เอี๊ยดด!!"ว๊ายยย!!" หญิงสาวร้องอุทานออกมาเสียงดังก่อนที่จะล้มลงก้นจ้ำเบ้ากับพื้น "โอยย...""เป็นอะไรหรือเปล่าแม่หนู!?" ป้าเจ้าของร้านขายอาหารตามสั่งซึ่งเห็นเหตุการณ์ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้น รีบวิ่งเข้ามาประคองตัวของเธอให้ลุกขึ้น "ไม่เป็นไรค่ะป้า""คนสมัยนี้นี่มันยังไงกันนะ นิสัยเสียมากๆ เลย" ป้าแกบ่น เพราะดูเหมือนว่ารถคันนั้นตั้งใจจะขับเข้ามาชนเธอแต่เพราะมายยืนอยู่บนฟุตบาทพอดี เลยทำได้แค่เฉี่ยวจนเธอล้มลงกับพื้น "ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะป้า เขาอาจจะไม่ได้ตั้งใจ""ไม่เป็นอะไรแน่นะแม่หนู ไปโรงพยาบาลไหมมีเลือดออกเยอะเลย" "แค่แผลถลอกน่ะค่ะไม่เป็นอะไรมาก ขอบคุณป้าอีกครั้งนะคะ" "แล้วนี่เดินกลับไหวหรือเปล่า?" "ไหวค่ะ พอดีหนูจะโบกรถแท็กซี่กลับบ้านค่ะ""ป้าว่าแบบนี้ไปแจ้งตำรวจไว้ก็ดีนะ คนพวกนั้นจะได้โดนกฎหมายลงโทษบ้าง" "แจ้งไปก็ไม่ได้อะไรหรอกค่ะป้า" "งั้นเดี๋ยวป้าไปเรียกรถแท็กซี่ให้นะ""ขอบคุณค่ะ" ป้าเจ้าของร้านเดินออกไปเรียกรถแท็กซี่ให้หญิงสาว ก่อนจะส่งเธอขึ้นรถไป "ขอบคุณป้าอีกครั้งนะคะที่ช่วยหนู""ไม่เป็นไรจ้ะ ป้าเห็นหนู""พอดีว่าที่ทำงานของหนูอยู่ด้านในนู่นค่ะ ตอนเย็นก็เลยออกมารอรถแท็กซี่อย
@บ้านเวคิน ปึก!!ซองกระดาษสีน้ำตาลถูกโยนลงตรงหน้าของหญิงสาว เธอหยิบไปเปิดดูด้วยความสงสัยเพราะเห็นสีหน้าของเวคินดูกำลังโมโหเป็นอย่างมาก "อะไรของคุณคะ?" "คุณทำอะไรไว้ผมว่าคุณน่าจะรู้ดีนะ" "ทำอะไรคะ?" "คุณขับรถไปเฉี่ยวใครมาล่ะ" "คุณอย่ามาใส่ร้ายพิณแบบนี้นะคะ!""ผมไม่ได้ใส่ร้าย แต่มันมีหลักฐานไง" เขาเถียงกลับด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน "...." "เกิดอะไรขึ้นลูก ทำไมถึงเสียงดังกันนักล่ะ" แม่ของเวคินเดินเข้ามาเพราะได้ยินเสียงของลูกชายดังออกไปถึงข้างนอก "คุณแม่ดูลูกชายของคุณแม่สิคะ มาใส่ร้ายว่าพิณไปขับรถเฉี่ยวชนคนอื่น" "ตายจริง! นี่มันเรื่องอะไรกันลูก""สองแฝดโทรมาบอกว่าแม่ของตัวเองถูกรถชน ผมก็เลยให้คนไปดูกล้องวงจรปิดมาให้ ถึงได้รู้ว่ารถคันนั้นเป็นรถของพิณ" "จริงเหรอลูกหนูพิณ หนูทำแบบนั้นจริงๆ เหรอลูก?""คุณแม่เชื่อด้วยเหรอคะ พิณไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรสักหน่อยคุณแม่ก็น่าจะรู้""....""รถคันนั้นเป็นของพิณ แล้วมันจะต้องเป็นพิณคนเดียวเหรอคะที่เป็นคนขับรถ?""ยอมรับแล้วสินะ" "ไม่ใช่พิณสักหน่อย""งั้นก็บอกมาว่าใครเป็นคนขับรถ คุณก็ต้องบอกได้สิเพราะคุณเป็นเจ้าของรถ ใครยืมรถของคุณไปบ้าง อีกอย่างคุณก็ไ
