เมื่อเสียงลากเก้าอี้เงียบลง..ก็มีเสียงสะอื้นและเสียงกุกกักๆมีอะไรหล่นลงพื้นฉันจึงรีบลุกขึ้น..หมุนลูกบิดเปิดประตูออกไป ก่อนที่จะหยุดชะงักไม่กล้าก้าวไปไหน..เมื่อเห็นพู่กันดินสอหล่นกลิ้งมาที่พื้น และไทเปเธอนั่งวางรูป..พร้อมเสียงสะอื้นอยู่ไทเปหันมามองฉันช้าๆทั้งน้ำตา ก่อนจะไม่สนใจ..หันกลับไปขีดเขียนลงสีหนักๆกับปลายพู่กันของเธอต่อ ฉันจึงค่อยๆเดินไปหาน้อง อยากบีบไหล่ที่สั่นระริกและกอดเจ้าของเสียงสะอื้นนั้นไว้ แต่ไม่รู้ทำไมใจมันกล้าๆกลัวๆ"ไทเป...""ฮึกๆ ฮือๆๆ ไทเปโดนทิ้ง ฮือๆคิดถึงแม่ คิดถึงพ่อ คิดถึงยาย ไทเปอยากไปอยู่ด้วย ฮือๆ" ไทเปวาดรูปคนสามคน มันเป็นรูปที่มีแค่หัวและเส้น..เหมือนเด็กอนุบาลวาดฉันจึงรีบกอดน้องและลูบหัวเบาๆ จนน้องสาวฉันเธอปล่อยพู่กันสีแดงลงพื้น..และหันมากอดฉันทันที"ฮึกๆ ทำไมไทเปโง่ ฮือๆ โง่มากๆ เขาไม่เคยรักก็คิดว่าเขารัก หลอกตัวเองเก่ง เพ้อฝันเก่ง ฮือๆ" ฉันลูบหลังน้องก้มลงกอดทั้งน้ำตา ร่างเล็กก็เอาแต่ร้องไห้และสะอื้นอยู่แบบนั้น"ฮึกๆไม่เป็นไรนะน้องพี่ พี่อยู่ตรงนี้ เข้มแข็งเดินต่อเหมือนที่เราทำๆกันมาตลอดไง พี่รักไทเปนะ..เข้มแข็งนะไทเป "ไทเปกอดฉันแน่น..และมือน้องก็ขยำเส
พูดประชดประชันจบก็ทำเป็นดูทีวีหลบตาฉัน"เชนแค่ไปเรียน รอหน่อยนะ บางที..." ฉันพูดไม่ทันจบไทเปก็ขัดขึ้นมา"รอเหรอคะ?ไทเปรอให้เขารักมาเจ็ดปี เขายังไม่รักไทเปเลยค่ะ พอแล้วค่ะพี่เจแปน มันเจ็บ มันเป็นบาปกรรมของไทเปเองล่ะ ที่แย่งพี่เชนจากพี่เจแปนมา สมควรแล้วค่ะ..ที่จะเสียไป"ฉันรีบจับไหล่สั่นระริกของไทเปไว้ ตอนนี้น้องเริ่มร้องไห้อีกแล้ว ไทเปรักเชนมาก..ทำไมเชนไม่ถนอมน้ำใจน้องเลย อย่างน้อยๆก็น่าจะบอกกันก่อน ไม่ก็ค่อยๆตีตัวออกห่างไป"งั้นพี่จะกลับมาอยู่เป็นเพืื่อนนะ" ไทเปรีบปาดน้ำตา แล้วหันมามองฉันทันที"ไม่เป็นไรค่ะ..ไทเปอยากอยู่คนเดียว พี่เจแปนแต่งงานแล้วนะคะ อยู่กับสามีเถอะ" ฉันถอนหายใจเอามือกอดอก มองไทเปที่ฝืนยิ้มบนเตียงอยู่สักพัก จนกัปตันและต้นกล้ากลับเข้ามา"เจแปน เธอจะอยู่เฝ้าไข้น้องไหม?""ค่ะ...""ไม่ต้องค่ะ ไทเปอยากอยู่คนเดียว ขอบคุณทุกคนมากค่ะ^^" เราสามคนมองหน้ากัน บอกตรงๆฉันไม่สบายใจที่จะปล่อยน้องไว้คนเดียว จนอยู่ๆต้นกล้าเขาเดินไปเปิดม่านออก และยืนที่ระเบียงชะเง้อมองซ้ายขวา"นี่ชั้นสามไม่สูงมาก...โดดไปยังไงก็รอด กลับเถอะ""ไอ้กล้า มึงแม่งปากนรก-_-" กัปตันรีบด่าน้องชาย ส่วนไทเปถอนใจอย
