น้ำหวานนั่งเหม่อลอยอยู่บนเก้าอี้ที่ตั้งอยู่บนดาดฟ้า ที่ที่เด็กฝึกงานมานั่งสูบบุหรี่ แต่ตอนนี้ชายหนุ่มคนนั้นกลับนั่งเงียบๆ ข้างเธอ ไม่ได้ไปไหนและไม่เอ่ยถามหรือพูดอะไรขึ้นมารอจนกว่าน้ำหวานจะพูดขึ้นมาเอง เขานั่งเงียบๆ เพียงเท่านั้น
“คุณจะไปทำงานก็ได้นะคะ ฉันอยู่คนเดียวได้”
“เมื่อกี้เธอยังบอกให้ฉันอยู่ไม่ใช่เหรอ?”
“ก็ตอนนั้น....”
“ฉันไม่ค่อยเข้าใจเรื่องของพวกเธอหรอกนะ แต่ถ้าคุณมินตราท้องเธอก็ควรถอย”
“ฉันไม่ได้อยากเป็นแบบนี้นี่คะ”
“เพราะเงินงั้นเหรอ? เธออายุไม่เท่าไรเลย ยังมีอนาคตอีกไกลนะ”
ชายหนุ่มพูดพร้อมรอยยิ้มแล้วเอื้อมมือไปตบที่บ่าของน้ำหวานปอยๆ น้ำหวานหันไปมองหน้าเขาอย่างนึกขอบใจ ถึงเธอจะไม่อยากเป็นเมียน้อยของแฟรงค์แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอกับแฟรงค์นั้นเกินเลยกันไปแล้ว และมารู้ตัวอีกทีก็ดันเป็นเมียน้อยแบบงงๆ
“ว่าแต่คุณชื่ออะไรหรือคะ?”
“แบร์ เธอคงจะเป็นน้ำหวาน”
“ฉันยังไม่ทันบ
ทุกสายตาจับจ้องไปที่แฟรงค์ที่กำลังอุ้มน้ำหวานอย่างอยากรู้อยากเห็นตามประสาของพนักงานในออฟฟิศ เรื่องของเจ้านายหนุ่มโสดแถมยังหล่อเหลามีหรือที่จะไม่เป็นที่สนใจ ถึงจะมีข่าวกับเลขาหน้าห้องบ้างก็เถอะแต่แฟรงค์ไม่เคยแสดงท่าทีใดๆ กับเลขาสาวเลย ตอนนี้กลับอุ้มสาวแรกรุ่นไม่สนสายตาใครเสียอย่างนั้น“ปล่อย! ฉันบอกให้ปล่อยไง!!”“.......”“คุณจะอุ้มฉันไปไหน? ไม่กลัวว่าคุณมินตราเห็นแล้วจะเสียใจเหรอ? ไม่สงสารเด็กในท้องบ้างรึไง!”“ไอ้วิน!!”ธาวินที่เดินตามมาติดๆ ก็รีบเดินนำแล้วไปรอเปิดประตูห้องทำงานให้ผู้เป็นนาย มินตราที่นั่งหน้าห้องก็ถึงกับลุกขึ้นยืนมองแฟรงค์และน้ำหวานอย่างเจ็บใจ แฟรงค์ปรายตามองมินตราก่อนจะหันไปออกคำสั่งกับเธอ คำสั่งนั้นทำให้มินตรารู้สึกร้อนๆ หนาวๆ จนต้องหลบสายตาของเขา“มินตรา เข้าไปพบฉันในห้องด้วย”“...ค่ะ...”ไม่ทันที่แฟรงค์จะรอคำตอบรับของมินตราเขาก็อุ้มน้ำหวานเข้าห้องไปเสียแล้ว ธาวินหันไปมองหน้ามินตราโ
