แต่...เถียงไปก็ป่วยการ เธอเป็นอย่างที่ชายตรงหน้าพูดจริงๆ เธอควรยอมรับความจริงใช่ไหม ต่อให้เขาผิดสัญญา หรือทำร้ายเธอมากกว่านี้ ไซม่อนก็ยังเป็นผู้ชายคนเดียวที่ครองใจเธอ
“สู้รู้!!”
หญิงสาวพึมพำเสียงสะบัด
พยายามทรงตัวยืน ขณะนี้ขาเธออ่อนเกือบจะลมลงไปมะล่อมมะล่อ
ไซม่อนไม่ได้เถียงต่อ เขาปล่อยให้ชลดายักแย่ยักยันยืน หล่อนทำฝืนอวดเก่ง ทั้งที่ร่อแร่เต็มที
“ถ้าไม่ใช่ในปั้ม...คุณไม่มีทางได้ยืนเชิดหน้าใส่ผมแน่”
ชลดาอยากจะเถียง แต่เธอจะเถียงชนะเขาได้ยังไง เมื่อเธอเองก็รู้อยู่แก่ใจ...หากไซม่อนจูบต่ออีกนิด เขาจะชวนเธอไปไหน...เธอก็คงตามเขาไปทุกที เหมือนเคย
&
หวานตาตระเวนไปทุกที่ เธอชอบที่สุดก็ตอนที่ได้ปั่นจักรยานไปตามถนน ที่ขนาบด้วยสวนดอกไม้เป็นทุ่งกว้างๆ ไอแดดยามบ่ายไม่ร้อนแรงเท่าช่วงเที่ยง และยิ่งเป็นช่วงหน้าหนาว พระอาทิตย์ตกดินเร็วกว่าช่วงหน้าร้อน ดังนั้นหวานตาเลยชอบที่สุด เธอได้เก็บภาพวิถีชีวิตชาวบ้าน ได้ชิมขนมอร่อยๆ ตามท้องถิ่น และได้เรียนรู้วิธีเลี้ยงผึ้ง กับการถนอมอาหารโดยมีส่วนประกอบหลักคือน้ำผึ้ง... หญิงสาวหงายหลังผึ่ง “โอ้ย เหนื่อย!!” เสียงบ่นพึมพำ หลังเปลือกตาหลุบลง ภูมิโครงศีรษะ หวานตาพลังงานเยอะ เธอวิ่งไปทั่ว มาหมดแรงเอาก็ตอนที่กลับถึงที่พักนั่นเอง “ฉันขอไปอาบน้ำก่อนนะยัยหวาน เดี๋ยวหนาวจนอาบไม่ลง” ชลดาตะโกนบอก พอหมดแดด ลมหนาวก็เริ่มกรรโชก อุณหภูมิต่ำลงจนเริ่มไม่น่าไว้ใจ หากเธอพักจนหายเหนื่อยแล้วจะทำใจอาบน้ำได้ลงหรือเปล่า
“คือ...” ชายหนุ่มตัดสินใจไม่ถูก “มาเถอะค่ะ...” หวานตาข่มความอาย เธอลากภูมิเดินกลับเข้าไปด้านใน และทำท่าจะเดินเลยไปที่ห้องนอน ภูมิกัดริมฝีปากล่าง เขาก็อยากทำตามความปรารถนาลึกๆ ในใจ และทำตามที่หวานตาต้องการ...แต่มันยังไม่ถึงเวลา... “หวานครับ” เขาตัดสินใจพูด ก่อนที่ตนเองจะเตลิดเปิดเปิงตามหวานตา หวานตาชะงัก เปลือกตากะพริบปริบๆ รอยยิ้มแหยๆ แต้มมุมปาก เธอควรเป็นกุลสตรีมากกว่านี้ใช่ไหม? “หวานขอโทษ” หญิงสาวพึมพำพร้อมกับรีบก้มหน้าลง ภูมิถอนใจเฮือก ช่วงเวลาวิกฤติจบลงแล้ว เขาอมยิ้ม...ดีใจเล็กๆ ที่หวานตามีความคิดกับตนเองมากเกินกว่าคำว่าเพื่อน&nb
