หลังจากส่งพิจิกาที่บ้านของเธอแล้วพีราวัชรก็กลับมายังคอนโดมิเนียมของตนเองซึ่งปกติแล้วคืนวันศุกร์เขามักจะออกไปดื่มที่บาร์ของเพื่อน แต่หลายวันมานี้เขารู้สึกเหนื่อยเกินกว่าจะออกไปนั่งดื่ม และเมื่อคิดถึงคนที่เพิ่งลงจากรถไปก็ยิ่งทำให้หงุดหงิดมากขึ้น พิจิกาบอกเขาว่าอยากให้เขาลืมเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น ให้เขาปฏิบัติกับเธอเหมือนพนักงานคนหนึ่งซึ่งเขาไม่ได้รับปากเพราะคิดว่าตนเองทำแบบนั้นไม่ได้แน่ๆ เพราะที่ผ่านมาเขาพยายามที่จะมองเธอเป็นพนักงานคนหนึ่ง แต่พอเธออยู่ใกล้ทีไรภาพความทรงจำแห่งความสุขก็กลับมาทุกครั้ง เขาคิดว่าเรื่องนี้จะปล่อยผ่านไม่ได้ เพราะเธอทำให้เขาไม่มีสมาธิในการทำงานเลย เธอเข้ามาทีไรเขาก็ใจเต้นแรงต้องทำหน้านิ่งทั้งที่ใจจริงอยากจะดึงเข้ากอดให้หายคิดถึง ที่ผ่านมาพีราวัชรไม่เคยเป็นสมภารกินไก่วัดมาก่อน แต่ครั้งนี้ไก่วัดทั้งขาวทั้งน่ากินมีหรือเขาจะยอมปล่อยไปง่ายๆ บ่ายวันเสาร์พีราวัชรจึงโทรศัพท์ไปหาพิจิกาเพื่อให้เธอมาหาเขาที่คอนโดโดยอ้างว่ามีงานด่วนและเรื่องนี้ก็ไม่อยากรบกวนกิ่งแก้วเพราะอยากให้เลขาได้พักผ่อนกับครอบครัวอย่างเ
พีราวัชรอุ้มคนโดนจูบที่ร่างกายอ่อนระทวยเข้ามาในห้องนอนแล้วกดจูบอย่างอ่อนหวานอย่างเอาใจ เพราะตอนนี้เขากำลังจะเป็นผู้ชนะในเกมตัณหา มือใหญ่แกะกระดุมเดรสของเธอออกอย่างชำนาญ พิจิกาสะท้านไปกับไอเย็นของเครื่องปรับอากาศที่เข้ามาปะทะผิวเมื่อร่างกายเหลือเพียงแค่ชั้นในตัวบางชายหนุ่มก็ยอมผละจูบที่เร่าร้อนออกเพื่อเชยชมกับความสวยตรงหน้า“อ่าห์ ผิง คุณสวยมาก” พีราวัชรครางดังคนละเมอ ก่อนจะก้มลงไปจูบซับที่เรียวปากเล็ก จูบไซร้ไปทั้งใบหน้าแดงระเรื่อเรื่อยมายังซอกคอหอมกรุ่น ขณะที่ฝ่ามือร้อนก็ลากไล้ไปตามลำตัวและเอื้อมไปปลดตะขอชั้นในเพื่อปลดปล่อยความอวบอิ่มให้เป็นอิสระ จากนั้นมือใหญ่ก็เข้าฟอนเฟ้นความนุ่มหยุ่นทั้งสองข้าง“อ๊ะ คุณพีร์”หญิงสาวสะดุ้งเมื่อตอนนี้มือข้างหนึ่งของเขากำลังรุกล้ำกลางกายเพื่อเรียกน้ำหวานให้หลั่งริน ขณะที่ปลายลิ้นก็ลากไล้ไปบนเนินอกอวบขบเม้มก่อนจะกอบโกยความนุ่มเพื่อส่งยอดชูชันเข้าปากทันที“อื้อ...”เธอทนต่อแรงปลุกเร้าของคนชำนาญไม่ได้เลยสักนิด ร่างกายเธอบิดเร่าเมื่อเขาดูดดึงยอดดอกบัวสีหวาน โลมเลียและขบเม้มอย่างเมามัน ดูดกินจนพอใจก็เลื่อนปากจูบพรมไปทั่วหน้าท้องแบ
