Home / โรแมนติก / Phoenix's Rebirth หงส์หวนรัก / 11 - แผนการลับในห้องทรงพระอักษร

Share

11 - แผนการลับในห้องทรงพระอักษร

Author: WangFei
last update Last Updated: 2025-04-19 23:54:17

เฟิ่งหรั่นพยายามกลั้นหายใจ!

          ในยามนี้นางสัมผัสถึงแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวจากสายตาของลู่อ๋อง เขาดูเหมือนไม่ใช่สามีของนางอีกต่อไป เขาที่เคยอ่อนโยนต่อนางแทบไม่มีอีกแล้วนับตั้งแต่แต่งงานด้วยกันมา นางมองสายตาคู่นั้นที่จ้องมองอย่างคาดคั้นเอาคำตอบ น่าแปลกนักที่แต่งงานกันมานานแล้ว แต่นางไม่มีความรู้สึกพิศวาสในตัวเขาเลยสักนิด ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เป็นนางเองที่ยินยอมแต่งงานกับเขา

          นางพยายามดิ้นเบาๆ ให้หลุดจากอ้อมกอดของลู่อ๋อง แต่ทว่าเขากลับรัดนางแน่นกว่าเดิม ก่อนจะใช้สองมือแกร่งผลักร่างของนางลงบนเตียงแล้วใช้ร่างกายสูงใหญ่กดทับนางเอาไว้ ทำให้นางดิ้นไม่หลุด

          ลู่อ๋องมองนางที่อยู่ใต้ร่างด้วยความรู้สึกหลากหลาย มีสตรีมากมายที่เขาพิชิตใจได้ แต่กับเฟิ่งหรั่นที่เป็นภรรยานั้นยากเย็นเหลือเกิน จนทำให้เขาต้องไปมีอนุและสตรีมากมายนอกจวนลับหลังนาง!

          “วันนี้ท่านอ๋องทรงเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ทรงลุกเถิดเพคะ หม่อมฉันจะไปเตรียมน้ำสรงถวาย” เฟิ่งหรั่นกล่าวเสียงแผ่วเบา แต่เป็นน้ำเสียงที่เจือไปด้วยความหวาดกลัว ใช่! นางหวาดกลัวเขาเหลือเกิน...

          “เพราะอะไร...” คำถามเพียงสั้นๆ ของลู่อ๋อง เรียกความรู้สึกของเฟิ่งหรั่นกลับมา เขามองนางด้วยสายตาคาดคั้นระคนไม่พอใจ “เพราะอะไรที่แต่งงานกันมานานนับปี แม้แต่ร่วมหอกับเจ้าข้าก็ยังทำไม่ได้!”

          น้ำเสียงนั้นมิใช่ความน้อยใจ แต่เป็นความไม่พอใจแต่เดิมที่สั่งสมมาตั้งแต่คืนแต่งงานคืนแรก เรื่องอาเพศอะไรนั่นเป็นเรื่องไร้สาระสำหรับลู่อ๋องทั้งนั้น เพราะความจริงทั้งหมดก็คือเฟิ่งหรั่นไม่เคยรักเขาเลย! แต่นางแต่งงานกับเขาเพราะอะไร! หรือว่าความรักที่นางเคยมีให้เขามันมอดดับไปหมดแล้ว

          “หม่อมฉันไม่รู้เพคะ!” นางพยายามดันตัวเขาให้ออกห่าง เรื่องอาเพศในคืนเข้าหอนางเองก็ไม่ทราบเช่นกัน ทั้งๆ ที่นางถูกอบรมมาอย่างดีเป็นสตรีในห้องหอ คุณธรรมจรรยานั้นนางก็ไม่เคยบกพร่อง แต่เรื่องที่เกิดเหตุไม่คาดฝันในคราวันแต่งงาน นางไม่อาจทราบได้จริงๆ หากลู่อ๋องจะมาหาคาดคั้นหาความจริงกับนางก็ไม่มีประโยชน์

          ลู่อ๋องเหยียดยิ้มที่มุมปาก “หรือเพราะว่าใจของเจ้ามีลู่เฟยหลง มิได้มีข้า แต่ทำไมถึงตอบรับการแต่งงานกับข้า!”

          เฟิ่งหรั่นนิ่งอึ้ง การที่นางไม่ได้ร่วมหอกับเขาเพราะว่าใจนางมีลู่เฟย หลงอย่างนั้นหรือ? เขาเห็นนางเป็นสตรีเช่นนั้นเองหรือ?

          เฟิ่งหรั่นเม้มปากเป็นเส้นตรงแล้วรวบรวมแรงผลักลู่อ๋องออกไปด้วยความโกรธ “หม่อมฉันเป็นสตรีที่ถูกอบรมคุณธรรมจรรยา หน้าที่ในฐานะภรรยาของพระองค์หม่อมมฉันก็ทำไม่เคยขาด แต่เรื่องเช่นนั้นหม่อมฉันเองก็

ไม่ทราบ พระองค์จะมาหาความจริงกับหม่อมฉันก็ไม่มีประโยชน์เพคะ!”

          ลู่อ๋องเหยียดยิ้มที่มุมปาก เขาเดินดุ่มๆ เข้ามาหาเฟิ่งหรั่น หมายจะ

ใช้พละกำลังทำให้นางตกเป็นของเขา แค่เพียงไม่กี่ก้าว สองฝ่ามือของเขาทำได้แค่สัมผัสหัวไหล่ของนางเท่านั้น พลันบังเกิดความร้อนรุ่มราวเปลวเพลิงแผดเผาที่ฝ่ามือทั้งสองข้างของอ๋องหนุ่ม ลู่อ๋องชักฝ่ามือกลับมาด้วยความเจ็บปวดที่ฝ่ามือ ร่างกายของนางในยามนี้ร้อนระอุราวเปลวเพลิงในแดนยมโลกยิ่งนัก!

          หญิงสาวเองก็ตกใจไม่แพ้กัน นางไม่รู้สึกถึงความผิดปกติในร่างกายเลย แต่กลับกันการที่ลู่อ๋องชักมือกลับอย่างรวดเร็วเหมือนกับโดนอันใดสักอย่าง ทำให้นางต้องฉงนใจไม่น้อย ในฐานะภรรยานางกำลังจะเดินเข้าไปดูเขาด้วยความเป็นห่วง แต่เขากลับยกมือปรามนางเอาไว้และเดินออกจากตำหนักของนางไป

          เฟิ่งหรั่นมองตามหลังเขาด้วยความฉงนใจ นี่เป็นอีกครั้งที่นางรู้สึกว่ามีเรื่องแปลกประหลาดเกิดขึ้นกับตนเอง

          ลู่อ๋องเดินพ้นจากตำหนักของเฟิ่งหรั่นได้ไม่เท่าไหร่ แทนที่จะรับสั่งหาหมอหลวงให้มารักษาบาดแผล แต่กลับเรียกนางกำนัลมาปรนนิบัติ เขาเจ็บปวดจนต้องการปลดปล่อย ในเมื่อเฟิ่งหรั่นไม่ยอมตกเป็นภรรยาของเขาแต่โดยดี นางจะโทษว่าเขาใจร้ายกับนางไม่ได้เด็ดขาด!

          “ไม่ต้องนำนางกำนัลมาแล้ว ไปเรียกคนผู้หนึ่งมาปรนนิบัติข้าแทน!”

          หลังจากเหตุการณ์เมื่อคืนผ่านพ้นไป เฟิ่งหรั่นพยายามทำเหมือนกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น เนื่องจากเรื่องเมื่อคืนบาดแผลของลู่อ๋องนั้นมาจากนาง แม้นางจะไม่ใช่ผู้ทำร้ายเขาแต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ในฐานะที่อีกฝ่าย

เป็นสามี นางรับสั่งให้จิงเจียวนำยาสมานแผลและยาบรรเทาปวดถือไปตำหนักใหญ่พร้อมกับนาง ขันทีของลู่อ๋องที่เห็นเฟิ่งหรั่นพร้อมนางกำนัลถือถาดยามาต้องรีบเข้าไปแจ้งผู้เป็นนายที่กำลังระเริงรักกับเฟิ่งเจาหรงในห้องบรรทม!

