Write Talk: งื้ออออ...สงสารน้องรินทร์ อีพี่ปากร้ายน่าตบมาก อนุญาตให้รี้ดตบปากอีพี่คนละทีสองที หมั่นไส้นัก
หลังจากได้ยินสิ่งที่เซดริกพูดออกมา มาลารินทร์ก็ไม่สนใจเขาอีก เธอไม่ได้ขัดขืนแต่ก็ไม่มีอารมณ์ร่วมไปกับเขาเหมือนกับครั้งแรก เพราะตอนอยู่ในห้องอาหารเซดริกสัมผัสเธออย่างอ่อนโยนทะนุถนอม ต่างจากตอนนี้ที่เขาทำกับเธออย่างรุนแรงปนเอาแต่ใจเซดริกประกบริมฝีปากจูบเธออีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาจูบเธอเร่าร้อนรุนแรงและเร่งเร้าให้เธอจูบตอบ แต่หญิงสาวปล่อยให้เขาทำอยู่ฝ่ายเดียวโดยไร้การตอบสนองจนเขารับรู้ได้ว่าเธอกำลังประชดอยู่ ชายหนุ่มถอนจูบออก ดวงตาสีฟ้าหม่นจ้องมองเข้าไปในดวงตากลมโตของเธอจนพบกับว่างเปล่าไร้ซึ่งความรู้สึกใด ๆ“จะเล่นแง่อะไรกับผมอีก” เขาถามเสียดุ แต่อีกฝ่ายเลือกหลับตาลงโดยไม่ยอมตอบคำถาม“ต้องการแบบนี้ใช่ไหม?”เซดริกยันกายลุกขึ้นแล้วกระชากแพนตี้ตัวบางของเธอจนขาดติดมือ มาลารินทร์สะดุ้งตกใจจนเผลอลืมตาขึ้นมอง เซดริกถอดกางเกงชั้นออกจากร่างเผยให้เห็นความเป็นชายขนาดใหญ่ไซส์ยุโรปมาลารินทร์เบิกตากว้างด้วยความตกใจ เพราะครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นอวัยวะเพศของผู้ชาย และความใหญ่โตมโหฬารของอาวุธประจำกายนั่น ทำให้หวาดกลัวและเกรงว่าจะรับความเป็นชายของเขาไม่ไหวมาลารินทร์ลุกขึ้นนั่งชันเขาแล้วกระถดตัวถอยห
เซดริกถอดเครื่องป้องกันออกจากลำรักแข็งแกร่งแล้วนำไปทิ้งถังขยะในห้องน้ำ เขาใช้เวลาในการอาบน้ำชำระร่างกายและคราบเลือดที่ติดอยู่ที่หว่างขาของตัวเองอยู่นานหลายนาที ก่อนจะกลับออกมาอีกครั้งในสภาพเปลือยท่อนบนโชว์ซิกแพคลอนสวย ส่วนท่อนล่างมีผ้าขนหนูพันกายเอาไว้อย่างหมิ่นเหม่เขาเดินมาหยุดที่ข้างเตียง มองร่างบอบบางที่นอนหลับตาพริ้มและหายใจสม่ำเสมอแล้วยกยิ้มที่มุมปากอย่างเอ็นดู คนเก่งของเขาหลับไปแล้ว อาจจะเป็นเพราะเหนื่อยจากการร่วมรักครั้งแรกประกอบกับฤทธิ์แอลกอฮอลล์ที่ดื่มเข้าไปจึงทำให้เธอหลับลึกเช่นนี้ร่างแกร่งนั่งลงที่ขอบเตียง หยิบผ้าเช็ดตัวผืนเล็กที่เปียกหมาด เช็ดหน้าตาและเนื้อตัวให้อย่างเบามือ ไม่เว้นแม้กระทั่งจุดกลางกายสาวที่เพิ่งรับความเป็นชายของเขาเมื่อครู่ มือหนาจับเรียวขาของเธอแยกออกจากกันแล้วยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้ ๆ จนเห็นกลีบกุหลาบแดงช้ำและบวมเป่งเพราะเพิ่งผ่านการร่วมรักกับเขามาหมาด ๆจริงอยู่ที่เพิ่งผ่านการร่วมรักมาแค่รอบเดียว แต่ด้วยขนาดใหญ่ไซด์ยุโรปของเซดริก จึงไม่แปลกที่ความเป็นสาวของมาลารินทร์จะบวมช้ำได้ขนาดนี้ ปกติเขาไม่เคยร่วมรักแค่รอบเดียวแต่เพราะความรู้สึกผิดที่ทำกับเธอด้วยความ