"งะ โง่เหรอ?! งั้นลุกขึ้นสิ ไม่สิวะ..ฉันอุ้มเอง!" ฉันยกแขนขึ้นทันที รอให้คนหัวเสียอุ้มบอกเลยว่ากว่าจะลงจากคอนโดได้ เกือบฆ่ากันตาย เพราะเขามัวแต่พะวงหน้าพะวงหลัง ของลูกล่ะ ผ้าอ้อมล่ะ ขวดนมโน่นนี่นั่น!..ช่างเถอะช่างมันฉันจะตายแล้ว"กัปตัน ฮือๆเร็วๆสิ ขับเร็วๆได้ไหม!!!" ขึ้นรถปุ๊บ ฉันก็กุมท้องร้องร้อยแปดสิบเดซิเบล มันไม่ไหวแล้ว เดี๋ยวปวดเดี๋ยวหาย แต่ปวดทีมันเหมือนจะตาย เหมือนมดลูกจะหลุดออกมา"รีบอยู่ๆ ใจเย็นๆที่รัก !""เย็นบ้าอะไร!! ลองมาปวดดูไหม!? เร็วๆ!" ตะคอกเขาเสร็จฉันก็เชิดหน้าร้องไห้โฮ ขาก็กางออกเตรียมพร้อม เพราะโซลทั้งดิ้นทั้งถีบ ตอนนี้ฉันปวดถี่มาก ได้แต่บอกลูกในใจว่าอย่าเพิ่ง อย่าเพิ่ง!!"อื้อออ โซลใจเย็นๆ! อย่าเพิ่ง!""เชี่ย!!! อดทนนะ จะถึงแล้ว!" ฉันฮึบไว้ทัน หายใจหอบมองตรงไปที่ถนน แยกหน้าก็โรงพยาบาล..ได้โปรด ได้โปรดโซลอดทนกับแม่หน่อยตุบ ตุบ~"กัปตัน!! ลูกจะออกแล้ว จะออกแล้ว ฮือๆ" ฉันกัดปากแน่นมองหว่างขาตัวเอง อยากจะเบ่งๆให้เสร็จแต่กลัวลูกเป็นอันตราย แต่ลูกก็ดิ้นบ่อยเหลือเกินเอี๊ยดดดดด เสียงเบรคลากล้อเหมือนเสียงสรรค์ ทันทีที่ประตูฝั่งฉันถูกเปิด ฉันก็ถูกย้ายขึ้นไปนอนบนเตียงและ
ไม่ฉันก็เจ๊ปลายฟ้าใครสักคนต้องไปก่อน ส่วนอาบีมอ่ะคลอดแล้ว ตอนนี้ฉันมีลูกพี่ลูกน้องเป็นเด็กน้อยอายุสองเดือน คุณพระ...เด็กเต็มบ้านเลยและวันนี้ฉันก็มาเยี่ยมหลาน กับเจแปนฉันไม่ค่อยได้คุยมากเพราะดูสภาพแล้วเธอคงเหนื่อย ได้แต่คุยกับอิไม้ที่อุ้มลูกเดินไปมารอบห้องนั่นแหละ มันเห่อมากจริงๆ เห่อจนไม่วางลูกเข้าเต้าเมีย"หน้าเหมือนมึงไอ้ไม้^^" อิไม้ยิ้มภูมิใจก่อนจะส่งโซลให้ไคล์อุ้ม"โอ๋ๆ..แม่โบอิ้ง อยากได้ลูกชายด้วยอ่ะ ^^" นั่นไง! ว่าแล้วเชียว ตัวแสบในท้องเลี้ยงให้ไหวเถอะ โลภมาก"ค่อยว่ากัน ว่าแต่อิกล้าบินมาถูกวันนะแก มาถึงหลานก็คลอดพอดี-_-""เทพไง ฮ่าๆผมย้ายมาอยู่ไทยแล้วนะ เรียนจบแล้ว..ไว้ช่วงเจ๊คลอดผมทำงานแทน^^" ฉันพยักหน้าเบาๆแล้วก้มลงหอมแก้มหลาน โซลนี่เหมือนอิไม้มากขาวมาก แต่ฉันขอเถอะ..ช่วยเอานิสัยเจแปนมานะกลับจากโรงพยาบาลฉันก็กลับบ้านสามี เพราะหลังจากแต่งงานฉันก็ย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ แต่ไม่ได้อยู่ถาวรหรอกนะ ไคล์เขามีแผนสร้างบ้านของเขา แค่เรายังไม่ลงตัวเรื่องที่ดินและสถานที่ สร้างทั้งทีก็ต้องดีๆหน่อย เราไม่อยากให้ลูกอยู่ในสภาพแวดล้อมไก่กา ยิ่งมีลูกสาวด้วย อีกอย่างตอนนี้คานะก็แต่งงานกับหมอฮาวาย
