"....." แววตาดุดันกว่าทุกครั้งจ้องมองคนตรงหน้าที่เรียกชื่อตน ก็แอบตกใจที่เจอเธอที่นี่ แล้วไหนบอกเขาว่ากลับไปกินข้าวกับครอบครัวแสดงว่าโกหกกันสินะ จะให้เขาคิดว่ามากินที่คลับมันคงไม่ใช่และเพลิงกัดฟันแน่นมองอีกฝ่ายไม่วางตาผ่านแสงไฟสลัว ท่ามกลางคนเดินเข้าออกห้องน้ำและใช้ที่แถวนี้ระบายความใคร่ตามมุมมืด ขณะที่เนเน่กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ด้วยความรู้สึกกลัว"นี่เหรอกินข้าวกับครอบครัว?" เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามออกมาหลังควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ให้บันดาลโทสะออกไปในที่แบบนี้ แล้วอีกอย่างเป็นที่ของเจ้านายใหญ่ด้วยซึ่งเขาไม่อยากมีปัญหา"....." ร่างกายแข็งทื่อราวกับถูกมนต์สะกดเมื่อได้ยินคำถามนี้ เธอเม้มริมฝีปากอวบอิ่มเข้าหากันแน่นอย่างไม่รู้จะตอบกลับยังไง เพราะบอกความจริงไปไม่ได้สองขาเรียวเลือกที่จะก้าวเดินหนีมันเป็นทางเดียวในตอนนี้ที่เลี่ยงได้ คิดว่าคนเยอะเขาคงไม่กล้าทำอะไรถ้ากล้าคงทำไปตั้งแต่เจอหน้าแล้ว เธอรู้จักนิสัยเขาดีคนอย่างเขาไม่มาถามเหตุผลคนอื่นแบบนี้หรอกหมับ!เพียงแค่หันตัวก้าวขาก็ถูกมือหนาของโจรหนุ่มเอื้อมมาคว้าแขนเรียวไว้อย่างรวดเร็ว กระชากตัวเธอเข้ามาแนบชิดกับแผงอกแกร่งอย่างแรง แน่นอนว่าเธอไม่ทั
"....." เธอไม่อยากพูดอะไรแล้วไม่ว่าจะบอกสักกี่ครั้งว่าเธอกับฟีฟายเป็นแค่พี่น้องกันสนิทกันมากจะให้เลิกยุ่งกันมันทำไม่ได้หรอกเขาก็ไม่เข้าใจ เอาแต่อารมณ์ตัวเองเป็นใหญ่ไม่ฟังใครเลยซึ่งตอนนี้ยังหัวเสียใส่เธอไม่เลิกดวงตาแดงก่ำด้วยความโกรธจ้องมองเธออย่างน่ากลัว ครั้งนี้เขาดูน่ากลัวกว่าครั้งไหนๆเธอรู้สึกแบบนั้นเหมือนอารมณ์ที่เขากลั้นอยู่กำลังจะปะทุออกมามันน่ากลัวจนบอกไม่ถูก"กูเคยบอกมึงไปแล้วใช่ไหมว่าไม่ชอบใช้ของร่วมกับใคร แล้วกูก็บอกไปอีกว่าอย่าร่านอีกถ้าไม่อยากให้มันตายทำไมมึงไม่ฟัง ฮะ! อยากเห็นมันตายมากใช่ไหมหรืออยากเจ็บตัว" มือหนาจากที่บีบปลายคางก็เลื่อนมาบีบลำคอระหงเต็มแรง ดึงเนเน่เข้ามาใกล้ๆทำให้ตัวเธอเอียงตามแรงไปจนแนบชิดกัน"อึก" คนโดนกระทำดิ้นพล่านปัดป่ายพยายามแกะมือหนาออกจากลำคอ ความบีบแน่นทำเอาเธอแทบขาดอากาศหายใจ หยาดน้ำตาที่เอ่อออกมาคลอเบ้าค่อยๆกลิ้งไหลลงมาช้าๆอย่างรู้สึกทรมาน"ตอบสิวะ.." หญิงสาวสะดุ้งโหยงกับเสียงตวาดเค้นถามลอดฟันของเขา "..ที่มึงกล้าโกหกกูกลับไปยุ่งกับมันอยากเห็นมันตายหรืออยากเจ็บตัว""ขะ..เขา..อึก..ปะ..เป็นพี่ชายฉัน" ริมฝีปากบางพยายามเปล่งเสียงเอ่ย ไม่รู้ครั้งที
