อยู่กับพี่นะ...คนดี ร้านอาหารหรูใจกลางเมือง “สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับสู่ร้านอาหารฟรังค์ซัวนะคะ คุณลูกค้าจองห้องอาหารไว้ไหมคะ” เสียงพนักงานต้อนรับกล่าวต้อนรับหญิงสาวในชุดมินิเดรสลายลูกไม้สีขาวมีซับด้านใน ชุดกระชับแนบไปกับสรีระบางอรชร อ้อนแอ้น ผมยาวลอนสีน้ำตาลอ่อนปล่อยยาวสยาย ผิวขาวใสหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักดูละมุนอ่อนหวานและสดใส “ครอบครัวจองไว้แล้วค่ะ น่าจะจองในชื่อ วินเนอร์ มีไหมคะ” “สักครู่นะคะ เดี๋ยวเช็คให้ค่ะ” หญิงสาวยืนรอพนักงานเช็ครายชื่อคนจองห้องอาหาร ซึ่งวินเซ่เองก็ไม่ได้ถามว่า พ่อแม่ของเธอจองไว้ในชื่ออะไร “ขอโทษที่ให้รอนะคะ ชื่อนี้ยังไม่มีจองเข้ามานะคะคุณลูกค้า” “เอ่ออ งั้นลองเช็คชื่อ เซริน ให้หน่อยค่ะ” ถ้าไม่ใช้ชื่อพ่อก็ต้องชื่อแม่ล่ะวะ สักชื่อหนึ่ง “สักครู่ค่ะ...เจอแล้วค่ะ จองในชื่อของคุณ เซรินนะคะ เดี๋ยวพาคุณลูกค้าไปที่ห้องอาหารนะ” พนักงานต้อนรับส่งต่อให้พนักงานอีกพาเธอไปยังห้องอาหาร “โห่ หม่ามี๊ จองห้องชื่อใครก็ไม่บอกสักคำ” เมื่อก้าวเข้ามาในห้อง วินเซ่ก็เอ่ยบ่นกับผู้เป็นแม่ทันทีโดยไม่ได้สังเกตว่ารอบข้างมีใครอยู่บ้าง “สวัสดีลุงกับป้าเขาก่อน” เซรินบอกลูกสาวก่อนผ
อยู่กับพี่นะ...คนดี(ต่อ) “แล้วจะให้เรียกอะไรล่ะ ไม่เอาที่รักอ่ะ เรียกข้างนอกอายคนอื่น” “พี่!” “พะ...พี่~ โอ้ยไม่ไหวอ่ะ ไม่ชิน เรียกคุณแบบเดิมไม่ได้เหรอ” “ไม่! ไปได้แล้ว เดิน...” แบล็คเกอร์ตัดบท ไม่อยากให้เด็กดื้อต่อรองอะไรอีก มันจะไม่จบไม่สิ้น เขาดันหลังบางไปข้างหน้าเพื่อให้เธอออกตัวเดินกลับห้องอาหาร เมื่อเข้ามาที่ห้องอาหารทุกคนก็กินกันอิ่มหมดแล้ว สายตาทุกคู่จ้องมาที่เธอและแบล็คเกอร์ที่เดินเข้ามาพร้อมกัน ก่อนรอยยิ้มน้อยๆ จะผุดขึ้นบนใบหน้าทุกคน ยกเว้นวินเนอร์... “เอ่อ หนูขอตัวกลับก่อนนะคะ สวัสดีค่ะคุณลุง สวัสดีค่ะคุณป้า ป๊ากับหม่ามี๊ วินซ์กลับก่อนนะ” เธอหันไปยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทุกคน รวมถึงพ่อกับแม่เธอด้วย “ทีหลังเรียก พ่อกับแม่ได้เลยนะหนูวินซ์ แม่ชอบ” พ่อแม่ของแบล็คเกอร์ความต้องการของตัวเอง “คะ? ค่ะ!” วินเซ่ตกใจเล็กน้อยแต่ก็รับปากรับคำ “แบล็คไปส่งน้องด้วย ดูแลน้องด้วย น้องไปทำงานด้วย อยู่คอนโดของเราก็ดูแลน้องดีๆ” “ครับแม่” แบล็คเกอร์รับคำ “อะไรนะคะ คอนโดที่วินซ์อยู่เป็นของเขาเหรอคะ?” วินเซ่ทำหน้าสงสัยแล้วชี้นิ้วไปที่แบล็คเกอร์ “ใช่จ๊ะ กลัวว่าอยู่คนเดียวจะอันตรา
