แปะ!เจ้าของคำพูดที่กำลังหัวเสียอยู่ชะงักไปหันไปมองคนในอ้อมแขนเมื่อจู่ๆ ก็มีฝ่ามือน้อยๆตะปบลงมาบนริมฝีปากเต็มแรงทันทีที่พูดจบประโยค แต่ก็ไม่ได้สร้างความรู้สึกเจ็บปวดให้เขาเลยสักนิดแค่ตกใจเฉยๆ"ปูดม่ายเปราะเยยจุนแม่ม่ายซอบ (พูดไม่เพราะเลยคุณแม่ไม่ชอบ)" เพลงพิณชักสีหน้าไม่สบอารมณ์ใส่คนที่ช่วยตัวเอง พร้อมกับดึงมือที่ยื่นไปตบปากเขากลับ หันมองคนเป็นแม่ที่ยืนน้ำตาไหลอยู่โดยมีพี่สาวกำลังเช็ดน้ำตาออกให้"อึก..พะ..เพลิงนี่นายยังไม่ตาย?" ยังไม่ทันที่โจรหนุ่มจะได้ตอบโต้อะไรกลับเด็กหญิงตัวน้อยเนเน่ก็ถามแทรกขึ้นมาก่อนอย่างไม่สนใจอะไร ใช่ คนที่ช่วยลูกสาวเธอนั้นคือเพลิงพ่อของลูกทั้งสองคนที่ผู้เป็นพ่อบอกว่าได้ฆ่าตายไปแล้ว แต่ทำไมเขาถึงยังมีชีวิตอยู่หรือสิ่งที่ท่านบอกนั้นเป็นแค่คำโกหก แล้วจะโกหกเธอไปเพื่ออะไร ยิ่งไม่เข้าใจใหญ่ในเมื่อรู้เรื่องทั้งหมดหมดแล้ว ยังปล่อยเขาให้รอดมาได้ สรุปทั้งหมดมันเป็นยังไงกันแน่เธองงไปหมดแล้ว ในใจตั้งคำถามมากมายอยากจะถามออกไป"....." เพลิงละสายตาจากลูกสาว หันกลับมามองเธอด้วยท่าทีเริ่มใจเย็นลง ก่อนจะตอบกลับไป "อืม ฉันยังไม่ตาย" ฟังไม่ผิดหรอกเขายังไม่ตายจริงๆทั้งที่ตอนนั้น
"....." ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายเต้นระรัวกับคำพูดอ้อนวอนของโจรหนุ่มที่ไม่เคยได้สัมผัสเลย น้ำเสียงและคำพูดของเขาแตกต่างไปจากเดิมที่เคยได้ยิน ดูใจเย็นขึ้นไม่โมโหร้ายเหมือนที่ผ่านมา ไม่อยากจะเชื่อว่าคนอย่างเขาจะมีความรู้สึกรักใครเป็นด้วยแต่คำพูดเพียงแค่นี้จะให้เธอยอมมันง่ายไปไหม แล้วสิ่งที่เธอเคยโดนเขาทำร้ายและทารุณอย่างเลือดเย็นล่ะจะให้ลืมไปง่ายๆไม่ใจร้ายไปหน่อยเหรอในความรู้สึกดีใจที่เขายังอยู่ประกอบกับไม่อยากให้เขาตายก็จริงเพราะอยากให้ลูกได้มีพ่อ ซึ่งเขาก็ทำหน้าที่ตรงนั้นไปไงส่วนหน้าที่อย่างอื่นไม่จำเป็น ระยะเวลาที่เพลิงหายไปจากชีวิตแม้จะมีนึกถึงบ้างทว่ามันมาจากจิตใต้สำนึกในความรู้สึกบางอย่าง แต่ความรู้สึกนั้นมันกลบความเจ็บปวดและความแค้นให้หายไปไม่ได้เลย"เธอกับลูกคือคนที่ฉันรักสุดหัวใจ" ขณะที่เธอยังยืนนิ่งอยู่นั้นเสียงทุ้มก็เอ่ยบอกออกมาอีกครั้งตามความรู้สึกของตัวเอง ที่เคยบอกว่าไม่หวังอยากได้ใจเธอตอนนี้เปลี่ยนไปแล้วเขาอยากได้ทั้งตัวและหัวใจ"จุนแม่กะ ยู้จัดเก๊าหย๋อ (คุณแม่คะ รู้จักเขาเหรอ)" ยังไม่ทันที่เนเนจะได้พูดอะไรเด็กหญิงตัวน้อยในอ้อมแขนก็เอ่ยถามแทรกขึ้น พร้อมกับชี้นิ้วไปที่เพลิง
