คิ้วเข้มบนใบหน้าคมของดินเลิกขึ้นเมื่อเห็นท่าทีแปลกไปของลูกน้องทั้งสามคน ดูเหมือนกำลังตื่นตระหนกกับคำพูดของเขาราวกับปิดบังอะไรอยู่ "เป็นอะไรของพวกมึง" แล้วดินก็อดที่จะถามออกไปไม่ได้ มือหนาล้วงหยิบบุหรี่ในสูทขึ้นมาจุดสูบ"เปล่าครับ" เป็นเล้งที่ตอบกลับด้วยท่าทีปกติที่สุดถึงแม้สีหน้าตอนนี้จะไม่ปกติก็ตาม ทว่าจะหลุดไม่ได้ถ้าเจ้านายรู้พวกเขาได้ซวยกันทั้งหมดแน่ โดยเฉพาะเพลิงตัวต้นเหตุจะลากใครมาข่มขืนไม่ยอมดูให้ดีก่อนขณะที่เสือและตี๋ก็พยายามทำท่าทีกลับให้เป็นปกติเช่นกัน ก่อนผู้เป็นนายจะครางรับรู้ในลำคอเบาๆอย่างไม่ค่อยเชื่อสักเท่าไหร่"อืม" ริมฝีปากหนาพ่นควันขาวคละคลุ้งออกมา พร้อมกับในใจยังคงไม่หายสงสัยกับการหายไปของเพลิง และไม่ได้โง่ถึงกับดูไม่ออกว่าทั้งสามคนกำลังช่วยกันปิดบังอะไรอยู่ "พวกมึงคงไม่ได้ปิดบังอะไรกูอยู่หรอกใช่ไหม""ครับ" ทุกคนตอบพร้อมกันด้วยน้ำเสียงหนักแน่น"ก็ดี ถ้าเกิดช่วยกันปิดบังหรือช่วยเพื่อนของพวกมึงแล้วกูรู้ทีหลังพวกมึงคงรู้ใช่ไหมว่าจะเป็นยังไง""รู้ครับ พวกผมคงไม่กล้าปิดบังอะไรนายหรอก" เล้งว่าแทนเสือกับตี๋ที่ยืนหน้าเริ่มซีด เพราะอย่างนี้ไงถึงจะให้อีกฝ่ายรู้ไม่ได้"ถ้าเห็น
หัวใจแกร่งกระตุกวูบเป็นครั้งที่สองภาพที่เห็นหญิงสาวทิ้งห่างออกไปเรื่อยๆจนน้ำเกือบจะถึงคอเธออยู่แล้ว ในระหว่างที่วิ่งลงไปซึ่งเขาก็ไม่รอช้าเร่งฝีเท้าฝ่าคลื่นน้ำให้เร็วกว่าเดิมหมับ!จนกระทั่งมือหนาเอื้อมไปกระชากตัวหญิงสาวไว้ในขณะที่เธอกำลังจมลงไปในน้ำ ดึงเข้าหาอกแกร่ง ทำเอาเนเน่หลุดจากความเหม่อลอย"อ๊ะ!" เธอตกใจร้องขึ้นเสียงหลง หันไปมองเจ้าของการกระทำด้วยความงุนงงว่าตัวเองลงมาลึกถึงขนาดนี้ได้ยังไง ตอนแรกแค่นั่งเล่นน้ำรอเขาเพราะกะจะเล่นอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว ทว่าอยู่ๆความคิดก็หลุดลอยไปทำให้เธอไม่รู้สึกตัว "ทำเหี้ยไรของมึงวะ อยากตายนักรึไง" เพลิงสบถคำหยาบตวาดเสียงเกรี้ยวโกรธใส่คนตรงหน้าที่ทำอะไรสิ้นคิดแบบนี้ พร้อมกับเลื่อนมือทั้งสองข้างขึ้นไปเกลี่ยน้ำออกจากแก้มนวลให้ "กูให้มึงรอที่เดิมแล้วลงมาทำอะไรสิ้นคิดแบบนี้ทำไม คิดว่าตายไปแล้วมึงจะหนีกูพ้นเหรอ ฮะ!" "อึก.." ซึ่งเธอก็สะดุ้งเฮือกกับเสียงตวาดนั้น "ฉะ..ฉันไม่ได้คิดจะฆ่าตัวตายนะ ก็แค่เล่นน้ำรอนายอยู่ตรงนั้น แต่ไม่รู้ว่าเดินลงมาถึงตรงนี้ได้ยังไง" มือเล็กชี้ไปตรงจุดที่ตัวเองนั่งเล่นน้ำในตอนแรก ห่างจากตรงที่เข้าให้รอเพียงแค่ไม่กี่ก้าวโจรหนุ่มห
