บนอ่างล้างหน้า (NC) “ลี่จ๋า...ขออีกนะ ผมไม่ไหว...” “อืม...อาาาา” ลิลลี่ยกวงแขนเรียวเกี่ยวรอบคอเขา โน้มคอแกร่งของโคเยอร์เอาไว้ ก่อนที่จะดึงโน้มเอาใบหน้าของเขาลงมาใกล้ใบหน้าของเธอ ก่อนที่จะเริ่มประกบปากจูบเขาก่อนอย่างดูดดื่ม ทั้งคู่จูบกันอย่างเร่าร้อนดูดดื่มตามแรงปรารถนา สองมือหนาของโคยเริ่มลูบไล้ไปตามแผ่นหลังเรียบเนียนเปลือยเปล่าของลิลลี่เบาๆ ร่างเล็กสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อมืออุ่นร้อนของโคยสัมผัสแผ่นหลังของเธอ อารมณ์ที่เธอนั้นพยายามอดกลั้นฮึบไว้สุดท้ายมันก็แตกกระเจิดกระเจิงไปหมด โคยย่อตัวลงเล็กน้อย ก้มอุ้มช้อนร่างของลิลลี่ขึ้นในท่าเจ้าสาว ก่อนจะพาเธอเดินไปที่อ่างล้างหน้าอย่างเงียบๆ “ขอไม่นาน เสร็จแล้วเดี๋ยวค่อยไปมหาลัยพร้อมกัน” เขากระซิบแผ่วเบาข้างหู เมื่ออุ้มคนตัวเล็กมาวางให้คนตัวเล็กนั่งหันหน้ามาหาเขาบนอ่างล้างหน้า ชายหนุ่มวางร่างบอบบางของลิลลี่ที่อ่างล้างหน้าเรียบร้อยแล้ว “ลี่ยังอาบน้ำไม่เสร็จเลย” เธอโอบรอบคอแกร่งของโคยเอาไว้ เพราะกลัวจะร่วงลงจากอ่างสูง ก่อนจะกระซิบบอกเขาเบาๆ ทำให้หน้าอกกลมขนาดสมส่วนกับตัวถูไถกับอกแกร่งของเขาจนมันกลายเป็นความเซ็กซี่ยั่วยวนในสา
คู่หมั้นอีกครั้ง... รถสปอร์ตคันหรูแล่นมาจอดที่หน้าคาเฟ่แห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีมีผู้คนพลุกพล่านไปมาดีที่สุดนั่นคือ หน้ามหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งนั่นเอง แม้ว่าคาเฟ่แห่งนี้จะเป็นเพียงคาเฟ่ที่ไม่ใหญ่มากนัก แต่ก็ขายดิบขายดีตลอดทั้งวัน เนื่องจากมีทั้งเครื่องดื่ม ขนม มีที่ถ่ายรูปสวยงามตามที่สาวๆ ในมหาวิทยาลัยชอบ รวมถึงมีที่เอาไว้ให้นั่งสบายๆ นั่งทำงานสำหรับนักศึกษาด้วย “เดี๋ยวโคยเรียนเสร็จแล้วจะกลับมารับ กลับบ้านพร้อมกันนะ” โคเยอร์บอกกับหญิงสาวที่นั่งอยู่ด้านข้างคนขับ หลังจากที่ขับมาส่งเธอที่หน้าคาเฟ่ของเธอเอง “ลี่ต้องกลับไปกับนาย...เอ่อ...โคยอีกเหรอ ลี่กลับบ้านตัวเองได้แล้วมั้ง” ลิลลี่บอก ในขณะที่กำลังก้าวลงจากรถของโคเยอร์ “ไม่!! ยังกลับบ้านไม่ได้ เป็นเมียผมแล้ว ก็ต้องอยู่กับผมสิ!เดี๋ยวเรียนเสร็จแล้วมารับ” พูดจบ โคเยอร์ก็ปิดกระจกขึ้น แล้วขับรถออกไปในทันที ลิลลี่มองตามรถคันหรูที่ขับออกไปอย่างรวดเร็วตามประสาวัยรุ่นขับรถ เธอหันหลังเดินกลับเข้าไปในคาเฟ่ เพื่อเข้าไปดูความเรียบร้อย พร้อมกับพักผ่อนอยู่ภายในร้าน ครืดดดดด ครืดดดดดด เสียงโทรศัพท์มือถือเครื่องดำที่ว