"อื้อ!!" ทันทีที่เรียวลิ้นสากได้สอดเข้ามาตวัดควานในโพรงปากอย่างเอาแต่ใจ กำปั้นเล็กก็กระหน่ำทุบตีใส่แผงอกแกร่งไม่ยั้งหวังให้เพลิงหยุดกระทำ"อืม" ลำคอหนาเปล่งเสียงครางดังเล็ดลอดออกมาเบาๆ เลื่อนมือข้างที่ประคองใบหน้าเธออยู่ลงมาบีบเคล้นเต้าอวบตามอารมณ์กระสัน ทำเจ้าของเรือนร่างยิ่งดิ้นพล่านเข้าไปใหญ่เปลี่ยนจากทุบตีเป็นรวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดผลักเขาออกห่างพลั่ก!"อึก" มือเล็กยกขึ้นมาปาดน้ำลายออกจากกลีบปากลวกๆหลังริมฝีปากหลุดออกจากกัน ก่อนฝ่ามือนั้นจะเหวี่ยงไปฟาดลงบนแก้มสากเต็มแรงด้วยความโมโหที่เขาเอานิสัยเดิมๆกลับมาใช้กับเธออีกเพียะ!“อย่ามาใช้นิสัยเลวๆกับฉันอีก ยิ่งนายทำแบบนี้ความเป็นพ่อของลูกฉันก็จะไม่ให้" เธอขู่ฟ่ออย่างไม่ยอมอีกแล้ว ขณะที่เพลิงดุนลิ้นในกระพุ้งแก้ม พร้อมกับยกนิ้วโป้งขึ้นมาปาดเช็ดคราบเลือดออกจากมุมปากตัวเองใบหน้าคมคายหันกลับมามองอีกฝ่ายด้วยแววตายังคงอ้วนวอน ก่อนจะตอบกลับไป "ถ้าไม่อยากให้ทำแบบนี้ก็ให้โอกาสฉันได้แก้ตัวสิ ให้ฉันได้ดูแลได้ชดเชยในสิ่งที่ได้ทำไว้กับเธอ" มือหนาเอื้อมไปจับมือเธอมากุมไว้เขารู้ดีว่าคนเลวอย่างเขามันไม่สมควรได้รับโอกาส แต่จะให้ทำยังไงก็ในเมื่อในชีว
"อึก.." เนเน่ลอบกลืนน้ำลายลงคอเมื่อขยับมาสุดทางหัวเตียง แววตาสั่นระริกละสายตาจากคนตรงหน้าที่กำลังเดินเข้ามาหาช้าๆมองไปยังบานประตูที่เปิดอยู่ ก่อนจะดันตัวลุกขึ้นวิ่งหนีออกไปทันที"มึงจะไปหนีไหน" หมับ!"โอ๊ย!" แต่แล้ววิ่งไปได้เพียงไม่กี่ก้าวก็ถูกเพลิงวิ่งตามมาคว้าแขนไว้ได้ทัน ตัวเธอปลิวไปตามแรงกระชากเมื่อเขาลากกลับมาเหวี่ยงลงบนเตียงนอนอีกครั้งตุ้บ!"อึก!" เธอนิ่วหน้าออกมาด้วยความจุก พลางหดตัวกุมท้องน้อยแน่น โดยมีสายตาคู่คมของโจรหนุ่มจ้องมองอยู่"เจ็บเหรอ? บอกแล้วใช่ไหมว่าหนีไปก็ไม่พ้นแล้วยังจะทะเยอทะยานหนีทำไม ชอบเจ็บตัวมากนักเหรอ""....." ใบหน้าสวยกดเปลือกตาหลับลงแสร้งทำเป็นหูทวนลมไม่ได้ยินคำถามของเขา พูดไปก็ไม่มีประโยชน์ยังไงก็ไม่รอดอยู่แล้ว"ถามทำไมไม่ตอบ"".....""ดี..งั้นเงียบไปให้ได้ตลอดก็แล้วกัน" ท่าทางเมินเฉยของอีกฝ่ายทำให้เพลิงยิ่งมีอารมณ์ เท้าใหญ่ก้าวขึ้นไปบนเตียง โน้มตัวลงจับขาเรียวทั้งสองข้างพลิกตัวเธอให้หงายขึ้น พร้อมกับดึงกระชากกระดุมกางเกงจนหลุดติดมือทั้งกางเกงชั้นใน"อึก" ฟันคมกัดกันแน่น ขณะที่มือสั่นเทาพยายามกำขอบกางเกงไว้ไม่ให้เขาถอดออกไปได้ แต่ก็ไม่เป็นผลถูกถอดออกไป