@คอนโดเนเน่พอขับรถมาถึงที่หมายฟีฟายก็ลงเดินเข้าไปด้านในตรงขึ้นลิฟต์ไปยังห้องของเนเน่ทันทีด้วยความเป็นห่วง ซึ่งเขาไม่รู้ว่าเธอกลับมากับเพื่อนคนไหนระหว่างตอนที่ขับรถมาได้ติดต่อไปถามเพื่อนรักทั้งสองคนของเธอแล้วก็ไม่อยู่และพยายามติดต่อหาเธออีกครั้งแต่ก็ติดต่อไม่ได้เลย ทำเอาเขาอดคิดไม่ได้กลัวเพื่อนที่ว่าคือเพลิงก๊อก! ก๊อก!มือหนายกขึ้นมาเคาะประตูห้องสลับกับกดกริ่งเรียกไปมาอยู่นานหลายนานที แต่ทว่าไม่มีท่าทีว่าเจ้าของห้องจะออกมาเปิดให้เลยแม้แต่นิดเดียวก๊อก! ก๊อก!เลยลองเคาะดูอีกสักพักถ้าหญิงสาวไม่ออกมาเปิดมันก็ชัดเจนว่าเพื่อนที่ว่าคงเป็นเพลิงและคงจะอยู่ด้วยกัน ถ้าเป็นอย่างนั้นแน่นอนว่าเขาทำอะไรไม่ได้ก็ต้องรอให้เธอกลับมาแล้วติดต่อมาเอง นานหลายนาทีสุดท้ายเนเน่ก็ไม่ได้ออกมาเปิดให้น่าจะยังกลับมาไม่ถึงหรือว่าไม่กลับก็ไม่รู้ ฟีฟายหันตัวเดินกลับไปขึ้นลิฟต์ลงไปชั้นล่าง"ขอโทษนะครับ เห็นเนเน่กลับมาหรือยัง" ฟีฟายเอ่ยถามพนักงานหน้าเคาน์เตอร์เดินออกมาจากลิฟต์"ยังไม่เห็นเลยนะคะ คะ.." พนักงานสาววัยกลางคนหยัดกายลุกขึ้นตอบกลับ"ขอบคุณครับ" ไม่รอให้พนักงานได้ถามอะไร ฟีฟายก็ผลุนผลันเดินออกกลับไปยังรถซูเป
"อ๊ะ!..โอ๊ย" อาการตกใจประกอบกับไม่ทันได้ตั้งตัวส่งผลให้ใบหน้าสวยลืมตาตื่นทิ่มลงไปกับพื้นทรายเต็มๆ ขณะเดียวกันมือหนาของเพลิงปัดทรายที่เกาะอยู่บนแผ่นหลังขาวผุดผ่องออกให้อย่างรุนแรงจนเห็นเป็นรอยแดงจากฝ่ามือของเขาอย่างชัดเจน "อึก..นายจะทำอะไรอีก" เนเน่ยกมือซีดๆเปื่อยยุ่ยขึ้นลูบเม็ดทรายเปียกชุ่มออกจากหน้าเอี้ยวไปถามคนข้างหลัง ทั้งๆที่ร่างกายยังสั่นเทาไม่หยุดเพราะความหนาว"....." คนถูกถามกลับไม่ตอบได้แต่แสยะยิ้มมุมปากออกมา ทำเอาคนที่มองอยู่ส่ายหน้าปฏิเสธไปเบาๆอย่างรู้ดีเนื่องจากร่องสวาทของเธอบวมจนรับรองความใคร่ให้เขาต่อไม่ไหว ปึก!