@หนึ่งเดือนถัดมา #บ้านมาย "มายมีคนมาหาน่ะ""ใครกันพี่หมอก?" ฉันถามพี่หมอกกลับไป ใครกันจะมาหาฉันเวลานี้ ฉันมีเพื่อนก็จริงแต่ตอนนี้ทุกคนต่างก็แยกย้ายกันไปทำงานหมดแล้ว ไม่ได้มีการมานัดรวมตัวสังสรรค์กันเหมือนช่วงที่เรียนมหาลัย อีกอย่างฉันก็ไม่ได้มีคนรู้จักที่ไหนด้วย "เป็นผู้หญิง พี่ไม่รู้เหมือนกันว่าเขามาหามายเรื่องอะไร" "อ๋อ เดี๋ยวมายไปดูเองก็ได้ค่ะ" ฉันเดินออกไปที่หน้าบ้าน ก่อนจะพบว่าคนที่มาหาฉันคือภรรยาของคุณคิน แต่ฉันไม่รู้จักชื่อของเขา "สวัสดีค่ะ คุณเป็นแม่ของสกายสโนว์ใช่หรือเปล่าคะ?""ค่ะ คุณคงเป็น...ภรรยาของคุณเวคิน มาทำอะไรเหรอคะ?""เข้าไปข้างในได้หรือเปล่า?""เชิญค่ะ" ฉันเชิญให้ภรรยาของคุณเวคินเข้ามาในบ้าน ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงมาหาฉันที่นี่ ถ้าจะมาพูดเรื่องของฉันกับคุณเวคินฉันก็บอกได้ตามตรงเลยว่าฉันไม่ได้เป็นอะไรกับเขาและเราก็ไม่ได้มีสัมพันธ์อะไรลึกซึ้งกัน "บ้านของคุณร่มรื่นน่าอยู่ดีนะคะ""ค่ะ" "แล้วนี่สองแฝดไปไหนแล้วคะ?""ทำการบ้านอยู่ด้านในค่ะ" "อ๋อ...แล้วคุณ..""ฉันว่าคุณมีธุระอะไรก็เข้าเรื่องเลยดีกว่าค่ะจะได้ไม่ต้องเสียเวลา" "ได้ค่ะ" "...." "คุณเองก็น
ครืด ครืด ครืดสายเรียกเข้า >>> คุณคิน "ค่ะ" ( อาทิตย์นี้คุณต้องไปทำงานหรือเปล่า ให้ผมรับสองแฝดไปเลี้ยงให้ไหม ) "ฉันมีเรื่องต้องคุยกับคุณอยู่พอดีเลย วันอาทิตย์เจอกันหน่อยนะคะ"( ได้สิ ที่ไหนล่ะ )"เดี๋ยวฉันนัดสถานที่ไปอีกทีค่ะ" ( ครับ ) ฉันกับคุณคินไม่ค่อยได้เจอกันหรอก แต่เขาก็โทรมาหาสองแฝดอยู่บ่อยๆ ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง ฉันก็ไม่ได้วุ่นวายกับเขา เขาก็ไม่ได้มาวุ่นวายอะไรกับฉันเหมือนกัน ทุกครั้งที่คุยกันก็จะเป็นเรื่องของลูกเท่านั้น "สองแฝดอาทิตย์นี้ลุงหมอกไม่ได้ไปทำงาน อยู่บ้านกับลุงหมอกนะ แม่ต้องไปทำธุระกับพ่ออาจจะไปกับพ่อไม่ได้ด้วย""ครับ//ค่ะแม่" ฉันยังไม่ได้บอกเรื่องนั้นกับสองแฝดเลย ฉันไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นบอกกับลูกอย่างนี้ดี เด็กในวัยนี้เขาต้องการเหตุผลที่มากพอและเข้าใจได้ง่ายๆ ซึ่งฉันก็ยังไม่เข้าใจเลยกับสิ่งที่ภรรยาของคุณเวคินมาพูด มันไม่ใช่เหตุผลที่จะห้ามพ่อกับลูกเจอกันเลย แต่ฉันก็ทำอะไรไม่ได้เพราะฉันเป็นคนนอก และก็คงต้องทำตามที่ภรรยาของคุณเวคินขอ แต่ฉันไม่ได้ทำเพื่อใคร ฉันช่วยในฐานะหัวอกลูกผู้หญิงด้วยกัน @อาทิตย์ต่อมา #ร้านกาแฟคาเฟ่xxx"ขอโทษนะรอนานหรือเปล่า"