"ไคล์อย่าขำ เดี๋ยวด่าซะเลย.. ฮือๆ ""ใจเย็นๆไม่ด่าน่ะดีแล้ว ^^" ฉันซุกหน้าลงขาสามี ไม่อยากคุยกับเขา ขอข่มความปวดไว้คนเดียวดีกว่า จนสุดท้ายเรามาถึงโรงพยาบาล ทุกคนแตกตื่นมากโดยเฉพาะหมอสูติว่าที่คุณปู่ ที่เปิดประตูรถรอรับฉัน"ใบไม้ลงมาลูก ค่อยๆนะ ไคล์โทรบอกพ่อตาแม่ยายด้วย""ครับพ่อ" ฉันถูกพยุงปีกขึ้นเตียง ระหว่างเข็นไปห้องคลอดพ่อสามีก็ถามระเอียดยิบ ปวดแบบไหนปวดมากปวดน้อยตอนนี้ปวดไหม ฉันก็ตอบไปตามตรงว่าฉันปวดเป็นช่วงๆแต่ไม่ได้รู้สึกหนักหน่วงเหมือนลูกจะออกมา"งั้นตรวจปากมดลูกก่อน" พ่อสามีพูดจบพร้อมๆกับเตียงที่ถูกเข็นเข้าห้องรับ ตอนนี้พยาบาลมุงที่เตียงฉันตรวจเบื้องต้นทุกอย่างและให้ฉันเตรียมตัว เปิดน้องน้อยให้พ่อสามีดู!!!โอ้โห! กูไม่น่าให้พ่อผัวเป็นหมอเจ้าของไข้เลย!!! มันเขินนะเว้ย เขินจริงๆนะ TTฉันนอนเกร็งอยู่นานหลังจากได้ยาแก้ปวด จนพยาบาลสั่งให้ยกขาเตรียมพร้อม ทำใจให้สบายๆ ผ่อนคลายหอย ผ่อนคลายเอวี่ติง"คุณหมอมาแล้วค่ะ^^" ได้ยินแบบนั้นฉันก็รีบยกมือปิดหน้า บอกตรงๆไม่กล้าสบตาพ่อสามี แค่ได้ยินเสียงรองเท้าที่เดินตึกๆก็เย็บวูบตรงนั้นแล้ว"ปากมดลูกเปิดน้อย...พ่อจะให้ยาเร่งคลอด พยาบาลขอ Prostagl
"โบอิ้งทำอะไรอยู่อะเจ๊" อีกแล้วอิกล้า"ดูดนม แกจะดูดด้วยไหม-_-" เงียบกริบทั้งอิกล้าทั้งอิไม้ จนโบอิ้งดูดนมหลับไปไคล์ถึงอุ้มเธอออกจากเต้า..ไปวางบนเตียงเข็น จากนั้นเขาก็เปิดม่านออกกว้างแล้วสั่งอิไม้กับอิกล้าเงียบๆ ปู่ย่าตายายไม่ต้องบอกแก่แล้วรู้ตัว เอาแต่ถ่ายรูปหลานอัพสเตตัสรัวๆ จนไลน์ครอบครัวเด้งขึ้นเป็นแถบส่วนเจ๊ปลายฟ้าไปไหนมาไหนลำบาก ท้องเจ๊แกใหญ่มาก ฉันจึงบอกค่อยมาวันหลังมาพร้อมย่าก็ได้ เพราะฉันต้องอยู่โรงพยาบาลอีกสองสามวัน ซึ่งสองสามวันนี้คนมาเยี่ยมเยอะมาก ทั้งเพื่อนไคล์ญาติไคล์ เพื่อนฉันญาติฉัน! กระเช้าของเด็กลูกโป่งเต็มห้องไปหมดพอออกจากโรงพยาบาลกลับบ้านไคล์ อิกล้าก็ยังมาทุกวัน มันอุ้มลูกฉันหอมถ่ายเซลฟี่จนรูปเต็มโทรศัพท์...ซึ่งโบอิ้งก็ติดมันมาก อิกล้าอุ้มแปปเดียวก็หลับแล้ว ตื่นมายังแอบยิ้มน้อยๆให้น้าด้วยนะ"คานะมา" ฉันกับอิกล้าหันไปมองที่ประตูทันที เมื่อคานะเดินถือกระเช้านมหมีเข้ามา แต่ครั้งนี้คานะมากับเพื่อนสนิทชื่อกาแฟ เป็นลูกพี่ลูกน้องกับพี่หมอนาวานั่นแหละ และพีคสุด!! เป็นน้องสาวฝาแฝดหมอน้ำแข็งแฟนคุณเต้ด้วยเอ้อ!!..โลกกลม"สวัสดีค่ะพี่ไคล์ พี่ใบไม้^^" กาแฟยกมือไหว้แล้วค่อยๆนั
ใช่ฉันต้องทำบุญ ทำบุญบนบานศาลกล่าว เพราะแค่โซลคนเดียวฉันก็เหนื่อยสายตัวแทบขาดแล้ว คลอดมาจนลูกคลาน..ก็ยังไม่ได้กลับไปทำงานสักทีที่เป็นแบบนั้นเพราะฉันสงสารคุณแม่ ที่ต้องมานั่งเลี้ยงเจ้าตัวแสบงกๆ ก็เลยหยุดยาวๆเลี้ยงลูก..ให้สามีเขาทำงาน เพราะยังไงๆเงินเดือนเขาก็มากกว่าฉัน"แอ๊ะ!!!" หลังจากพี่ใบไม้กลับ ฉันก็ปล่อยโซลไว้ในคอกคนเดียว ของเล่นจุกจิกไม่ได้ดั่งใจเขาก็ทะเลาะด้วย เปิดไม่ได้..