เบอร์เขาเปลี่ยนตลอดแน่นอนว่าผู้เป็นนายไม่มีทางรู้ คนมีอาชีพแบบนี้ไม่มีใครใช้เบอร์เดียวหรอกต้องป้องกันไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง"....." อะไรของเขาบทจะให้โทรก็ให้ง่ายๆ เธอขอยืมโทรตั้งแต่หายมาสองวันแรกแล้วจะบอกที่บ้านทุกคนจะได้ไม่เป็นห่วง เขากลับทำเฉยพอเซาซี้มากๆก็มาตวาดใส่จนเธอต้องหยุดดวงตาคู่สวยละจากแผ่นหลังกว้างทันทีที่เจ้าของก้าวลับไป ก้มกดเบอร์โทรของผู้เป็นพ่อแล้วต่อสายหาในนาทีต่อมา(ฮัลโหล) รอสายไม่นานน้ำเสียงเยือกเย็นที่คุ้นเคยก็ดังกรอกเข้ามา"ป๊าคะนี่เน่เองนะ"(เนเน่ตอนนี้ลูกอยู่ไหน ทำไมป๊าโทรไปหาไม่ติด) จากน้ำเสียงเยือกเย็นเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนแฝงไปด้วยความเป็นห่วงจนคนฟังรับรู้และรู้สึกได้(น้องโทรมาเหรอป๊า เปิดโฟนหน่อย) ยังไม่ทันที่เนเน่จะได้ตอบผู้เป็นพ่อ อีกเสียงในปลายสายก็ดังลอดเข้ามา นั่นคือเสียงของเนมาร์ซึ่งเป็นพี่ชายของเธอ(เน่อยู่ไหน ทำไมโทรไปหาไม่ติดรู้ไหมว่าป๊ากับพี่เป็นห่วงมากแค่ไหน) แล้วผู้เป็นพี่ชายก็ถามย้ำต่อ หญิงสาวรู้ว่าทั้งสองคนเป็นห่วงเธอมากแค่ไหน เพราะแบบนี้ไงเวลาไปไหนถึงต้องโทรบอกก่อนแต่ก็ไม่มีโทรศัพท์ที่จะติดต่อไปได้ "หนูมาเที่ยวต่างจังหวัดกับเ
มือเล็กหยิบผ้านวมผืนหนาขึ้นมาห่ม พลางขยับตัวลงนอนหันหลังให้เขาอีกครั้ง เธอสูดจมูกแรงๆเมื่อน้ำมูกเริ่มไหลออกมาอีก “…..” ทำเพลิงที่กำลังเอื้อมวางขวดน้ำลงบนโต๊ะหยุดชะงัก หมับ! รีบหันเข้าไปจับตัวเธอพลิกกลับมาหาหลังจากวางเสร็จสรรพ โดยหารู้ไม่ว่าเธอกำลังจะเคลิ้มหลับเพราะพิษไข้ "อ๊ะ!" ทั้งตกใจและเจ็บ จนเนเน่ยกมือมาลูบแขนตัวเองเบาๆ เธอขมวดคิ้วเข้าหากันงุนงงมองหน้าเจ้าของการกระทำตาปรือ "เป็นอะไร" ไม่พูดเปล่ามือหน้าอังหน้าผากมนวัดอุณหภูมิของร่างกาย เขาแน่นิ่งไปทันทีที่สัมผัสได้ถึงไอความร้อน "ไม่สบาย?" "อือ" เป็นเพราะความซนอยู่ไม่นิ่งของเธอแท้ๆ รออยู่เฉยๆเดินเล่นไปก็จบและไม่ต้องมาป่วยซ้ำซ้อนแบบนี้ เปลือกตาบางค่อยๆหลับลงพร้อมกับขยับศีรษะทุยเข้าไปหนุนหน้าลงบนตักแกร่งอย่างถือวิสาสะ ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมถึงคอแน่น พวงแก้มแดงก่ำบนหน้าสวยที่มีน้ำมูกไหลเยิ้มออกมาซุกเข้าหาท่อนเอ็นใหญ่ใต้ร่มผ้าอย่างลืมตัวทำเอามันผงาดแข็งชัน "....." เพลิงข่มความอยากของตัวเองไม่ให้พลุ่งพล่าน มองคนตรงหน้าที่ไม่ได้สติ "ลุกไปนอนให้ดี" มือหนาดันหน้าเธอออกห่าง แล้วใช้นิ้วปาดน้ำมูกออกจากเนินริมฝีปากอวบอิ่ม "อื้อ~ ตรงนี้
