ไม่ตายก็ขึ้นสวรรค์ได้ (NC) ปัง!!! เสียงประตูห้องคอนโดของลิลลี่ถูกผลักเปิดด้วยมือหนาของโคเยอร์ เกิดเป็นเสียงดังสนั่นลั่นไปทั่วทั้งชั้น แต่ดีที่ชั้นนี้เป็นของลิลลี่คนเดียว เพราะพ่อของเธอซื้อทั้งชั้นให้กับเธอ ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่อยากให้ใครมาวุ่นวายกับลูกสาว ร่างหญิงสาวและชายหนุ่มก้าวเข้ามาในโซนของห้องนอน พร้อมกับปิดประตูอย่างไม่ได้ใส่ใจมากนัก ทำให้ประตูห้องไม่ได้ปิดสนิท ร่างหนากดร่างของลิลลี่ให้แผ่นหลังบางไปติดกับกำแพงห้องไม่แรงมากนัก ทั้งๆ ที่อารมณ์ตอนนี้ของเขานั้นพลุกพล่านจนแทบจะยับยั้งตัวเองไม่ไหว ร่างสูงที่ยืนคล่อมคนตัวเล็กเอาไว้ให้เธออยู่ในวงแขนแกร่งทั้งสองข้าง โคเยอร์ที่ตอนนี้เหงื่อออกเต็มตัว และผุดขึ้นที่หน้าผากจนเปียกโชกเหมือนตากฝนมาก่อน เสียงหายใจหอบแรงเสียงดังฟืดฟาด สลับกับเสียงครางทุ้มต่ำสะกดกลั้นไว้ในลำคอ อาการเหมือนคนร้อนมาก “นี่...โคยไม่ได้เมาแน่นะ” ร่างบอบบางในวงล้อมแขนเอ่ยถามขึ้นอย่างเป็นห่วง “ไม่ได้เมา โคยโดนวางยา” เขาบอกกับคนตัวเล็กด้วยเสียงแหบพร่า “โดนวางยางั้นเหรอ โคยต้องไปโรงพยาบาล!” ลิลลี่ได้ยินแค่นั้น เธอก็คิดได้อย่างเดียวคือต้องพา
ผิดตัว!!! ครืดดดดด ครืดดดดดด เสียงมือถือเครื่องสีดำเลื่อมสั่นดังอยู่ในกระเป๋าที่ตอนนี้ถูกวางกองอยู่รวมกับเสื้อผ้าของเธอและของเขาที่พื้นห้องนอน ร่างของคนสองคนที่นอนหลับพริ้มกอดกันด้วยร่างกายเปลือยเปล่าอยู่บนที่นอน ร่างบางเริ่มขยับตัวเล็กน้อย เมื่อได้ยินเสียงสั่นของมือถือ ที่เธอได้ยินเสียงสั่นนั้น ก็เพราะว่าตอนนี้ทั่วทั้งห้องเงียบสนิท มีเพียงลมหายใจและเสียงเครื่องปรับอากาศเท่านั้น จึงทำให้ได้ยินเสียงแม้แต่เสียงของแมลงที่บินผ่านไปผ่านมาได้อย่างชัดเจน ลิลลี่ยันกายลุกขึ้นนั่งอย่างยากลำบาก ด้วยเพราะปวดตามร่างกายไปหมดทุกส่วน สายตากลมหันไปมองเจ้าของลำแขนหนักๆ ที่พาดทับบริเวณหน้าท้อง ตอนนี้สายตาที่เคยคมกริบปิดม่านด้วยหนังตาพริ้ม ไม่มีทีท่าว่าจะรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเลย ร่างเล็กจับแขนแกร่งเบี่ยงออกให้พ้นตัว ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงด้วยสภาพเปลือยเปล่า แล้วหาเจ้ามือถือต้นเหตุของเสียงที่ทำให้เธอตื่น รอบนี้หญิงสาวสามารถที่จะลุกขึ้นร่างเปลือยได้ โดยที่ไม่มีความเคอะเขิน เพราะว่าเธอรู้ดีว่าอีกฝ่ายกำลังหลับลึก ไม่มีทางตื่นขึ้นมาจ้องมองเรือนร่างเธอแน่นอน “ฮัลโหล ค่ะพ่อ” ลิลลี่กรอกเสียงใส่ม