ใบหน้าคมคายของเพลิงเอี้ยวขวับไปยังต้นทางเสียง เห็นลูกสาวคนเล็กยืนเท้าสะเอวอยู่ด้วยสีหน้ามุ่ย ขณะที่เนเน่เบิกตาโพลงด้วยความตกใจรีบผลักร่างเขาออกห่าง แล้วดีดตัวลุกดึงผ้านวมมาคลุมเรือนร่างเปลือยเปล่าของตัวเอง"น้องเพลง!" เป็นเพลิงเรียกชื่อลูกสาว ไม่ได้ตกใจว่าลูกเข้ามาได้ยังไงเพราะตัวเองนั้นแง้มประตูห้องนอนห้องโน้นไว้เพื่อลูกตื่นมาเรียกจะได้ได้ยิน แต่ก็ไม่คิดว่าจะตื่นไวขนาดนี้"จุนป้อตำอาใยจุนแม่กะ (คุณพ่อทำอะไรคุณแม่คะ)" เด็กน้อยเอ่ยถาม พลางขมวดคิ้วยุ่ง สีหน้ามุ่ยตวัดสายตาดุดันมองคนเป็นพ่อและแม่สลับกันไปมาเพราะคิดว่าผู้เป็นพ่อนั้นทำร้ายผู้เป็นแม่ตามความคิดของเด็ก หลังได้ยินเสียงร้องของแม่นั้นดังลั่นไปถึงห้องที่เธอนอนอยู่จนรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา ก็รีบเดินเข้ามาหาทำให้เห็นจังๆบอกเลยว่าไม่พอใจซึ่งเพลงพิณค่อนข้างจะหวงแม่ตัวเองมากชนิดที่ยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม แล้วมาเจอคนเป็นพ่อมาทำแบบนี้พานทำให้เธอเริ่มไม่ชอบ"เปล่าครับ" ว่าแล้วเพลิงก็รีบหันหน้ากลับ มันยังไม่ถึงเวลาที่ลูกต้องมารับรู้ว่าพ่อแม่ทำเรื่องอย่างว่ากัน เท้าใหญ่สไลด์เดินไปข้างๆเพื่อจะหยิบผ้าขนหนูที่แขวนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้า"ตื่นนานแล้วเ
วันต่อมา..แสงแดดสีทองอ่อนของเช้าวันใหม่สอดส่องผ่านม่านเข้ามาทักทายโจรหนุ่มที่นอนตะแคงข้างทับแขนพับข้างหนึ่งของตัวเองและแขนอีกข้างพาดอยู่บนเอวคอด มองหน้าหญิงสาวสลับกับลูกสาวที่ยังนอนหลับอยู่บนเตียงอย่างสุขสบายใต้ผ้านวมผืนหนา รับความอุ่นหลบไอความเย็นจากเครื่องปรับอากาศที่เป่ารดลงมาเป็นระยะ"อื้อ~" หญิงสาวครางอื้ออึงในลำคอเบาๆ ก่อนขยับตัวพลิกเข้าไปกอดเพลิงที่แอบมานอนซ้อนหลังอยู่อย่างงัวเงียประกอบกับไม่รู้ตัว ซุกพวงแก้มแดงระเรื่อเข้าคลอเคลียแผงอกแกร่งหาความอุ่น"....." คนถูกกอดชำเลืองมอง พลางคลี่ยิ้มอ่อนรีบดึงแขนที่ใช้หนุนนอนสอดเข้าไปใต้ลำคอของเธอขณะที่มืออีกข้างยกศีรษะทุยให้มาหนุนลงพร้อมกับลูบมันเบาๆ กดปลายจมูกโด่งคมหอมกระหม่อมบางทีหนึ่ง ตอนแรกเขาไม่ได้มานอนข้างเธออย่างงี้หรอกเพราะเมื่อคืนเจ้าตัวให้ลูกสาวตัวน้อยทั้งสองคนมานอนคั่นระหว่างกลางไว้ไม่ยอมให้เขาเข้าใกล้แถมยังข่มขู่สารพัด ก็ได้แต่รอให้เธอหลับก่อนถึงจะยกลูกสาวคนพี่มานอนแทนที่ตนได้และขยับเธอไปนอนแทนที่ลูกสาว กว่าเขาจะได้มานอนกอดเล่นปาเข้าไปดึกดื่นอยู่เหมือนกันหลังจากได้กลับมานอนกอดเนเน่ตลอดทั้งคืนมันทำให้เขาได้หลับเต็มอิ่มกว่าทุ
