ฟางเดินเข้าไปในห้องน้ำ เมื่อจะปิดแต่คนตัวโตตรงหน้าประตูกลับไม่ยอม
“ห้ามล็อก ถ้ามีอะไรขึ้นมาจะได้วิ่งมาช่วยทัน ห้ามดื้อด้วยนะ ถ้าไม่เชื่อฟังวันนี้ก็อย่าหวังว่าจะได้กลับบ้าน”
“ค่ะ”
ฟางไม่กล้าพูดต่อล้อต่อเถียงกับเขาซึ่งเวย์รู้สึกแปลกใจเอามาก ๆ เพราะเธอเมื่อคืนนี้กับตอนนี้ต่างกันราวกับคนละคน แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เมื่อเดินมาที่มือถือของเธอก็รีบเปิดเครื่อง เขาเห็นว่ามีข้อความหลายข้อความที่เด้งมาที่มือถือของเธอและมีหลายสายที่ไม่ได้รับ
“ไอ้คนกระจอกไหนบอกว่าอยากเลิกไงล่ะ มาตอนนี้มันช้าไปแล้วฝันไปเถอะว่าจะได้คืน”
เวย์ลบข้อความที่อ่านแล้วทั้งหมดทิ้งก่อนจะทำบางอย่างกับมือถือของฟางและวางเอาไว้ที่เดิม ไม่นานอาหารเช้าที่เขาสั่งเอาไว้ก็มาส่ง เมื่อฟางออกมาก็ได้กลิ่นอาหารจึงเริ่มหิวทันที
“อาบน้ำเสร็จแล้วเหรอ มากินข้าวก่อนสิ”
“พี่เวย์ไม่อาบน้ำเหรอคะ”
“พี่อาบตั้งแต่เช้าแล้วแต่ไม่ชอบใส่เสื้อผ้าน่ะ ปกติอยู่ห้องคนเดียวก็จะชอบสวมแค่นี้ไม่ถือใช่ไหม”
เธอส่ายหน้าแทนคำตอบเมื่อค่อย ๆ นั่งลงที่เก้าอี้ข้าง ๆ เขาและมองอาหารของโรงแรมที่มีมากจนเลือกไม่ถูก
“พี่เวย์หิวเหรอคะ ทำไมสั่งอาหารมาเยอะขนาดนี้ละคะ”
“อืม ก็คงเพราะเมื่อคืนใช้พลังกับฟางไปเยอะละมั้งก็เลยกินเยอะ”
เขาหันไปมองหน้าที่แดงจัดจนถึงกกหูก็ต้องตกใจ นี่ไม่ใช่ว่าฟางจะเก่งแค่ตอนที่เธอเมาหรอกนะ เพราะตอนนี้ท่าทีที่นิ่งและอายแบบนี้เขาแทบไม่คุ้นเคยเลย
“พี่ล้อเล่นน่ะ ไม่รู้ว่าฟางชอบกินอะไรก็เลยสั่งมาเยอะหน่อยจะได้เลือกน่ะ กินอะไรดี ข้าวต้มหรือว่าไข่กวน ขนมปัง”
“ขอแค่ข้าวต้มก็พอค่ะ ขอบคุณค่ะ”
เวย์ยกชามข้าวต้มให้เธอตรงหน้า เขาขึ้นชื่อเรื่องการดูแลผู้หญิงอยู่แล้วเพราะด้วยอาชีพของเขา แม้ว่าจะไม่ได้เจอคนมากแต่ด้วยความคุ้นเคยกับพวกลูกเรือและแอร์โฮสเตรสก็รู้วิธีการดูแลคนอื่น ๆ อย่างดี
“ค่อย ๆ กินนะมันยังร้อนอยู่”
ฟางเริ่มหันไปมองหาของ กระเป๋าและมือถือของเธอ เวย์รู้ว่าเธอจะมองหาอะไรเพราะเธอเริ่มคิดได้เมื่อเห็นว่าเขาหยิบมือถือของตัวเอง
“เดี๋ยวพี่ไปหยิบมาให้ วางอยู่ที่เคาน์เตอร์น่ะ”
“ขอบคุณค่ะ”
เขาเดินเอามือถือมาให้เธอ เมื่อฟางกินข้าวต้มไปสองสามคำและเปิดดูมือถือที่ว่างเปล่าก็ค่อย ๆ วางลงข้าง ๆ
“ทำไมทำหน้าตาผิดหวังแบบนั้นล่ะ หรือว่าคิดว่าจะมีใครติดต่อมางั้นเหรอ”
“เปล่านี่คะ แค่คิดว่าโรงพิมพ์จะติดต่อมาเร็วกว่านี้เสียอีก นี่ก็เลยเวลาส่งงานมาวันหนึ่งแล้วปกติก็จะส่งตัวอย่างมาก่อน”
ฟางหันไปกินข้าวต้มเงียบ ๆ แต่เวย์ที่ทำเป็นมองที่มือถือตัวเองและแวบไปมองสีหน้าของเธอก็รู้ว่าฟางกำลังรอการติดต่อจากผู้ชายที่พึ่งทิ้งเธอเมื่อวานนี้ ทั้ง ๆ ที่เมื่อคืนเขากับเธอพึ่งผ่านคืนที่เร่าร้อนขนาดนั้นมายังทำให้เธอลืมไอ้บ้านั่นไม่ได้หรือยังไงกันนะ แค่คิดก็เริ่มหงุดหงิดจนเผลอวางมือถือแรงไปหน่อยจนเธอตกใจ
“พี่เวย์เป็นอะไรไปเหรอคะ”
"เปล่า รีบกินเถอะ"
“อิ่มแล้วค่ะ”
“อะไรนะ อิ่มแล้วเหรอ”
“ค่ะ อิ่มแล้วถ้าอย่างนั้น…”
“อะไรเหรอ”
“เมื่อวานนี้ขอบคุณมากเลยนะคะที่อยู่ฉลองเป็นเพื่อนฟาง ถ้ายังไงวันนี้ฟางคงต้องขอตัวก่อน”
“เดี๋ยว! จะไปง่าย ๆ แบบนี้น่ะเหรอ”
“เอ่อ…ก็”
“นั่งลงก่อนคุยกันก่อนสิพี่ไม่ได้บอกเหรอว่าจะต้องคุยกันก่อนน่ะ”
“แต่ที่นี่ไม่ใช่ว่าต้องเช็คเอ้าท์…”
“พี่อยู่ที่นี่ประจำ ปกติก็นอนมากกว่าสองคืนอยู่แล้ว”
“ออ จริงด้วยสิคะลืมไปเลยว่าที่นี่ใกล้สนามบิน”
“นั่งลงก่อนพี่ยังไม่ได้คุยกับฟางเลย”
ฟางนั่งลงแต่โดยดี เธอเองก็อยากรู้ว่าเขาจะคุยอะไรกับเธอเมื่อเขาค่อย ๆ ยกน้ำแร่ขึ้นมาดื่มและวางเอาไว้ก็หันมาคุยกับเธออีกครั้งด้วยหน้าตาที่จริงจัง
“เมื่อคืนนี้เราสองคน…”
“เอ่อ ฟางไม่ได้อยากให้พี่เวย์รับผิดชอบหรอกนะคะเรื่องนั้นฟางเป็นคนเริ่มก่อนอีกอย่าง… พี่เวย์ก็ไม่ได้คิดอะไรกับฟางด้วย”
“นี่ฟางคิดจะกินพี่แล้วทิ้งแบบนี้เลยเหรอ”
“ไม่ใช่นะคะ! ฟางจะกล้าทำแบบนั้นได้ยังไง”
“ก็กำลังพูดอยู่นี่ไม่ใช่เหรอว่าจะทิ้งพี่น่ะ"
“แต่ว่าเมื่อคืนนี้ คือว่าพี่เวย์คะเราสองคน…”
"ทำไมล่ะ พี่ไม่มีแฟน ฟางเองก็…หรือว่าอย่าบอกพี่นะว่ายังรอไอ้คนเฮงซวยนั่นมาง้ออยู่น่ะ"
“มะ ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย!”
