พี่ขุนเขาเดินออกมาจากระเบียงตรงมาหาฉัน แต่ฉันถอยหนี“ทำแบบนี้ทำไม โยนความผิดให้คนอื่น สร้างเรื่องให้ตัวเองหน้าสงสาร คิดว่ามันดีมากรึไง ทำแบบนี้ !!”“หนู...พี่ขอโทษ” พี่ขุนเขาก้มหน้าพูด เขาคิดว่าแค่ขอโทษมันก็จบงั้นหรอ แค่ขอโทษฉันจะลืมเรื่องบ้านี่ที่เขาก็หกฉันงั้นหรอ“อย่ามายุ่งกับหนูอีก” ฉันพูดก่อนจะหันหลังให้พี่ขุนเขา และเดินตรงไปที่หน้าประตูห้องยังไม่ทันที่จะเอื้อมมือไปจับลูกบิดประตู ร่างฉันก็ถูกพี่ขุนเขาสวมกอดจากด้านหลัง“ปล่อย!!” ฉันพูดพร้อมกับพยายามแกะมือหนาของพี่ขุนเขาออก“หนู ฮึก...” เสียงพี่ขุนเขาสั่นเครือ ตัวเขาสั่นไหว เขามุดหน้าลงตรงซอกคอของฉัน จากนั้นฉันก็ได้ยินเสียงสะอื้นเบาๆ“พี่ไม่รู้พี่จะทำยังไงให้หนูยอมคุยกับพี่ พี่ขอโทษที่พี่โกหก ฮึก....”“พี่รักหนูมากจริงๆ พี่อยากดูแลหนูกับลูก ฮึก...”“เงียบ หนูไม่อยากฟัง แล้วก็ปล่อยหนู” ฉันทั้งดิ้น และก็พยายามแกะมือของพี่ขุนเขาออกอีกครั้ง แต่เขาก็ไม่ยอมปล่อยกอดออกอยู่ดี ยิ่งฉันดิ้นเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งกอดรัดฉันแรงเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว“หนูจะให้พี่ทำอะไรพี่ยอมหมดทุกอย่าง พี่ยอมหนูหมดทุกอย่างจริงๆ ฮึก...”“ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น กลับกรุ
พี่ขุนเขาตอบอย่างไม่ลังเล เขาคงจะไม่รู้ว่าไอ้การทำไร่ไถนามันเป็นยังไง“ถ้าพี่ทำตามที่หนูบอก หนูจะให้อภัยพี่จริงๆใช่มั้ย พี่จะเอาใจหนูทุกอย่างเลย ^_^”“ค่ะ ถ้าทำได้...”“งั้นเข้าบ้านกันเถอะจะค่ำแล้ว ^_^”พี่ขุนเขายิ้มหวานก่อนจะเดินมาจับมือ ฉันจ้องหน้าเขาตาเขม็งก่อนที่จะสะบัดมือออก“ใครบอกว่าจะให้เข้าไปในบ้าน”คิดรึไงว่าฉันจะให้เข้าไปนอนในบ้านด้วย ไม่มีทางหรอก“หนู ถะ ถ้าไม่นอนในข้านแล้วพี่จะไปนอนไหน”“แล้วพี่เคยนอนที่ไหนล่ะ”“พี่คืนห้องไปแล้ว ให้พี่เข้าไปนอนด้วยนะ พี่สัญญาว่าจะไม่ล่วงเกินหนูเลย” พี่ขุนเขายกมือขึ้นมาและชูนิ้วขึ้นสามนิ้ว พร้อมกัยแสดงสีหน้าที่แสนจะจริงจังในคำพูดออกมาฉันถูกเขาหลอกมาตลอด เรื่องแบบนี้เขาไม่มีทางพูดจริงหรอก เขากำลังโกหกฉันอยู่“งั้นก็นอนกน้าบ้าน ตรงนั้น”ฉันชี้ไปที่พลิงหน้าบ้าน คล้ายกระท่อมยกสูงขึ้นมาจากพื้นในระดับหน้าท้อง ไม่มีอะไรกัน โล่งทั้งสี่มุม แถวบ้านนอกจะมีเพลิงหน้าบ้านเอาไว้นั่งเล่นชุมนุมกันระหว่างคนในครอบครัวหรือเวลามีแขกมา“ตะ ตรงนี้ยุงจะไม่กัดแย่หรอหนู”“ก็ตามใจนะคะ จะไม่อยู่ก็ได้”“ครับ พี่จะนอนตรงนี้” เมื่อพูดจบพี่ขุนเขาก็เดินไปนั่ง“อึก อึก...
