เรื่องฤทธิ์ตามสืบเรื่องหวานตาเกือบหนึ่งอาทิตย์ เขาไม่ได้ข่าวคืบหน้าอะไรเลย คนบ้านพิสิทธิโยทินและคนบ้านเกียรติขจรต่างวุ่นวายเตรียมงานวิวาห์ของสองหนุ่ม-สาวด้วยความยินดี เขาเจาะใครก็ไม่ได้อะไรเพิ่มจนเริ่มท้อ สองคนนั่นแทบไม่มีเรื่องแย่ๆ พอให้ใส่ความได้เลย
เขาเดินเข้าไปในห้างสรรพสินค้า เพื่อพักขาและอาศัยไอเย็นเพื่อคลายร้อน
หลังสั่งเครื่องดื่มกับพนักงานแล้ว เรืองฤทธิ์ก็มองหาที่นั่ง มุมอับสายตาอยู่ไม่ไกลนัก เขาทิ้งตัวนั่งและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูข่าวสารผ่านโลกออนไลน์
เขาจมอยู่กับความเคลื่อนไหวในกระแสโซเซียล มีหลายข่าวที่น่าตื่นตาตกใจ เขาเลยลืมสนิทว่าสั่งเครื่องดื่มไว้
เรืองฤทธิ์เดินออกไปเพื่อไปหยิบเครื่องดื่มของเขา เขาเดินผ่านโต๊ะที่มีคนหน้าคุ้นสองคนนั่งอยู่
แต่สองคน
“ทำไมคิดแบบนั้นล่ะ?” หวานตาอยากรู้เหมือนกันในสายตาคนอื่น เธอกับภูมิควรเป็นแบบไหน “เจ้หวานห้าวๆ ส่วนเฮียใจเย็น เป็นคู่รักที่พอผสมกันแล้ว เริ่ดสุดๆ แล้วค่ะ” หวานตายิ้มไม่ออก คนภายนอกมองเธอเป็นสาวแสบที่ทั้งแก่นและกล้าเกินหญิง ในขณะที่ภูมิดูดีทั้งกายและการกระทำ เขาเป็นสุภาพบุรุษที่สุดในโลก เธอควรดีใจใช่ไหมที่ได้ผู้ชายคุณสมบัติแสนดีมายืนข้างๆ “ทำไมไม่คิดว่าเฮียของเธอน่าจะได้ผู้หญิงที่ดีกว่าฉันมาเป็นคู่ชีวิตเหรอ?” เธอลองเสี่ยงถาม...บางครั้งเธอก็คิดนะ เธอดีพอสำหรับภูมิจริงเหรอ เขาน่าจะได้ผู้หญิงที่ดีและคู่ควรกว่าเธอไหม? “เจ้หวานต้องลองถามเฮียภูมิดูเองนะคะ” จิ๋วเดินเข้ามาตอบคนสุ
“หวานทำกับข้าวไม่เป็นนะ บอกไว้ก่อนเลย” น้อยคือแม่บ้านที่จัดการเรื่องอาหารการกิน จนหวานตาลอยตัว เธอไม่เคยแตะต้องงานครัว แต่ก็ไม่ได้รังเกียจการเรียนรู้“แม่ผมอยู่ทั้งคน หวานไปเรียนวิธีมัดใจสามีจากแม่ผมได้เลยครับ” ภูมิพูดพร้อมกับยิ้มหวานตาแก้เก้อด้วยการยกแก้วกาแฟที่น้ำแข็งลายจนน้ำใสแจ๋วขึ้นมาจิบ เธอร้อนวูบวาบไปทั้งหน้า เมื่อชายหนุ่มตรงหน้าพูดถึงสถานะใหม่ของเขา ‘สามี’ นี่เธอกับภูมิกำลังก้าวข้ามขีดจำกัดของคำว่าเพื่อนแล้วเหรอ?“ที่คนเขาพูดกันคือเรื่องจริงใช่ไหมคะเฮีย?” จิ๋วที่ยังวนเวียนอยู่แถวนั่นโพล่งถามหวานตาถลึงตาดุ เธออายจนหน้าร้อนไปหมดแล้ววันนี้“จริงสิ...รอให้ชัวร์ก่อนนะ แล้วจะบอกอีกที”“ว้าววว เจ้หวานกำลังจะเป็นอาซ้อของเฮียแล้วสินะคะ” ท่าทางจิ๋วน่าหมั่นไส้จนหวานตาเริ่มเคืองแม่สาวอวบยกมือขึ้นประสานกันที่หว่างอก ทำตาลอยๆ เหมือนกำลังเคลิ้ม“ยินดีด้วยนะคะเฮีย” สาววิ่งเข้ามาใกล้พร้อมกับแสดงความยินดีแฟงชะเง้อมองที่ตามสาวมาไม่ได้เพราะกำลังท