แล้วเขาก็ไม่สนใจยกบั้นท้ายของเธอขึ้นอัดกระแทกท่อนเอ็นใหญ่เข้ามาในกายสาวอีกครั้งจนสุดความยาวของมันในคราเดียว ความบวมเบ่งส่งผลให้ช่องทางรักแดงเถือกฉีกขาดแทบจะนับครั้งไม่ได้"อึก.." ก็รู้ว่าไม่สามารถหยุดความป่าเถื่อนของเพลิงได้เนเน่ทำได้แค่เอี้ยวหน้ากลับมากัดฟันขมความเจ็บปวด เล็บคมจิกลงบนพื้นทรายก่อนน้ำตาในดวงตากลมโตค่อยๆรินไหลอาบแก้มนวลอีกครั้งปั่ก! ปั่ก! ปั่ก! ปั่ก!"อื้อ!!" ร่างกายโยนคลอนไปตามจังหวะรักหนักหน่วงของโจรหนุ่มที่ถาโถมเข้าใส่อย่างบ้าคลั่ง มือหนาทั้งสอ
"ไอ้ห่าเพลิงมันหายไปไหนของมันวะ" เสือเอ่ยขึ้นหลังนั่งรออยู่ที่คลับสองสามชั่วโมงแล้วเพลิงก็ยังไม่กลับมา คิดว่าคงหนีกลับไปแล้วทุกคนเลยต้องรีบกลับจนมาถึงบ่อนก็ขึ้นไปดูบนห้องนอนส่วนตัวก็ไม่เห็นวี่แวว ทำเอาเขาและทุกคนเป็นห่วงไม่น้อยอยู่ๆเพลิงได้หายไปไม่บอกไม่กล่าวแถมโทรหายังไม่รับอีกเป็นร้อยๆได้มั่ง จึงพากันมานั่งรอในห้องทำงานต่อนานเกือบชั่วโมงถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีวี่แววตามเดิม"เออง่วงฉิบหายต้องมานั่งพะวงเป็นห่วงแม่งเนี่ย บอกไปเข้าห้องน้ำหายหัวไปเลยไม่ใช่ลากสาวไปข่มขืนแล้วเหรอ" ตี๋ว่าบ้างอย่างติดตลก ซึ่งเขารู้นิสัยเพลิงดีว่าไม่ใช่คนแบบนั้นแต่แค่ไม่อยากให้เพื่อนรักทั้งสองคนเครียดมากเกินไป ทว่าเขาเองก็เครียดไม่ต่างกันตอนไปไปกันครบขากลับไม่ครบซะงั้น"เห็นมันเป็นคนอย่างนั้นรึไง" เป็นเล้งตอกกลับด้วยสีหน้ากังวล "ไม่อ่ะ คนห่าไรไม่รู้ทั้งเย็นชาทั้งโหดกับผู้หญิงฉิบหาย แต่แปลกกับเด็กคนนั้นกลับแดกซะยับยู่ยี่" "กูว่าแม่งต้องหนีไปหาเมียมัน" พอตี๋พูดจบ เล้งก็นึกได้ขึ้นมาทันที"กูก็คิดแบบนั้น" เสือพูดอย่างคิดเหมือนกันกับเล้ง"งั้นก็ไม่ต้องรอแม่งและ เดี๋ยวมันเห็นสายที่เราโทรไปคงโทรกลับมาเองแหละ" ว่าจบตี๋
วันต่อมา..ครืด~ ครืด~โทรศัพท์มือถือเครื่องหรูที่วางอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียงแผดเสียงร้องดังในช่วงสายของวันใหม่ ปลุกคนที่นอนหลับอยู่บนเตียงให้รู้สึกตัวตื่น"อืม~" โจรหนุ่มซึ่งรู้สึกตัวตื่นเป็นคนแรก ยกมือข้างหนึ่งที่วางอยู่บนเอวคอดเอื้อมมือไปคลำหาโทรศัพท์มือถือของตัวเองที่แผดเสียงร้องดังอย่างต่อเนื่อง ทั้งๆยังหลับตาอยู่ แล้วกดรับสายทันทีหลังหยิบขึ้นมาหลี่ตาดูว่าเป็นสายของใครที่โทรเข้ามา นั้นคือเสือเพื่อนรักของเขาเอง(ฮัลโหล มึงอยู่ไหน) ยังไม่ทันที่เจ้าตัวจะได้เอ่ยอะไรออกไป เสียงทุ้มจากคนปลายสายก็ดังขึ้นด้วยความเป็นห่วงจนรู้สึกได้"อยู่สีชัง