"ยอมรับผมแค่ในฐานะสามีเท่านั้นเหรอครับ?""เออ คนเลวๆอย่างมึงกูยอมรับก็ดีแค่ไหนและ""แต่ป๊าจะยอมรับผมแค่ในฐานะนั้นอย่างเดียวไม่ได้ มันโดดเดี่ยวเกินไป""โดดเดี่ยวอะไรของมึง?" ประโยคถัดมาของเพลิงทำโน่ขมวดคิ้วถามด้วยความงุนงง ดวงตาคมกริบจ้องมองเจ้าตัวรอคำตอบไม่ว่าง"ก็เป็นแค่สามีเน่แต่ไม่ได้เป็นลูกเขยป๊า ป๊าต้องยอมรับผมในฐานะลูกเขยด้วย" เพลิงบอกเสียงเรียบด้วยสีหน้าจริงจัง หากเขาต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับครอบครัวหญิงสาวแล้วให้เขามีบทบาทแค่หน้าที่สามีของเธออย่างเดียวแต่ไม่มีบทบาทกับคนอื่นในครอบครัวเธอเลยเขาไม่โอเค ถึงแม้จะต่างจากนิสัยจริงๆของเขาที่เย็นชากับคนอื่นและไม่สนใจใครทว่าผิดกับคนที่นี่เพราะคุ้นเคยกันดี จะให้เขาเมินเฉยตามสไตล์คงทำไม่ได้"อยากเป็นลูกเขยกู? ทำหน้าที่ของมึงให้ดีสิแล้วกูจะรับไว้พิจารณา" ริมฝีปากหนายกยิ้ม พลางหัวเราะในลำคอเบาๆอย่างยากจะคาดเดา เจ้าพ่อมาเฟียใหญ่ลูบคางตัวเองขณะพูดในประโยคหลังเพลิงทำหน้าขรึมเก็บอาการเมื่อได้ยินคำดูหมิ่นทว่าในคำนั้นแฝงไปด้วยการยอมรับทางอ้อม ซึ่งทำเขาดีใจไม่น้อยที่ผู้เป็นนายใหญ่เริ่มเปิดใจรับในตัวเขาได้ ไม่โกรธไม่เกลียดเหมือนก่อนงานที่ได้รับม
สองขาแกร่งก้าวตรงเข้ามาในห้องน้ำ และวางเธอลงยืนบนพื้นกระเบื้องอย่างระมัดระวัง ก่อนตัวเขาจะไปจัดแจงเปิดน้ำใส่อ่างพร้อมกับฉีกซองสบู่เทผสมตามลงไปทำฟอง ทุกการกระทำของเพลิงมีสายตาของเนเน่จ้องมองอยู่จนกระทั่งเขาเดินกลับมา"อื้อ! พะ..พี่เพลิงไหนบอกจะอาบน้ำไง" ใบหน้าสวยเบือนหนี พลางยกมือผลักตัวเขาให้ออกห่างเมื่อเขาโผโอบเอวเธอดึงเข้ามาแนบชิดอย่างไม่ทันตั้งตัว แล้วโน้มหน้าลงมาคลอเคลียลำคอระหงจนสัมผัสถึงลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดลงบนเนื้ออ่อนถี่ๆแรงเพียงน้อยนิดแน่นอนว่าไม่เป็นผลต่อเจ้าของร่างกำยำตรงหน้าแต่ก็ทำให้เขาหยุดกระทำในทันที เลื่อนหน้าคมคายขึ้นมาทำทีเหมือนจะพูดอะไรแต่กลับไม่"อื้อ!" เพลิงใช้มือรั้งท้ายทอยของหญิงสาวไม่ให้ขยับหน้าหนี ก่อนจะประกบริมฝีปากเข้ามาจูบแนบชิดจนได้กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งในโพรงปาก เธอส่ายหน้าไปมาด้วยความเจ็บทันทีที่ฟันคมขบลงมาบนปากอวบอิ่มเต็มแรงครั้นไม่ยอมอ้ามันให้เขา ขณะที่ก้าวถอยหลังกรูดไปพร้อมกับเจ้าของกระทำอุกอาจก้าวตามมา "อึก.." แผ่นหลังชนเข้ากับกระจกใส่กั้นห้องอาบน้ำ ทำให้เนเน่ที่กำลังหอบหายใจหนักๆในตอนที่เรียวลิ้นสากสอดเข้ามาตวัดเกี่ยวพันกับเรียวลิ้นนุ่มสะดุ้งเล็กน