มาลารินทร์รู้สึกตัวตื่นขึ้นเมื่อแสงแดดยามสายที่ลอดผ่านม่านหน้าต่างห้องนอนสุดหรูตกกระทบไปที่ดวงตา วินาทีแรกที่เธอรู้สึกเมื่อขยับตัวคืออาการเจ็บแปลบบริเวณใจกลางความเป็นสาวและรู้สึกปวดศรีษะเล็กน้อย แต่ยังไม่สามารถลืมตาได้เพราะรู้สึกแสบตากับแสงแดดจ้าที่ส่องมากระทบเธอยกมือดันที่นอนเพื่อจะพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นแต่กลับสัมผัสไปเจอสิ่งหนึ่งที่ไม่เคยคุ้น มันนุ่มนิ่มและให้ความรู้สึกอุ่นในอุ้งมือเธอจึงค่อยๆ ลูบไล้สิ่งนั้นเบา ๆ ปรากฏว่าเจ้าสิ่งนั้นกลับขยายตัวคับพองเต็มมือแล้วกระตุกราวกับสิ่งมีชีวิต มาลารินทร์ตกใจสุดขีดจนรีบลืมตาขึ้นมามอง และเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ในมือได้ถนัดตาเธอถึงกับหน้าแดงก่ำ“ว๊าย...อุ๊บ!!”เธอร้องด้วยความตกใจแล้วรีบเอามือปิดปากตัวเอง เพราะสิ่งที่จับอยู่เต็มมือคือความเป็นชายของเซดริกที่ขยายใหญ่จนเต็มความยาว มาลารินทร์ชักมือกลับแล้วมองไปรอบ ๆ ห้องที่ไม่เคยคุ้น ถ้าที่นี่ไม่ใช่โรงแรมเมื่อคืนแล้วตอนนี้เธออยู่ที่ไหนและมาที่นี่ได้ยังไงมาลารินทร์ค่อย ๆ ขยับตัวถอยห่างจากเซดริกที่กำลังนอนหลับอยู่ ในใจภาวนาขออย่าให้เขารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาตอนนี้เพราะต้องออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดก่อนที่เขา
คนตัวเล็กหอบหายใจถี่รัว หลังจากเสร็จสมจากการถูกปรนเปรอด้วยปากและลิ้นร้ายกาจของชายหนุ่ม เซดริกไม่ปล่อยให้เธอหยุดพักนาน เขาใช้ฝ่ามือหนาจับอาวุธคู่กายขนาดใหญ่ไซด์ยุโรปชักรูดขึ้นลงเบาๆ เพื่อเตรียมความพร้อม เมื่อมาลารินทร์เห็นแท่งรักขนาดใหญ่ตรงหน้า เธอถึงกับกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เพราะยังเข็ดกลัวจากการร่วมรักรุนแรงครั้งก่อนหน้า ร่างเล็กจึงกระถดถอยหนีโดยอัตโนมัติ ดูเหมือนเจ้าของดวงตาสีฟ้าหม่นดูจะเข้าใจในท่าทีตื่นกลัวของหญิงสาว เขาจึงขยับเข้าตระกองกอดร่างเปลือยแล้วจูบปลอบประโลมเบา ๆ ที่ขมับชื้นเหงื่อเพื่อให้อีกฝ่ายคลายความกังวลลง“ไม่ต้องกลัวนะครับเมีย ผัวสัญญาว่าจะไม่ทำรุนแรง ถ้าเจ็บหรือไม่ไหวก็บอกผมนะ ”เขาปลอบประโลมเสียงแหบพร่าด้วยอารมณ์ปรารถนาแล้วดันร่างเล็กให้นอนลงบนเตียง เซดริกนั่งคุกเข่ากลางหว่างขาขาวแล้วยกขาเรียวขึ้นวางพาดบนบ่า ดึงสะโพกของเธอเข้ามาใกล้ จับปลายหัวหยักถูไถไปที่ปากทางรักคับแคบแล้วค่อย ๆ ดันเข้าไปในร่องสวาทนุ่มนิ่ม ในขณะที่ท่อนเอ็นถูกบีบรัดด้วยช่องทางคับแคบจนชายหนุ่มรู้สึกคับแน่นไปหมด“อุ้ย...ซี๊ดดด เบาๆ ค่ะคุณเซดริก รินทร์อึดอัดจังค่ะ”มาลารินทร์ร้องห้ามเสียงแผ่วเบา