"คุณหนูมาอยู่กับมึงได้ยังไง มึงทำอะไรเธอ" ดินไม่ได้ตอบคำถามนั้นกลับถามออกไปแทน พร้อมกับเดินเข้าไปจับเนเน่ที่ไม่ได้สติในอ้อมแขนของเพลิง หลังจากที่สืบรู้มาว่าเพลิงและพวกเพื่อนๆเคยซื้อบ้านพักไว้ที่ริมทะเลจังหวัดชลบุรี เขาเลยรีบตามมาดูว่าเจ้าตัวได้อยู่ที่นี่หรือเปล่าแล้วสุดท้ายก็อยู่แถมยังเจอหลานสาวที่กำลังตามหาด้วย ทำเขาแอบตกใจอยู่ไม่น้อยไม่คิดว่าเธอจะอยู่ที่นี่กับเด็กว่าจ้างขณะเดียวกันก็งุนงงว่าทั้งสองคนรู้จักกันได้ยังไง ทำไมเพลิงถึงกล้าเล่นของสูงแบบนี้ไม่กลัวตายบ้างเหรอ ถ้าเจ้านายของเขารู้รับรองเลยว่าไม่รอด เพราะโน่เป็นคนหวงลูกสาวมากพอๆกับหวงภรรยาเลยถึงขั้นผู้ชายคนไหนก็ห้ามแตะถ้าไม่ใช่คนในครอบครัวและคนสนิทของลูกสาว"นายอย่าเพิ่งถามอะไรผมตอนนี้ ช่วยให้ผมพาเธอไปโรงบาลก่อน" รู้ว่ายังไงตัวเองก็ไม่รอดแต่ตอนนี้ชีวิตเธอสำคัญที่สุด ซึ่งลมหายใจของเธอเริ่มแผ่วลงเรื่อยๆจนเขารับรู้ได้"เออ" ด้วยความเป็นห่วงหลานดินเลยต้องยอม "พวกมึงไปเตรียมรถออก" เขาหันไปเอ่ยปากสั่งการ์ดที่ยืนอยู่ข้างหลังเสียงเข้ม ก่อนจะสอดมือเข้าไปหมายจะอุ้มหญิงสาวเอง ทว่าเพลิงกลับเบี่ยงตัวหลบเดินตามหลังการ์ดไปเสียก่อน"อย่าเป็นอ
คำอธิบายจากปากนายแพทย์หนุ่มทำให้หยาดน้ำตาที่รื้นเอ่อออกมาคลอเบ้าของเพลิงกลิ้งไหลพรากลงมาบนแก้มสาก เมื่อรับรู้ว่าตัวเองกำลังจะเป็นพ่อคน ต่างจากโน่กับแนทที่เหมือนใจจะสลายราวกับถูกมีดแทงกลางอก มันเป็นข่าวร้ายของคนเป็นพ่อและแม่ที่รู้ว่าลูกถูกกระทำให้ติดยาแถมยังมีหลานมาให้พวกเขาตอนนี้อีก ไม่ใช่ไม่ดีใจที่มีหลานแต่ถ้าหลานเป็นอันตรายและออกมาไม่ครบสามสิบสองจะทำยังไง แน่นอนอยู่แล้วว่าสารในร่างกายของเนเน่ยังไงก็กระทบถึงเด็กในท้อง"ลูกพ่อ" เพลิงเอ่ยออกมาเสียงสั่นด้วยความดีใจที่มีอีกหนึ่งชีวิตกำลังจะเติบโตอยู่ในท้องเมียของตัวเอง สายตาคู่คมสอดส่องไปยังช่องตรงบานประตูห้องฉุกเฉิน อีกไม่กี่เดือนข้างหน้าหนึ่งชีวิตนั้นก็จะออกมาเติมเต็มให้กับเขา"คนไข้ยังคงต้องอยู่ใกล้ชิดแพทย์ตลอดนะครับเพราะต้องได้รับการบำบัดเนื่องจากคุณแม่ที่ใช้สารเสพติดระหว่างตั้งครรภ์ทำให้ครรภ์อาจเป็นพิษเสี่ยงต่อการแท้งได้เพราะอายุครรภ์ยังอ่อนอยู่ อีกอย่างสารจะซึมผ่านเข้าปอดของคุณแม่เข้าสู่กระแสเลือด ผ่านไปยังรก ส่งผลต่อการเจริญเติบโต และพัฒนาการของเด็กตั้งแต่แรกเกิดได้ เช่น น้ำหนักแรกเกิดน้อย มีความผิดปกติของหัวใจแต่กำเนิด เส้นรอบศีร
หลังจากที่การ์ดลากร่างหมดสติของเพลิงออกไปตามคำสั่ง โน่ก็ยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองเบาๆเพื่อเรียกสติกลับมา คราบเลือดของอีกคนที่ติดอยู่บนหลังมือไหลย้อยลงมาตามแขน แต่ทว่าเขาไม่ได้สนใจ เท้าใหญ่หันเดินไปหาภรรยาของตัวเองที่นั่งดมยาดมรออยู่บนเก้าอี้"อ้วนเข้าไปดูลูกก่อนนะ แด๊ดขอไปจัดการสะสางเรื่องทั้งหมดให้เรียบร้อยก่อน" เขาเอ่ยบอก