เนเน่หอบหายใจถี่ๆขณะที่ขาเรียวทั้งสองข้างสั่นเทาทรงตัวยืนแทบไม่อยู่ ทิ้งตัวอ่อนปวกเปียกในอ้อมแขนของเพลิงที่เลื่อนเข้ามากอดอย่างหมดแรง หัวใจดวงน้อยยังเต้นแรงหนักๆด้วยความเหนื่อย นึกสมเพชตัวเองที่ไม่สามารถต่อต้านการกระทำของเขาได้เลย ร่างกายเธอมันก็ไม่รักดีเอาแต่ยอมเขาทุกครั้ง"นี่เพิ่งรอบเดียวเองนะหมดแรงแล้วเหรอ หื้ม~" รู้ทั้งรู้ว่าอีกคนกำลังไม่พอใจแต่ความต้องการของเพลิงยังคงอยู่ โน้มใบหน้าเข้าไปถามแล้วไม่อาจยับยั้งชั่งใจซุกไซ้ซอกคอระหงต่อในเวลาที่ลูกยังไม่ตื่นเขายังพอตักตวงความสุขต่อได้อยู่ โดยไม่คำนึงถึงสภาพร่างกายของหญิงสาวเลยว่าจะไหวหรือเปล่า"....." เนเน่ยกมือสั่นเทาขึ้นมาผลักใบหน้าคมคายออกห่างไม่ตอบอะไร พอเรี่ยวแรงเริ่มจะกลับมาก็แกะมือเขาข้างหนึ่งที่บีบเคล้นเต้าอวบและอีกข้างรัดเอวคอดบนเรือนร่างตัวเองออก "ปล่อย!" เมื่อพยายามแกะเท่าไหร่ก็ไม่ออกเธอจึงหันสีหน้ายุ่งไปเอ่ยบอกคนข้างหลังเสียงแข็ง ก่อนร่างเธอจะกระตุกเกร็งเมื่ออยู่ๆท่อนเอ็นใหญ่ที่ยังคาอยู่ในกายก็ขยายตัวแข็งชันอีกครั้ง ขยายร่องสวาทของเธอจนรู้สึกเจ็บ"ลูกยังไม่ตื่นเลย มาต่อกันอีกรอบนะ" ซึ่งเขาก็พูดตามจุดประสงค์ของตัวเองออกมา
ตึก! ตึก! ตึก!เสียงฝีเท้าของโน่เข้ามาในคฤหาสน์ของตัวเองด้วยสีหน้าเรียบ หลังเพิ่งบินกลับมาจากคุยงานใหญ่กับคิมที่ฮ่องกง (ประเทศจีน) งานใหญ่ที่ว่าคือธุรกิจท่าเรือส่วนตัวที่ทำร่วมกันพวกเขามีเกณฑ์ที่จะขยายท่าเรือให้ใหญ่ขึ้นและซื้อเรือขนส่งเพิ่มเป็นจำนวนมากจึงต้องปรึกษาดูงานกันอยู่หลายวัน เพราะบริษัทยักษ์ใหญ่ในแถบเอเชียและยุโรปเริ่มทยอยติดต่อมาขอเพิ่มจำนวนน้ำมันหลายตันกลัวจะล่าช้าในการจัดส่ง"แด๊ด!" แนทเอ่ยเรียกสามีออกมาสุดเสียงด้วยความดีใจขณะกำลังเดินลงบันไดมาจากชั้นสอง เธอรีบวิ่งเข้าไปโผกอดเขาด้วยความคิดถึงหมับ!"โอ๊ย! อ้วน" แรงกระแทกทำให้โน่ถึงกับจุกอก จากสีหน้าเรียบกลายเป็นอมยิ้มอ่อนๆกับท่าทางดีใจของภรรยาสุดที่รักแบบนี้ไม่ให้หลงทนไหวเหรอ"คิดถึงจัง" ใบหน้าสวยแนบติดกับแผงอกแกร่งของเขา พูดเสียงอู้อี้บอกไป ปกติห่างกันนานสุดแค่วันเดียวเองนี่เล่นตั้งสองสามวันแหนะ..จะไม่ให้เธอคิดถึงได้ยังไง ตอนแรกเขาจะให้ไปด้วยนั่นแหละแต่ติดที่ว่าต้องช่วยลูกชายเลี้ยงหลานชายไงเพราะลูกสะใภ้ต้องไปเรียนหนังสือ ไหนจะต้องช่วยลูกสาวดูหลานสาวอีกพานทำเธอไปไหนไม่ได้เลย"อ้อนเก่งแบบนี้คืนนี้อยากได้กี่ครั้งว่ามา" โน
“อ้าว มาถึงกันตั้งแต่ตอนไหน” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นทันทีเมื่อเดินกลับเข้ามาในบ้านตัวเองช่วงพลบค่ำพร้อมกับหลานชาย แล้วเห็นหญิงสาวเดินลงมาจากชั้นสองพร้อมชายหนุ่มร่างสูงกำยำคงจะเป็นหลานเขยสินะ หน้าตามันคุ้นๆแฮะเหมือนเคยเจอที่นี่ไหน?“คุณปู่ สวัสดีค่ะ” เนเน่ยกมือขึ้นประนมไหว้ ก่อนเธอจะเร่งฝีเท้าเข้าไปกอดผู้เป็นปู่อย่างที่เคยทำเวลามาหา “คิดถึงจังเลย” “อะ ขี้อ้อนเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน” นุลูบศีรษะทุยเบาๆกอดหลานกลับ ทั้งก้มหอมกุมผมให้หายคิดถึงคูลจ้องมองคนข้างหลังพี่สาวไม่วางตา เห็นอย่างนั้นเพลิงเองก็จ้องกลับไปเช่นกันด้วยสีหน้าเชิงมีคำถาม ว่าเด็กหนุ่มได้มีปัญหาอะไรกับเขาหรือเปล่า เด็กหนุ่มนิ่งเลือกที่จะเดินเลี่ยงขึ้นไปชั้นสอง แม้จะคับแค้นใจไม่น้อยกับเรื่องที่เพลิงได้เคยกระทำต่อเนเน่ แต่เขาก็ไม่อยากจะยุ่งปล่อยให้เจ้าตัวนั้นเลือกทางเดินของชีวิตเอาเอง“ทำไมวันนี้คุณปู่กลับมาเย็นจังคะ” ใบหน้าสวยแหงนถาม ในขณะที่ยังคงแนบชิดกับอกแกร่งของปู่และกอดเอวท่านอยู่หลวมๆ“แวะไปตีกอล์ฟกับเพื่อนมาน่ะ แล้วนี่เจ้าสองแสบปู่อยู่ไหน” นุตอบพร้อมกวาดสายตามองรอบๆ เมื่อไม่เห็นเหลนตัวน้อยทั้งสองคนจึงถามหา“น่าจะอยู่กับคุณย
“หนูม่ายต้ายหวันจาห้ายทินยดโตดห้ายจุนป้อนะกะถ้าทินม่ายเท็มจาย หนูแค่หยาดห้ายทินพ่อยวางห้ายจุนแม่กับปวกหนูต้ายเยือกกู้ซีวิดแยะป้อกานเอนต้ายมายกะ ห้ายกวามสุดปวกเยาต้ายมาย (หนูไม่ได้หวังจะให้ตินยกโทษให้คุณพ่อนะคะถ้าไม่เต็มใจ หนูแค่อยากให้ตินปล่อยวางให้คุณแม่กับพวกหนูได้เลือกคู่ชีวิตและพ่อกันเองได้ไหมคะ ให้ความสุขพวกเราได้ไหม)”“จะให้น้ามั่นใจได้ยังไงว่าสิ่งที่พวกหนูกับแม่หนูเลือกมันดีที่สุดแล้ว คนมันสันดานโจรทำเลวมาตั้งแต่เด็ก คิดเหรอว่ามันจะกลับตัวกลับใจมาเป็นผัวที่ดีพ่อที่ดีให้หนูกับแม่หนูได้”“ถึงผมจะเคยเลวเคยทำไม่ดีทำร้ายเนเน่กับลูก แต่ผมสัญญา..ต่อจากนี้ไปผมจะเป็นสามีที่ดีให้กับเธอจะเป็นพ่อที่ดีให้กับลูก จะรักและดูแลพวกเขาให้ดีที่สุดยิ่งกว่าชีวิตของผม” เพลิงละอายใจเอ่ยขัดบอกออกมาเองตามความรู้สึกหลังยืนนิ่งฟังลูกช่วยอยู่นาน ชายหนุ่มไม่ได้ขี้ขลาดที่จะเผชิญหน้าขอให้เด็กหนุ่มเห็นใจยอมไว้ใจให้โอกาสเขาได้ชดเชยในสิ่งที่เคยกระทำกับหญิงสาวและลูกสาวทั้งสองคน แต่แค่ไม่อยากจะมีปัญหาเพิ่มอีก เลยเลือกจะอยู่นิ่งๆ อะไรที่ยอมได้ก็ยอมทว่าลูกคนเล็กกลับช่วยพูดขอจนเขาอดที่จะอยู่เฉยๆไม่ได้ ไม่อยากให้ลูกนั
เย็นวันเดียวกันเสือกำลังขับรถพาแคทและแคนดี้มาหาเพื่อนรักของพวกเธอกับหลานสาวหลังจากที่ทั้งสามคนพากันไปวัดไซส์ตัดชุดแต่งงาน พร้อมกับเลือกโปสต์การ์ดและของชำร่วยรวมไปถึงสถานที่มาเสร็จสรรพ ฟังไม่ผิดหรอกเสือกับแคทกำลังจะแต่งงานกันปลายเดือนหน้านี้แล้วโดยมีแคนดี้จัดการแนะนำจองร้านดังงานดีระดับประเทศซึ่งเป็นของพี่สาวที่เป็นลูกพี่ลูกน้องไว้ให้ทั้งนำทางมา ตามจริงเนเน่ต้องมาด้วยแต่เพราะติดที่ลูกงอแงคิดถึงน้าชายไม่หยุดจึงมาด้วยไม่ได้ เขาเลยต้องพาแวะไปหาเนี่ยแหละทันทีที่รถเลี้ยวเข้ามาจอดสนิทแล้วการ์ดได้เปิดประตูให้ แคนดี้ก็รีบก้าวลงจากรถ ก่อนจะเดินตัวปลิวนำหน้าเพื่อนกับแฟนเพื่อนไปอย่างไม่รีรอ“นี่แคนดี้แกจะรีบไปไหนเนี่ย กลับมาช่วยถือของเล่นหลานก่อนเลยนะ..