หลังจากบทรักเร่าร้อนผ่านไป มาลารินทร์ก็หลับไปนานโขรู้สึกตัวอีกทีเมื่อได้กลิ่นหอมของอาหารลอยมาเตะจมูกจนท้องร้องประท้วงด้วยความหิวทันที เพราะตั้งแต่เช้ายังไม่มีอาหารตกถึงท้อง เพราะเซดริกเอาแต่จับเธอกินจนเหนื่อยและหมดแรงหลับไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้หญิงสาวค่อย ๆ ลืมตาขึ้นรู้สึกปวดเมื่อยเนื้อตัวเป็นอย่างมาก ที่นอนข้างกายว่างเปล่าไร้เงาของเซดริก นาฬิกาบนผนัง บอกเวลา 15.30 น. เธอลุกจากเตียงนอนและเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ สระผม ทำความสะอาดร่างกายโดยใช้เวลาในห้องน้ำอยู่นานพอสมควรเมื่อทำธุระส่วนตัวเสร็จ ร่างบางก็ก้าวเดินออกมาจากห้องน้ำโดยมีผ้าขนหนูผืนเดียวห่อหุ้มร่างกาย บนศีรษะมีผ้าขนหนูผืนเล็กพันผมเอาไว้ มาลารินทร์นั่งลงบนเตียงแล้วเช็ดผมที่เปียก เธอต้องกลับบ้านเพื่อนำเงินที่ได้ไปจัดการเรื่องการผ่าตัดของแม่ นี่ก็ผ่านไปวันสองวันแล้วที่ไม่ได้ติดต่อทางบ้าน ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรกันบ้างเมื่อเช็ดผมเสร็จก็เดินสำรวจไปทั่วห้องนอน พบชุดกองอยู่บนพื้น เมื่อหยิบขึ้นมาดูก็ต้องถอนใจเพราะสภาพชุดขาดวิ่นไม่มีชิ้นดี ชุดชั้นในก็ไม่มีเพราะใช้แต่สติ๊กเกอร์ปิดจุก ส่วนแพนตี้ตัวน้อยก็ถูกเขากระชากจนขาด แล้วจะออกไปจากที่นี่ไ
หลังจากคนตัวโตปราบพยศเด็กดื้อเรียบร้อยแล้ว เขาก็ลุกไปทำอาหารเย็นเตรียมไว้ให้หญิงสาว ด้วยกลัวว่าหล่อนจะหิวเมื่อตื่นขึ้นมา ในขณะที่ร่างแกร่งกำลังสาละวนกับการทำอาหารอยู่นั้น เขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าหนัก ๆ ของใครบางคนเดินเข้ามาในครัว ซึ่งเขาจำเสียงฝีเท้านั้นได้ดี “ของที่กูสั่งได้ครบมั้ย ” แอลตันพยักหน้าพร้อมกับส่งถุงอาหารสดและอาหารแห้งให้เซดริก เขารับถุงอาหารมาจัดเก็บของสดใส่ตู้เย็นและเก็บของแห้งไว้ในตู้วางของแห้ง“แล้วเสื้อผ้าเมียกู่ล่ะ มึงไม่ได้ซื้อมาหรือไง?” เขาเอ่ยถามเมื่อไม่เห็นถุงเสื้อผ้าตามที่สั่ง“มึงสั่งกูให้ซื้อเสื้อผ้ากับชุดชั้นในของผู้หญิง แต่เสือกไม่บอกไซส์มาแล้วกูจะไปซื้อถูกได้งัยวะ ” แอลตันพูดพลางส่ายหน้าอย่างเหนื่อยอ่อน“เฮอะ..กูเพิ่งรู้ว่าเรื่องแค่นี้เพลย์บอยอันดับหนึ่งอย่างมึงก็ไม่มีปัญญาแก้ปัญหา” เซดริกพูดเน้นเสียงหนักแสดงอาการหงุดหงิด ในขณะที่แอลตันยักคิ้วให้อย่างยียวนก่อนจะตอบกลับเพื่อนสนิทออกไป“กูไม่ได้สิ้นคิดขนาดนั้นหรอกน่า คนอย่างกูสมองอัจฉริยะเรื่องแค่นี้ทำไมกูจะแก้ไม่ได้วะ” แอลตันพูดยิ้ม ๆ พร้อมกับหันหน้าไปทางประตูทางเข้า เซดริกได้ยินเสียงฝีเท้าเบา ๆ ของใครคนหนึ่ง