บทที่16.บรรยากาศเป็นใจกับ ‘จูบ’ แรกที่ภูมิเป็นฝ่ายเริ่ม เช้าวันหยุดที่สดใสที่สุดในรอบปี อากาศเช้านี้เย็นสบายแดดอ่อนๆ ไม่ร้อนจัด เหมาะที่สุดสำหรับการเดินทางออกต่างจังหวัด กับภารกิจตามล่าหาของชำร่วย “จะเอาอะไรไปนักหนาฮะยัยหวาน?” ทวีทรัพย์ถามบุตรสาว หลังหวานตาทยอยยกกระเป๋าลงมาวางไว้หน้าโถงบ้าน “ไม่ได้สิคะพ่อ นานๆ หวานจะได้ออกไปเที่ยวทั้งที พร็อปต้องเต็ม” สิ่งของที่อยู่ในกระเป๋าคือ ‘แอกเซสซอรี’ ที่ประกอบการถ่ายภาพ หวานตาจะไม่ยอมถ่ายชุดซ้ำเด็ดขาด ดังนั้นของแต่งตัวเลยต้องจัดเต็ม&n
หลังควานหาทั่วทั้งกระเป๋าสะพาย สิ่งที่เธอควานหากลับไม่มี หญิงสาวย้อนนึกถึงเมื่อค่ำคืน “ก่อนขึ้นทางด่วนแวะปั้มก่อนได้ไหมคะคุณภูมิ” ชลดาบอกภูมิ ชายหนุ่มพยักหน้ารับ “ปวดฉี่หรอชล?” หวานตาหันมาถาม “เปล่า ฉันลืมเอายาดมมา” ชลดาตอบพร้อมกับยิ้มเซียวๆ สีหน้าเริ่มเผือดซีด “ยัยชลแพ้แอร์รถน่ะภูมิ ยัยนี่เดินทางไกลด้วยรถยนต์ไม่ได้ ถ้าไม่มียาดมจ่อจมูก” หวานตาอธิบายให้ภูมิฟัง ซึ่งเขารับฟังโดยไม่ได้ท้วงอะไร ชลดาพยายามหลับตานิ่งๆ เพื่อจะได้ไม่มีอาการวิงเวียนก่อนจะได้ยาแก้ เธออดทนที่สุด แต่...อาการแพ้กำเริบก่อนที่จะแวะที่ปั้มเสียอีก เธอเริ่มวิงเวียน และอีกสักพักยังไม่ได้สูดกลิ่นของยาดมละก็ รถคันนี้คงได้เหม็นกลิ่นอ้วกของเธอแน่นอน&nb
“ใช่ค่ะ ปล่อยฉันไป ขอให้ฉันได้เริ่มต้นใหม่ กับคนดีๆ เถอะค่ะ” “คุณกำลังด่าว่าผม ‘เลว’” “ใช่ค่ะ คุณเข้าใจไม่ผิดหรอก” “ฮ่าๆ” จู่ๆ ไซม่อนก็เงยหน้าหัวเราะลั่น ชลดาขมวดคิ้ว เธอมองหาทางเลี่ยง แต่ระยะทางจากจุดที่เธอยืนอยู่กับประตูห้องน้ำมันอยู่ไกลเสียจน หากเดินตรงไป ผู้ชายหน้ามึนที่ทำท่าเหมือนคนใกล้คลั่งคงไม่มีทางปล่อยเธอผ่านไปได้แบบสะดวกนักหรอก “ผมพยายามคิดหาเหตุผลร้อยแปดมาอธิบายให้คุณฟัง...แต่หากคุณยังปิดหู ปิดตาแบบนี้ ต่อให้เหตุผลของผมดีแค่ไหน คุณก็คงไม่ฟังอยู่ดี” เสียงของไซม่อนแหบและแกว่ง เขาดูเหมือนกำลังสับสนไม่เป็นตัวเองเท่าไหร่เลย&nbs