เช้าวันใหม่...วันนี้ฉันตื่นเช้าหน่อย อากาศที่หนาวทำให้ฉันต้องเอาผ้ามาคลุมตัวไว้แล้วเดินออกไปข้างนอกบ้าน ก่อนออกไปจากบ้านก็ไม่ลืมที่จะหยิบชุดที่เอาไว้ใส่ทำงานติดมือไปด้วย ไม่ได้เอามาใส่เองหรอกนะ ฉันเอาไปให้พี่ขุนเขา เพราะวันนี้เขาต้องไปทำงานเมื่อเดินออกมานอกบ้าน ก็เห็นว่าพี่ขุนเขายังไม่ตื่น เขานอนไม่นอนขดตัวอยู่ ฉันไม่ได้เอาผ้าห่มกับหมอนออกมาให้ ไม่ใช่ลืม แต่ฉันตั้งใจ เขาจะได้หมดความอดทนแล้วไปจากที่นี่สักที“ตื่นสายขนาดนี้จะทำอะไรกินทันชาวบ้านเขามั้ย” ฉันยืนกอดอกมองร่างพี่ขุนเขาที่กำลังหลับอยู่สายตาฉันเหลือบไปเห็นข้าวในจาน เขากินแค่ไข่ทอดส่วนน้ำพริกเขาไม่แตะเลยสักนิด ของอร่อยกินไม่เป็น คงจะเป็นเป็นแต่พวกอาหารแพงๆพี่ขุนเขาพลิกตัวไปมา ก่อนจะลืมตาขึ้นมามองฉัน จากนั้นเขาก็ดีดตัวนั่งเหมือนกำลังตกใจอะไรบางอย่าง“หนู คือพี่ไม่ได้ตั้งใจจะตื่นสายนะ”“นี่ชุดทำงาน ใส่ซะ เดี๋ยวจะพาไปไร่” ฉันยื่นชุดทำงานไปให้พี่ขุนเขา สังเกตมองตามแขนและใบหน้าของเขามันมีรอยแดงจ้ำๆเป็นรอยที่โดนยุงกัดเยอะพอสมควร“พี่ขอไปอาบน้ำในบ้านได้มั้ย”“อื้ม” ฉันพยักหน้าตอบ ถึงฉันจะใจร้าย ก็คงไม่ใจร้ายถึงขนาดไม่ให้เขาอาบน้ำแป
ฉันเดินกลับเข้าไปในห้อง ไม่สนใจว่าพี่ขุนเขาจะร้องไห้หรืออะไร ที่ต้องเข้ามาในห้องแบบนี้ก็เพราะกลัวใจตัวเอง กลัวว่าจะเผลอใจอ่อนให้เขาไปอีกก๊อกๆ ก๊อกๆ (เสียงเคาะประตูห้อง)“หนู เปิดประตูให้พี่หน่อย” เสียงพี่ขุนเขาเคาะห้อง และเรียกบอกให้ฉันไปเปิดประตูให้“ออกไปจากบ้านหนูเลยนะ !!” ฉันตะโกนสวนออกไป แต่ถึงยังไง เสียงเคาะห้องก็ยังคงดังต่อเนื่องขึ้น เรื่อยๆฉันเงียบและไม่ไปเปิดประตูให้ คิดหรอว่าทำแต่นี้ฉันจะดีด้วย เห็นว่าฉันเป็นคนเห็นแก่ของฟรีรึไง“หนู ออกมาคุยกับพี่หน่อย”ก๊อกๆ ก๊อกๆ“จะเคาะอะไรนักหนา รำคาญ !!”“พี่อยากคุยกับหนู”“ไม่มีอะไรจะคุย จะไปไหนก็ไปเลยนะ ไปไกลๆ”“ทำไมต้องอารมณ์เสียขนาดนี้...”“บอกให้ไปไง !!” ฉันตะโกนออกไปเสียงดังลั่นจากนั้นเสียงเคาะประตูกับเสียงพี่ขุนเขาที่เรียกฉันก็เงียบไปฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนเตียง พลางยกมือขึ้นมาลูบวนที่หน้าท้องของตัวเองไปมาเบาๆจู่ๆ น้ำตามันก็เอ่อนองเต็มสองตา ฉันเป็นบ้าอะไรอีก จะร้องไห้ทำไมกันไอ้พี่ขุนเขาบ้า เมื่อไหร่จะไปให้พ้นๆสักที จะอยู่แบบนี้แล้วฉันจะลืมเขาสนิทใจได้ไง ต้องเห็นหน้ากันแบบนี้ ใครจะไปลืมได้ความรู้สึกของฉัน