“เล่นครางแบบนี้ก็แย่สิ...”“ยะ...อย่านะ...เราต้องไป...อ๊ะ!”แฟรงค์ไม่ได้ฟังเสียงท้วงของน้ำหวาน เขาขบไปที่คอของเธอเบาๆ พร้อมกับมือหนาที่ลูบไล้ไปที่จุดอ่อนไหวของหญิงสาว เพราะความที่เธอยังเป็นวัยแรกแย้มความรู้สึกมักไปไวตามฮอร์โมนที่พลุ่งพล่าน แฟรงค์รู้เรื่องนั้นดี เขาถึงกล้าพูดท้าทายเธอว่า...จนกว่าเธอจะร้องขอเขาเอง...เสียงหอบกระเส่าจากปากเรียวเล็กพร้อมกับเสียงครางหวานแผ่วเบาเหมือนพยายามจะกลั้นมันเอาไว้ นี่มันที่ทำงานมันคือที่สาธารณะสำหรับเธอ ถึงแม้จะอยู่ในห้องที่มิดชิดแต่จิตใต้สำนึกมันก็บอกว่าไม่ควรยิ่งรู้อย่างนั้นใจกลับไม่เป็นไปตามความคิด...มันเต้นรัวเร็วอย่างตื่นเต้นกับการกระทำของแฟรงค์ แม้สายตาของเธอจะคอยปรายตามองไปที่หน้าประตูเสมอ เกรงว่าลูกน้องคนสนิทของเขาจะเข้ามาเห็นสภาพของเธอและเขาตอนนี้“อื้อ...อ๊า”มือหนายังคงลูบไล้อย่างแผ่วเบาหยอกล้อจุดอ่อนไหวกลางลำตัวของเธอ ร่างเล็กแอ่นกายรับสัมผัสอย่างห้ามตัวเองไม่อยู่ ยิ่งปลายนิ้วเรียวของเขากดเบาๆ พร้อมกับรูดขึ้นลงเป็นจ
“อยากได้มันหรือยัง? หืม?”เสียงกระซิบแหบพร่าข้างใบหูเล็กอย่างจงใจ น้ำหวานยังคงส่ายหน้าทั้งที่ตอนนี้ร่างกายร้อนจนแทบจะระเบิดออกมา สติอันน้อยนิดของเธอบอกว่าต้องไม่ใช่ที่นี่ แต่ร่างกายกับไม่ฟังดูต้องการเขาเสียเหลือเกินแฟรงค์ยกยิ้มเมื่อเห็นว่าความคิดกับหัวใจของน้ำหวานดูไม่ตรงกันเสียเท่าไหร่ การตอบสนองจากร่างกายของเธอมันแสดงออกอย่างชัดเจน ใบหน้าสวยที่แดงเรื่อไปถึงใบหูพร้อมกับลมหายใจที่หอบกระเส่า ทำให้แฟรงค์มองว่าเธอดูน่ารักน่าเอ็นดูจนแทบจะอดใจไม่ไหว“ฉันให้โอกาสเธอตอบออีกครั้ง”“อะ...อื้อ...แต่..ที่นี่มันห้องทำงาน...อ๊ะ”“ฉันไม่สน...ตอนนี้ฉันสนแค่เธอ”“ตะ...แต่....”“ว่ายังไง? คำตอบน่ะ..”แฟรงค์พูดไปทั้งที่ยังคลอเคลียอยู่ที่ซอกคอขาวและเนียนอกอิ่ม อยากจะใส่ชุดมายั่วยวนเขาก็ต้องเจอดีกันหน่อย น้ำหวานก็ยังคงไม่ตอบและได้แต่เบือนหน้าหนีไปทางอื่น และแฟรงค์ไม่ใช่คนใจเย็นเขาจึงยกตัวเธอลงให้มานั่งกึ่งหลางระหว่างขาของเขาก่อนที่เขา
ขบวนรถหรูสีดำแล่นเข้าสู่มหาวิทยาลัยNNA ก่อนจะไปจอดหน้าตึกคณะบดีของมหาวิทยาลัย ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาในเสื้อเชิ้ตสีดำเปิดแผงอกแกร่งให้เห็นเล็กน้อยเดินลงมาจากรถ พร้อมกับชายใส่สูทหน้าตาขึงขังที่เดินตามลงมาจากรถหรูคันอื่นๆ ก็รีบกรูเข้ามาหาชายในเสื้อเชิ้ตนั้นอย่างเคารพทุกสายตาจับจ้องไปที่แฟรงค์และธาวินที่ยืนตีคู่กันอยู่ข้างรถ สาวน้อยสาวใหญ่ในมหาวิทยาลัยต่างกรี๊ดกร๊าดกันเป็นแถวกับความหล่อแพ็คคู่และดูมีฐานะของพวกเขา ก่อนเสียงกรี๊ดนั้นจะเปลี่ยนเป็นเสียงกระซิบกระซาบเมื่อน้ำหวานเดินลงมาจากรถด้วยทีท่าเก้ๆ กังๆ“ไปกันเถอะ”“อะ...