ผมอยากจะขอ... @ ห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลชื่อดังแห่งหนึ่ง “แบล็ค...” เสียงของปารณี ผู้เป็นแม่ดังขึ้น เมื่อเดินทางมาถึงพร้อมกับพ่อของเขา และพ่อแม่ ลุงเจคอร์ปของวินเซ่ เธอเห็นคนเป็นลูกนั่งก้มหน้าอยู่ที่เก้าอี้หน้าห้องฉุกเฉินในตอนแรกที่รู้ข่าว อยากจะโกรธลูกตัวเองเหลือเกินที่ไม่ดูแลน้องให้ดี ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้ แต่พอมาเห็นสภาพลูกแล้ว ใบหน้าเศร้าหมอง ขอบตาบวมช้ำบ่งบอกว่าผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก เนื้อตัวเสื้อผ้าเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด ซึ่งไม่บอกก็คงจะรู้ได้ว่าคือเลือดของใคร แบล็คเกอร์เงยหน้าขึ้นมองตามเสียงเรียก แววตาสั่นไหวระริกอยู่เพียงครู่หนึ่งเมื่อสายตาไปสบเข้ากับสายตาเข้มและนิ่งของวินเนอร์ เขารู้สึกเสียใจที่ดูแลปกป้องวินเซ่ไม่ได้ “ลุงวิน...” เขาเอ่ยเรียกชื่อเบาๆ แค่นั้นก็ทำให้เขาน้ำตาคลอแล้ว แกร็ก! วินเนอร์ยกกระบอกปืนขึ้นชี้อยู่ระดับสายตาของแบล็คเกอร์ ท่ามกลางความตกใจของทุกคนที่ไม่มีใครคาดคิด “เฮีย!!!!” เซรินร้องห้ามอย่างตกใจก่อนถลาเข้าไปจะจับแขนของวินเนอร์ให้ลดกระบอกปืนลง แต่ถูกเจคอร์ปห้ามไว้เสียก่อน เพราะเขารู้ว่าเพื่อนของเขาไม่ทำในสิ่งที่ยังไม่ถามเหตุผล แต่
ผมอยากจะขอ...(ต่อ) “หิวน้ำ” เสียงแหบพร่าของเธอดังเบาๆ แต่ถึงจะเบาแค่ไหนก็ดังพอให้คนที่นั่งทำงานอยู่ที่โฟซาได้ยินและรีบลุกขึ้นมาที่เตียงผู้ป่วย “ฟื้นแล้วเหรอ หิวน้ำเหรอ เดี๋ยวพี่หยิบน้ำให้นะ” แบล็คเกอร์หยิบน้ำมาให้คนบนเตียงดื่ม “คุณหมอเหรอคะ?” หลังจากได้ดื่มน้ำให้ชุ่มคอแล้ว เสียงก็เริ่มใส สามารถพูดคุยได้อย่างปกติ “ตื่นมาก็ถามว่าเป็นใครเลยเหรอ ปกตินางเอกละครเขาจะถามว่า ที่นี่ที่ไหนคะ? ไม่ใช่เหรอ” ถ้าตามบทละครเมื่อฟื้นมา คำถามแรกจะต้องถามว่า ‘ที่นี่ที่ไหน’ แต่นี่วินเซ่ ไม่ใช่นางเอกละครไง รู้อยู่แล้วต้องเป็นโรงพยาบาล จะถามทำไม คุณเป็นใครนี่สิที่อยากรู้ “ไม่ใช่นางเอกละครค่ะ คุณน่ะเป็นใครล่ะคะ คุณหมอเหรอคะ แต่คงไม่ใช่ คุณหมออะไรใส่ชุดดำ คุณหมออะไรมานั่งทำงานในห้องคนไข้” “ตื่นมาก็พูดมากเลย สงสัยไม่เป็นอะไร กลับบ้านได้แล้วมั้ง” เขาบอกคนที่พยายามพยุงตัวเองลุกนั่งบนเตียง เขาปากบ่นไปแต่ก็ช่วยพยุงประคองเบามือ ตอนที่เธอได้รับบาดเจ็บ ตอนที่เธอยังไม่ฟื้น เขาเป็นห่วงจนใจแทบขาด คิดไว้ว่าถ้าเธอปลอดภัยจะตามใจทุกอย่าง ไม่ให้เธองอนหรือโกรธอีก เดี๋ยวจะหนีออกห่างเขาอีก แต่พอเธอฟื้นขึ้นมาแล้ว