ตอนนี้ฝนตกหนักมาก ลมก็แรง ฟ้าก็ร้องเสียงดังก้องไปทัวบริเวณ ฉันไม่ชอบเอาซะเลยบรรยากาศแบบนี้ฉันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก เกลียดมากที่สุดคือเสียงฟ้าร้องนี่แหละ ตอนนี้ฉันกำลังขดตัวนอนคลุมโปรงอยู่ในผ้าห่มผืนใจ ใจเต้น ตุบ ตุบ รัวไม่เป็นจังหวะเพราะความกลัวคลึ้ม เปรี้ยงง!“กรี๊ดดดด~” ฉันกรี๊ดออกมาเสียงหลงเมื่อเสียงฟ้ามันผ่าลงมา เสียงมันใกล้และดังเอามากๆจนใจฉันมันหายไปเลยก๊อกๆ ก๊อกๆ ก๊อกๆ (เสียงเคาะประตูห้อง)“หนูเป็นอะไร เปิดประตูให้พี่หน่อย” เสียงพี่ขุนเขาเคาะประตูเรียกอยู่หน้าห้องฉันชั่งใจอยู่สักพักว่าจะลุกขึ้นไปเปิดให้ดีมั้ย กลัวฟ้าก็กลัว ใจหนึ่งก็อยากให้เข้ามาอยู่เป็นเพื่อน แต่อีกใจก็ไม่อยากให้เข้ามาเปรี้ยง!!เสียงฟ้าผ่าลงมาอีกครั้ง ฉันกรี๊ดออกมาดังๆพร้อมกับลุกขึ้นจากที่นอนและไปเปิดประตูให้พี่ขุนเขาเข้ามาในห้อง“หนูเป็นอะไร” พี่ขุนเขาถามอย่างร้อนรนสีหน้าดูจะตกใจเอามากๆ ที่เห็นฉันสั่นไปทั้งตัวฉันเม้มปากเข้าหากันแน่น และไม่พูดอะไรออกไปสักคำ“กลัวหรอ ?” พี่ขุนเขาเลิกคิ้วถาม ฉัน ค่อยๆ พยักหน้าตอบ จากนั้นก็เดินไปนั่งบนเตียง“ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้ ไปยืนตรงประตูเลยนะ” ฉันพูดดุเมื่อ จู่ๆ พี่ขุนเขา
เช้าวันใหม่...เฮือก....ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมา ก่อนจะมองไป ข้างๆ กายปรากฎร่างของพี่ขุนเขานอนอยู่ ข้างๆ กับตัวฉัน แถมตอนนี้เขาลืมตาทำตาใสส่งมาให้ฉันอีกต่างหาก“ออกไปเลยนะ” ฉันพูดเสียงแข็ง เมื่อคืนฉันทำอะไรลงไป เผลอตัวไปแบบนั้นได้ยังไงกัน“ขอนอนอยู่แบบนี้อีกหน่อยไม่ได้หรอ” พี่ขุนเขาพูดเสียงออดอ้อนใส่ฉัน ดูเขาทำหน้าสิ อย่างกับเด็กสามขวบ“อย่าเยอะได้มั้ย”“เมื่อคืนหนูเร้าร้อนมากเลยนะ ^_^”“พี่ขุนเขา หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ!!” ฉันตวาดใส่หน้าเขา คนบ้า ทำไมต้องมาพูดเรื่องแบบนั้นด้วย หน้าอายที่สุดจู่ๆ ใบหน้าของฉันมันก็เห่อร้อนขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ ไม่สิ สาเหตุก็เรื่องอย่างว่าที่พี่ขุนเขาพึ่งพูดออกมาไงล่ะ“พี่พูดผิดตรงไหน ก็เมื่อคืนเรามีอะไรกัน ตัวเล็กครางเสียงดังลั่นบ้าน จำไม่ได้หรอ หื้ม^_^” ไม่พูดเปล่า พี่ขุนเขาถือวิสาสะเอามือขึ้นมากดร่างฉันให้นอนราบไปกับที่นอนเหมือนเดิม ก่อนจะกอดฉันเอาไว้แน่น“บอกให้ออกไปไง ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องรึไง !!” ฉันตวาดเสียงดังอีกครั้ง“อยากให้ฝนตก บ่อยๆ จัง หนูจะได้ให้พี่เข้ามาอยู่ในห้องด้วย บ่อยๆ ^_^” พี่ขุนเขาพูดพร้อมกับกำชับกอดแน่นกว่าเดิม แค่นั้นยังไม่พอ เขายังขโมยห