"ฮึ่ย.." เจ้าพ่อมาเฟียใหญ่ขบกรามฮึดฮัดทันทีที่ถูกตัดสาย เขายกโทรศัพท์มือถือออกจากหูปามันใส่ฝาผนังห้องนอนอย่างแรงปึก! เพล้ง! แรงกระแทกอย่างหนักส่งผลให้มันแตกกระจายไปคนละทิศละทางโดยที่เจ้าของได้แต่นั่งนิ่งๆมองโทรศัพท์มือถือของตัวเองเละไม่มีชิ้นดี ใบหน้าแดงก่ำไปถึงใบหู พร้อมกับฝ่ามือทั้งสองข้างกำแน่นทำเอาดินไม่กล้าจะพูดอะไรออกมา"อื้อ~" แนทที่สะดุ้งรู้สึกตัวตั้งแต่ได้ยินเสียงสามีอาละวาดลั่นอยู่ก่อนแล้ว ลืมตาตื่นอย่างงัวเงียด้วยความหงุดหงิดเมื่อมาได้ยินเสียงกระแทกของวัตถุบางอย่างดังสนั่นขึ้นอีก เธอยันตัวลุกขึ้นเดินไปคว้าชุดคลุมหน้าตู้เสื้อผ้ามาสวมใส่ แล้วเดินออกไปจัดการกับเจ้าของกระทำเพราะรู้สึกเอือมระอามากและเพียงก้าวพ้นกรอบประตูก็เห็นสามีนั่งอารมณ์ฉุนเฉียวอยู่บนโซฟาคนละตัวกับลูกน้อง โดยที่พื้นนั้นเต็มไปด้วยเศษซากโทรศัพท์มือถือ"เป็นบ้าอะไรของแด๊ด ฮะ! ดึกดื่นป่านนี้แล้วมันใช่เวลามาอาละวาดไหม" แนทตวาดถามด้วยความโมโห น้ำเสียงเกรี้ยวกราดของเธอทำเอาโน่ตวัดสายตามอง ก่อนจะค่อยๆสงบสติอารมณ์ยกมือขึ้นลูกหน้าตัวเอง และดินยังคงนั่งเงียบๆแต่เสมองไปทางอื่นหลบสายตาดุดันที่สลับมองมา"ก็ไอ้เวรนั่นมัน
ใบหน้าสวยส่ายไปมา พลางหันกลับมาเลือกชุดต่อ ในขณะที่อีกคนเปิดลิ้นชักหยิบกล่องบุหรี่พร้อมไฟแช็กในตัว เดินต่อไปยังระเบียงเพื่อระบายความหงุดหงิดและเจ็บใจในเวลาเดียวกันที่ภรรยาเห็นคนอื่นสำคัญกว่าคำสั่งตนเพลิงเปิดบุหรี่ออกมาแล้วจุดสูบ เพียงไม่กี่นาทีเนเน่ก็เดินออกมาในชุดเสื้อแขนยาวไหมพรมคอวีสีขาว กางเกงผ้ามัดยอมพาสเทลขายาวทรงหลวมสีขาวดำตามสไตล์การอยู่บ้านของเธอ ดวงตากลมโตกวาดมองไปรอบๆห้องหลังไม่เห็นสามี ก่อนสะดุดตรงประตูระเบียงที่ถูกเปิดคาไว้จนเห็นแผ่นหลังแกร่งของเจ้าตัวที่ยืนสูบบุหรี่อยู่เธอดึงยางรัดผมจากข้อมือออกมามัดด้วยความรำคาญ พร้อมกับเดินนวยนาดเข้าไปหา เพลิงเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาใกล้ๆก็ไม่ได้สนใจพ่นควันบุหรี่ขาวคลุ้งออกจากปาก"พี่จะลงไปกินข้าวไหม หรือจะเข้าห้องไปทำงานต่อ เน่จะได้ให้แม่บ้านยกข้าวขึ้นมาให้" ริมฝีปากอวบอิ่มเปล่งเสียงถาม "....." แล้วคำตอบที่ได้กลับมาคือความเงียบ ชายหนุ่มสูดควันบุหรี่เข้าเต็มปอด พลางทอดสายตามองบรรยากาศรอบๆทั้งพ่นมันออกมาราวกับไม่ได้ยินในสิ่งที่เธอถาม"พี่เพลิง ได้ยินที่เน่ถามไหม" เห็นอย่างนั้นหญิงสาวจึงย้ำถาม มือเล็กเอื้อมจับท่อนแขนแกร่งดึงเขาให้ห