แฟนของลิลลี่ ‘แย่กว่านั้นอีกค่ะ ร้านค่ะ! ร้านพังและเกิดไฟไหม้!’ เสียงของมิน พนักงานในตำแหน่งผู้จัดการร้านคาเฟ่ที่มีลิลลี่เป็นเจ้าของ โทรมารายงานเจ้านาย ถึงเรื่องของความเสียหายของร้าน “ว่ายังไงนะ?!!?!” น้ำเสียงตกใจของลิลลี่ ทำเอาชายหนุ่มข้างๆ จากที่นอนอยู่เปลี่ยนเป็นลุกนั่งขึ้นทันที “เกิดอะไรขึ้น” โคเยอร์ถามร่างเล็กที่ตกใจด้วยความเป็นห่วง “ไหม้...ร้านพังและไหม้หมดเลย” ลิลลี่บอกกับเขาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ น้ำตาเริ่มคลออยู่ที่เบ้าตารื้นขึ้นแล้วหันมาสบกับตาเขา “ฝีมือของใคร?!” โคเยอร์กดเสียงต่ำถามอย่างเยือกเย็น เมื่อเห็นใบหน้าของคนรักที่มีน้ำตาคลออยู่ที่เบ้าตา หัวใจดวงแกร่งกระตุกวูบไหว เจ็บแปลบแบบบอกไม่ถูก เขาแทบไม่อยากเห็นน้ำตานี้ด้วยซ้ำ “ต้องไป...ลี่ต้องไปที่ร้าน!” พูดจบลี่ก็ลนลานลุกขึ้นหาเสื้อผ้ามาสวมใส่ ทิ้งมือถือที่ยังมีมินถือสายอยู่ทันทีแล้วเตรียมออกไปที่ร้าน ด้วยความเป็นห่วง “ใครเป็นคนทำ? กล้องวงจรปิดเสียหายไหม รีบไปเอาข้อมูลในกล้องวงจรปิดเก็บไว้ก่อน อย่าเพิ่งให้ตำรวจ เดี๋ยวฉันไปจัดการเอง!” โคเยอร์หยิบมือถือของลิลลี่ขึ้นมา แล้วกรอกเสียงสั่งคนในสายอย่างมีสติ
คิดบัญชี! “คู่อริผมเอง และเป็นแฟนของขิง!” โคเยอร์ตอบอาเขต ลูกน้องของพ่อที่คอยช่วยเหลือตัวเองมาตลอด และเปรียบเสมือนเป็นพี่เลี้ยงของเขาที่เลี้ยงเขามาตั้งแต่คลอด “ขิง? ...กิ๊กคุณหนูเหรอครับ?” เขตถามอย่างตรงไปตรงมา เพราะถ้าคุณหนูโคยบอกแค่ว่าเป็นคู่อริ เขาจะไม่สงสัย แต่นี่โคเยอร์กลับเอ่ยชื่อของผู้หญิงที่ไม่น่าจะเกี่ยวข้องขึ้นมาด้วย “ไม่ใช่!! เพื่อนในห้องเรียน แล้วเมื่อคืนงานวันเกิดเธอ เธอใส่ยาในเหล้าให้ผมกิน หวังจะกินผม ที่ผมโทรหาอาเขตนั่นแหละ” โคเยอร์รีบอธิบาย “แล้วยังไงครับ เกี่ยวยังไงกับเรื่องนี้” เขตถามต่อ “ก็เธอดันส่งข้อความไปหาลี่ให้เข้าใจผิด ผมเลยโมโห ตบหน้าเธอไปทีนึงแล้วก็รีบกลับไปหาลี่ทัันที เธอคงแค้นผมแล้วไปลงที่ลี่แน่ๆ” โคเยอร์อธิบายให้เขตฟังต่อ “ลี่?” เขตทวนชื่อหญิงสาวที่นายน้อยเอ่ยถึง ก่อนจะทำหน้าสงสัย โคเยอร์เลยต้องอธิบายต่อ “ลิลลี่ เป็นรุ่นพี่ที่คณะ และก็เป็น...” โคเยอร์เว้นเอาไว้แค่นั้น เขาไม่รู้ว่าจะบอกเขาดีหรือไม่ “เป็น?” เขตถามย้ำ “เมียผมเอง” โคเยอร์ตัดสินใจบอก เขาไม่ได้อยากจะปิดบังเรื่องลิลลี่เป็นเมียเขา แต่เขากลัวว่าถ้าบอกไปแล้วลิลลี่จะเ