          ใช่! แม้จะสั่งให้ขันทีหานางกำนัลมาปรนนิบัติ แต่ก็ไม่มีนางใดปรนนิบัติเขาได้ดั่งใจเท่าเฟิ่งเจาหรงอีกแล้ว ดังนั้นเมื่อคืนเขาจึงเปลี่ยนให้ลอบติดต่อเฟิ่งเจาหรงแทน! และนางก็เต็มใจอย่างยิ่งที่จะปรนนิบัติเขา ทำให้เขาลืมเฟิ่งหรั่นไปชั่วขณะ

          ลู่อ๋องที่กำลังระเริงรักบนเตียงกับเฟิ่งเจาหรงอย่างสนุกสุดเหวี่ยงเป็นอันต้องหยุดชะงักลง ใบหน้าหล่อเหลาเงยขึ้นมาจากซอกคอขาวผ่อง หญิงสาวบนเตียงหยิบผ้าห่มขึ้นมาปกคลุมหน้าอกเปลือยเปล่า แต่แววตาแฝงไปด้วยความสะใจ นางคิดว่าหากเฟิ่งหรั่นได้มาเห็นภาพนี้คงดีไม่น้อย

          “ท่านอ๋อง พระชายาเสด็จมาพะยะค่ะ” ขันทีของลู่อ๋องทำให้คนบนเตียงต้องหยุดชะงักทันที

          “ไปแจ้งนาง ว่าข้าไม่ประสงค์พบผู้ใดในตอนนี้” ว่าจบแล้วก็ก้มหน้าไประเริงรักกับหญิงสาวบนเตียงต่อ ไม่สนใจผู้เป็นชายาที่ยืนรออยู่ด้านนอกตำหนัก เฟิ่งเจาหรงลอบส่งสายตาท้าทายไปยังหน้าประตูตำหนักด้วยความเยาะเย้ย

          ขันทีอาวุโสก้มหน้าเจื่อนๆ เขาไม่ต้องการทำเช่นนี้เลยจริงๆ แต่หาก

ไม่ทำ เกรงว่าท่านอ๋องกับพระชายาคงได้มีปัญหาผิดใจกันดั่งเมื่อคืนเป็นแน่

          “ท่านอ๋องทรงต้องการพักผ่อนในตำหนักเงียบๆ พะยะค่ะ ทรงไม่ประสงค์ให้ผู้ใดเข้าเฝ้าตอนนี้” ขันทีเอ่ยด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด

          เฟิ่งหรั่นพยายามมองเข้าไปในตำหนัก ในเมื่อเขาไม่อนุญาตแล้วนางจะถือวิสาสะเข้าไปได้อย่างไร นางทำได้แค่เพียงฝากยาทั้งสองเอาไว้ที่กงกงอาวุโสเท่านั้น “ถ้าเช่นนั้น หากท่านอ๋องทรงตื่นบรรทม ฝากท่านกงกงนำยานี้มอบให้พระองค์ด้วย เป็นยาสมานบาดแผลและแก้ปวดแสบปวดร้อนได้”

          เฟิ่งหรั่นยกถาดยาจากจิงเจียวส่งต่อให้กงกงอาวุโส สายตาของนางพลันอดชะเง้อมองด้านในไม่ได้ ยามนี้สายมากแล้วลู่อ๋องยังไม่ตื่นบรรทมอีกคงเป็นไปไม่ได้ แต่ไม่ว่าจะเรื่องใดก็ตามเมื่อคืนเขาไม่พอใจนางหนักอยู่ หากจะโกรธจนไม่ยอมให้นางพบก็คงเป็นไปได้

          เรื่องสามีภรรยาเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนยิ่ง นางคงต้องอดทนเข้าไว้และพยายามทำความเข้าใจให้มากกว่านี้...

          แทนที่จะเดินกลับตำหนักของตนเอง เฟิ่งหรั่นกลับมุ่งมาที่ห้องทรงพระอักษรของลู่อ๋อง นางนั้นสงสัยตั้งแต่คราแรกที่ซู่ไท่เฟยขอสมรสพระราชทานให้นางกับลู่อ๋อง ก็รู้สึกถึงความไม่ปกติ จุดประสงค์ที่แท้จริงของการแต่งงานครั้งนี้ หากนางเดาไม่ผิด ซู่ไท่เฟยคงต้องการดึงอำนาจของบิดาเข้ามาในมือ และเป้าหมายของซู่ไท่เฟยนั้นเป็นสิ่งใดกัน

          “พระชายา ไม่ทรงกลับตำหนักหรือเพคะ เหตุใดเสด็จมาห้องทรงพระอักษรของท่านอ๋อง” จิงเจียวถาม นางเหลียวซ้ายแลขวาก็พบว่าไม่มีผู้ใดยืนเฝ้าอยู่หน้าห้องทรงพระอักษรเลยแม้แต่คนเดียว ผิดปกติยิ่งนัก

          “ไม่มีคนอยู่น่ะสิดี...” เฟิ่งหรั่นเปิดบานประตูห้องทรงพระอักษรเข้าไปเบาๆ ดียิ่งนักที่ห้องนี้อยู่ห่างจากตำหนักบรรทมของลู่อ๋องพอสมควร นางอยากค้นหาความจริงเหตุใดที่ซู่ไท่เฟยต้องการเชื่อมสัมพันธ์กับตระกูลของนาง แม้นางจะแต่งงานกับลู่อ๋องแบบเต็มใจ แต่เรื่องทุกอย่างไม่ใช่ดั่งที่นางเห็นอย่างแน่นอน ต้องมีเบื้องหลังอะไรมากกว่านี้...

          ภายในห้องทรงพระอักษรที่เฟิ่งหรั่นเห็นนั้นตกแต่งอย่างเป็นระเบียบเรียบง่าย หนังสือตำรามากมายถูกจัดแยกเป็นหมวดหมู่อย่างดี พู่กันที่ทำโดยช่างฝีมือของวังหลวงสลักลวดลายบนด้ามจับอย่างประณีต และแท่งฝนหมึกสีดำที่แห้งสนิทวางอยู่มุมหนึ่งของโต๊ะทรงงาน กระดาษเซวียนจื่อซึ่งใช้สำหรับขุนนางและเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงวางแผ่หลายชั้นเอาไว้ตรงกลางโต๊ะเขียนอักษร

          “พระชายา เช่นนี้จะดีหรือเพคะ หากท่านอ๋องทรงมาเห็นเข้า” จิงเจียวเอ่ยด้วยความขลาดกลัว แม้ลู่อ๋องจะไม่ประสงค์พบเจ้านายของนางก็จริง แต่การบุกรุกห้องส่วนตัวโดยพลการเช่นนี้นับว่าไม่ดีไม่งามนัก

          “จิงเจียว เรื่องการแต่งงานครั้งนี้มีเบื้องหลังที่ซับซ้อนอยู่ จุดประสงค์ของซู่ไท่เฟยคือเพื่อต้องการเสริมฐานอำนาจที่แข็งแกร่งให้กับลู่อ๋อง แต่ต้องมีเบื้องลึกมากกว่านั้น เจ้าช่วยข้าหาบางอย่างที...” นางกล่าวจบก็เอ่ยกระซิบกับจิงเจียว อีกฝ่ายหน้าซีดเผือดทันที ของสำคัญที่อยากให้หานั่นหมายถึงชีวิตของนางเชียวนะ

          แต่ทว่าด้วยความสำคัญของเจ้านายต้องมาก่อนเสมอ จิงเจียวไม่อาจไม่ทำตามคำสั่งได้ นางได้แต่ตามหาสิ่งของบางอย่างที่เฟิ่งหรั่นต้องการ แม้จะอยากไปจากตรงนี้แต่ก็ทำไม่ได้อยู่ดี