"ว้าว มีแต่ของน่าทานเหมือนเดิมเลย" พอเดินมาถึงห้องอาหารเห็นบนโต๊ะมีอาหารหลากหลายอย่างวางเต็มไปหมด ทำให้ฟีฟายหวนคิดถึงตอนเด็กๆที่เขามักจะมาเล่นและรับประทานอาหารที่นี่เป็นประจำในวันหยุด"มีฉู่ฉี่ปลาทูของชอบพี่ฟีฟายเหมือนเดิมด้วยนะ เหมือนแม่นมรู้ว่าพี่จะมา" ไม่ว่าเปล่าหญิงสาวหย่อนสะโพกนั่งลงพร้อมกับสามี เพลิงเหล่มองทั้งสองคนพูดคุยกันอย่างไม่ชอบใจแต่ก็ไม่ได้ปริปากอะไร ได้แต่ขบกรามแน่น"คนสำคัญก็งี้แหละ" ฟีฟายยักไหล่โอ้อวดมาหย่อนตัวนั่งลงฝั่งตรงข้าม ก่อนแม่บ้านจะมาตักข้าวใส่จานให้ "แล้วนี่ไอ้เนกับไอ้ตินไปไหน ไม่ลงมากินด้วยกันเหรอ" "เนตินอยู่ดูแลงานแทนป๊าที่ญี่ปุ่นยังไม่กลับมาเลยค่ะ ส่วนเฮียน่าจะหอบลูกไปเฝ้าเมียที่มหาลัยแต่เช้าโน้น""ท่าจะหวงเมียจัด""มากๆ มาหนักก็ปีที่แล้วอะ ม๊าบอกซามิชวนก๋วยเตี๋ยวไปซื้อของเป็นเพื่อนและแวะดูหนัง แล้วบังเอิญเจอเพื่อนอีกคณะชวนไปงานวันเกิดที่ผับต่อโดยไม่บอกเฮีย จนมีคนส่งรูปมาถามเฮียรู้รีบบุกไปลากกลับมาทันที สภาพนี่ไม่ต้องพูดถึงเมาเละเทะ เฮียโมโหมากจับล่ามโซ่ไม่ให้ไปเรียนเป็นอาทิตย์" "ฮ่าๆๆ ถึงกับล่ามโซ่เลยอ๋อ""นิ่งเฉยก็ไม่ใช่เฮียสิ" มือเล็กตักข้าวใส่ปาก ไม
"ขอบคุณนะ.." ชายหนุ่มกล่าวขอบคุณ รั้งศีรษะทุยเข้ามากดหอม "ขอบคุณที่อดทนช่วยเหลือพี่จนครอบครัวเรายอมรับ" "จะขอบคุณทำไม ทุกอย่างมันอยู่ที่ความพยายามของพี่เองทั้งนั้น" เนเน่ยิ้ม แหงนหน้ามองสามีพร้อมกับตอบกลับโดยที่เขาลูบผมเธอไปด้วย "แต่ถ้าไม่ได้เราช่วยเหลือเลย ป่านนี้พี่อาจยังไม่ถูกยอมรับก็ได้""เหรอ แต่เน่ว่าคงไม่ใช่แค่เน่คนเดียวหรอกที่ช่วยเหลือพี่..""....." คิ้วเข้มขมวดเลิกขึ้นอย่างไม่เข้าใจ ยังมีใครอีกเหรอที่คอยช่วยเหลือเขานอกจากเธอ"ยังมีม๊าอีกคนนะ" "ม๊า?" "ใช่ คืนก่อนวันที่จะพาลูกไปหา ถ้าไม่มีม๊ามาคอยพูดให้เน่เลิกสับสนกับความรู้สึกของตัวเอง ป่านนี้คงไม่ได้มาอยู่ด้วยกันแบบนี้หรอก""งั้นพี่ก็ต้องไปขอบคุณม๊าด้วยใช่ไหม" "คงงั้นมั่ง" ใบหน้าสวยแนบลงบนไหล่แกร่งหลังพูดจบ ทว่าไม่ทันไรก็รีบแหงนมองหน้าสามีอีกครั้งเมื่อฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้.."หือ?" การกระทำของคนตรงหน้าทำเอาเพลิงถึงกับงุนงง แต่ยังไม่ทันที่เขาจะเอ่ยถามเสียงใสก็ดังถามขึ้นมาติดๆ"พี่เพลิงลืมอะไรไปหรือเปล่า.." "ลืมอะไร" "ก็..มีป๊าแค่คนเดียวเองนะที่ยอมรับพี่ เฮียกับตินยังไม่ได้ยอมรับพี่เลย" หารู้ไม่ว่าจริงๆเขาไม่ได้ลื
"....." สันกรามของเจ้าของคำถามบดเข้าหากันอย่างฉุนมาก สองมือกำมัดแน่น ตวัดสายตาคมกริบไปมองเพลิงที่เป็นคนตอบเอง"ใครอนุญาตให้มึงมาอยู่" "ป๊าให้มันมาอยู่ช่วยทำงานแทนตอนพาม๊าไปฮันนีมูน" เป็นโน่บอกตามความจริง "ทำไมไม่ให้เฮียทำ""มันว่างไหมล่ะ""กลับมาแล้วก็ไล่มันออกไป" "ติน.." เนเน่ทนไม่ได้หมายจะพูดช่วยให้น้องชายเข้าใจกันบ้างและปล่อยวางสักที