พร้อมกับยกฝ่ามือหนาขึ้นลูบศีรษะของเธอเบาๆ"รีบกลับมานะ" แนทเงยหน้ามองเจ้าของร่างสูง ตวัดแขนเรียวเข้าไปโอบกอดเอวสอบแน่นพลางซบหน้าลงบนหน้าท้องแกร่ง"ครับ มีอะไรรีบโทรหาแด๊ดนะ""....." เธอพยักหน้ารับคำ ค่อยๆคลายแขนออกจากเอวของสามี ก่อนจะถูกเขาจับเงยหน้า และริมฝีปากหนาโน้มเข้ามาจุมพิตกลางหน้าผากมนแสดงความรัก"พวกมึงดูแลเมียกูดีๆด้วย" โน่หันไปออกคำสั่งการ์ดและลูกน้องคนอื่นๆ แล้วเดินออกไปทันทีโดยมีดินเดินตามหลังมาอย่างรู้หน้าที่@เกาะสีชัง (บ้านพักของเพลิง)เนื้อทรายเม็ดละเอียดทำให้คนที่ได้สัมผัสรู้สึกผ่อนคลายทุกย่างก้าวที่เดิน บรรยากาศอันเงียบสงบของทะเลยามบ่ายเกือบเย็น เกลียวคลื่นทักทายสายลมซัดกระแสน้ำจากกลางอ่าวไทยผ่านร่างหมดสติของเพลิงที่ถูกมัดติดกับเก้าอี้ไม้ตัวแข็งพัดพ
"เกิดอะไรขึ้นวะ" เสือที่เพิ่งมาถึงเอ่ยถามเพื่อนรักทั้งสองคนด้วยสีหน้าตกใจ อยู่ๆเล้งก็โทรไปบอกว่าเกิดเรื่องใหญ่แล้วให้รีบกลับมา"กรอบรูปที่พวกเราถ่ายร่วมกันตกลงมาแตก" เป็นตี๋ว่า พร้อมกับยื่นกรอบรูปไปให้ดู เสือก็รับมาดูก่อนจะตกใจไม่ต่างจากเพื่อนทั้งสองคนที่ตกใจมาก่อนหน้าแล้ว"เหี้ย! ทำไมแตกตรงหน้าไอ้เพลิง" เขาสบถคำหยาบออกมาด้วยความไม่เข้าใจ แต่ทว่าไม่ใช่เวลาที่จะมายืนคุยกันตอนนี้ต้องรีบไปหาเพลิงก่อนเล้งจึงตัดบทขึ้น"อย่าเพิ่งถามหรือสงสัยอะไรตอนนี้ ไปหาไอ้เพลิงก่อน" ว่าจบเล้งก็รีบหยิบกุญแจบนโต๊ะทำงานเดินออกไปยังรถยนต์คันหรูทันทีโดยตี๋ก็รีบเดินตามหลังออกไปติดๆ ไม่รอเสือที่ยังมัวแต่ยืนอึ้งตกใจกับสิ่งที่เห็น"อ้าวเฮ้ยรอกูด้วย" พอได้สติเสือจึงรีบวางกรอบรูปลงบนโต๊ะ แล้ววิ่งตามเพื่อนรักทั้งสองคนลงไปทันทีปลั่ก!ยังไม่ทันที่เพลิงจะบอกจบปลายกระบอกปืนในมือของโน่ก็เหวี่ยงกระแทกใส่ซีกแก้มของอีกฝ่ายเต็มแรง ในตอนที่เจ้าของไม่ทันตั้งตัว"อั่ก" ทำเอาคนโดนกระทำร้องขึ้นด้วยความเจ็บปวดไปพร้อมกับใบหน้าเหยเก ก่อนหยาดเลือดจากขมับค่อยๆไหลเยิ้มลงมาอาบข้างแก้มไม่ต้องรอฟังถึงตอนจบหัวอกของคนเป็นพ่อก็รับรู้ถึงควา
“อ้าว มาถึงกันตั้งแต่ตอนไหน” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นทันทีเมื่อเดินกลับเข้ามาในบ้านตัวเองช่วงพลบค่ำพร้อมกับหลานชาย แล้วเห็นหญิงสาวเดินลงมาจากชั้นสองพร้อมชายหนุ่มร่างสูงกำยำคงจะเป็นหลานเขยสินะ หน้าตามันคุ้นๆแฮะเหมือนเคยเจอที่นี่ไหน?