พี่ขุนเขาทำท่าเหมือนกำลังขุ่นคิดอะไรอยู่สักพัก จู่ๆ เขาก็ลุกขึ้นยืนถอดเสื้อออก จากนั้นก็ถอดกางเกง“จะทำอะไร !!” ฉันถามไปเมื่อพี่ขุนเขากำลังจะถอดบล็อกเซอร์ของตัวเองออก นี่อย่าบอกนะว่าจะแก้ผ้าวิ่งรอบหมู่บ้าน จริงๆ เป็นบ้าไปแล้วรึไง“ก็หนูบอกว่าถ้าพี่ยอมแก้ผ้าวิ่งรอบหมู่บ้าน หนูจะให้อภัยพี่“หยุด หยุดเดี๋ยวนี้นะ !!” ฉันร้องห้าม เพราะพี่ขุนเขากำลังจะถอดบล็อกเซอร์ออกจากตัว“ทำไม”“ไม่ต้องทำ แล้วก็ออกไปจากห้อง”“หนู...พี่ยอมทำทุกอย่าง แค่หนูบอกมา”“ออกไป หนูบอกให้ออกไป”“หนู....”“ได้ ถ้าไม่ไปหนูไปเอง!!”พูดจบฉันก็ลุกขึ้นเดินนออกมาจากห้องของตัวเองทันที ขืนอยู่ต่อฉันคงต้องใจอ่อนให้พี่ขุนเขาจริงๆแน่“พี่หมอ !!” ฉันอุทานออกมา เมื่อเดินออกมานอกบ้านแล้วเจอกับพี่หมอที่กำลังเดินมาทางฉัน ในมือพี่หมอถือของเต็มไม้เต็มมือไปหมด“ทำไมทำหน้าเหมือนเจอผีแบบนั้น”“ปะ เปล่าสะหน่อย”“แล้วนี่แม่ตัวเล็กล่ะ พี่ซื้อของมาให้เยอะแยะเลย”“แม่ไป....”“แม่ไม่อยู่ อยู่แต่ผัว”ฉันกำลังจะตอบพี่หมอ แต่ไม่ทันที่จะได้พูดจบ เสียงของพี่ขุนเขาก็พูดแทรกขึ้นมาจากทางด้านหลังของฉันพี่หมอมองหน้าพี่ขุนเขา แต่ดูท่าพี่หมอจะไม่แปลกใจเ
พูดจบฉันก็เดินไปหยิบเค้กขึ้นมา ก่อนที่จะส่งยิ้มหวานให้พี่ขุนเขา แต่ดูท่าเขาจะไม่เข้าใจในการกระทำของฉันสักเท่าไหร่พี่ขุนเขายังคงร้องไห้อยู่ แล้วก็มองหน้าฉันด้วยอาการมึนงง“เทียนละคะ”เมื่อฉันถามหาเทียน พี่ขุนเขาก็รีบหมุนตัวกลับไปก้มหยิบถุงที่เอาใส่เค้กมา ข้างในนั้นมีกล่องเทียนอยู่ เมื่อได้เทียนแล้ว พี่ขุนเขาก็จัดการปักเทียนลงเค้ก เขาทำไปร้องไห้ไปเหมือนเด็กเลย“ถ้าร้องไห้แบบนี้ หนูจะไม่เป่าเค้กแล้วนะ” ฉันทำตาดุใส่พี่ขุนเขา เมื่อพี่ขุนเขาเห็นว่าฉันพูดขู่ไปแบบนั้น เขาก็รีบยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาออกจากแก้มของตัวเองทันที และพยายามที่จะหยุดร้องพี่ขุนเขาล้วงเมื่อเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของตัวเอง หยิบไฟแช็กออกมาจุดเทียนวันเกิด“เอ้า เงียบทำไม จุดเทียนเสร็จแล้วก็ร้องเพลงวันเกิดสิคะ” ฉันบอกพี่ขุนเขา เมื่อเขาเอาแต่ก้มหน้าเงียบ“อ้อ อื้อ..” พี่ขุนเขาพยักหน้าตอบหงึกๆ“แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู....~” 🎵เสียงเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์ดังขึ้นจากต้นจนจบ เมื่อจบเสียงเพลง ฉันก็จัดการเป่าเค้กวันเกิด ก่อนจะฉีกยิ้มหวานให้พี่ขุนเขาอีกครั้ง แต่ดูท่าพี่ขุนเขายังคง งง กับเหตุการณ์ตรงหน้าอยู่นี่เขาดูไม่ออ
ทะเล...วันนี้คือวันแรงที่ฉันกับพี่ขุนเขามาฮันนีมูนกัน เราเลือกมาที่ทะเล ไม่อยากไปต่างประเทศ เพราะเป็นห่วงลูกๆ เรามาฮันนีมูนกันแค่สามวันและสำหรับวันแรกของการมาทะเล มันก็ตรงกับวันครบรอบแต่งงานสิบปีของฉันกับพี่ขุนเขาพอดี ไม่รู้ว่าบังเอิญ หรือ พี่ขุนเขาตั้งใจ ให้ตรงกับวันสำคัญของเรา“ไปเดินเล่นกันมั้ย”“ค่ะ ^_^”เราจูงมือกันเดินออกจากบังกะโล และพากันเดินไปที่ริมหาด ตอนนี้พระอาทิตย์ใกล้จะตกดินแล้ว แสงแดดอ่อนๆ กระทบกับผิวน้ำทะเลมันชั่งสวยจริงๆเชื่อมั้ยว่านี่คือครั้งแรกที่ฉันเคยมาทะเล ตั้งแต่เล็กจนโตฉันไม่เคยไปไหนไกลนอกจากบ้านและโรงเรียนเลยที่นี่เงียบสงบดีจริงๆเลยนะ อาจเป็นเพราะเราเลือกมาวันที่คนอื่นเขาทำงานกัน เลยไม่ค่อยมีคน“เล่นน้ำมั้ย”“ไม่เล่....