หญิงสาวผู้เข้ามาใหม่... “แต่...พ่อคะ” ลิลลี่กำลังจะบอกผู้เป็นพ่อ แต่ยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไรออกไป เสียงทุ้มเข้มก็ดังขัดขึ้นมาเสียก่อน “ไม่ให้ไป!!” เธอกำลังจะบอกเหตุผลกับคนเป็นพ่อไปตรงๆ เพราะเธอเองก็โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว พ่อคงเข้าใจในเรื่องความรัก แต่ยังไม่ทันที่จะได้ถามหรือบอกอะไรออกไป กลับมีเสียงหนึ่งดังขึ้นทางด้านหลัง ตรงประตูเข้าห้องพักส่วนตัวของเธอขัดขึ้นมาเสียก่อน ใบหน้าเล็กหันไปทางต้นเสียงอย่างตกใจ ด้วยความตกใจจนทำอะไรไม่ถูก บวกกับความกลัวว่าคนในสายจะได้ยินเสียงนี้ มือบางจึงรีบกดตัดสายของผู้เป็นพ่อไปทันที โดยที่ยังไม่ได้บอกอะไร และก็ยังคุยไม่รู้เรื่องว่าองค์รัชทายาทคนนั้นจะมารับเธอเมื่อไร “โคย...” ลิลลี่พึมพำเรียกชื่อคนที่เพิ่งเข้ามาใหม่อย่างตกใจ “จะไปไหน? ไปกับใคร ไม่ให้ไป! แล้วเมื่อกี้คุยกับใคร?” โคเยอร์รัวคำถามออกไปรัวๆ ด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่กำลังหงุดหงิด จนลิลลี่ไม่รู้จะตอบคำถามไหนของเขาก่อนดี “ไหนว่าไปเรียนไง” ลิลลี่ไม่ตอบคำถามของเขา แต่กลับหลีกเลี่ยงเป็นถามเขาแทน “มีเรียนบ่าย ดูตารางเรียนผิด!” โคเยอร์ตอบกลับด้วยใบหน้าบูดบึ้ง เขาทั้งหงุดหงิดตัวเองที่
แม่คิงแคป! “นายมากินข้าวเหรอ? กับ...เอ่อ...” หญิงสาวในชุดนักศึกษาเอ่ยถามขึ้น พร้อมกับมองไปที่ลิลลี่สลับกับโคเยอร์ด้วยใบหน้าที่สงสัยและสายตาเป็นคำถาม “เพื่อนโคยเหรอ?” เสียงหวานของลิลลี่ที่หันมาถามโคเยอร์อย่างหน้าตาใสซื่อ เพราะถ้าหากเป็นเพื่อนของโคเยอร์จริงๆ เธอก็จะชวนนั่งกินข้าวด้วย “จะตอบใครก่อนดีเนี่ย ถามทีละคนได้ไหม” โคเยอร์ไม่รู้จะตอบใครก่อน อีกคนถามเขายังไม่ทันจะได้ตอบ อีกคนก็ถามขึ้นมาเสียก่อน “นายมากินข้าวกับพี่สาวเหรอ เรียกโคยซะสนิทเชียว” หญิงสาวชุดนักศึกษาคนเดิมถามอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เปลี่ยนเป็นคำถามที่ยัดเยียดให้ลิลลี่เป็นพี่สาวเสียอย่างนั้น “ลี่ไม่ใช่พี่สาวฉัน แต่เป็นมะ...” “แม่!!” ยังไม่ทันที่โคเยอร์จะได้พูดตอบหญิงสาวในชุดนักศึกษาได้จบประโยค ลิลลี่ที่รู้ว่าโคเยอร์จะพูดคำว่าอะไรออกมาจึงชิงพูดขัดเอาไว้ก่อน “แม่อะไรของลี่เนี่ย? ลี่จะมาเป็นแม่โคยได้ยังไง” โคเยอร์ถามลิลลี่กลับทันที “แม่...” ลิลลี่นึกไม่ออกว่าจะเป็นแม่อะไรดี ก็เขาเล่นจะพูดคำว่าเมียออกมา แล้วเธอเองก็ไม่รู้จะใช้คำว่าอะไรดีที่เป็นตัวมอม้า นอกจากคำว่าแม่เท่านั้น “แม่อะไร? อย่าบอกนะว่าเป็
