โกหกเพื่อให้ได้เจอ... “ทำลูกฉันท้องอย่างนั้นเหรอ?” บอมพ์ถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงไปด้วยความดุดัน “ครับ...เพราะอย่างนั้นช่วยบอกผมได้ไหมครับว่าตอนนี้ลิลลี่อยู่ที่ไหน” โคเยอร์ยอมรับง่ายๆ และถามตามแผนที่ตัวเองคิดไว้ “คิดว่าทำกับลูกสาวฉันแบบนี้แล้วคนเป็นพ่อจะยอมให้เจอลูกเขาเหรอ” บอมพ์ถามกลับ “ผมจะรับผิดชอบครับ ผมมารับเมียและลูก ผมอาจจะผิดที่ทำแบบนั้น แต่ผมก็พร้อมจะรับไม่คิดจะหนีหรือทิ้ง” โคเยอร์พยายามบอกเหตุผลยืดยาว เพื่อให้คนเป็นพ่อของคนรักเข้าใจ “พี่บอมพ์ ช่วยลูกเถอะ เฟร์คิดว่ายัยลี่เองก็แก้เรื่องนี้คนเดียวไม่ไหวแน่ๆ เพราะยังไงยัยลี่ก็ต้องยอมเสียสละตัวเอง ทั้งๆ ที่ใจจะร้องไห้ขนาดไหนก็ตาม” เฟร์ย่าบอกกับผู้เป็นสามี เธอรู้จักนิสัยของลูกสาวดี ก็คงไม่ต่างอะไรจากตัวเธอเมื่อตอนสาวๆ “แล้วยัยดี้ล่ะ?” บอมพ์ถามเฟร์ย่ากลับ เขาเองก็เป็นห่วงลูกสาวทั้งสองเหมือนกัน หากลิลลี่ไม่เสียสละ แล้วเลดี้ล่ะ ต้องรับภาระของพี่สาวจะต้องรู้สึกอย่างไร “เราต้องไปช่วยกันหาทางออกให้ทุกคนครับ ผมจะไม่ปล่อยให้ลิลลี่ต้องแก้คนเดียว และผมก็จะไม่ปล่อยให้น้องเมียต้องรับภาระเองด้วย” โคเยอร์พูดด้วยน้ำเสี
โคยตัวจริง ลองจับดู! “ทางออกยังไงดีครับถึงจะดีกับทุกๆ ฝ่าย” เสียงทุ้มของโคเยอร์เอ่ยถามขึ้น เมื่อเขาฟังผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายคุยกันแล้ว เขาอยากจะเจอลิลลี่เต็มที่แล้ว “แล้วพ่อหนุ่มคนนี้เป็นใคร ไม่ใช่บรูคลินที่เป็นลูกชายของคุณบอมพ์นี่นา” ชีคฟาเอลถามขึ้น พร้อมกับมองไปที่ใบหน้าของชายหนุ่มรุ่นลูกที่ยืนอยู่ด้านหลังของบอมพ์และเฟร์ย่า “ผมเป็นแฟนของลิลลี่ครับ” โคเยอร์แนะนำตัวเองโดยที่ไม่รอให้บอมพ์หรือเฟร์ย่าแนะนำ “อ้อ คนนี้น่ะเหรอ แฟนหนูลี่ที่ตอนนี้นอนพักอยู่ที่เรือนรับรอง” ชีคคาลัยร่าเอ่ยขึ้น พร้อมกับยิ้มให้กับโคเยอร์ “ใช่แล้วค่ะ แกรบเร้าให้รีบมาหาลิลลี่วันนี้ ตอนแรกพี่บอมพ์ว่าจะเคลียร์งานอีกสองสามวันแล้วค่อยมา แต่โคเยอร์กลัวจะสายเกินไป ให้รีบมาที่นี่ก่อนที่จะแก้ไขไม่ทัน” เฟร์ย่าเสริม “ครับ...ผมมารับเมีย ไม่ทราบว่าตอนนี้ผมไปหาลิลลี่ได้หรือยังครับ” โคเยอร์ไม่อ้อมค้อม ขอไปหาลิลลี่ทันที “ยังไม่แต่งงานกันไม่ใช่หรือ? แล้วจะไปนอนเรือนเดียวกัน เตียงเดียวกันได้หรือ? ไม่ผิดผีหรือครับ” ชีคฟาเอลถามอย่างสงสัย พร้อมกับหันหน้าไปหาบอมพ์ “ก็ตามนั้นเลยครับ ครอบครัวผมไม่มีหรอกครับผิดผี