อย่าเนียนเดินตัวปลิว” แคทหันมาร้องเรียก ขณะกำลังเดินไปหยิบของเล่นที่ซื้อมาฝากหลานสาวหลังรถคนถูกเรียกได้ยินก็หยุดฝีเท้าหมุนตัวกลับมาทำหน้าเจือนๆด้วยความลืมว่ามีของที่ตัวเองซื้อมาให้หลานด้วย “แหะๆ ฉันลืม”“ลืมตลอดแหละแกอะ” ใบหน้าหวานส่ายระอากับนิสัยตีเนียนของเพื่อนรัก พลางหยิบถุงยื่นไปให้สามถุงแคนดี้แบะปากยักไหล่ไม่ยี่หระอุตส่าห์จะตีเนียนสักหน่อยโ
หนึ่งเดือนต่อมา..ชีวิตครอบครัวของเนเน่และเพลิงดำเนินกันมาอย่างมีความสุขปะปนกับความทุกข์ใจเรื่องเนติน นับตั้งแต่คืนวันนั้นเจ้าตัวก็ขาดการติดต่อจากคนที่บ้านไปเลย แม้ว่าเนเน่กับคนอื่นๆในครอบครัวพยายามติดต่อไปหาเท่าไหร่อีกฝ่ายก็ไม่ยอมรับสาย ไม่ว่าจะติดต่อผ่านทางลูกน้องคนสนิท ลูกพี่ลูกน้องหรือตายาย พอทุกคนยื่นสายไปให้เนตินก็จะรีบเดินหนีไปทันทีจนคนอื่นๆเอือมระอาเลิกติดต่อไป เหลือเพียงแต่เธอที่ยังคงดั้นด้น“จุนแม่ก๋า.. (คุณแม่ขา)” “หือ?” เจ้าของใบหน้าสวยเลิกคิ้ว พลางช้อนตามองลูกสาวคนเล็กตรงหน้าที่เอ่ยเรียกตนขึ้นขณะนั่งยกโทรศัพท์มือถือแนบหูพยายามต่อสายหาน้องชายครั้งแล้วครั้งเล่าอยู่บนเบาะคอกกั้นในห้องนั่งเล่น ก่อนเพลงพิณจะพูดถามออกมาเสียงสั่นๆราวกับคนจะร้องไห้“ทินโขดอาใยปวกเยาหย๋อกะ ตำมายจุนแม่โตปายม่ายเกยยับซัดที โตกาบก็ม่ายมี (ตินโกรธอะไรพวกเราเหรอคะ ทำไมคุณแม่โทรไปไม่เคยรับสักที โทรกลับก็ไม่มี)” แววตาเด็กหญิงเศร้าสร้อยมองผู้เป็นแม่อย่างตัดพ้อ แทบไม่เหลือคาบร่าเริงอย่างที่ควรจะเป็น “.....” ได้ยินเช่นนั้นเนเน่ก็หน้าเจื่อนลง เธอสงสารลูกจับใจ..มันหลายอาทิตย์แล้วที่เพลงพิณและเพลินลินงอแงบ่น
"....." สันกรามของเจ้าของคำถามบดเข้าหากันอย่างฉุนมาก สองมือกำมัดแน่น ตวัดสายตาคมกริบไปมองเพลิงที่เป็นคนตอบเอง"ใครอนุญาตให้มึงมาอยู่" "ป๊าให้มันมาอยู่ช่วยทำงานแทนตอนพาม๊าไปฮันนีมูน" เป็นโน่บอกตามความจริง "ทำไมไม่ให้เฮียทำ""มันว่างไหมล่ะ""กลับมาแล้วก็ไล่มันออกไป" "ติน.." เนเน่ทนไม่ได้หมายจะพูดช่วยให้น้องชายเข้าใจกันบ้างและปล่อยวางสักที ทันใดนั้นเพลิงก็กุมมือส่ายหน้าห้ามเธอไว้ไม่ให้พูดอะไร เดี๋ยวมันจะบานปลายไปเสียเปล่าๆ"....." ขณะที่โน่เงียบไปอย่างทำอะไรไม่ถูก ซึ่งเนตินเป็นคนไม่ฟังใครและพูดยากมันทำให้เขาค่อนข้างลำบากใจ เพราะนี่ก็ลูกนั่นก็สามีของลูกจะให้ไล่ออกไปมีหวังทั้งลูกทั้งหลานได้หอบผ้าตามไปแน่ ให้ตายยังไงเขาก็ไม่ยอมให้ลูกกับหลานออกไปอยู่ที่อื่นเด็ดขาด"จะไล่มันออกไปได้ไง ก็ป๊ายอมรับมันเป็นลูกเขยแล้ว" เมื่อเห็นผู้เป็นพ่ออึกอักไม่กล้าบอก เนมาร์เลยโพล่งฉวยโอกาสฟ้องก่อตั้งพวกเขม้น หลังทนนั่งฟังเงียบๆมาสักพัก"ฮันนี่!" สถานการณ์ยิ่งคุกรุ่นไม่ค่อยจะดีอยู่ พอเห็นสามีจุดชนวนก๋วยเตี๋ยวจึงปรามให้อยู่นิ่งๆ แล้วกระดุกแขนแกร่งให้ลุกขึ้นพาเด็กๆที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่ให้ออกไปจากห้องนี้ก่อน