หมุนไม่ได้ก็โยนทิ้ง! นี่ขนาดยังพูดไม่ได้นะ ถ้าพูดได้เมื่อไหร่ฉันคงประสาทกินพรึบ! นั่นไงโซลโยนโมเดลเครื่องบินลำเล็กๆใส่ฉัน!! เขาคงจำที่เล่นกับพ่อมา แต่พ่อไม่ได้สอนให้โซลโยนของแบบนี้นะลูก!"พังหมดโซล มันแพงนะ ถ้าไม่รู้จักรักษาของ แม่จะไม่ให้เล่นอีก-_-" ฉันก้มลงเก็บโมลเดลเครื่องบินยื่นให้ลูกชาย แต่มิวายจะหันหลังให้เขา..โซลก็โยนพรึบ! ลอยลิ่วออกไปข้างนอกอีกยุบหนอพองหนอ กับพ่อเขาฉันยังทนได้ ทำไมกับลูกฤทธิ์น้อยๆฉันจะทนไม่ได้!ฉันสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วเดินไปเก็บของเล่นลูกอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ฉันเก็บเข้ากล่องไม่ให้เขาเล่น ก่อนจะเดินไปเลื่อนเก้าอี้นั่งกินข้าวไข่เจียวบนโต๊ะเย็นๆ ที่ฉันทอดเมื่อสองชั่วโมงที่แล้ว เฮ้อ..ตอนนี
"ไม่เอาโซล อย่าทำนิสัยเหมือนพ่อ" ฉันรวบมือเล็กเตือน จนลูกชายตัวแสบยิ้มให้..แล้วเอนพิงพ่อนั่งบนตักสบายๆต่อไป จนถึงเวลาเครื่องขึ้น..อยู่ๆกัปตันไคล์ก็เปิดประตูออกมากัปตันไคล์นั่งยองๆหอมโบอิ้ง หอมพี่ใบไม้ ส่วนโบอิ้งถูกหอมหน่อยก็หัวเราะคิกคัก ชูแขนอยากให้พ่ออุ้ม"อุ้มไม่ได้ลูก โบอิ้งขึ้นเครื่องบินครั้งแรก ก็นั่งโบอิ้ง787 ดรีมไลน์เนอร์เลยนะ ดูแลแม่ด้วยนะเรา แม่กลัวเครื่องบิน^^" ได้ยินคำพูดกัปตันไคล์แล้ว..ฉันแอบอมยิ้มตาม ผู้ชายอะไรอบอุ่นมากๆ พี่ใบไม้ก็น่ารัก..ก่อนสามีจะเข้าไปก็ดึงเขามาหอมให้กำลังใจอีกเมื่อกัปตันไคล์หันหลังกลับเข้าห้อง แอร์ก็ปิดประตูเครื่องทันที ก่อนที่สักพักเครื่องจะพุชแบค และแอร์เริ่มการสาธิตการใช้เสื้อชูชีพ จนตอนนี้เครื่องขับเคลื่อนเข้าเท็กซี่เวย์ไปช้าๆ..และหยุดนิ่งหน้ารันเวย์รอเทคออฟจังหวะนั้น..กัปตันต้นไม้เขาหันไปมองพี่สาวแล้วหัวเราะออกมา ก็เพราะพี่ใบไม้พนมมือขึ้นไหว้น่ะสิ ฉันไม่คิดเลยว่าพี่ใบไม้จะกลัวเครื่องบินขนาดนี้ และเมื่อเสียงเร่งดังขึ้นๆพี่ใบไม้ก็รีบกอดลูกแน่นโบอิ้งนั่งนิ่งหันมองซ้ายขวา ส่วนโซลหันมองฉันและเงยหน้าขึ้นมองกัปตัน เขาคงสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมเสีย
ฉันขยับตัวซ้ายทีขวาทีบนโซฟา ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ที่เพิ่งวางหมาดๆ ขึ้นมากดโทรหาพี่เชนอีกครั้งแต่โทรเท่าไหร่พี่เชนก็ไม่รับ แถมสายหลังๆยังปิดเครื่องอีกต่างหากเขาขับรถอยู่ ติดประชุม หรือยุ่ง? ทำไมไม่บอกฉันบ้าง นี่จะมืดค่ำแล้วนะฉันเป็นห่วง และท้องฉันก็แก่มากด้วย ทำไมพี่เชนกล้าทิ้งฉันไว้แบบนี้ตุบๆฉันคลำท้องป่องๆที่โดนลูกถีบทันที ตอนนี้ฉันลุกขึ้นแทบจะไม่ไหวแล้ว อยู่ๆก็เริ่มหน่วงไปทั่วเชิงกราน ปวดมากๆอยู่เป็นระยะๆ"โอ๊ะ โอ้ยยยย...