เอ่อ...”“หืม? เป็นอะไรไป?”แฟรงค์หันกลับมามองน้ำหวานที่ก้มหน้าหงุด เธอเป็นเพียงหญิงสาวจากร้านขายกาแฟโบราณธรรมดาๆ ไม่ค่อยเป็นที่สนใจเท่าไหร่ เพราะเธอไม่เคยทำตัวโดดเด่น ถึงจะมีรุ่นพี่มาทาบทามเป็นดาวคณะแต่เธอก็ไม่เคยสนใจเลย ด้วยใบหน้าที่สะสวยเหมือนช้างเผือกในตลาดสลัมจะมีคนเข้ามาจีบบ้างก็ไม่แปลก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่เคยเปิดตัวโอ่อ่าเวอร์วังแบบนี้มาก่อน เลยไม่ชินกับสายตาคนร
น้ำหวานนั่งหน้ามุ่ยตลอดทางหลังจากที่นั่งรถออกมาจากมหาวิทยาลัย เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงทำแบบนั้น เหมือนเขาต้องการที่จะปั่นหัวเธอเล่นอย่างนั้นหรือ แต่มันก็ดูจะลงทุนมากไปเสียหน่อย...จะให้เชื่อก็ดูเหมือนเด็กหลอกง่าย เพราะเขาและเธอเจอกันได้ไม่ค่อยดีนัก อีกอย่างเขารู้สึกยังไงกับเธอก็ไม่รู้“ไปเรียนต้องมีกฎ”“หนูไม่ทำตามได้อยู่แล้วนี่ คุณอาเป็นคนส่งเรียน”“ก็ดี...ข้อแรก ฉันไปรับไปส่งทุกวัน”“ฮะ? ...แต่...”“ข้อสอง ไม่ว่าเธอจะไปทำอะไรที่ไหนต้องขออนุญาตฉัน”“...เจ้ากี้เจ้าการชะมัด.....”“ข้อสาม คำพูดของฉันถือเป็นที่สุด”“เผด็จการชัดๆ!”น้ำหวานกอดอกหันไปว่าคนที่นั่งข้างๆ แต่ดูเหมือเขาจะไม่สะทกสะท้านอะไรกับคำพูดของเธอเลย ไม่หนำซ้ำยังยกยิ้มอย่างสะใจเสียอีก การที่จะจัดการเด็กดื้อชอบหนีต้องทำแบบนี้แหละธาวินที่นั่งข้างๆ คนขับลอบมองแฟรงค์ผ่านกระจกหน้ารถก่อนจะยกยิ้มพลางคิดว่าตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะที่เจ้านายข
จนแล้วจนรอดเขาก็เดินตามเธอเลือกชุดชั้นใน แถมยังเลือกซื้อแบบตามใจตัวเขาเองมาเป็นโหล กลายเป็นว่าคนที่เดินตามเขาและเขินเป็นเธอเอง เพราะพนักงานก็เชียร์ขายสุดโต่งกับชุดชั้นในวาบหวิวและยังหันมาแซวว่าเธอมีแฟนหล่อแถมยังนิสัยน่ารักเอาใจใส่อีก...ก็ใช่สิ พนักงานเหล่านั้นไม่รู้ว่าเขาเป็นคนไร้ปราณีและเป็นตาแก่โรคจิตแค่ไหน“พอใจหรือยังครับอีหนู”“อย่ามาเรียกแบบนั้นนะ”“เธอเรียกฉันว่าตาแก่โรคจิตเอง...เธอก็เป็นอีหนูของตาแก่คนนี้ไง”“ใครอยากเป็นอีหนูของคุณกัน”“ไม่อยากก็เป็นไปแล้วนี่ หรือจะให้ฉันรื้อฟื้นความจำอีกหลายๆ ครั้งถึงจะได้จำได้ขึ้นใจ”“ผู้ชายคิดแต่เรื่องทะลึ่งรึไง”“ใช่ ผู้ชายมันคิดแต่เรื่องทะลึ่งกับ...