ทันใดนั้นเพลิงก็กุมมือส่ายหน้าห้ามเธอไว้ไม่ให้พูดอะไร เดี๋ยวมันจะบานปลายไปเสียเปล่าๆ"....." ขณะที่โน่เงียบไปอย่างทำอะไรไม่ถูก ซึ่งเนตินเป็นคนไม่ฟังใครและพูดยากมันทำให้เขาค่อนข้างลำบากใจ เพราะนี่ก็ลูกนั่นก็สามีของลูกจะให้ไล่ออกไปมีหวังทั้งลูกทั้งหลานได้หอบผ้าตามไปแน่ ให้ตายยังไงเขาก็ไม่ยอมให้ลูกกับหลานออกไปอยู่ที่อื่นเด็ดขาด"จะไล่มันออกไปได้ไง ก็ป๊ายอมรับมันเป็นลูกเขยแล้ว" เมื่อเห็นผู้เป็นพ่ออึกอักไม่กล้าบอก เนมาร์เลยโพล่งฉวยโอกาสฟ้องก่อตั้งพวกเขม้น หลังทนนั่งฟังเงียบๆมาสักพัก"ฮันนี่!" สถานการณ์ยิ่งคุกรุ่นไม่ค่อยจะดีอยู่ พอเห็นสามีจุดชนวนก๋วยเตี๋ยวจึงปรามให้อยู่นิ่งๆ แล้วกระดุกแขนแกร่งให้ลุกขึ้นพาเด็กๆที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่ให้ออกไปจากห้องนี้ก่อน
หนึ่งเดือนต่อมา..ชีวิตครอบครัวของเนเน่และเพลิงดำเนินกันมาอย่างมีความสุขปะปนกับความทุกข์ใจเรื่องเนติน นับตั้งแต่คืนวันนั้นเจ้าตัวก็ขาดการติดต่อจากคนที่บ้านไปเลย แม้ว่าเนเน่กับคนอื่นๆในครอบครัวพยายามติดต่อไปหาเท่าไหร่อีกฝ่ายก็ไม่ยอมรับสาย ไม่ว่าจะติดต่อผ่านทางลูกน้องคนสนิท ลูกพี่ลูกน้องหรือตายาย พอทุกคนยื่นสายไปให้เนตินก็จะรีบเดินหนีไปทันทีจนคนอื่นๆเอือมระอาเลิกติดต่อไป เหลือเพียงแต่เธอที่ยังคงดั้นด้น“จุนแม่ก๋า.. (คุณแม่ขา)” “หือ?” เจ้าของใบหน้าสวยเลิกคิ้ว พลางช้อนตามองลูกสาวคนเล็กตรงหน้าที่เอ่ยเรียกตนขึ้นขณะนั่งยกโทรศัพท์มือถือแนบหูพยายามต่อสายหาน้องชายครั้งแล้วครั้งเล่าอยู่บนเบาะคอกกั้นในห้องนั่งเล่น ก่อนเพลงพิณจะพูดถามออกมาเสียงสั่นๆราวกับคนจะร้องไห้“ทินโขดอาใยปวกเยาหย๋อกะ ตำมายจุนแม่โตปายม่ายเกยยับซัดที โตกาบก็ม่ายมี (ตินโกรธอะไรพวกเราเหรอคะ ทำไมคุณแม่โทรไปไม่เคยรับสักที โทรกลับก็ไม่มี)” แววตาเด็กหญิงเศร้าสร้อยมองผู้เป็นแม่อย่างตัดพ้อ แทบไม่เหลือคาบร่าเริงอย่างที่ควรจะเป็น “.....” ได้ยินเช่นนั้นเนเน่ก็หน้าเจื่อนลง เธอสงสารลูกจับใจ..มันหลายอาทิตย์แล้วที่เพลงพิณและเพลินลินงอแงบ่น
“อ้าว มาถึงกันตั้งแต่ตอนไหน” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นทันทีเมื่อเดินกลับเข้ามาในบ้านตัวเองช่วงพลบค่ำพร้อมกับหลานชาย แล้วเห็นหญิงสาวเดินลงมาจากชั้นสองพร้อมชายหนุ่มร่างสูงกำยำคงจะเป็นหลานเขยสินะ หน้าตามันคุ้นๆแฮะเหมือนเคยเจอที่นี่ไหน?