคงส่
น้ำฟ้ายังคงเต้นรำอย่างสนุกสนาน ในขณะที่เซนส์ยืนกอดอกมองดูอยู่เงียบๆ"ปฏิญญาไปห้องน้ำนานจังล่ะ ป่านนี้ยังไม่มาอีกไม่ใช่หนีกลับไปแล้วนะ" อมารีพูดกับน้ำฟ้าซึ่งกำลังยืนเต้นอยู่ใกล้ๆ"ญาญ่ามันไปกะผัวมันไม่ต้องห่วงมันหรอก กระเป๋ายังอยู่นี่เลย จะกลับได้ยังไง" น้ำฟ้าชี้ให้อมารีดูกระเป๋าสะพายราคาแพงของปฏิญญาที่วางอยู่บนโต๊ะ เธอนั่งลงที่เก้าอี้พร้อมกับหยิบแก้วเครื่องดื่มสีอำพันขึ้นมาดื่มโดยไม่สนใจเซนส์ที่ยืนเป็นหุ่นปูนปั้นอยู่ใกล้ๆ"สวัสดีครับสาวๆ ขอนั่งด้วยคนได้ไหมครับ" เสียงชายหนุ่มรูปหล่อคนหนึ่งเอ่ยทัก"เชิญเลยค่ะพ่อรูปหล่อ" น้ำฟ้ายิ้มตาหวานฉ่ำแล้วเลื่อนเก้าอี้ให้ชายหนุ่มผู้มาใหม่ให้เขานั่งใกล้ๆ กับเธอ"มากันสองคนเหรอครับ""มากันสามคนค่ะ แต่เพื่อนคนสวยอีกคนของฉันไปเข้าห้องน้ำ" เขาพยักหน้ารับรู้"สาวๆชื่ออะไรกันครับ ผมเจ็ทครับ""ฉันชื่อน้ำฟ้า ส่วนคนนี้ชื่ออมารีค่ะ คุณชื่อเจ็ทเหรอคะ ใช่เครื่องบินเจ็ทหรือเปล่าน๊าา อยากขี่จัง" น้ำฟ้าหัวเราะลงลูกคอเสียงอ่อนเสียงหวาน จนอมารีต้องสะกิดต้นแขนพร้อมกับกระซิบเบาๆ"จะอ่อยอะไรใครก็ดูหน้าเจ้าที่แกด้วยนะ หน้าอย่างกะยักษ์แล้วนั่น" น้ำฟ้าหัวเราะร่วน เธอยังคงพู
."เกรดออกแล้ว ญาญ่าคะแนนดีมากเลยนะเนี่ย" น้ำฟ้าพูดพร้อมกับดูคะแนนสอบของเพื่อนและของตัวเอง"ของฟ้าก็คะแนนดีเหมือนกันนะ ห่างกันแต่นิดเดียวเอง" ปฏิญญาบอกกับน้ำฟ้าพร้อมกับส่งยิ้มให้จนตาหยี"ของมารีก็คะแนนดีเหมือนกัน ผ่านหมดทุกวิชาเลย" ปฏิญญาบอกกับอมารี ทุกคนต่างดีใจที่สอบผ่านแถมได้คะแนนดีกันทุกคน"แบบนี้มันต้องฉลองกันสักหน่อยดีมั้ย" อมารีเอ่ยชวน"อืม ก็ดีเหมือนกันนะ นานมากแล้วที่ไม่ได้ไปเที่ยวผับกันเลย คืนนี้จัดกันสักหน่อยดีกว่า" น้ำฟ้าเห็นด้วย"ว่าแต่จะไปไหนดีล่ะ ญาญ่าต้องขออนุญาตคู่หมั้นก่อนมั้ยเนี่ย?" อมารีถามญาญ่า"พวกเธอเลือกร้านกันได้เลย ฉันไปได้แน่นอน ถ้าเลือกร้านได้ก็ไลน์มาบอกละกันนะ เดี๋ยวฉันต้องกลับบ้านก่อน เมื่อคืนมัมโทรมาบ่นว่าคิดถึง" ปฏิญญาบอกกับเพื่อน"เชิญเถอะจ้ะ หมั่นไส้คนแม่ผัวรัก เชอะ" น้ำฟ้าเชิดหน้าเอ่ยล้อเลียนเพื่อนสาว ปฏิญญาตีแขนน้ำฟ้าเบาๆอย่างหยอกล้อ ก่อนที่จะเดินเลี่ยงออกไป@ TNK ผับ น้ำฟ้ากับอมารีนั่งดื่มอยู่ชั้นบนโซนของโซนวีไอพี ผับนี้เป็นผับหรูที่มีคนนิยมมาเที่ยวมากที่สุด สองสาวนั่งดื่มกันสักพักหนึ่งแล้ว แต่ปฏิญญาก็ยังไม่มา"ยัยฟ้า เราจะโดนปฏิญญามันเทไหมเนี่ย ป่า
หลังจากทานอาหารด้วยกันเรียบร้อยแล้ว ปฏิญญาก็เข้ามานั่งคุยกับน้ำฟ้าในห้องนอน ส่วนเซนส์ก็นั่งพักผ่อนรอเธออยู่ที่โซฟารับแขกด้านนอก สองสาวคุยกันอยู่ครู่หนึ่งปฏิญญาก็ขอตัวกลับ"เรากลับก่อนนะฟ้า เธอจะได้พักผ่อนจะได้หายไวๆ""จ้ะ ขอบใจนะญาญ่า ที่อุตส่าห์ซื้ออาหารและยามาให้" สองสาวโอบกอดซึ่งกันและกันก่อนที่ปฏิญญาจะขอตัวกลับไปสัปดาห์ต่อมา @มหาลัย Harmony "ใกล้สอบแล้ว งานเยอะชะมัดเลย" ปฏิญญาบ่นอุบอิบพลางทิ้งตัวคว่ำหน้าลงที่โต๊ะม้าหินใต้อาคารเรียนอย่างเหนื่อยอ่อน"อาทิตย์หน้าก็ถึงงานหมั้นแล้ว เธอควรพักผ่อนบ้างนะญาญ่า เดี๋ยวหน้าโทรมจะไม่สวยนะ" น้ำฟ้าเอ่ยแซว"อะไรนะ! งานหมั้น ปฏิญญาจะหมั้นเหรอ?" อมารีโพล่งออกมาเสียงดัง ทำเอาปฏิญญากับน้ำฟ้าถึงกับตกใจ ทั้งสองคนต่างมองอมารีเป็นตาเดียวกัน จนเธอเองเหมือนจะรู้สึกตัวจนต้องฝืนยิ้มแห้งๆ ออกมา"อะ..เอ่อ ขอโทษที่เสียงดังนะ เราแค่ตกใจน่ะ""อ๋อ.. พอดีเรากลับไปจัดงานหมั้นที่บ้านเกิดที่ประเทศไทยน่ะ ต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้บอกเธอนะมารี" ปฏิญญาบอกกับอมารี"ไม่เป็นไร ยังไงถ้ามีโอกาสได้แต่งงานจริงๆ แล้วค่อยไปก็ยังได้นะ" อมารีพูดพร้อมกับยิ้มอ่อนให้กับปฏิญญา ทำเอาเธอถึ