อร้ายยย” ฉันร้องออกมาเสียงหลงเมื่อ จู่ๆ พี่ขุนเขาก็ช้อนตัวฉันขึ้น ก่อนจะเดินตรงไปที่ทะเลสีฟ้าคราม“พี่ขุนเขาหนูบอกว่าไม่เล่นไง”ตู้มม!!เมื่อฉันพูดจบร่างของฉันก็ถูกพี่ขุนเขาโยนลงน้ำทันที นี่เขาได้ยินที่ฉันร้องบอกบ้างมั้ยเนี่ย“ไอ้พี่ขุนเขาบ้า หนูบอกว่าไม่เล่นไง!!” เมื่อโผล่ขึ้นมาจากน้ำได้ ฉันก็ตวาดใส่พี่ขุนเขาทันที“เวลาเปียก หนูเซ็กซี่มากเล
ภายในบ้าน“หนูชื่ออะไร” ฉันก้มลงถามเด็กน้อย เฮ้อ ดูแววตาของเธอที่มองฉันสิ ทำไมถึงเศร้าแบบนี้นะ“หนูชื่อ เหมือนฝันค่ะ น้องชื่อ ข้าวหอม” เด็กน้อยตอบฉันเสียงใส ถ้าจับอาบน้ำแต่งตัว หนูเหมือนฝัน นี่น่าตาน่ารักน่าชังมากๆเลยนะ ส่วนทารกน้อยก็น่ารักน่าชังไม่แพ้กัน ใครหน้อชั่งใจร้ายพามาทิ้งไว้ที่หน้าบ้านของฉันฉันจัดการให้ป้าช้อยพาหนูเหมือนฝันไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ส่วนข้าวหอม ฉันจะจัดการอาบน้ำให้เอง เด็กอะไรก็ไม่รู้ เลี้ยงง่ายมาก ไม่ร้องไม่งอแงในเวลาอาบน้ำเลย พออาบน้ำเสร็จฉันเอานมให้กินแล้วก็พาไปนอนในเปลของขุนแผน ตอนนี้หลับปุ๋ยไปแล้ว เลี้ยงง่ายจริงๆผ่านไปพักใหญ่ ป้าช้อยพาหนูเหมือนฝันลงมาจากชั้นสอง พออาบน้ำขัดผิวแล้วน่ารักน่าชังมากกว่าที่ฉันคิดไว้สะอีกฉันเอาข้าวให้หนูเหมือนฝันกิน เด็กน้อยกินใหญ่เลย ท่าทางเหมือนจะไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน“หนู นั่นลูกใคร” เสียงพี่ขุนเขาถามฉัน พี่ขุนเขาเดินมาพร้อมกับ ขุนราม เจ้าคุณ แล้วก็อุ้มขุนแผนมาด้วย“ไม่รู้เหมือนกันค่ะ นั่งอยู่หน้าบ้าน ถามอะไรก็ไม่รู้ หนูก็ได้ให้เขามาในบ้านก่อน พี่ขุนเขาให้ลูกน้องตามหาพ่อแม่ให้ทีนะคะ” พี่ขุนเขาเพ่งมองไปที่เหมือนฝัน เธอกำลังน
หลายปีผ่านไปไวเหมือนโกหก...“ขุนรามลูก อย่าแกล้งน้อง”“เจ้าคุณเลิกเล่นเกมส์ได้แล้วลูก”ตอนนี้ฉันกำลังเก็บของเล่นที่มันกระจัดกระจายเกลื่อนพื้นไปหมด คงไม่ต้องบอกว่าฝีมือใครหรอกนะ จะมีใครสะอีก ก็เจ้าสองแฝด ขุนรามกับเจ้าคุณ ของฉันไงล่ะตอนนี้ทั้งสองอายุ8ขวบแล้ว แถมยังดื้อเอามากๆ ให้ช่วยดูน้องก็เอาแต่เล่นเกม อีกคนให้ดูน้องก็แกล้งน้องฟังไม่ผิดหรอกค่ะ ฉันมีลูกเล็กเพิ่มมาอีกคน แถมเป็นผู้ชายด้วย ชื่อ ขุนแผน จริงๆพี่ขุนเขาอยากจะได้แฝดอีก แต่ได้แค่คนเดียว แถมเขายังจะเอาอีกคน ฉันเบรคไว้แทบไม่ทัน ปิดอู่แล้วตอนนี้ เพราะแค่เจ้าสองแสบก็วุ่นแล้ว