เช้าวันนี้เซดริกพามาลารินทร์มาเยี่ยมนางวิมาลาที่โรงพยาบาลตามที่ได้รับปากไว้ ก่อนถึงโรงพยาบาลเธอขอแวะซื้อผลไม้ที่แม่ชอบไปฝากท่านก่อนซึ่งชายหนุ่มก็ตามใจไม่ได้ขัด เมื่อถึงโรงพยาบาลมาลารินทร์ถึงกับอ้าปากค้าง คิดไม่ถึงว่าโรงพยาบาลจะหรูหราอย่างกับโรงแรมแบบนี้ ไม่แปลกใจเลยที่สายป่านบอกว่าค่ารักษาแพงหูฉี่มือหนาอบอุ่นจับมือเรียวเล็กให้ก้าวเดินไปตามเขาไปยังห้องพักฟื้นของนางวิมาลา เมื่อถึงหน้าประตูที่ติดชื่อของแม่ มาลารินทร์ก็เคาะประตูเป็นเชิงขออนุญาตก่อนจะเปิดเข้าไป เธอเห็นแม่นอนอยู่บนเตียงคนไข้โดยมีสายป่าน แอลตัน และปริณอยู่ในห้องด้วย สีหน้าของนางวิมาลาดูสดชื่นกว่าเดิมมาก คนตัวเล็กรีบเข้าไปกอดแม่ด้วยความคิดถึง นางกอดตอบบุตรสาวพร้อมกับลูบศีรษะเล็กอย่างเอ็นดู“แม่เป็นอย่างไรบ้างคะ อาการดีขึ้นไหม ทานอะไรได้ปกติหรือเปล่าคะ รินทร์ขอโทษนะที่ไม่ได้อยู่ดูแลตอนที่แม่ผ่าตัด” หล่อนถามมารดาด้วยความเป็นห่วง น้ำตาคลอหน่วยตา นางวิมาลายิ้มบาง ๆ แล้วเช็ดน้ำตาให้ลูกสาว“ไม่เป็นไรหรอกลูก เห็นสายป่านบอกว่าหนูกับแฟนไปงานด่วนที่ต่างประเทศกลับมาไม่ทัน แฟนหนูเลยให้คุณแอลตันกับสายป่านมาช่วยดูแลแม่แทนให้ ขอบใจแฟนหนูด้ว
หลังจากวันนั้นเซดริกก็พามาลารินทร์ไปเยี่ยมแม่ที่โรงพยาบาลอีกหลายครั้ง จนกระทั่งล่าสุดคุณหมออนุญาตให้ท่านกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ ส่วนปริณตอนนี้มหาวิทยาลัยเปิดเทอมแล้ว และเขาก็สามารถไปเรียนได้โดยไม่ต้องห่วงนางวิมาลา เพราะเซดริกได้จ้างพยาบาลพิเศษมาดูแลให้เกือบสามเดือนแล้วที่มาลารินทร์ย้ายมาอยู่กับเซดริกที่เพนเฮาส์แห่งนี้ เวลาที่มีวันหนึ่ง ๆ หมดไปกับการดูแลเขาเสียเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะจัดเตรียมเสื้อผ้าและอาหารให้ทั้งเช้าและเย็น หลังจากเขาออกไปทำงานแล้วเธอก็จะทำงานบ้านเล็กๆ น้อยๆ ทั้งที่ไม่ค่อยมีให้ทำเพราะเซดริกจ้างแม่บ้านให้มาทำงานบ้านให้ทุกอาทิตย์ เขาบอกว่าไม่อยากให้คนตัวเล็กเหนื่อย จนบางทีเธอก็บ่นว่าเหงาเพราะไม่มีอะไรจะทำ เขาเลยชวนให้เธอตามไปทำงานกับเขาแก้เบื่อ แต่เธอไม่อยากไปเพราะกลัวจะเป็นภาระของเขาเวลาทำงานมากกว่า“ติ๊ง...ต่องงง”เสียงออดหน้าห้องดังขึ้น มาลารินทร์นิ่วหน้าสงสัยเพราะเวลานี้เซดริกน่าจะยังทำงานอยู่ แล้วถ้าเขากลับมาจริงก็ต้องมีคีย์การ์ดจึงไม่จำเป็นจะต้องกดออด จะว่าเป็นสายป่านก็ไม่น่าจะใช่เพราะเมื่อครู่เพิ่งคุยโทรศัพท์กันเมื่อครู่ เพื่อนยังบอกเลยว่ากำลังจะเตรียมตัวไปทำงานแล
“แม่คะ ทานข้าวเย็นกันดีกว่าค่ะ วันนี้มีข้าวต้มปลาของโปรดของแม่ด้วย รินทร์ทำสุดฝีมือเลยนะคะ” มาลารินทร์ที่กำลังจัดโต๊ะอาหารอยู่เอ่ยเรียกมารดาให้มาทานอาหารเย็นด้วยกัน เป็นจังหวะเดียวกันกับปริณที่กลับจากมหาวิทยาลัยพอดี“โอ้โห...ลมอะไรหอบพี่สาวผมกลับมาบ้านได้เนี่ย พี่รินทร์เข้าครัวเองแบบนี้ก็ลาภปากผมเลยสิ คอยดูเถอะจะกินให้พุงกางเชียว” ปริณเข้าสวมกอดพี่สาวแล้วเอ่ยเย้า“แหม..