          เฟิ่งหรั่นคาดคิดในใจ นางมิใช่คนโง่ที่จะโดนหลอกได้โดยง่าย นับตั้งแต่แต่งงานมา ซู่ไท่เฟยก็มีท่าทีกระด้างกระเดื่องต่อไทเฮาและฮ่องเต้ หากเป็นต่อเซียวฮองเฮานางยังพอเข้าใจได้ เนื่องด้วยซู่ไท่เฟยก็เป็นผู้อาวุโสคนหนึ่งของวังหลัง เซียวฮองเฮาย่อมต้องให้ความเคารพเป็นธรรมดา แต่ท่าทีกระด้างกระเดื่องต่อไทเฮานั้นย่อมชัดเจน แสดงว่าการแต่งงานกับนางย่อมต้องมีจุดมุ่งหมายที่ลุ่มลึกกว่านั้น และที่สำคัญ...อีกฝ่ายพยายามอย่างยิ่งที่จะดึงท่านพ่อของนางให้เข้าพบเข้าหาอยู่บ่อยๆ จะให้ท่านพ่อของนางที่มีความเที่ยงธรรมทำเรื่องอันใดกันแน่นะ... หากสิ่งที่นางคิดเป็นจริงนางย่อมต้องหาทางแก้ไขเอาไว้ก่อน

          “พระชายา นี่มัน...” จิงเจียวเจอของสำคัญบางอย่าง เป็นภาพวาดแผนที่ที่หนึ่งซึ่งมีความลึกลับซับซ้อนอย่างมาก อีกทั้งกระดาษนี้ยังดูไม่เก่าเท่าใด แสดงว่าแผนที่นี้ต้องมีการวาดใหม่อย่างแน่นอน นางดมกลิ่นน้ำหมึกที่ยังไม่ระเหยไป

          ไม่ผิด! มีกลิ่นกำยานหอมปนอยู่ เป็นกลิ่นกำยานที่ใช้ในตำหนักของซู่ไท่เฟย! แต่ภาพวาดในแผนที่นี้คือภาพวาดแผนที่วังหลวง ซู่ไท่เฟยต้องการทำสิ่งใดกันแน่จึงได้วาดแผนที่นี้ออกมาและส่งให้ลู่อ๋อง

          เฟิ่งหรั่นพับภาพวาดนั้นใส่ในอกเสื้อของนาง ก่อนที่ประตูห้องทรงพระอักษรจะถูกเปิดออกโดยลู่อ๋อง

          แย่แล้ว!

          เฟิ่งหรั่นปรับท่าทีนิ่งสงบเช่นเดิม นางมองผู้เป็นสามีที่เดินเข้ามาด้วยพระพักตร์ยิ้มแย้มเบิกบาน

          “ข้าไม่ให้เจ้าเข้าพบที่ห้องบรรทม เจ้าเลยมารอข้าที่นี่เลยหรือพระชายา” น้ำเสียงนั้นเจือไปด้วยความตำหนิ เฟิ่งหรั่นปรับสีหน้าให้อ่อนลงแล้วกล่าว

          “เพคะ กงกงบอกว่าพระองค์ไม่ประสงค์พบหม่อมฉัน หม่อมฉันเลย

มาที่นี่ว่าจะหาอ่านตำราสักเล่มเพคะ” เฟิ่งหรั่นปั้นแต่งเรื่องโกหกออกไป ทั้งๆ ที่ในชีวิตนี้นางเอ่ยคำโป้ปดแทบนับครั้งได้

          ลู่อ๋องสาวเท้าเข้ามาใกล้นาง ใกล้เสียจนนางได้กลิ่นหอมของสตรีอื่นบนกายของสามี!

          สามีนางเรียกนางกำนัลมาปรนนิบัตินางยังพอเข้าใจ เนื่องด้วยเหตุการณ์หลายอย่างที่ไม่อาจได้ร่วมหอกัน อีกทั้งนางกำนัลพวกนั้นไม่มีกลิ่นกายหอมหวนเช่นนี้ กลิ่นนี้เป็นกลิ่นน้ำหอมที่เหล่าสตรีชั้นสูงต่างก็ใช้กัน นางมุ่นคิ้วด้วยความสงสัย กลิ่นน้ำหอมสตรีอื่นมาติดเสื้อของสามีนางได้อย่างไร?

          “เป็นอะไรไปหรือ?” ลู่อ๋องเข้ามาใกล้นางมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมิได้เอะใจหรือสงสัยอันใดเลยสักนิด

          ยิ่งเข้ามาใกล้มากเท่าไหร่ เฟิ่งหรั่นยิ่งสังเกตเห็นความผิดปกติชัดเจนมากยิ่งขึ้น รอยชาดบนคอของลู่อ๋องมาจากที่ใด?!

          “งั้นหรือ ก่อนหน้านี้ข้าแค่น้อยใจเจ้าเท่านั้นเลยไม่ยอมให้เจ้าเข้าพบ เจ้าอย่าถือสาข้าเลยนะ” ลู่อ๋องกุมสองมือของนางขึ้นมาแล้วใช้สายตาออดอ้อนให้นางใจอ่อน

          แต่ทว่าเฟิ่งหรั่นมิใช่มีความรู้สึกแบบหนุ่มสาวกับเขาอย่างตอนแรก แต่ว่าการแต่งงานของนางมีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เบื้องลึกแล้วซู่ไท่เฟยคงหมายใจอยากให้ตระกูลของนางมาเสริมฐานอำนาจให้กับลู่อ๋องอย่างแน่นอน ตระกูลใหญ่เช่นนางแต่งงานกับเขาแทนที่จะได้รับหมั้นหมายจากองค์รัชทายาท นั่นก็เป็นเครื่องพิสูจน์อย่างหนึ่งที่ชัดเจนว่าซู่ไท่เฟยคิดทำสิ่งใด

          ซู่ไท่เฟยต้องการดึงอำนาจของสกุลเฟิ่งมาเสริมฐานอำนาจลู่อ๋อง แต่

ก้าวต่อไปของพวกเขาคือเป้าหมายใดกัน พวกเขาคงไม่มีเป้าหมายเพียงแค่เสริมฐานอำนาจที่มั่นคงอย่างแน่นอน

          บิดาของนางมีบทบาทอย่างสูงในราชสำนัก อีกทั้งยังเป็นที่ปรึกษาส่วนพระองค์ของฝ่าบาท เป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัยอย่างยิ่งข้อนี้นางพอเข้าใจ แต่หากเทียบกับขุนนางอีกหลายตระกูลอย่างสกุลอวี๋หรือสกุลหลี่ที่มีอำนาจล้นมือ นางไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าเหตุใดต้องเป็นนาง

          อวี๋ฟางหรงนั้นมีกำหนดหมั้นหมายกับลู่เฟยหลงมานาน อันนี้นางไม่สงสัย แต่สกุลหลี่ซึ่งบิดามีตำแหน่งขุนนางที่ใหญ่โต บิดาของนางเป็นถึงเจ้าเมืองและมีเส้นสายมากมาย ทำไมซู่ไท่เฟยถึงไม่เลือก ทั้งๆ ที่เป็นตัวเลือกชั้นดีหากต้องการเสริมฐานอำนาจ

          หรือว่า..!?