“คุณปู่ สวัสดีค่ะ” เนเน่ยกมือขึ้นประนมไหว้ ก่อนเธอจะเร่งฝีเท้าเข้าไปกอดผู้เป็นปู่อย่างที่เคยทำเวลามาหา “คิดถึงจังเลย” “อะ ขี้อ้อนเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน” นุลูบศีรษะทุยเบาๆกอดหลานกลับ ทั้งก้มหอมกุมผมให้หายคิดถึงคูลจ้องมองคนข้างหลังพี่สาวไม่วางตา เห็นอย่างนั้นเพลิงเองก็จ้องกลับไปเช่นกันด้วยสีหน้าเชิงมีคำถาม ว่าเด็กหนุ่มได้มีปัญหาอะไรกับเขาหรือเปล่า เด็กหนุ่มนิ่งเลือกที่จะเดินเลี่ยงขึ้นไปชั้นสอง แม้จะคับแค้นใจไม่น้อยกับเรื่องที่เพลิงได้เคยกระทำต่อเนเน่ แต่เขาก็ไม่อยากจะยุ่งปล่อยให้เจ้าตัวนั้นเลือกทางเดินของชีวิตเอาเอง“ทำไมวันนี้คุณปู่กลับมาเย็นจังคะ” ใบหน้าสวยแหงนถาม ในขณะที่ยังคงแนบชิดกับอกแกร่งของปู่และกอดเอวท่านอยู่หลวมๆ“แวะไปตีกอล์ฟกับเพื่อนมาน่ะ แล้วนี่เจ้าสองแสบปู่อยู่ไหน” นุตอบพร้อมกวาดสายตามองรอบๆ เมื่อไม่เห็นเหลนตัวน้อยทั้งสองคนจึงถามหา“น่าจะอยู่กับคุณย
“หนูม่ายต้ายหวันจาห้ายทินยดโตดห้ายจุนป้อนะกะถ้าทินม่ายเท็มจาย หนูแค่หยาดห้ายทินพ่อยวางห้ายจุนแม่กับปวกหนูต้ายเยือกกู้ซีวิดแยะป้อกานเอนต้ายมายกะ ห้ายกวามสุดปวกเยาต้ายมาย (หนูไม่ได้หวังจะให้ตินยกโทษให้คุณพ่อนะคะถ้าไม่เต็มใจ หนูแค่อยากให้ตินปล่อยวางให้คุณแม่กับพวกหนูได้เลือกคู่ชีวิตและพ่อกันเองได้ไหมคะ ให้ความสุขพวกเราได้ไหม)”“จะให้น้ามั่นใจได้ยังไงว่าสิ่งที่พวกหนูกับแม่หนูเลือกมันดีที่สุดแล้ว คนมันสันดานโจรทำเลวมาตั้งแต่เด็ก คิดเหรอว่ามันจะกลับตัวกลับใจมาเป็นผัวที่ดีพ่อที่ดีให้หนูกับแม่หนูได้”“ถึงผมจะเคยเลวเคยทำไม่ดีทำร้ายเนเน่กับลูก แต่ผมสัญญา..ต่อจากนี้ไปผมจะเป็นสามีที่ดีให้กับเธอจะเป็นพ่อที่ดีให้กับลูก จะรักและดูแลพวกเขาให้ดีที่สุดยิ่งกว่าชีวิตของผม” เพลิงละอายใจเอ่ยขัดบอกออกมาเองตามความรู้สึกหลังยืนนิ่งฟังลูกช่วยอยู่นาน ชายหนุ่มไม่ได้ขี้ขลาดที่จะเผชิญหน้าขอให้เด็กหนุ่มเห็นใจยอมไว้ใจให้โอกาสเขาได้ชดเชยในสิ่งที่เคยกระทำกับหญิงสาวและลูกสาวทั้งสองคน แต่แค่ไม่อยากจะมีปัญหาเพิ่มอีก เลยเลือกจะอยู่นิ่งๆ อะไรที่ยอมได้ก็ยอมทว่าลูกคนเล็กกลับช่วยพูดขอจนเขาอดที่จะอยู่เฉยๆไม่ได้ ไม่อยากให้ลูกนั
เย็นวันเดียวกันเสือกำลังขับรถพาแคทและแคนดี้มาหาเพื่อนรักของพวกเธอกับหลานสาวหลังจากที่ทั้งสามคนพากันไปวัดไซส์ตัดชุดแต่งงาน พร้อมกับเลือกโปสต์การ์ดและของชำร่วยรวมไปถึงสถานที่มาเสร็จสรรพ ฟังไม่ผิดหรอกเสือกับแคทกำลังจะแต่งงานกันปลายเดือนหน้านี้แล้วโดยมีแคนดี้จัดการแนะนำจองร้านดังงานดีระดับประเทศซึ่งเป็นของพี่สาวที่เป็นลูกพี่ลูกน้องไว้ให้ทั้งนำทางมา ตามจริงเนเน่ต้องมาด้วยแต่เพราะติดที่ลูกงอแงคิดถึงน้าชายไม่หยุดจึงมาด้วยไม่ได้ เขาเลยต้องพาแวะไปหาเนี่ยแหละทันทีที่รถเลี้ยวเข้ามาจอดสนิทแล้วการ์ดได้เปิดประตูให้ แคนดี้ก็รีบก้าวลงจากรถ ก่อนจะเดินตัวปลิวนำหน้าเพื่อนกับแฟนเพื่อนไปอย่างไม่รีรอ“นี่แคนดี้แกจะรีบไปไหนเนี่ย กลับมาช่วยถือของเล่นหลานก่อนเลยนะ..