เปิดก่อนได้เปรียบ! “มากับพ่อของลี่ เมื่อคืนนี้” โคเยอร์ตอบกลับหญิงคนรัก ที่รัวคำถามมาจนเขาเริ่มตอบไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะตอบคำถามไหนก่อน “มะ...เมื่อกี้นายว่าอะไรนะ?!” ลิลลี่ได้ยินว่าเขามากับใคร ก็ถึงขั้นร้องตะโกนออกมาอย่างไม่เชื่อหูของตัวเอง “โคยมากับพ่อแล้วก็แม่ของลี่ เมื่อคืนนี้” โคเยอร์ตอบย้ำอีกรอบ แบบชัดถ้อยชัดคำ “ละ...แล้วทำไมนายถึงไปเจอกับพ่อแม่ได้ แล้วทำยังไงถึงได้มาพร้อมท่านทั้งสองได้ล่ะ” ลิลลี่ยังรัวคำถามใส่เขา คำถามที่เธออยากรู้มีเท่าไรเธอก็ถามเขาออกไปจนหมด “นายอีกแล้วนะ เรียกผัวว่านายอีกแล้ว...เดี๋ยวก็จับเอาตรงนี้ซะให้เลิกเรียกนายเลย เอาให้เปลี่ยนมาเรียกผัวตลอดชีวิตเลยดีไหมเนี่ย ฮึ?” โคเยอร์พูดออกแนวข่มขู่หญิงสาวคนรัก พร้อมกับยกมือหนาขึ้นบีบไปที่ปลายจมูกรั้นของคนรักและออกแรงบีบเล็กน้อยอย่างหมั่นไส้เอ็นดู “ยะ...อย่ามาขู่นะ” ลิลลี่ได้ยินแบบนั้นก็ตอบอย่างละล่ำละลัก พร้อมกับยกมือเล็กๆ ออกแรงตีไปที่ไหล่เขาอย่างไม่แรงและไม่จริงจังมากนัก “ไม่ได้ขู่นะ โคยทำจริง ถ้าลี่ยังเรียกผัวอย่างห่างเหินแบบนั้นอีก” “ตานี่...เด็กน้อยจริงๆ” ลิลลี่พึมพำ แล้วทำท่าจะลุกลงจากเ
อุ้งเท้าขาวๆ ของฉันเอง! แกร็ก! “แก!!! อย่าอยู่เลย!!” เสียงของวีร่าดังขึ้น พร้อมกับวัตถุสีดำเลื่อมที่เธอหยิบออกมาจากใต้ชุดคลุมยาวที่เธอสวมใส่มาตลอด เธอแอบซ่อนมันไว้ เอาไว้ใช้ป้องกันตัวยามจำเป็น แต่ตอนนี้เธอกลับจะใช้มันทำในสิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิด คือการเล็งปลายกระบอกชี้ไปยังสองสาวที่มีใบหน้าเหมือนกัน โคเยอร์ที่เห็นเหตุการณ์แบบนั้น เขาก็รีบพุ่งตัวเข้าไปหาคนรักและน้องสาวของเธอทันที กลัวว่ากระสุนในปืนจะโดนเธอทั้งสองเข้าจริงๆ แต่เขาคิดว่าสนมวีร่าคงแค่เอามาขู่เท่านั้น เธอคงไม่เอาอนาคตของตัวเองมาทิ้งเพียงเพราะเรื่องแค่นี้แน่ “ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ กลัวขึ้นมาล่ะสิ! 555” เสียงสนมวีร่าแค่นหัวเราะพร้อมกับพูดไปพร้อมกัน ฉึก!!! เคร้ง! “กรี๊ดดดดดด” เสียงวีร่ากรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เมื่อข้อมือของเธอที่กำปืนเอาไว้ ถูกมีดเล็กสีเงินวาวปักเข้าที่ข้อมือนั้น เลือดไหลออกมาไม่หยุด จนปืนร่วงลงไปอยู่ที่พื้น “ยัยดี้!” เสียงของลิลลี่เรียกชื่อน้องทันทีที่เห็นมีดเล่มนั้น มันเป็นของน้องสาวของเธอเอง เลดี้เป็นคนชอบมีดกับธนูมาตั้งแต่เด็กๆ เวลาที่คนสนิทของพ่อสอนศิลปะป้องกันตัวให้ลูกๆ ทุกค