หลังจากไฟพิศวาสดับมอดพิจิกาก็แทบไม่มีแรงลุกจากเตียง เธออยากกับบ้านขณะที่เขานั้นยังกอดเธอไว้อย่างหวงแหน “ผิง ทำไมต้องคิดมากด้วยล่ะ เราเข้ากันได้ดีมากคุณก็รู้ ตกลงคบกันนะ” “คุณพีร์ไม่ใช่ผิงคุณพีร์ไม่เข้าใจหรอกค่ะ” “บอกผมได้ไหม นอกจากกลัวแม่ไม่ยอมรับแล้วผิงกลัวอะไร” “หลายอย่างค่ะ เราต่างกันมากและผิงเพิ่งเข้าไปทำงานเองนะคะ ถ้าคนอื่นรู้เขาก็จะมองว่าที่ผิงได้งานก็เพราะใช้เส้นของคุณเข้ามา” “แต่เรื่องนี้ผมไม่เกี่ยว” “แต่จะมีสักกี่คนที่รู้และเข้าใจล่ะคะ” “ผมไม่เคยรู้สึกอยากจะคบกับใครมาก่อน ตอนแรกผมก็คิดว่าเพราะผมหลงคุณเพราะคุณยังสดใหม่ แต่ผมไม่เคยรอใครนานถึงสองเดือนมาก่อนเลย ผมอดทนไม่ยุ่งเกี่ยวกับคนอื่น ทั้งที่แต่ก่อนผมไม่เคยขาดเรื่องเซ็กซ์เลย ผมว่าผมรักคุณเข้าแล้วล่ะ” “อะไรนะคะ” “ผมบอกว่าผมรักคุณ” “คุณพีร์” พิจิกาไม่อยากจะเชื่อว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นเป็นความจริง แต่พอเห็นสีหน้าและแววตาของเขาเธอก็คิดว่าตนเองมองไม่ผิด
หลังจากปิดร้านในเวลาสี่ทุ่มพิจิกาก็รีบบอกลาพี่ญาดาและพี่ช้างก่อนจะแอบกดลิฟต์ขึ้นยังลานจอดรถชั้นบนสุดตามที่เธอได้นัดกับพีราวัชรไว้ พอเปิดประตูออกก็เจอกับรถของชายหนุ่มที่จอดรออยู่ก่อนแล้ว เธอมองซ้ายมองขวาเมื่อไม่เห็นใครอยู่บริเวณนี้ก็รีบเปิดประตูเข้าไปทันที “รอนานไหมคะ ผิงปิดร้านแล้วก็รีบมาเลย” “ไม่ครับผมเพิ่งมาถึงเอง เหนื่อยไหม” เขาส่งน้ำที่แวะซื้อจากร้านสะดวกซื้อให้เธอดื่ม “นิดหน่อยค่ะ วันอาทิตย์ลูกค้าจะเยอะกว่าปกติ ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวหยิบมาแล้วดื่มทีเดียวเกือบครึ่งขวดเพราะช่วงหัวค่ำลูกค้าเยอะจนแทบไม่ได้นั่งพัก “ผมว่าคุณเก่งมากนะ เปิดร้านในห้างมันไม่ง่ายเลย เพราะจะหยุดบ่อยก็ไม่ได้ ที่ผ่านมาคุณเคยปิดร้านบ้างไหมครับ” “ไม่ค่อยปิดค่ะ นอกจากว่าจำเป็นจริงๆ แล้วหาใครมาขายแทนไม่ได้” “กลับดึกทุกวันไม่กลัวเหรอครับ” “ไม่ค่ะ บ้านผิงไม่ไกลเท่าไหร่ อีกอย่างวันธรรมดาก็ปิดสามทุ่มนี่คะ” “ผมว่าจะเปลี่ยนนโยบายใหม่ให้ทุกร้านหยุดได้สัปดาห์ละหนึ่งวัน
“พี่กลับก่อนนะผิง”“ค่ะพี่กิ่ง”“ถ้าเกินสองทุ่มคุณพีร์ยังไม่กลับผิงก็ลองเข้าไปถามว่าเขาจะให้ผิงกลับได้เลยไหม เพราะบางทีคุณพีร์ก็ทำงานจนดึกจนลืมว่าเลขาอย่างเรายังนั่งรออยู่นอกห้อง”“คุณพีร์ทำงานดึกตลอดเหรอคะ”“ไม่หรอกค่ะ ปกติก็ไม่เกินหกโมง”“ค่ะ” พิจิกาพยายามจะทำความเข้าใจกับงานของเจ้านาย เพราะถ้าหากถึงวันที่พี่กิ่งแล้วลาคลอดแล้วเธอคงจะต้องทำงานทุกอย่างคนเดียวจึงต้องถามและเรียนรู้ให้มากที่สุดพี่กิ่งแก้วและคนอื่นกลับไปแล้วตอนนี้ที่บริษัทก็เหลือแค่เธอกับพีราวัชรแค่สองคน ชายหนุ่มยังคงนั่งทำงานอยู่ในห้องขณะที่เธอก็นั่งรอเขาอยู่ข้างนอก จนกระทั่งใกล้ถึงเวลาสองทุ่มหญิงสาวจึงเคาะประตูแล้วเปิดเข้าไป“คุณพีร์ค่ะ ดึกแล้วผิงขอตัวกลับก่อนได้ไหมคะ”“รอแป๊บนึงได้ไหม เดี๋ยวผมก็ทำงานเสร็จแล้วจะได้กลับพร้อมกัน”“ได้ค่ะ ผิงรอข้างนอกนะคะ”“รอตรงนี้แหละ ไม่นานหรอก ระหว่างรอผิงนวดไหล่ให้ผมได้ไหม ทำงานทั้งวันผมเมื่อยมาก”“ค่ะ” พิจิกาเดินอ้อมมาทางด้านหลัง สองมือนวดไปบนไหล่หนาที่เธอเคยกอดมาแล้วหลายครั้ง ส่วนคนที่ถูกนวดก็นั่งอ่านรายงานหน้าสุดท้ายก่อนจะเซ็นชื่อลงไปแล้วปิดแฟ้มลง “เรียบร้อยครับ”
พีราวัชรรีบปลดกางเกงออกโดยเร็วแล้วลากไล้ท่อนเอ็นร้อนลงบนกุหลาบดอกสวยที่มีหยดน้ำหวานเกาะพราว ปากก็ก้มลงประกบจูบปลุกเร้าอีกครั้งจนพิจิกาหายใจไม่ทัน มือใหญ่ที่ว่างก็นวดคลึงความอวบอิ่มกระตุ้นให้เลือดในกายของหญิงสาวพลุ่งพล่าน“อ๊ะ!”หญิงสาวร้องเบาๆ เมื่อชายหนุ่มสอดกายแกร่งเชื่อมประสาน ความเสียวซ่านแผ่ไปทั่วตัว โพรงเนื้ออุ่นตอดรัดแน่นจนเขาต้องขยับสะโพกหลายครั้งเพื่อส่งกายใหญ่เข้าไปในตัวเธอให้ลึกกว่าเดิม“อืมมม...ผิง….. แน่นดีมาก โอวว ....”ชายหนุ่มครางด้วยเสียงที่บ่งบอกว่าพอใจมากแค่ไหน เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าการตนเองจะร่วมรักในห้องทำงานแบบนี้ แต่พอได้ทำแล้วก็รู้สึกเสียวซ่านและตื่นเต้นมากกว่าเดิมหลายเท่าถ้าจะอุ้มเธอไปยังห้องพักที่อยู่ทางด้านหลังก็กลัวว่าแม่บ้านจะผิดสังเกตเพราะปกติแล้วเขาไม่เคยพาใครมาทำอะไรที่นี่เลยสักครั้ง แต่พิจิกาเป็นข้อยกเว้น ตลอดทั้งวันเขาเครียดจากการทำงาน พอเธอเข้ามาใกล้ได้กลิ่นกายหอมๆ เขาก็ไม่อาจจะทนต่อความต้องการของตนเองได้ เวลาเช่นนี้คงไม่มีใครอยู่ที่บริษัท และห้องทำงานของก็ใช่ว่าใครจะเข้ามาง่ายๆ อีกทั้งผนังห้องยังทำจากวัสดุเก็บเสียงมันจึงเป็นเหมือนสมร
กำหนดการไปดูห้างสรรพสินค้าที่เวียดนามถูกเลื่อนมาเร็วกว่ากำหนดหลายวัน บ่ายวันนี้หลังจากออกไปเจอลูกค้ากับพิจิกาแล้วพีราวัชรก็เลยไม่ได้พาเธอไปดูหนังอย่างที่ตั้งใจไว้ เพราะมารดาของเขาบอกให้พาพิจิกามาทานอาหารเย็นที่บ้าน “ทำไมแม่คุณพีร์ถึงให้ผิงไปที่บ้านด้วยล่ะ หรือท่านรู้เรื่องของเราแล้ว” “ไม่หรอกครับ แม่แค่อยากเจอคุณสักครั้ง ท่านก็คงอยากมั่นใจว่าผมกับคุณไม่ได้รู้สึกอะไรต่อกัน เพราะคุณต้องไปเวียดนามกับผมหลายวันเลยนะครับ” “แต่ผิงกลัวท่านจะจับได้ ผิงกลัวคุณพีร์เดือดร้อนนี่คะ” “ถ้าจับได้ก็ดี