มึงไม่ใส่ แต่กูใส่! “คะ...โคเยอร์!!” เสียงเล็กแหลมร้องชื่อเขาออกมาอย่างตกใจ เธอไม่คาดคิดว่าจะเจอเขาที่หน้าคอนโดของตัวเอง “อืม...” โคเยอร์ยังตอบด้วยน้ำเสียงเรียบ ที่ไม่บ่งบอกอารมณ์ใดใด “หนะ...นายจะไปไหนเหรอ? อย่าบอกนะว่ามาหาขิงอ่ะ” หญิงสาวถามเขาด้วยความแปลกใจ เธอเองก็ไม่อยากเชื่อว่าเขาจะมาหาเธอหรอก “มาหาเธอ” เขาตอบกลับสั้นๆ เช่นเคย “มะ...มีอะไรกับขิงเหรอ” ขิงถามด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก เกิดการหวาดหวั่นไม่น้อยในท่าทีที่เขามาหา คนอย่างเขาหรือจะมาหาเธอ หรือว่าเขาเปลี่ยนใจจากผู้หญิงคนนั้นแล้วมาสนใจเธอ “ฉันมาคิด...ขึ้นข้างบนก่อนเถอะ” เขาตอบกลับเอาไว้ครึ่งๆ กลางๆ อยากจะบอกว่ามาคิดบัญชีกับเธอที่ไปทำเมียเขา แต่ก็ไม่พูดออกมา เพราะเดี๋ยวขิงจะโวยวายไปก่อน เขาเลยต้องชวนขึ้นไปจัดการบนคอนโดแทน “ขึ้นคอนโดฉันเหรอ นายจะขึ้นคอนโดฉันจริงๆ เหรอ ข้างบนไม่มีใครอยู่แล้วนะ เพราะพวกนั้นกลับไปหมดแล้ว” ขิงถามออกไปอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง แต่ก็แอบดีใจลึกๆ ที่เขาจะขึ้นไปบนคอนโดของเธอ “ไม่เป็นไร ไม่อยู่ก็ไม่เป็นไร เพราะฉันมาหาเธอ ไม่ได้มาหาพวกมัน” เขาบอกแค่นั้น ทำเอาขิงยิ้มกว้างออกมาทันที แล
มารับเมียและลูกของผม รถสปอร์ตสีดำขลับ แล่นทะยานบนท้องถนนด้วยความเร็ว แม้บนถนนในตอนนี้จะมีรถวิ่งประปรายอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้กีดขวางการขับรถของชายหนุ่มเลย เนื่องด้วยการขับรถบนถนนสาธารณะมันง่ายกว่าการขับบนสนามแข่งที่ต้องใช้ความเร็วและไหวพริบในการหลบหลีกสิ่งกีดขวางหรือรถคันอื่น โคเยอร์ใช้เวลาไม่นาน เขาก็พารถสปอร์ตคู่กายของเขาแล่นมาจอดที่หน้าคฤหาสน์หลังหนึ่ง ตกแต่งสไตล์ยุโรปหรูหราใหญ่โตอย่างกับราชวังก็ไม่ปาน คฤหาสน์ Evanson โคเยอร์ก้าวขาลงจากรถ สายตาคมจ้องมองเข้าไปในตัวคฤหาสน์ที่ค่อนข้างเงียบ ไร้เสียงของผู้คนที่จะอยู่แถวบริเวณนั้นเลย “มาหาคุณหนูบ้านนี้เหรอคะคุณ” เสียงหวานอบอุ่นใจดีดังขึ้นจากทางด้านหลังของโคเยอร์ เขารีบหันไปทางต้นเสียงทันที พร้อมกับยกมือขึ้นไหว้โดยอัตโนมัติ เพราะรู้อยู่แล้วว่าเจ้าของเสียงนั้นต้องอายุมากกว่าเขาแน่นอน ใบหน้าใจดีที่มีรอยยิ้มอบอุ่นของหญิงสาววัยกลางคนที่แต่งตัวเรียบง่ายๆ แต่ไม่ล้าสมัย ผิวพรรณขาวสะอาดสะอ้าน ยืนมองเขาด้วยท่าทางใจดีแล้วส่งยิ้มให้กับเขา “เอ่อ...ใช่ครับ” โคเยอร์ตอบกลับอย่างเร็ว แทบไม่ต้องคิด “แล้ว...มาหาคุณหนูคนไหนของบ้านนี้ล
โกหกเพื่อให้ได้เจอ... “ทำลูกฉันท้องอย่างนั้นเหรอ?” บอมพ์ถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงไปด้วยความดุดัน “ครับ...