#บ้านเวคิน "ว่าไงนะลูก หนูพิณกำลังท้องเหรอ!?" แม่ของเวคินอุทานออกมาด้วยความตกใจ "แม่ก็ลองถามเธอดูเอาเองสิครับว่าเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า แล้วถ้าเป็นเรื่องจริงทำไมถึงไม่เอาเรื่องนี้มาบอกกับครอบครัวก่อนที่จะไปบอกคนอื่น" เวคินหันไปมองพิณทิพย์ที่นั่งอยู่บนโซฟา เธอรีบก้มหน้าลงเพราะไม่กล้าสบตากับเขา "จริงเหรอหนูพิณ?""จริงค่ะคุณแม่" "ตายจริง นี่เรากำลังจะมีทายาทแล้วเหรอเนี่ย" "ผมแค่อยากรู้ ว่าทำไมเธอถึงไม่บอกเรื่องนี้กับเราก่อนที่จะไปปรึกษากับคนอื่น คุณต้องการอะไรของคุณกันแน่?" "อะไรกันลูก ทำไมพูดกับหนูพิณแบบนั้นล่ะ?" "เธอไปหาแม่ของน้องสกายสโนว์ บอกให้เธอห้ามให้...""พิณก็แค่ไปขอร้องให้แม่ของสองแฝดช่วยพูดค่ะ พิณอยากให้คุณคินสนใจกันบ้าง พิณท้องแบบนี้คุณก็เอาแต่ทำงาน ไม่สนใจกันบ้างเลย เจอหน้ากันทีไรคุณก็ชอบชวนทะเลาะอยู่เรื่อย" "แล้วคุณมีสิทธิ์อะไรสั่งมาให้ผมกับลูกเจอกัน!?""อะไรกันคะ พิณไปพูดตอนไหน พิณไม่เคยพูดแบบนั้นเลยนะคะ พิณไม่ได้ใจร้ายถึงขนาดไม่ให้พ่อกับลูกเจอกันเลยสักหน่อย" "วันนั้นคุณไปหามายที่บ้าน""ใช่ค่ะพิณไปหาเธอที่บ้าน พิณก็แค่พูดให้เธอมาช่วยพูดกับคุณว่าให้กลับมาดูแลกันบ้า
@สองเดือนถัดมา #บริษัทเวคิน ก๊อก ก๊อก ก๊อก "ขออนุญาตครับท่านประธาน""เชิญ""มีเอกสารด่วนต้องเซ็นครับ" "เอาวางไว้ก่อน""ครับ"สองเดือนที่ผ่านมาเวคินตั้งใจทำงานอย่างเดียว ไม่สนใจเลยรอบตัวจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เพราะเขาไม่อยากคิดถึงเรื่องที่ทำให้ต้องหนักใจ โดยเฉพาะคำร้องขอของมาย ที่ขอร้องให้เขาอยู่ห่างจากลูกๆ ของเธอ เพื่อให้เขาคอยไปดูแลพิณทิพย์มากกว่า ถึงจะไม่เห็นด้วยแต่ก็ขัดเธอไม่ได้อยู่ดี "เอ่อท่านประธานครับ...คุณพิณมาหาครับ ตอนนี้อยู่ข้างล่าง""มาทำไม บอกแล้วไม่ใช่หรือไงว่าให้อยู่บ้าน" เขาบ่นเบาๆ และก็รู้สึกไม่ค่อยชอบใจเท่าไรที่เธอชอบออกไปไหนมาไหนทั้งๆ ที่ก็รู้ว่าตัวเองกำลังท้อง แต่กลับทำเหมือนว่าตัวเองไม่ได้ท้อง "ให้ผมเชิญคุณพิณเข้ามาเลยไหมครับ""อืม" "ครับ" เลขาของเวคินเดินออกไปได้ไม่นานก็กลับมาพร้อมกับพิณทิพย์ เธอเดินเข้ามาพร้อมกับยิ้มให้เขาเล็กน้อย "คุณมาทำไม?""พอดีว่าพิณออกไปหาเพื่อนมาน่ะค่ะ ก็เลยแวะมาหาคุณ เที่ยงนี้เรา...""ผมเคยบอกคุณว่ายังไง ท้องอยู่ก็ควรจะอยู่บ้าน แต่นี่คุณเล่นเที่ยวเตร็ดเตร่ไปเรื่อย ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจะทำยังไง!?" "คุณเป็นห่วงพิณเหรอคะ? ดีใจจัง"