เขาขึ้นมาเพราะฉัน... ทางด้านโคเยอร์ เมื่อเขาก้าวเข้ามาในห้องโถงใหญ่ที่มีไว้สำหรับเรียนรวม ที่มีทั้งนักศึกษาห้องของเขาและสาขาอื่นรวมอยู่ด้วย ตอนแรกเขาตั้งใจจะเดินไปนั่งอยู่มุมหนึ่งของห้อง หลบมุมไม่พบผู้คน ความจริงแล้วเขาไม่ต้องเข้าเรียนเขาก็เข้าใจนะ เพราะเขาเป็นคนค่อนข้างฉลาด หัวไว ทำได้แม้จะไม่ได้อ่านหนังสือสอบก็ตาม แต่ที่เขาต้องเข้าเรียน เพราะว่าแค่มาเช็กชื่อเก็บชั่วโมงเท่านั้น “โคเยอร์! ทางนี้ๆ” เสียงเล็กแหลมของขิงดังขึ้นอยู่กลางห้องโถงเรียนขนาดใหญ่ พร้อมกับโบกมือหยอยๆ เรียกเขาให้มานั่งทางที่ตนเองและเพื่อนคนอื่นๆ นั่งอยู่ โคเยอร์ตัดสินใจเดินเข้าไปหา แต่ไม่ใช่เดินเข้าไปหาหญิงสาวคนที่เอ่ยเรียกเขา แต่เขาเข้าไปหาเพื่อนชายคนอื่นที่อยู่ห้องเรียนเดียวกันต่างหาก “ไอ้โคเยอร์ วันนี้เรียนเสร็จ ไปกินเหล้ากับพวกกูนะ กูจะอุดหนุนสินค้ามึง” เพื่อนคนหนึ่งพูดขึ้นชวน เมื่อโคเยอร์เดินมาถึงแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ในกลุ่มนั้น “ไม่ไป...กูมีนัดแล้ว” โคเยอร์พูดอย่างไม่ใส่ใจ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่มีนัดกับใคร เขาก็ปฏิเสธพวกมันอยู่ดี “ไปเถอะนะโคเยอร์ พอดีวันเกิดขิงด้วย ไปอวยพรให้ขิงหน่อย” ข
มึงส่งอะไรหาเมียกู! โคเยอร์หันกลับมามองเหล้าแก้วที่อยู่ในมือของขิงด้วยใบหน้าที่นิ่ง ไม่บ่งบอกความรู้สึกตอบรับหรือปฏิเสธใดใด “ฉันไม่กิน!” โคเยอร์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงนิ่ง แต่เด็ดขาดทันที “เอาหน่อยน่าไอ้โคเยอร์ แก้วเดียวไม่เมาหรอก อีกอย่างกูจะขอทดลองสินค้าก่อน ถึงตอนนั้นมึงค่อยกลับ นั่งกินรอกูก่อน” เพื่อนคนหนึ่งบอกเขา พร้อมกับหยิบสินค้าเดินเข้าไปด้านในอีกฟากหนึ่งของโซนคอนโดที่ขิงใช้พัก พร้อมกับเพื่อนสาวของขิงที่อยู่ในนั้นด้วย โคเยอร์ที่ได้ยินแบบนั้น เขาก็ตัดสินใจทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาที่อยู่ข้างหน้า ตัวเดียวกับที่เพื่อนคนที่เพิ่งลุกไปทดลองสินค้าเคยนั่ง ขิงรีบนั่งลงข้างๆ เขาทันที แถมยังยื่นแก้วเหล้าให้เขาไม่เลิก คะยั้นคะยอจะให้เขาดื่มมันให้ได้ “พูดไม่รู้เรื่องเหรอ บอกว่าไม่กินไง!” เสียงโคเยอร์เข้มขึ้น หันมาพูดกับขิง “กินหน่อยได้ไหม ถือว่าเป็นของขวัญวันเกิดให้ขิงก็ได้” ขิงงัดไม้นี้มาใช้ เพราะคิดว่าเผื่อเขาจะใจอ่อนยอมให้เธอเหมือนกับผู้ชายคนอื่น ทั่วๆ ไป “น่ารำคาญ!” โคเยอร์สบถออกมา ก่อนที่จะยื่นมือไปรับแก้วเหล้าที่อยู่ในมือของขิงมายกกระดกดื่มจนหมดแก้ว เพื่อตัดความรำคาญให้ม
จะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย! “กูถามว่ามึงส่งอะไรไปหาเมียกู!!!” เสียงของโคเยอร์ที่หันมาหาขิงแล้วตวาดกร้าวดังลั่น ใบหน้าที่หล่อเหลาตอนนี้เปลี่ยนเป็นดุเข้ม ไร้ความอ่อนโยน ขี้เล่นเหมือนทุกครั้งที่เพื่อนๆ เคยเห็นมา “มะ...