อย่าเนียนเดินตัวปลิว” แคทหันมาร้องเรียก ขณะกำลังเดินไปหยิบของเล่นที่ซื้อมาฝากหลานสาวหลังรถคนถูกเรียกได้ยินก็หยุดฝีเท้าหมุนตัวกลับมาทำหน้าเจือนๆด้วยความลืมว่ามีของที่ตัวเองซื้อมาให้หลานด้วย “แหะๆ ฉันลืม”“ลืมตลอดแหละแกอะ” ใบหน้าหวานส่ายระอากับนิสัยตีเนียนของเพื่อนรัก พลางหยิบถุงยื่นไปให้สามถุงแคนดี้แบะปากยักไหล่ไม่ยี่หระอุตส่าห์จะตีเนียนสักหน่อยโ
หนึ่งเดือนต่อมา..ชีวิตครอบครัวของเนเน่และเพลิงดำเนินกันมาอย่างมีความสุขปะปนกับความทุกข์ใจเรื่องเนติน นับตั้งแต่คืนวันนั้นเจ้าตัวก็ขาดการติดต่อจากคนที่บ้านไปเลย แม้ว่าเนเน่กับคนอื่นๆในครอบครัวพยายามติดต่อไปหาเท่าไหร่อีกฝ่ายก็ไม่ยอมรับสาย ไม่ว่าจะติดต่อผ่านทางลูกน้องคนสนิท ลูกพี่ลูกน้องหรือตายาย พอทุกคนยื่นสายไปให้เนตินก็จะรีบเดินหนีไปทันทีจนคนอื่นๆเอือมระอาเลิกติดต่อไป เหลือเพียงแต่เธอที่ยังคงดั้นด้น“จุนแม่ก๋า.. (คุณแม่ขา)” “หือ?” เจ้าของใบหน้าสวยเลิกคิ้ว พลางช้อนตามองลูกสาวคนเล็กตรงหน้าที่เอ่ยเรียกตนขึ้นขณะนั่งยกโทรศัพท์มือถือแนบหูพยายามต่อสายหาน้องชายครั้งแล้วครั้งเล่าอยู่บนเบาะคอกกั้นในห้องนั่งเล่น ก่อนเพลงพิณจะพูดถามออกมาเสียงสั่นๆราวกับคนจะร้องไห้“ทินโขดอาใยปวกเยาหย๋อกะ ตำมายจุนแม่โตปายม่ายเกยยับซัดที โตกาบก็ม่ายมี (ตินโกรธอะไรพวกเราเหรอคะ ทำไมคุณแม่โทรไปไม่เคยรับสักที โทรกลับก็ไม่มี)” แววตาเด็กหญิงเศร้าสร้อยมองผู้เป็นแม่อย่างตัดพ้อ แทบไม่เหลือคาบร่าเริงอย่างที่ควรจะเป็น “.....” ได้ยินเช่นนั้นเนเน่ก็หน้าเจื่อนลง เธอสงสารลูกจับใจ..มันหลายอาทิตย์แล้วที่เพลงพิณและเพลินลินงอแงบ่น
"....." สันกรามของเจ้าของคำถามบดเข้าหากันอย่างฉุนมาก สองมือกำมัดแน่น ตวัดสายตาคมกริบไปมองเพลิงที่เป็นคนตอบเอง"ใครอนุญาตให้มึงมาอยู่" "ป๊าให้มันมาอยู่ช่วยทำงานแทนตอนพาม๊าไปฮันนีมูน" เป็นโน่บอกตามความจริง "ทำไมไม่ให้เฮียทำ""มันว่างไหมล่ะ""กลับมาแล้วก็ไล่มันออกไป" "ติน.." เนเน่ทนไม่ได้หมายจะพูดช่วยให้น้องชายเข้าใจกันบ้างและปล่อยวางสักที ทันใดนั้นเพลิงก็กุมมือส่ายหน้าห้ามเธอไว้ไม่ให้พูดอะไร เดี๋ยวมันจะบานปลายไปเสียเปล่าๆ"....." ขณะที่โน่เงียบไปอย่างทำอะไรไม่ถูก ซึ่งเนตินเป็นคนไม่ฟังใครและพูดยากมันทำให้เขาค่อนข้างลำบากใจ เพราะนี่ก็ลูกนั่นก็สามีของลูกจะให้ไล่ออกไปมีหวังทั้งลูกทั้งหลานได้หอบผ้าตามไปแน่ ให้ตายยังไงเขาก็ไม่ยอมให้ลูกกับหลานออกไปอยู่ที่อื่นเด็ดขาด"จะไล่มันออกไปได้ไง ก็ป๊ายอมรับมันเป็นลูกเขยแล้ว" เมื่อเห็นผู้เป็นพ่ออึกอักไม่กล้าบอก เนมาร์เลยโพล่งฉวยโอกาสฟ้องก่อตั้งพวกเขม้น หลังทนนั่งฟังเงียบๆมาสักพัก"ฮันนี่!" สถานการณ์ยิ่งคุกรุ่นไม่ค่อยจะดีอยู่ พอเห็นสามีจุดชนวนก๋วยเตี๋ยวจึงปรามให้อยู่นิ่งๆ แล้วกระดุกแขนแกร่งให้ลุกขึ้นพาเด็กๆที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่ให้ออกไปจากห้องนี้ก่อน