เพราะอย่างนั้นช่วยบอกผมได้ไหมครับว่าตอนนี้ลิลลี่อยู่ที่ไหน” โคเยอร์ยอมรับง่ายๆ และถามตามแผนที่ตัวเองคิดไว้ “คิดว่าทำกับลูกสาวฉันแบบนี้แล้วคนเป็นพ่อจะยอมให้เจอลูกเขาเหรอ” บอมพ์ถามกลับ “ผมจะรับผิดชอบครับ ผมมารับเมียและลูก ผมอาจจะผิดที่ทำแบบนั้น แต่ผมก็พร้อมจะรับไม่คิดจะหนีหรือทิ้ง” โคเยอร์พยายามบอกเหตุผลยืดยาว เพื่อให้คนเป็นพ่อของคนรักเข้าใจ “พี่บอมพ์ ช่วยลูกเถอะ เฟร์คิดว่ายัยลี่เองก็แก้เรื่องนี้คนเดียวไม่ไหวแน่ๆ เพราะยังไงยัยลี่ก็ต้องยอมเสียสละตัวเอง ทั้งๆ ที่ใจจะร้องไห้ขนาดไหนก็ตาม” เฟร์ย่าบอกกับผู้เป็นสามี เธอรู้จักนิสัยของลูกสาวดี ก็คงไม่ต่างอะไรจากตัวเธอเมื่อตอนสาวๆ “แล้วยัยดี้ล่ะ?” บอมพ์ถามเฟร์ย่ากลับ เขาเองก็เป็นห่วงลูกสาวทั้งสองเหมือนกัน หากลิลลี่ไม่เสียสละ แล้วเลดี้ล่ะ ต้องรับภาระของพี่สาวจะต้องรู้สึกอย่างไร “เราต้องไปช่วยกันหาทางออกให้ทุกคนครับ ผมจะไม่ปล่อยให้ลิลลี่ต้องแก้คนเดียว และผมก็จะไม่ปล่อยให้น้องเมียต้องรับภาระเองด้วย” โคเยอร์พูดด้วยน้ำเสี
โคยตัวจริง ลองจับดู! “ทางออกยังไงดีครับถึงจะดีกับทุกๆ ฝ่าย” เสียงทุ้มของโคเยอร์เอ่ยถามขึ้น เมื่อเขาฟังผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายคุยกันแล้ว เขาอยากจะเจอลิลลี่เต็มที่แล้ว “แล้วพ่อหนุ่มคนนี้เป็นใคร ไม่ใช่บรูคลินที่เป็นลูกชายของคุณบอมพ์นี่นา” ชีคฟาเอลถามขึ้น พร้อมกับมองไปที่ใบหน้าของชายหนุ่มรุ่นลูกที่ยืนอยู่ด้านหลังของบอมพ์และเฟร์ย่า “ผมเป็นแฟนของลิลลี่ครับ” โคเยอร์แนะนำตัวเองโดยที่ไม่รอให้บอมพ์หรือเฟร์ย่าแนะนำ “อ้อ คนนี้น่ะเหรอ แฟนหนูลี่ที่ตอนนี้นอนพักอยู่ที่เรือนรับรอง” ชีคคาลัยร่าเอ่ยขึ้น พร้อมกับยิ้มให้กับโคเยอร์ “ใช่แล้วค่ะ แกรบเร้าให้รีบมาหาลิลลี่วันนี้ ตอนแรกพี่บอมพ์ว่าจะเคลียร์งานอีกสองสามวันแล้วค่อยมา แต่โคเยอร์กลัวจะสายเกินไป ให้รีบมาที่นี่ก่อนที่จะแก้ไขไม่ทัน” เฟร์ย่าเสริม “ครับ...ผมมารับเมีย ไม่ทราบว่าตอนนี้ผมไปหาลิลลี่ได้หรือยังครับ” โคเยอร์ไม่อ้อมค้อม ขอไปหาลิลลี่ทันที “ยังไม่แต่งงานกันไม่ใช่หรือ? แล้วจะไปนอนเรือนเดียวกัน เตียงเดียวกันได้หรือ? ไม่ผิดผีหรือครับ” ชีคฟาเอลถามอย่างสงสัย พร้อมกับหันหน้าไปหาบอมพ์ “ก็ตามนั้นเลยครับ ครอบครัวผมไม่มีหรอกครับผิดผี
Special คิลเลอร์และเมแกน 3 ปีต่อมา “เห้ย!! โคเยอร์ทางนี้ๆ” เสียงกลุ่มเพื่อนชายที่โบกมือเรียกโคเยอร์อยู่ที่โต๊ะลายหินอ่อนใต้ต้นไม้ใหญ่ข้างตึกเรียนในคณะของเขา “พวกมึงยังไม่กลับบ้านกันอีกเหรอ ไม่มีเรียนแล้วนี่ กูก็ส่งงานเสร็จละ จบละ” โคเยอร์ถามเพื่อน วันนี้เขามาที่คณะ เพื่อมาส่งงานชิ้นสุดท้ายก่อนจบการศึกษา แต่พวกเพื่อนของเขาต้องเข้าเรียนเก็บชั่วโมงอีก หลังจากที่เขาแต่งงานและพักการเรียนไปได้สองปี เขาก็กลับเข้ามาเรียนใหม่จนจบได้ภายในปีเดียว “เพิ่งออกจากห้องเรียนเมื่อกี้ มารอเจอหลานกูก่อน มาๆ ให้กูอุ้มหน่อย” เพื่อนของเขาคนหนึ่งพูดขึ้น พร้อมกับเดินเข้ามาหาโคเยอร์ ที่ในอ้อมแขนนั้นมีเด็กน้อยรูปร่างจ้ำม่ำ หน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก ผิวขาวใส แก้มป่อง ผมสีดำขลับสั้นๆ แต่หยักศกเล็กน้อย ดวงตากลมโตบ้องแบ๊วสร้างความน่าเอ็นดูให้กับผู้ที่พบเห็นไม่น้อย “กูขออุ้มหน่อย” เพื่อนของเขาพูด ก่อนจะยื่นมือออกไปเพื่อจะเอาเด็กน้อยมาอุ้ม “มายุ่งกับลูกกูอีกแล้ว อยากอุ้มทำไมไม่มีเป็นของตัวเองกันวะ” โคเยอร์บ่นให้กับเพื่อน ที่รอจะเจอและอุ้มลูกเขา เมื่อรู้ว่าวันนี้เขาเอาลูกมาด้วย วันนี้ลิลลี่ไม่ว่าง
ลิลธิกาแต่งงานกับกฤตินนท์ นะ! (The End) “โคยมีอะไรจะบอกลี่ไหม?” เสียงของลิลลี่ที่นั่งอยู่ข้างคนขับ เอ่ยถามชายคนรักที่กำลังทอดสายตามองไปด้านหน้าท้องถนน “แต่งงานกับโคยนะลี่” โคเยอร์เอ่ยขอคนรักแต่งงานด้วยน้ำเสียงและใบหน้าจริงจัง พวงมาลัยรถถูกหักเข้าข้างทาง สภาพแวดล้อมโดยรอบที่มีแต่ป่าเขา ไร้ผู้คนและบ้านของผู้คนอยู่อาศัย เครื่องยนต์ของรถถูกดับสนิท โคเยอร์หันใบหน้าหล่อเหลาเข้าหาลิลลี่ที่ตอนนี้ก็หันมองเขาอยู่ด้วยเช่นกัน “โคยมั่นใจแล้วใช่ไหมถึงพูดมันออกมา” ลิลลี่ถามย้ำ ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายนั้นมั่นใจแค่ไหน ถึงขนาดเอาผู้ใหญ่มาคุยกับผู้ใหญ่ฝ่ายเธอถึงที่บ้าน “มั่นใจ 100% เลย โคยรักลี่ รักมาก และก็รักลูกด้วย ตอนนี้โคยมั่นใจแล้วด้วยว่าสามารถดูแลลี่กับลูกได้ตลอดไปแล้ว ไม่อดตายแน่ แค่โคยยังเรียนไม่จบ เลยพักการเรียนไว้ก่อน รอลูกคลอดแล้วค่อยกลับไปเรียน” โคเยอร์บอกกับคนรัก พร้อมกับยกมือหนาขึ้นลูบบริเวณหน้าท้องน้อยของคนรัก “มั่นใจแค่ไหนที่จะดูแลลี่ได้ตลอด” เธอถามกลับอีกรอบ “มั่นใจมาก ลี่ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้เลยนะ ถึงโคยจะยังเรียนไม่จบ แต่โคยก็มีบ้าน มีรถ มีธุรกิจเป็นขอ
จุดจบคนไม่สำนึก! “ถ้าเธอไม่รู้จักฉัน ลองถามพ่อของเธอดู!” เสียงทุ้มแค่นเสียงเป็นเชิงเย้ยหยันพูดกับน้ำขิงที่นั่งกอดผู้เป็นพ่ออยู่ที่พื้นเบื้องหน้าของทุกคน “ทำร้ายลูกกับหลานฉันอย่างหน้าตาเฉย ทั้งๆ ที่ลูกกับหลานของฉันยังไม่ได้ไปทำอะไรให้แม้แต่นิดเดียว เธอกล้ามากนะ คงยังไม่รู้จักฉันสินะ” บอมพ์พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่แฝงไว้ด้วยความน่ากลัว ทำให้น้ำขิงถึงกับขนลุกซู่ไปทั่วทั้งตัว “แล้วแกเป็นใคร มีสิทธิ์อะไรมารุมฉันกับพ่อแบบนี้” น้ำขิงมองพวกเขาด้วยสายตาแค้นเคือง “แล้วแกมีสิทธิ์อะไรมาทำร้ายลูกกับหลานของฉัน!” บอมพ์สวนกลับทันที อารมณ์โมโหเริ่มเก็บเอาไว้ไม่อยู่ จนลิลลี่สังเกตพ่อของตัวเองได้ “พ่อคะ...ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพ่อของโคยเถอะค่ะ ลี่ไม่ได้เป็นอะไรมาก” ลิลลี่รีบห้ามทัพ เมื่อเห็นว่าพ่อของตัวเองเริ่มโมโห “เดี๋ยวผมจัดการเองครับ” โคเยอร์รีบบอกพ่อของคนรัก แล้วค่อยๆ วางร่างเล็กให้ลงยืนที่พื้นอย่างเบาๆ มือเล็กของลิลลี่คว้าแขนของโคเยอร์เอาไว้ เหมือนเป็นการห้ามเบาๆ แบบไม่ต้องใช้เสียง สายตาคมก้มมองที่แขนของตัวเองก็เข้าใจได้ทันทีว่าคนรักต้องการอะไร “เดี๋ยวป๊าจัดการเอง” ค
ถ้าไม่รู้จักฉัน ลองถามพ่อเธอดู! “อาเขต!” โคเยอร์เอ่ยเรียกคนที่มาห้ามเขาไว้ ซึ่งเป็นพี่เลี้ยงของเขานั่นเอง แต่เขาก็ไม่รู้ว่าเขตนั้นตามเข้ามาตั้งแต่เมื่อไร เพราะเขามัวแต่สนใจคนที่อยู่ด้านในโกดัง “อย่าวู่วามครับนายน้อย หากบุ่มบ่ามเข้าไป คุณลิลลี่จะเป็นอันตรายได้” เขตบอกกับนายน้อยของตัวเอง “ผมโมโหจนลืม” โคเยอร์บอก เขาโมโหจนอยากจะจัดการคนทีี่มันทำกับลิลลี่เสียจนลืมนึกไปถึงความปลอดภัยของคนรักด้วย เพราะตอนนี้ลิลลี่อยู่ในมือของพวกมัน “หนะ...น้ำขิง!!” เสียงเล็กแหบของลิลลี่เอ่ยเรียกคนที่อยู่ตรงหน้าเธอ เธอเพิ่งฟื้นมาจากอาการสลบ เพราะลูกน้องของน้ำขิงเอาน้ำมาราดที่ตัวเธอจนรู้สึกตัวขึ้นมา “ฟื้นแล้วเหรอ? สำออยจริงนะ อุบัติเหตุแค่นี้ทำเป็นสลบ ทำไมไม่ตายไปเลยนะ!” เสียงน้ำขิงพูดเหน็บปนแช่งกับคนที่ถูกมัดมือมัดเท้า แต่พยายามยันตัวลุกขึ้นนั่ง “เธอ...จับฉันมาทำไม” ลิลลี่ถามคนที่จับเธอมา เธอไม่รู้ถึงสาเหตุที่ตัวเองโดนจับมา และไม่เข้าใจถึงสาเหตุที่ทำให้น้ำขิง เพื่อนของโคเยอร์โกรธเธอขนาดนี้ “ก็...จับมาให้เป็นเมียไอ้พวกนี้ไง 5555” น้ำขิงพูด พร้อมกับหัวเราะเสียงดังอย่างชอบใจ เมื่อคิดไป
บุกช่วย...ถล่มโกมินทร์ “กะ...โกดัง หลังโกมินทร์ กะ...กรุป...” เสียงของคีรีพึมพำบอกพี่ชาย ก่อนที่เธอจะสลบไม่ได้สติไปในที่สุด “โกมินทร์...!” โคเยอร์พึมพำชื่อบริษัทที่ได้ยินน้องสาวบอก เขารู้ได้ในทันทีเลยว่าคนที่เป็นตัวการทำเรื่องแบบนี้คือใคร “อาเขต! ฝากยัยคีด้วย” โคเยอร์บอกกับเขต ก่อนจะกลับไปขึ้นรถแล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว เขตอุ้มร่างคุณหนูที่เขาเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กๆ ด้วยเช่นกัน พาไปที่รถเพื่อส่งตัวไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด แต่เขาก็ไม่ลืมที่จะต่อสายหานายใหญ่ของตัวเองที่ตอนนี้อยู่บ้านของตระกูลอีแวนสัน รายงานเรื่องนี้ให้รู้เรื่องก่อน “นายครับ! เกิดเรื่องใหญ่แล้วครับ รถคุณหนูคีและคุณลิลลี่ถูกเบียดชนต้นไม้ ผมกำลังพาคุณหนูคีไปโรงพยาบาล ส่วนคุณลิลลี่ถูกจับตัวไปครับ” เขตรายงานเจ้านายแบบรัวๆ “เมื่อกี้แกว่ายังไงนะ?! แล้วลูกสะใภ้ฉันถูกจับไปที่ไหน มันเป็นใคร?!!” คิงส์ตะโกนเข้ามาในสายดังลั่น “โกดังหลังโกมินทร์กรุป ครับ” เขตไม่รอช้ารีบรายงานสถานที่ให้เจ้านายฟังทันที “เดี๋ยวกูไป!!” คิงส์บอกกับเขต “คุณไปดูลูกสาวที่โรงพยาบาลเถอะ ส่วนโกมินทร์กรุป เดี๋ยวผมไปจัดการเอง” บอมพ์กัดฟัน