ผู้หญิงของตัวเอง”แฟรงค์พูดพร้อมยื่นใบหน้าหล่อเข้าไปใกล้เธอ น้ำหวานผละศีรษะออกเล็กน้อยก่อนจะสบตากับเขาค้างอยู่นาน นัยน์ตาสีอ่อนของเขามันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป แววตาดุดันน่ากลัวหายไปหมดแล้วเหลือแต่แววตาทะเล้นหยอกเย้าเธอ...รอยยิ้ม
น้ำหวานชะงักกับคำพูดของแฟรงค์ที่ถามเธอกลับ น้ำหวานดึงสติของตัวเองก่อนจะหลบสายตาของเขาก่อน พร้อมกับคิดว่า...นั่นสิ...เธอต้องการคำตอบอะไรเหรอ ในเมื่อเธอเป็นแค่คนที่เขาซื้อมาเป็นนางบำเรอ นั่นก็มีเหตุผลมากพอที่เขาจะดูแลเธอเป็นอย่างดี เหมือนกับเด็กเสี่ยที่ใครๆ เขาพูดกันนั่นแหละ แล้วเธอกำลังหวังอะไร“ไม่ต้องตอบแล้ว”“หือ? ทำไม....”“ฉันหิวแล้ว”น้ำหวานพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งก่อนจะเดินนำเขาไปในทันที แฟรงค์ขมวดคิ้วอีกครั้งมองตามหลังของคนตัวเล็กไปอย่างไม่เข้าใจ“อะไรของเธอวะ”“แบบนี้เขาเรียกสาวงอนครับนาย”“มึงนี่รู้ดี รู้เยอะ เหมือนมีเมียซุกไว้”ธาวินยิ้มกริ่มลอบมองเจ้านายของตน แฟรงค์มองธาวินด้วยใบหน้ายุ่งเหยิงก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองลูกน้องที่ถือของพะรุงพะรังเพราะสาวเจ้าเลือกซื้อมาเหมือนจะไม่ได้ซื้ออีกแล้วทั้งชาติ“พวกมึงเอาของไปเก็บที่รถแล้วไปหาอะไรแดกซะ ค่อยมาเจอกูที่รถ”
“ฮะ? จะลองทำไม?”“ถ้าใส่ไม่ได้จะได้ซื้อใหม่”“ทำไมจะใส่ไม่ได้ ฉันใส่ไซด์นี้ประจำอยู่แล้ว”“แน่ใจ?”น้ำหวานชะงักไป เพราะความจริงเธอใส่แต่เสื้อหลวมๆ กระโปรงพรีทเท่านั้น พึ่งจะมาซื้อเสื้อรัดรูปกระโปรงทรงเอใส่ก็ตอนตั้งใจจะกวนประสาทคุณอาหนุ่มเท่านั้น น้ำหวานหลบสายตาเล็กน้อย แฟรงค์เห็นอย่างนั้นก็ยกยิ้มขึ้น“เกิดเธอใส่ไม่ได้ ก็ไม่มีชุดใส่ไปเรียนวันจันทร์”“รู้แล้ว จะไปลองเดียวนี้แหละ!”พูดจบน้ำหวานก็หยิบชุดนักศึกษาเดินเข้าห้องน้ำไป เพื่อลองชุดที่เธอซื้อมา แฟรงค์หย่อนตัวนั่งลงบนโซฟารอหญิงสาวอย่างเงียบๆ นึกจะขัดใจเขาต้องเตรียมรับมือให้ดี ไม่นานนักน้ำหวานก็ตะโกนออกมาจากห้องน้ำโดยที่ตัวเองไม่ยอมเดินออกมา“ใส่ได้ พอดีด้วย”น้ำหวานพูดพร้อมกับมองตัวเองในกระจก แต่มันจะขัดใจเธอไปเสียหน่อยเพระเสื้อมันรัดรูปพอดีตัวแต่หน้าอกหน้าใจแน่นจนกระดุมเกือบปริออกมา ส่วนกระโปรงแค่นั่งลงก็คงจะเลิกขึ้