ไม่รู้ขุนแผนโตขึ้นกว่านี้หน่อยจะดื้อเหมือนพวกพี่ๆมั้ยเจ้าคุณ กับ ขุนราม เป็นแฝดก็จริง แต่หน้าตาไม่เหมือนกันเลยสักนิด เป็นแฝดคนละฝา แต่ถ้าพูดถึงความดื้อแล้วละก็ กินกันไม่ลงเลยจริงๆ ขุนรามเป็นพี่ก็จะดื้อเอามากๆ ชอบโวยวาย ส่วนเจ้าคุณ แฝดน้อง ร้ายนี้เงียบๆ แต่ดื้อไม่เบาเหมือนกัน เอาแต่ใจตัวเองมากๆอีกด้วยวันนี้พี่ขุนเขาไปที่บริษัท บริษัทของพี่เจ้าป่ากับพี่ขุนเขาหุ้นกันเปิด เปิดมาได้5ปีแล้ว ธุรกิจกำลังรุ่งเลยตอนนี้“แง๊ แง๊~” เสียงขุนแผนร้องดังลั่นบ้านฉันถึงกับถ
——วันแห่งความสุข—-ขอตัดมาวันแต่งงานเลยแล้วกัน เพราะที่ผ่านมาหลังจากที่พี่ขุนเขาขอฉันแต่งงานเราก็วุ่นๆกันทั้งคู่ ทั้งหาฤกษ์แต่งงาน จัดเตรียมสถานที่ การ์ด อะไรอีกหลายๆอย่างเราสองคนจัดพิธีแต่งงานแบบไทยๆ ชุดแต่งงานก็เหมือนกัน ฉันใส่ชุดแบบไทยๆ ไม่ได้หรูหราอะไรมากมายพิธีแต่งงานจัดขึ้นที่บ้านของฉัน ไม่ได้จัดงานใหญ่โตอะไร เป็นงานเล็กๆ และก็เชิญแค่ญาติที่สนิทเท่านั้นตอนนี้แม่กำลังตอนรับแขกอยู่ข้างนอกกับป้านิ่มวันนี้ฉันคุยกับเจ้าตัวน้อยที่อยู่ในท้องแล้ว บอกว่าห้ามกวนแม่นะวันนี้ และดูเหมือนว่าลูกน้องของฉันจะเชื่อฟังซะด้วย เพราะตั้งแต่ตื่นมาแต่งหน้าแต่งตัว จนถึงตอนนี้ ฉันไม่มีอาการพะอืดพะอมอยากจะอ้วกเลย“ตื่นเต้นหรอเรา” เจ้แอมเปิดประตูเข้ามาในห้องก่อนจะเอ่ยถาม เจ้แอมเป็นเพื่อนเจ้าสาว แล้วก็มีกรีน มีนัตตี้ แต่สองคนนั้นยังแต่งตัวกันอยู่ คงจะเอาให้สวยกว่าฉันเลยละมั้ง“ตื่นเต้นสิเจ้” บอกตามตรงว่าตอนนี้มือไม้ฉันสั่นไปหมดทั้งที่เคยแต่งงานกับเขามาแล้วครั้งหนึ่งแท้ๆ แต่ความรู้สึกของฉันราวกับว่านี่คือครั้งแรกที่ฉันกำลังจะได้แต่งงาน“เจ้าบ่าวใกล้จะมาถึงแล้วนะ” ยิ่งเจ้แอมพูดแบบนี้ฉันยิ่งตื่นเต้นไปกันใ
พอได้ยินพี่เส้นด้ายพูดออกมาแบบนี้ ฉันก็หันขวับไปมองหน้าของพี่ขุนเขาทันที เพราะอยากจะรู้ว่าตอนนี้อาการของพี่ขุนเขาเป็นยังไงตอนนี้พี่ขุนเขามองพี่เส้นด้าย แต่เขาไม่ได้ตอบอะไร“ถ้างั้นก็คุยกันไปแล้วกันค่ะ เดี๋ยวหนูไปรอที่รถ” ฉันบอกพี่ขุนเขาออกไป ถามว่าประชดมั้ย ใช่!! ฉันประชด แต่ถ้าเขาจะคุยกัน จริงๆ ฉันก็ห้ามอะไรไม่ได้หรอก“หนู...” พี่ขุนเขารั้งแขนฉันเอาไว้ก่อนที่ฉันจะเดินไป“ก็คุยไปสิ” ฉันพูดกระแทกเสียงใส่พี่ขุนเขา เขากำลังทำให้ฉันหงุดหงิด“ขุนเขา...” พี่เส้นด้ายเรียกพี่ขุนเขาอีกครั้ง“ด้าย คุณก็มากับแฟนคุณไม่ใช่รึไง คนที่คุณควรให้ความสนใจคือแฟนคุณนะ”“แต่...”“ตอนมีเขาอยู่ ไม่เห็นจะอาลัยอาวรณ์ ตอนนี้เป็นบ้ารึไง” ฉันพูดออกไปอย่างเหลืออด เพราะฉันก็ทนมามากแล้วเหมือนกัน“นี่แก หุบปากไป ฉันจะคุยกับขุนเขาไม่ใช่แก”“ด้าย!! เราไม่มีอะไรต้องคุยกันอีกแล้ว” พี่ขุนเขาพูดขึ้นก่อนที่ฉันจะพูด“ขอคุยแค่แปปเดียวก็ไม่ได้หรอ”“หน้าด้าน มาขอคุยกับผัวคนอื่น”“นี่ก็ผัวฉันเหมือนกัน !!”“แต่ตอนนี้เขาเป็นผัวหนู เรากำลังจะมีลูกด้วยกัน พี่มายุ่งอะไรด้วย!!”“หนู พอแล้วคนอื่นมองเยอะแล้ว” พี่ขุนเขาร้องห้ามฉัน ทำไมไ