เมียอย่างนั้นเหรอ?” ขิงส่งเสียงตะกุกตะกัก โคเยอร์ใช้มือหนาบีบเข้าที่ใบหน้าของขิงอย่างแรง จนใบหน้าของหญิงสาวบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด เหมือนอารมณ์ของเขาตอนนี้มันพุ่งทะยานขึ้นสูงจนเขาไม่สามารถห้ามความโกรธเอาไว้ได้ในตอนนี้ “กูถามว่าเมื่อกี้มึงส่งอะไรไปให้เมียกู!” เขาย้ำคำถามเดิม และออกแรงบีบไปที่แก้มของขิงอย่างไม่มีออมแรง “ขิงไม่รู้! ขิงไม่ได้ส่งอะไรไปเลย ขิงแค่จะส่งข้อความไปหาอาเขตของโคเยอร์ แต่มันอาจจะไปโดนเบอร์ของผู้หญิงคนนั้นเข้าก็ได้” ขิงพยายามจะแก้ตัว พยายามจะอธิบายให้เขาเข้าใจว่าเธอไม่ได้ตั้งใจ “อย่ามายุ่งกับเมียกูอีก ถ้าไม่อยากตาย!” พูดจบ โคเยอร์ยันตัวเองลุกขึ้น ผละออกจากขิงแล้วจะเดินออกจากห้องของเธอทันที “คะ...โคเยอร์ นายจะกลับไหวเหรอ นอนที่นี่ก่อน พรุ่งนี้ค่อยกลับก็ได้ หรือ...รอให้หายก่อนค่อยกลับก็ยังทัน ผู้หญิงคนนั้นคงไม่เร่งให้นายรีบกลับ
ไม่ตายก็ขึ้นสวรรค์ได้ (NC) ปัง!!! เสียงประตูห้องคอนโดของลิลลี่ถูกผลักเปิดด้วยมือหนาของโคเยอร์ เกิดเป็นเสียงดังสนั่นลั่นไปทั่วทั้งชั้น แต่ดีที่ชั้นนี้เป็นของลิลลี่คนเดียว เพราะพ่อของเธอซื้อทั้งชั้นให้กับเธอ ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่อยากให้ใครมาวุ่นวายกับลูกสาว ร่างหญิงสาวและชายหนุ่มก้าวเข้ามาในโซนของห้องนอน พร้อมกับปิดประตูอย่างไม่ได้ใส่ใจมากนัก ทำให้ประตูห้องไม่ได้ปิดสนิท ร่างหนากดร่างของลิลลี่ให้แผ่นหลังบางไปติดกับกำแพงห้องไม่แรงมากนัก ทั้งๆ ที่อารมณ์ตอนนี้ของเขานั้นพลุกพล่านจนแทบจะยับยั้งตัวเองไม่ไหว ร่างสูงที่ยืนคล่อมคนตัวเล็กเอาไว้ให้เธออยู่ในวงแขนแกร่งทั้งสองข้าง โคเยอร์ที่ตอนนี้เหงื่อออกเต็มตัว และผุดขึ้นที่หน้าผากจนเปียกโชกเหมือนตากฝนมาก่อน เสียงหายใจหอบแรงเสียงดังฟืดฟาด สลับกับเสียงครางทุ้มต่ำสะกดกลั้นไว้ในลำคอ อาการเหมือนคนร้อนมาก “นี่...โคยไม่ได้เมาแน่นะ” ร่างบอบบางในวงล้อมแขนเอ่ยถามขึ้นอย่างเป็นห่วง “ไม่ได้เมา โคยโดนวางยา” เขาบอกกับคนตัวเล็กด้วยเสียงแหบพร่า “โดนวางยางั้นเหรอ โคยต้องไปโรงพยาบาล!” ลิลลี่ได้ยินแค่นั้น เธอก็คิดได้อย่างเดียวคือต้องพา
Special คิลเลอร์และเมแกน 3 ปีต่อมา “เห้ย!! โคเยอร์ทางนี้ๆ” เสียงกลุ่มเพื่อนชายที่โบกมือเรียกโคเยอร์อยู่ที่โต๊ะลายหินอ่อนใต้ต้นไม้ใหญ่ข้างตึกเรียนในคณะของเขา “พวกมึงยังไม่กลับบ้านกันอีกเหรอ ไม่มีเรียนแล้วนี่ กูก็ส่งงานเสร็จละ จบละ” โคเยอร์ถามเพื่อน วันนี้เขามาที่คณะ เพื่อมาส่งงานชิ้นสุดท้ายก่อนจบการศึกษา แต่พวกเพื่อนของเขาต้องเข้าเรียนเก็บชั่วโมงอีก หลังจากที่เขาแต่งงานและพักการเรียนไปได้สองปี เขาก็กลับเข้ามาเรียนใหม่จนจบได้ภายในปีเดียว “เพิ่งออกจากห้องเรียนเมื่อกี้ มารอเจอหลานกูก่อน มาๆ ให้กูอุ้มหน่อย” เพื่อนของเขาคนหนึ่งพูดขึ้น พร้อมกับเดินเข้ามาหาโคเยอร์ ที่ในอ้อมแขนนั้นมีเด็กน้อยรูปร่างจ้ำม่ำ หน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก ผิวขาวใส แก้มป่อง ผมสีดำขลับสั้นๆ แต่หยักศกเล็กน้อย ดวงตากลมโตบ้องแบ๊วสร้างความน่าเอ็นดูให้กับผู้ที่พบเห็นไม่น้อย “กูขออุ้มหน่อย” เพื่อนของเขาพูด ก่อนจะยื่นมือออกไปเพื่อจะเอาเด็กน้อยมาอุ้ม “มายุ่งกับลูกกูอีกแล้ว อยากอุ้มทำไมไม่มีเป็นของตัวเองกันวะ” โคเยอร์บ่นให้กับเพื่อน ที่รอจะเจอและอุ้มลูกเขา เมื่อรู้ว่าวันนี้เขาเอาลูกมาด้วย วันนี้ลิลลี่ไม่ว่าง
ลิลธิกาแต่งงานกับกฤตินนท์ นะ! (The End) “โคยมีอะไรจะบอกลี่ไหม?” เสียงของลิลลี่ที่นั่งอยู่ข้างคนขับ เอ่ยถามชายคนรักที่กำลังทอดสายตามองไปด้านหน้าท้องถนน “แต่งงานกับโคยนะลี่” โคเยอร์เอ่ยขอคนรักแต่งงานด้วยน้ำเสียงและใบหน้าจริงจัง พวงมาลัยรถถูกหักเข้าข้างทาง สภาพแวดล้อมโดยรอบที่มีแต่ป่าเขา ไร้ผู้คนและบ้านของผู้คนอยู่อาศัย เครื่องยนต์ของรถถูกดับสนิท โคเยอร์หันใบหน้าหล่อเหลาเข้าหาลิลลี่ที่ตอนนี้ก็หันมองเขาอยู่ด้วยเช่นกัน “โคยมั่นใจแล้วใช่ไหมถึงพูดมันออกมา” ลิลลี่ถามย้ำ ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายนั้นมั่นใจแค่ไหน ถึงขนาดเอาผู้ใหญ่มาคุยกับผู้ใหญ่ฝ่ายเธอถึงที่บ้าน “มั่นใจ 100% เลย โคยรักลี่ รักมาก และก็รักลูกด้วย ตอนนี้โคยมั่นใจแล้วด้วยว่าสามารถดูแลลี่กับลูกได้ตลอดไปแล้ว ไม่อดตายแน่ แค่โคยยังเรียนไม่จบ เลยพักการเรียนไว้ก่อน รอลูกคลอดแล้วค่อยกลับไปเรียน” โคเยอร์บอกกับคนรัก พร้อมกับยกมือหนาขึ้นลูบบริเวณหน้าท้องน้อยของคนรัก “มั่นใจแค่ไหนที่จะดูแลลี่ได้ตลอด” เธอถามกลับอีกรอบ “มั่นใจมาก ลี่ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้เลยนะ ถึงโคยจะยังเรียนไม่จบ แต่โคยก็มีบ้าน มีรถ มีธุรกิจเป็นขอ
จุดจบคนไม่สำนึก! “ถ้าเธอไม่รู้จักฉัน ลองถามพ่อของเธอดู!” เสียงทุ้มแค่นเสียงเป็นเชิงเย้ยหยันพูดกับน้ำขิงที่นั่งกอดผู้เป็นพ่ออยู่ที่พื้นเบื้องหน้าของทุกคน “ทำร้ายลูกกับหลานฉันอย่างหน้าตาเฉย ทั้งๆ ที่ลูกกับหลานของฉันยังไม่ได้ไปทำอะไรให้แม้แต่นิดเดียว เธอกล้ามากนะ คงยังไม่รู้จักฉันสินะ” บอมพ์พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่แฝงไว้ด้วยความน่ากลัว ทำให้น้ำขิงถึงกับขนลุกซู่ไปทั่วทั้งตัว “แล้วแกเป็นใคร มีสิทธิ์อะไรมารุมฉันกับพ่อแบบนี้” น้ำขิงมองพวกเขาด้วยสายตาแค้นเคือง “แล้วแกมีสิทธิ์อะไรมาทำร้ายลูกกับหลานของฉัน!” บอมพ์สวนกลับทันที อารมณ์โมโหเริ่มเก็บเอาไว้ไม่อยู่ จนลิลลี่สังเกตพ่อของตัวเองได้ “พ่อคะ...ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพ่อของโคยเถอะค่ะ ลี่ไม่ได้เป็นอะไรมาก” ลิลลี่รีบห้ามทัพ เมื่อเห็นว่าพ่อของตัวเองเริ่มโมโห “เดี๋ยวผมจัดการเองครับ” โคเยอร์รีบบอกพ่อของคนรัก แล้วค่อยๆ วางร่างเล็กให้ลงยืนที่พื้นอย่างเบาๆ มือเล็กของลิลลี่คว้าแขนของโคเยอร์เอาไว้ เหมือนเป็นการห้ามเบาๆ แบบไม่ต้องใช้เสียง สายตาคมก้มมองที่แขนของตัวเองก็เข้าใจได้ทันทีว่าคนรักต้องการอะไร “เดี๋ยวป๊าจัดการเอง” ค
ถ้าไม่รู้จักฉัน ลองถามพ่อเธอดู! “อาเขต!” โคเยอร์เอ่ยเรียกคนที่มาห้ามเขาไว้ ซึ่งเป็นพี่เลี้ยงของเขานั่นเอง แต่เขาก็ไม่รู้ว่าเขตนั้นตามเข้ามาตั้งแต่เมื่อไร เพราะเขามัวแต่สนใจคนที่อยู่ด้านในโกดัง “อย่าวู่วามครับนายน้อย หากบุ่มบ่ามเข้าไป คุณลิลลี่จะเป็นอันตรายได้” เขตบอกกับนายน้อยของตัวเอง “ผมโมโหจนลืม” โคเยอร์บอก เขาโมโหจนอยากจะจัดการคนทีี่มันทำกับลิลลี่เสียจนลืมนึกไปถึงความปลอดภัยของคนรักด้วย เพราะตอนนี้ลิลลี่อยู่ในมือของพวกมัน “หนะ...น้ำขิง!!” เสียงเล็กแหบของลิลลี่เอ่ยเรียกคนที่อยู่ตรงหน้าเธอ เธอเพิ่งฟื้นมาจากอาการสลบ เพราะลูกน้องของน้ำขิงเอาน้ำมาราดที่ตัวเธอจนรู้สึกตัวขึ้นมา “ฟื้นแล้วเหรอ? สำออยจริงนะ อุบัติเหตุแค่นี้ทำเป็นสลบ ทำไมไม่ตายไปเลยนะ!” เสียงน้ำขิงพูดเหน็บปนแช่งกับคนที่ถูกมัดมือมัดเท้า แต่พยายามยันตัวลุกขึ้นนั่ง “เธอ...จับฉันมาทำไม” ลิลลี่ถามคนที่จับเธอมา เธอไม่รู้ถึงสาเหตุที่ตัวเองโดนจับมา และไม่เข้าใจถึงสาเหตุที่ทำให้น้ำขิง เพื่อนของโคเยอร์โกรธเธอขนาดนี้ “ก็...จับมาให้เป็นเมียไอ้พวกนี้ไง 5555” น้ำขิงพูด พร้อมกับหัวเราะเสียงดังอย่างชอบใจ เมื่อคิดไป
บุกช่วย...ถล่มโกมินทร์ “กะ...โกดัง หลังโกมินทร์ กะ...กรุป...” เสียงของคีรีพึมพำบอกพี่ชาย ก่อนที่เธอจะสลบไม่ได้สติไปในที่สุด “โกมินทร์...!” โคเยอร์พึมพำชื่อบริษัทที่ได้ยินน้องสาวบอก เขารู้ได้ในทันทีเลยว่าคนที่เป็นตัวการทำเรื่องแบบนี้คือใคร “อาเขต! ฝากยัยคีด้วย” โคเยอร์บอกกับเขต ก่อนจะกลับไปขึ้นรถแล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว เขตอุ้มร่างคุณหนูที่เขาเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กๆ ด้วยเช่นกัน พาไปที่รถเพื่อส่งตัวไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด แต่เขาก็ไม่ลืมที่จะต่อสายหานายใหญ่ของตัวเองที่ตอนนี้อยู่บ้านของตระกูลอีแวนสัน รายงานเรื่องนี้ให้รู้เรื่องก่อน “นายครับ! เกิดเรื่องใหญ่แล้วครับ รถคุณหนูคีและคุณลิลลี่ถูกเบียดชนต้นไม้ ผมกำลังพาคุณหนูคีไปโรงพยาบาล ส่วนคุณลิลลี่ถูกจับตัวไปครับ” เขตรายงานเจ้านายแบบรัวๆ “เมื่อกี้แกว่ายังไงนะ?! แล้วลูกสะใภ้ฉันถูกจับไปที่ไหน มันเป็นใคร?!!” คิงส์ตะโกนเข้ามาในสายดังลั่น “โกดังหลังโกมินทร์กรุป ครับ” เขตไม่รอช้ารีบรายงานสถานที่ให้เจ้านายฟังทันที “เดี๋ยวกูไป!!” คิงส์บอกกับเขต “คุณไปดูลูกสาวที่โรงพยาบาลเถอะ ส่วนโกมินทร์กรุป เดี๋ยวผมไปจัดการเอง” บอมพ์กัดฟัน