         

          ลู่เฟยหลงเดินทางมาพร้อมทหารกองทัพเสวียนอู่จำนวนหนึ่ง ใช้เวลาเพียงสองวันก็เดินทางมาถึงวังหลวง รุ่ยกงกงยังคงทำหน้าที่เช่นเดิมออกมาถวายการต้อนรับและเชิญเขาไปยังตำหนักชิงเทียน ซึ่งเป็นตำหนักใหญ่ที่สุดในวังหลวง เขาก้าวลงจากหลังม้าพร้อมด้วยห่อของขวัญสีทองสำหรับเตรียมมอบให้อีกฝ่าย โดยไม่ลืมนำดอกไห่ถังเหน็บไว้ที่ข้างเอวติดกายเอาไว้ด้วย

          เพราะเหตุใดไม่รู้ แต่เขารู้สึกว่าดอกไห่ถังนี้จะทำให้เขาสมปรารถนาอีกไม่ช้านี้

          “ถวายพระพรพะยะค่ะฝ่าบาท ขอทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นๆ ปี”

ลู่เฟยหลงนั่งคุกเข่ากล่าวถวายพระพรเสียงฮึกเหิม พร้อมกับยกห่อของขวัญ

ที่ตั้งใจมอบให้ขึ้นชูสูงด้วยความเคารพยิ่ง ลู่ฮ่องเต้ทรงลุกจากพระแท่นมารับของขวัญจากพระอนุชาด้วยพระองค์เอง ทรงส่งห่อของขวัญให้รุ่ยกงกงนำเข้าไปในตำหนัก ใช้สองฝ่ามือประคองไหล่ของผู้เป็นน้องชายขึ้นมา รอยยิ้มปรากฏบนพระพักตร์อันงามสง่าของพระองค์ นานร่วมปีแล้วที่ไม่ได้พบน้องชายผู้เป็นสายเลือดร่วมอุทร

          แต่แม้เวลาจะผ่านไปหนึ่งปีแล้วก็ตาม ลู่เฟยหลงก็ยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย ไร้ซึ่งการแสดงความรู้สึกใดๆ เช่นเดิม

          “เจ้ากลับมาเหนื่อยๆ เหตุใดไม่ไปพักผ่อนก่อนเล่า ค่อยนำของขวัญมามอบให้ข้าตอนงานเลี้ยงก็ยังไม่สาย”

          คงเป็นเพราะความเคยชินทุกครั้งที่กลับมาจากสงคราม ต้องเข้ามาคำนับพี่ชายพี่สะใภ้ก่อนเสมอ ครั้งนี้เองก็เช่นกัน

          “เสด็จอาพะยะค่ะ...” เสียงใสเจื้อยแจ้วของลู่เสวียนดังขึ้นจากด้านหลัง เด็กน้อยเดินจูงมือมาพร้อมกับฮองเฮาผู้เป็นมารดา ลู่เฟยหลงคำนับเซียวฮองเฮาผู้เป็นพี่สะใภ้ด้วยความเคารพนบนอบ ก่อนจะอุ้มหลานชายตัวน้อยเอาไว้บนอ้อมแขน เนื่องจากตนเองไม่มีชายาและไม่มีบุตร จึงได้เอ็นดูลู่เสวียนเป็นดั่งบุตรชายตลอดมา

          “เด็กดีของอา เป็นอย่างไรบ้าง เจ้าตั้งใจเรียนวิชาหรือไม่” ลู่เฟยหลงถามคาดคั้น

          “องค์ชายน้อยยังเด็กนัก เจ้าอย่าเพิ่งเข้มงวดกับเขานักเลย มาถึงเหนื่อยๆ ก็ไปพักดั่งที่ฝ่าบาททรงเอ่ยก่อนเถิด” เซียวฮองเฮายิ้มให้อย่างอารี นางมองบุตรชายวัยซุกซนก็อดยิ้มไม่ได้

          ลู่เฟยหลงมีสีหน้าเคร่งขรึมลงกว่าเดิม คงเป็นเพราะหนึ่งปีที่เขาไม่

อยู่ หลานชายคนนี้จึงไม่ค่อยสนใจฝึกวิชาเป็นแน่ เห็นทีคราวนี้คงต้องอยู่เมืองหลวงให้นานกว่านี้หน่อย

          อยู่ให้นานกว่านี้หรือ..? ความคิดนี้เขามีมาแต่เมื่อใดกัน

          เดิมทีตั้งใจว่าจบงานเลี้ยงแล้วจะอยู่ต่ออีกไม่กี่วันแล้วค่อยกลับค่ายทหารที่จงโจว แต่เหตุใดมาบัดนี้จึงอยากอยู่ต่อให้ยาวกว่านี้นะ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • Phoenix's Rebirth หงส์หวนรัก    12 - แดนสวรรค์

    ลู่อ๋องสั่งให้เตรียมของขวัญสำหรับขึ้นทูลเกล้าถวายให้กับลู่ฮ่องเต้ผู้เป็นพระเชษฐาร่วมบิดา ข้าวของมีค่าแต่ละชิ้นล้วนหายากอย่างยิ่ง รวมถึงแจกันหยกปักบุปผาซึ่งเป็นของหายากในแผ่นดินจงหยวน ลู่อ๋องก็ใช้ความพยายามหามาจนได้เพื่อเอาพระทัยฝ่าบาทในงานวันนี้ แม้แต่เฟิ่งหรั่นก็เตรียมของขวัญจำนวนหนึ่งเตรียมถวายให้กับฮ่องเต้และเซียวฮองเฮาเช่นกัน ปิ่นมุกราตรีนั้นหาได้ง่ายยิ่ง แต่ความพิเศษที่ไม่เหมือนใครคือปีกหงส์ที่สยายตรงหัวปิ่นปัก นั้นสื่อถึงพญาหงส์ที่งามสง่าเคียงบัลลังก์ฝ่าบาท ปิ่นนี้คือปิ่นที่เฟิ่งหรั่นตั้งใจสั่งทำเป็นพิเศษขึ้นมาโดยเฉพาะ เฟิ่งอี้ที่ทราบว่าวันนี้พี่สาวของนางต้องเตรียมตัวเข้าวัง นางก็เร่งเดินทางมาวังอ๋องโดยเฉพาะเพื่อช่วยพี่สาวแต่งตัวให้งดงามที่สุด แม้ที่นี่จะมีนางกำนัลมากมาย แต่เรื่องความงดงามของพี่สาวนางนางปรารถนาที่จะดูแลด้วยตนเอง ไม่อยากให้ใครมาทำให้พี่สาวของนางงดงามด้อยไปกว่าสตรีนางอื่น จังหวะที่เฟิ่งอี้กำลังจะเดินทางไปตำหนักของเฟิ่งหรั่น นางพลันเดินสวนกับลู่อ๋องพอดี นัยน์ตาหวานซึ้งเผลอสบตาเข้ากับลู่อ๋องพอดี นางก้มหน้างุดด้วยความเขินอายยา

    Last Updated : 2025-04-19
  • Phoenix's Rebirth หงส์หวนรัก    13 - แผนที่ลับของลู่อ๋อง

    อวี๋ฟางหรงเข้ามาในตำหนักสวรรค์ของเฟิ่งหรั่น สถานที่ที่ในอดีตเฟิ่งหรั่นใช้เป็นที่ประทับส่วนตัว เนื่องจากภายในนี้มีของบางสิ่งที่นางต้องการนางจึงถือโอกาสนี้นำไปให้ได้ หากขาดเจ้าสิ่งนี้เกรงว่าภารกิจของนางอาจไม่สำเร็จลุล่วงโดยง่าย ในเมื่อเทียนโฮ่วทราบว่านางแอบฝ่าฝืนคำสั่ง วันนี้นางก็จะขอฝ่าฝืนคำสั่งอีกสักครั้ง ตำหนักของเฟิ่งหรั่นนี้มีนามว่าตำหนักอิงฮวา ซึ่งเต็มไปด้วยดอกซากุระและดอกไห่ถังบานสะพรั่ง สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่แห่งความทรงจำของเฟิ่งหรั่นและชายคนรักของนางในอดีตชาติ ซึ่งชายคนรักของอีกฝ่ายนั้นก็พี่ชายของอวี๋ฟางหรงหรือไป๋ลู่นั่นเอง เขาคือเทพสงครามแห่งทิศประจิมที่เกรียงไกร ไม่ว่าย่างกรายไปยังพิภพใดล้วนสยบมารศัตรูได้สิ้นซาก สมกับเป็นเทพพยัคฆ์ขาวไป๋หู่ที่เทียนตี้ทรงไว้วางพระทัยที่สุด “เจ้ามาทำอันใดที่ตำหนักอิงฮวา...” น้ำเสียงหนักแน่นของคนผู้หนึ่งดังจากด้านหลัง ไป๋ลู่สูดปากใบหน้าซีดลงอย่างขัดใจ นางอุตส่าห์แนบเนียนที่สุดแล้วเพื่อจะมาเอาของสิ่งหนึ่งในตำหนักอิงฮวามอบให้เฟิ่งหรั่น แต่กลับมีคนมายุ่มย่ามเสียนี่ ไป๋ลู่หันกลับมาตามเสียงเรียก พลางยิ้มแหยๆ ใส่ผู้ที่ข