เราจะได้บอกความจริงไปเลย” “อย่านะคะ” “เวลาผิงทำหน้าตกใจแบบนี้ตลกดีเหมือนกันนะครับ” “ผิงไม่ตลกด้วยเลยค่ะ ผิงกลัวจริงๆ นะคะ” “ไม่ต้องกลัว เวลาผิงมองผมก็นึกแค่ว่าผมเป็นเจ้านายเท่านั้นก็พอ ไม่ต้องคิดถึงเรื่องอื่น” “ค่ะ ผิงจะคิดว่าคุณคือบอส” “ดีมากครับ เอาล่ะใกล้ถึงแล้ว” พีราวัชรชะลอความเร็วของรถลงเมื่อเข้ามายังหมู่บ้านจัดสรรขนาดใหญ่
พิจิกาขึ้นมานั่งบนรถของพีราวัชร พอรถเคลื่อนออกมาจากรั้วบ้านหญิงสาวก็ถอนหายใจอย่างหนัก “แม่ผมว่าอะไรคุณหรือเปล่า” “เปล่าค่ะ ท่านไม่ว่าอะไรผิงเลย” “แล้วถอนหายใจทำไมครับ” “ผิงไม่อยากโกหกท่านเลยค่ะ ถ้าท่านรู้ท่านคงโกรธมากเลยนะคะ แล้วระหว่างผิงกับคุณผิงว่าความเป็นไปได้มันน้อยมากนะคะ” “ตอนนี้ผิงอาจจะมองว่ามันเป็นไปได้น้อยมาก แต่เชื่อเถอะว่าผมรู้จักแม่ผมดี อีกหน่อยท่านก็จะยอมรับคุณเอง” “แต่เราสองคนบาปมากเลยนะคะที่โกหกท่าน” “เราโกหกก็เพื่อให้ท่านสบายใจครับ ผิงอย่าคิดมากเลย แม่ผมอาจจะหาผู้หญิงมาให้ผมหลายคนก็จริงแต่พอผมบอกไม่สนใจท่านก็เลิกจับคู่” “แต่คุณจะปฏิเสธได้ทุกครั้งเหรอคะ” “ได้สิ ผิงยังไม่เคยเจอน้องชายกับน้องสาวผมใช่ไหม สองคนนั้นแต่งงานไปแล้ว แต่กว่าจะได้แต่งก็ต้องต่อสู้กับแม่ผมบ้านแทบแตกแต่ในที่สุดท่านก็ยอม” “แต่คุณเป็นพี่ชายคนโตนี่คะ ท่านก็คงหวังเอาไว้มาก” “ท่านหวังมากเพรา
เรื่องราวทุกอย่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว ถึงตอนนี้พิจิกาและพีราวัชรก็แต่งงานกันได้หลายเดือนแล้ว คุณกิ่งแก้วที่ลาไปคลอดลูกก็ยังไม่กลับมาทำงานทำให้สองสามีภรรยามีเวลาหวานด้วยกันทั้งที่บ้านและที่ทำงาน “ไม่น่าเชื่อนะคะว่าเราจะได้แต่งงานกัน” “ถ้าคืนนั้นผมไม่มาส่งผิงที่นี่ ผมคงเสียดายไปจนตาย” “ผิงไม่คิดเลยนะคะว่าความเมาจะทำให้ผิงได้สามีที่หล่อแบบนี้” “ผิงรู้ไหม ว่าผมแอบมองผิงตั้งแต่ผิงออกไปเต้นแล้ว” “เหรอคะ” “ครับ ผิงสวยสะดุดตาผมมาก ผมดีใจมากแค่ไหนรู้ไหมที่ผิงเดินกลับมาดื่มต่อที่บาร์” “แล้วคุณคิดจะมาส่งผิงแล้วกลับหรือคิดอย่างอื่น” “ผมสารภาพเลยครับว่าผมคิดไม่ซื่อกับผิงตั้งแต่ต้น ผมเคยเจอผู้หญิงในบาร์แล้วเราก็ไปต่อกันจากนั้นทุกอย่างก็จบภายในคืนเดียว ผมแทบไม่รู้ชื่อพวกเธอด้วยซ้ำ แต่พอเจอผิง ผมกลับลืมไม่ลง” “เพราะอะไรคะ จะว่าเพราะหน้าตาก็ไม่น่าจะใช่เพราะคนสวยกว่าผิงมีเยอะไปหมด” “ผมเองก็หาเหตุผลไม่ได้ ผมรู้แค่ต้องเป็นผิง ผมรู้แค