น้ำหวานยิ้มออกมาอย่างดีใจ เมื่อได้ยินเขารับปากว่าจะไม่พรากชีวิตคนอื่นอีก แฟรงค์เองก็ยิ้มเจื่อนๆ ตอบกลับไปเท่านั้น ทั้งที่ภายในหัวของเขากำลังคิดวุ่นวายกับเรื่องพ่อของเธออยู่“งั้น...ฉันขอไปเข้าห้องน้ำสงบสติอารมณ์ตัวเองก่อนนะคะ”แฟรงค์พยักหน้ารับ น้ำหวานก็รีบลุกแล้วออกจากห้องไปสวนกับธาวินที่เดินเข้ามาพอดี“จัดการเรียบร้อยแล้วครับนาย”“อืม...มีอีกเรื่อง...”“เรื่องอะไรครับนาย”“เรื่องลุงวินัย”“อ๋อ...ครับ อีกไม่กี่วันก็จะครบร้อยวันแล้วนะครับนาย”“น้ำหวานเริ่มถามแล้ว...กูจะบอกเธอยังไงดีว่าพ่อของเธอโดนไอ้เจ้าสัวลีฆ่าตายแล้ว”“บอกไปตรงๆ สิครับ”“มึงคิดว่าเธอจะ....น้ำหวาน!!”น้ำหวานเดินเข้าห้องมาพร้อมกับใบหน้าที่เปื้อนคราบน้ำตามองเขาและธาวิน นั่นเดาไม่ยากเลยว่าเธอได้ยินที่เขากับธาวินพูดแล้ว น้ำหวานเดินโซซัดโซเซเข้ามาหยุดยืนตรงหน้าแฟรงค์อย่างหมดแรง...
แฟรงค์ไปรับไปส่งน้ำหวานทุกวันไม่เคยขาด ไม่มีวันไหนสักวันที่จะไม่ไปรับ แต่ถึงเขาจะไปรับไปส่งเองเขาก็ยังสั่งให้ลูกน้องของตนไปเฝ้าจนไม่มีใครกล้าที่จะเข้าใกล้หรือแม้แต่เข้าไปจีบ ชุดนักศึกษาที่เธอเลือกซื้อมาเขาก็เอาไปเผาทิ้งหมด เพราะเขาซื้อชุดใหม่ไว้เผื่อแล้วในทุกๆ วันที่มหาวิทยาลัยก็เหมือนเช่นเคยในทุกๆ วันมาเป็นเดือนๆ แฟรงค์คอยดูแลทุกอย่างและเอาใจใส่เธอเป็นอย่างดี และที่สำคัญ...เขา...ไม่พลาดเลยทั้งเช้าทั้งเย็น ถ้าเป็นอาหารคงบอกว่าเขากินดุมาก แถมกินจุอีกต่างหาก...แต่เพราะมันเป็นเธอเนี่ยสิ กินเท่าไหร่ก็ไม่ยอมอิ่มเสียที จนล้าร่างหมดแล้ว ยิ่งตอนนี้...ช่วงปิดเทอมของมหาลัยเสียด้วย...“วันศุกร์นี้เตรียมตัวให้ดีล่ะ”“เตรียมตัว? ไปไหนคะ?”“ฉันจะจัดงานหมั้น”“งานหมั้น? คุณอาจะหมั้นเหรอ? กับใคร?”แฟรงค์ที่กำลังขับรถพาเธอมายังบริษัทหลังจากพาเธอออกไปทานอาหารกลางวันที่ห้างทิ้งธาวินให้ทำงานที่บริษัท แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ซื้อข้าวและขนมไปฝากลูกน้องคนสนิทด้วยอยู่ดี วันนี้เขามาเธอมาที่บริษ