สนมทั้งสองคน! “ยัยดี้ไม่ใช่คู่หมั้นของพระองค์หรอกเพคะ!” เสียงเล็กใสของลิลลี่พูดขัดองค์รัชทายาทขึ้น เธอตัดสินใจที่จะบอกเขาตรงๆ และเร็วที่สุด “หมายความว่ายังไง? เรื่องนี้เอาไว้ก่อน เดี๋ยวเราจะฟังคำอธิบายจากพวกเจ้า เราขอไปจัดการกับคนที่ทำกับเลดี้ก่อน ฮาราพาเลดี้ไปทำแผลและก็พาแขกไปรอฉันที่ตำหนักขาว” องค์ชายถามลิลลี่ พร้อมกับหันไปสั่งฮารา นางกำนัลตัวเล็กที่อยู่ตรงนั้น และฮาราก็เป็นนางกำนัลกลาง ไม่ได้เป็นนางกำนัลของสนมคนใดโดยเฉพาะ “เจ้าค่ะ องค์ชาย” ฮาราก้มศีรษะรับคำสั่ง พร้อมกับหันไปยิ้มให้ลิลลี่และโคเยอร์ แล้วตรงเข้าไปประคองเลดี้ไปทำแผลที่ตำหนักขาวตามคำสั่ง ทั้งสี่คนเดินมาจนถึงตำหนักขาว สิ่งปลูกสร้างหรูหรา สไตล์ยุโรปขนาดกลางไม่ใหญ่ไม่เล็ก สีขาวสะอาด และก็เป็นตำหนักเดียวที่ปลูกสร้างสไตล์ยุโรป นอกนั้นจะปลูกสร้างสไตล์พื้นเมืองของโมทีธ ที่มีลักษณะคล้ายบ้านในประเทศญี่ปุ่น และที่ตำหนักนี้ถูกตั้งชื่อว่าตำหนักขาวนั้น ก็เพราะว่าตัวเรือนเป็นสีขาวสะอาด ถูกรายล้อมด้วยสวนกุหลาบสีขาว และมีดอกไม้สีขาวอยู่รอบตำหนักไปหมด เมื่อเข้าใกล้ตำหนักก็จะอบอวลไปด้วยกลิ่นของดอกไม้บางๆ ด้วยสถานที่เป็นท
แอบสารภาพรัก! “อะไรนะ?!!?!/อะไรนะ?!!?!/อะไรนะ?!!?!” และก็เป็นเสียงของเลดี้และลิลลี่ พร้อมทั้งโคเยอร์ด้วยอีกคนที่อุทานประสานเสียงขึ้นพร้อมกันอย่างตกใจในคำพูดที่ออกมาจากปากขององค์รัชทายาท คู่หมั้นของลิลลี่ สามีตามพฤตินัยของเลดี้ ที่ดูเหมือนจะไม่ทุกข์ร้อนกับสิ่งที่พูดออกมาเลยสักนิด “พวกเจ้าจะตกใจอะไรกันนัก ข้าก็รักเลดี้ จะยกขึ้นให้เป็นสนมเอก และจะอภิเษกกับคู่หมั้นตามประเพณีปกติ แล้วยกให้ลิลลี่เป็นชีคคา เท่านี้ก็สิ้นเรื่อง” องค์ชายอธิบายต่อ “แต่นาย...เอ่อ องค์ชายจะให้ฉันมีสามีคนเดียวกับพี่สาวอย่างนั้นเหรอ พระองค์จะบ้าหรือยังไงกัน” เลดี้โวยวายออกมา เธอไม่มีทางยอมให้เป็นแบบนั้นแน่ๆ “ทำไมจะไม่ได้ คนประเทศนี้พี่น้องมีสามีคนเดียวกันก็ถมไป เป็นเรื่องปกติ” ฟาฮัซตอบกลับคนตัวเล็กที่กำลังทำหน้างอไม่พอใจอยู่ข้างๆ เขา “แต่ประเทศของพวกฉันมันไม่ปกติ ไม่มีใครเขาทำกัน” เลดี้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด และทำท่าจะไม่ยอมอย่างที่พูดออกมาด้วย “ผมเองก็ไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นด้วยเหมือนกัน” เสียงทุ้มของโคเยอร์พูดขึ้นสมทบกับความคิดของเลดี้ ฝาแฝดคนน้องของคนรักเขา “แล้วนี่นายเป็นใคร? ที่นี่ม
ข้อแม้และสภาพลูกเขย “ขออภัยเพคะองค์ชาย...ท่านชีค ท่านชีคคาลัยร่า และแขกของพระองค์เสด็จมาเพคะ!” เสียงฮารารายงานให้กับองค์ชายเจ้าของตำหนักอยู่ที่หน้าประตู “ท่านพ่อ ท่านแม่มา!!” เสียงขององค์ชายฟาฮัซพูดกับทุกคน เมื่อได้ยินฮารารายงานจากหน้าประตู “พวกท่านคงมาเพราะจะถามและช่วยแก้ปัญหานี้แน่ๆ” เลดี้พูดออกมาในที่สุด และเป็นน้ำเสียงอย่างมีความหวัง “ให้พวกท่านเข้ามา” เสียงขององค์ชายเอ่ยอนุญาต