เริ่มงานวันแรกหลังจากหยุดยาว พิจิกาไม่ค่อยมีสมาธิทำงานเท่าไหร่เพราะเย็นนี้เธอจะต้องเข้าไปทานอาหารเย็นที่บ้านของพีราวัชร แม้จะเคยเจอบิดามารดาของเขาแล้ว แต่ครั้งนี้มันต่างจากครั้งที่แล้ว เพราะเขาจะพาเธอเข้าไปในฐานะคนรักไม่ใช่ผู้ช่วยเลขาอย่างครั้งก่อน“ผิง มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า”“นิดหน่อยค่ะพี่กิ่ง”“เล่าให้พี่ฟังได้นะ”“ผิงก็อยากเล่าค่ะ แต่เรื่องนี้ผิงบอกใครไม่ได้จริงๆ ค่ะ เรื่องนี้มันไม่ได้เกี่ยวกับผิงคนเดียว”“คงเป็นเรื่องสำคัญมากใช่ไหม”“ค่ะพี่กิ่ง”“พี่ไม่รู้นะว่าเรื่องไร เอาเป็นว่าพี่ให้กำลังใจผิงก็แล้วกันนะ ใช้สติให้มาก พี่ว่าปัญหาทุกอย่างจะผ่านได้ด้วยดี”“ขอบคุณค่ะพี่กิ่ง พี่กิ่งจะกลับเลยก็ได้นะคะเดี๋ยวตรงนี้ผิงทำต่อเองค่ะ”“แล้วผิงไม่รีบกลับบ้านเหรอวันนี้เจ้านายไม่อยู่น่าจะรีบกลับนะ”“กลับตอนนี้รถเมล์แน่นค่ะพี่กิ่ง ผิงรออีกนิดดีกว่าค่ะ”“งั้นพี่ไปก่อนนะ”“ค่ะพี่กิ่ง”พอเลขารุ่นพี่กลับไปแล้วพิจิกาก็จัดการงานตรงหน้าต่ออย่างไม่เร่งรีบเพราะพีราวัชรเพิ่งลงจากเครื่องเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน กว่าเขาจะขับรถมาถึงที่นี่ก็คงอีกนานเมื่อทำงานตรงหน้าเสร็จแล้วหญิงสาวก็เข้าห้องน้ำสำรวจความเรีย
เกือบสิบโมงเช้าของวันใหม่สองหนุ่มสาวก็ยังคงนอนกอดกันอยู่บนเตียงกว้าง ความสุขที่มีร่วมกันมันมากมายราวกับเป็นความฝัน พิจิกาตื่นตั้งนานแล้วแต่เธอยังไม่อยากขยับออกจากอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นของเขา เธอเงยมองใบหน้าหล่อที่ตอนเช้าไรหนวดเขียวเริ่มเห็นชัดเจนและมันเพิ่มเสน่ห์ในตัวเขาได้เป็นอย่างดี หญิงสาวไล้มือไปตามสันกรามอย่างแผ่วเบา และคิดว่าถ้าเขาเอาใบหน้านี้ซุกไซร้ไปตามลำตัวเธอมันจะจั๊กจี้หรือเสียวซ่านมากแค่ไหน เธอสำรวจใบหน้าของเขานานไปหน่อยตอนนี้เจ้าตัวก็เลยและทำให้คนที่แอบมองต้องรีบหลบตา“แอบมองแบบนี้คิดอะไรอยู่”“ผิงไม่ค่อยได้เห็นเวลาหน้าคุณพีร์มีหนวดเลย ปกติคุณพีร์โกนทุกวันเหรอคะ”“ครับ ผมต้องโกนทุกเข้า”“อยู่ที่นี่กับผิงไม่โกนได้ไหมคะ ผิงชอบนะคะ มันเซ็กซี่ดีค่ะ”“ผมไม่อยากให้มันทิ่มผิงเวลาที่ผมจูบผิงนี่ครับ”“นิดหน่อยเองไม่เป็นไรหรอกค่ะ นะคะ”“ก็ได้ครับแล้วถ้าเจ็บอย่ามาบ่นก็แล้วกัน”“แล้วผิงเคยบ่นให้คุณพีร์ฟังไหมล่ะคะ”“ไม่เลย ผิงไม่เคยบ่นว่าเจ็บ ผมไม่รู้เพราะผิงไม่เจ็บหรือเพราะผิงทนเพื่อผม”“ถ้าบอกว่าไม่เจ็บก็คงไม่ถูกหรอกค่ะ ผิงเจ็บแต่มันไม่มากถึงขั้นทนไม่ไหว คุณพีร์ทำให้ผิง