“ยายพวกปากเสีย” อรดีบ่นพึมพำ “แต่ยังไง บอสกับคุณหวานนั่นก็เหมาะสมกันดีนะ” “ใช่ๆ คบกันมาตั้งนาน เพราะเริ่มจากเพื่อนเลยเข้าอกเข้าใจกัน” “ฉันอยากมีเพื่อนผู้ชายแสนดีแบบบอสบ้างจังเลย” “สมัยนี้หาไม่ได้หรอก มีแต่ผู้ชายเห็นแก่ตัวเต็มโลกใบนี้ไปหมด” ผู้ชายลักษณะอย่างภูมิ หายากในท้องตลาด เขาน่าเป็นรุ่นอัลลิมิเต็ดที่ผู้ผลิตน่าจะยกเลิกการผลิตไปนานแล้ว เนื่องมาจากนิสัยอ่อนโยนเช่นนี้ เป็นสุภาพบุรุษแบบนี้ มันดูอ่อนแอ และอาจจะกลายเป็นตุ๊ด เป็นแต๋วในอนาคต ภาพรวมผู้ชายสมัยนี้เลยดูเถื่อนๆ แมนๆ แต่เอาเข้าจริงๆ ผู้ชายพวกนั้นก็ไม่ใช่ที่นิยมสักเท่าไหร่ เพราะความเห็นแก่ตัวนั่นเอง &ld
“เปล่านะคะ อรแค่อยากทำให้คุณตาสว่าง” “ผมกำลังงง...ตกลงคุณอรหวังดีกับผม เลยพยายามทำให้ผม ‘พลาด’ จากสิ่งที่ผมตั้งใจไว้” “ผู้หญิงคนนั้นไม่ดีพอสำหรับคุณหรอกค่ะ ยังมีผู้หญิงดีๆ กว่าหวานตา ผู้หญิงที่พร้อมจะเดินไปข้างๆ คุณ และช่วยคุณภูมิทำงานได้” ภูมิเลิกหัวคิ้วขึ้นสูง “ผู้หญิงดีๆ งั้นเหรอครับ?” “ใช่ค่ะ...หวานตาไม่มีคุณสมบัติดีพอให้คุณภูมิยกย่องเธอแบบนั้นหรอกค่ะ” “ผมไม่ต้องการครับ ผมต้องการแค่หวานตา แม้เธอจะไม่มีดีอะไรเลย” ภูมิตอบตามตรง หากพลาดจากหวานตา เขาก็ไม่คิดจะมีใคร “ทำไมคะ?”
“ถ้าฉันมี ฉันจะไปยืมมันอีกทำไมล่ะ แกก็เถอะ รีบๆ หาทางจับคนรวยๆ ให้ได้เสียก่อน ไม่อย่างนั้นล่ะก็คงได้ฉิบหายกันทั้งบ้าน” หลังสาดความไม่พอใจใส่เธอ บิดาก็เดินปึงปังออกไปนอกบ้าน อรดีรู้...นอกจากบิดาไม่เก่งเรื่องบริหารงานในบริษัท ท่านยังติดการพนันด้วย และนั่นเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เงินของท่านขาดมือ “อรต้องหาทางหยุดคุณให้ได้ คุณภูมิ” เป้าหมายของอรดีคือล้มงานวิวาห์ของภูมิกับหวานตา บางทีเธออาจจะมีโอกาสได้เป็นสะใภ้บ้านพิสิทธิโยธินและหายนะที่กำลังเกิดขึ้นกับครอบครัวเธอจะได้จบลงแบบสวยๆ และแล้ว...โชคก็เข้าข้างอรดี ในที่สุดความบังเอิญก็เปิดทางให้เธอ อรดีกำลังเอาแฟ้มเอกสารไปส่งให้หัวหน้าแผนก ระหว่างที่โดยสารลิฟต์ลงมาจากชั้นบน
หวานตามองอรดีตรงๆ ที่ผู้หญิงคนนี้พล่ามมาทั้งหมดก็เพราะภูมิกำลังจะหลุดมือไป มันน่าสมเพชน้อยเมื่อไหร่ หากผู้หญิงคนหนึ่งทำทุกทางเพื่อยื้อผู้ชายของคนอื่น รอยยิ้มร้ายๆ สไตน์หวานตาผุดขึ้นมุมปาก อรดีทำให้เธอเสียกระบรวนไปชั่วครู่ เรื่องระหว่างเธอกับภูมิ เธอจะหาทางจัดการเอง แต่สำหรับอรดีแล้ว...