ปริณ แกพูดอย่างกับพี่ไม่ได้มาที่นี่เลยทั้งที่เพิ่งมาเมื่ออาทิตย์ก่อนนี้เอง” คนเป็นพี่ส่งค้อนวงใหญ่ให้น้องชาย พลางตักข้าวต้มปลาเสริฟให้แม่กับปริณ“พี่มาบ่อยก็จริง แต่ปกติไม่เคยเห็นมาคนเดียวเลยนี่นา วันนี้ทำไมพี่เซดริกไม่มาด้วยล่ะครับ” ปริณเอ่ยถามถึงว่าที่พี่เขย เพราะปกติไม่เคยเห็นรายนั้นห่างพี่สาวตัวเองเลย“เขาก็มีธุระของเขาบ้างสิ พี่อยู่เฉย ๆ ไม่ทำอะไรแบบนี้นานเข้าก็เบื่อ เลยคิดว่าจะกลับมาอยู่ที่บ้านเราแล้วหางานทำดีกว่ารอพึ่งพาอาศัยคนอื่น วันข้างหน้าอะไรจะเกิดขึ้นบ้างก็ไม่รู้ พี่ว่าเราควรพึ่งตัวเองให้ได้ตั้งแต่วันนี้จะดีกว่า” คำพูดของเธอดูเหมือนไม่มีอะไร แต่ทั้งแม่และน้องชายต่างก็จับสังเกตได้ว่ามันต้องมีอะไรบางอย่างแน่นอ
หลังจากวันนั้นเซดริกก็พามาลารินทร์ไปเยี่ยมแม่ที่โรงพยาบาลอีกหลายครั้ง จนกระทั่งล่าสุดคุณหมออนุญาตให้ท่านกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ ส่วนปริณตอนนี้มหาวิทยาลัยเปิดเทอมแล้ว และเขาก็สามารถไปเรียนได้โดยไม่ต้องห่วงนางวิมาลา เพราะเซดริกได้จ้างพยาบาลพิเศษมาดูแลให้เกือบสามเดือนแล้วที่มาลารินทร์ย้ายมาอยู่กับเซดริกที่เพนเฮาส์แห่งนี้ เวลาที่มีวันหนึ่ง ๆ หมดไปกับการดูแลเขาเสียเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะจัดเตรียมเสื้อผ้าและอาหารให้ทั้งเช้าและเย็น หลังจากเขาออกไปทำงานแล้วเธอก็จะทำงานบ้านเล็กๆ น้อยๆ ทั้งที่ไม่ค่อยมีให้ทำเพราะเซดริกจ้างแม่บ้านให้มาทำงานบ้านให้ทุกอาทิตย์ เขาบอกว่าไม่อยากให้คนตัวเล็กเหนื่อย จนบางทีเธอก็บ่นว่าเหงาเพราะไม่มีอะไรจะทำ เขาเลยชวนให้เธอตามไปทำงานกับเขาแก้เบื่อ แต่เธอไม่อยากไปเพราะกลัวจะเป็นภาระของเขาเวลาทำงานมากกว่า“ติ๊ง...ต่องงง”เสียงออดหน้าห้องดังขึ้น มาลารินทร์นิ่วหน้าสงสัยเพราะเวลานี้เซดริกน่าจะยังทำงานอยู่ แล้วถ้าเขากลับมาจริงก็ต้องมีคีย์การ์ดจึงไม่จำเป็นจะต้องกดออด จะว่าเป็นสายป่านก็ไม่น่าจะใช่เพราะเมื่อครู่เพิ่งคุยโทรศัพท์กันเมื่อครู่ เพื่อนยังบอกเลยว่ากำลังจะเตรียมตัวไปทำงานแล
เช้าวันนี้เซดริกพามาลารินทร์มาเยี่ยมนางวิมาลาที่โรงพยาบาลตามที่ได้รับปากไว้ ก่อนถึงโรงพยาบาลเธอขอแวะซื้อผลไม้ที่แม่ชอบไปฝากท่านก่อนซึ่งชายหนุ่มก็ตามใจไม่ได้ขัด เมื่อถึงโรงพยาบาลมาลารินทร์ถึงกับอ้าปากค้าง คิดไม่ถึงว่าโรงพยาบาลจะหรูหราอย่างกับโรงแรมแบบนี้ ไม่แปลกใจเลยที่สายป่านบอกว่าค่ารักษาแพงหูฉี่มือหนาอบอุ่นจับมือเรียวเล็กให้ก้าวเดินไปตามเขาไปยังห้องพักฟื้นของนางวิมาลา เมื่อถึงหน้าประตูที่ติดชื่อของแม่ มาลารินทร์ก็เคาะประตูเป็นเชิงขออนุญาตก่อนจะเปิดเข้าไป เธอเห็นแม่นอนอยู่บนเตียงคนไข้โดยมีสายป่าน แอลตัน และปริณอยู่ในห้องด้วย สีหน้าของนางวิมาลาดูสดชื่นกว่าเดิมมาก คนตัวเล็กรีบเข้าไปกอดแม่ด้วยความคิดถึง