ที่ชีคและชีคคาผู้ปกครองประเทศจะต้องขออนุญาตลูกชายก่อนจะเข้าตำหนัก ก็เพราะว่าตำหนักแห่งนี้องค์ชายเป็นเจ้าของ ชีคและชีคคาจึงไม่สามารถรุกล้ำเข้ามาได้ หากไม่ได้รับอนุญาตเช่นกัน เมื่อแขกผู้มาใหม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในตำหนัก ทั้งหมดก็เดินเข้ามาอย่างเงียบๆ พร้อมทั้งพวกที่อยู่ในตำหนักอยู่ก่อนแล้วต่างลุกขึ้นยืน เพื่อให้เกียรติกับผู้มาใหม่แล้วทั้งหมดก็ค้อมศีรษะทำความเคารพให้กับผู้ที่มีตำแหน่งสูงกว่า และยังเป็นผู้ใหญ่กว่าอีกด้วย “ฟัซ...รู้ตัวบ้างไหมว่าทำอะไรลงไป แล้วทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายใหญ่แล้ว” ชีคคาพูดตำหนิลูกชายคนโตขึ้นเป็นคนแรก เมื่อเดินเข้ามาถึงยังในห้องโถงของตำหนักขาว “ลูกรู้พะยะค่ะ”
โคยน้อยกำลังมา... “ดี้จะแต่งงาน หลังจากที่พี่ลี่แต่งงานแล้วเท่านั้นค่ะ” เลดี้พูดสิ่งที่ตัวเองต้องการเป็นอย่างสุดท้ายออกมา “อะไรนะ?!” เสียงของลิลลี่อุทานพูดออกมาอย่างตกใจ เมื่อได้ยินเสียงของน้องสาวพูดออกมาอย่างนั้น “ดี้บอกว่าดี้จะแต่งงานกับเจ้าชาย หลังจากที่พี่ลี่แต่งแล้วเท่านั้น ก็ดี้เป็นน้องคนสุดท้อง ก็แต่งคนสุดท้าย” เลดี้บอก “แล้วพี่ของเจ้าจะแต่งเมื่อไร ถ้าหากว่าช้า ข้าคงไม่ทน” เจ้าชายฟาฮัซพูดขึ้น “ฉัน...ยังไม่มีความคิดที่จะแต่งเลยนะ” ลิลลี่บอกเป็นเชิงปฏิเสธไปในตัว ก่อนจะปรายตามองไปโคเยอร์เพื่อดูท่าทางท่าทีของเขา “เราสองคนจะแต่งงานกันหลังจากกลับประเทศไทยทันที เดี๋ยวผมจะให้ผู้ใหญ่มาคุยและหาฤกษ์เลยครับ” โคเยอร์พูดออกมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มดีอกดีใจ “แต่โคยยังเรียนอยู่เลยนะ แล้วอีกอย่างพ่อกับแม่ก็ยังไม่ได้ตอบตกลงเลยด้วยซ้ำ” ลิลลี่รีบบอกอย่างละล่ำละลัก “ลี่หมายถึงพ่อของลี่น่ะเหรอ โคยคุยเรียบร้อยแล้ว” โคเยอร์พูดพร้อมกับชี้ไปที่มุมปากที่มีเลือดแห้งติดอยู่ “แต่ลี่ยังไม่อยากแต่ง ยังมีหลายอย่างที่ยังไม่ได้ทำเลย อุก...อ้วก!!!” ในขณะที่ลิลลี่กำลังปฏิเสธและคัดค้านการแ
Special คิลเลอร์และเมแกน 3 ปีต่อมา “เห้ย!! โคเยอร์ทางนี้ๆ” เสียงกลุ่มเพื่อนชายที่โบกมือเรียกโคเยอร์อยู่ที่โต๊ะลายหินอ่อนใต้ต้นไม้ใหญ่ข้างตึกเรียนในคณะของเขา “พวกมึงยังไม่กลับบ้านกันอีกเหรอ ไม่มีเรียนแล้วนี่ กูก็ส่งงานเสร็จละ จบละ” โคเยอร์ถามเพื่อน วันนี้เขามาที่คณะ เพื่อมาส่งงานชิ้นสุดท้ายก่อนจบการศึกษา แต่พวกเพื่อนของเขาต้องเข้าเรียนเก็บชั่วโมงอีก หลังจากที่เขาแต่งงานและพักการเรียนไปได้สองปี เขาก็กลับเข้ามาเรียนใหม่จนจบได้ภายในปีเดียว “เพิ่งออกจากห้องเรียนเมื่อกี้ มารอเจอหลานกูก่อน มาๆ ให้กูอุ้มหน่อย” เพื่อนของเขาคนหนึ่งพูดขึ้น