“พี่นั่นแหละ จะเป็นใครได้ล่ะ”พี่ขุนเขายิ้มออกมาอย่างพึ่งพอใจในคำตอบของฉันหลังจากที่เราทั้งคู่ต่างจ้องตากันนานพอสมควร พี่ขุนเขา ค่อยๆ โน้มใบหน้าลงมาใกล้ฉันเรื่อยๆ จนกระทั่งริมฝีปากของเราทั้งคู่แตะโดนกันก๊อกๆ ก๊อกๆ (เสียงเคาะประตูห้อง)จู่ๆ เสียงเคาะห้องก็ดังขึ้น ฉันรีบผลักพี่ขุนเขาออกทันที“ใครวะ !!” พี่ขุนเขานั่งบนปลายเตียงเขายกมือขึ้นมายีผมตัวเองแรงๆ ก่อนจะสบถออกมาอย่างหัวเสียก๊อก ก๊อกๆ“วีนัสลูก อยู่ในห้องรึเปล่า” คนที่เคาะห้องคือแม่นี่เอง“ยะ อยู่จ้ะแม่”ฉันรีบลุกขึ้นจากเตียงแล้วไปเปิดประตูให้แม่ เมื่อเปิดประตูออก แม่กำลังจะพูดอะไรสักอย่าง แต่แม่หยุดชะงัก แล้วก็มองผ่านตัวฉันเข้ามาด้านในห้อง ก่อนที่แม่จะมองหน้าฉันแล้วก็ยิ่มน้อยยิ้มใหญ่“ใจอ่อนเเล้วใช่มั้ย” แม่ถามฉันฉันเม้มปากเข้าหากันแน่น มันอายที่จะตอบนะ เพราะก่อนหน้านี้ฉันยังบอกแม่ว่าจะไม่ให้อภัยพี่ขุนเขาอยู่เลย“งั้นแม่ไม่กวนแล้ว ทำต่อเถอะ”“แม่!!” ฉันทำหน้างอใส่แม่ ก็แม่นะสิ คงคิดว่าฉันกำลังจะทำอะไรกับพี่ขุนเขาอยู่แน่ๆเลย ถึงเราสองคนกำลังจะทำแบบนั้น จริงๆ ก็เถอะ“แม่พูดผิดรึไง แต่ เบาๆ หน่อยนะ เดี๋ยวจะกระทบถึงลูกเอา” เเม่เอ
พูดจบฉันก็เดินไปหยิบเค้กขึ้นมา ก่อนที่จะส่งยิ้มหวานให้พี่ขุนเขา แต่ดูท่าเขาจะไม่เข้าใจในการกระทำของฉันสักเท่าไหร่พี่ขุนเขายังคงร้องไห้อยู่ แล้วก็มองหน้าฉันด้วยอาการมึนงง“เทียนละคะ”เมื่อฉันถามหาเทียน พี่ขุนเขาก็รีบหมุนตัวกลับไปก้มหยิบถุงที่เอาใส่เค้กมา ข้างในนั้นมีกล่องเทียนอยู่ เมื่อได้เทียนแล้ว พี่ขุนเขาก็จัดการปักเทียนลงเค้ก เขาทำไปร้องไห้ไปเหมือนเด็กเลย“ถ้าร้องไห้แบบนี้ หนูจะไม่เป่าเค้กแล้วนะ” ฉันทำตาดุใส่พี่ขุนเขา เมื่อพี่ขุนเขาเห็นว่าฉันพูดขู่ไปแบบนั้น เขาก็รีบยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาออกจากแก้มของตัวเองทันที และพยายามที่จะหยุดร้องพี่ขุนเขาล้วงเมื่อเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของตัวเอง หยิบไฟแช็กออกมาจุดเทียนวันเกิด“เอ้า เงียบทำไม จุดเทียนเสร็จแล้วก็ร้องเพลงวันเกิดสิคะ” ฉันบอกพี่ขุนเขา เมื่อเขาเอาแต่ก้มหน้าเงียบ“อ้อ อื้อ..” พี่ขุนเขาพยักหน้าตอบหงึกๆ“แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู....~” 🎵เสียงเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์ดังขึ้นจากต้นจนจบ เมื่อจบเสียงเพลง ฉันก็จัดการเป่าเค้กวันเกิด ก่อนจะฉีกยิ้มหวานให้พี่ขุนเขาอีกครั้ง แต่ดูท่าพี่ขุนเขายังคง งง กับเหตุการณ์ตรงหน้าอยู่นี่เขาดูไม่ออ