@บ้านเวคิน "เธอว่าน่าแปลกไหม คุณพิณเธอท้องได้ตอนนี้ก็น่าจะ 3-4 เดือนแล้วนะ แต่ทำไมท้องถึงไม่ออกเลยล่ะ ยังดูหุ่นเพรียวเหมือนกับตอนที่ยังไม่ท้องเลย ความจริงตอนนี้ท้องน่าจะเริ่มออกบ้างแล้วนะ""เออจริง ฉันก็สงสัยอยู่เหมือนกัน แถมเรื่องนี้คุณพิณเธอก็เป็นคนจัดการเองด้วยไม่ได้ให้ใครเข้าไปยุ่ง ขนาดคุณเวคินจะพาไปโรงพยาบาลเธอยังบอกเองเลยว่าจะไปเอง" "น่าแปลกเหมือนกันนะ อยากให้คุณเวคินดูแลแต่ไม่ยอมให้คุณเวคินพาไปตรวจที่โรงพยาบาล ทำเหมือนกับว่ากลัวอะไรอย่างนั้นแหละ" แม่บ้านสามคนนั่งซุบซิบคุยกันถึงเรื่องที่พิณทิพย์กำลังท้อง ต่างคนต่างก็มีความสงสัยแคลงใจในเรื่องนี้ไม่แพ้กัน แต่ก็พูดอะไรออกไปไม่ได้ "เงียบปากกันได้แล้ว คุณเขาไม่ได้จ้างพวกเอ็งมาให้นินทาแบบนี้นะ คุณพิณเขาเป็นคนตัวเล็กแถมนี่ก็เป็นท้องแรกด้วย ท้องจะออกอะไรมากมายกันล่ะ" ป้าที่เป็นแม่บ้านเก่าแก่ของที่นี่พูดขึ้นมา "ท้องแรกก็จริงนะป้า แต่ป้าไม่สังเกตเลยเหรอว่าคุณพิณเขาไม่มีท่าทีผิดปกติอะไรเลย" "แล้วไปสาระแนอะไรกับเรื่องของเจ้านายเขา ทำตัวเองให้มันดีก่อนเถอะก่อนที่จะไปนินทาคนอื่น!""โถ่ป้า ฉันก็แค่สงสัยไม่ได้ใส่ร้ายไม่ได้พูดอะไรให้เขาเสื
@บ้านมาย "แม่คะ เมื่อไหร่เราจะได้เจอพ่ออีกล่ะ" "นั่นสิครับแม่ ทำไมพ่อไปทำงานต่างประเทศนานจัง""ไม่รู้สิ เอาไว้ถ้าพ่อกลับมาแล้วแม่จะมาบอกนะ" ฉันบอกกับลูกๆ ฉันก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน จะบอกไปตามตรงฉันก็กลัวพวกแกจะเสียความรู้สึก พวกแกก็คงจะคิดถึงคุณเวคินมาก ทั้งสามคนผูกพันกันไปแล้ว แต่ถูกแยกออกจากกันแบบนี้ ก็ไม่แปลกที่พวกแกจะถามหาเขาอีก ป่านนี้เขาก็คงจะมีความสุขอยู่กับลูกและภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเขา ฉันไม่เคยเข้าไปยุ่งไม่เคยย่างกรายเข้าไปยุ่งในชีวิตของเขาอีกเลยตั้งแต่วันที่รู้ว่าเขาจะต้องแต่งงาน "โทรไปหาพ่อได้ไหมคะ หนูอยากคุยกับพ่อ""แม่จะโทรไปได้ยังไงลูก แม่ไม่มีเบอร์โทรศัพท์ของพ่อที่ต่างประเทศนะ""อ้าว แล้วโทรไปเบอร์เดิมของพ่อไม่ได้เหรอคะ?" "พ่ออยู่ต่างประเทศจะโทรไปได้ยังไงลูก" "....." สองแฝดพากันนั่งทำหน้าเศร้า ฉันสงสารพวกแกมากเลยนะแต่ฉันก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน "เอาเป็นว่าแม่สัญญา ถ้าพ่อกลับมาแล้วเราจะไปหาพ่อกัน""จริงๆ นะคะแม่""จริงจ้ะ""แม่ห้ามโกหกนะครับ" "ไม่โกหกแน่นอนครับ" ฉันยอมเป็นแม่ที่โกหกกับลูก เพราะไม่อยากให้ลูกต้องเสียความรู้สึกเสียใจกับเรื่องพวกนี้ โต
6 ปีต่อมา หลังจากที่คลอดลูกคนที่ 3 ได้ 2 ปี ฉันก็มีลูกอีกคนนึงและก็ปิดอู่เรียบร้อยเลยนั่นก็คือการทำหมัน เพราะไม่อย่างนั้นคุณเวคินก็คงจะทำให้ฉันมีลูกขึ้นมาอีกชัวร์ คุณหมอก็ยังไม่อยากให้ฉันทำเพราะอายุยังน้อย แต่ถ้าฉันไม่ทำเปอร์เซ็นที่ฉันจะมดลูกแตกก็มีมากเลยทีเดียวเพราะท้องเยอะมาก ฉันก็เลยอ้อนวอนขอให้คุณหมอทำหมันให้ฉันเลยหลังจากที่ผ่าคลอดคนที่ 4 เสร็จ ตอนนี้วุ่นวายมากๆ เลย ลูกฝาแฝดทั้งสองคนตอนนี้ก็โตขึ้นมากแล้ว คนที่ 3 ก็อายุ 6 ขวบกว่าๆ น้องเล็กสุดคือ 4 ขวบกว่าเช่นกัน วัยกำลังซนเลย ลูกของพี่หมอกก็มี 2 คน อีกคนนึง 6 ขวบส่วนอีกคนนึงก็ 5 ขวบ วันไหนที่ครอบครัวของเราได้มารวมตัวกัน ฉันบอกได้เต็มปากเลยว่ามันเป็นอะไรที่วุ่นวายมากๆ จากตระกูลเล็กๆ พ่อกับแม่ของคุณเวคินก็มีเพียงคุณเวคินคนเดียว ลูกบุญธรรมอีก 1 คน แต่ในตอนนี้มีหลานวิ่งอยู่กันให้เต็มไปหมด กลายเป็นตระกูลใหญ่ที่มีลูกหลานเยอะแยะมากมายสมใจคุณปู่ที่อยากได้หลานมากๆ ในตอนนั้น ถ้าอย่างนั้นฉันขอแนะนำลูกๆ ของฉันและก็หลานในตระกูลนี้ให้ฟังทั้งหมดเลยก็แล้วกัน ฉันกับคุณเวคินมีลูกกัน 4 คน 2 คนแรกเป็นฝาแฝดกัน สกาย กับ สโนว์ คนกลางเป็นผู้ชายชื่อ
@ห้าเดือนต่อมา ตอนนี้ฉันท้องใหญ่มากๆ แต่มีลูกคนเดียวนะ และก็ไม่รู้เพศด้วยคุณหมอบอกว่าสงสัยว่าแกจะอายก็เลยไม่ยอมเปิดให้เห็นว่าเป็นเพศอะไร เพราะงั้นก็เลยต้องรอลุ้นตอนคลอดทีเดียวเลยว่าจะได้ลูกผู้หญิงหรือลูกผู้ชาย ส่วนคุณเวคินก็หายจากอาการแพ้ท้องบ้างแล้วแต่ก็ยังไม่หายขาด เริ่มกินอะไรได้มากขึ้น ร่างกายเริ่มมีน้ำมีนวลมากขึ้นจากที่แพ้ท้องมาหลายเดือนจนร่างกายซูบไปเยอะ "กินเยอะๆ นะ ลูกจะได้แข็งแรงๆ" "ขอบคุณค่ะ" "เป็นยังไงบ้าง""ก็อึดอัดนิดหน่อยค่ะ ท้องใหญ่แบบนี้ก็อึดอัดเป็นธรรมดาแหละ" ฉันตอบ คุณเวคินเขาจะเฝ้าคอยถามแบบนี้เป็นประจำทุกวัน ว่าฉันลำบากไหม ที่ต้องอุ้มท้องใหญ่ๆ แบบนี้ แล้วก็ชอบถามถึงเรื่องเมื่อก่อนว่าตอนที่ฉันอุ้มท้องสองแฝดลำบากมากไหมฉันก็บอกไปตามตรงว่าค่อนข้างลำบาก และต้องระมัดระวังเพราะท้องแฝด และตอนนั้นฉันก็คิดหนักเลยด้วย ลูกจะได้รับสารอาหารเท่ากันไหม ลูกจะแข็งแรงไหม ลูกจะออกมาโตเท่ากันไหม เพราะเท่าที่ฉันฟังคุณหมอมา คุณหมอบอกเหมือนกันว่าท้องแฝดค่อนข้างอันตรายและต้องระวังทุกอย่าง ทั้งการกิน และการใช้ชีวิต แต่ฉันก็สามารถดูแลลูกๆ ให้คลอดออกมาอย่างปลอดภัยและครบสมบูรณ์ทั้งสองค
@ผ่านไปอาทิตย์กว่าๆ #โรงพยาบาลเอกชน คุณเวคินพาฉันมาฝากครรภ์ที่โรงพยาบาล เขาเองก็ยังไม่หายดีหรอก แต่ก็อยากจะแน่ใจว่าฉันท้องจริงๆ หรือเปล่าก็เลยพาฉันมาตรวจที่โรงพยาบาล หลายวันมานี้คุณเวคินแพ้ท้องอย่างหนักหน่วงจริงๆ เขาดูซูบผอมลงไปเยอะเลย เพราะกินอะไรไม่ได้ ต่างจากฉันที่ไม่มีอาการอะไรเลยในครั้งนี้ แม่คุณเวคินบอกว่าคุณเวคินเป็นแทนฉันหมดทุกอย่างแล้ว อาการแพ้ท้องก็เลยรับจากฉันไปเต็มๆ "คุณมาริสาเชิญเข้าห้องตรวจค่ะ" "..." ฉันกับคุณเวคินเดินไปเข้าห้องตรวจ เมื่อคุณพยาบาลเรียกผ่านไมค์ "สวัสดีค่ะคุณหมอ//สวัสดีครับหมอ" "สวัสดีครับ" "..." ฉันหย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามกับคุณหมอ "ตามที่ได้แจ้งเอาไว้ มาตรวจครรภ์ใช่ไหมครับ""ใช่ค่ะมาตรวจครรภ์""งั้นเดี๋ยวรบกวนคุณไปฉี่ใส่กระปุกให้พยาบาลเก็บผลตรวจหน่อยนะครับ และก็ขอตรวจเลือดของคุณทั้งสองคนด้วย" "ค่ะ" ก็เหมือนกับที่ฉันมาฝากท้องครั้งแรกนั่นแหละ คุณหมอก็ให้ฉันตรวจฉี่ตรวจเลือดตรวจหลายๆ อย่าง แต่ครั้งนั้นไม่มีคุณเวคินมาตรวจด้วย @ผ่านไปสักพัก "คุณท้องที่สองแล้วใช่ไหมครับ" "ค่ะ ท้องแรกได้ลูกแฝดสองคน" "เดี๋ยวรบกวนขึ้นไปนอนบนเตียงหน่อยนะครับ
@หนึ่งเดือนถัดมา อุ๊บบ!! โอกกก!! โอกกก!! "คุณเวคิน!?" หญิงสาวรีบวิ่งเข้ามาดูสามีของตน เมื่อเห็นเขาวิ่งเข้าออกห้องน้ำด้วยความเร็วแสงและอาเจียนออกมาจนเสียงดัง อาการแบบนี้เธอพอจะเดาออกว่าเป็นอาการอะไร บวกกับรอบเดือนตอนนี้ที่ไม่มาจนครบสองเดือนแล้ว "อืม..." ร่างหนาทิ้งตัวลงนั่งอยู่ข้างชักโครกด้วยสภาพที่อิดโรย ริมฝีปากแห้งเหือดจนซีด เขากินอะไรไม่ได้เลยสักอย่างเดียว แค่ได้กลิ่นอาหารก็ทำให้รู้สึกอยากอาเจียนแล้ว "เป็นยังไงบ้างคะ ไหวหรือเปล่า" เธอรีบเข้าไปดูอาการ ทว่า..พอเธอเดินเข้าไปถึงเวคินก็มีอาการขึ้นมาอีกครั้งเพราะกลิ่นตัวของเธอ "อึก..อุ๊บโอกก!!!" "คุณเวคิน! หวะ ไหวหรือเปล่าคะ ไปหาหมอมั้ย" เธอเอ่ยถามน้ำเสียงตะกุกตะกัก เพราะตอนที่เธอท้องอาการแพ้ท้องก็หนักพอควรเหมือนกัน แต่ก็ทุเลาลงได้เพราะยาที่หมอให้มา "ผมไหว...แต่กลิ่นตัวคุณมันเหม็นอะ ผมได้กลิ่นแล้วอยากอาเจียนไงไม่รู้" "งั้นฉันไม่อยู่ใกล้ก็ได้ คุณเดินมาเองไหวไหม ถ้าไม่งั้นฉันจะไปตามคนมาช่วย" "ไหวๆ" เวคินตอบเสียงแผ่ว ก่อนจะพยุงตัวเองเดินกลับเข้าไปในห้อง "ไปหาหมอมั้ย" "ไม่เป็นไร เดี๋ยวมันก็หาย สงสัยผมจะพักผ่อนน้อย""นี่คุณยังไม่ร
@หนึ่งเดือนต่อมา #งานแต่งสุดหรูในโรงแรมห้าดาว เจ้าบ่าวและเจ้าสาวเดินเคียงคู่กันมาในชุดสีขาวสวยงามสง่า แขกที่มาร่วมงานต่างปรบมือรัวๆ ให้จนเกิดเสียงดังขึ้นชั่วขณะ ทั้งสองสวยและหล่อเหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก ลูกฝาแฝดทั้งสองก็ใส่ชุดไทยชายหญิงน่ารักสมวัย "คนเยอะจังเลยคุณ ไหนบอกว่าคนไม่เยอะไง" หญิงสาวกระซิบถามคนข้างๆ เพราะเข้าใจว่างานแต่งจัดเป็นงานเล็กๆ เชิญแขกเหรื่อมาไม่กี่คน แต่ไม่คิดว่าจะมีคนมาร่วมงานเยอะขนาดนี้ และแต่ละคนก็เป็นนักธุรกิจระดับแนวหน้าทั้งนั้น "นี่แค่คนรู้จักที่สนิทกันนะ พ่อผมแค่จัดให้เบาะๆ ไม่ใหญ่โตมาก" "นี่น่ะเหรอที่เรียกว่าไม่ใหญ่โต" มายบ่นพึมพำ สำหรับพวกเขาอาจจะไม่ใหญ่โตอะไร สำหรับเธอมันใหญ่โตมาก คนมาร่วมงานแต่งนี้เยอะมากๆ มองไปทางไหนก็เจอแต่คนทางนั้น "ลูกชายเจ้าของอสังหาริมทรัพย์แต่งงานทั้งทีก็ต้องให้สมฐานะหน่อยสิ จะให้น้อยหน้าคนอื่นได้ยังไง" เวคินบอก ก่อนจะหันไปยิ้มให้กับแขกที่มาร่วมงาน ก็นั่นน่ะสินะ ลูกชายเจ้าของอสังหาริมทรัพย์จะแต่งงานทั้งทีก็ต้องจัดให้สมฐานะหน่อยสิ ไหนจะเปิดตัวหลานฝาแฝดอีก งานนี้พ่อของเวคินจัดหนักจัดเต็มเลย มายเคยเห็นแต่ในทีวีกับการจั