ปวดท้อง พี่เชน พี่เชนอยู่ไหน!"ใจเย็นๆลูก ทำไมต้องปวดวันที่พ่อไม่อยู่ด้วย!"พี่เชนนนนนน"ฉันไม่รู้จะทำยังไง จะเอื้อมหยิบโทรศัพท์กดโทรอีกครั้งก็ไม่ได้ ได้แต่ร้องเรียกกระวนกระวายบนโซฟาร้องจนน้ำตาไหลอาบแก้มร้องจนตัวเองเหนื่อย และนอนซมเม็ดเหงื่อที่เกาะไปตามใบหน้าไม่ไหวแล้ว...ตายแน่ๆ ฉันตายแน่ๆ เจ้าแฝดไม่ใจเย็นช่วยฉันเลยกริ่ง~ กริ่ง กริ่ง~เสียงกริ่งที่ดังขึ้นหน้าประตู ทำร่างที่ไร้เรี่ยวแรงของฉันฟื้นกลับมา ฉันลืมตาที่ปรืออยู่เบิกกว้าง และเมื่อหันขวับมองไปที่ประตูก็เห็นเงาร่างโตของใครยืนอยู่ตรงนั้นพอดี"ช่วยด้วย ! ชะ..ช่วยด้วยค่ะ!"'ส่งพัสดุครับ!' รู้แล้วคุณบุรุษไ
เรื่องท้องไม่ท้อง..คงต้องเอาไว้ก่อน เพราะตอนนี้ฉันกับพี่เชนถูกดึงกลับไปนั่งร่วมโต๊ะกับผู้ใหญ่แล้ว และทุกคนก็พูดเป็นเสียงเดียวว่าฉันควรมีลูกแฝด มีแข่งกับพี่เจแปนไปเลย"ไม่ไหวครับๆ คนเดียวก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่?^^" พี่เชนตอบยิ้มๆแล้วตักนู่นตักนี่ให้ฉันกิน"ไม่ไหว? เออๆเดี๋ยวยกโซลให้ไปเลี้ยงหนึ่งวัน คงไม่อยากมีลูกไปเลย" พี่กัปตันพูดนิ่งๆ..แต่ชวนทุกคนขำกลิ้งทั้งโต๊ะ แต่มีคนทำหน้าไม่พอใจคือหลานชายตัวแสบ ที่นั่งมองหน้าพ่อและเคาะช้อนพลาสติกลงจาน แกร้กๆ~โวยวายเสียงแจ๋นลั่นร้าน"แอ๊ แอ้~!""เอาเข้าไปๆ จะทำสงครามกับพ่ออีกแล้วโซล^^""แสบจริงๆหลานลุง แสบเหมือนใคร^^" พี่ฮาวายจิ้มแก้มโซลจนแก้มป่องๆยุบลง บอกเลยใครๆก็หมั่นเขี้ยวเจ้าแสบจนพี่เจแปนก้มลงถามลูก.."แสบเหมือนพ่อใช่ไหมโซล?^^""แอ้~~^^" เห็นมั้ย..โซลตอบแม่ทันที น่ารักน่าตี จนถูกพ่อกับแม่รุมหอมแก้มหอมหัวหลังจากกินข้าวงานเลี้ยงเล็กๆง่ายๆ..เราก็แยกย้ายกันกลับ พ่อแม่พี่เชนนอนโรงแรมที่สนามบินกลับกันพรุ่งนี้เช้า ส่วนฉันกับสามีกลับคอนโดนอน และแน่นอนมีฉลองกันเล็กๆในห้อง..ก็คือการปั๊มลูก เราจัดกันทันทีที่มาถึง กินหัวกินหางกินกลางตลอดตัวจนหมดแรง..."จ
เปิดออกมาก็เห็นลูกโป่งอัดแก๊สสีชมพู ผูกกับกระถางต้นไม้มุมระเบียง และบนผนังมีริบบิ้นหลากสีติดเป็นลูกศรชี้ลงไปข้างล่าง...ฉันจึงรีบเดินไปเกาะราวระเบียงชะเง้อมองตาม สอดส่องสายตาลงไปตามลูกศรบนผนัง..จนเห็นคนคุ้นเคยคนนึงยืนอยู่ข้างล่าง ข้างๆสระว่ายน้ำส่วนกลางของคอนโด ก่อนเขาจะเงยขึ้นเมื่อเห็นฉันยืนอยู่..และป้องปากตะโกนว่า"กลับมาแล้วค้าบบบบบบ!!^[]^"ฉันยิ้มทั้งน้ำตา..ที่เริ่มคลอออกมาสองข้าง อยากจะตะโกนกลับแต่กลัวห้องอื่นรำคาญ จึงตัดสินใจเดินกลับเข้าห้องไปหยิบโทรศัพท์ ออกมาโทรหาพี่เชนแทนฉันยกโทรศัพท์แนบหนูก้มมองคนข้างล่างยิ้มแป้น ...