“แล้วอะไร! ก็พูดออกมาสิว่าทำไมถึงจะคบกันไม่ได้”
“ฟางเคยเป็นเพื่อนกับหยีแล้วพี่ก็เคยเป็นแฟนหยีเรื่องนี้…”
“แต่พี่กับเพื่อนของฟางเลิกกันไปนานแล้วนะ เกือบสามปีแล้วยังจะเอามาพูดอีกทำไม”
“มันไม่แปลกไปหน่อยเหรอคะ ทำแบบนี้ถ้าใครรู้เข้า”
“แคร์ด้วยเหรอ พี่ไม่เห็นจะสนใจเลยชีวิตเป็นของเรานะฟางทำไมจะต้องสนใจคนอื่นมากขนาดนั้นด้วย มองพี่สิ!”
เขาตะคอกเธอเล็กน้อยเมื่อคนตรงหน้าเอาแต่ก้มหน้าเหมือนกับกำลังถูกต่อว่าอยู่ ซึ่งเขาสวมบทกัปตันจอมโหดทำเอาเธอเริ่มกลัวจนนั่งตัวลีบกับเก้าอี้ ยิ่งเห็นยิ่งหงุดหงิดเขาจึงจับเธอลุกมาและโยนไปที่เตียง
“เดี๋ยวก่อนค่ะพี่เวย์ อย่านะคะ”
“พูดไม่รู้เรื่องก็ต้องทำแบบนี้แหละ”
“ไม่เอาค่ะฟาง…ยังเจ็บอยู่”
“พี่จะทำเบา ๆ”
“ไม่เอา เดี๋ยวไม่มีแรงกลับบ้าน”
“ใครจะให้กลับล่ะ”
เมื่อเขากระโจนใส่เธออีกครั้งฟางก็ไม่มีแรงที่จะต่อต้าน ขนาดกินข้าวแล้วแต่ก็ไม่สามารถต้านทานเสน่ห์ของคนตรงหน้าได้ เวย์เริ่มดึงชุดของเธอออกอีกครั้งจนมันขาดแต่เขาก็ไม่สนใจ
“อ๊ะ ชุดของฟาง”
“ไม่ต้องสนหรอกน่าเดี๋ยวพาไปซื้อใหม่”
“จะออกไปยังไงละคะ!”
“พูดมากน่าสนใจพี่สิ สนใจแค่พี่ก็พอแล้วเลิกคิดถึงไอ้คนเฮงซวยนั่นได้แล้ว”
“ไม่ได้คิดสักหน่อย”
“แน่ใจเหรอ”
“ทำไมถามแบบนี้ละคะ”
“แสดงว่าคิด”
“พี่เวย์! อื้อ…อ๊าา”
เขาจูบจนเธอต้องยอมแพ้ ไม่นานฟางก็ตอบรับเขาและแน่นอนว่าเธอแทบจะไม่มีแรงลุกไปไหนอีกแล้ว แค่จูบก็แทบจะละลายอยู่แล้ว
“อ๊าา เดี๋ยวค่ะ พี่เวย์ไม่ป้องกันเหรอคะ!”
“หมดแล้วน่ะ ไม่เป็นไรเดี๋ยวพี่พาไปฉีดยาคุมแทน”
“แต่ว่า อ๊าา!!!”
เวย์เองก็ไม่เคยคิดว่าเขาจะติดใจคนตรงหน้าได้ถึงกับไม่ป้องกันตัวเองขนาดนี้ เดิมทีเขาเป็นคนระวังตัวมาก แม้ว่าจะผ่านเรื่องแบบนี้มาหลายครั้งแต่เขาก็ป้องกันทุกครั้งและตรวจสุขภาพประจำปีทุกปีตามโปรแกรมของบริษัท
“อาา…ฟาง แน่นมาก เสียว อาา…”
“อื้อ พี่เวย์ มันยัง เจ็บอยู่อ๊าา…เบา ๆ หน่อยค่ะ”
“ได้ พี่จะทำเบา ๆ หันหลังหน่อยสิ”
เธอทำตามที่เขาบอกและหลังจากนั้นก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นคำเดียวที่ขอร้องเขาได้ เพราะกว่าจะได้ลุกจากเตียงอีกครั้งก็เกือบบ่ายโมงเมื่อเขาเดินมาบอกเธอว่า…
“พี่สั่งข้าวเที่ยงมาให้แล้วนะ เดี๋ยวบ่าย ๆ ออกไปซื้อของกัน”
ฟางส่ายหัวและหันไปอีกทาง เธอเพลียเกินกว่าจะลุกไปไหนได้เวย์เองก็พอจะเข้าใจ เขาเผลอรังแกเธอมากเกินไปหน่อยทั้ง ๆ ที่ฟางพึ่งผ่านคืนแรกมา แต่เขากลับอดใจไม่ไหวและหักห้ามใจไม่ได้จนเธอหมดเรี่ยวแรง
ตอนนี้เวย์รู้สึกผิดอย่างรุนแรงเมื่อเห็นฟางนอนซุกตัวอยู่ในผ้าห่มและหลับสนิท เขาเดินไปหยิบมือถือมากดโทรออกไป ไม่นานปลายสายก็รับเขาจึงรีบพูดด้วยเสียงที่เบาลงเพื่อไม่ให้คนตัวเล็กที่นอนอยู่ตื่น
“พี่จินนี่ผมขอความช่วยเหลือหน่อย”
กว่าฟางจะรู้สึกตัวอีกทีก็เกือบจะตอนเย็นอีกครั้ง เมื่อเธอค่อย ๆ ลุกขึ้นมาและหันดูรอบ ๆ ห้องและไม่เห็นเวย์เธอจึงค่อย ๆ หยิบชุดคลุมมาสวม ร่างกายของเธอเต็มไปด้วยร่องรอยที่เขาทิ้งเอาไว้ แม้ว่าจะยังคุยกันไม่จบแต่เหมือนว่าวิชญะจะไม่ยอมปล่อยเธอไปง่าย ๆ สินะ“ตื่นแล้วเหรอ”เธอสะดุ้งเมื่อเห็นเวย์ในชุดลำลองเดินเข้ามาหาเธอ “คือว่า…”“รีบไปอาบน้ำเถอะพี่พึ่งไปรับชุดที่ร้านซักรีดมาส่งให้น่ะ”“พี่เวย์ส่งชุดของฟางไปซักเหรอคะ”“อืม พอดีว่ามีชุดนักบินของพี่ด้วยก็เลยส่งซักทีเดียว