พร้อมกับเดินเข้ามาหาโคเยอร์ ที่ในอ้อมแขนนั้นมีเด็กน้อยรูปร่างจ้ำม่ำ หน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก ผิวขาวใส แก้มป่อง ผมสีดำขลับสั้นๆ แต่หยักศกเล็กน้อย ดวงตากลมโตบ้องแบ๊วสร้างความน่าเอ็นดูให้กับผู้ที่พบเห็นไม่น้อย “กูขออุ้มหน่อย” เพื่อนของเขาพูด ก่อนจะยื่นมือออกไปเพื่อจะเอาเด็กน้อยมาอุ้ม “มายุ่งกับลูกกูอีกแล้ว อยากอุ้มทำไมไม่มีเป็นของตัวเองกันวะ” โคเยอร์บ่นให้กับเพื่อน ที่รอจะเจอและอุ้มลูกเขา เมื่อรู้ว่าวันนี้เขาเอาลูกมาด้วย วันนี้ลิลลี่ไม่ว่าง
ลิลธิกาแต่งงานกับกฤตินนท์ นะ! (The End) “โคยมีอะไรจะบอกลี่ไหม?” เสียงของลิลลี่ที่นั่งอยู่ข้างคนขับ เอ่ยถามชายคนรักที่กำลังทอดสายตามองไปด้านหน้าท้องถนน “แต่งงานกับโคยนะลี่” โคเยอร์เอ่ยขอคนรักแต่งงานด้วยน้ำเสียงและใบหน้าจริงจัง พวงมาลัยรถถูกหักเข้าข้างทาง สภาพแวดล้อมโดยรอบที่มีแต่ป่าเขา ไร้ผู้คนและบ้านของผู้คนอยู่อาศัย เครื่องยนต์ของรถถูกดับสนิท โคเยอร์หันใบหน้าหล่อเหลาเข้าหาลิลลี่ที่ตอนนี้ก็หันมองเขาอยู่ด้วยเช่นกัน “โคยมั่นใจแล้วใช่ไหมถึงพูดมันออกมา” ลิลลี่ถามย้ำ ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายนั้นมั่นใจแค่ไหน ถึงขนาดเอาผู้ใหญ่มาคุยกับผู้ใหญ่ฝ่ายเธอถึงที่บ้าน “มั่นใจ 100% เลย โคยรักลี่ รักมาก และก็รักลูกด้วย ตอนนี้โคยมั่นใจแล้วด้วยว่าสามารถดูแลลี่กับลูกได้ตลอดไปแล้ว ไม่อดตายแน่ แค่โคยยังเรียนไม่จบ เลยพักการเรียนไว้ก่อน รอลูกคลอดแล้วค่อยกลับไปเรียน” โคเยอร์บอกกับคนรัก พร้อมกับยกมือหนาขึ้นลูบบริเวณหน้าท้องน้อยของคนรัก “มั่นใจแค่ไหนที่จะดูแลลี่ได้ตลอด” เธอถามกลับอีกรอบ “มั่นใจมาก ลี่ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้เลยนะ ถึงโคยจะยังเรียนไม่จบ แต่โคยก็มีบ้าน มีรถ มีธุรกิจเป็นขอ
จุดจบคนไม่สำนึก! “ถ้าเธอไม่รู้จักฉัน ลองถามพ่อของเธอดู!” เสียงทุ้มแค่นเสียงเป็นเชิงเย้ยหยันพูดกับน้ำขิงที่นั่งกอดผู้เป็นพ่ออยู่ที่พื้นเบื้องหน้าของทุกคน “ทำร้ายลูกกับหลานฉันอย่างหน้าตาเฉย ทั้งๆ ที่ลูกกับหลานของฉันยังไม่ได้ไปทำอะไรให้แม้แต่นิดเดียว เธอกล้ามากนะ คงยังไม่รู้จักฉันสินะ” บอมพ์พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่แฝงไว้ด้วยความน่ากลัว ทำให้น้ำขิงถึงกับขนลุกซู่ไปทั่วทั้งตัว “แล้วแกเป็นใคร มีสิทธิ์อะไรมารุมฉันกับพ่อแบบนี้” น้ำขิงมองพวกเขาด้วยสายตาแค้นเคือง “แล้วแกมีสิทธิ์อะไรมาทำร้ายลูกกับหลานของฉัน!” บอมพ์สวนกลับทันที อารมณ์โมโหเริ่มเก็บเอาไว้ไม่อยู่ จนลิลลี่สังเกตพ่อของตัวเองได้ “พ่อคะ...ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพ่อของโคยเถอะค่ะ ลี่ไม่ได้เป็นอะไรมาก” ลิลลี่รีบห้ามทัพ เมื่อเห็นว่าพ่อของตัวเองเริ่มโมโห “เดี๋ยวผมจัดการเองครับ” โคเยอร์รีบบอกพ่อของคนรัก แล้วค่อยๆ วางร่างเล็กให้ลงยืนที่พื้นอย่างเบาๆ มือเล็กของลิลลี่คว้าแขนของโคเยอร์เอาไว้ เหมือนเป็นการห้ามเบาๆ แบบไม่ต้องใช้เสียง สายตาคมก้มมองที่แขนของตัวเองก็เข้าใจได้ทันทีว่าคนรักต้องการอะไร “เดี๋ยวป๊าจัดการเอง” ค
ถ้าไม่รู้จักฉัน ลองถามพ่อเธอดู! “อาเขต!” โคเยอร์เอ่ยเรียกคนที่มาห้ามเขาไว้ ซึ่งเป็นพี่เลี้ยงของเขานั่นเอง แต่เขาก็ไม่รู้ว่าเขตนั้นตามเข้ามาตั้งแต่เมื่อไร เพราะเขามัวแต่สนใจคนที่อยู่ด้านในโกดัง “อย่าวู่วามครับนายน้อย หากบุ่มบ่ามเข้าไป คุณลิลลี่จะเป็นอันตรายได้” เขตบอกกับนายน้อยของตัวเอง “ผมโมโหจนลืม” โคเยอร์บอก เขาโมโหจนอยากจะจัดการคนทีี่มันทำกับลิลลี่เสียจนลืมนึกไปถึงความปลอดภัยของคนรักด้วย เพราะตอนนี้ลิลลี่อยู่ในมือของพวกมัน “หนะ...น้ำขิง!!” เสียงเล็กแหบของลิลลี่เอ่ยเรียกคนที่อยู่ตรงหน้าเธอ เธอเพิ่งฟื้นมาจากอาการสลบ เพราะลูกน้องของน้ำขิงเอาน้ำมาราดที่ตัวเธอจนรู้สึกตัวขึ้นมา “ฟื้นแล้วเหรอ? สำออยจริงนะ อุบัติเหตุแค่นี้ทำเป็นสลบ ทำไมไม่ตายไปเลยนะ!” เสียงน้ำขิงพูดเหน็บปนแช่งกับคนที่ถูกมัดมือมัดเท้า แต่พยายามยันตัวลุกขึ้นนั่ง “เธอ...จับฉันมาทำไม” ลิลลี่ถามคนที่จับเธอมา เธอไม่รู้ถึงสาเหตุที่ตัวเองโดนจับมา และไม่เข้าใจถึงสาเหตุที่ทำให้น้ำขิง เพื่อนของโคเยอร์โกรธเธอขนาดนี้ “ก็...จับมาให้เป็นเมียไอ้พวกนี้ไง 5555” น้ำขิงพูด พร้อมกับหัวเราะเสียงดังอย่างชอบใจ เมื่อคิดไป
บุกช่วย...ถล่มโกมินทร์ “กะ...โกดัง หลังโกมินทร์ กะ...กรุป...” เสียงของคีรีพึมพำบอกพี่ชาย ก่อนที่เธอจะสลบไม่ได้สติไปในที่สุด “โกมินทร์...!” โคเยอร์พึมพำชื่อบริษัทที่ได้ยินน้องสาวบอก เขารู้ได้ในทันทีเลยว่าคนที่เป็นตัวการทำเรื่องแบบนี้คือใคร “อาเขต! ฝากยัยคีด้วย” โคเยอร์บอกกับเขต ก่อนจะกลับไปขึ้นรถแล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว เขตอุ้มร่างคุณหนูที่เขาเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กๆ ด้วยเช่นกัน พาไปที่รถเพื่อส่งตัวไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด แต่เขาก็ไม่ลืมที่จะต่อสายหานายใหญ่ของตัวเองที่ตอนนี้อยู่บ้านของตระกูลอีแวนสัน รายงานเรื่องนี้ให้รู้เรื่องก่อน “นายครับ! เกิดเรื่องใหญ่แล้วครับ รถคุณหนูคีและคุณลิลลี่ถูกเบียดชนต้นไม้ ผมกำลังพาคุณหนูคีไปโรงพยาบาล ส่วนคุณลิลลี่ถูกจับตัวไปครับ” เขตรายงานเจ้านายแบบรัวๆ “เมื่อกี้แกว่ายังไงนะ?! แล้วลูกสะใภ้ฉันถูกจับไปที่ไหน มันเป็นใคร?!!” คิงส์ตะโกนเข้ามาในสายดังลั่น “โกดังหลังโกมินทร์กรุป ครับ” เขตไม่รอช้ารีบรายงานสถานที่ให้เจ้านายฟังทันที “เดี๋ยวกูไป!!” คิงส์บอกกับเขต “คุณไปดูลูกสาวที่โรงพยาบาลเถอะ ส่วนโกมินทร์กรุป เดี๋ยวผมไปจัดการเอง” บอมพ์กัดฟัน