ห้องฉันอยู่ชั้นห้า ถึงจะเห็นหน้าเขาไม่ค่อยชัด แต่ฉันเห็นรอยยิ้มกว้างๆเขาชัดแจ๋วCalling P'Chain"ฮัลโหล..กลับมาแล้วเหรอคะ?^^" พี่เชนยิ้มแล้วโบกมือให้ฉัน ก่อนจะพูดตอบกลับมาว่า(กลับมาแล้ว..ไม่ไปไหนแล้ว ทนไม่ไหว..คิดถึงใจจะขาด)บ้าๆฉันเขินนะ หยุดเขินไม่ได้เลย>\\พี่เชนอ่ะ แล้วนี่ให้ไทเปใส่เวลส์เจ้าสาวทำไมคะ...แค่กลับมาเอง^^" ฉันทำถาม ถึงจะรู้ลึกๆว่า..เขาน่าจะเซอร์ไพรส์ขอแต่งงาน(อ้าวไม่เซอร์ไพรส์เหรอ? เฮ้อ..นี่พี่เซอร์ไพรส์ไม่เก่งใช่ไหม?)ฉันยิ้มมองคนล่างตัดเพ้
"ข้ามขั้นเลยเหรอ^^?""ข้ามเลยค่ะ ถ้าเทกันอีกอย่างน้อยไทเปก็ต้องได้อะไรบ้าง ว่าไงคะ..กล้าเทกันไหมคะ^^"พี่เชนดึงจมูกฉันทีนึงแล้วอมยิ้ม"หมั่นเขี้ยวจริงๆไม่กล้าครับ งั้นพรุ่งนี้ไปอำเภอกันเลยนะ^^"ฉันพยักหน้าหงึกๆแล้วกอดคอพี่เชนทันที ก่อนที่จะดันโน๊ตบุ๊คเขาไปห่างๆ..แล้วเอนตัวนอนราบลงโซฟา ไม่ต้องเดาว่าเกิดอะไรขึ้น ข้าวไม่ต้องกินแล้ว..ให้พี่เชนบริหารลิ้น บริหารนิ้ว บริหารเอวก่อนอิ่มกันจุกๆฉันกับพี่เชนก็ปรึกษาหารือกันเรื่องวีซ่า โดยพี่เชนให้ความเห็นว่า เราจดทะเบียนสมรสก่อนค่อยขอวีซ่ากัน และพี่เชนจะสปอนเซอร์ค่าใช้จ่ายให้ทุกอย่างเพราะฉันมันคงว่างงานไม่มีอาชีพจากนั้นหลังเรียนจบ..เราจะกลับมาจัดงานแต่งเล็กๆกันที่ประเทศไทย เพราะพี่เชนเขาไม่อยากทำงานที่อเมริกาและอยู่ที่นั่น เขาคิดถึงส้มตำปูปลาร้าร้านหน้าปากซอยที่เขากินประจำ พูดถึงก็ทำหน้าเศร้า..ทำหน้าตาน่าสงสารใส่ฉัน-_-หลังจากบริหารช่วงล่างกันทั้งคืน เช้าวันต่อมาฉันกับพี่เชนก็ไปจดทะเบียนสมรสกัน เราจดไม่ถึงชั่วโมงก็เสร็จ ได้ทะเบียนมาฉันก็เช็คและแปลเอกสาร เพื่อเตรียมยื่นวีซ่าขอติดตามสามี อุ๊ย..สามี สามี เขินจัง..สามีภรรยาถูกต้องตามกฏหมายด้วยนะ"อ
สองเต้าหยุดชะงัก พร้อมกับฉันที่ค่อยๆเบิกตากว้างแล้วหันไปมองเจ้าของคำหวาน"พี่เชน...0//0""พี่รักไทเป พี่รู้แล้วว่าพี่รักไทเปจริงๆ" ได้ยินอีกครั้งน้ำตาฉันก็หยดเพาะลงแก้มขาว ก่อนฉันจะจ้องเขาน้ำตา..และค่อยๆก้มลงจุมพิตที่ริมฝีปากคู่สวยนั่น มันเป็นจุมพิตที่เนิ่นนาน นานจนวงแขนกว้างสวมกอดฉัน และดันจนเราแนบชิดกัน"รักแล้วยังไงคะ..รักแล้วจะแช่ของพี่เชนไว้แบบนี้เหรอ?.." ฉันถอนจูบประคองแก้มเขาถามเบาๆ และจ้องตาเป็นประกายของเขาไปด้วย ฉันไม่อยากร้องไห้เลย แต่ทำไมน้ำตาไหลก็ไม่รู้"ทำไม..แช่ไว้ไม่ได้เหรอ? คลอเคลียแบบนี้พี่ว่า..พี่คงได้เสียตัวอีก^^" ฉันปาดน้ำตาแล้วตีแขนพี่เชนดังเพียะ..จนเขารีบกระชับกอดและจับฉันลงไปนอนบนเตียงทันทีจากนั้นร่างใหญ่ก็ค่อยๆขยับถอดแก่นกายเปียกๆออกมา เขาขยับถูไถกับกลีบกุหลาบช้าๆจนมันผงาดขึ้นอีกครั้ง..."พะ..พี่เชน อื้ม~~ ไหวเหรอคะ?""พี่ตุนไว้เพียบ...แต่รอบนี้นานหน่อยนะ"และฉันก็เสียตัวอีกรอบ ไม่สิพี่เชนเสียตัวต่างหาก ไอ้เค้กช็อคโกแล็ตกับข้าวเหล้าไวน์ พี่เชนไม่ได้กินไม่ได้แตะหรอก เรามีอะไรกันจนสลบเหมือบกันทั้งคู่ รู้สึกตัวตื่นอีกทีก็เช้าตรู่อิ่มจนจุกกันไปเลยเช้า..ฉันนอนคว่ำ