@วันต่อมา มายตื่นแต่เช้าเพราะเมื่อคืนได้นอนหลับอย่างเต็มอิ่มแต่เวคินยังไม่ตื่นเธอเลยถือโอกาสนี้ออกไปเดินเล่นที่ริมชายหาดคนเดียว เพราะเมื่อวานมาถึงก็มืดแล้ว กว่าจะจัดของเตรียมของเข้าที่ก็ดึกแล้ว เลยไม่มีเวลาออกมาดูบรรยากาศริมทะเล “บรรยากาศดีจัง” ฉันพูดขึ้นเบาๆ พร้อมกับอ้าแขนกว้างเหมือนนกกางปีก รับลมทะเลที่แสนจะสดชื่นในตอนเช้าๆ “ตื่นแล้วไม่ปลุกผมเลยนะ” เสียงหนึ่งดังขึ้นจากทางด้านหลังของฉัน ก่อนที่จะถูกเจ้าของเสียงนั้นเข้ามาสวมกอด “เห็นคุณนอนหลับสบายฉันก็ไม่อยากกวนค่ะ” ฉันตอบ “ที่นี่เงียบสงบดีนะ ว่ามั้ย” “ค่ะ เงียบสงบมากเลย บรรยากาศก็ดีด้วย” มันนานแค่ไหนแล้วนะที่ฉันไม่มีโอกาสได้มาเที่ยวพักผ่อนแบบนี้ ครั้งล่าสุดที่มาก็แทบจะไม่ได้พักเพราะวุ่นวายอยู่กับสองแฝดมากเลย “หิวยัง”“ไม่ค่ะ”“ถ้าคุณไม่หิวข้าว ผมก็มีอย่างอื่นให้คุณกินนะ” เขามองหน้าฉันพร้อมกับส่งสายตาเจ้าเล่ห์ใส่ “บ้า! พูดแบบนี้อีกแล้วนะคุณ!” ฉันแหวใส่เขาเสียงดัง จะมีสักครั้งไหมที่ไม่พูดเรื่องใต้สะดือกัน รู้แล้วล่ะว่าอยากมีลูก แต่ก็ไม่น่าจะหื่นขนาดนี้นะ “ผมยังไม่ไดพูดเลยนะว่ามันคืออะไร คุณคิดไปเองทั้งนั้น”“…” ถึงจะพูดแบบนั้
@สามวันต่อมา "นี่เราจะไปไหนกันเหรอ คุณยังไม่ได้ตอบฉันเลยนะ" ฉันถามคุณเวคิน เพราะเขายังไม่ยอมบอกเลยว่าจะไปไหน เอาแต่รีบเก็บเสื้อผ้าอย่างกับว่ามีเรื่องด่วนอะไร "ไปเก็บเสื้อผ้าเถอะถึงเดี๋ยวคุณก็รู้เอง" เขาหันมาตอบ จะไม่ให้ฉันอยากรู้ได้ยังไงในเมื่อเขาพูดกำกวมแบบนี้ จะบอกฉันให้มันจบไปตั้งแต่แรกก็ไม่ได้ ไม่รู้ว่าจะปิดบังไปทำไม "ถ้าคุณไม่ตอบฉันก็ไม่ไป" ฉันพูดเสียงแข็ง พร้อมกับทิ้งตัวนั่งลงบนเตียง ถ้าเขาไม่ยอมบอกฉันก็ไม่ไปจริงๆ นั่นแหละ อีกอย่างลูกๆ ของฉันก็ยังไม่กลับมาเลย ถ้าฉันไปแล้วพวกแกกลับมาไม่เจอร้องไห้หาฉันขึ้นมาจะทำยังไง "พ่อของผมจองรีสอร์ทเอาไว้ ให้เราสองคนไปพักกัน จะพักกี่คืนก็ได้ตามใจ ส่วนเด็กๆ ก็รู้เรื่องนี้แล้ว พวกแกไปเที่ยวอยู่กับพ่อของผมอีกที่นึง คุณไม่ต้องกลัวหรอกเด็กๆ สนุกกันจะตาย น้องอัศวินก็อยู่ที่นั่นด้วย" "ห๊ะ!? นี่พ่อของคุณลงทุนจองรีสอร์ทให้เลยเหรอ?""อืม..ท่านบอกว่าเราจะได้มีลูกกันเร็วๆ" "มันบังคับกันได้ด้วยเหรอคุณ ตอนที่ฉันท้องสองแฝดก็กว่าจะรู้ตัวก็ร่วมสองเดือนเลย" นี่ก็เพิ่งจะมีอะไรกันแค่ 2-3 วันเอง จะให้ท้องเลยก็คงจะไม่ได้หรอก ทุกอย่างมันมีเวลาของมัน "พ่อผมค