ตอนนี้ทั้งสองคนอยู่ในสภาพเปลือยเปลา พีราวัชรขึ้นมาคร่อมทับตัวหญิงสาว เขามองหน้าเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนา ก่อนบดจูบลงบนริมฝปากบางอยางดูดดื่ม มือหนาทั้งสองข้างคลึงเคลาสองปทุมอวบอิ่มอย่างมันมือ ปลายนิ้วสะกิดยอดปทุมถันปลุกเร้าจนเสียงหวานครางระงม“อื้อ....”จูบจนพอใจเขาก็ลากไล้ความเปียกชื้นไปตามซอกคอหอมกรุ่น ขบเม้มดูดดึงไปตามแรงอารมณ์ที่กำลังพุ่งสูง ผิวเนียนนุ่มขึ้นรอยแดงไปทั้งทุกจุดที่ปากร้อนเลื่อนผ่าน ลากไล้มาจนถึงร่องปทุมอวบอิ่ม ลิ้นร้อนลากปัดป่ายบนยอดสีสวย ก่อนจะส่งปากร้อนครอบครองด้วยความเสน่ห์หาหญิงสาวได้แต่ดิ้นพล่านเสียงหวานครางเพื่อระบายความเสียว เขาหยอกเย้าดูดกินจนอิ่มหนำก็เลื่อนตัวลงไปเรื่อยๆ จนหยุดกลางขาเรียวทั้งสองข้าง เธอชันเข่าขึ้นอย่างรู้งานไม่นานความสุขก็แตกกระจายเข้าสู่กายของพิจิกา หญิงสาวหอบสะท้านก่อนจะถูกเขาโน้มกายลงหาตัวเธอนอนคว่ำไปกับที่นอน ขณะที่ท่อนเอ็นของเขายังคงกระตุกอยู่ในกายเธออย่างยาวนาน ปากร้อนพรมจูบลงบนแผ่นหลังอย่างหลงใหล“ผมไม่เคยเจอใครที่สุดยอดเหมือนคุณมาก่อน ที่รัก ผมรักคุณนะผิง”“ผิงก็รักคุณพีร์ค่ะ”พิจิกายิ้มอย่างมีความสุข เมื่อชายหนุ่มถอด
เป็นครั้งแรกที่พี่จิกต้องนั่งเครื่องคนเดียวข้ามประเทศแต่พอลงจากเครื่องก็ได้เจอกับพีราวัชรที่รออยู่ตรงจุดรับกระเป๋า“บังเอิญจังเลยนะครับที่ได้เจอกันที่นี่”“ค่ะ บังเอิญมาก ว่าแต่จะบังเอิญพักที่เดียวกันด้วยไหมคะ” พิจิกาถามก่อนที่ทั้งสองจะเดินตามกันไปยังรถของโรงแรมที่จอดอยู่เที่ยวบินที่พวกเขาโดยสารมาเป็นเที่ยวบินที่ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิดึกที่สุดพอมาถึงสิงคโปร์และเข้าที่พักก็เกือบจะตีหนึ่ง โรงแรมที่ชายหนุ่มพาเธอมาพักเป็นโรงแรมหรูห้าดาวที่อยู่บริเวณอ่าวมารีนา สามารถมองเห็นวิวยามค่ำคืนรวมถึงแลนด์มาร์คสำคัญอย่างสิงคโปร์ฟลายเออร์ได้อีกด้วย“สวยจังค่ะคุณพีร์ ผิงไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะได้มาพักโรงแรมหรูแบบนี้” พิจิกตื่นเต้นกับภาพความสวยตรงหน้า“ถ้าผิงชอบเราจะมากันทุกวันหยุด”“ไม่เอาหรอกค่ะ ราคาห้องมันคงแพงมาก”“แพงแค่ไหนผมก็ยอมจ่ายถ้าผิงชอบ” พีราวัชรเดินมาสวมกอดเธอด้านหลัง“ค่ะผิงชอบ แต่ถ้ามาบ่อยๆ ผิงกลัวว่าคุณพีร์จะหมดตัวเสียก่อน”“ถ้าผมหมดตัวผิงยังจะรักผมไหม”“รักสิค่ะ ผิงไม่ได้รักคุณพี่ที่เงิน”“ผมรู้ ผมถึงได้รักผิงมากยังไงล่ะ”“วิวสวยมากเลยนะคะ เหมือนอยู่บนสวรรค์”“เคยเห็นเหรอครับว่าสวรรค์เป