เข้าบ้าน... “ต้องใกล้กันขนาดนี้เลยเหรอคะ มันใกล้เกินไปไหมเนี่ย” เสียงใสดังขึ้นจากด้านหลังเบาะคนขับ ในรถหรูสีดำ ที่กำลังพุ่งทยานไปตามท้องถนนโล่ง เสียงใสพูดขึ้นอย่างไม่พอใจ ที่เธอต้องหงุดหงิดเพราะอึดอัดกับการนั่งรถของเขาที่นั่งเบียดเธอแทบจะเป็นการกอดด้วยซ้ำจนเธอรู้สึกอึดอัดหายใจไม่ออก “ก็พี่หนาว ไอ้โทมันเปิดแอร์แรง” เขาพูดยียวน “ถ้าจะชิดขนาดนี้ ก็ไม่นั่งตักวินซ์ไปเลยล่ะคะ แอร์แรงก็บอกพี่โทให้เบาลงสิคะ” “ถึงเบายังไงก็ไม่อุ่นเท่ากอดหรอก” เขายังยียวนต่อ “เอ๊ะ!! ออกไปหน่อยค่ะ ใกล้เกินไปวินซ์ขยับตัวไม่ได้ เจ็บแผลไปหมดแล้วเนี่ย” วินเซ่บอกเขา เขาจึงยอมขยับออก แต่เป็นการออกแค่นิดเดียว วงแขนยังโอบรอบเอวอย่างหลวมๆ “นายครับ จะกลับที่ไหนครับ” ไม้โทเอ่ยถามผู้เป็นเจ้านายขึ้น เมื่อเขากำลังขับรถพาทั้งสองกลับบ้าน เพราะนายหญิงของเขาเพิ่งได้ออกจากโรงพยาบาลเมื่อบ่ายของวันนี้ “กลับบ้าน” มาเฟียหนุ่มเอ่ยสั่งลูกน้องคนสนิทสั้นๆ “บ้านเล็กหรือบ้านใหญ่ครับ” ไม้โทถามขึ้นอีก บ้านเล็กบ้านใหญ่ที่เขาพูดถึงนั้น หมายถึงบ้านเล็กเป็นบ้านเดี่ยวที่ไม่ใช่บ้านในโครงการ แต่เป็นการซื้อที่ดินและปลูกสร้างบ้
เข้าบ้าน (ต่อ) ร่างบางบนเตียงใหญ่สีขาวในห้องสีขาวสะอาดตา ตกแต่งสไตล์เรียบง่ายคนละแบบกับคอนโดของเขาที่เป็นสีดำทั้งหมด ร่างบางหลับได้สักพัก แบล็คเกอร์เคลียร์งานจนเสร็จเดินเข้าห้องมาอย่างเงียบ เหมือนกลัวว่าคนบนเตียงจะตื่น เขาเดินเข้าไปใกล้ใช้สองมือดึงผ้าห่มขึ้นห่มให้ร่างบาง เมื่อมือเขาสัมผัสกับร่างเล็ก เขารับรู้ถึงไอร้อนจากร่างกายที่แผ่ออกมา “ตัวร้อน...ไข้ขึ้นหรือนี่” เขาพึมพำเบาๆ ก่อนหยิบมือถือต่อสายหาไม้โท “ไอ้โท ซื้อยาแก้ไข้กับเจลลดไข้มาให้กู ตอนนี้” ‘ใครเป็นอะไรครับนาย’ ไม้โทถามกลับ “วินเซ่ตัวร้อน” ‘นายต้องเช็ดตัวด้วยนะ ถ้าร้อนมากๆ แค่เจลลดไข้เอาไม่อยู่ เดี๋ยวนายหญิงช็อค’ ไม้โทแนะนำ เพราะเขารู้ว่าเจ้านายของเขาไม่น่าจะรู้เรื่องพวกนี้ เพราะไม่เคยดูแลใครมาก่อน เขาคิดแค่ว่าป่วยก็หาหมอ ป่วยก็หาหมอ ไม่จำเป็นต้องรักษาเอง “กูทำไม่เป็น!” เขาตอบห้วน ไม่คิดว่าจะต้องทำอะไรแบบนั้น ทำไมต้องทำ แค่เอาเจลลดไข้แปะ เดี๋ยวไข้ก็ลดเอง ก็มันบอกว่าเจลลดไข้นี่นา ‘นายเอาผ้าชุบน้ำแล้วบิดหมาดๆ เช็ดตามตัวนายหญิงให้ความร้อนมันหาย ไข้จะลดลงเมื่อตัวเย็น’ “ยาก! มึงมาทำ” เขาสั่ง จากที่ฟัง เขาคิด