"ฉันขอเวลาคิด ถึงฉันอยากกลับไปแค่ไหน เธอต้องเข้าใจฉันนะพิมดาว..ว่าฉันต้องเซฟตัวเองด้วย คนเคยเจ็บมา คนเคยถูกทิ้งมา..ฉันใช้เวลาไม่น้อยเลยนะกว่าจะยืนด้วยขาตัวเองได้"ฉันพูดทั้งน้ำตาและมองพิมดาวไปด้วย จนมือที่จับมือฉันค่อยๆคลาย..และแตะเบาๆ"โอเคๆฉันเข้าใจ แต่อย่าเผลอใจให้คนอื่นนะ ถ้าเรื่องนี้เธอดึงคนอื่นเข้ามา มันจะวุ่นวายไปใหญ่ ให้มันมีแค่เธอกับพี่เชนก็พอ ฉันเป็นกำลังใจให้เธอนะไทเป..ทุกๆเรื่องเลยสู้ๆ"ฉันพยักหน้าหงึกๆเหมือนเด็กสามขวบที่โดนโอ๋ จนพิมดาวลุกขึ้นมากอดและลูบหลังฉัน เธอลูบเบาๆแต่เหมือนฉันได้กำลังใจมหาศาล จนสักพัก..ฉันหยุดร้องไห้ ปาดน้ำหูน้ำตาที่ไหลเงยหน้าขึ้นมองเธอ"ฉันจะลองดู..แต่เธออย่าบอกเขาได้ไหม ว่าฉันรู้สึกยังไง""โถ่ไทเป..ไม่บอกพี่เชนก็รู้ กับพี่เชนเธอเคยห้ามใจตัวเองได้เหรอ? แววตาเธอมันฟ้องจะตาย " ฉันเงียบกริบเม้มปากนิดๆคิดตามคำพูดพิมดาวก็จริง..พิมดาวพูดถูก ฉันควบคุมไม่ได้เลย ยิ่งเจอเขาความต้องการฉันยิ่งมาก ฉันต้องการเขา อยากกอดเขา อยากทุกๆอย่าง และเมื่อวานฉันพยายามสุดๆที่จะไม่กระโจนใส่เขาคุยกับพิมดาวเสร็จฉันก็กลับคอนโดนอน ฉันไม่อยากไปไหนแล้วจริงๆ อยู่ๆก็อยากกลับห้องมา
"ก็...เอ่อ เห็นไทเปรักเขาไงฉันก็เลย..อยากให้ไทเปทำตามหัวใจดู^^"ฉันดึงแก้วกาแฟกลับจับหลอดดูดและจ้องตาพิมดาว พยายามจับผิดตาโตๆนั่น ว่าจะวอกแวกหรือหลบตาฉันรึป่าว แต่ไม่..พิมดาวยังยิ้มปกติไม่มีอะไร แถมเธอยังชวนฉันสั่งอาหารว่างมากินรองท้องอีกจนเราสองคนอยู่ในความเงียบ และฉันนั่งทวนงานส่งบก. พิมดาวก็ถามฉันขึ้นมา"เธอ..จะกลับไปคุยกับเขาคนนั้นมั๊ย?^^" ถามไปเขี่ยเค้กฝอยทองในจานไป เอ๊ะ..สั่งมากินหรือสั่งมาเขี่ย ตั้งแต่มาเนี่ยพิมดาวยังไม่ทำอะไรสักอย่าง งานก็ไม่ทำหนังสือก็ไม่อ่าน มีแต่เล่นโทรศัพท์เป็นพักๆและจ้องหน้าฉัน"ไม่รู้เหมือนกัน ดูก่อน" ฉันตอบเรียบๆและเปรยตามองเพื่อนสนิทแวบนึง"แต่ใจเธอสั่นใช่มั๊ยล่ะ?^^" เมื่อเจอคำถามติดต่อกัน ฉันก็ละสายตาจากนิยายที่ทวน...หันไปมองเธอ"ทำแบบสอบถามอะไรอยู่ ถามไม่หยุดเลยนะ-__-""ป่าว แค่อยากรู้ว่าเพื่อนรู้สึกยังไง^^" พิมดาวยิ้มหวานกลบเกลื่อนแล้วเขี่ยเค้กฝอยทองต่อ ฉันจึงหันมองซ้ายมองขวามองรอบๆร้านกาแฟ ว่ามีอะไรผิดปกติไหม? ทำไมคำพูดคำจาและคำถามมันแปลกๆ ปกติพิมดาวไม่ใช่คนชอบซักไซร้แบบนี้นี่"ถ้าถามความรู้สึก...ฉันก็ใจสั่นหวั่นไหวนั่นแหละ แต่ฉันไม่กลับไปง่ายๆหรอ