"ขอบคุณนะ.." ชายหนุ่มกล่าวขอบคุณ รั้งศีรษะทุยเข้ามากดหอม "ขอบคุณที่อดทนช่วยเหลือพี่จนครอบครัวเรายอมรับ" "จะขอบคุณทำไม ทุกอย่างมันอยู่ที่ความพยายามของพี่เองทั้งนั้น" เนเน่ยิ้ม แหงนหน้ามองสามีพร้อมกับตอบกลับโดยที่เขาลูบผมเธอไปด้วย "แต่ถ้าไม่ได้เราช่วยเหลือเลย ป่านนี้พี่อาจยังไม่ถูกยอมรับก็ได้""เหรอ แต่เน่ว่าคงไม่ใช่แค่เน่คนเดียวหรอกที่ช่วยเหลือพี่..""....." คิ้วเข้มขมวดเลิกขึ้นอย่างไม่เข้าใจ ยังมีใครอีกเหรอที่คอยช่วยเหลือเขานอกจากเธอ"ยังมีม๊าอีกคนนะ" "ม๊า?" "ใช่ คืนก่อนวันที่จะพาลูกไปหา ถ้าไม่มีม๊ามาคอยพูดให้เน่เลิกสับสนกับความรู้สึกของตัวเอง ป่านนี้คงไม่ได้มาอยู่ด้วยกันแบบนี้หรอก""งั้นพี่ก็ต้องไปขอบคุณม๊าด้วยใช่ไหม" "คงงั้นมั่ง" ใบหน้าสวยแนบลงบนไหล่แกร่งหลังพูดจบ ทว่าไม่ทันไรก็รีบแหงนมองหน้าสามีอีกครั้งเมื่อฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้.."หือ?" การกระทำของคนตรงหน้าทำเอาเพลิงถึงกับงุนงง แต่ยังไม่ทันที่เขาจะเอ่ยถามเสียงใสก็ดังถามขึ้นมาติดๆ"พี่เพลิงลืมอะไรไปหรือเปล่า.." "ลืมอะไร" "ก็..มีป๊าแค่คนเดียวเองนะที่ยอมรับพี่ เฮียกับตินยังไม่ได้ยอมรับพี่เลย" หารู้ไม่ว่าจริงๆเขาไม่ได้ลื
"ว้าว มีแต่ของน่าทานเหมือนเดิมเลย" พอเดินมาถึงห้องอาหารเห็นบนโต๊ะมีอาหารหลากหลายอย่างวางเต็มไปหมด ทำให้ฟีฟายหวนคิดถึงตอนเด็กๆที่เขามักจะมาเล่นและรับประทานอาหารที่นี่เป็นประจำในวันหยุด"มีฉู่ฉี่ปลาทูของชอบพี่ฟีฟายเหมือนเดิมด้วยนะ เหมือนแม่นมรู้ว่าพี่จะมา" ไม่ว่าเปล่าหญิงสาวหย่อนสะโพกนั่งลงพร้อมกับสามี เพลิงเหล่มองทั้งสองคนพูดคุยกันอย่างไม่ชอบใจแต่ก็ไม่ได้ปริปากอะไร ได้แต่ขบกรามแน่น"คนสำคัญก็งี้แหละ" ฟีฟายยักไหล่โอ้อวดมาหย่อนตัวนั่งลงฝั่งตรงข้าม ก่อนแม่บ้านจะมาตักข้าวใส่จานให้ "แล้วนี่ไอ้เนกับไอ้ตินไปไหน ไม่ลงมากินด้วยกันเหรอ" "เนตินอยู่ดูแลงานแทนป๊าที่ญี่ปุ่นยังไม่กลับมาเลยค่ะ ส่วนเฮียน่าจะหอบลูกไปเฝ้าเมียที่มหาลัยแต่เช้าโน้น""ท่าจะหวงเมียจัด""มากๆ มาหนักก็ปีที่แล้วอะ ม๊าบอกซามิชวนก๋วยเตี๋ยวไปซื้อของเป็นเพื่อนและแวะดูหนัง แล้วบังเอิญเจอเพื่อนอีกคณะชวนไปงานวันเกิดที่ผับต่อโดยไม่บอกเฮีย จนมีคนส่งรูปมาถามเฮียรู้รีบบุกไปลากกลับมาทันที สภาพนี่ไม่ต้องพูดถึงเมาเละเทะ เฮียโมโหมากจับล่ามโซ่ไม่ให้ไปเรียนเป็นอาทิตย์" "ฮ่าๆๆ ถึงกับล่ามโซ่เลยอ๋อ""นิ่งเฉยก็ไม่ใช่เฮียสิ" มือเล็กตักข้าวใส่ปาก ไม