ลุกไหวหรือเปล่า”“ไหวค่ะ”แต่เวย์ก็เดินเข้ามาและพยุงเธอลุกจากเตียง เธอไม่กล้าหันไปมองหน้าเขาเพราะมัวแต่ใจสั่น คนอะไรแค่สวมชุดอยู่บ้านธรรมดาก็หล่อจนใจละลายแบบนี้“พี่เอาชุดไปแขวนให้เดี๋ยวออกมาจะได้ใส่ได้สะดวก”“ขอบคุณค่ะ”“รีบอาบน้ำเถอะ”เขาเดินมานั่งรอเธอที่โซฟาห้องนั่งเล่นซึ่งอยู่ติดกับโซนครัวและเครื่องดื่ม เมื่อหันมามองมือถือที่สั่นของฟางก็เห็นเบอร์ที่เธอบันทึกเอาไว้โทรเข้ามา“ที่รัก”“หึ ที่รักเหรอ แค่เห็นก็จะอ้วกแล้ว”เวย์เอื้อมไปหยิบมือถือและตัดสายทิ้งทันที แต่ไม่นานเบอร์เดิมก็โทรเข้ามาอีกครั้งจนเขารำคาญจนต้องตัดสายทิ้งไปเ
“ไม่เอาค่ะ พี่เวย์คะฟางไม่คิดว่าพี่เวย์จะพูดจริง ๆ เรื่องที่จะคบกัน”“ไหงงั้นล่ะ ทั้งกินข้าว พามาซื้อของและนอนด้วยกันทั้งวันทั้งคืน มีเซ็กส์แบบเสียบสด…อื้อ”ฟางหันมาปิดปากเขาทันที ไม่คิดเลยว่าคนที่สุขุมอย่างวิชญะจะพูดมากและพูดตรง ๆ ออกมาแบบนี้ได้ สมัยเรียนเขาก็เป็นแบบนี้หรอกเหรอไม่เห็นเหมือนที่เธอคิดเอาไว้เลยสักนิด “ปิดปากพี่ทำไมล่ะ ก็พูดเรื่องจริงทั้งนั้น”“ฟางขอคิดดูก่อนไม่ได้เหรอคะ”“ต้องคิดอะไรอีกหรือว่าฟางยังลืมอดีตกับแฟนเก่าห่วย ๆ อย่างไอ้คนเฮงซวยเมื่อวานไม่ได้”“ไม่ใช่นะคะ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเขาสักหน่อยฟางก็แค่...”ไม่คิดว่าแค่พูดถึง คนที่กำลังพูดถึงก็โทรเข้ามา เมื่อฟางเห็นเบอร์ที่หน้าจอก็แปลกใจแต่เวย์หยิบมือถือของเธอมา“พี่เวย์ ทำอะไรคะ”“รับปากไหม ถ้าไม่รับปากพี่จะเล่าให้เขาฟังว่าเมื่อคืนเราทำอะไรกันบ้าง”“พี่เวย์! ไม่เอานะคะ มันไม่ใช่แบบนั้นพี่อย่าทำแบบนี้”“หนึ่ง…”เขานับเพื่อจะกดรับสาย ฟางไม่คิดว่าเขาจะเจ้าเล่ห์ขนาดนี้มาก่อน“ก็ได้ค่ะ ฟางจะคบกับพี่เวย์ ห้ามรับสายเขานะคะ”“แน่นอน…ฮัลโหล”ฟางเบิกตากว้างเมื่อเวย์รับสายของภาคภูมิต่อหน้าเธอซึ่งครั้งนี้เอาเบอร์ของแม่ของเขาโทร
“อ๊ะ พี่เวย์ไม่ได้พูดแบบนี้ อื้อ…”เธอถูกเขาดึงมาจูบและหลังจากนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เวย์อุ้มเธอเดินเข้าไปในห้องนอนซึ่งเขาเดาว่าเธอน่าจะนอนห้องที่มีกระจก เมื่อเดินเข้าไปก็วางร่างบางลงที่เตียง“พี่เวย์คะ ที่นี่ไม่มี…”“ยังกลัวอยู่เหรอไม่ต้องใช้แล้วเดี๋ยวพาไปฉีดยาคุมเอาสะดวกกว่าเยอะแค่ห้ามไปมีคนอื่นก็พอ เพราะพี่จะตรวจทุกครั้งหลังจากลงไฟลต์บินมา ตกลงไหม”“อ๊าา พี่เวย์ เสียว…อื้อ”“อาา ฟางหอมมากเลยรู้ไหมว่าวันนี้พี่ทรมานมากเลย ต้องพาเดินทั้งวันทั้ง ๆ ที่อยากทำแบบนี้ คนอะไรน่ากินไปทั้งตัว”“พี่เวย์ อ๊า…”ลิ้นของเขาดูดดึงหน้าอกแม้ว่าจะเต็มไปด้วยรอยแต่กลิ่นของเธอต่างหากที่เย้ายวนเขาจนทนไม่ไหว เวย์ค่อย ๆ เลื่อนตัวลงไปข้างล่างเพื่อสำรวจกลีบหอมหวานที่ค่อย ๆ มีน้ำไหลออกมาแต่มือบางก็ยังเอื้อมมาจับเขาเอาไว้“อย่าห้ามเลยนะฟาง พี่เริ่มหิวอีกแล้ว”“อ๊าา!! พี่เวย์ มัน…อ๊าา”เธอไม่อาจบรรยายความรู้สึกได้ว่ามันเสียวมากขนาดไหน ลิ้นที่ดูดดึงปุ่มกระสันด้านบนร่องรักและนิ้วที่ค่อย ๆ สอดเข้าไปจนลึกและกระดิกอยู่ทำเอาฟางเริ่มเผยความต้องการอีกครั้ง“พี่เวย์เร็วอีกค่ะ ฟางจะ…อ๊าา พี่เวย์ กรี๊ด!!!”ร่างบางแอ่นตัวขึ้
