“ไปดิ อย่าขี้โกง” “หนูเปล่าโกง แต่เฮียแน่ใจใช่ไหม?” “แน่” “ความสัมพันธ์เราดูวุ่นวายหน่อย ๆ นะคะ” “ไม่เห็นจะวุ่นตรงไหน…” คนไม่คิดอะไรหันมองกลับไปยังหน้าจอโทรทัศน์ซึ่งกำลังถ่ายทอดสดเกมการแข่งขันฟุตบอลนัดรอบแบ่งกลุ่มจากทีมที่มาจากลีกใหญ่ของยุโ
“อะไรคะ?”“เฮียนวดทุกวันต้องใหญ่ขึ้นใช่ไหม?”“หนูไม่รู้”เพราะความขัดเขินที่ยังทำใจให้ชินไม่ได้สักที ทำให้ฉันต้องเอียงหน้าเข้าซบท่อนแขนที่กำลังหนุนนอน คนซึ่งยังคงนวดก็นวดอยู่อย่างนั้น ทว่าตอนนี้ปลายนิ้วเริ่มกระทำการปัดป่ายบริเวณหัวจุกไปด้วย แน่นอนว่าร่างกายคนโดนกระทำย่อมมีการตอบสนอง และคนที่ด้านหลัง
Episode 9 ยักษ์ เสียงพากย์แข่งขันฟุตบอลฟังครึ่งหลังฟังดูคนพากย์น่าจะตื่นเต้นกว่าครึ่งแรก อาจเป็นเพราะผู้เล่นจากแต่ละทีมทำประตูได้สูสีกัน และเวลาครึ่งหลังก็ใกล้จะหมดลงทุกขณะ ร่างนุ่มนิ่มที่นอนหนุนแขนข้างหนึ่งของผม มีการเกร็งตัวลุ้นไปกับเกมการแข่งขันทุกครั้งที่มีการส่ง
ผมเลื่อนมือรั้งบั้นเอวบางขึ้นสูงให้ใบหน้าน้องอยู่ในระยะสายตา ก่อนทำการตะโบมจูบอย่างร้อนรน คนในอ้อมแขนประท้วงทุบด้วยอาจไม่ทันตั้งตัว ลมหายใจกรุ่นร้อนติดขัดของเราทั้งคู่สับสนเกินกว่าจะเดาได้ว่าเป็นของใคร ขณะเดียวกันเสียงพากย์บอลก็ฟังดูเร้าใจขึ้นไปอีก คงเพราะมีใครสักคนกำลังส่งบอลเพื่อให้กอง
วันต่อมาประมาณเกือบเดือนแล้วที่ผมไม่ได้กลับบ้าน แต่ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจนัก โดยปกติแล้วผมก็เป็นแบบนี้ นาน ๆ ทีถึงจะกลับสักหนบรรยากาศในบ้านหลังใหญ่โตโอ่อ่า ประดับประดาด้วยข้าวของเครื่องใช้ราคาแพง เฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นล้วนผ่านการสู้ประมูลมาอย่างดุเดือดตามแต่เจ้าบ้านพอใจที่จะจ่าย ทุกอย่างมองดูเป็น
“ไม่เจอนานนะเฮีย” “หึ” คนโดนทักไม่ยักตอบ กลับแค่นหัวเราะเบนสายตามองไปทางอื่นด้วยวงสนทนาดูจะไม่เอื้อให้สนุกสนานอย่างที่หวังจะให้เป็น ท้ายที่สุดก็จำใจต้องหุบปากลง เตรียมรับคำสวดที่คงจะมาถึงในอีกไม่กี่อึดใจ “ลื้อโตแล้วนาอายักษ์”น้ำเสียงราบเรียบทว่าแฝงไปด้วยแววแห่งค
เจ้าของบ้านนิ่งอยู่ครู่ ท่านคงไม่คิดว่าไอ้ลูกชายคนนี้จะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนได้จริง แต่เงียบแค่อึดใจม้าก็พยักพเยิดด้วยท่าทีติดขัดอย่างเห็นได้ชัดอาจเพราะปรับอารมณ์ไม่ทัน“งั้นลื้อก็ไปพาอีเข้ามา”“จัดไป!”“ไม่ใช่แอบไปจ้างใครซี้ซั้วมาเป็นแฟนหรอกนา”“โธ่ม้า! เห็นผมเป็นคนยังไง?”“ลื้อต้องถามด้วยรึ?”คุณจามร
Episode 11 หลายชั่วโมงต่อมา “ไปด้วยกัน” “กูนอนรออยู่บ้านมึงแล้วกัน” “ไม่ได้” ตอนนี้เราอยู่กันที่บ้านไอ้พริก ‘เพื่อนสนิทของผม’ พ่วงด้วยตำแหน่ง ‘เมียเพื่อน’ และห้อยท้ายต่อด้วย ‘ว่าที่เจ้าของร้านอาหารคนใหม่’ มันต้องการที่จะไปหาเลือกซื้ออุปกรณ์ทำค
Special 6หลายปีต่อมาบรรยากาศยามเช้ายังคงวุ่นวายไม่ต่างไปจากทุกวัน…เนื้อเสียงเจื้อยแจ้วหลายเสียงดังต่อเนื่องไม่หยุดมากว่าชั่วโมงเข้าให้แล้ว กระทั่งฉันเดินลงมาถึงที่ชั้นล่างก็ทันได้เห็น ร่างสูงในชุดสูทเป๊ะปังตั้งแต่หัวจรดเท้า โน้มตัวลงช้อนร่างเล็กของเด็ก ๆ ขึ้นที่สองข้อแขน“วันนี้เฮียกลับไวจะพาไปดิ
จู่ ๆ เจ๊หยีที่วันนี้อยู่ในชุดอลังการยิ่งกว่าทุกวันก็ดึงเอากระดาษแผ่นหนึ่งมาวางลงบนโต๊ะ ทุกสายตาหันมอง มีเพียงแค่เฮียครามที่ผุดยิ้มกว้างมองสบตาเมียตัวเองเจ๊พริกเป็นคนแรกที่คว้ากระดาษแผ่นที่ว่าขึ้นดู และเจ๊ก็เบิกตาโตจนเจ๊อ้ายที่นั่งอยู่ข้างกันต้องรีบขยับหัวชะโงกมองตาม และเจ๊ก็ตกอยู่ในสภาวะเดียวกันค
“หนูทำผัวหลงได้ขนาดนี้ น่าจะดีใจ…” สายตากระหายหิวยังคงหลุบลงมอง พร้อมกันบั้นท้ายหนาก็หดเกร็งทุกจังหวะที่มีการเบียดอัดความแข็งกร้าวเข้าไปจนสุดทาง เพราะรู้ว่าคงจะต้องให้เขาได้ปลดปล่อยสักหนึ่งรอบฉันก็ได้แต่ยืนแข้งขาสั่นใช้แขนสองข้างโอบรอบเหนือบ่ากว้าง ยอมพยักหน้าตามใจในที่สุด
Special 5 หลายเดือนต่อมา เรากำลังนั่งกินข้าวกันอยู่ที่บ้านของฉันกับเฮียยักษ์… เพื่อนทุกคนมารวมตัวกันที่นี่เนื่องในวันเกิดของหนูยิ้มหลานสาวคนโตของกลุ่มที่ตอนนี้กำลังเรียนอยู่ในระดับชั้นปฐมวัยหลังจากเวลาผ่านไปหลายปีนับตั้งแต่ตอนนั้นที่หลานยังเป็นเพียงเด็กน้อยตัวอ้วนป้อ
“วันนี้น้องของเจ๊สวยมาก”“เจ๊ก็เหมือนกัน”“ขอให้ความรักยืนยาวยั่งยืนตลอดไปนะซอล”“ขอบคุณนะคะ”“ยักษ์เป็นคนดีจะต้องดูแลซอลได้ดีมากแน่ ๆ”แล้วอีกฝ่ายก็กลับเสียงสั่นเครือขึ้นมาทั้งอย่างนั้น แต่ก็ได้เห็นแค่เพียงแวบเดียว เจ๊พริกพยายามเอ่ยต่อด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ“เพื่อนเจ๊จะต้องทำให้ซอลมีความสุขมากแน่นอน
Special 4หลายปีต่อมางานแต่งงาน“ตื่นเต้นไหม?”“นิดหน่อยค่ะ”“ตอนเจ๊แต่งก็ตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน”“ตอนนั้นดีใจมากเลยใช่ไหมคะ?”“เหมือนฝันอะไรแบบนั้น”“หนูก็เหมือนกัน…”“เจ๊พริก เฮียยักษ์โทรมาถามว่ากดเงินสดมาให้รึยังคะ?”การสนทนาแบบเป็นส่วนตัวระหว่างฉันกับคนที่นั่งอยู่ข้างกันเป็นอันต้องสิ้น
Special 3สองเดือนผ่านไป“ฝนตกขนาดนี้ ขับไปก็ได้รถคว่ำตายพอดี”“หนูไม่อยากให้เฮียขึ้นห้อง”“ถ้าเฮียจะทำอะไรหนูจริง คงไม่ปล่อยเวลาให้ผ่านมาขนาดนี้”“…”“ช่างมัน เดี๋ยวเฮียนั่งรอฝนหยุดในรถได้ไม่เป็นไร”“…”จะว่าบ้าก็บ้า…แต่เอาเป็นว่าตอนนี้ฉันกับคนข้าง ๆ สนิทสนมกันในระดับหนึ่งที่อาจเรียกได้ว่าเป็น ‘พี
Special 2สามชั่วโมงต่อมาและฉันเองในตอนนี้…ก็อยู่ในสภาวะอารมณ์ที่ไม่ปกติพอกัน…เสียงคลื่นซัดเข้าหาชายหาด ประกอบกับสายลมลอยโชยพัดปะทะเข้าหาร่างกายทำเอาคลายความกรุ่นกังวลในใจลงได้ชั่วขณะหลังจากหย่อนกายลงนั่งที่ชายหาดได้ราวหนึ่งชั่วโมง เบียร์ก็ถูกเปิดดื่มไปหลายขวด ระหว่างเสียงคลื่นลมดังคลอ ก็มีเสียง
ร่างโปร่งสูงดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้าหยุดยืนที่หน้าเคาน์เตอร์ ก็ยืนเงียบอยู่นานจนฉันเองต้องเป็นฝ่ายร้องขอคำสั่งซื้อด้วยน้ำเสียงที่พยายามจะไม่หงุดหงิด “รับอะไรดีคะ?” “อเมริกาโนครับ” ริมฝีปากหยักลึกคลี่ยิ้มกว้างราวกับจะกวนไม่ต่างไปจากเดิม ส่วนฉันที่กำลังอยู่ในเวลางานก็ไ