เธอจัดการผู้หญิงคนนี้ได้โดยไม่รู้สึกละอายใจ ในเมื่อร้ายมา ก็ย่อมได้รับผลร้ายๆ สะท้อนกลับคืนไปเช่นกัน เธอไม่ใช่นางเอกที่ยอมให้คนอื่นข่มเหง อรดีจะได้จำไว้ เผื่ออนาคตหล่อนอยากได้ผู้ชายที่ตัวเองไม่มีสิทธิอีก “ขอบคุณสำหรับความหวังดีนะคะ แต่ขอโทษ... หวานกำลังจะแต่งงาน และผู้ชายที่เธอบอกว่าน้ำท่วมปากนั่น เป็นคนจัดการทุกอย่างเอง หากภูมิไม่
“ผมขอโทษครับ” เสียงชายหนุ่มอ่อนเศร้า สีหน้าสลดแบบคนสำนึกผิด ความจริงคืนนั้น ตอนที่คลุกวงใน ภูมิสามารถทำอย่างที่ควรเกิดขึ้นได้ เมื่อหวานตาไม่มีสติ และเธอเองก็ทำทุกอย่าง ตามที่ภูมิมีหลักฐานโชว์ หวานตาตื่นขึ้นมาและเริ่มต้นลวนลามเขาจริงๆ ภูมิเผลอตัว เตลิดไปตามความต้องการในหัวใจ เขาสัมผัสหวานตาเหมือนที่ใจคิด อิ่มเอิบกับความหวานล้ำทุกส่วนที่ประกอบเป็นผู้หญิงตรงหน้า และเพราะภูมิอยากให้เกียรติหวานตา เขาจึงพยายามข่มกลั้นความปรารถนาที่ถูกปลุกให้เตลิดลง ปลอบประโลมหวานตา จนเธอสงบลงได้... เวลานี้เขาเริ่มเสียใจ หากคืนนั้นเขาจัดการขั้นเด็ดขาดจริงๆ มันจะไม่ใช่เรื่องแหกตา เหมือนที่หวานตากำลังต่อว่าอยู่นี่เลย “ภูมิแหกตาหวาน
ภูมิเม้มปาก เขาเองก็มีศักดิ์ศรี การที่ยอมให้หวานตาถึงขั้นนี้แล้วเธอยังมองไม่เห็นความดี ก็ควรถอย “ครับ” “ลูกตัดสินใจยังไง ก็แล้วแต่ลูกเถอะ...ส่วนที่เหลือพ่อจะรับผิดชอบเอง เพราะพ่อเองก็มีส่วน” คงเป็นเรื่องให้ชาวบ้านชาวช่องพูดถึงนานเป็นเดือนๆ หากงานวิวาห์จะล่มลง “ผมอยากไปเรียนต่อ...” ภูมิตัดสินใจ เขาอยากพักรักษาใจ แต่การมีหวานตาอยู่ใกล้ๆ เป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะกลับเป็นเหมือนเดิม คงต้องเว้นระยะห่างเพื่อรักษาบาดแผล วันไหนที่เขากลับเป็นคนเดิมได้ เขาจะกลับมา และเป็นแค่เพื่อนของเธอ “คิดดีแล้วเหรอลูก” สายใจน้ำตาซึม นาง
หญิงสาวชะโงกหน้าเข้าไปมองด้านใน เศษซากขวดเหล้าเปล่าหล่นเกลื่อน ไม่เหมือนกับที่เธอสร้างภาพไว้ในใจ พื้นห้องระเกะระกะไปด้วยขยะและเศษบุหรี่ เธอเงยหน้ามองหมายเลขห้องซ้ำอีกครั้ง คนระเบียบจัดและไม่สูบบุหรี่อย่างภูมิ พอเปลี่ยนที่ เขาเปลี่ยนไปขนาดนี้เชียวเหรอ “ไม่หรอกน่า...” หวานตาพึมพำพยายามคิดในแง่ดี เธอชะเง้อมองเข้าไปด้านในอีกครั้ง เริ่มไม่แน่ใจว่าตัวองตัดสินใจผิดหรือเปล่า... สายตาหวานตาสะดุดเข้ากับกระโปรงผ้าสีหวาน