แต่...เถียงไปก็ป่วยการ เธอเป็นอย่างที่ชายตรงหน้าพูดจริงๆ เธอควรยอมรับความจริงใช่ไหม ต่อให้เขาผิดสัญญา หรือทำร้ายเธอมากกว่านี้ ไซม่อนก็ยังเป็นผู้ชายคนเดียวที่ครองใจเธอ “สู้รู้!!” หญิงสาวพึมพำเสียงสะบัด พยายามทรงตัวยืน ขณะนี้ขาเธออ่อนเกือบจะลมลงไปมะล่อมมะล่อ ไซม่อนไม่ได้เถียงต่อ เขาปล่อยให้ชลดายักแย่ยักยันยืน หล่อนทำฝืนอวดเก่ง ทั้งที่ร่อแร่เต็มที “ถ้าไม่ใช่ในปั้ม...คุณไม่มีทางได้ยืนเชิดหน้าใส่ผมแน่” ชลดาอยากจะเถียง แต่เธอจะเถียงชนะเขาได้ยังไง เมื่อเธอเองก็รู้อยู่แก่ใจ...หากไซม่อนจูบต่ออีกนิด เขาจะชวนเธอไปไหน...เธอก็คงตามเขาไปทุกที เหมือนเคย&
หวานตาตระเวนไปทุกที่ เธอชอบที่สุดก็ตอนที่ได้ปั่นจักรยานไปตามถนน ที่ขนาบด้วยสวนดอกไม้เป็นทุ่งกว้างๆ ไอแดดยามบ่ายไม่ร้อนแรงเท่าช่วงเที่ยง และยิ่งเป็นช่วงหน้าหนาว พระอาทิตย์ตกดินเร็วกว่าช่วงหน้าร้อน ดังนั้นหวานตาเลยชอบที่สุด เธอได้เก็บภาพวิถีชีวิตชาวบ้าน ได้ชิมขนมอร่อยๆ ตามท้องถิ่น และได้เรียนรู้วิธีเลี้ยงผึ้ง กับการถนอมอาหารโดยมีส่วนประกอบหลักคือน้ำผึ้ง... หญิงสาวหงายหลังผึ่ง “โอ้ย เหนื่อย!!” เสียงบ่นพึมพำ หลังเปลือกตาหลุบลง ภูมิโครงศีรษะ หวานตาพลังงานเยอะ เธอวิ่งไปทั่ว มาหมดแรงเอาก็ตอนที่กลับถึงที่พักนั่นเอง “ฉันขอไปอาบน้ำก่อนนะยัยหวาน เดี๋ยวหนาวจนอาบไม่ลง” ชลดาตะโกนบอก พอหมดแดด ลมหนาวก็เริ่มกรรโชก อุณหภูมิต่ำลงจนเริ่มไม่น่าไว้ใจ หากเธอพักจนหายเหนื่อยแล้วจะทำใจอาบน้ำได้ลงหรือเปล่า
“คือ...” ชายหนุ่มตัดสินใจไม่ถูก “มาเถอะค่ะ...” หวานตาข่มความอาย เธอลากภูมิเดินกลับเข้าไปด้านใน และทำท่าจะเดินเลยไปที่ห้องนอน ภูมิกัดริมฝีปากล่าง เขาก็อยากทำตามความปรารถนาลึกๆ ในใจ และทำตามที่หวานตาต้องการ...แต่มันยังไม่ถึงเวลา... “หวานครับ” เขาตัดสินใจพูด ก่อนที่ตนเองจะเตลิดเปิดเปิงตามหวานตา หวานตาชะงัก เปลือกตากะพริบปริบๆ รอยยิ้มแหยๆ แต้มมุมปาก เธอควรเป็นกุลสตรีมากกว่านี้ใช่ไหม? “หวานขอโทษ” หญิงสาวพึมพำพร้อมกับรีบก้มหน้าลง ภูมิถอนใจเฮือก ช่วงเวลาวิกฤติจบลงแล้ว เขาอมยิ้ม...ดีใจเล็กๆ ที่หวานตามีความคิดกับตนเองมากเกินกว่าคำว่าเพื่อน&nb