พี่ขุนเขาทำท่าเหมือนกำลังขุ่นคิดอะไรอยู่สักพัก จู่ๆ เขาก็ลุกขึ้นยืนถอดเสื้อออก จากนั้นก็ถอดกางเกง“จะทำอะไร !!” ฉันถามไปเมื่อพี่ขุนเขากำลังจะถอดบล็อกเซอร์ของตัวเองออก นี่อย่าบอกนะว่าจะแก้ผ้าวิ่งรอบหมู่บ้าน จริงๆ เป็นบ้าไปแล้วรึไง“ก็หนูบอกว่าถ้าพี่ยอมแก้ผ้าวิ่งรอบหมู่บ้าน หนูจะให้อภัยพี่“หยุด หยุดเดี๋ยวนี้นะ !!” ฉันร้องห้าม เพราะพี่ขุนเขากำลังจะถอดบล็อกเซอร์ออกจากตัว“ทำไม”“ไม่ต้องทำ แล้วก็ออกไปจากห้อง”“หนู...พี่ยอมทำทุกอย่าง แค่หนูบอกมา”“ออกไป หนูบอกให้ออกไป”“หนู....”“ได้ ถ้าไม่ไปหนูไปเอง!!”พูดจบฉันก็ลุกขึ้นเดินนออกมาจากห้องของตัวเองทันที ขืนอยู่ต่อฉันคงต้องใจอ่อนให้พี่ขุนเขาจริงๆแน่“พี่หมอ !!” ฉันอุทานออกมา เมื่อเดินออกมานอกบ้านแล้วเจอกับพี่หมอที่กำลังเดินมาทางฉัน ในมือพี่หมอถือของเต็มไม้เต็มมือไปหมด“ทำไมทำหน้าเหมือนเจอผีแบบนั้น”“ปะ เปล่าสะหน่อย”“แล้วนี่แม่ตัวเล็กล่ะ พี่ซื้อของมาให้เยอะแยะเลย”“แม่ไป....”“แม่ไม่อยู่ อยู่แต่ผัว”ฉันกำลังจะตอบพี่หมอ แต่ไม่ทันที่จะได้พูดจบ เสียงของพี่ขุนเขาก็พูดแทรกขึ้นมาจากทางด้านหลังของฉันพี่หมอมองหน้าพี่ขุนเขา แต่ดูท่าพี่หมอจะไม่แปลกใจเ
เช้าวันใหม่...เฮือก....ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมา ก่อนจะมองไป ข้างๆ กายปรากฎร่างของพี่ขุนเขานอนอยู่ ข้างๆ กับตัวฉัน แถมตอนนี้เขาลืมตาทำตาใสส่งมาให้ฉันอีกต่างหาก“ออกไปเลยนะ” ฉันพูดเสียงแข็ง เมื่อคืนฉันทำอะไรลงไป เผลอตัวไปแบบนั้นได้ยังไงกัน“ขอนอนอยู่แบบนี้อีกหน่อยไม่ได้หรอ” พี่ขุนเขาพูดเสียงออดอ้อนใส่ฉัน ดูเขาทำหน้าสิ อย่างกับเด็กสามขวบ“อย่าเยอะได้มั้ย”“เมื่อคืนหนูเร้าร้อนมากเลยนะ ^_^”“พี่ขุนเขา หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ!!” ฉันตวาดใส่หน้าเขา คนบ้า ทำไมต้องมาพูดเรื่องแบบนั้นด้วย หน้าอายที่สุดจู่ๆ ใบหน้าของฉันมันก็เห่อร้อนขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ ไม่สิ สาเหตุก็เรื่องอย่างว่าที่พี่ขุนเขาพึ่งพูดออกมาไงล่ะ“พี่พูดผิดตรงไหน ก็เมื่อคืนเรามีอะไรกัน ตัวเล็กครางเสียงดังลั่นบ้าน จำไม่ได้หรอ หื้ม^_^” ไม่พูดเปล่า พี่ขุนเขาถือวิสาสะเอามือขึ้นมากดร่างฉันให้นอนราบไปกับที่นอนเหมือนเดิม ก่อนจะกอดฉันเอาไว้แน่น“บอกให้ออกไปไง ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องรึไง !!” ฉันตวาดเสียงดังอีกครั้ง“อยากให้ฝนตก บ่อยๆ จัง หนูจะได้ให้พี่เข้ามาอยู่ในห้องด้วย บ่อยๆ ^_^” พี่ขุนเขาพูดพร้อมกับกำชับกอดแน่นกว่าเดิม แค่นั้นยังไม่พอ เขายังขโมยห