“แต่ว่า อ๊ะ พี่เวย์อย่านะคะ…”เวย์ค่อย ๆ ดึงเธอลงมาและเอื้อมไปจับมังกรยักษ์ค่อย ๆ สอดใส่เธอเข้าไป คนตัวเล็กเริ่มครางและแอ่นตัวขึ้นเมื่อถูกเขาสอดใส่จนสุดอีกครั้งและค่อย ๆ จัดท่าให้“ทีนี้ก็ขยับเอว เร็ว ๆ สิครับ”“อ๊ะ อ๊ะ…อ๊าา พี่เวย์ อื้อ เสียวมากเลยมันลึกเกินไป อ๊าา”แต่ฟางก็ขย่มเขาไม่หยุด เมื่อเธอหันมามองเวย์ที่นอนครางอยู่จึงเข้าใจ ไม่ใช่แค่เธอที่เสียวจนทนไม่ไหว คอที่ขึ้นเอ็นของเขาตรงหน้าบ่งบอกว่าเวย์เองก็เสียวจนแทบจะทนไม่ไหวแล้วเช่นกันเธอค่อย ๆ ขยับเอวและบดขยี้จนเขาเริ่มร้องและเริ่มหันไปกำผ้าห่มเอาไว้ ฟางเริ่มรู้สึกเหมือนกับชนะเขาอีกครั้งเธอจึงเริ่มรุกแรงขึ้นจนเวย์ทนไม่ไหว“พอก่อน! พอแล้วจากนี้พี่เองดีกว่า พี่เสียวมากเลย”“ไม่ค่ะ อยู่เฉย ๆ นะคะ”“อาาา ฟาง…พี่เสียว ฟาง!!”ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะถูกสาวตัวเล็กอย่างฟางรีดน้ำออกไปเกือบห้าน้ำในคืนเดียวแล้วยังเป็นในห้องของเธออีกด้วย เขาไม่เคยไปค้างห้องผู้หญิงคนอื่น แม้แต่แฟนที่เคยคบกันก็ไม่เคยไปนอนค้างแต่กับฟาง เขากลับอยากรู้จักเธอมากขึ้นและตั้งใจที่จะซื้อของ เสื้อผ้าเพื่อจะมาที่คอนโดของเธอด้วยความตั้งใจ“ฟาง…. อาา!!!”“อ๊ะ ไม่ไหวแล้ว เสียวมา
เมื่อฟางอาบน้ำเสร็จแล้วก็เห็นว่าวิชญะเองก็อาบน้ำเสร็จแล้วเช่นกัน เขาคงจะเข้าไปอาบในห้องนอนแขกมาซึ่งนั่นทำให้เธอยิ่งแปลกใจมากกว่าเดิม“ฟางอาบน้ำช้าเกินไปเหรอคะพี่เวย์ถึงได้รีบ”“เปล่าหรอกพี่ไม่อยากให้ฟางรอน่ะ เสร็จแล้วเหรอ”“ค่ะ เสร็จแล้ว”“งั้นก็ไปกันเถอะ”“ทำไมพี่เวย์ดูรีบจังเลยละคะ”“ก็… อีกไม่นานก็จะเที่ยงแล้วใช่ไหมล่ะอีกอย่างพี่ยังไม่ได้กลับไปที่ห้องเลยก็คงต้องรีบสักหน่อยเพราะแวะหลายที่แล้วน่ะ ฟางอยากกินอะไร”“พึ่งจะกินข้าวเช้าไปเองนะคะตอนนี้ฟางไม่หิวหรอกค่ะ”“งั้นก็ดี รีบไปดีกว่า”เขาแทบจะลากเธอออกมาจากห้องเมื่อเธอล็อกห้องเขาก็รีบหันมาถามเธอทันที“เออจริงสิฟาง ห้องของฟางนอกจากพี่แล้วคนอื่นรู้รหัสเข้าหรือเปล่า”“อืม จริงด้วยค่ะถ้าพี่เวย์ไม่พูดฟางก็ลืมไปเลย”“พี่ว่าเปลี่ยนรหัสเถอะจะได้ปลอดภัย”“ได้ค่ะ แต่ว่าคิดตอนนี้ไม่ออก”“หนึ่งสองศูนย์เก้า”“คะ? นั่นมัน…”“เลขวันเกิดพี่เองรีบเปลี่ยนเถอะ”“เออ ก็ได้ค่ะ”เธอจำได้แน่นอนอยู่แล้วเพราะเป็นวันที่เธอจำได้แม่นยำเมื่อหลายปีก่อนซึ่งเธอช้าไปเพียงเสี้ยวนาทีที่จะใช้ความพยายามที่จะเปิดเผยความรู้สึกของเขาในวันเกิดแต่เขากับเพื่อนสนิทของเธอกลับต
“พี่เวย์…ฟางขอโทษฟางก็แค่...”“ไม่ให้แก้ตัว ไปกันเถอะ”เธอเดินตามเขาเข้าไปในลิฟต์ที่เปิดรออยู่ เพียงแค่ประตูลิฟต์ปิดเขาก็เริ่มลงโทษเธอทันทีจนฟางเริ่มตีที่ไหล่ของเขาเบา ๆ เพราะกลัวว่าจะมีคนอื่นเข้ามา“พี่เวย์คะ เบาก่อนค่ะ”“แสดงว่าถ้าถึงห้องแล้วเต็มที่ได้ใช่ไหม”“ก็ไม่ใช่แบบนั้นทำไมพี่เวย์ถึงได้โกรธแบบนี้ละคะฟางก็แค่…”“พี่ไม่อนุญาตให้ฟางคิดถึงใครทั้งนั้นเวลาอยู่กับพี่ คนที่ฟางจูบอยู่ นอนอยู่ด้วยกันและคบกับฟางคือพี่ จากนี้ก็ต้องจำให้ดีอีกอย่างพี่ก็ไม่ชอบถ้าหากรู้ว่าเขายังมาตามตอแยฟางแบบนี้ อีกไม่กี่วันพี่ต้องบินแล้วและอีกสิบกว่าวันกว่าจะกลับเมืองไทย”“ค่ะ ฟางจะไม่ให้เกิดขึ้น”“พี่คงไว้ใจไม่ได้ เอาไว้เข้าห้องแล้วค่อยคุยกันเถอะ”เมื่อเธอเดินตามเข้าออกมาจากลิฟต์ก็รู้ว่าคอนโดของวิชญะหรูหรามากกว่าเธอสามเท่า อีกอย่างทั้งชั้นมีห้องน่าจะไม่เกินสิบห้องเท่านั้น คอนโดแต่ละห้องไม่ต่างกับบ้านเดี่ยวราคาหลายสิบล้านเพียงและอยู่ใจกลางเมืองแค่ไม่ได้อยู่ติดพื้นเท่านั้น“ว้าว… สวยจังเลย”“ดีใจที่ชอบนะ พอจะอยู่ได้ไหม”“คะ? อยู่เหรอคะพี่เวย์หมายความว่ายังไงคะ”“ช่วงที่พี่บิน พี่ไม่อยากให้ฟางกลับไปพักที่คอนโ