“อื้อ!! อ๊า อ๊า....”เสียงครางหวานดังขึ้นเมื่อท่อนยักษ์แทรกเข้าไปจนสุด ความเสียวซ่านแล่นเข้าร่างผ่านช่องท้องจนร่างบางสั่นสะท้าน หัวใจเต้นรัวเร็วอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เมื่อได้ยินเสียงครางทุ้มต่ำร้องแผ่วข้างหู“ฮืมมมม....”ก่อนที่แฟรงค์จะหยัดตัวขึ้นจับไหล่เพรียวกดลงแล้วดึงรั้งเข้าหาตัว เป็นเหตุให้ร่างบางแอ่นบั้นท้ายงอนรับองศาแรงกระแทกได้พอดิบพอดี มือเล็กเกาะยึดกำแพงไว้เพื่อพยุงตัวรับแรงกระแทกกระทั้นของเขา“อ๊า อ๊ะ อ๊า!”“ครางอีกสิคะ...ครางดังๆ ให้สมใจเธอที่ต้องการมัน”“อ๊า อ๊า..อื้อ!”“ดี! เด็กดี...อืมมมม...ต้องอย่างนั้น”“อาคะ! อ๊ะ!! ลึก! อ๊า!!”“ลึกไปเหรอคะ...อา...ก็หนูตอดอาแน่นเลย”ยิ่งคำพูดหวานเข้าหูยิ่งทำให้น้ำหวานตื่นตัว...เขารู้ดีว่าเธอชอบให้เขาพูดแบบนี้ ภายในตอบรับรัดตัวตนใหญ่ยักษ์ของเขาแน่นกว่าเดิม สะโพกสวนตอบรับแรงตอดรัดนั้นอย่างหนักหน่วง ความเสียวซ่านแล
“ฮะ? จะลองทำไม?”“ถ้าใส่ไม่ได้จะได้ซื้อใหม่”“ทำไมจะใส่ไม่ได้ ฉันใส่ไซด์นี้ประจำอยู่แล้ว”“แน่ใจ?”น้ำหวานชะงักไป เพราะความจริงเธอใส่แต่เสื้อหลวมๆ กระโปรงพรีทเท่านั้น พึ่งจะมาซื้อเสื้อรัดรูปกระโปรงทรงเอใส่ก็ตอนตั้งใจจะกวนประสาทคุณอาหนุ่มเท่านั้น น้ำหวานหลบสายตาเล็กน้อย แฟรงค์เห็นอย่างนั้นก็ยกยิ้มขึ้น“เกิดเธอใส่ไม่ได้ ก็ไม่มีชุดใส่ไปเรียนวันจันทร์”“รู้แล้ว จะไปลองเดียวนี้แหละ!”พูดจบน้ำหวานก็หยิบชุดนักศึกษาเดินเข้าห้องน้ำไป เพื่อลองชุดที่เธอซื้อมา แฟรงค์หย่อนตัวนั่งลงบนโซฟารอหญิงสาวอย่างเงียบๆ นึกจะขัดใจเขาต้องเตรียมรับมือให้ดี ไม่นานนักน้ำหวานก็ตะโกนออกมาจากห้องน้ำโดยที่ตัวเองไม่ยอมเดินออกมา“ใส่ได้ พอดีด้วย”น้ำหวานพูดพร้อมกับมองตัวเองในกระจก แต่มันจะขัดใจเธอไปเสียหน่อยเพระเสื้อมันรัดรูปพอดีตัวแต่หน้าอกหน้าใจแน่นจนกระดุมเกือบปริออกมา ส่วนกระโปรงแค่นั่งลงก็คงจะเลิกขึ้
น้ำหวานชะงักกับคำพูดของแฟรงค์ที่ถามเธอกลับ น้ำหวานดึงสติของตัวเองก่อนจะหลบสายตาของเขาก่อน พร้อมกับคิดว่า...นั่นสิ...เธอต้องการคำตอบอะไรเหรอ ในเมื่อเธอเป็นแค่คนที่เขาซื้อมาเป็นนางบำเรอ นั่นก็มีเหตุผลมากพอที่เขาจะดูแลเธอเป็นอย่างดี เหมือนกับเด็กเสี่ยที่ใครๆ เขาพูดกันนั่นแหละ แล้วเธอกำลังหวังอะไร“ไม่ต้องตอบแล้ว”“หือ? ทำไม....”