“คุณปู่ สวัสดีค่ะ” เนเน่ยกมือขึ้นประนมไหว้ ก่อนเธอจะเร่งฝีเท้าเข้าไปกอดผู้เป็นปู่อย่างที่เคยทำเวลามาหา “คิดถึงจังเลย” “อะ ขี้อ้อนเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน” นุลูบศีรษะทุยเบาๆกอดหลานกลับ ทั้งก้มหอมกุมผมให้หายคิดถึงคูลจ้องมองคนข้างหลังพี่สาวไม่วางตา เห็นอย่างนั้นเพลิงเองก็จ้องกลับไปเช่นกันด้วยสีหน้าเชิงมีคำถาม ว่าเด็กหนุ่มได้มีปัญหาอะไรกับเขาหรือเปล่า เด็กหนุ่มนิ่งเลือกที่จะเดินเลี่ยงขึ้นไปชั้นสอง แม้จะคับแค้นใจไม่น้อยกับเรื่องที่เพลิงได้เคยกระทำต่อเนเน่ แต่เขาก็ไม่อยากจะยุ่งปล่อยให้เจ้าตัวนั้นเลือกทางเดินของชีวิตเอาเอง“ทำไมวันนี้คุณปู่กลับมาเย็นจังคะ” ใบหน้าสวยแหงนถาม ในขณะที่ยังคงแนบชิดกับอกแกร่งของปู่และกอดเอวท่านอยู่หลวมๆ“แวะไปตีกอล์ฟกับเพื่อนมาน่ะ แล้วนี่เจ้าสองแสบปู่อยู่ไหน” นุตอบพร้อมกวาดสายตามองรอบๆ เมื่อไม่เห็นเหลนตัวน้อยทั้งสองคนจึงถามหา“น่าจะอยู่กับคุณย
“หนูม่ายต้ายหวันจาห้ายทินยดโตดห้ายจุนป้อนะกะถ้าทินม่ายเท็มจาย หนูแค่หยาดห้ายทินพ่อยวางห้ายจุนแม่กับปวกหนูต้ายเยือกกู้ซีวิดแยะป้อกานเอนต้ายมายกะ ห้ายกวามสุดปวกเยาต้ายมาย (หนูไม่ได้หวังจะให้ตินยกโทษให้คุณพ่อนะคะถ้าไม่เต็มใจ หนูแค่อยากให้ตินปล่อยวางให้คุณแม่กับพวกหนูได้เลือกคู่ชีวิตและพ่อกันเองได้ไหมคะ ให้ความสุขพวกเราได้ไหม)”“จะให้น้ามั่นใจได้ยังไงว่าสิ่งที่พวกหนูกับแม่หนูเลือกมันดีที่สุดแล้ว คนมันสันดานโจรทำเลวมาตั้งแต่เด็ก คิดเหรอว่ามันจะกลับตัวกลับใจมาเป็นผัวที่ดีพ่อที่ดีให้หนูกับแม่หนูได้”“ถึงผมจะเคยเลวเคยทำไม่ดีทำร้ายเนเน่กับลูก แต่ผมสัญญา..ต่อจากนี้ไปผมจะเป็นสามีที่ดีให้กับเธอจะเป็นพ่อที่ดีให้กับลูก จะรักและดูแลพวกเขาให้ดีที่สุดยิ่งกว่าชีวิตของผม” เพลิงละอายใจเอ่ยขัดบอกออกมาเองตามความรู้สึกหลังยืนนิ่งฟังลูกช่วยอยู่นาน ชายหนุ่มไม่ได้ขี้ขลาดที่จะเผชิญหน้าขอให้เด็กหนุ่มเห็นใจยอมไว้ใจให้โอกาสเขาได้ชดเชยในสิ่งที่เคยกระทำกับหญิงสาวและลูกสาวทั้งสองคน แต่แค่ไม่อยากจะมีปัญหาเพิ่มอีก เลยเลือกจะอยู่นิ่งๆ อะไรที่ยอมได้ก็ยอมทว่าลูกคนเล็กกลับช่วยพูดขอจนเขาอดที่จะอยู่เฉยๆไม่ได้ ไม่อยากให้ลูกนั
เย็นวันเดียวกันเสือกำลังขับรถพาแคทและแคนดี้มาหาเพื่อนรักของพวกเธอกับหลานสาวหลังจากที่ทั้งสามคนพากันไปวัดไซส์ตัดชุดแต่งงาน พร้อมกับเลือกโปสต์การ์ดและของชำร่วยรวมไปถึงสถานที่มาเสร็จสรรพ ฟังไม่ผิดหรอกเสือกับแคทกำลังจะแต่งงานกันปลายเดือนหน้านี้แล้วโดยมีแคนดี้จัดการแนะนำจองร้านดังงานดีระดับประเทศซึ่งเป็นของพี่สาวที่เป็นลูกพี่ลูกน้องไว้ให้ทั้งนำทางมา ตามจริงเนเน่ต้องมาด้วยแต่เพราะติดที่ลูกงอแงคิดถึงน้าชายไม่หยุดจึงมาด้วยไม่ได้ เขาเลยต้องพาแวะไปหาเนี่ยแหละทันทีที่รถเลี้ยวเข้ามาจอดสนิทแล้วการ์ดได้เปิดประตูให้ แคนดี้ก็รีบก้าวลงจากรถ ก่อนจะเดินตัวปลิวนำหน้าเพื่อนกับแฟนเพื่อนไปอย่างไม่รีรอ“นี่แคนดี้แกจะรีบไปไหนเนี่ย กลับมาช่วยถือของเล่นหลานก่อนเลยนะ..