    Last Updated : 2025-04-19
  • Phoenix's Rebirth หงส์หวนรัก    14 - เมาสุรา

    หัวคิ้วของเฟิ่งหรั่นขมวดมุ่นเข้าหากัน หางตาของนางชำเลืองมองลู่อ๋องสามีของนางเป็นระยะ เห็นเขากำลังสนใจนางระบำตรงหน้าจึงพ่นลมหายใจออกมาแผ่วเบา นางมองภาพการร่ายรำเบื้องหน้าสักครู่หนึ่ง แล้วหันมากำชับจิงเจียว “เก็บเรื่องนี้เอาไว้ให้ดี อย่าแพร่งพรายออกไปเด็ดขาด” จิงเจียวพยักหน้ารับแทนคำตอบ นางกระชับอกเสื้ออย่างดีก่อนจะหันมาสนใจการแสดงร่ายรำตรงหน้า ลู่ฮ่องเต้ทรงยกจอกสุรามงคลขึ้นดื่มต่อหน้าทุกคน ลู่เฟยหลงเป็นตัวแทนเชื้อพระวงศ์ ขุนนางและประชาชนจำนวนมากกล่าวคำอวยพรต่อเบื้องพระพักตร์ ข้างกายของเขานั้นมีลู่เสวียนหลานชายที่ยังเยาว์วัยคอยนั่งอยู่เคียงข้าง “กระหม่อมขอเป็นตัวแทนของทุกท่านในที่นี้ ขอถวายพระพรให้ฝ่าบาททรงมีพระพลานามัยแข็งแรง มากยิ่งด้วยทศพิธราชธรรม ขอทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นๆ ปีพะยะค่ะ” กล่าวจบแล้วก็ดื่มสุราลงคอเพียงรวดเดียวจนหมดจอก แม้ว่าเฟิ่งหรั่นจะไม่ชื่นชอบการดื่มสุรา แต่ในงานมงคลเช่นนี้นางไม่ควรปฏิเสธให้เสียมารยาท นางจึงฝืนใจกลืนรสขมปร่าของมันลงคอเพียงรวดเดียว ฝ่ามือบางวางกระแทกจอกสุราบนโต๊ะเบื้องหน้าที่เย็นเฉียบเนื่องเพราะลมหนา

    Last Updated : 2025-04-19
  • Phoenix's Rebirth หงส์หวนรัก    15 - ตำหนักบูรพา

    ลู่อ๋องนั่งหน้าดำเคร่งขรึมหลังจากที่เห็นว่าเฟิ่งหรั่นหายไปนานมากแล้ว นางเดินออกไปจากงานพร้อมกับเฟิ่งอี้ตั้งแต่เมื่อหนึ่งเค่อก่อน ยามนี้ก็ยังไม่กลับมา เขาร้อนรนใจยิ่งนักกลัวว่าจะมีเรื่องอันใดเกิดขึ้น เขากลัวว่านางจะไปเจอลู่เฟยหลงที่ตำหนักบูรพา กลัวว่านางจะลอบคบชู้สู่ชายดังเช่นที่เขาเคยสบประมาทนางเอาไว้ สองฝ่ามือหนากำหมัดเข้าหากันแน่นอย่างเคร่งเครียด สายตาคมปลาบเห็นท่าทีร้อนรนของเฟิ่งอี้ที่วิ่งกระหืดกระหอบมาคนเดียว คิ้วหนาขมวดมุ่นเข้าหากันอย่างไม่สบอารมณ์ เขามองเฟิ่งอี้แล้วพลันเกิดลางสังหรณ์บางอย่าง แต่ทันใดนั้นนางกลับวิ่งเข้ามาหาเขา “ท่านอ๋องเพคะ แย่แล้วเพคะ พี่หญิงออกไปเดินเล่นกับหม่อมฉัน ระหว่างทางไปเรือนรับรองก็เกิดพลัดหลงกันในอุทยาน หม่อมฉันตามหานางจนทั่วแต่ก็ตามหาไม่เจอ” เฟิ่งอี้ปั้นแต่งเรื่องราวขึ้นมาได้อย่างแนบเนียน หัวคิ้วของลู่อ๋องขมวดมุ่นแทบจะชนเข้ากัน สองมือกำจอกสุราแน่น เขารู้ดีว่าตอนนี้นางอยู่ที่ใด! สายตาคมปลาบฉาบไปด้วยกลิ่นอายอำมหิตจนเฟิ่งอี้สัมผัสได้ นางลอบยิ้มบางๆ อยู่ครู่หนึ่งเมื่อเห็นลู่อ๋องลุกขึ้นยืนอย่างองอาจ กล่าวต่อเบื้องพระพักตร์ฝ่าบ

    Last Updated : 2025-04-20
  • Phoenix's Rebirth หงส์หวนรัก    16 - แผนใส่ร้าย

    ในขณะที่ตำหนักหนึ่งกำลังบรรเลงบทเพลงรักอย่างเร่าร้อน ทางด้านตำหนักของเฟิ่งหรั่นกลับเงียบเหงายิ่งนัก หญิงสาวตื่นขึ้นมาในยามดึก เนื่องด้วยเพลานี้นางพักผ่อนจนพิษไข้สร่างลงไปมาก ด้านข้างกันนั้นมีจิงเจียวคอยช่วยตระเตรียมห่อยาและคอยเช็ดตัวให้กับนาง เฟิ่งหรั่นขยี้ตามองสรรพสิ่งรอบๆ กาย นางกลับมาที่ตำหนักตั้งแต่เมื่อไหร่! ครั้งล่าสุดนางจำได้ว่าเฟิ่งอี้พานางไปเดินเล่นแถวๆ เขตตำหนักบูรพา จากนั้นนางก็เมามายจนสติเลือนรางจดจำสิ่งใดไม่ค่อยได้ นางจำได้แค่เพียงว่ากลิ่นกายของบุรุษที่มิใช่ลู่อ๋อง และเสียงทะเลาะกันในขณะนั้นคล้ายกับว่าเป็นห้วงความฝัน แต่เป็นห้วงฝันที่เหมือนจริงเสียเหลือเกิน “พระชายา ทรงตื่นบรรทมแล้วหรือเพคะ ทรงนอนต่ออีกสักหน่อยเถิด อีกหลายชั่วยามเพคะกว่าฟ้าจะสาง” จิงเจียวเอ่ยด้วยความเป็นห่วง ตอนนี้พระชายาของนางกำลังตกที่นั่งลำบาก นางไม่รู้ว่าควรจะเอ่ยปลอบใจอย่างไรดี “ข้าจะออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์สักหน่อย” เฟิ่งหรั่นกำลังจะก้าวขาลงจากเตียงแต่จิงเจียวปรามเอาไว้ก่อน “อย่าเพิ่งเลยเพคะพระชายา ตอนนี้ท่านอ๋องทรงมีคำสั่งกักบริเวณพระองค์เอา