หลังจากเคลียร์เอกสารทุกอย่างเสร็จแล้วพีราวัชรก็เรียกกิ่งแก้วและพิจิกาเข้ามาในห้องทำงาน“นั่งก่อนทั้งสองคนนั่นแหละ”“ขอบคุณค่ะ/ ขอบคุณค่ะ” เลขาและผู้ช่วยเลขาพูดพร้อมกันก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะของรองประธาน“ผมอย่างจะถามคุณกิ่งว่าผ่านมาสองเดือนแล้วพิจิกาทำงานเป็นยังไงบ้าง”“น้องผิงทำงานเรียบร้อยดีค่ะ เรียนรู้ได้เร็วมากค่ะ”“แล้วคุณมั่นใจไหมว่าถ้าคุณหยุดงานไปหกเดือนงานทุกอย่างจะไม่มีปัญหาอะไร”“กิ่งมั่นใจค่ะ ที่ผ่านมาน้องผิงไม่เคยทำงานพลาดเลย เธอรอบคอบและมีไหวพริบมากกว่ากิ่งด้วยซ้ำ”“ถ้าอย่างนั้นช่วงที่คุณลางานผมคงไม่ต้องหาใครมาเพิ่มใช่ไหม”“ผิงคิดว่าไหวไหม” กิ่งแก้วหันมาถามผู้ช่วย“คิดว่าไหวค่ะพี่กิ่ง”“ถ้าไหวก็ดี เอาล่ะเรื่องงานผ่านไปแล้ว ทีนี้ก็มาถึงเรื่องวันหยุดยาว”“มีอะไรหรือเปล่าคะคุณพีร์”“ผมอยากให้คุณกิ่งช่วยดูให้หน่อยว่าหลังวันหยุดผมต้องไปเจอลูกค้าหรือไปตรวจงานที่สาขาไหนหรือเปล่า”“สักครู่นะคะ” กิ่งแก้วเปิดตารางงานของเจ้านายขึ้นมาดูก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาตอบเขาอีกครั้ง“คุณพีร์ต้องไปร่วมงานเปิดสาขาใหม่คู่ค้าที่สิงคโปร์ค่ะ”“เดี๋ยวผมจัดการจองตั๋วเองนะ”“ได้ค่ะ ครั้งนี้คุณพีร์จะใ
กลับมาจากเวียดนาม ทุกอย่างก็ดำเนินไปตามปกติ พิจิกาทำงานได้เป็นอย่างดี จนกิ่งแก้วรู้สึกวางใจถ้าเธอจะต้องลางานถึงหกเดือนพิจิกาเองก็ปรับตัวได้ดีกับทั้งเรื่องงานและเรื่องของความรัก หลังเลิกงานหญิงสาวก็จะรอกลับพร้อมกับพีราวัชร แต่บางวันก็ขอไปทานข้าวเย็นกับมารดาบ้าง พีราวัชรก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะเขาเองก็ต้องแบ่งเวลาให้กับครอบครัวเหมือนกันอย่างเย็นวันนี้ชายหนุ่มมาส่งเธอที่บ้าน ก่อนจะรีบขอตัวกลับไปที่บ้านของตนเอง เพราะมารดาบอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วยเขาไม่รู้ว่าเรื่องที่มารดาจะพูดนั้นเป็นเรื่องอะไร พอไปถึงและทานอาหารเย็นเสร็จแล้ว พีราวัชรก็ถูกเรียกมานั่งคุยที่ห้องทำงานซึ่งวันนี้ใบหน้าของมารดานั้นดูไม่พอใจเป็นอย่างมาก“พีร์มีอะไรจะสารภาพกับแม่ไหม”“ไม่มีนี่ครับ”“แน่ใจนะว่าไม่ได้ทำอะไรผิดหรือแอบทำอะไรลับหลังแม่” คุณประภัสสรมองหน้าบุตรชายอย่างคาดคั้น“พีร์ พ่อว่ามีอะไรก็รีบสารภาพไปเถอะ เผื่อบางทีอาจจะได้ลดโทษบ้าง”“ทำไมพ่อกับแม่ทำเหมือนกับว่าผมไปทำอะไรผิดมาอย่างนั้นแหละครับ”“แม่จะไม่อ้อมค้อมแล้วนะ”“ครับ ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าผมไปทำอะไรผิดมา” ชายหนุ่มมั่นใจว่าตนเองไม่ได้ทำอะไรผิดพลาดและเรื่องของต