"ทำไมต้องขอนอนกับไทเป บ้านช่องไม่มีแล้วเหรอคะ?" ฉันถามแล้วหันไปทางอื่น ใครจะไปกล้าสบตาเขา เดี๋ยวเขารู้ว่าฉันอยากและอดอยากปากแห้งมานานเอ๊ะหรือฉันจะเล่นด้วย..ยอมปล่อยตัวหน่อยให้หายคอแห้ง"พี่คิดถึงไทเปไง.." พูดจบมือใหญ่พี่เชนก็วางบนขาฉัน แถมเขายังบีบเบาๆเบาๆ จนตอนนี้หน้าฉันชาหูฉันอื้อไปหมด คนมันเคยๆเขารู้..รู้ว่าฉันชอบให้สัมผัสตรงไหนแล้วตอนนี้มือเขาก็เอาใหญ่..ขยับขึ้นมาเรื่อยๆ บีบเข้าตามหว่างขา ก่อนจะหยุดตรงเนินสาวอวบอั๋นที่เขาเคยสัมผัสมา และสอดมือเข้าไปจนฉันขนลุกซู่ไปทั้งตัวเขาขับรถจับพวงมาลัยมือเดียว มืออีกข้างก็ซุกซนล้วงเข้าไปในขอบกระโปรงฉัน แล้วทำไมฉันไม่ห้ามเนี่ย..ฉันเอาแต่มองออกไปนอกหน้าต่าง ปล่อยตัวอ่อนปวกเปียกและร้อนวูบวาบไปทั้งตัว แถมยังแยกขาพลีชีพให้เขาส่งมือเข้าไปถึงเกษร จนหยุดทักทายสองกลีบกุหลาบที่เปียกพร้อม..ช้าๆเน้นๆอย่างช่ำชอง"ถ้าไม่ให้นอนด้วย..พี่แวะโรงแรมนะ" ฉันบิดตัวจิกสองเท้าลงพื้น เมื่อพี่เชนถามและเขี่ยรัวมาก เขาเขี่ยรัวจนฉันไม่ทนความเสียวซ่านและกลั้นเสียงคราง รีบยกมือขึ้นกัดส่ายหน้ารัวๆ"มะ..ไม่ ไม่ค่ะ เอามือออกไป เอา..ออก""ไม่อยากเอาออก อยากเอาเข้า" พูดจบพี่เช
โรคนิมโฟมาเนีย โรคเฮงซวยที่ฉันเป็นมาเจ็ดปีเต็ม.. ตอนนี้มันหายไปแล้ว..หายไปพร้อมๆกับเขาคนนั้น คนที่ฉันเห็นเขาเป็นคนรัก เห็นเขาเป็นคู่นอน เห็นเขาเป็นพี่ชายที่แสนอบอุ่นและดีพร้อม'พี่ไม่ได้คิดกับไทเปแบบนั้น , ถ้าเจอใครถูกใจเริ่มใหม่ได้เลยนะ'คำพวกนี้สุภาพแต่...เจ็บมาก เจ็บเหมือนจะตาย ฉันคิดว่าตัวเองจะไม่ไหวโดดตึกผูกคอตายในห้องแล้ว แต่คิดไปคิดมา เกิดทั้งทีฉันต้องใช้ชีวิตให้คุ้มกว่านี้ เคยมีความสุขสุดๆตอนได้ผู้ชายคนนั้นมาเป็นของตัวเอง มันก็ถึงเวลาแล้วที่ฉันจะทุกข์ใจบ้าง เพราะทุกๆอย่างมันไม่ถูกต้องตั้งแต่เริ่มหลังจากที่เสียพี่เชนไป ฉันนั่งร้องไห้เป็นเผาเต่า มองไปทางไหนก็คิดถึงแต่หน้าเขา โซฟาตรงนี้ก็เคยได้กัน บาร์ที่ครัวก็เคยโก้งโค้งให้เขามาแล้ว อย่าว่าแต่ห้องนอนห้องน้ำฉันกับพี่เชนเคยมาหมด เหลือแค่ระเบียงที่ยังไม่ได้ทำ กะจะลองสักครั้ง แต่เสียดาย..เขาทิ้งฉันก่อนหลังจากพี่สาวแต่งงานมีครอบครัวและพี่เชนทิ้งฉัน ..ฉันก็ตัวคนเดียว ไปไหนคนเดียว กินข้าวคนเดียว มันเหงามาก แต่ยิ่งจมปลักฉันก็ยิ่งแย่ ฉันจึงไปปรึกษาจิตแพทย์พี่หมอธันวา เขาบอกฉันให้มูฟออน...ออกมาจากมุมเดิมๆเปลี่ยนบรรยากาศให้ตัวเอง ถ้าวันไ