นางกอดตอบบุตรสาวพร้อมกับลูบศีรษะเล็กอย่างเอ็นดู“แม่เป็นอย่างไรบ้างคะ อาการดีขึ้นไหม ทานอะไรได้ปกติหรือเปล่าคะ รินทร์ขอโทษนะที่ไม่ได้อยู่ดูแลตอนที่แม่ผ่าตัด” หล่อนถามมารดาด้วยความเป็นห่วง น้ำตาคลอหน่วยตา นางวิมาลายิ้มบาง ๆ แล้วเช็ดน้ำตาให้ลูกสาว“ไม่เป็นไรหรอกลูก เห็นสายป่านบอกว่าหนูกับแฟนไปงานด่วนที่ต่างประเทศกลับมาไม่ทัน แฟนหนูเลยให้คุณแอลตันกับสายป่านมาช่วยดูแลแม่แทนให้ ขอบใจแฟนหนูด้ว
หลังจากคนตัวโตปราบพยศเด็กดื้อเรียบร้อยแล้ว เขาก็ลุกไปทำอาหารเย็นเตรียมไว้ให้หญิงสาว ด้วยกลัวว่าหล่อนจะหิวเมื่อตื่นขึ้นมา ในขณะที่ร่างแกร่งกำลังสาละวนกับการทำอาหารอยู่นั้น เขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าหนัก ๆ ของใครบางคนเดินเข้ามาในครัว ซึ่งเขาจำเสียงฝีเท้านั้นได้ดี “ของที่กูสั่งได้ครบมั้ย ” แอลตันพยักหน้าพร้อมกับส่งถุงอาหารสดและอาหารแห้งให้เซดริก เขารับถุงอาหารมาจัดเก็บของสดใส่ตู้เย็นและเก็บของแห้งไว้ในตู้วางของแห้ง“แล้วเสื้อผ้าเมียกู่ล่ะ มึงไม่ได้ซื้อมาหรือไง?” เขาเอ่ยถามเมื่อไม่เห็นถุงเสื้อผ้าตามที่สั่ง“มึงสั่งกูให้ซื้อเสื้อผ้ากับชุดชั้นในของผู้หญิง แต่เสือกไม่บอกไซส์มาแล้วกูจะไปซื้อถูกได้งัยวะ ” แอลตันพูดพลางส่ายหน้าอย่างเหนื่อยอ่อน“เฮอะ..กูเพิ่งรู้ว่าเรื่องแค่นี้เพลย์บอยอันดับหนึ่งอย่างมึงก็ไม่มีปัญญาแก้ปัญหา” เซดริกพูดเน้นเสียงหนักแสดงอาการหงุดหงิด ในขณะที่แอลตันยักคิ้วให้อย่างยียวนก่อนจะตอบกลับเพื่อนสนิทออกไป“กูไม่ได้สิ้นคิดขนาดนั้นหรอกน่า คนอย่างกูสมองอัจฉริยะเรื่องแค่นี้ทำไมกูจะแก้ไม่ได้วะ” แอลตันพูดยิ้ม ๆ พร้อมกับหันหน้าไปทางประตูทางเข้า เซดริกได้ยินเสียงฝีเท้าเบา ๆ ของใครคนหนึ่ง
หลังจากบทรักเร่าร้อนผ่านไป มาลารินทร์ก็หลับไปนานโขรู้สึกตัวอีกทีเมื่อได้กลิ่นหอมของอาหารลอยมาเตะจมูกจนท้องร้องประท้วงด้วยความหิวทันที เพราะตั้งแต่เช้ายังไม่มีอาหารตกถึงท้อง เพราะเซดริกเอาแต่จับเธอกินจนเหนื่อยและหมดแรงหลับไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้หญิงสาวค่อย ๆ ลืมตาขึ้นรู้สึกปวดเมื่อยเนื้อตัวเป็นอย่างมาก ที่นอนข้างกายว่างเปล่าไร้เงาของเซดริก นาฬิกาบนผนัง บอกเวลา 15.30 น. เธอลุกจากเตียงนอนและเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ สระผม ทำความสะอาดร่างกายโดยใช้เวลาในห้องน้ำอยู่นานพอสมควรเมื่อทำธุระส่วนตัวเสร็จ ร่างบางก็ก้าวเดินออกมาจากห้องน้ำโดยมีผ้าขนหนูผืนเดียวห่อหุ้มร่างกาย บนศีรษะมีผ้าขนหนูผืนเล็กพันผมเอาไว้ มาลารินทร์นั่งลงบนเตียงแล้วเช็ดผมที่เปียก เธอต้องกลับบ้านเพื่อนำเงินที่ได้ไปจัดการเรื่องการผ่าตัดของแม่ นี่ก็ผ่านไปวันสองวันแล้วที่ไม่ได้ติดต่อทางบ้าน ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรกันบ้างเมื่อเช็ดผมเสร็จก็เดินสำรวจไปทั่วห้องนอน พบชุดกองอยู่บนพื้น เมื่อหยิบขึ้นมาดูก็ต้องถอนใจเพราะสภาพชุดขาดวิ่นไม่มีชิ้นดี ชุดชั้นในก็ไม่มีเพราะใช้แต่สติ๊กเกอร์ปิดจุก ส่วนแพนตี้ตัวน้อยก็ถูกเขากระชากจนขาด แล้วจะออกไปจากที่นี่ไ