คำบอกเล่า...และการปองร้าย! “พี่โคยเขารักพี่มากเลยนะคะ ที่สุดในชีวิตเลย” คีรีเอ่ยบอกพี่สะใภ้ตัวเองด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม พี่สะใภ้คนนี้คงไม่รู้ว่าตัวเธอนั้นมีอิทธิพลต่อพี่ชายของเธอมากแน่ๆ ถึงได้งอนได้ หากรู้ว่าความจริงที่เธอจะบอกก็คงเข้าใจอะไรในตัวพี่ชายของเธอได้มากขึ้น “ไม่ขนาดนั้นมั้ง” ลิลลี่หันมามองเด็กสาวแวบหนึ่ง ก่อนจะหันกลับไปมองยังเบื้องหน้า “ขนาดนั้นเลยแหละค่ะ” “แล้วเราน่ะเป็นน้องสาวแท้ๆ ของโคยเหรอ” ลิลลี่เปลี่ยนเรื่อง เธอไม่อยากฟังอะไรจากปากคนอื่น นอกจากเจ้าตัวที่จะหาทางมาอธิบายกับเธอเอง “ใช่ค่ะ คีชื่อเต็มๆ ว่า คีรี เป็นน้องสาวแท้ๆ ของพี่โคย อายุห่างกันประมาณ6-7 ปีเห็นจะได้” คีรีบอก “ถึงว่าพูดเก่งเหมือนโคยเลย” ลิลลี่บอกในขณะขับรถไปเรื่อยๆ “พี่ลี่คะ...พี่โคยไม่ใช่นักศึกษาตัวเปล่านะคะ คีรู้ว่าพี่อยากให้พี่โคยมาบอกเอง แต่คีอยากบอกว่าพี่โคยตั้งใจและรักพี่มากๆ มากจนยอมรับช่วงต่อธุรกิจสายดำของพ่อทั้งหมดเลย ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนแกจะขอรับแค่ธุรกิจขาวกับเทาบางส่วนเท่านั้น แล้วจะปล่อยให้สายดำเจ๊งหรือเงียบหายไปเอง ตระกูลของพี่ก็เป็นมาเฟียใหญ่เหมือนกัน พี่คงเข้าใจและก็มี
สู่ขอ...รวมสองตระกูล สายลมเย็นเบาๆ พัดผ่านเข้ามาทางหน้าต่างกว้างที่มีเพียงผ้าม่านลายลูกไม้สีขาวสะอาดที่ปลิวไสวด้วยลม แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องเข้ามาในห้อง กระทบเข้ากับร่างเล็กที่นอนหลับพริ้มมีความสุขอยู่บนเตียงหนานุ่ม “ตื่นหรือยังลี่ ถ้าตื่นแล้วก็ลงไปอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อย แล้วลงมาด้านล่าง โคเยอร์มาแล้ว” เสียงอบอุ่นของเฟร์ย่า หญิงวัยกลางคนเดินเข้ามาบอกกับลูกสาวที่นอนหลับพักผ่อน หลังจากกลับมาจากโมทีธได้สัปดาห์กว่าๆ “ใครมานะคะแม่?” ลิลลี่งัวเงียถามผู้เป็นแม่ เมื่อได้ยินไม่ถนัด “โคเยอร์มา” เฟร์ย่าตอบ “ไม่ลง!” ลิลลี่ปฏิเสธทันทีเมื่อรู้ว่าแขกที่มาหาเธอนั้นเป็นใคร โคเยอร์ที่หายหน้าหายตาไปไม่ติดต่อมาเลยสักครั้งอาทิตย์กว่าๆ หลังจากที่กลับจากโมทีธ “ไม่ได้! มีแขกผู้ใหญ่มาด้วย ทำไมถึงจะไม่ลงไป” เฟร์ย่าดุลูกสาวเบาๆ “ก็...จู่ๆ ก็หายไปเลย ไม่ติดต่อมาแม้แต่ครั้งเดียว” ลิลลี่ตอบ พร้อมกับใบหน้าที่งอด้วยความงอน “จะงอนโคเยอร์ก็งอนไป แต่...ต้องลงไปรับแขกผู้ใหญ่ ส่วนเรื่องงอนเดี๋ยวให้โคเยอร์เป็นคนง้อเอง” เฟร์ย่าบอก จนลิลลี่ต้องลุกขึ้นไปจัดการธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย และลงไปด้านล่างทั