“ฉันหิวแล้ว”น้ำหวานพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งก่อนจะเดินนำเขาไปในทันที แฟรงค์ขมวดคิ้วอีกครั้งมองตามหลังของคนตัวเล็กไปอย่างไม่เข้าใจ“อะไรของเธอวะ”“แบบนี้เขาเรียกสาวงอนครับนาย”“มึงนี่รู้ดี รู้เยอะ เหมือนมีเมียซุกไว้”ธาวินยิ้มกริ่มลอบมองเจ้านายของตน แฟรงค์มองธาวินด้วยใบหน้ายุ่งเหยิงก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองลูกน้องที่ถือของพะรุงพะรังเพราะสาวเจ้าเลือกซื้อมาเหมือนจะไม่ได้ซื้ออีกแล้วทั้งชาติ“พวกมึงเอาของไปเก็บที่รถแล้วไปหาอะไรแดกซะ ค่อยมาเจอกูที่รถ”
จนแล้วจนรอดเขาก็เดินตามเธอเลือกชุดชั้นใน แถมยังเลือกซื้อแบบตามใจตัวเขาเองมาเป็นโหล กลายเป็นว่าคนที่เดินตามเขาและเขินเป็นเธอเอง เพราะพนักงานก็เชียร์ขายสุดโต่งกับชุดชั้นในวาบหวิวและยังหันมาแซวว่าเธอมีแฟนหล่อแถมยังนิสัยน่ารักเอาใจใส่อีก...ก็ใช่สิ พนักงานเหล่านั้นไม่รู้ว่าเขาเป็นคนไร้ปราณีและเป็นตาแก่โรคจิตแค่ไหน“พอใจหรือยังครับอีหนู”“อย่ามาเรียกแบบนั้นนะ”“เธอเรียกฉันว่าตาแก่โรคจิตเอง...เธอก็เป็นอีหนูของตาแก่คนนี้ไง”“ใครอยากเป็นอีหนูของคุณกัน”“ไม่อยากก็เป็นไปแล้วนี่ หรือจะให้ฉันรื้อฟื้นความจำอีกหลายๆ ครั้งถึงจะได้จำได้ขึ้นใจ”“ผู้ชายคิดแต่เรื่องทะลึ่งรึไง”“ใช่ ผู้ชายมันคิดแต่เรื่องทะลึ่งกับ...ผู้หญิงของตัวเอง”แฟรงค์พูดพร้อมยื่นใบหน้าหล่อเข้าไปใกล้เธอ น้ำหวานผละศีรษะออกเล็กน้อยก่อนจะสบตากับเขาค้างอยู่นาน นัยน์ตาสีอ่อนของเขามันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป แววตาดุดันน่ากลัวหายไปหมดแล้วเหลือแต่แววตาทะเล้นหยอกเย้าเธอ...รอยยิ้ม
น้ำหวานนั่งหน้ามุ่ยตลอดทางหลังจากที่นั่งรถออกมาจากมหาวิทยาลัย เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงทำแบบนั้น เหมือนเขาต้องการที่จะปั่นหัวเธอเล่นอย่างนั้นหรือ แต่มันก็ดูจะลงทุนมากไปเสียหน่อย...จะให้เชื่อก็ดูเหมือนเด็กหลอกง่าย เพราะเขาและเธอเจอกันได้ไม่ค่อยดีนัก อีกอย่างเขารู้สึกยังไงกับเธอก็ไม่รู้“ไปเรียนต้องมีกฎ”“หนูไม่ทำตามได้อยู่แล้วนี่ คุณอาเป็นคนส่งเรียน”“ก็ดี...ข้อแรก ฉันไปรับไปส่งทุกวัน”“ฮะ? ...แต่...”“ข้อสอง ไม่ว่าเธอจะไปทำอะไรที่ไหนต้องขออนุญาตฉัน”“...เจ้ากี้เจ้าการชะมัด.....”“ข้อสาม คำพูดของฉันถือเป็นที่สุด”“เผด็จการชัดๆ!”น้ำหวานกอดอกหันไปว่าคนที่นั่งข้างๆ แต่ดูเหมือเขาจะไม่สะทกสะท้านอะไรกับคำพูดของเธอเลย ไม่หนำซ้ำยังยกยิ้มอย่างสะใจเสียอีก การที่จะจัดการเด็กดื้อชอบหนีต้องทำแบบนี้แหละธาวินที่นั่งข้างๆ คนขับลอบมองแฟรงค์ผ่านกระจกหน้ารถก่อนจะยกยิ้มพลางคิดว่าตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะที่เจ้านายข