คนตัวเล็กหอบหายใจถี่รัว หลังจากเสร็จสมจากการถูกปรนเปรอด้วยปากและลิ้นร้ายกาจของชายหนุ่ม เซดริกไม่ปล่อยให้เธอหยุดพักนาน เขาใช้ฝ่ามือหนาจับอาวุธคู่กายขนาดใหญ่ไซด์ยุโรปชักรูดขึ้นลงเบาๆ เพื่อเตรียมความพร้อม เมื่อมาลารินทร์เห็นแท่งรักขนาดใหญ่ตรงหน้า เธอถึงกับกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เพราะยังเข็ดกลัวจากการร่วมรักรุนแรงครั้งก่อนหน้า ร่างเล็กจึงกระถดถอยหนีโดยอัตโนมัติ ดูเหมือนเจ้าของดวงตาสีฟ้าหม่นดูจะเข้าใจในท่าทีตื่นกลัวของหญิงสาว เขาจึงขยับเข้าตระกองกอดร่างเปลือยแล้วจูบปลอบประโลมเบา ๆ ที่ขมับชื้นเหงื่อเพื่อให้อีกฝ่ายคลายความกังวลลง“ไม่ต้องกลัวนะครับเมีย ผัวสัญญาว่าจะไม่ทำรุนแรง ถ้าเจ็บหรือไม่ไหวก็บอกผมนะ ”เขาปลอบประโลมเสียงแหบพร่าด้วยอารมณ์ปรารถนาแล้วดันร่างเล็กให้นอนลงบนเตียง เซดริกนั่งคุกเข่ากลางหว่างขาขาวแล้วยกขาเรียวขึ้นวางพาดบนบ่า ดึงสะโพกของเธอเข้ามาใกล้ จับปลายหัวหยักถูไถไปที่ปากทางรักคับแคบแล้วค่อย ๆ ดันเข้าไปในร่องสวาทนุ่มนิ่ม ในขณะที่ท่อนเอ็นถูกบีบรัดด้วยช่องทางคับแคบจนชายหนุ่มรู้สึกคับแน่นไปหมด“อุ้ย...ซี๊ดดด เบาๆ ค่ะคุณเซดริก รินทร์อึดอัดจังค่ะ”มาลารินทร์ร้องห้ามเสียงแผ่วเบา
มาลารินทร์รู้สึกตัวตื่นขึ้นเมื่อแสงแดดยามสายที่ลอดผ่านม่านหน้าต่างห้องนอนสุดหรูตกกระทบไปที่ดวงตา วินาทีแรกที่เธอรู้สึกเมื่อขยับตัวคืออาการเจ็บแปลบบริเวณใจกลางความเป็นสาวและรู้สึกปวดศรีษะเล็กน้อย แต่ยังไม่สามารถลืมตาได้เพราะรู้สึกแสบตากับแสงแดดจ้าที่ส่องมากระทบเธอยกมือดันที่นอนเพื่อจะพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นแต่กลับสัมผัสไปเจอสิ่งหนึ่งที่ไม่เคยคุ้น มันนุ่มนิ่มและให้ความรู้สึกอุ่นในอุ้งมือเธอจึงค่อยๆ ลูบไล้สิ่งนั้นเบา ๆ ปรากฏว่าเจ้าสิ่งนั้นกลับขยายตัวคับพองเต็มมือแล้วกระตุกราวกับสิ่งมีชีวิต มาลารินทร์ตกใจสุดขีดจนรีบลืมตาขึ้นมามอง และเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ในมือได้ถนัดตาเธอถึงกับหน้าแดงก่ำ“ว๊าย...อุ๊บ!!”เธอร้องด้วยความตกใจแล้วรีบเอามือปิดปากตัวเอง เพราะสิ่งที่จับอยู่เต็มมือคือความเป็นชายของเซดริกที่ขยายใหญ่จนเต็มความยาว มาลารินทร์ชักมือกลับแล้วมองไปรอบ ๆ ห้องที่ไม่เคยคุ้น ถ้าที่นี่ไม่ใช่โรงแรมเมื่อคืนแล้วตอนนี้เธออยู่ที่ไหนและมาที่นี่ได้ยังไงมาลารินทร์ค่อย ๆ ขยับตัวถอยห่างจากเซดริกที่กำลังนอนหลับอยู่ ในใจภาวนาขออย่าให้เขารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาตอนนี้เพราะต้องออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดก่อนที่เขา