รักพ่อของโคยน้อย (NC) “เปลี่ยนเป็นการเพิ่มความแข็งแรงให้ลูก ก่อนกลับไทยยังไงล่ะ!” คำพูดและรอยยิ้มเจ้าเล่ห์กรุ้มกริ่มผุดขึ้นที่ใบหน้าหล่อเหลาของโคเยอร์ “หมะ...หมายความว่ายังไงเหรอ” ลิลลี่ถามด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ แม้จะรู้อยู่แล้วว่าเขาหมายถึงอะไร “ก็หมายความว่าแบบนี้ไง...” “อ๊ะ...อุ๊บ!” เสียงของลิลลี่เล็ดลอดออกมาได้แต่นั้น เมื่อถูกริมฝีปากหนาได้รูปฉกจูบลงมาประกบที่ริมฝีปากบางสีระเรื่อ ลิ้นอุ่นและนุ่มนวลวนเกี่ยวกระหวัดไปรอบโพรงปากเล็ก เพื่อกวาดหาน้ำหวานอย่างชอบใจ ริมฝีปากหนาบดขยี้จูบอย่างดูดดื่ม หมับ! พรึ่บ! ในขณะที่ริมฝีปากของเขากำลังดูดกลืนน้ำหวาน ตักตวงความหวานจากเธออยู่นั้น โคเยอร์จับแขนเรียวทั้งสองข้าง ก่อนจะค่อยๆ ผลักคนตัวเล็กให้นอนลงบนที่นอนนุ่มอย่างไม่แรงมากนัก “คะ...โคย ตอนนี้เลยเหรอ!” ลิลลี่ถามออกมา เขาจะมาทำเรื่องแบบนี้ที่นี่ ตอนนี้คงไม่สะดวก “อื้อ!!” ริมฝีปากหนาประกบลงบนปากบาง แรงบดขยี้ดุเดือดจากแรงจูบของคนบนร่างที่ตอนนี้คือ ‘พ่อของลูก’ ในท้องของเธอ หัวใจของคนตัวเล็กเต้นไม่เป็นจังหวะเหมือนจะระเบิดออกมาอยู่นอกอกเลยทีเดียว โคเยอร์บดขยี้จูบปากคนต
โคยน้อยกำลังมา... “ดี้จะแต่งงาน หลังจากที่พี่ลี่แต่งงานแล้วเท่านั้นค่ะ” เลดี้พูดสิ่งที่ตัวเองต้องการเป็นอย่างสุดท้ายออกมา “อะไรนะ?!” เสียงของลิลลี่อุทานพูดออกมาอย่างตกใจ เมื่อได้ยินเสียงของน้องสาวพูดออกมาอย่างนั้น “ดี้บอกว่าดี้จะแต่งงานกับเจ้าชาย หลังจากที่พี่ลี่แต่งแล้วเท่านั้น ก็ดี้เป็นน้องคนสุดท้อง ก็แต่งคนสุดท้าย” เลดี้บอก “แล้วพี่ของเจ้าจะแต่งเมื่อไร ถ้าหากว่าช้า ข้าคงไม่ทน” เจ้าชายฟาฮัซพูดขึ้น “ฉัน...ยังไม่มีความคิดที่จะแต่งเลยนะ” ลิลลี่บอกเป็นเชิงปฏิเสธไปในตัว ก่อนจะปรายตามองไปโคเยอร์เพื่อดูท่าทางท่าทีของเขา “เราสองคนจะแต่งงานกันหลังจากกลับประเทศไทยทันที เดี๋ยวผมจะให้ผู้ใหญ่มาคุยและหาฤกษ์เลยครับ” โคเยอร์พูดออกมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มดีอกดีใจ “แต่โคยยังเรียนอยู่เลยนะ แล้วอีกอย่างพ่อกับแม่ก็ยังไม่ได้ตอบตกลงเลยด้วยซ้ำ” ลิลลี่รีบบอกอย่างละล่ำละลัก “ลี่หมายถึงพ่อของลี่น่ะเหรอ โคยคุยเรียบร้อยแล้ว” โคเยอร์พูดพร้อมกับชี้ไปที่มุมปากที่มีเลือดแห้งติดอยู่ “แต่ลี่ยังไม่อยากแต่ง ยังมีหลายอย่างที่ยังไม่ได้ทำเลย อุก...อ้วก!!!” ในขณะที่ลิลลี่กำลังปฏิเสธและคัดค้านการแ