คำบอกเล่า...และการปองร้าย! “พี่โคยเขารักพี่มากเลยนะคะ ที่สุดในชีวิตเลย” คีรีเอ่ยบอกพี่สะใภ้ตัวเองด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม พี่สะใภ้คนนี้คงไม่รู้ว่าตัวเธอนั้นมีอิทธิพลต่อพี่ชายของเธอมากแน่ๆ ถึงได้งอนได้ หากรู้ว่าความจริงที่เธอจะบอกก็คงเข้าใจอะไรในตัวพี่ชายของเธอได้มากขึ้น “ไม่ขนาดนั้นมั้ง” ลิลลี่หันมามองเด็กสาวแวบหนึ่ง ก่อนจะหันกลับไปมองยังเบื้องหน้า “ขนาดนั้นเลยแหละค่ะ” “แล้วเราน่ะเป็นน้องสาวแท้ๆ ของโคยเหรอ” ลิลลี่เปลี่ยนเรื่อง เธอไม่อยากฟังอะไรจากปากคนอื่น นอกจากเจ้าตัวที่จะหาทางมาอธิบายกับเธอเอง “ใช่ค่ะ คีชื่อเต็มๆ ว่า คีรี เป็นน้องสาวแท้ๆ ของพี่โคย อายุห่างกันประมาณ6-7 ปีเห็นจะได้” คีรีบอก “ถึงว่าพูดเก่งเหมือนโคยเลย” ลิลลี่บอกในขณะขับรถไปเรื่อยๆ “พี่ลี่คะ...พี่โคยไม่ใช่นักศึกษาตัวเปล่านะคะ คีรู้ว่าพี่อยากให้พี่โคยมาบอกเอง แต่คีอยากบอกว่าพี่โคยตั้งใจและรักพี่มากๆ มากจนยอมรับช่วงต่อธุรกิจสายดำของพ่อทั้งหมดเลย ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนแกจะขอรับแค่ธุรกิจขาวกับเทาบางส่วนเท่านั้น แล้วจะปล่อยให้สายดำเจ๊งหรือเงียบหายไปเอง ตระกูลของพี่ก็เป็นมาเฟียใหญ่เหมือนกัน พี่คงเข้าใจและก็มี
สู่ขอ...รวมสองตระกูล สายลมเย็นเบาๆ พัดผ่านเข้ามาทางหน้าต่างกว้างที่มีเพียงผ้าม่านลายลูกไม้สีขาวสะอาดที่ปลิวไสวด้วยลม แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องเข้ามาในห้อง กระทบเข้ากับร่างเล็กที่นอนหลับพริ้มมีความสุขอยู่บนเตียงหนานุ่ม “ตื่นหรือยังลี่ ถ้าตื่นแล้วก็ลงไปอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อย แล้วลงมาด้านล่าง โคเยอร์มาแล้ว” เสียงอบอุ่นของเฟร์ย่า หญิงวัยกลางคนเดินเข้ามาบอกกับลูกสาวที่นอนหลับพักผ่อน หลังจากกลับมาจากโมทีธได้สัปดาห์กว่าๆ “ใครมานะคะแม่?” ลิลลี่งัวเงียถามผู้เป็นแม่ เมื่อได้ยินไม่ถนัด “โคเยอร์มา” เฟร์ย่าตอบ “ไม่ลง!” ลิลลี่ปฏิเสธทันทีเมื่อรู้ว่าแขกที่มาหาเธอนั้นเป็นใคร โคเยอร์ที่หายหน้าหายตาไปไม่ติดต่อมาเลยสักครั้งอาทิตย์กว่าๆ หลังจากที่กลับจากโมทีธ “ไม่ได้! มีแขกผู้ใหญ่มาด้วย ทำไมถึงจะไม่ลงไป” เฟร์ย่าดุลูกสาวเบาๆ “ก็...จู่ๆ ก็หายไปเลย ไม่ติดต่อมาแม้แต่ครั้งเดียว” ลิลลี่ตอบ พร้อมกับใบหน้าที่งอด้วยความงอน “จะงอนโคเยอร์ก็งอนไป แต่...ต้องลงไปรับแขกผู้ใหญ่ ส่วนเรื่องงอนเดี๋ยวให้โคเยอร์เป็นคนง้อเอง” เฟร์ย่าบอก จนลิลลี่ต้องลุกขึ้นไปจัดการธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย และลงไปด้านล่างทั