ใบหน้าสวยส่ายไปมา พลางหันกลับมาเลือกชุดต่อ ในขณะที่อีกคนเปิดลิ้นชักหยิบกล่องบุหรี่พร้อมไฟแช็กในตัว เดินต่อไปยังระเบียงเพื่อระบายความหงุดหงิดและเจ็บใจในเวลาเดียวกันที่ภรรยาเห็นคนอื่นสำคัญกว่าคำสั่งตนเพลิงเปิดบุหรี่ออกมาแล้วจุดสูบ เพียงไม่กี่นาทีเนเน่ก็เดินออกมาในชุดเสื้อแขนยาวไหมพรมคอวีสีขาว กางเกงผ้ามัดยอมพาสเทลขายาวทรงหลวมสีขาวดำตามสไตล์การอยู่บ้านของเธอ ดวงตากลมโตกวาดมองไปรอบๆห้องหลังไม่เห็นสามี ก่อนสะดุดตรงประตูระเบียงที่ถูกเปิดคาไว้จนเห็นแผ่นหลังแกร่งของเจ้าตัวที่ยืนสูบบุหรี่อยู่เธอดึงยางรัดผมจากข้อมือออกมามัดด้วยความรำคาญ พร้อมกับเดินนวยนาดเข้าไปหา เพลิงเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาใกล้ๆก็ไม่ได้สนใจพ่นควันบุหรี่ขาวคลุ้งออกจากปาก"พี่จะลงไปกินข้าวไหม หรือจะเข้าห้องไปทำงานต่อ เน่จะได้ให้แม่บ้านยกข้าวขึ้นมาให้" ริมฝีปากอวบอิ่มเปล่งเสียงถาม "....." แล้วคำตอบที่ได้กลับมาคือความเงียบ ชายหนุ่มสูดควันบุหรี่เข้าเต็มปอด พลางทอดสายตามองบรรยากาศรอบๆทั้งพ่นมันออกมาราวกับไม่ได้ยินในสิ่งที่เธอถาม"พี่เพลิง ได้ยินที่เน่ถามไหม" เห็นอย่างนั้นหญิงสาวจึงย้ำถาม มือเล็กเอื้อมจับท่อนแขนแกร่งดึงเขาให้ห
"ฮึ่ย.." เจ้าพ่อมาเฟียใหญ่ขบกรามฮึดฮัดทันทีที่ถูกตัดสาย เขายกโทรศัพท์มือถือออกจากหูปามันใส่ฝาผนังห้องนอนอย่างแรงปึก! เพล้ง! แรงกระแทกอย่างหนักส่งผลให้มันแตกกระจายไปคนละทิศละทางโดยที่เจ้าของได้แต่นั่งนิ่งๆมองโทรศัพท์มือถือของตัวเองเละไม่มีชิ้นดี ใบหน้าแดงก่ำไปถึงใบหู พร้อมกับฝ่ามือทั้งสองข้างกำแน่นทำเอาดินไม่กล้าจะพูดอะไรออกมา"อื้อ~" แนทที่สะดุ้งรู้สึกตัวตั้งแต่ได้ยินเสียงสามีอาละวาดลั่นอยู่ก่อนแล้ว ลืมตาตื่นอย่างงัวเงียด้วยความหงุดหงิดเมื่อมาได้ยินเสียงกระแทกของวัตถุบางอย่างดังสนั่นขึ้นอีก เธอยันตัวลุกขึ้นเดินไปคว้าชุดคลุมหน้าตู้เสื้อผ้ามาสวมใส่ แล้วเดินออกไปจัดการกับเจ้าของกระทำเพราะรู้สึกเอือมระอามากและเพียงก้าวพ้นกรอบประตูก็เห็นสามีนั่งอารมณ์ฉุนเฉียวอยู่บนโซฟาคนละตัวกับลูกน้อง โดยที่พื้นนั้นเต็มไปด้วยเศษซากโทรศัพท์มือถือ"เป็นบ้าอะไรของแด๊ด ฮะ! ดึกดื่นป่านนี้แล้วมันใช่เวลามาอาละวาดไหม" แนทตวาดถามด้วยความโมโห น้ำเสียงเกรี้ยวกราดของเธอทำเอาโน่ตวัดสายตามอง ก่อนจะค่อยๆสงบสติอารมณ์ยกมือขึ้นลูกหน้าตัวเอง และดินยังคงนั่งเงียบๆแต่เสมองไปทางอื่นหลบสายตาดุดันที่สลับมองมา"ก็ไอ้เวรนั่นมัน