สมาคมคนกลัวเมีย! ห้องอาหารสุดหรู โซน VIP แบล็คเกอร์ในชุดสูทสีดำนั่งบนโซฟารอลูกค้าที่ยังเดินทางมาไม่ถึง ด้านข้างมีสาวสวยในชุดมินิเดรสเกาะอกผ้ายีนส์รัดรูป สั้นเหนือเข่า ผ่าสูงถึงขาอ่อน แบล็คเกอร์หงุดหงิดขัดใจกับชุดที่ไม้โทจัดหามาให้มาก แต่ไม่สามารถห้ามหรือขัดใจคนจะใส่ได้ ด้วยเธอเคยอยู่ต่างประเทศ สไตล์การแต่งตัวไม่สนใจว่าจะโป๊หรือวาบหวิวแค่ไหนแต่คนที่สนใจการแต่งตัวของเธอคงมีแค่เขาเท่านั้น “นั่งหน้ามุ่ย ไม่ยิ้มแย้มเลยนะคะ เมื่อเช้ากินรังแตนแทนกาแฟมาเหรอ” วินเซ่พูดขึ้นเมื่อเห็นชายหนุ่มข้างๆ นั่งหน้าบูดอารมณ์ไม่ดี “สั้นไปไหมชุดอ่ะ แหวกสูงจนจะเห็นกางเกงในอยู่แล้ว” เขาไม่พูดเปล่า เตรียมจะถอดเสื้อนอกออกมาคลุมให้ “เห็นหรือยังคะกางเกงใน” “ยัง” “ไม่เห็นก็แสดงว่ามันยังแหวกไม่ถึง ไม่สั้นค่ะ แล้วไม่ต้องถอดเสื้อมาคลุมค่ะ มันดูไม่ดีเวลาลูกค้ามาเจอ เอาไว้ลูกค้ามาก่อนค่อยถอด เดี๋ยวเขาจะว่าไม่ให้เกียรติ ลูกค้า” หญิงสาวสอน ถึงแม้เธอจะอยู่เมืองนอกนาน แต่เรื่องมารยาทไทยเธอยังศึกษามาบ้าง ทำเอาคนตัวโตทำเสียงฟึดฟัดไม่พอใจพร้อมกับสวมเสื้อกลับเข้าไปตามเดิม “นั่นลูกค้ามาแล้ว” ชายหนุ่มหันตามคำบ
สมาคมคนกลัวเมีย!(ต่อ) ครืดดดดด ครืดดดด เสียงสั่นของมือถือในกระเป๋าใบเล็กของเธอเกิดการสั่นขึ้น วินเซ่หยิบขึ้นมาเห็นเป็นเบอร์ที่แปลกตาจึงกดรับสาย เผื่ออาจจะเป็นแบล็คเกอร์ที่โทรมา “ฮัลโหล สะ...สวัสดีค่ะ” วินเซ่เผลอรับสายตามแบบฉบับต่างชาติ พอรู้ตัวก็เปลี่ยนเป็นสวัสดีทันที ‘วินซ์~~~~’ เสียงเล็กใสกรอกผ่านเข้ามาในสาย “เอ๊ะ นั่นใครคะ” วินเซ่ไม่คาดคิดว่าจะมีคนเรียกเธอด้วยชื่อนี้นอกจากคนสนิท แต่เธอนึกเสียงนี้ไม่ออก ‘แฟร์รี่เอง กว่าจะคาดคั้นเอาเบอร์มาจากเฮียมิวได้นี่แทบแย่ ต้องเอาบางอย่างเข้าแลกแน่ะ’ “แฟร์รี่...” วินเซ่ทวนชื่อเพื่อน พยายามจะนึกให้ออก เพราะความจำของเธอกลับมาแล้วแต่ไม่ทั้งหมดทีเดียว อีกอย่างเพื่อนคนนี้หลังจากคืนนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย ‘แฟร์รี่ที่เป็นแฟนกับเฮียมิวนิค และเฮียมิวก็เป็นเพื่อนกับคุณแบล็คด้วย แฟร์ก็เลยไปเอาเบอร์มาได้’ แฟร์รี่พยายามอธิบายให้เพื่อนฟัง เพราะรู้มาว่าเพื่อนของเธอเกิดอุบัติเหตุความจำเสื่อมชั่วคราว อยากไปเยี่ยมแต่มิวนิคไม่พาไปสักที “จำได้แล้วๆ ” ‘ดีใจจังที่จำได้ ตอนนี้วินซ์อยู่ไหนน่ะ เราอยู่คนเดียว เฮียมิวไปคุยงาน เบื่อจังไม่มีอะไรทำ
พิเศษ 3 รักได้ไหม บอกพี่ที เช้ามืดของอีกวัน นัตตี้งัวเงียตื่นขึ้นมา รู้สึกเหมือนมีอะไรกดทับที่บริเวณหน้าท้อง นัตตี้ค่อยๆลืมตาตื่นขึ้น แผงขนตาหนากระพริบถี่เพื่อปรับแสงภายในห้อง เธอก้มลงมองหน้าท้องว่าสิ่งที่กดทับหนักๆนั้นคืออะไร ท่อนแขนแกล่งพาดทับกอดเอวเธอไว้อย่างหลวมๆ นัตตี้หยิบนาฬิกาจากมือถือขึ้นมามอง เป็นเวลา หกโมงเช้า เธอค่อยๆหันไปเขย่าตัวคนที่หลับพริ้มสนิทไม่รู้เรื่องให้ตื่น เพื่อไปทำหน้าที่ของตัวเอง “พี่โท ตื่นได้แล้ว เดี๋ยวนายตื่นจะถามหา” นัตตี้ปลุกคนร่างโตที่นอนหลับพริ้ม “อื้อ ไม่ตื่นหรอก นายน่าจะเพิ่งได้นอนเหมือนเราเนี่ยแหละ” ไม้โทงัวเงียพูด และจะหลับต่ออีกรอบ แต่โดนมือบางฟาดปลุกไปที่ไหล่แกร่งเสียงดัง จนทำให้ชายหนุ่มต้องสะดุ้งตื่นอย่างเต็มตา “ทำไมตื่นเช้า ไม่ง่วงเหรอ” “ไม่ง่วง ตื่นได้แล้ว” นัตตี้บอกก่อนยันตัวลุกขึ้น มองหาเสื้อผ้าเพื่อเอามาสวมใส่แต่กลับโดนท่อนแขนแกร่งคว้าหมับรอบเอวบางให้ล้มลงนอนเหมือนเดิม “นอนต่ออีกหน่อย เจ้านายไม่ว่าอะไรหรอก เจ้านายรู้” ไม้โทบอกนัตตี้ จนเธอใจอ่อนยอมล้มตัวลงนอนอีกรอบ แต่ไม่ได้
พิเศษ 2 กินได้เลย ฉันอนุญาต “อยากกิน แล้วทำไมไม่กินล่ะ” ไม้โทเอ่ยแค่นั้น ก่อนจะจับใบหน้าหวานเกินผู้ชายทั่วไปของนัตตี้ให้แหงนขึ้นมารับริมฝีปากหยักได้รูปที่ทาบทับลงบนริมฝีปากนุ่มมีลิปสติกสีอ่อนทาไว้ นัตตี้เบิกตากว้างเพียงชั่วครู่ให้กับการกระทำของชายหนุ่มที่เธอไม่คาดคิดมาก่อนว่าเขาจะทำกับเธอ นัตตี้เริ่มหายใจติดขัดไม่ทั่วท้องเมื่อริมฝีปากหยักบดขยี้ริมฝีปากเธออย่างรุนแรง ก่อนจะเริ่มสอดแทรกลิ้นอุ่นที่มีกลิ่นจางๆของบุหรี่เข้ามาผสมผสานกับกลิ่นแอลกอฮอล์ ตวัดควานหาความหวานในโพรงปาก “อื้อออ” “จะกินหรือไม่กิน” ไม้โทถามขึ้นเมื่อถอนริมฝีปาก ปล่อยให้ปากบางได้รับอิสระ “กินได้จริงๆเหรอ” นัตตี้ถามเพื่อความแน่ใจ กลัวทำทำไปแล้วเขาเกิดเปลี่ยนใจไม่ทำ เธอจะค้างคามากกว่านี้ “ไม่กินฉันจะไปนอนข้างนอกแล้ว” ไม้โททำท่าจะเดินออกไป แต่โดนนัตตี้ดึงรั้งขอบกางเกงเอาไว้เสียก่อน “กะ...กิน ค่ะ” นัตตี้พูดค่ะกับเขาเป็นครั้งแรก คำตอบของเธอทำรอยยิ้มผุดขึ้นบนมุมปากหนาทันที ริมฝีปากหยักทาบทับบดขยี้ริมฝีปากบางนั้นอีกครั้ง ก่อนค่อยๆเลื่
พิเศษ 1 อยากจับไหม? อยากกินมากกว่า... นัตตี้ หรือ นาที ลูกน้องคนสนิทของแบล็คเกอร์ นัตตี้เป็นสาวประเภทสองที่แต่งตัวดูดี ไม่ได้แต่งตัวเป็นสาวจ๋าเหมือนสาวประเภทสองทั่วๆไป ที่สวยเหมือนผู้หญิงจนแยกไม่ออก นัตตี้มีรูปร่างสูงโปร่ง ค่อนข้างไปทางบอบบางกว่าชายปกติทั่วไป ผิวขาวใส ทรงผมรากไทรประบ่าไม่แมนเกินไปและไม่ยาวจนออกสาวมากนัก แต่เรื่องการแต่งหน้านัตตี้จัดเต็ม เพราะเธอชอบดูแลตัวเองให้สวยดูดี ดูแพงอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากเป็นบอดี้การ์ดให้นายหญิง แม้ว่าจะเป็นการดูแลอยู่ห่างๆก็เถอะ แต่เธอก็ต้องพร้อมอยู่ทุกสถานการณ์ จึงต้องแต่งตัวให้ดูทะมัดทะแมง เสื้อเชิ้ตขาวสวมทับด้วยสูทสีชมพูอ่อน กางเกงรัดรูปสีขาวดูดี นัตตี้เป็นสาวประเภทสองที่ทั้งเก่งศิลปะป้องกันตัวและเก่งด้านไอทีพอสมควร