เซดริกถอดเครื่องป้องกันออกจากลำรักแข็งแกร่งแล้วนำไปทิ้งถังขยะในห้องน้ำ เขาใช้เวลาในการอาบน้ำชำระร่างกายและคราบเลือดที่ติดอยู่ที่หว่างขาของตัวเองอยู่นานหลายนาที ก่อนจะกลับออกมาอีกครั้งในสภาพเปลือยท่อนบนโชว์ซิกแพคลอนสวย ส่วนท่อนล่างมีผ้าขนหนูพันกายเอาไว้อย่างหมิ่นเหม่เขาเดินมาหยุดที่ข้างเตียง มองร่างบอบบางที่นอนหลับตาพริ้มและหายใจสม่ำเสมอแล้วยกยิ้มที่มุมปากอย่างเอ็นดู คนเก่งของเขาหลับไปแล้ว อาจจะเป็นเพราะเหนื่อยจากการร่วมรักครั้งแรกประกอบกับฤทธิ์แอลกอฮอลล์ที่ดื่มเข้าไปจึงทำให้เธอหลับลึกเช่นนี้ร่างแกร่งนั่งลงที่ขอบเตียง หยิบผ้าเช็ดตัวผืนเล็กที่เปียกหมาด เช็ดหน้าตาและเนื้อตัวให้อย่างเบามือ ไม่เว้นแม้กระทั่งจุดกลางกายสาวที่เพิ่งรับความเป็นชายของเขาเมื่อครู่ มือหนาจับเรียวขาของเธอแยกออกจากกันแล้วยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้ ๆ จนเห็นกลีบกุหลาบแดงช้ำและบวมเป่งเพราะเพิ่งผ่านการร่วมรักกับเขามาหมาด ๆจริงอยู่ที่เพิ่งผ่านการร่วมรักมาแค่รอบเดียว แต่ด้วยขนาดใหญ่ไซด์ยุโรปของเซดริก จึงไม่แปลกที่ความเป็นสาวของมาลารินทร์จะบวมช้ำได้ขนาดนี้ ปกติเขาไม่เคยร่วมรักแค่รอบเดียวแต่เพราะความรู้สึกผิดที่ทำกับเธอด้วยความ
หลังจากได้ยินสิ่งที่เซดริกพูดออกมา มาลารินทร์ก็ไม่สนใจเขาอีก เธอไม่ได้ขัดขืนแต่ก็ไม่มีอารมณ์ร่วมไปกับเขาเหมือนกับครั้งแรก เพราะตอนอยู่ในห้องอาหารเซดริกสัมผัสเธออย่างอ่อนโยนทะนุถนอม ต่างจากตอนนี้ที่เขาทำกับเธออย่างรุนแรงปนเอาแต่ใจเซดริกประกบริมฝีปากจูบเธออีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาจูบเธอเร่าร้อนรุนแรงและเร่งเร้าให้เธอจูบตอบ แต่หญิงสาวปล่อยให้เขาทำอยู่ฝ่ายเดียวโดยไร้การตอบสนองจนเขารับรู้ได้ว่าเธอกำลังประชดอยู่ ชายหนุ่มถอนจูบออก ดวงตาสีฟ้าหม่นจ้องมองเข้าไปในดวงตากลมโตของเธอจนพบกับว่างเปล่าไร้ซึ่งความรู้สึกใด ๆ“จะเล่นแง่อะไรกับผมอีก” เขาถามเสียดุ แต่อีกฝ่ายเลือกหลับตาลงโดยไม่ยอมตอบคำถาม“ต้องการแบบนี้ใช่ไหม?”เซดริกยันกายลุกขึ้นแล้วกระชากแพนตี้ตัวบางของเธอจนขาดติดมือ มาลารินทร์สะดุ้งตกใจจนเผลอลืมตาขึ้นมอง เซดริกถอดกางเกงชั้นออกจากร่างเผยให้เห็นความเป็นชายขนาดใหญ่ไซส์ยุโรปมาลารินทร์เบิกตากว้างด้วยความตกใจ เพราะครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นอวัยวะเพศของผู้ชาย และความใหญ่โตมโหฬารของอาวุธประจำกายนั่น ทำให้หวาดกลัวและเกรงว่าจะรับความเป็นชายของเขาไม่ไหวมาลารินทร์ลุกขึ้นนั่งชันเขาแล้วกระถดตัวถอยห