คำบอกเล่า...และการปองร้าย! “พี่โคยเขารักพี่มากเลยนะคะ ที่สุดในชีวิตเลย” คีรีเอ่ยบอกพี่สะใภ้ตัวเองด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม พี่สะใภ้คนนี้คงไม่รู้ว่าตัวเธอนั้นมีอิทธิพลต่อพี่ชายของเธอมากแน่ๆ ถึงได้งอนได้ หากรู้ว่าความจริงที่เธอจะบอกก็คงเข้าใจอะไรในตัวพี่ชายของเธอได้มากขึ้น “ไม่ขนาดนั้นมั้ง” ลิลลี่หันมามองเด็กสาวแวบหนึ่ง ก่อนจะหันกลับไปมองยังเบื้องหน้า “ขนาดนั้นเลยแหละค่ะ” “แล้วเราน่ะเป็นน้องสาวแท้ๆ ของโคยเหรอ” ลิลลี่เปลี่ยนเรื่อง เธอไม่อยากฟังอะไรจากปากคนอื่น นอกจากเจ้าตัวที่จะหาทางมาอธิบายกับเธอเอง “ใช่ค่ะ คีชื่อเต็มๆ ว่า คีรี เป็นน้องสาวแท้ๆ ของพี่โคย อายุห่างกันประมาณ6-7 ปีเห็นจะได้” คีรีบอก “ถึงว่าพูดเก่งเหมือนโคยเลย” ลิลลี่บอกในขณะขับรถไปเรื่อยๆ “พี่ลี่คะ...พี่โคยไม่ใช่นักศึกษาตัวเปล่านะคะ คีรู้ว่าพี่อยากให้พี่โคยมาบอกเอง แต่คีอยากบอกว่าพี่โคยตั้งใจและรักพี่มากๆ มากจนยอมรับช่วงต่อธุรกิจสายดำของพ่อทั้งหมดเลย ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนแกจะขอรับแค่ธุรกิจขาวกับเทาบางส่วนเท่านั้น แล้วจะปล่อยให้สายดำเจ๊งหรือเงียบหายไปเอง ตระกูลของพี่ก็เป็นมาเฟียใหญ่เหมือนกัน พี่คงเข้าใจและก็มี
สู่ขอ...รวมสองตระกูล สายลมเย็นเบาๆ พัดผ่านเข้ามาทางหน้าต่างกว้างที่มีเพียงผ้าม่านลายลูกไม้สีขาวสะอาดที่ปลิวไสวด้วยลม แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องเข้ามาในห้อง กระทบเข้ากับร่างเล็กที่นอนหลับพริ้มมีความสุขอยู่บนเตียงหนานุ่ม “ตื่นหรือยังลี่ ถ้าตื่นแล้วก็ลงไปอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อย แล้วลงมาด้านล่าง โคเยอร์มาแล้ว” เสียงอบอุ่นของเฟร์ย่า หญิงวัยกลางคนเดินเข้ามาบอกกับลูกสาวที่นอนหลับพักผ่อน หลังจากกลับมาจากโมทีธได้สัปดาห์กว่าๆ “ใครมานะคะแม่?” ลิลลี่งัวเงียถามผู้เป็นแม่ เมื่อได้ยินไม่ถนัด “โคเยอร์มา” เฟร์ย่าตอบ “ไม่ลง!” ลิลลี่ปฏิเสธทันทีเมื่อรู้ว่าแขกที่มาหาเธอนั้นเป็นใคร โคเยอร์ที่หายหน้าหายตาไปไม่ติดต่อมาเลยสักครั้งอาทิตย์กว่าๆ หลังจากที่กลับจากโมทีธ “ไม่ได้! มีแขกผู้ใหญ่มาด้วย ทำไมถึงจะไม่ลงไป” เฟร์ย่าดุลูกสาวเบาๆ “ก็...จู่ๆ ก็หายไปเลย ไม่ติดต่อมาแม้แต่ครั้งเดียว” ลิลลี่ตอบ พร้อมกับใบหน้าที่งอด้วยความงอน “จะงอนโคเยอร์ก็งอนไป แต่...ต้องลงไปรับแขกผู้ใหญ่ ส่วนเรื่องงอนเดี๋ยวให้โคเยอร์เป็นคนง้อเอง” เฟร์ย่าบอก จนลิลลี่ต้องลุกขึ้นไปจัดการธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย และลงไปด้านล่างทั