    Last Updated : 2025-04-20
  • Phoenix's Rebirth หงส์หวนรัก    17 - ดั่งดวงใจ

    เฟิ่งหรั่นถูกคุมขังอยู่ในตำหนักหลายวัน ขณะที่ลู่อ๋องไม่สนใจความเป็นความตายของนาง เขากลับแต่งตั้งเฟิ่งอี้น้องสาวนางเป็นพระชายารอง ให้ดูแลงานทุกอย่างภายในวังอ๋องแทนนางที่ถูกคุมขังในตำหนัก แต่นับว่าสวรรค์ยังมีเมตตากับนางอยู่บ้าง กงกงของวังหาได้เชื่อว่านางเป็นคนทรยศ จึงคอยลอบส่งข่าวสารผ่านจิงเจียวถึงแผนการของลู่อ๋อง “เจ้าคนชั่ว!” เฟิ่งหรั่นเปล่งวาจาด้วยบันดาลโทสะ ฝ่ามือบางที่เคยขาวผ่อง ตอนนี้กลับชุ่มโชกไปด้วยเลือดเนื่องจากนางฟาดฝ่ามือของตนเองเข้ากับผนังกำแพงโดยไม่นึกถึงความเจ็บปวดเลยสักนิด “พระชายาเพคะ” จิงเจียวมองนายของตนด้วยความสงสาร ทั้งหมดนั่นคือการใส่ร้ายกันชัดๆ เจ้านายของนางไม่เคยกระทำตนออกนอกลู่นอกทาง ทุกอย่างเป็นแผนการใส่ร้ายทั้งสิ้น ลู่อ๋องใส่ร้ายเจ้านายของนางจนต้องโดนลงทัณฑ์เช่นนี้! “ข้าแต่งงานกับเขาก็เพื่อหวังช่วยเสริมฐานอำนาจให้เ

    Last Updated : 2025-04-21
  • Phoenix's Rebirth หงส์หวนรัก    18 - ทัณฑ์หลิงฉือ

    ลู่เฟยหลงลอบเดินออกมาทางด้านหลังตำหนัก ซึ่งเป็นช่องทางลับที่เขาแอบสร้างเอาไว้นานแล้ว ไม่คาดคิดว่าวันนี้จะได้ใช้ช่องทางลับนี้ ช่องทางลับที่แม้แต่ฝ่าบาทกับพระมารดาก็ไม่ทรงทราบ ซ่งหลานบอกเขาว่าเฟิ่งหรั่นถูกนำตัวไปขังในคุกใต้ดินที่มืดที่สุดของคุกหลวง คุกที่ไม่มีแม้กระทั่งแสงเดือนหรือแสงตะวันสาดส่อง ชายหนุ่มลอบย่องเข้ามาเงียบๆ วรยุทธ์ของเขานั้นสูงส่งเกินกว่าที่ทหารยามจะคาดเดาได้ เขานำห่อผ้าห่มผืนใหญ่มาด้วยเพื่อหวังจะโอบนางให้คลายความหนาวแล้วพาหนีออกจากคุกแห่งนี้ แต่ทว่าเขาต้องหยุดฝีเท้าเมื่อเจอกับสตรีอีกหนึ่งนางกำลังตรงไปที่ห้องขังเฟิ่งหรั่น เฟิ่งอี้! ชายหนุ่มกำหมัดแน่นเมื่อเห็นสตรีตัวต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมด กำลังเดินอย่างแช่มช้ามิรู้ร้อนรู้หนาวอันใด กริยาท่าทางราวกับคนใจเย็นสุขุม ทั้งๆ ที่บิดาและมารดาของนางกำลังร้อนรนเพราะหาทางช่วยเฟิ่งหรั่น แต่นางคนนี้กลับมีท่าทีราวกับเบิกบานใจ

    Last Updated : 2025-04-21
  • Phoenix's Rebirth หงส์หวนรัก    19 - ร่างที่ไร้ลมหายใจ

    บริเวณลานประหาร ร่างบอบบางที่ถูกตรึงด้วยไม้กางเขน สภาพร่างกายของนางอันบอบบางราวกิ่งหลิวเปียกชุ่มไปด้วยคราบโลหิตจากทัณฑ์ทรมาน เส้นผมที่เคยถูกรวบเกล้าประดับด้วยเครื่องประดับอันงดงาม บัดนี้กลับหลุดลุ่ยปรกใบหน้า ดวงตาที่เคยอ่อนหวานในยามนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยความแค้น ที่ไม่มีโอกาสได้มอบความตายคืนให้กับคนที่กระทำนาง ‘เฟิ่งหรั่น’ คือบุตรีของอัครมหาเสนาบดี นางผู้เปี่ยมด้วยรูปโฉมอันงดงามและอำนาจบารมีของบิดา วาสนาชีวิตที่เคยเป็นถึงพระชายาอ๋อง บัดนี้กลับตกต่ำกลายเป็นนักโทษประหารความผิดไม่น่าให้อภัย ดวงตางดงามค่อยๆ ลืมตาขึ้นทีละนิดมองสภาพแวดล้อมรายรอบที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมายที่รุมสาปแช่งนาง นางกระตุกยิ้มมุมปากอย่างเย้ยหยันในโชคชะตาของตนเอง นางไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าวาสนาที่ตนเองเคยเป็นชายาของอ๋องเก้าบุรุษที่ยิ่งใหญ่ บัดนี้จะตกต่ำเป็นถึงนักโทษประหาร คิดแล้วช่างน่าเจ็บปวดใจยิ่งนัก

    Last Updated : 2025-04-21

Latest chapter

  • Phoenix's Rebirth หงส์หวนรัก    21 - หวนคืนสู่นครา

    โรงเตี๊ยมแห่งนี้แม้จะเล็กไปหน่อย แต่ก็เป็นแหล่งรวบรวมข่าวสารชั้นดีเช่นกัน ไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงแล้วลู่เฟยหลงนั้นอยู่เบื้องหลังการชำระล้างมลทินให้เฟิ่งหรั่น มีแต่คนกล่าวเพียงว่าอัครมหาเสนาบดีเฟิ่งผู้เป็นบิดาที่คอยหาหลักฐานมากมายร่วมสามปี จนได้หลักฐานว่าคนที่อยู่เบื้องหลังการใส่ร้ายอดีตพระชายาเก้าจนถึงแก่ความตาย ก็คือขันทีคนสนิทของลู่อ๋อง แม้จะไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่ก็มีหลายคำถามมากมายที่ผู้คนต่างกล่าวขานกัน ว่าเป็นเพราะลู่อ๋องต้องหลงเสน่ห์ชายารององค์ใหม่เป็นแน่ เฟิ่งหรั่นยกยิ้มอย่างพึงใจ อย่างน้อยสามปีที่นางหายไปท่านพ่อท่านแม่ก็ยังคงทวงความยุติธรรมให้นางมาตลอด การกลับมาคราวนี้นางจะต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีที่เคยถูกย่ำยีกลับคืนมา เปิดโปงความชั่วของพวกมันทั้งสองคนในชั่วพริบตานางย่อมทำได้ แต่หากทำเช่นนั้นศัตรูที่นางเคียดแค้นชิงชังจะตายง่ายไป นางต้องการแย่งชิงสิ่งที่พวกมันหมายปองให้มาอยู่แทบเท้านาง ในเมื่อเคยเป็นคนดีแต่กลับถูกคนชั่วหลอกใช้ นางก็ขอกลายเ