อย่าเนียนเดินตัวปลิว” แคทหันมาร้องเรียก ขณะกำลังเดินไปหยิบของเล่นที่ซื้อมาฝากหลานสาวหลังรถคนถูกเรียกได้ยินก็หยุดฝีเท้าหมุนตัวกลับมาทำหน้าเจือนๆด้วยความลืมว่ามีของที่ตัวเองซื้อมาให้หลานด้วย “แหะๆ ฉันลืม”“ลืมตลอดแหละแกอะ” ใบหน้าหวานส่ายระอากับนิสัยตีเนียนของเพื่อนรัก พลางหยิบถุงยื่นไปให้สามถุงแคนดี้แบะปากยักไหล่ไม่ยี่หระอุตส่าห์จะตีเนียนสักหน่อยโ
หนึ่งเดือนต่อมา..ชีวิตครอบครัวของเนเน่และเพลิงดำเนินกันมาอย่างมีความสุขปะปนกับความทุกข์ใจเรื่องเนติน นับตั้งแต่คืนวันนั้นเจ้าตัวก็ขาดการติดต่อจากคนที่บ้านไปเลย แม้ว่าเนเน่กับคนอื่นๆในครอบครัวพยายามติดต่อไปหาเท่าไหร่อีกฝ่ายก็ไม่ยอมรับสาย ไม่ว่าจะติดต่อผ่านทางลูกน้องคนสนิท ลูกพี่ลูกน้องหรือตายาย พอทุกคนยื่นสายไปให้เนตินก็จะรีบเดินหนีไปทันทีจนคนอื่นๆเอือมระอาเลิกติดต่อไป เหลือเพียงแต่เธอที่ยังคงดั้นด้น“จุนแม่ก๋า.. (คุณแม่ขา)” “หือ?” เจ้าของใบหน้าสวยเลิกคิ้ว พลางช้อนตามองลูกสาวคนเล็กตรงหน้าที่เอ่ยเรียกตนขึ้นขณะนั่งยกโทรศัพท์มือถือแนบหูพยายามต่อสายหาน้องชายครั้งแล้วครั้งเล่าอยู่บนเบาะคอกกั้นในห้องนั่งเล่น ก่อนเพลงพิณจะพูดถามออกมาเสียงสั่นๆราวกับคนจะร้องไห้“ทินโขดอาใยปวกเยาหย๋อกะ ตำมายจุนแม่โตปายม่ายเกยยับซัดที โตกาบก็ม่ายมี (ตินโกรธอะไรพวกเราเหรอคะ ทำไมคุณแม่โทรไปไม่เคยรับสักที โทรกลับก็ไม่มี)” แววตาเด็กหญิงเศร้าสร้อยมองผู้เป็นแม่อย่างตัดพ้อ แทบไม่เหลือคาบร่าเริงอย่างที่ควรจะเป็น “.....” ได้ยินเช่นนั้นเนเน่ก็หน้าเจื่อนลง เธอสงสารลูกจับใจ..มันหลายอาทิตย์แล้วที่เพลงพิณและเพลินลินงอแงบ่น
"....." สันกรามของเจ้าของคำถามบดเข้าหากันอย่างฉุนมาก สองมือกำมัดแน่น ตวัดสายตาคมกริบไปมองเพลิงที่เป็นคนตอบเอง"ใครอนุญาตให้มึงมาอยู่" "ป๊าให้มันมาอยู่ช่วยทำงานแทนตอนพาม๊าไปฮันนีมูน" เป็นโน่บอกตามความจริง "ทำไมไม่ให้เฮียทำ""มันว่างไหมล่ะ""กลับมาแล้วก็ไล่มันออกไป" "ติน.." เนเน่ทนไม่ได้หมายจะพูดช่วยให้น้องชายเข้าใจกันบ้างและปล่อยวางสักที ทันใดนั้นเพลิงก็กุมมือส่ายหน้าห้ามเธอไว้ไม่ให้พูดอะไร เดี๋ยวมันจะบานปลายไปเสียเปล่าๆ"....." ขณะที่โน่เงียบไปอย่างทำอะไรไม่ถูก ซึ่งเนตินเป็นคนไม่ฟังใครและพูดยากมันทำให้เขาค่อนข้างลำบากใจ เพราะนี่ก็ลูกนั่นก็สามีของลูกจะให้ไล่ออกไปมีหวังทั้งลูกทั้งหลานได้หอบผ้าตามไปแน่ ให้ตายยังไงเขาก็ไม่ยอมให้ลูกกับหลานออกไปอยู่ที่อื่นเด็ดขาด"จะไล่มันออกไปได้ไง ก็ป๊ายอมรับมันเป็นลูกเขยแล้ว" เมื่อเห็นผู้เป็นพ่ออึกอักไม่กล้าบอก เนมาร์เลยโพล่งฉวยโอกาสฟ้องก่อตั้งพวกเขม้น หลังทนนั่งฟังเงียบๆมาสักพัก"ฮันนี่!" สถานการณ์ยิ่งคุกรุ่นไม่ค่อยจะดีอยู่ พอเห็นสามีจุดชนวนก๋วยเตี๋ยวจึงปรามให้อยู่นิ่งๆ แล้วกระดุกแขนแกร่งให้ลุกขึ้นพาเด็กๆที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่ให้ออกไปจากห้องนี้ก่อน