เธอเกือบจะเสร็จอยู่แล้วแต่เขากลับเอาแต่พูด เมื่อเธอเอ่ยขึ้นมาเขาจึงใช้หน้าผากหันไปชนเธอเล็กน้อย“คนลามก เมื่อกี้บอกว่าไม่อยากแท้ ๆ”“ก็… ตอนนี้มันจะเสร็จ เร็ว ๆ เข้าสิคะ”“ก็ได้ งั้นมาจัดการเองเลยแม่สาวเอวไว”“อ๊าา พี่เวย์อย่านะ อ๊าา อย่าบีบแรงมันเจ็บ อื้อ…ใช้ลิ้นได้โปรด ขอลิ้น อ๊าา”เขาทำตามคำสั่งเมื่อเปลี่ยนจากนิ้วที่บีบหน้าอกไปเป็นลิ้นที่ดูดประโลมเพื่อให้เธอยอมขยับเอวแทนในช่วงสุดท้ายก่อนที่ทั้งคู่จะขึ้นสวรรค์ทั้ง ๆ ที่ตาสว่างในเวลาเกือบเที่ยง“ไม่หิวแล้วเหรอ”“หิวสิคะ แต่ลุกไม่ไหวนี่นา”“งั้นก็สั่งมากิน”“ไม่เอา พี่เวย์ใจร้ายเกินไปแล้วไหนบอกว่าจะพาไปฉีดยาคุมไงละคะนี่ปล่อยไปกี่รอบแล้วไม่กลัวว่าจะผิดพลาดเหรอคะ”“งั้นบอกพี่มาหน่อยสิว่าฟางกินยาคุมแบบแผงทำไม”“นั่น! ทำไมพี่เวย์ค้นของของฟางละคะ”“บอกพี่มาก่อนสิว่ากินเพราะอะไรทั้ง ๆ ที่ไม่เคยนอนกับไอ้บ้านั่นนี่”“ก็… หมอแนะนำให้กินเพื่อปรับฮอร์โมนที่ผิดปกติน่ะค่ะ ที่จริงก็กินมาตั้งแต่ตอนปีสี่แล้ว ตอนนั้นเครียดจนปวดท้องคิดว่าเป็นโรคกระเพาะแต่หมอบอกว่าไม่ใช่ มันเกี่ยวกับประจำเดือนที่มาผิดปกติเพราะความเครียดเลยให้กินยาคุมแบบแผง จากนั้นฟางก็เ
เวย์เดินเข้าไปอาบน้ำและเดินออกมา ก่อนเขาเข้าไปก็จัดให้เธอนอนและห่มผ้าให้อย่างดีแล้ว มือถือของเธอเขาก็เก็บไปวางไว้กับของเขาซึ่งปิดเสียงไปเพื่อจะได้ไม่รบกวนเธอ เมื่ออาบน้ำเสร็จก็ค่อย ๆ ขยับตัวเข้าไปนอนกับเธอ“ตัวเล็กนิดเดียวแต่นิ่มไปทั้งตัวเลยแฮะ ให้ตายสิแค่มองก็…. อดทนเอาไว้ พอแล้ว ๆ ให้เธอพักบ้าง”เขาหันหลังให้เธอแต่ไม่นานคนตัวเล็กก็หันมากอดเอวเขาไว้ เธอหลับสนิทไปแล้วแต่เมื่อเขาถูกเธอกอดแบบนี้ อกนุ่ม ๆ ที่ดันหลังของเขาอยู่แบบนี้จะทำให้เขาหลับลงได้ยังไง“แม่ตัวดีทำไมไม่นอนนิ่ง ๆ นะ ทำแบบนี้มันปลุกอารมณ์กันชัด ๆ แต่กลับนอนหลับสนิทแบบนี้ขี้โกงเกินไปแล้ว”เขาหันไปหอมแก้มเธอถี่ ๆ จนฟางเริ่มเบี่ยงหนีเพราะรำคาญ ไม่นานเขาก็กอดเธอและบีบหน้าอกอวบเอาไว้ในมือเพราะมันทั้งนุ่มและอุ่นเหมือนซาลาเปาร้อน ๆ ไม่นานเขาก็หลับไปเช่นกันวันถัดมา“ใส่ชุดนี้ไปเถอะ ดูดีหน่อยและไม่โป๊เกินไป”“แต่นี่มันชุดแบรนด์เนมนะคะ ไม่เอาหรอกแค่ไปกินข้าวกับเพื่อน ๆ เอง”“ใส่ไปเถอะน่าหรือจะไม่ไป”“ก็ได้ค่ะ”เธอต้องยอมสวมชุดนี้ออกมาพร้อมกับกระเป๋าที่เข้าคู่กันซึ่งวิชญะซื้อมาให้เมื่อวันก่อน เขาเองก็แต่งตัวดูดีมากที่สุดในสายตาของ
สี่ปีต่อมา “ขอบคุณนะคะ”“ชอบเรื่องนี้มาก ๆ เลยค่ะ “กัปตันเย็นชากับนางฟ้าสายโหด” เขียนแนวนี้อีกนะคะ”“ขอบคุณที่ชื่นชอบนะคะ จะเก็บไปพิจารณาเลยค่ะ”“เชิญเลยค่ะ คนต่อไปค่ะ”ด้านนอก“รามิลเห็นคุณแม่ไหมครับ พ่อคิดว่าตอนนี้คุณแม่เริ่มเหนื่อยแล้ว”“งั้นมิลจะเอาน้ำไปให้คุณแม่นะครับ”“ดีมากลูก พ่อจะนั่งรออยู่นี่นะ อ่ะนี่ครับ”“รามิล” เด็กน้อยวัยสี่ขวบรับน้ำจากคุณพ่อของเขาและเดินตรงไปที่โต๊ะแจกลายเซ็นนักเขียนของฟางในงานเปิดตัวหนังสือเรื่องใหม่ ซึ่งเป็นภาคต่อจาก "Love Flight" ที่เธอเขียนเอาไว้เมื่อสี่ปีก่อนซึ่งนับว่าได้ผลตอบรับที่ดีเกินคาดเพราะนักอ่านต่างเฝ้ารอภาคต่อของเรื่องนี้มานานหลายปี สาเหตุเพราะนักเขียนคนโปรดของพวกเธอแต่งงานและต้องเลี้ยงลูก ทำให้เรื่องนี้ต้องรอเวลามากว่าสี่ปีถึงจะได้อ่านอีกครั้ง“คุณแม่ครับ มิลเอาน้ำมาให้ครับ”“กรี๊ด!!! นี่น้องรามิลใช่ไหมคะคุณซีซี”“ใช่ค่ะ ขอบคุณนะครับลูก มานั่งตรงนี้กับแม่มา”ฟางหันมารับน้ำและยกตัวเด็กน้อยวัยเกือบสี่ขวบขึ้นมานั่งที่ตัก บางส่วนเริ่มขอถ่ายรูปเด็กน้อยคู่กับแม่ หลายคนนึกเสียดายที่พ้นคิวของตัวเองมาแล้วก็เลยอดถ่ายกับหนูน้อยรามิลถึงกับนั่งบ่น เ