หญิงสาวชะโงกหน้าเข้าไปมองด้านใน เศษซากขวดเหล้าเปล่าหล่นเกลื่อน ไม่เหมือนกับที่เธอสร้างภาพไว้ในใจ พื้นห้องระเกะระกะไปด้วยขยะและเศษบุหรี่ เธอเงยหน้ามองหมายเลขห้องซ้ำอีกครั้ง คนระเบียบจัดและไม่สูบบุหรี่อย่างภูมิ พอเปลี่ยนที่ เขาเปลี่ยนไปขนาดนี้เชียวเหรอ “ไม่หรอกน่า...” หวานตาพึมพำพยายามคิดในแง่ดี เธอชะเง้อมองเข้าไปด้านในอีกครั้ง เริ่มไม่แน่ใจว่าตัวองตัดสินใจผิดหรือเปล่า... สายตาหวานตาสะดุดเข้ากับกระโปรงผ้าสีหวาน มันกองอยู่ที่พื้น ด้านข้างมีชั้นในผู้หญิงหล่นอยู่ใกล้ๆ หวานตากำมือแน่น กัดริมฝีปากล่างจนชา เธอสูดลมหายใจลึกๆ หมุนตัวเดินหนี เธอไม่ควรมาเพื่อรับรู้อีกด้านหนึ่งของภูมิเลย ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่หวานตาคิดว่าตัวเองตัดสินใจพลาด เธอควรรอให้เขากลับไป ไม่ใช่วิ่งโร่มาเจอความจริงที่น่ากลัว หวานตาหยุดเดิน เธอไม่เคยวิ่งหนีปัญหานี่นา ห
ไหนๆ ก็คันปากอยากหาเรื่องกัดใครสักคนแล้ว ไซม่อนนี่น่าจะเหมาะสุดสำหรับการลับฝีปากของเธอ ชลดาหัวเราะกิ๊ก “ไหมล่ะ พูดอะไรไม่พ้นตัวเอง ดีนะที่ชลขอดูผลตรวจเลือดก่อนแต่งงาน ไม่งั้นชลคงระแวงตัวเองจนตาย ชลกลัวเป็นเอดส์ค่ะ” “หวังว่าธามโตมาจะไม่ปากเสียเหมือนพ่อหรอกนะ” หลานชายของเธอจะต้องไม่สืบสานสันดานจากบิดาแย่ๆ อย่างไซม่อน หวานตาพยายามสอนให้ธามมองเห็นความไม่ดีในตัวบิดา ซึ่งหลานชายไม่ค่อยคล้อยตามเท่าไหร่ ธามติดพ่อมากกว่าแม่ คงเพราะไซม่อนมีเวลาดูแลลูกมากกว่าชลดานั่นเอง เขาเป็นตัวตั้งตัวตีในการเลี้ยงบุตรชายเกือบทั้งหมดนี่ รายละเอียดเกี่ยวกับหอพักทวีทรัพย์รับหน้าที่จัดหามาให้ บิดายัดใส่มือก่อนขึ้นเครื่องไม่กี่นาที ตอนแรกหวานตาก็หวั่นๆ เธอจะต้องมาคลำหาทางเอาเองที่ลอนดอนเสียก็ไม่รู้ พอได้ที่อยู่ภูมิมาเลยโล่งใจไปหนึ่งเปราะ อย่างน้อยก็ช่วยร่นระยะเวลาในการเจอหน้าภูมิ
“คุณภูมิกินแต่อาหารจืดๆ เลยไม่รู้ว่าบนโลกใบนี้มีอาหารรสอื่นที่อร่อยมากกว่าสิ่งที่คุณเคยลิ้มรสมาค่ะ” “ผมเป็นคนรักสุขภาพครับ อะไรที่ก่อผลร้ายกับตัวเอง ผมเลยไม่อยากเอาตัวเข้าไปเสี่ยง” “คุณกำลังบอกโรซี่เหรอคะ เรื่องบางเรื่องก็ไม่ได้น่ากลัวหรอกค่ะ ลองสักครั้งแล้วคุณจะติดใจ” “ผมไม่ชอบลองอะไรที่ไม่มีประโยชน์ครับ เสียพลังงานเปล่าๆ แต่ไม่ได้คุณค่าอะไรกลับมาเลย” แค่นี้คงทำให้โรสิตาสำนึกได้บ้าง ในฐานะเพื่อนมนุษย์เขาก็ไม่อยากทำลายน้ำใจหล่อนมากนัก แต่ภูมิไม่รู้ มนุษย์บางคนก็ดื้อด้านเกินกว่าที่จะขุดรากที่หยั่งลึกได้ เหมือนโรสิตา หล่อนถลำลงไปในวังวนที่อยากไถ่ถอนตัวเองคืน คำปรามาสของภูมิเลยก่อให้เกิดความไม่พอใจ และหล่อนจะไม่มีวันถอย จนกว่าจะสยบภูมิให้ศิโรราบได้&nbs