มันกองอยู่ที่พื้น ด้านข้างมีชั้นในผู้หญิงหล่นอยู่ใกล้ๆ หวานตากำมือแน่น กัดริมฝีปากล่างจนชา เธอสูดลมหายใจลึกๆ หมุนตัวเดินหนี เธอไม่ควรมาเพื่อรับรู้อีกด้านหนึ่งของภูมิเลย ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่หวานตาคิดว่าตัวเองตัดสินใจพลาด เธอควรรอให้เขากลับไป ไม่ใช่วิ่งโร่มาเจอความจริงที่น่ากลัว หวานตาหยุดเดิน เธอไม่เคยวิ่งหนีปัญหานี่นา ห
ไหนๆ ก็คันปากอยากหาเรื่องกัดใครสักคนแล้ว ไซม่อนนี่น่าจะเหมาะสุดสำหรับการลับฝีปากของเธอ ชลดาหัวเราะกิ๊ก “ไหมล่ะ พูดอะไรไม่พ้นตัวเอง ดีนะที่ชลขอดูผลตรวจเลือดก่อนแต่งงาน ไม่งั้นชลคงระแวงตัวเองจนตาย ชลกลัวเป็นเอดส์ค่ะ” “หวังว่าธามโตมาจะไม่ปากเสียเหมือนพ่อหรอกนะ” หลานชายของเธอจะต้องไม่สืบสานสันดานจากบิดาแย่ๆ อย่างไซม่อน หวานตาพยายามสอนให้ธามมองเห็นความไม่ดีในตัวบิดา ซึ่งหลานชายไม่ค่อยคล้อยตามเท่าไหร่ ธามติดพ่อมากกว่าแม่ คงเพราะไซม่อนมีเวลาดูแลลูกมากกว่าชลดานั่นเอง เขาเป็นตัวตั้งตัวตีในการเลี้ยงบุตรชายเกือบทั้งหมดนี่ รายละเอียดเกี่ยวกับหอพักทวีทรัพย์รับหน้าที่จัดหามาให้ บิดายัดใส่มือก่อนขึ้นเครื่องไม่กี่นาที ตอนแรกหวานตาก็หวั่นๆ เธอจะต้องมาคลำหาทางเอาเองที่ลอนดอนเสียก็ไม่รู้ พอได้ที่อยู่ภูมิมาเลยโล่งใจไปหนึ่งเปราะ อย่างน้อยก็ช่วยร่นระยะเวลาในการเจอหน้าภูมิ
“คุณภูมิกินแต่อาหารจืดๆ เลยไม่รู้ว่าบนโลกใบนี้มีอาหารรสอื่นที่อร่อยมากกว่าสิ่งที่คุณเคยลิ้มรสมาค่ะ” “ผมเป็นคนรักสุขภาพครับ อะไรที่ก่อผลร้ายกับตัวเอง ผมเลยไม่อยากเอาตัวเข้าไปเสี่ยง” “คุณกำลังบอกโรซี่เหรอคะ เรื่องบางเรื่องก็ไม่ได้น่ากลัวหรอกค่ะ ลองสักครั้งแล้วคุณจะติดใจ” “ผมไม่ชอบลองอะไรที่ไม่มีประโยชน์ครับ เสียพลังงานเปล่าๆ แต่ไม่ได้คุณค่าอะไรกลับมาเลย” แค่นี้คงทำให้โรสิตาสำนึกได้บ้าง ในฐานะเพื่อนมนุษย์เขาก็ไม่อยากทำลายน้ำใจหล่อนมากนัก แต่ภูมิไม่รู้ มนุษย์บางคนก็ดื้อด้านเกินกว่าที่จะขุดรากที่หยั่งลึกได้ เหมือนโรสิตา หล่อนถลำลงไปในวังวนที่อยากไถ่ถอนตัวเองคืน คำปรามาสของภูมิเลยก่อให้เกิดความไม่พอใจ และหล่อนจะไม่มีวันถอย จนกว่าจะสยบภูมิให้ศิโรราบได้&nbs