รักพ่อของโคยน้อย (NC) “เปลี่ยนเป็นการเพิ่มความแข็งแรงให้ลูก ก่อนกลับไทยยังไงล่ะ!” คำพูดและรอยยิ้มเจ้าเล่ห์กรุ้มกริ่มผุดขึ้นที่ใบหน้าหล่อเหลาของโคเยอร์ “หมะ...หมายความว่ายังไงเหรอ” ลิลลี่ถามด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ แม้จะรู้อยู่แล้วว่าเขาหมายถึงอะไร “ก็หมายความว่าแบบนี้ไง...” “อ๊ะ...อุ๊บ!” เสียงของลิลลี่เล็ดลอดออกมาได้แต่นั้น เมื่อถูกริมฝีปากหนาได้รูปฉกจูบลงมาประกบที่ริมฝีปากบางสีระเรื่อ ลิ้นอุ่นและนุ่มนวลวนเกี่ยวกระหวัดไปรอบโพรงปากเล็ก เพื่อกวาดหาน้ำหวานอย่างชอบใจ ริมฝีปากหนาบดขยี้จูบอย่างดูดดื่ม หมับ! พรึ่บ! ในขณะที่ริมฝีปากของเขากำลังดูดกลืนน้ำหวาน ตักตวงความหวานจากเธออยู่นั้น โคเยอร์จับแขนเรียวทั้งสองข้าง ก่อนจะค่อยๆ ผลักคนตัวเล็กให้นอนลงบนที่นอนนุ่มอย่างไม่แรงมากนัก “คะ...โคย ตอนนี้เลยเหรอ!” ลิลลี่ถามออกมา เขาจะมาทำเรื่องแบบนี้ที่นี่ ตอนนี้คงไม่สะดวก “อื้อ!!” ริมฝีปากหนาประกบลงบนปากบาง แรงบดขยี้ดุเดือดจากแรงจูบของคนบนร่างที่ตอนนี้คือ ‘พ่อของลูก’ ในท้องของเธอ หัวใจของคนตัวเล็กเต้นไม่เป็นจังหวะเหมือนจะระเบิดออกมาอยู่นอกอกเลยทีเดียว โคเยอร์บดขยี้จูบปากคนต
โคยน้อยกำลังมา... “ดี้จะแต่งงาน หลังจากที่พี่ลี่แต่งงานแล้วเท่านั้นค่ะ” เลดี้พูดสิ่งที่ตัวเองต้องการเป็นอย่างสุดท้ายออกมา “อะไรนะ?!” เสียงของลิลลี่อุทานพูดออกมาอย่างตกใจ เมื่อได้ยินเสียงของน้องสาวพูดออกมาอย่างนั้น “ดี้บอกว่าดี้จะแต่งงานกับเจ้าชาย หลังจากที่พี่ลี่แต่งแล้วเท่านั้น ก็ดี้เป็นน้องคนสุดท้อง ก็แต่งคนสุดท้าย” เลดี้บอก “แล้วพี่ของเจ้าจะแต่งเมื่อไร ถ้าหากว่าช้า ข้าคงไม่ทน” เจ้าชายฟาฮัซพูดขึ้น “ฉัน...ยังไม่มีความคิดที่จะแต่งเลยนะ” ลิลลี่บอกเป็นเชิงปฏิเสธไปในตัว ก่อนจะปรายตามองไปโคเยอร์เพื่อดูท่าทางท่าทีของเขา “เราสองคนจะแต่งงานกันหลังจากกลับประเทศไทยทันที เดี๋ยวผมจะให้ผู้ใหญ่มาคุยและหาฤกษ์เลยครับ” โคเยอร์พูดออกมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มดีอกดีใจ “แต่โคยยังเรียนอยู่เลยนะ แล้วอีกอย่างพ่อกับแม่ก็ยังไม่ได้ตอบตกลงเลยด้วยซ้ำ” ลิลลี่รีบบอกอย่างละล่ำละลัก “ลี่หมายถึงพ่อของลี่น่ะเหรอ โคยคุยเรียบร้อยแล้ว” โคเยอร์พูดพร้อมกับชี้ไปที่มุมปากที่มีเลือดแห้งติดอยู่ “แต่ลี่ยังไม่อยากแต่ง ยังมีหลายอย่างที่ยังไม่ได้ทำเลย อุก...อ้วก!!!” ในขณะที่ลิลลี่กำลังปฏิเสธและคัดค้านการแ