"ขอบคุณนะ.." ชายหนุ่มกล่าวขอบคุณ รั้งศีรษะทุยเข้ามากดหอม "ขอบคุณที่อดทนช่วยเหลือพี่จนครอบครัวเรายอมรับ" "จะขอบคุณทำไม ทุกอย่างมันอยู่ที่ความพยายามของพี่เองทั้งนั้น" เนเน่ยิ้ม แหงนหน้ามองสามีพร้อมกับตอบกลับโดยที่เขาลูบผมเธอไปด้วย "แต่ถ้าไม่ได้เราช่วยเหลือเลย ป่านนี้พี่อาจยังไม่ถูกยอมรับก็ได้""เหรอ แต่เน่ว่าคงไม่ใช่แค่เน่คนเดียวหรอกที่ช่วยเหลือพี่..""....." คิ้วเข้มขมวดเลิกขึ้นอย่างไม่เข้าใจ ยังมีใครอีกเหรอที่คอยช่วยเหลือเขานอกจากเธอ"ยังมีม๊าอีกคนนะ" "ม๊า?" "ใช่ คืนก่อนวันที่จะพาลูกไปหา ถ้าไม่มีม๊ามาคอยพูดให้เน่เลิกสับสนกับความรู้สึกของตัวเอง ป่านนี้คงไม่ได้มาอยู่ด้วยกันแบบนี้หรอก""งั้นพี่ก็ต้องไปขอบคุณม๊าด้วยใช่ไหม" "คงงั้นมั่ง" ใบหน้าสวยแนบลงบนไหล่แกร่งหลังพูดจบ ทว่าไม่ทันไรก็รีบแหงนมองหน้าสามีอีกครั้งเมื่อฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้.."หือ?" การกระทำของคนตรงหน้าทำเอาเพลิงถึงกับงุนงง แต่ยังไม่ทันที่เขาจะเอ่ยถามเสียงใสก็ดังถามขึ้นมาติดๆ"พี่เพลิงลืมอะไรไปหรือเปล่า.." "ลืมอะไร" "ก็..มีป๊าแค่คนเดียวเองนะที่ยอมรับพี่ เฮียกับตินยังไม่ได้ยอมรับพี่เลย" หารู้ไม่ว่าจริงๆเขาไม่ได้ลื
"ว้าว มีแต่ของน่าทานเหมือนเดิมเลย" พอเดินมาถึงห้องอาหารเห็นบนโต๊ะมีอาหารหลากหลายอย่างวางเต็มไปหมด ทำให้ฟีฟายหวนคิดถึงตอนเด็กๆที่เขามักจะมาเล่นและรับประทานอาหารที่นี่เป็นประจำในวันหยุด"มีฉู่ฉี่ปลาทูของชอบพี่ฟีฟายเหมือนเดิมด้วยนะ เหมือนแม่นมรู้ว่าพี่จะมา" ไม่ว่าเปล่าหญิงสาวหย่อนสะโพกนั่งลงพร้อมกับสามี เพลิงเหล่มองทั้งสองคนพูดคุยกันอย่างไม่ชอบใจแต่ก็ไม่ได้ปริปากอะไร ได้แต่ขบกรามแน่น"คนสำคัญก็งี้แหละ" ฟีฟายยักไหล่โอ้อวดมาหย่อนตัวนั่งลงฝั่งตรงข้าม ก่อนแม่บ้านจะมาตักข้าวใส่จานให้ "แล้วนี่ไอ้เนกับไอ้ตินไปไหน ไม่ลงมากินด้วยกันเหรอ" "เนตินอยู่ดูแลงานแทนป๊าที่ญี่ปุ่นยังไม่กลับมาเลยค่ะ ส่วนเฮียน่าจะหอบลูกไปเฝ้าเมียที่มหาลัยแต่เช้าโน้น""ท่าจะหวงเมียจัด""มากๆ มาหนักก็ปีที่แล้วอะ ม๊าบอกซามิชวนก๋วยเตี๋ยวไปซื้อของเป็นเพื่อนและแวะดูหนัง แล้วบังเอิญเจอเพื่อนอีกคณะชวนไปงานวันเกิดที่ผับต่อโดยไม่บอกเฮีย จนมีคนส่งรูปมาถามเฮียรู้รีบบุกไปลากกลับมาทันที สภาพนี่ไม่ต้องพูดถึงเมาเละเทะ เฮียโมโหมากจับล่ามโซ่ไม่ให้ไปเรียนเป็นอาทิตย์" "ฮ่าๆๆ ถึงกับล่ามโซ่เลยอ๋อ""นิ่งเฉยก็ไม่ใช่เฮียสิ" มือเล็กตักข้าวใส่ปาก ไม