  • Phoenix's Rebirth หงส์หวนรัก    20 - เมืองเจี้ยงจู

    ไป๋ลู่หัวเสียอย่างยิ่ง หากนางทำสิ่งใดทำไมต้องมีคนมาขัดจังหวะนางตลอดเวลานะ! เซียนสาวหันมาเผชิญหน้ากับผู้มาเยือนทางด้านหลัง นางยิ้มแหยๆ ให้กับจูเชว่อย่างอารมณ์ดี เขาอายุมากกว่านางหลายพันปีอีกทั้งยังเป็นคนที่คอยขัดขวางนางทุกเรื่องหากนางคิดอ่านสิ่งใด เขาทำตนราวกับตนเองมีเนตรทิพย์แดนสวรรค์ที่สามารถมองเห็นทุกสรรพสิ่งได้ นางเกลียดยิ่งนัก! “เซียนที่ต้องทัณฑ์ไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นมาแดนสวรรค์ และยิ่งไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าหอชะตาเซียน เจ้าบังอาจฝ่าฝืนกฎเช่นนี้ ไม่กลัวสวรรค์ลงทัณฑ์หรือไร?”จูเชว่ถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม หากเขาไม่สะกดรอยมาเห็นนางเสียก่อน เกรงว่านางคงทำเรื่องไม่น่าให้อภัยไปแล้ว “แล้วท่านแม่ทัพเล่า มีเวลาว่างมากนักรึถึงมาตามจับผิดข้า คราวก่อนก็ครั้งนึงแล้ว ท่านตามติดข้าเป็นเงาเช่นนี้ คงมิใช่ทำร้ายอันใดกับข้าอยู่ใช่มั้ย?” พยัคฆ์สาวแสร้งเอ่ยปกปิดเรื่องราวของตน และได้ผล...แม้ว่าจูเชว่จะชอบขัดขวางนาง แต่ทว่าไม่เคยตาม

  • Phoenix's Rebirth หงส์หวนรัก    19 - ร่างที่ไร้ลมหายใจ

    บริเวณลานประหาร ร่างบอบบางที่ถูกตรึงด้วยไม้กางเขน สภาพร่างกายของนางอันบอบบางราวกิ่งหลิวเปียกชุ่มไปด้วยคราบโลหิตจากทัณฑ์ทรมาน เส้นผมที่เคยถูกรวบเกล้าประดับด้วยเครื่องประดับอันงดงาม บัดนี้กลับหลุดลุ่ยปรกใบหน้า ดวงตาที่เคยอ่อนหวานในยามนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยความแค้น ที่ไม่มีโอกาสได้มอบความตายคืนให้กับคนที่กระทำนาง ‘เฟิ่งหรั่น’ คือบุตรีของอัครมหาเสนาบดี นางผู้เปี่ยมด้วยรูปโฉมอันงดงามและอำนาจบารมีของบิดา วาสนาชีวิตที่เคยเป็นถึงพระชายาอ๋อง บัดนี้กลับตกต่ำกลายเป็นนักโทษประหารความผิดไม่น่าให้อภัย ดวงตางดงามค่อยๆ ลืมตาขึ้นทีละนิดมองสภาพแวดล้อมรายรอบที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมายที่รุมสาปแช่งนาง นางกระตุกยิ้มมุมปากอย่างเย้ยหยันในโชคชะตาของตนเอง นางไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าวาสนาที่ตนเองเคยเป็นชายาของอ๋องเก้าบุรุษที่ยิ่งใหญ่ บัดนี้จะตกต่ำเป็นถึงนักโทษประหาร คิดแล้วช่างน่าเจ็บปวดใจยิ่งนัก

  • Phoenix's Rebirth หงส์หวนรัก    18 - ทัณฑ์หลิงฉือ

    ลู่เฟยหลงลอบเดินออกมาทางด้านหลังตำหนัก ซึ่งเป็นช่องทางลับที่เขาแอบสร้างเอาไว้นานแล้ว ไม่คาดคิดว่าวันนี้จะได้ใช้ช่องทางลับนี้ ช่องทางลับที่แม้แต่ฝ่าบาทกับพระมารดาก็ไม่ทรงทราบ ซ่งหลานบอกเขาว่าเฟิ่งหรั่นถูกนำตัวไปขังในคุกใต้ดินที่มืดที่สุดของคุกหลวง คุกที่ไม่มีแม้กระทั่งแสงเดือนหรือแสงตะวันสาดส่อง ชายหนุ่มลอบย่องเข้ามาเงียบๆ วรยุทธ์ของเขานั้นสูงส่งเกินกว่าที่ทหารยามจะคาดเดาได้ เขานำห่อผ้าห่มผืนใหญ่มาด้วยเพื่อหวังจะโอบนางให้คลายความหนาวแล้วพาหนีออกจากคุกแห่งนี้ แต่ทว่าเขาต้องหยุดฝีเท้าเมื่อเจอกับสตรีอีกหนึ่งนางกำลังตรงไปที่ห้องขังเฟิ่งหรั่น เฟิ่งอี้! ชายหนุ่มกำหมัดแน่นเมื่อเห็นสตรีตัวต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมด กำลังเดินอย่างแช่มช้ามิรู้ร้อนรู้หนาวอันใด กริยาท่าทางราวกับคนใจเย็นสุขุม ทั้งๆ ที่บิดาและมารดาของนางกำลังร้อนรนเพราะหาทางช่วยเฟิ่งหรั่น แต่นางคนนี้กลับมีท่าทีราวกับเบิกบานใจ

  • Phoenix's Rebirth หงส์หวนรัก    17 - ดั่งดวงใจ

    เฟิ่งหรั่นถูกคุมขังอยู่ในตำหนักหลายวัน ขณะที่ลู่อ๋องไม่สนใจความเป็นความตายของนาง เขากลับแต่งตั้งเฟิ่งอี้น้องสาวนางเป็นพระชายารอง ให้ดูแลงานทุกอย่างภายในวังอ๋องแทนนางที่ถูกคุมขังในตำหนัก แต่นับว่าสวรรค์ยังมีเมตตากับนางอยู่บ้าง กงกงของวังหาได้เชื่อว่านางเป็นคนทรยศ จึงคอยลอบส่งข่าวสารผ่านจิงเจียวถึงแผนการของลู่อ๋อง “เจ้าคนชั่ว!” เฟิ่งหรั่นเปล่งวาจาด้วยบันดาลโทสะ ฝ่ามือบางที่เคยขาวผ่อง ตอนนี้กลับชุ่มโชกไปด้วยเลือดเนื่องจากนางฟาดฝ่ามือของตนเองเข้ากับผนังกำแพงโดยไม่นึกถึงความเจ็บปวดเลยสักนิด “พระชายาเพคะ” จิงเจียวมองนายของตนด้วยความสงสาร ทั้งหมดนั่นคือการใส่ร้ายกันชัดๆ เจ้านายของนางไม่เคยกระทำตนออกนอกลู่นอกทาง ทุกอย่างเป็นแผนการใส่ร้ายทั้งสิ้น ลู่อ๋องใส่ร้ายเจ้านายของนางจนต้องโดนลงทัณฑ์เช่นนี้! “ข้าแต่งงานกับเขาก็เพื่อหวังช่วยเสริมฐานอำนาจให้เ

  • Phoenix's Rebirth หงส์หวนรัก    16 - แผนใส่ร้าย

    ในขณะที่ตำหนักหนึ่งกำลังบรรเลงบทเพลงรักอย่างเร่าร้อน ทางด้านตำหนักของเฟิ่งหรั่นกลับเงียบเหงายิ่งนัก หญิงสาวตื่นขึ้นมาในยามดึก เนื่องด้วยเพลานี้นางพักผ่อนจนพิษไข้สร่างลงไปมาก ด้านข้างกันนั้นมีจิงเจียวคอยช่วยตระเตรียมห่อยาและคอยเช็ดตัวให้กับนาง เฟิ่งหรั่นขยี้ตามองสรรพสิ่งรอบๆ กาย นางกลับมาที่ตำหนักตั้งแต่เมื่อไหร่! ครั้งล่าสุดนางจำได้ว่าเฟิ่งอี้พานางไปเดินเล่นแถวๆ เขตตำหนักบูรพา จากนั้นนางก็เมามายจนสติเลือนรางจดจำสิ่งใดไม่ค่อยได้ นางจำได้แค่เพียงว่ากลิ่นกายของบุรุษที่มิใช่ลู่อ๋อง และเสียงทะเลาะกันในขณะนั้นคล้ายกับว่าเป็นห้วงความฝัน แต่เป็นห้วงฝันที่เหมือนจริงเสียเหลือเกิน “พระชายา ทรงตื่นบรรทมแล้วหรือเพคะ ทรงนอนต่ออีกสักหน่อยเถิด อีกหลายชั่วยามเพคะกว่าฟ้าจะสาง” จิงเจียวเอ่ยด้วยความเป็นห่วง ตอนนี้พระชายาของนางกำลังตกที่นั่งลำบาก นางไม่รู้ว่าควรจะเอ่ยปลอบใจอย่างไรดี “ข้าจะออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์สักหน่อย” เฟิ่งหรั่นกำลังจะก้าวขาลงจากเตียงแต่จิงเจียวปรามเอาไว้ก่อน “อย่าเพิ่งเลยเพคะพระชายา ตอนนี้ท่านอ๋องทรงมีคำสั่งกักบริเวณพระองค์เอา