เธอมีหน้าที่ติดตามดูแลวินเซ่อยู่ห่างๆตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมาจากแบล็คเกอร์ คอยรายงานเรื่องราวของวินเซ่ตอนที่ไม่ได้อยู่กับแบล็ค แต่ดูเหมือนว่าจะดูแลห่างๆได้ไม่นาน บางสถานการณ์ก็ต้องยื่นมือเข้าไปช่วยจนเธอเองรู้สึกอึดอัด อยากจะแสดงและติดตามอย่างเปิดเผยให้รู้แล้วรู้รอดไป จนแล้วจนรอดเธอก็ตัดสินใจแสดงตัวก
Special Bom Bay 3 ปีต่อมา... เตาะแตะ เตาะแตะ เด็กชายฝาแฝดวัย 3 ขวบ สองคน ในชุดไดโนเสาร์สีเขียวมีฮู้ด เดินเล่นเตาะแตะ อยู่บนถนนแข่งรถ ในสนามแข่งรถของมิวนิค โดยมีสายตาอบอุ่น สองคู่มองดูด้วยความเอ็นดู “ปีนี้ บอม กับ เบย์ ก็ 3 ขวบแล้ว เมื่อไรมึงจะมีเป็นของตัวเอง มาแย่งกูเลี้ยงลูกอยู่เนี่ยแหละ” แบล็คเกอร์เอ่ยขึ้นกับเพื่อนท่ามกลางความเงียบ “อย่ามาหวง กูแค่มาเล่นด้วยเป็นครั้งคราว ทำบ่น” มิวนิคตอบกลับ “ครั้งละหลายวัน บางทีก็เอากลับบ้านด้วย และมาทุกวัน แทบจะย้ายมาอยู่บ้านกูแล้ว” แบล็คตอบอย่างกวนๆ “ก็เมียมึงชวนเมียกู กูไม่ได้อยากมาสักหน่อย” “สาบาน!” แบล็คเกอร์ถามห้วนๆ อย่างไม่จริงจัง เขารู้ดีว่าเพื่อนของเขาน่าจะติดหลานชาย เจ้าก้อนทั้งสองของเขาแน่นอน “ไม่! กูจะตายฟรี” มิวนิคตอบ แล้วเดินออกไปยังรถแข่งคันโปรดที่จอดไม่กลางสนามแข่ง เพื่อเช็คสภาพ เตรียมจะเอาไว้ลงแข่งในค่ำคืนนี้ แบล็คเกอร์ยิ้มๆ แล้วส่ายหัวให้กับความฟอร์มเยอะของเพื่อน ที่ไม่ยอมรับความจริงว่าตัวเองเห่อหลานขนาดไหน เขาเดินตามมิวนิคลงมาเช็ครถ ปล่อยให้ลูกชายทั้งสองเดินเล่นไปเรื่อยๆ “ป๊ะๆ นุงๆ” เสียงอ้อแอ้ร้องเรียกป
แผนการสุดท้ายสำเร็จ... “อื้อออ~” วินเซ่ขยับตัวรู้สึกตื่น เมื่อรับรู้ความหนาวจากเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำ วินเซ่พลิกตัวไปเมื่อ แขนเรียวควานหาคนข้างๆ แต่ก็พบแต่ความว่างเปล่า ทันทีที่สติกลับมาเกือบเต็มที่ เปลือกตาบางค่อยๆ ลืมขึ้นปรับแสงจากด้านนอก “ไปไหนของเขานะ หรือไปทำงานแล้ว” วินเซ่ลุกขึ้นจากเตียง เตรียมตัวลงไปด้านล่าง เพื่อหายากินก่อนแล้วค่อยหาอาหารกินจากด้านล่าง วินเซ่เหลือบไปเห็นแก้วน้ำเปล่าและยาคุมฉุกเฉินวางอยู่ หญิงสาวนึกแปลกใจที่เขาเตรียมยาไว้ให้เธอ โดยที่เธอไม่ต้องบอกกล่าว ร่างบางกินยานั้นเรียบร้อยจึงจัดแจงทำธุระส่วนตัวแล้วลงไปด้านล่าง ด้านล่างของคฤหาสถ์ใหญ่ ค่อนข้างเงียบไร้ผู้คน เธอเห็นเพียงแค่แม่บ้านที่กำลังจัดเตรียมอาหารไว้ให้เธอเท่านั้น “เอ่อ...” วินเซ่อยากจะเอ่ยถามแม่บ้าน เมื่อกำลังเดินลงมาจากชั้น “นายหญิง ตื่นแล้วเหรอคะ ป้าเตรียมอาหารให้เสร็จพอดีเลย” ป้าแข ป้าแม่บ้านของตระกูลบูรณิมาเอ่ยหขึ้นกับนายหญิงคนใหม่ของบ้านนี้ “เขาไปไหนกันหมดอ่ะคะป้า” วินเซ่เอ่ยถามป้า เมื่อหย่อนก้นนั่งลงบนเก้าอี้ที่ป้าจัดเตรียมไว้ให้ “คุณหนูแบล็คไปข้างนอกค่ะ สั่งป้าไว้ให้ดูแลนายห