หลังจากงานแถลงข่าว / คอนโด “พี่เวย์วางแผนมานานสินะคะ”“พี่เปล่านะ”“ถ้าอย่างนั้นคุณพ่อคุณแม่ของพี่เวย์จะมาได้ยังไงคะ ไหนจะพาคุณพ่อคุณแม่ของฟางที่จะไปเที่ยวภูเก็ตมาด้วยอีก”“นั่นพี่ก็แค่บอกว่าวันนี้เป็นวันสำคัญของฟางในฐานะนักเขียน และเป็นวันที่ต้องจารึกเอาไว้ในประวัติศาสตร์ครอบครัวว่าพี่จะทำเรื่องแบบนี้แค่ครั้งเดียว พ่อแม่พี่จะยอมพลาดงั้นเหรอ”“พี่เวย์… แอบอ่านนิยายของฟางเหรอคะ”เวย์ยิ้มก่อนจะดึงตัวคู่หมั้นของเขามากอดเอาไว้“รู้ไหมว่าพี่คิดหาวิธีขอแต่งงานมานานแค่ไหน พี่ว่ามันยากกว่าการที่จะทำข้อสอบตอนสอบกัปตันเสียอีกให้ตายเถอะ ทั้ง ๆ ที่ฟางก็ไม่ใช่คนที่เรื่องมากอะไร แต่พี่กลับรู้สึกกดดันมากกว่าทุกครั้ง คงเพราะพี่อยากจะให้มันออกมาพิเศษและประทับใจที่สุด ที่สำคัญต้องทำให้ฟางปฏิเสธพี่ไม่ได้ด้วย”“พี่เวย์บ้าหรือเปล่าคะ ปกติเราสองคนก็พูดกันตรง ๆ อยู่แล้ว ไม่เห็นจะต้องเล่นใหญ่ขนาดนั้นเลย ฟางอายแทบตาย”“แต่ก็แอบยิ้มไม่ใช่เหรอ”“ไม่ใช่แค่ยิ้มค่ะ ดีใจและภูมิใจในตัวพี่เวย์มากเลยค่ะ วันนี้ทุกคนคงคิดว่าฟางเป็นนางเอกในนิยายที่ตัวเองเขียนแน่ ๆ เลย”“แต่นักอ่านดูจะอินมากเลยนะ”“จริงเหรอคะ”“งั้น…เราจ
หลังงานเปิดตัวหนังสือ “คุณอาร์ม แก้วจำได้ว่าคุณบอกกับคุณพิศาลว่าจะไปหน้างานที่ระยองไม่ใช่เหรอคะ ทำไมถึงมาโผล่ที่นี่ได้”“คุณแก้ว ไม่เอาน่าอย่าพึ่งมาทำหน้าที่เลขาจอมโหดอยู่แถวนี้ วันนี้มันเป็นวันสำคัญของเพื่อนสนิทผมเชียวนะ”“เหรอคะ แล้ว…”“ว่าแต่คุณเถอะ มาทำอะไรที่นี่กันล่ะ นี่นะเหรอที่บอกว่าขอลางานไปทำเรื่องสำคัญ”“ฉัน!…”“แก้ว” กวีณาเถียงไม่ออกเมื่อ “อาร์ม” พิศุจน์ยอกย้อนเธอกลับมา แก้วถลึงตาใส่เขาโดยมีอิงและนิดจับแขนเอาไว้คนละข้าง“ใจเย็น ๆ ก่อนนะแก้วมีอะไรกันเหรอ นี่แกรู้จักกับพี่อาร์มด้วยเหรอ”""รู้จักสิ ทำไมจะไม่รู้จักล่ะ""ทั้งคู่พูดขึ้นมาพร้อมกัน ตอนนี้เวย์และฟางเดินลงมาจากเวทีแล้วและแฟน ๆ หนังสือเริ่มจะต่อแถวเพื่อจะถ่ายรูปและขอลายเซ็นนักเขียนคนโปรดของพวกเธอ “น้องแก้ว น้องอิงน้องนิด ใจเย็น ๆ ก่อนนะครับ ไอ้อาร์มมึงอย่าบอกนะว่าเลขาหน้าโหดที่มึงเคยพูดถึงคือ…”“อะไรนะ เลขาอะไรนะนี่คุณกล้าพูดว่าฉันเป็น...”“ก็มันจริงนี่ วัน ๆ เอาแต่จับผิดคนอื่นแต่ตัวเองก็หนีงานมาเที่ยว”“ฉันไม่ได้มาเที่ยว ไอ้นิดแกปล่อยฉันจะต่อยปากมัน”“แกใจเย็น ๆ ก่อนแก้ว ยังไงพี่อาร์มก็เป็นรุ่นพี่ของเรานะ”“รุ่นพี
ห้องนอน“ฟาง หลับแล้วเหรอ”“พี่เวย์… มีอะไรเหรอคะ”“หายปวดท้องหรือยัง”ฟางหันมามองหน้าคนที่นอนข้าง ๆ เธอเครียดกับงานเปิดตัวหนังสือที่จะมีขึ้นในอีกไม่กี่วันนี้ อีกอย่างช่วงนี้เวย์ก็เริ่มทำท่าทางแปลก ๆ แม้ว่าเธอจะอยากถามแต่เขาก็มักจะตอบแบบเลี่ยง ๆ เสมอ“หายแล้วค่ะ พี่เวย์เป็นอะไรคะ พรุ่งนี้จะต้องบินแล้วไม่รีบนอนล่ะคะ”“พี่นอนไม่ค่อยหลับน่ะ อยากกอดฟาง”“อืม…ตื่นเต้นอะไรคะ หลังจากเรื่องนั้นก็บินมาสองรอบแล้วนี่คะ ยังกลัวอยู่อีกเหรอ”“เปล่าพี่ไม่ได้กลัว แค่ไม่อยากอยู่ห่างฟาง ช่วงนี้พี่เป็นอะไรก็ไม่รู้ไม่อยากห่างจากฟางไปไหนเลย แค่วันนั้นไปกินข้าวกับเพื่อน ๆ ก็เอาแต่คิดถึงฟาง”“หึ พี่เวย์เคยชินน่ะสิคะ เราอยู่ด้วยกันตลอดเวลาแบบนี้จนไม่มีเวลาไปเจอคนอื่น ฟางผิดเองที่ทำตัวติดกับพี่เวย์มากเกินไป บางครั้งควรจะปล่อยให้พี่เวย์ไปสังสรรค์กับเพื่อน ๆ บ้าง”“ไม่ใช่แบบนั้นพี่รู้สึกไม่อยากไปเองต่างหาก เมื่อวานก็รีบไปรีบกลับเพราะเป็นห่วงฟาง พี่กลายเป็นคนติดเมียไปแล้วจริง ๆ สินะแบบนี้”“อือ… นอนเถอะค่ะ”“ลูกแมวน้อยทำไมง่วงเร็วแบบนี้ล่ะ”“ขอโทษค่ะแต่ฟางมัวแต่ตรวจงานจนเพลีย…”สองวันมานี้ฟางทำแต่งาน ส่วนเวย์เอง
เวย์แค่มองตามฟางที่เดินเข้าห้องไปเงียบ ๆ อีกสองวันเขาจะบินอีกครั้ง คราวนี้ไม่ได้ไปไกลมากและใช้เวลาไม่นานแต่เมื่อเห็นแฟนสาวเป็นแบบนี้เขาจึงไม่ค่อยสบายใจนักวันถัดมาอาร์ม รุจและราเชนทร์มาพบกับเวย์ที่ร้านอาหาร เพื่อน ๆ ต่างก็แปลกใจไม่น้อยที่เขานัดมาที่นี่ ปกติแล้วไม่เจอกันตามร้านเหล้าก็จะเป็นในผับ แต่พอมาเจอเวย์อีกครั้งกับสีหน้าที่ตึงเครียดพวกเขาจึงอดถามไม่ได้“ทำไมมึงนัดพวกกูมาแต่หัววันแบบนี้วะ ปกติต้องนัดหลังสี่ทุ่มไม่ใช่เหรอไอ้เวย์”“นั่นสิไอ้อาร์มพูดถูก ว่าแต่มึงหายดีแล้วเหรอตั้งแต่เรื่องอุบัติเหตุครั้งก่อนพวกกูก็ไม่มีโอกาสได้เจอมึงเลย”“หายดีแล้วล่ะ ที่จริงก็ไม่ได้เป็นอะไรมากเพียงแต่มันเป็นข่าวขึ้นมาก็เพราะ…”“กูรู้ เพราะน้องยาหยีนั่นใช่ไหม กูกับไอ้เชนตามข่าวอยู่เหมือนกัน คิดไม่ถึงว่าโลกจะกลมขนาดนี้แล้วนี่น้องหวาน…ไม่ใช่ แฟนมึงไม่ว่าอะไรเหรอ”“ฟางมีเหตุผลมากพอที่จะไม่สนใจเรื่องแบบนี้ อีกอย่างนิสัยของอีกฝ่ายเป็นยังไงฟางรู้ดีที่สุดเลยไม่มีปัญหาเท่าไหร่”“ไม่มีปัญหาแต่ทำไมสีหน้ามึงเป็นแบบนี้ล่ะ นี่มันดูหนักกว่าอาการบาดเจ็บของมึงเสียอีกนะ ตอนมึงเลิกกับยาหยียังดูไม่กลุ้มมากขนาดนี้เลยนี่
วันถัดมา / สำนักพิมพ์“ขอบคุณมากนะคะพี่วุ้นที่คอยช่วยเหลือมาตลอดเลย ในที่สุดก็จบโปรเจคเรื่องนี้เสียที”“พี่สิต้องขอบคุณน้องฟาง ดีใจมาก ๆ ที่ฟางยอมเขียนเรื่องนี้ให้จบ นักอ่านต่างก็ตั้งตารอเลยล่ะ อย่างน้อย ๆ ก็มีพลอตอื่นที่แหวกแนวออกมาบ้าง”“ขอบคุณค่ะ งั้นฟางขอตัวก่อนนะคะ”“กลับดี ๆ นะเอาไว้หนังสือเสร็จเมื่อไหร่แล้วพี่จะโทรหา”“ค่ะ ขอบคุณค่ะพี่วุ้น”ฟางเดินออกมาเพื่อจะไปยังสถานีรถไฟฟ้าที่อยู่ใกล้ ๆ แต่กลับบังเอิญพบกับคนที่เธอเกือบจะลืมหน้าไปแล้ว เธอกำลังเดินมาที่สถานีเช่นกันแต่เมื่อเห็นก็รีบเดินเข้ามาทักทาย“คุณฟาง”“พี่จอย!”“จอย” เลขาของภาคภูมินั่นเองที่เดินเข้ามาทักทายเธอ วันนี้เธอสวมชุดคลุมท้องสีอ่อนทำให้ฟางตกใจเล็กน้อย ฟางจึงเอ่ยปากชวนเธอเข้าไปที่ร้านกาแฟใกล้ ๆ กับสถานีรถไฟฟ้าเพื่อจะคุยกัน ฟางเกือบจะลืมเรื่องราวของภาคภูมิและจอยไปหมดแล้ว ไม่คิดว่าวันนี้จะมีโอกาสได้พบเธออีกครั้ง“พี่จอยไม่ได้ทำงานกับ…เขาแล้วเหรอคะ”“พี่ย้ายมาเป็นเลขาให้คุณวิภาดาพี่สาวของคุณภูมิได้เกือบครึ่งปีแล้วค่ะ”“เกือบครึ่งปีเหรอคะ หรือว่า…”“หลังจากที่เขาเลิกกับคุณฟาง พอกลับไปที่บ้านแล้วคุณแม่ของคุณภูมิทราบก็ด