  • Phoenix's Rebirth หงส์หวนรัก    15 - ตำหนักบูรพา

    ลู่อ๋องนั่งหน้าดำเคร่งขรึมหลังจากที่เห็นว่าเฟิ่งหรั่นหายไปนานมากแล้ว นางเดินออกไปจากงานพร้อมกับเฟิ่งอี้ตั้งแต่เมื่อหนึ่งเค่อก่อน ยามนี้ก็ยังไม่กลับมา เขาร้อนรนใจยิ่งนักกลัวว่าจะมีเรื่องอันใดเกิดขึ้น เขากลัวว่านางจะไปเจอลู่เฟยหลงที่ตำหนักบูรพา กลัวว่านางจะลอบคบชู้สู่ชายดังเช่นที่เขาเคยสบประมาทนางเอาไว้ สองฝ่ามือหนากำหมัดเข้าหากันแน่นอย่างเคร่งเครียด สายตาคมปลาบเห็นท่าทีร้อนรนของเฟิ่งอี้ที่วิ่งกระหืดกระหอบมาคนเดียว คิ้วหนาขมวดมุ่นเข้าหากันอย่างไม่สบอารมณ์ เขามองเฟิ่งอี้แล้วพลันเกิดลางสังหรณ์บางอย่าง แต่ทันใดนั้นนางกลับวิ่งเข้ามาหาเขา “ท่านอ๋องเพคะ แย่แล้วเพคะ พี่หญิงออกไปเดินเล่นกับหม่อมฉัน ระหว่างทางไปเรือนรับรองก็เกิดพลัดหลงกันในอุทยาน หม่อมฉันตามหานางจนทั่วแต่ก็ตามหาไม่เจอ” เฟิ่งอี้ปั้นแต่งเรื่องราวขึ้นมาได้อย่างแนบเนียน หัวคิ้วของลู่อ๋องขมวดมุ่นแทบจะชนเข้ากัน สองมือกำจอกสุราแน่น เขารู้ดีว่าตอนนี้นางอยู่ที่ใด! สายตาคมปลาบฉาบไปด้วยกลิ่นอายอำมหิตจนเฟิ่งอี้สัมผัสได้ นางลอบยิ้มบางๆ อยู่ครู่หนึ่งเมื่อเห็นลู่อ๋องลุกขึ้นยืนอย่างองอาจ กล่าวต่อเบื้องพระพักตร์ฝ่าบ

  • Phoenix's Rebirth หงส์หวนรัก    14 - เมาสุรา

    หัวคิ้วของเฟิ่งหรั่นขมวดมุ่นเข้าหากัน หางตาของนางชำเลืองมองลู่อ๋องสามีของนางเป็นระยะ เห็นเขากำลังสนใจนางระบำตรงหน้าจึงพ่นลมหายใจออกมาแผ่วเบา นางมองภาพการร่ายรำเบื้องหน้าสักครู่หนึ่ง แล้วหันมากำชับจิงเจียว “เก็บเรื่องนี้เอาไว้ให้ดี อย่าแพร่งพรายออกไปเด็ดขาด” จิงเจียวพยักหน้ารับแทนคำตอบ นางกระชับอกเสื้ออย่างดีก่อนจะหันมาสนใจการแสดงร่ายรำตรงหน้า ลู่ฮ่องเต้ทรงยกจอกสุรามงคลขึ้นดื่มต่อหน้าทุกคน ลู่เฟยหลงเป็นตัวแทนเชื้อพระวงศ์ ขุนนางและประชาชนจำนวนมากกล่าวคำอวยพรต่อเบื้องพระพักตร์ ข้างกายของเขานั้นมีลู่เสวียนหลานชายที่ยังเยาว์วัยคอยนั่งอยู่เคียงข้าง “กระหม่อมขอเป็นตัวแทนของทุกท่านในที่นี้ ขอถวายพระพรให้ฝ่าบาททรงมีพระพลานามัยแข็งแรง มากยิ่งด้วยทศพิธราชธรรม ขอทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นๆ ปีพะยะค่ะ” กล่าวจบแล้วก็ดื่มสุราลงคอเพียงรวดเดียวจนหมดจอก แม้ว่าเฟิ่งหรั่นจะไม่ชื่นชอบการดื่มสุรา แต่ในงานมงคลเช่นนี้นางไม่ควรปฏิเสธให้เสียมารยาท นางจึงฝืนใจกลืนรสขมปร่าของมันลงคอเพียงรวดเดียว ฝ่ามือบางวางกระแทกจอกสุราบนโต๊ะเบื้องหน้าที่เย็นเฉียบเนื่องเพราะลมหนา

  • Phoenix's Rebirth หงส์หวนรัก    13 - แผนที่ลับของลู่อ๋อง

    อวี๋ฟางหรงเข้ามาในตำหนักสวรรค์ของเฟิ่งหรั่น สถานที่ที่ในอดีตเฟิ่งหรั่นใช้เป็นที่ประทับส่วนตัว เนื่องจากภายในนี้มีของบางสิ่งที่นางต้องการนางจึงถือโอกาสนี้นำไปให้ได้ หากขาดเจ้าสิ่งนี้เกรงว่าภารกิจของนางอาจไม่สำเร็จลุล่วงโดยง่าย ในเมื่อเทียนโฮ่วทราบว่านางแอบฝ่าฝืนคำสั่ง วันนี้นางก็จะขอฝ่าฝืนคำสั่งอีกสักครั้ง ตำหนักของเฟิ่งหรั่นนี้มีนามว่าตำหนักอิงฮวา ซึ่งเต็มไปด้วยดอกซากุระและดอกไห่ถังบานสะพรั่ง สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่แห่งความทรงจำของเฟิ่งหรั่นและชายคนรักของนางในอดีตชาติ ซึ่งชายคนรักของอีกฝ่ายนั้นก็พี่ชายของอวี๋ฟางหรงหรือไป๋ลู่นั่นเอง เขาคือเทพสงครามแห่งทิศประจิมที่เกรียงไกร ไม่ว่าย่างกรายไปยังพิภพใดล้วนสยบมารศัตรูได้สิ้นซาก สมกับเป็นเทพพยัคฆ์ขาวไป๋หู่ที่เทียนตี้ทรงไว้วางพระทัยที่สุด “เจ้ามาทำอันใดที่ตำหนักอิงฮวา...” น้ำเสียงหนักแน่นของคนผู้หนึ่งดังจากด้านหลัง ไป๋ลู่สูดปากใบหน้าซีดลงอย่างขัดใจ นางอุตส่าห์แนบเนียนที่สุดแล้วเพื่อจะมาเอาของสิ่งหนึ่งในตำหนักอิงฮวามอบให้เฟิ่งหรั่น แต่กลับมีคนมายุ่มย่ามเสียนี่ ไป๋ลู่หันกลับมาตามเสียงเรียก พลางยิ้มแหยๆ ใส่ผู้ที่ข

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status