จุดจบ...(ต่อ) หมอภูทำแผลให้แบล็คเกอร์แบบไวที่สุด เพื่อเขาจะได้เข้าพิธีสุดท้ายของการแต่งงานให้เสร็จครบทุกขั้นตอนนั้นก็คือ การส่งตัวบ่าวสาวเข้าเรือนหอ “ลุงหมอครับ” แบล็คเกอร์เอ่ยเรียกหมอที่ทำแผลให้เขา “ว่าไง เจ็บเหรอ” หมอภูถามเขา ในขณะที่ยังก้มหน้าก้มตาทำแผลให้ชายหนุ่มรุ่นหลาน “ไม่เจ็บครับ ผมมีเรื่องอยากให้ช่วย” หมอภูหยุดทำแผล แล้วเงยหน้าขึ้นถามเขา ถึงเรื่องจะให้ช่วย “จะให้ช่วยอะไร” “ลุงหมอพอจะช่วยทำยาให้ผมสักตัวได้ไหมครับ” แบล็คตัดสินใจบอกความต้องการของตัวเองไป “ฉันเป็นหมอ ไม่ใช่คนผลิตยาบ้า” หมอภูพูดด้วยรอยยิ้มมุมปาก แล้วก้มลังไปพันแผลต่อ “ผมรู้ว่าลุงมีโกดังผลิตยา ถึงจะไม่ใช่ยาบ้าหรือยาเสพติด แต่ลุงก็เป็นคนคิดค้นยาได้หลายตัว ผมอยากให้ลุงทำยาตัวหนึ่งให้ผมเท่านั้น” หมอภูละสายตาจากแผลขึ้นมาสบตากับแบล็คแวบหนึ่ง ก่อนก้มลงไปทำแผลต่อ แล้วเอ่ยปากให้เขาบอกสิ่งที่เขาต้องการมา ภายในห้องนอนกว้างขวาง ที่ตกแต่งสีขาวโทนสีชมพูไว้สำหรับทำพิธีเข้าหอ บนเตียงสีขาวมีกลีบกุหลาบที่จัดเป็นรูปหัวใจอยู่กลางเตียง เมื่อพิธีเสร็จสิ้น ภายในห้องทั้งห้องก็เหลือแค่เพียงเธอและเขาเท่านั้น “พี่แบล
จุดจบ... คฤหาสถ์สีขาวนวลสุดหรูหราใหญ่โตมโหฬารสไตล์ยุโรป ด้านหน้าคฤหาสถ์มีสระว่ายน้ำสระเก่าที่เคยอยู่แบบนี้เมื่อ 15 ปีก่อน มีลานด้านหน้ากว้างขวางที่เคยเงียบสงบ แต่บัดนี้ ถูกจัดให้เป็นสถานที่ทำพิธีแต่งงานอย่างครึกครื้นหรูหรา ตรีมสีขาวเหลืองอ่อนพาสเทลสีที่เจ้าสาวชอบ เพราะหากจัดตามสีที่เจ้าบ่าวชอบ บรรยากาศในงานคนน่าจะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นงานขาวดำไปเสียก่อน แขกเหรื่อผู้มาร่วมงาน ก็ยิ้มแย้มแจ่มใสร่วมยินดีกับคู่บ่าวสาวอย่างชื่นมื่น ภายในงานหลังจากพิธีเสร็จสิ้นหมดทุกอย่างแล้ว เหลือเพียงพิธีสุดท้ายคือส่งตัวบ่าวสาวเข้าหอ แขกเหรื่อกลับไปจนเกือบหมดแล้ว เหลือเพียงแต่บุคคลที่สนิท และสำคัญทั้งสองครอบครัวเท่านั้น พิธีดำเนินไปจนเกือบจะราบรื่น หากไม่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น ที่มีแขกกลุ่มสุดท้ายเข้ามาร่วมยินดีเกือบ 50 คน “จะชิงมีความสุขโดยไม่สนใจว่าทำอะไรกับลูกสาวกูบ้างเลยหรือไง” เสียงแหบใหญ่ของชายวัยกลางคนดังขึ้น เมื่อขับรถเข้ามาจอดยังลานกว้างที่เป็นสถานที่จัดงานแต่ง วิชัย มาเฟียอีกกลุ่มที่ทำธุรกิจกับทั้งพ่อแบล็คเกอร์และวินเนอร์พ่อของวินเซ่ และเขายังเป็นพ่อของกันตา ผู้หญิงที่ตายด้วยน้ำมือขอ