ใบหน้าสวยส่ายไปมา พลางหันกลับมาเลือกชุดต่อ ในขณะที่อีกคนเปิดลิ้นชักหยิบกล่องบุหรี่พร้อมไฟแช็กในตัว เดินต่อไปยังระเบียงเพื่อระบายความหงุดหงิดและเจ็บใจในเวลาเดียวกันที่ภรรยาเห็นคนอื่นสำคัญกว่าคำสั่งตนเพลิงเปิดบุหรี่ออกมาแล้วจุดสูบ เพียงไม่กี่นาทีเนเน่ก็เดินออกมาในชุดเสื้อแขนยาวไหมพรมคอวีสีขาว กางเกงผ้ามัดยอมพาสเทลขายาวทรงหลวมสีขาวดำตามสไตล์การอยู่บ้านของเธอ ดวงตากลมโตกวาดมองไปรอบๆห้องหลังไม่เห็นสามี ก่อนสะดุดตรงประตูระเบียงที่ถูกเปิดคาไว้จนเห็นแผ่นหลังแกร่งของเจ้าตัวที่ยืนสูบบุหรี่อยู่เธอดึงยางรัดผมจากข้อมือออกมามัดด้วยความรำคาญ พร้อมกับเดินนวยนาดเข้าไปหา เพลิงเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาใกล้ๆก็ไม่ได้สนใจพ่นควันบุหรี่ขาวคลุ้งออกจากปาก"พี่จะลงไปกินข้าวไหม หรือจะเข้าห้องไปทำงานต่อ เน่จะได้ให้แม่บ้านยกข้าวขึ้นมาให้" ริมฝีปากอวบอิ่มเปล่งเสียงถาม "....." แล้วคำตอบที่ได้กลับมาคือความเงียบ ชายหนุ่มสูดควันบุหรี่เข้าเต็มปอด พลางทอดสายตามองบรรยากาศรอบๆทั้งพ่นมันออกมาราวกับไม่ได้ยินในสิ่งที่เธอถาม"พี่เพลิง ได้ยินที่เน่ถามไหม" เห็นอย่างนั้นหญิงสาวจึงย้ำถาม มือเล็กเอื้อมจับท่อนแขนแกร่งดึงเขาให้ห
"ฮึ่ย.." เจ้าพ่อมาเฟียใหญ่ขบกรามฮึดฮัดทันทีที่ถูกตัดสาย เขายกโทรศัพท์มือถือออกจากหูปามันใส่ฝาผนังห้องนอนอย่างแรงปึก! เพล้ง! แรงกระแทกอย่างหนักส่งผลให้มันแตกกระจายไปคนละทิศละทางโดยที่เจ้าของได้แต่นั่งนิ่งๆมองโทรศัพท์มือถือของตัวเองเละไม่มีชิ้นดี ใบหน้าแดงก่ำไปถึงใบหู พร้อมกับฝ่ามือทั้งสองข้างกำแน่นทำเอาดินไม่กล้าจะพูดอะไรออกมา"อื้อ~" แนทที่สะดุ้งรู้สึกตัวตั้งแต่ได้ยินเสียงสามีอาละวาดลั่นอยู่ก่อนแล้ว ลืมตาตื่นอย่างงัวเงียด้วยความหงุดหงิดเมื่อมาได้ยินเสียงกระแทกของวัตถุบางอย่างดังสนั่นขึ้นอีก เธอยันตัวลุกขึ้นเดินไปคว้าชุดคลุมหน้าตู้เสื้อผ้ามาสวมใส่ แล้วเดินออกไปจัดการกับเจ้าของกระทำเพราะรู้สึกเอือมระอามากและเพียงก้าวพ้นกรอบประตูก็เห็นสามีนั่งอารมณ์ฉุนเฉียวอยู่บนโซฟาคนละตัวกับลูกน้อง โดยที่พื้นนั้นเต็มไปด้วยเศษซากโทรศัพท์มือถือ"เป็นบ้าอะไรของแด๊ด ฮะ! ดึกดื่นป่านนี้แล้วมันใช่เวลามาอาละวาดไหม" แนทตวาดถามด้วยความโมโห น้ำเสียงเกรี้ยวกราดของเธอทำเอาโน่ตวัดสายตามอง ก่อนจะค่อยๆสงบสติอารมณ์ยกมือขึ้นลูกหน้าตัวเอง และดินยังคงนั่งเงียบๆแต่เสมองไปทางอื่นหลบสายตาดุดันที่สลับมองมา"ก็ไอ้เวรนั่นมัน