“ฮึก…เพราะแบบนี้สินะคะ พี่เวย์ถึงได้ไม่เคยนอนกับหยีอีกเลยนับจากวันนั้นเป็นต้นมา”“ขอโทษจริง ๆ ผมคิดว่าตอนนั้นเราทั้งคู่ยังเรียนอยู่ ผมเองก็ไม่อยากให้เกิดเรื่องผิดพลาดดังนั้น…”“ที่แท้ตลอดเวลา พี่เวย์ก็เห็นว่าหยีเป็นตัวแทนของฟางเหรอคะ”เวย์ขมวดคิ้ว นี่เขากำลังแปลกใจว่าเขาคุยกับเธอไม่รู้เรื่องหรือว่ายาหยีไม่พยายามเข้าใจอะไรเลยกันแน่ จนถึงตอนนี้เธอก็ยังเอาแต่โทษคนอื่นไม่จบสิ้น“ไม่มีใครเป็นตัวแทนใครได้ การที่ผมไม่นอนกับคุณก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฟาง หลังจากผมกับคุณคบกันก็ไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับฟางอีกเลย ส่วนฟางก็ไม่ได้มายุ่งกับผมเหมือนกัน เลิกโทษคนอื่นสักทีเถอะ ผมคิดว่าเราคุยกันมากพอแล้ว ขอตัวก่อน”เวย์เปิดประตูออกมา ครั้งนี้เขาไม่รอฟังเสียงร้องไห้คร่ำครวญของเธอที่ดังขึ้นด้านในห้องอีกแล้ว เขาแค่สั่งให้คนที่เฝ้าอยู่ดูแลเธอให้ดีและส่งกลับไปที่รถเวย์รีบกลับไปที่รถซึ่งตอนนี้ฟางไม่ได้อยู่ที่นั่น เขาตกใจสุดขีดแต่เมื่อหันไปที่สวนก็เห็นว่าเธอนั่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวเดิมที่เธอเคยนั่งเวลามาส่งเขา เวย์โล่งใจอย่างบอกไม่ถูกเมื่อเดินเข้าไปโอบกอดเธอจากด้านหลัง“พี่เวย์ คุยเสร็จแล้วเหรอคะ”“รอนานเลยสินะ หิวหรือยั
“พี่เวย์! ทำไมพี่เวย์ถึงได้พูดจารุนแรงกับหยีแบบนี้ล่ะคะ ยัยฟางต้องเป่าหูพี่เวย์มาแน่ ๆ พี่เวย์ถึงได้ใช้คำพูดรุนแรงกับหยีทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยพูดมาก่อน”“คุณอย่าคิดว่าฟางจะมีนิสัยแบบคุณสิ คุณไม่เห็นเหรอว่าฟางยินดีที่จะให้ผมมาคุยกับคุณตามลำพัง เมื่อเปรียบเทียบกับคุณ… คงไม่กล้าตัดสินใจอย่างที่ภรรยาของผมทำแน่ ๆ”“อะไรนะ ภรรยาเหรอ”“ใช่ ก็ไม่ผิดอะไรเพราะเรากำลังจะแต่งงานกันอยู่แล้วไม่ช้าก็เร็ว อีกอย่าง…”“พี่เวย์คะ! ทำไมคะทำไมต้องเป็นมันด้วย หยีมีอะไรที่สู้ฟางไม่ได้ ทำไมถึงไม่เลือกหยี ทำไมคะ!!”“ปัง!!”เวย์ตบโต๊ะเสียงดังจนอีกฝ่ายนึกกลัวเพราะเขาไม่เคยเกรี้ยวกราดและดุดันขนาดนี้มาก่อน ยาหยีรู้สึกกลัวจนเกือบช็อก เธอค่อย ๆ นั่งลงไปทั้ง ๆ ที่ตัวสั่น เวย์เองก็หันมามองหน้าเธอด้วยสายตาที่เกลียดและโกรธเอาเรื่อง“ทำไมน่ะเหรอ คุณไม่ลองถามตัวคุณเองล่ะว่าเมื่อหลายปีก่อนคุณทำอะไรลงไป”“หยีทำอะไรคะ หยี…”“ฟางไม่เคยเขียนจดหมายถึงผม ต่อให้เธอชอบผมก็ไม่เคยทำเรื่องแบบนี้ จดหมายทั้งหมดนั่นรวมถึงจดหมายที่นัดผมออกมาในวันเกิดก็เป็นคุณที่เป็นคนเขียน”“มันโกหก!”“คุณต่างหากที่โกหก ทั้งโกหก ขี้ขโมยและเอาแต่ใจต
เวย์เดินเข้ามาหาฟางที่โต๊ะทำงาน วันนี้เธอกำลังจัดหน้านิยายของเธออยู่ เขาแค่ยืนมองเฉย ๆ อยู่ด้านหลัง “นอกจากจะเขียนนิยายเป็นแล้วยังจัดแต่งหน้าแบบนี้เป็นด้วยเหรอ เก่งจังเลยนะ”“พี่เวย์คุยเสร็จแล้วเหรอคะ”“ใช่ คุณอาบดินทร์น่ะ บอกว่าเรื่องงานแถลงข่าวเมื่อวานเรียบร้อยดี อีกอย่างพี่ไม่จำเป็นต้องไปแถลงข่าวอีกรอบแล้วเพราะเมื่อวานคณะกรรมการตอบคำถามแทนจนหมดแล้ว”“ยอดไปเลยนะคะ ว่าแต่ทำไมคุณอาคนนี้อยู่ที่สนามบินด้วยละคะ ฟางคิดว่าเขาเป็นผู้บริหารโรงแรมเสียอีก”“อาบดินทร์เป็นเหมือนญาติสนิทและเป็นมือขวาของคุณพ่อน่ะ เขาไปทุกที่แหละแต่หลัก ๆ ก็ช่วยคุณพ่อดูแลโรงแรม เมื่อวานมีงานแถลงข่าวคุณพ่อเลยให้คุณอามาช่วยดูแล”“แบบนี้นี่เอง”“เรื่องนี้จะพิมพ์เล่มแล้วเหรอ”“ใช่ค่ะ ต้องตรวจสอบรูปแบบก่อนที่จะส่งไปที่โรงพิมพ์ ขั้นตอนสุดท้ายแล้ว พี่เวย์กินผลไม้ก่อนสิคะช่วงนี้คุณลุงบอกว่าให้พี่เวย์นอนพักให้เต็มที่”“นอนน่ะได้ แต่ไม่อยากนอนคนเดียวนี่นา อีกอย่างก็พึ่งจะตื่น จะให้นอนอะไรนักหนาล่ะจริงไหม”“เถียงเก่งขึ้นนะคะ”เวย์ดึงเก้าอี้อีกตัวมานั่งข้าง ๆ เธอแต่ก็ไม่ได้จะกวนเธอ เขาแค่มานั่งอยู่ข้าง ๆ และกดมือถือเพื่อเช็คข