มันเป็นเรื่องน่ารำคาญสำหรับภูมิ แต่กลับเป็นเรื่องน่าสนุกของคนรอบตัว ภูมิรู้มีสายตาหลายคู่คอยสอดส่อง และรอดูบทสรุปเรื่องวุ่นวายในชีวิตเขา มีทั้งคนชื่นชมที่เขายึดมั่นในตัวเอง จนไม่หวั่นไหวไปกับสิ่งลวงล่อที่โรสิตาพยายามสร้าง ชายหนุ่มถอนหายใจ หยุดปั่นจักรยาน เขาเหวี่ยงปลายเท้าลงยืนบนพื้น อิงจักรยานไว้กับพนักเก้าอี้เหล็กที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ “คิดถึงหวานจัง” เสียงพึมพำแผ่วหวิวปนเปไปด้วยความคิดถึง เวลาต่างกันหากเช้าที่ลอนดอน ที่ประเทศไทยคงดึกเอาการ หลายครั้งที่ภูมิห้ามใจตัวเองไว้ ไม่ติดต่อหาหวานตานอกจากเวลาที่กำหนด เขาอยากเห็นหน้า อยากได้ยินเสียง และก็เริ่มเห็นด้วยกับความคิดหวานตา ทั้งเขาและเธอต้องอดทน การจากกันครั้งนี้แค่ชั่วคราว ไม่ใช่ตลอดไป หากจะมีคนตะบะแตก ไม่หวานตาก็เขา
ริมฝีปากล่างถูกกัด มือหมุนปากกาในมือไปมา เรื่องนี้เธอควรมีตัวช่วย หากเก็บเงียบไว้แบบนี้คงอกระเบิดตาย ก่อนที่ภูมิจะกลับมา...เช้าวันใหม่... หวานตาแบกหน้าตาโทรมๆ ของตัวเองไปหาชลดาถึงบ้าน ชลดากับไซม่อนกำลังยุ่งกับการเลี้ยงบุตรชายวัยสามเดือนที่กำลังซนได้ที่ ขนาดเคลื่อนไหวเองไม่ได้ก็ส่งเสียงเจื้อยแจ้วลั่นบ้าน พ่อแม่มือใหม่ที่กำลังหลงลูกชายเลยพากันหยุดงานเลี้ยงลูก หวานตาเพิ่งรู้ไซม่อนไม่ใช่นักข่าวกระจอกๆ เขามีเงินเก็บจากการเทรดหุ้น ไม่ทำงานสักสองสามปียังได้ นับว่าชลดาตาแหลม ได้สามีเงินถุงเงินถังไว้ดูแล ไซม่อนเลิกอาชีพเป็นนักข่าวแล้ว เขาเขียนบทความให้สำนักข่าวของเพื่อนสนิทเขาแทน มีรายได้พอเลี้ยงตัวได้ ไซม่อนเลยกลายเป็นพ่อที่เลี้ยงลูกชายเต็มตัว คงเพราะชลดาไม่สามารถวางมือจากการเป็นบรรณาธิการหนังสือแฟชั่นได้นั่นเอง ชลดาเลยเป็นฝ่ายที่ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน แต่เพราะหลงลูก หมู
สะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก ถูกยื่นมาให้ภูมิคว้าเอาไว้ ชายหนุ่มแสร้งทำเป็นไม่รู้ เขาส่ายหน้าปฏิเสธอีกครั้ง “ทำไมคะ คุณไม่ชอบฉันเหรอ” ธรรมดาการปฏิเสธแบบสุภาพ จะทำให้ผู้หญิงมียางอายยอมถอย แต่สำหรับโรซี่แล้ว เธอเลยขีดจำกัดแบบนั้น เธอใช้ชีวิตในต่างแดนเกินหกปี ผ่านผู้ชายมานับไม่ถ้วน ไม่เคยสะดุดตาใครเท่าผู้ชายตรงหน้า เขาดูละมุนน่าครอบครองจนห้ามใจไม่ได้เลย ภูมิแอบผ่อนลมหายใจ เขายอมให้โรสิตาเดินข้ามเส้นแบ่งที่ตัวเองกำหนดไว้ เพราะคิดว่าคุยภาษาเดียวกันแล้วจะรู้เรื่อง เขาแน่ใจว่าโรซสิตารู้ เขาไม่ใช่ผู้ชายโสด ถึงจะยังไม่แต่งงาน แต่ภูมิแน่ใจตัวเอง เขาไม่มีทางเปลี่ยนใจไปจากหวานตาแน่ๆ “คุณกับผมมาจากถิ่นเดียวกัน ทำไมผมจะไม่ชอบคุณล่ะ” “มากกว่าชอบได้ไหมคะ โรซี่ไม่ถือ” โรสิตากระแซะต่อ