"ขอบคุณนะ.." ชายหนุ่มกล่าวขอบคุณ รั้งศีรษะทุยเข้ามากดหอม "ขอบคุณที่อดทนช่วยเหลือพี่จนครอบครัวเรายอมรับ" "จะขอบคุณทำไม ทุกอย่างมันอยู่ที่ความพยายามของพี่เองทั้งนั้น" เนเน่ยิ้ม แหงนหน้ามองสามีพร้อมกับตอบกลับโดยที่เขาลูบผมเธอไปด้วย "แต่ถ้าไม่ได้เราช่วยเหลือเลย ป่านนี้พี่อาจยังไม่ถูกยอมรับก็ได้""เหรอ แต่เน่ว่าคงไม่ใช่แค่เน่คนเดียวหรอกที่ช่วยเหลือพี่..""....." คิ้วเข้มขมวดเลิกขึ้นอย่างไม่เข้าใจ ยังมีใครอีกเหรอที่คอยช่วยเหลือเขานอกจากเธอ"ยังมีม๊าอีกคนนะ" "ม๊า?" "ใช่ คืนก่อนวันที่จะพาลูกไปหา ถ้าไม่มีม๊ามาคอยพูดให้เน่เลิกสับสนกับความรู้สึกของตัวเอง ป่านนี้คงไม่ได้มาอยู่ด้วยกันแบบนี้หรอก""งั้นพี่ก็ต้องไปขอบคุณม๊าด้วยใช่ไหม" "คงงั้นมั่ง" ใบหน้าสวยแนบลงบนไหล่แกร่งหลังพูดจบ ทว่าไม่ทันไรก็รีบแหงนมองหน้าสามีอีกครั้งเมื่อฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้.."หือ?" การกระทำของคนตรงหน้าทำเอาเพลิงถึงกับงุนงง แต่ยังไม่ทันที่เขาจะเอ่ยถามเสียงใสก็ดังถามขึ้นมาติดๆ"พี่เพลิงลืมอะไรไปหรือเปล่า.." "ลืมอะไร" "ก็..มีป๊าแค่คนเดียวเองนะที่ยอมรับพี่ เฮียกับตินยังไม่ได้ยอมรับพี่เลย" หารู้ไม่ว่าจริงๆเขาไม่ได้ลื
"ว้าว มีแต่ของน่าทานเหมือนเดิมเลย" พอเดินมาถึงห้องอาหารเห็นบนโต๊ะมีอาหารหลากหลายอย่างวางเต็มไปหมด ทำให้ฟีฟายหวนคิดถึงตอนเด็กๆที่เขามักจะมาเล่นและรับประทานอาหารที่นี่เป็นประจำในวันหยุด"มีฉู่ฉี่ปลาทูของชอบพี่ฟีฟายเหมือนเดิมด้วยนะ เหมือนแม่นมรู้ว่าพี่จะมา" ไม่ว่าเปล่าหญิงสาวหย่อนสะโพกนั่งลงพร้อมกับสามี เพลิงเหล่มองทั้งสองคนพูดคุยกันอย่างไม่ชอบใจแต่ก็ไม่ได้ปริปากอะไร ได้แต่ขบกรามแน่น"คนสำคัญก็งี้แหละ" ฟีฟายยักไหล่โอ้อวดมาหย่อนตัวนั่งลงฝั่งตรงข้าม ก่อนแม่บ้านจะมาตักข้าวใส่จานให้ "แล้วนี่ไอ้เนกับไอ้ตินไปไหน ไม่ลงมากินด้วยกันเหรอ" "เนตินอยู่ดูแลงานแทนป๊าที่ญี่ปุ่นยังไม่กลับมาเลยค่ะ ส่วนเฮียน่าจะหอบลูกไปเฝ้าเมียที่มหาลัยแต่เช้าโน้น""ท่าจะหวงเมียจัด""มากๆ มาหนักก็ปีที่แล้วอะ ม๊าบอกซามิชวนก๋วยเตี๋ยวไปซื้อของเป็นเพื่อนและแวะดูหนัง แล้วบังเอิญเจอเพื่อนอีกคณะชวนไปงานวันเกิดที่ผับต่อโดยไม่บอกเฮีย จนมีคนส่งรูปมาถามเฮียรู้รีบบุกไปลากกลับมาทันที สภาพนี่ไม่ต้องพูดถึงเมาเละเทะ เฮียโมโหมากจับล่ามโซ่ไม่ให้ไปเรียนเป็นอาทิตย์" "ฮ่าๆๆ ถึงกับล่ามโซ่เลยอ๋อ""นิ่งเฉยก็ไม่ใช่เฮียสิ" มือเล็กตักข้าวใส่ปาก ไม
ใบหน้าสวยส่ายไปมา พลางหันกลับมาเลือกชุดต่อ ในขณะที่อีกคนเปิดลิ้นชักหยิบกล่องบุหรี่พร้อมไฟแช็กในตัว เดินต่อไปยังระเบียงเพื่อระบายความหงุดหงิดและเจ็บใจในเวลาเดียวกันที่ภรรยาเห็นคนอื่นสำคัญกว่าคำสั่งตนเพลิงเปิดบุหรี่ออกมาแล้วจุดสูบ เพียงไม่กี่นาทีเนเน่ก็เดินออกมาในชุดเสื้อแขนยาวไหมพรมคอวีสีขาว กางเกงผ้ามัดยอมพาสเทลขายาวทรงหลวมสีขาวดำตามสไตล์การอยู่บ้านของเธอ ดวงตากลมโตกวาดมองไปรอบๆห้องหลังไม่เห็นสามี ก่อนสะดุดตรงประตูระเบียงที่ถูกเปิดคาไว้จนเห็นแผ่นหลังแกร่งของเจ้าตัวที่ยืนสูบบุหรี่อยู่เธอดึงยางรัดผมจากข้อมือออกมามัดด้วยความรำคาญ พร้อมกับเดินนวยนาดเข้าไปหา เพลิงเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาใกล้ๆก็ไม่ได้สนใจพ่นควันบุหรี่ขาวคลุ้งออกจากปาก"พี่จะลงไปกินข้าวไหม หรือจะเข้าห้องไปทำงานต่อ เน่จะได้ให้แม่บ้านยกข้าวขึ้นมาให้" ริมฝีปากอวบอิ่มเปล่งเสียงถาม "....." แล้วคำตอบที่ได้กลับมาคือความเงียบ ชายหนุ่มสูดควันบุหรี่เข้าเต็มปอด พลางทอดสายตามองบรรยากาศรอบๆทั้งพ่นมันออกมาราวกับไม่ได้ยินในสิ่งที่เธอถาม"พี่เพลิง ได้ยินที่เน่ถามไหม" เห็นอย่างนั้นหญิงสาวจึงย้ำถาม มือเล็กเอื้อมจับท่อนแขนแกร่งดึงเขาให้ห
"ฮึ่ย.." เจ้าพ่อมาเฟียใหญ่ขบกรามฮึดฮัดทันทีที่ถูกตัดสาย เขายกโทรศัพท์มือถือออกจากหูปามันใส่ฝาผนังห้องนอนอย่างแรงปึก! เพล้ง! แรงกระแทกอย่างหนักส่งผลให้มันแตกกระจายไปคนละทิศละทางโดยที่เจ้าของได้แต่นั่งนิ่งๆมองโทรศัพท์มือถือของตัวเองเละไม่มีชิ้นดี ใบหน้าแดงก่ำไปถึงใบหู พร้อมกับฝ่ามือทั้งสองข้างกำแน่นทำเอาดินไม่กล้าจะพูดอะไรออกมา"อื้อ~" แนทที่สะดุ้งรู้สึกตัวตั้งแต่ได้ยินเสียงสามีอาละวาดลั่นอยู่ก่อนแล้ว ลืมตาตื่นอย่างงัวเงียด้วยความหงุดหงิดเมื่อมาได้ยินเสียงกระแทกของวัตถุบางอย่างดังสนั่นขึ้นอีก เธอยันตัวลุกขึ้นเดินไปคว้าชุดคลุมหน้าตู้เสื้อผ้ามาสวมใส่ แล้วเดินออกไปจัดการกับเจ้าของกระทำเพราะรู้สึกเอือมระอามากและเพียงก้าวพ้นกรอบประตูก็เห็นสามีนั่งอารมณ์ฉุนเฉียวอยู่บนโซฟาคนละตัวกับลูกน้อง โดยที่พื้นนั้นเต็มไปด้วยเศษซากโทรศัพท์มือถือ"เป็นบ้าอะไรของแด๊ด ฮะ! ดึกดื่นป่านนี้แล้วมันใช่เวลามาอาละวาดไหม" แนทตวาดถามด้วยความโมโห น้ำเสียงเกรี้ยวกราดของเธอทำเอาโน่ตวัดสายตามอง ก่อนจะค่อยๆสงบสติอารมณ์ยกมือขึ้นลูกหน้าตัวเอง และดินยังคงนั่งเงียบๆแต่เสมองไปทางอื่นหลบสายตาดุดันที่สลับมองมา"ก็ไอ้เวรนั่นมัน