ขบวนรถหรูสีดำแล่นเข้าสู่มหาวิทยาลัยNNA ก่อนจะไปจอดหน้าตึกคณะบดีของมหาวิทยาลัย ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาในเสื้อเชิ้ตสีดำเปิดแผงอกแกร่งให้เห็นเล็กน้อยเดินลงมาจากรถ พร้อมกับชายใส่สูทหน้าตาขึงขังที่เดินตามลงมาจากรถหรูคันอื่นๆ ก็รีบกรูเข้ามาหาชายในเสื้อเชิ้ตนั้นอย่างเคารพทุกสายตาจับจ้องไปที่แฟรงค์และธาวินที่ยืนตีคู่กันอยู่ข้างรถ สาวน้อยสาวใหญ่ในมหาวิทยาลัยต่างกรี๊ดกร๊าดกันเป็นแถวกับความหล่อแพ็คคู่และดูมีฐานะของพวกเขา ก่อนเสียงกรี๊ดนั้นจะเปลี่ยนเป็นเสียงกระซิบกระซาบเมื่อน้ำหวานเดินลงมาจากรถด้วยทีท่าเก้ๆ กังๆ“ไปกันเถอะ”“อะ...เอ่อ...”“หืม? เป็นอะไรไป?”แฟรงค์หันกลับมามองน้ำหวานที่ก้มหน้าหงุด เธอเป็นเพียงหญิงสาวจากร้านขายกาแฟโบราณธรรมดาๆ ไม่ค่อยเป็นที่สนใจเท่าไหร่ เพราะเธอไม่เคยทำตัวโดดเด่น ถึงจะมีรุ่นพี่มาทาบทามเป็นดาวคณะแต่เธอก็ไม่เคยสนใจเลย ด้วยใบหน้าที่สะสวยเหมือนช้างเผือกในตลาดสลัมจะมีคนเข้ามาจีบบ้างก็ไม่แปลก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่เคยเปิดตัวโอ่อ่าเวอร์วังแบบนี้มาก่อน เลยไม่ชินกับสายตาคนร
“อยากได้มันหรือยัง? หืม?”เสียงกระซิบแหบพร่าข้างใบหูเล็กอย่างจงใจ น้ำหวานยังคงส่ายหน้าทั้งที่ตอนนี้ร่างกายร้อนจนแทบจะระเบิดออกมา สติอันน้อยนิดของเธอบอกว่าต้องไม่ใช่ที่นี่ แต่ร่างกายกับไม่ฟังดูต้องการเขาเสียเหลือเกินแฟรงค์ยกยิ้มเมื่อเห็นว่าความคิดกับหัวใจของน้ำหวานดูไม่ตรงกันเสียเท่าไหร่ การตอบสนองจากร่างกายของเธอมันแสดงออกอย่างชัดเจน ใบหน้าสวยที่แดงเรื่อไปถึงใบหูพร้อมกับลมหายใจที่หอบกระเส่า ทำให้แฟรงค์มองว่าเธอดูน่ารักน่าเอ็นดูจนแทบจะอดใจไม่ไหว“ฉันให้โอกาสเธอตอบออีกครั้ง”“อะ...อื้อ...แต่..ที่นี่มันห้องทำงาน...อ๊ะ”“ฉันไม่สน...ตอนนี้ฉันสนแค่เธอ”“ตะ...แต่....”“ว่ายังไง? คำตอบน่ะ..”แฟรงค์พูดไปทั้งที่ยังคลอเคลียอยู่ที่ซอกคอขาวและเนียนอกอิ่ม อยากจะใส่ชุดมายั่วยวนเขาก็ต้องเจอดีกันหน่อย น้ำหวานก็ยังคงไม่ตอบและได้แต่เบือนหน้าหนีไปทางอื่น และแฟรงค์ไม่ใช่คนใจเย็นเขาจึงยกตัวเธอลงให้มานั่งกึ่งหลางระหว่างขาของเขาก่อนที่เขา