รักพ่อของโคยน้อย (NC) “เปลี่ยนเป็นการเพิ่มความแข็งแรงให้ลูก ก่อนกลับไทยยังไงล่ะ!” คำพูดและรอยยิ้มเจ้าเล่ห์กรุ้มกริ่มผุดขึ้นที่ใบหน้าหล่อเหลาของโคเยอร์ “หมะ...หมายความว่ายังไงเหรอ” ลิลลี่ถามด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ แม้จะรู้อยู่แล้วว่าเขาหมายถึงอะไร “ก็หมายความว่าแบบนี้ไง...” “อ๊ะ...อุ๊บ!” เสียงของลิลลี่เล็ดลอดออกมาได้แต่นั้น เมื่อถูกริมฝีปากหนาได้รูปฉกจูบลงมาประกบที่ริมฝีปากบางสีระเรื่อ ลิ้นอุ่นและนุ่มนวลวนเกี่ยวกระหวัดไปรอบโพรงปากเล็ก เพื่อกวาดหาน้ำหวานอย่างชอบใจ ริมฝีปากหนาบดขยี้จูบอย่างดูดดื่ม หมับ! พรึ่บ! ในขณะที่ริมฝีปากของเขากำลังดูดกลืนน้ำหวาน ตักตวงความหวานจากเธออยู่นั้น โคเยอร์จับแขนเรียวทั้งสองข้าง ก่อนจะค่อยๆ ผลักคนตัวเล็กให้นอนลงบนที่นอนนุ่มอย่างไม่แรงมากนัก “คะ...โคย ตอนนี้เลยเหรอ!” ลิลลี่ถามออกมา เขาจะมาทำเรื่องแบบนี้ที่นี่ ตอนนี้คงไม่สะดวก “อื้อ!!” ริมฝีปากหนาประกบลงบนปากบาง แรงบดขยี้ดุเดือดจากแรงจูบของคนบนร่างที่ตอนนี้คือ ‘พ่อของลูก’ ในท้องของเธอ หัวใจของคนตัวเล็กเต้นไม่เป็นจังหวะเหมือนจะระเบิดออกมาอยู่นอกอกเลยทีเดียว โคเยอร์บดขยี้จูบปากคนต
โคยน้อยกำลังมา... “ดี้จะแต่งงาน หลังจากที่พี่ลี่แต่งงานแล้วเท่านั้นค่ะ” เลดี้พูดสิ่งที่ตัวเองต้องการเป็นอย่างสุดท้ายออกมา “อะไรนะ?!” เสียงของลิลลี่อุทานพูดออกมาอย่างตกใจ เมื่อได้ยินเสียงของน้องสาวพูดออกมาอย่างนั้น “ดี้บอกว่าดี้จะแต่งงานกับเจ้าชาย หลังจากที่พี่ลี่แต่งแล้วเท่านั้น ก็ดี้เป็นน้องคนสุดท้อง ก็แต่งคนสุดท้าย” เลดี้บอก “แล้วพี่ของเจ้าจะแต่งเมื่อไร ถ้าหากว่าช้า ข้าคงไม่ทน” เจ้าชายฟาฮัซพูดขึ้น “ฉัน...ยังไม่มีความคิดที่จะแต่งเลยนะ” ลิลลี่บอกเป็นเชิงปฏิเสธไปในตัว ก่อนจะปรายตามองไปโคเยอร์เพื่อดูท่าทางท่าทีของเขา “เราสองคนจะแต่งงานกันหลังจากกลับประเทศไทยทันที เดี๋ยวผมจะให้ผู้ใหญ่มาคุยและหาฤกษ์เลยครับ” โคเยอร์พูดออกมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มดีอกดีใจ “แต่โคยยังเรียนอยู่เลยนะ แล้วอีกอย่างพ่อกับแม่ก็ยังไม่ได้ตอบตกลงเลยด้วยซ้ำ” ลิลลี่รีบบอกอย่างละล่ำละลัก “ลี่หมายถึงพ่อของลี่น่ะเหรอ โคยคุยเรียบร้อยแล้ว” โคเยอร์พูดพร้อมกับชี้ไปที่มุมปากที่มีเลือดแห้งติดอยู่ “แต่ลี่ยังไม่อยากแต่ง ยังมีหลายอย่างที่ยังไม่ได้ทำเลย อุก...อ้วก!!!” ในขณะที่ลิลลี่กำลังปฏิเสธและคัดค้านการแ