“ผิง ถ้าคืนนั้นไม่เจอผมคุณก็คงเลือกมันใช่ไหม”“คุณกำลังดูถูกผิงอยู่”“ยังจะเถียงก็เห็นอยู่ว่าพอเจอกันก็หน้าระรื่น”“หึงเหรอคะ”“...” พี่ราวัชเงียบ เขาเพิ่งรู้ตัวเองว่ากำลังหึงและไม่มีเหตุผล“คุณพีร์ขา ผิงไม่คิดอะไรกับเขาเลย” เธอพยายามใจเย็น เพราะดูแล้วเขาจะทั้งเมาและโมโหจนคุมตัวเองไม่อยู่“คุณจะมีผมคนเดียวใช่ไหม”“แน่นอน ผิงมีคุณคนเดียว”“คุณพีร์เมาแล้ว ผิงพาไปนอนนะคะ”พิจิกาพยุงคนเมามายังที่นอนกว้างแต่พอถึงเตียงเขากลับผลักให้เธอลงไปนอนพร้อมกับกระชากชุดของเธอออกอย่างรวดเร็วก่อนโน้มใบหน้าเข้าใกล้ใบหน้าสวย สัมผัสจูบแผ่วเบาบนเรียวปากทำให้พิจิการู้สึกว่าตอนนี้เขากำลังกลับมาเป็นพีราวัชรคนเดิมของเธอแล้ว “อ้าห์....”เสียงครางหลุดออกมาจากลำคอระหงเมื่อปากร้อนเข้าครอบครองปทุมถันเต่งตึง สลับกับมือใหญ่บีบเคล้นอีกข้างพิจิกาเริ่มดิ้นเพราะถูกความรู้สึกเสียวซ่านเข้าจู่โจม เธอแอ่นร่างเปิดทางเชื้อเชิญเขาดูดดึง หยอกล้อกับความอวบอิ่มของตนมากขึ้นพีราวัชรเลื่อนใบหน้าลงต่ำมาไปตามผิวเนียนนุ่มจนถึงหน้าท้องแบนราบที่กำลังเกร็งสะท้านกับสัมผัสร้อนที่รินรดไปทั่วผิวกาย เขาเหมือนจะควบคุมความต้องการข
มาถึงดานังในเวลาบ่าย พอเอาของเข้าที่พักแล้วก็ใช้บริการรถโรงแรมให้ไปส่งที่เมืองฮอยกันซึ่งอยู่ไม่ไกลมากนัก ทั้งสองพากันมาเดินเล่นย่านเมืองเก่า พิจิกาถ่ายรูปไปทั่วเพราะอยากจะเอาไปอวดมารดาโดยมีพีราวัชรเป็นตากล้องให้ พอเดินจนเหนื่อยก็ทานอาหารที่นั่นก่อนจะพากันนั่งรถกลับมายังโรงแรมพิจิกานั่งพิงกับไหล่หนาใบหน้ายิ้มอย่างมีความสุขขณะที่ดูรูปในมือถือ“พรุ่งนี้เราจะไปเที่ยวไหนกันคะ”“ผิงอยากไปไหนล่ะครับ”“บานาฮิลล์ค่ะ คุณพีร์เคยไปไหมคะ”“ยังเลยครับ เดี๋ยวถ้ากลับถึงโรงแรมแล้วผมจะถามโรงแรมให้นะครับว่าจะไปที่นั่นได้ยังไงบ้าง”จากนั้นพิจิกาก็นั่งหลับมาจนถึงโรงแรม พีราวัชรพาเธอมาส่งที่ห้องก่อน ส่วนตัวเขานั้นกลับไปยังหน้าล็อบบีของโรงแรม ซื้อสำหรับสองคนเพื่อไปเที่ยวบานาฮิลล์ตามที่พิจิกาอยากไปเขากลับมาบนห้องอีกครั้งคนที่อยากเที่ยวก็หลับไปก่อนแล้ว พีราวัชรรีบอาบน้ำแล้วตามเธอขึ้นบนเตียงแม้ในใจอยากจะทำมากกว่ากอดแต่เพราะพรุ่งนี้จะต้องออกเดินทางจากโรงแรมตั้งแต่เช้าจึงต้องข่มใจให้นอนกอดเธอไปแบบนั้นเช้าวันใหม่พิจิกาแต่งตัวสดใส เธอกับเขาพากันลงมาทานอาหารตั้งแต่เช้า พอแปดโมงครึ่งรถบัสก็มารับนักท่องเที่ยวที่ซื