@ตกดึกของอีกวัน “อื้อคุณ…ทำอะไรเนี่ย!?” เธอตะเบ็งเสียงถามขึ้น เมื่อกำลังนั่งหวีผมอยู่ที่หน้ากระจก ก็ถูกเขาเข้ามานั่งซ้อนอยูู่ข้างหลังและเริ่มลูบไล้ขาอ่อนของเธอไปมา “ไม่น่าถามนะ ว่าจะทำอะไร” เวคินเอ่ยพูดพร้อมกับกวาดตามองเรือนร่างของเธอตั้งแต่ปลายเท้าจนถึงหน้าอกอวบอิ่ม “อือ อย่าสิคุณ” เธอร้้องปรามคนด้านหลัง เพราะไม่ชอบให้เขาเข้ามาจุกจิกกับเธอตอนที่ยังต้องทำอะไรอยู่่แบบนี้ “พ่อของผมอยากมีหลานนะ ลูกแค่สองคนจะพออะไร สมบัติของพ่อผมก็มีตั้งมากมาย”“ฉันไม่ได้หวังสมบัติจากพ่อของคุณเลยนะคะ”“ผมไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น หมายถึงถ้าเรามีลูกหลายคน สมบัติก็จะถูกแบ่งไปอีกไง”“แต่พ่อของคุณท่านก็มีลูกอีกไม่ใช่เหรอคะ” ลูกที่ว่าก็น่าจะหมายถึงพี่สาวของเวคิน ซึ่งเธอเองก็เป็นแค่ลูกบุญธรรมเท่านั้นไม่ใช่ลูกแท้ๆ ที่จะสามารถได้รับสมบัติทุกอย่าง แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่ยอมแบ่งอะไรให้เลย “ใช่ แต่นั่นก็เป็นแค่ลูกบุญธรรมนะ ได้แค่ส่วนของพ่อผมเท่านั้น ส่วนสมบัติที่เป็นของแม่ผมพี่สาวของผมก็ไม่ได้หรอกเพราะไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของแม่”“อือ..แต่ฉันเหนื่อย” เธอพยายามหาข้ออ้าง กลัวว่าจะมีอะไรกันหนักหน่วงเหมือนกับวันก่อน แล้วลูก
@เช้าวันต่อมา ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังขึ้นหลายครั้ง แต่ทั้งสองก็ไม่มีท่าทีว่าจะตื่นเลย จนถึงตอนนี้ก็เพิ่งจะหลับไปได้ไม่กี่ชั่วโมงเอง แกร้ก! ประตูห้องถูกเปิดก่อนที่เด็กฝาแฝดสองคนจะจูงมือกันเดินเข้ามา และก็ได้พบว่าผู้เป็นพ่อและแม่กำลังนอนหลับอยู่บนเตียง โดยที่ไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้าเลยสักชิ้นเดียว "พ่อกับแม่ยังไม่ตื่นเลยสกาย" สโนว์เอ่ยถามพี่ชายฝาแฝดที่ยืนอยู่ข้างๆ "ปลุกไหม?" สกายหันไปกระซิบถามน้องสาวฝาแฝดของตัวเอง "ทำไมพ่อกับแม่ไม่ใส่เสื้อผ้าล่ะ?" สโนว์พูดขึ้นด้วยความสงสัย และก็อยากรู้อยากเห็นตามประสาเด็กวัยนี้ "พ่อกับแม่ร้อนหรือเปล่า" สกายตอบ "ตอนนี้สายแล้วทำไมพ่อกับแม่ยังไม่ตื่นอีก" สโนว์พูด พลางมองไปที่ผู้เป็นพ่อกับแม่ "อื้ออ~~" เวคินบิดตัวไปมาเล็กน้อย เพราะได้ยินเสียงพูดอู้อี้อยู่ข้างๆ หู ก่อนจะปรือตาขึ้นแล้วกรอกตามองไปรอบๆ จนกระทั่งได้เห็นลูกๆ ยืนอยู่ข้างเตียง "อือ..มีอะไรหรือเปล่าลูก?" "ทำไมพ่อกับแม่ยังไม่ตื่นอีกคะ แล้วทำไมถึงไม่ใส่เสื้อผ้า" "!!!" พอน้องสโนว์พูดจบเท่านั้นแหละ เวคินก็รีบดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมหน้าอกของตัวเองทันที "มะ เมื่อคืนมันร้อนน่ะลูก พ่อก็เลยไม่ได