มันเป็นเรื่องน่ารำคาญสำหรับภูมิ แต่กลับเป็นเรื่องน่าสนุกของคนรอบตัว ภูมิรู้มีสายตาหลายคู่คอยสอดส่อง และรอดูบทสรุปเรื่องวุ่นวายในชีวิตเขา มีทั้งคนชื่นชมที่เขายึดมั่นในตัวเอง จนไม่หวั่นไหวไปกับสิ่งลวงล่อที่โรสิตาพยายามสร้าง ชายหนุ่มถอนหายใจ หยุดปั่นจักรยาน เขาเหวี่ยงปลายเท้าลงยืนบนพื้น อิงจักรยานไว้กับพนักเก้าอี้เหล็กที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ “คิดถึงหวานจัง” เสียงพึมพำแผ่วหวิวปนเปไปด้วยความคิดถึง เวลาต่างกันหากเช้าที่ลอนดอน ที่ประเทศไทยคงดึกเอาการ หลายครั้งที่ภูมิห้ามใจตัวเองไว้ ไม่ติดต่อหาหวานตานอกจากเวลาที่กำหนด เขาอยากเห็นหน้า อยากได้ยินเสียง และก็เริ่มเห็นด้วยกับความคิดหวานตา ทั้งเขาและเธอต้องอดทน การจากกันครั้งนี้แค่ชั่วคราว ไม่ใช่ตลอดไป หากจะมีคนตะบะแตก ไม่หวานตาก็เขา
ริมฝีปากล่างถูกกัด มือหมุนปากกาในมือไปมา เรื่องนี้เธอควรมีตัวช่วย หากเก็บเงียบไว้แบบนี้คงอกระเบิดตาย ก่อนที่ภูมิจะกลับมา...เช้าวันใหม่... หวานตาแบกหน้าตาโทรมๆ ของตัวเองไปหาชลดาถึงบ้าน ชลดากับไซม่อนกำลังยุ่งกับการเลี้ยงบุตรชายวัยสามเดือนที่กำลังซนได้ที่ ขนาดเคลื่อนไหวเองไม่ได้ก็ส่งเสียงเจื้อยแจ้วลั่นบ้าน พ่อแม่มือใหม่ที่กำลังหลงลูกชายเลยพากันหยุดงานเลี้ยงลูก หวานตาเพิ่งรู้ไซม่อนไม่ใช่นักข่าวกระจอกๆ เขามีเงินเก็บจากการเทรดหุ้น ไม่ทำงานสักสองสามปียังได้ นับว่าชลดาตาแหลม ได้สามีเงินถุงเงินถังไว้ดูแล ไซม่อนเลิกอาชีพเป็นนักข่าวแล้ว เขาเขียนบทความให้สำนักข่าวของเพื่อนสนิทเขาแทน มีรายได้พอเลี้ยงตัวได้ ไซม่อนเลยกลายเป็นพ่อที่เลี้ยงลูกชายเต็มตัว คงเพราะชลดาไม่สามารถวางมือจากการเป็นบรรณาธิการหนังสือแฟชั่นได้นั่นเอง ชลดาเลยเป็นฝ่ายที่ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน แต่เพราะหลงลูก หมู
สะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก ถูกยื่นมาให้ภูมิคว้าเอาไว้ ชายหนุ่มแสร้งทำเป็นไม่รู้ เขาส่ายหน้าปฏิเสธอีกครั้ง “ทำไมคะ คุณไม่ชอบฉันเหรอ” ธรรมดาการปฏิเสธแบบสุภาพ จะทำให้ผู้หญิงมียางอายยอมถอย แต่สำหรับโรซี่แล้ว เธอเลยขีดจำกัดแบบนั้น เธอใช้ชีวิตในต่างแดนเกินหกปี ผ่านผู้ชายมานับไม่ถ้วน ไม่เคยสะดุดตาใครเท่าผู้ชายตรงหน้า เขาดูละมุนน่าครอบครองจนห้ามใจไม่ได้เลย ภูมิแอบผ่อนลมหายใจ เขายอมให้โรสิตาเดินข้ามเส้นแบ่งที่ตัวเองกำหนดไว้ เพราะคิดว่าคุยภาษาเดียวกันแล้วจะรู้เรื่อง เขาแน่ใจว่าโรซสิตารู้ เขาไม่ใช่ผู้ชายโสด ถึงจะยังไม่แต่งงาน แต่ภูมิแน่ใจตัวเอง เขาไม่มีทางเปลี่ยนใจไปจากหวานตาแน่ๆ “คุณกับผมมาจากถิ่นเดียวกัน ทำไมผมจะไม่ชอบคุณล่ะ” “มากกว่าชอบได้ไหมคะ โรซี่ไม่ถือ” โรสิตากระแซะต่อ
“ยัยชล แกจะแต่งงานเหรอ...เมื่อไหร่ล่ะ หมอนั่นยอมแล้วใช่ไหม?” หวานตาถามเสียงสั่น กลั้นยิ้มจนปวดแก้ม ชลดาตวัดสายตามองผ่าน ผิวแก้มร้อนวูบวาบ “เร็วๆ นี้แหละ เอาฤกษ์สะดวกนะ ฉันกับไซม่อนไม่มีญาติผู้ใหญ่แล้วทั้งคู่นี่” “ว้าว...ดีแล้วล่ะ หวานก็ไม่ชอบนักหรอก หมอนั่นกินตับแกหลายครั้งแล้ว อย่าคิดนะว่าหวานไม่รู้” หวานตากระเซ้า จนชลดาตาโต “ยัยหวาน” “ทำไม หวานไม่ใช่เด็ก ไม่มีประสบการณ์ก็จริง แต่หวานพอมองออกย่ะ หมอนั่นมองแกเหมือนขนมหวาน แบบนั้นมีหรือจะปล่อยให้แกครองจิ้นถึงวันแต่งงาน” “พอเลยๆ เลอะเทอะ” “หวานไม่ได้เลอะเทอะ ถามใครในออฟฟิตแกก็ได้ โธ่ๆ อย่าให้ห
บทพิเศษเติมความหวาน การแต่งงานไม่ใช่จุดสิ้นสุดของคนสองคนที่รักกันมากๆ งานวิวาห์คือบททดสอบเบื้องต้นของชีวิตคู่ จุดเริ่มของนิยามความรักที่ไม่มีข้อจำกัด ภูมิกับหวานตาได้แต่หวังให้เขาและเธอยังจับมือกันเช่นนี้ต่อไปในอนาคต โดยไม่มีอุปสรรคมาทำลายความรักของเขาทั้งสองคนลงได้ “ภูมิยกเลิกไปเรียนต่อแล้วเหรอคะ ทำไมล่ะ?” หวานตาถามเสียงหลง เธอรู้สึกแปลกใจนิดๆ ภูมิไม่ใช่คนเหลาะแหละ เขาไม่มีทางเปลี่ยนใจหากตัดสินใจอะไรไปแล้ว และเรื่องเรียนเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ในอนาคตภูมิต้องใช้วิชาความรู้ทั้งหมดเพื่อดูแลกิจการของเขา ภูมิย่นปลายจมูก ก้มหน้าหลบสายตาแฟนสาวหมาดๆ “...” “หวานต้องการเหตุผลค่ะ ภูมิไม่ตอบหวานไม่ได้นะคะ&
“จะถามทำไม ไม่เยอะเท่าที่แกถูกหมอนั่นจูบหรอก” หวานตาตอบเสียงแข็ง รีบชิ่งหนี ด้วยการกดวางสาย “ร้อนตัวนะยะหล่อน รีบวางสายหนีเลย” ชลดาบ่นพึมพำ เธอมองหาไซม่อน และ “คุณๆ พรุ่งนี้ไปโรงพยาบาลกันนะ” ไซม่อนเลกหัวคิ้วขึ้นสูง เขาละสายตาจากการแต่งภาพ เงยหน้ามองแม่สาวข้างบ้าน ที่ยืนท้าวเอวอยู่หน้าโต๊ะทำงาน “ไปทำไม ไม่สบายเหรอ?” “เปล่า...” “อ้าว แล้วจะไปทำไม?” “จะพาคุณไปตรวจเลือด ยัยหวานโทร. มาบอกชลเมื่อซักครู่ ชลเห็นด้วย ดีกว่ามาเสียใจทีหลัง คุณยิ่งมั่วๆ อยู่แล้วด้วย”