“ยัยชล แกจะแต่งงานเหรอ...เมื่อไหร่ล่ะ หมอนั่นยอมแล้วใช่ไหม?” หวานตาถามเสียงสั่น กลั้นยิ้มจนปวดแก้ม ชลดาตวัดสายตามองผ่าน ผิวแก้มร้อนวูบวาบ “เร็วๆ นี้แหละ เอาฤกษ์สะดวกนะ ฉันกับไซม่อนไม่มีญาติผู้ใหญ่แล้วทั้งคู่นี่” “ว้าว...ดีแล้วล่ะ หวานก็ไม่ชอบนักหรอก หมอนั่นกินตับแกหลายครั้งแล้ว อย่าคิดนะว่าหวานไม่รู้” หวานตากระเซ้า จนชลดาตาโต “ยัยหวาน” “ทำไม หวานไม่ใช่เด็ก ไม่มีประสบการณ์ก็จริง แต่หวานพอมองออกย่ะ หมอนั่นมองแกเหมือนขนมหวาน แบบนั้นมีหรือจะปล่อยให้แกครองจิ้นถึงวันแต่งงาน” “พอเลยๆ เลอะเทอะ” “หวานไม่ได้เลอะเทอะ ถามใครในออฟฟิตแกก็ได้ โธ่ๆ อย่าให้ห
บทพิเศษเติมความหวาน การแต่งงานไม่ใช่จุดสิ้นสุดของคนสองคนที่รักกันมากๆ งานวิวาห์คือบททดสอบเบื้องต้นของชีวิตคู่ จุดเริ่มของนิยามความรักที่ไม่มีข้อจำกัด ภูมิกับหวานตาได้แต่หวังให้เขาและเธอยังจับมือกันเช่นนี้ต่อไปในอนาคต โดยไม่มีอุปสรรคมาทำลายความรักของเขาทั้งสองคนลงได้ “ภูมิยกเลิกไปเรียนต่อแล้วเหรอคะ ทำไมล่ะ?” หวานตาถามเสียงหลง เธอรู้สึกแปลกใจนิดๆ ภูมิไม่ใช่คนเหลาะแหละ เขาไม่มีทางเปลี่ยนใจหากตัดสินใจอะไรไปแล้ว และเรื่องเรียนเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ในอนาคตภูมิต้องใช้วิชาความรู้ทั้งหมดเพื่อดูแลกิจการของเขา ภูมิย่นปลายจมูก ก้มหน้าหลบสายตาแฟนสาวหมาดๆ “...” “หวานต้องการเหตุผลค่ะ ภูมิไม่ตอบหวานไม่ได้นะคะ&
“จะถามทำไม ไม่เยอะเท่าที่แกถูกหมอนั่นจูบหรอก” หวานตาตอบเสียงแข็ง รีบชิ่งหนี ด้วยการกดวางสาย “ร้อนตัวนะยะหล่อน รีบวางสายหนีเลย” ชลดาบ่นพึมพำ เธอมองหาไซม่อน และ “คุณๆ พรุ่งนี้ไปโรงพยาบาลกันนะ” ไซม่อนเลกหัวคิ้วขึ้นสูง เขาละสายตาจากการแต่งภาพ เงยหน้ามองแม่สาวข้างบ้าน ที่ยืนท้าวเอวอยู่หน้าโต๊ะทำงาน “ไปทำไม ไม่สบายเหรอ?” “เปล่า...” “อ้าว แล้วจะไปทำไม?” “จะพาคุณไปตรวจเลือด ยัยหวานโทร. มาบอกชลเมื่อซักครู่ ชลเห็นด้วย ดีกว่ามาเสียใจทีหลัง คุณยิ่งมั่วๆ อยู่แล้วด้วย”