แผนการเมื่อ 15 ปี สำเร็จสักที... ร่างบางถูกคลุมด้วยเสื้อเชิ้ตสีดำ นั่งบนตักของแบล็คเกอร์ที่เปลือยท่อนบนเพราะเอาเสื้อของตัวเองคลุมให้คนตัวเล็ก อยู่บนเบาะด้านหลังคนขับ ท่อนแขนแกร่งประคองกอดอย่างทะนุถนอม เขากลัวจะเสียเธอไปเหลือเกิน “กลับบ้านเล็กหรือคอนโดครับนาย” ไม้โทถามขึ้นแล้วมองเจ้านายผ่านกระจกมองหลัง “บ้านเล็ก” เขาตอบ “พี่แบล็ค!!” วินเซ่ที่กำลังซบอยู่ที่ซอกคอใหญ่ ดันตัวลุกขึ้น ร้องเรียกเขาจนเขาสะดุ้งตกใจ กระชับอ้อมแขนอย่างอัตโนมัติ “มีอะไร เจ็บตรงไหนคะ?” เขารีบถามอย่างห่วงใย “พี่นัตตี้ล่ะคะ ไปช่วยพี่นัตตี้ก่อน พี่นัตตี้โดนยิงเพราะวินซ์” ร่างบางเริ่มน้ำตาคลอเบ้า เป็นห่วงนัตตี้และโทษตัวเองอยู่ตลอดเวลา ที่นัตตี้โดนยิงก็เพราะความดื้อของเธอที่จะมาเที่ยวที่คลับนี้ให้ได้ และเพราะนัตตี้ปกป้องเธอจึงถูกยิง “นัตตี้ปลอดภัยแล้ว ไม่ต้องห่วง” เขาใช้มือหนาลูบหัวคนบนตักอย่างปลอบประโลม เขาเองก็รู้สึกผิดที่ผ่านมาไม่ทำอะไรกันตาจนวินเซ่ต้องเจอทุกสิ่งทุกอย่างสารพัด มาครั้งนี้ที่หนักสุดจนเขาไม่อาจปล่อยไปได้อีก นัตตี้ที่อยู่กับเขามานาน เป็นลูกน้องที่ซื่อสัตย์ และรักเจ้านาย นัตตี้เป็นคนเก่ง
มีความสุขเถอะนะ...กันตา...(ต่อ) ลูกน้องของกันตาจับหญิงสาวทั้งสองไว้เตรียมพาขึ้นรถ ไปที่ไหนสักทีหนึ่ง ระหว่างยื้อยุดฉุดกระชากกันอยู่นั้น นัตตี้ก็วิ่งเข้ามาพอดี พร้อมกับตะโดนออกมาด้วยเสียงตวาดกร้าวเป็นเสียงผู้ชายแมนๆ “เห้ย!! พวกมึงจะทำอะไร!!” ทุกสายตาหันไปมองเป็นตาเดียว เมื่อได้ยินเสียงและเห็นนัตตี้วิ่งเข้ามา “จัดการมัน! ที่เหลือจับตัวอีสองตัวนี่ไป” กันตาสั่งลูกน้องแล้วตัวเองขึ้นรถออกนำไป ปัง! เสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด เรียกสายตาของวินเซ่และแฟร์รี้ให้หันไปมอง ตาของวินเซ่เบิกกว้างด้วยความตกใจ เมื่อเห็นภาพคนที่ล้มลงไปกองกับพื้นคือพี่นัตตี้ที่ถือปืนค้างไว้กำลังจะเตรียมยิง แต่โดนยิงเข้าที่หน้าท้องจนล้มลงเสียก่อน “ม่ายยยยย!!! พี่นัตตี้!!!” วินเซ่ดิ้นจะให้หลุดจากการเกาะกุมของพวกชายฉกรรจ์ แต่แรงของเธอไม่สามารถสู้ได้ วินเซ่หน้าแดงไหลอาบแก้ม มีแฟร์รี่ร้องไห้อยู่ข้างๆ เธอเป็นห่วงนัตตี้ ที่นัตตี้เป็นแบบนี้ก็เพราะความดื้อรั้นของเธอ “ฮึกๆ พะ...พี่ตา ช่วยพาพี่นัตตี้ไปหาหมอก่อนนะ วินซ์ขอร้อง...ฮือออ” วินเซ่ขอร้องกันตา จะจับเธอไปทำอะไรก็ได้ แต่อยากให้ช่วยนัตตี้ให้ถึงมือหมอก่อน แต่ดูเห