มีอะไร"(ไอ้เวรแล้วบอกไปเข้าห้องน้ำ หนีไปไม่มีบอกเลยนะก็ให้พวกกูนั่งรอไปเหอะ แล้วกูโทรไปหาตั้งหลายสายทำไมไม่รับ)"อื้อ~" เสียงของเสือดังเล็ดลอดออกมาซึ่งได้ยินเป็นคำๆอย่างชัดเจน ทำให้คนในอ้อมแขนแกร่งที่ยังหลับอยู่สะดุ้งตื่นอย่างงัวเงียขัดจังหวะในตอนที่เพลิงกำลังจะตอบกลับ เธอขยับซุกหน้าเข้าไปคลอเคลียซอกคอของเขาด้วยความลืมตัวขณะที่แขนเรียวกอดรัดเอวสอบแน่น(นั่นเสียงใครอะ อย่าบอกนะว่ามึงถูกใจสาวแล้วลากไปปาดีดั๊บโอ๊เย เพราะแบบนี้ใช่ไหมถึงไม่บอกพวกกูแล้วทำไ
"คุณเพลิงมาทำไมไม่บอกป้าเลยคะ แล้วคุณเสือ คุณเล้ง คุณตี๋มาด้วยเปล่า ดีนะที่ป้าเห็นรถจอดอยู่เลยรีบจัดการโทรสั่งอาหารไว้ให้ เดี๋ยวสักพักก็คงน่าจะมาสะ.." ขณะที่เพลิงกำลังเดินอารมณ์ร้อนลงบันไดมาชั้นล่างนั้น ก็ต้องหยุดฝีเท้าเมื่อได้ยินเสียงแม่บ้านวัยกลางคนซึ่งเดินออกมาจากห้องใต้บันไดเอ่ยทักทายขึ้น"กลับไป" แต่ยังพูดไม่ทันจบเจ้าของชื่อก็โพล่งไล่แทรกด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ ทำเอาแม่บ้านต้องรีบน้อมรับคำสั่งในวินาทีนั้นด้วยความรู้สึกกลัว"ค่ะๆ" เธอก้มหน้างุด พลางหมุนตัวสาวเท้าเดินออกไปทันที เพราะเพลิงเวลาโมโหน่ากลัวมากเธอรู้ดีจึงไม่อยากเซ้าซี้อะไรเดี๋ยวพานเจ็บตัวเสียเปล่าๆ"....." พอเห็นป้าแม่บ้านเดินพ้นประตูไป สองขาแกร่งก็ขยับเดินต่อออกมายังสระน้ำหน้าบ้านพัก มือหนาวางโทรศัพท์มือถือลงบนเตียงนอนริมสระ พร้อมกับดึงผ้าขนหนูพันรอบเอวสอบออกตูม!น้ำในสระกระจายทั่วบริเวณทันทีที่โจรหนุ่มกระโดดลงไปเพื่อระบายอารมณ์ของตัวเอง เขากำหมัดแน่นดำอยู่ใต้น้ำเป็นเวลาหลายนาทีพรึ่บ!ก่อนจะโผล่ขึ้นมาพร้อมกับสองมือหนาเสยผมด้านหน้าขึ้น หมุนแขนว่ายไปมาอยู่นานแล้วกลับมาริมสระ เขาดีดตัวก้าวขึ้นไปหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากด
พอพาเธอมาถึงที่หมายนั่นคือสระว่ายน้ำ มือหนาข้างหนึ่งปลดเปลื้องผ้าขนหนูพันรอบเอวสอบออกอีกครั้ง ปล่อยมันทิ้งลงกองริมสระตูม! แล้วกระโดดลงไปทันทีทำเอาน้ำในสระกระจายไปทั่วบริเวณ พร้อมกับร่างเธอที่ไม่ทันได้ตั้งตัวตะเกียกตะกายมากอดคอของเพลิงแน่นด้วยความตกใจแค่ก~ แค่ก~เนเน่สำลักหน้าดำหน้าแดงหลังคนตรงหน้ากระชับกอดเอวคอดแน่น จนร่างเปลือยเปล่าของเขาแนบชิดกันกับเธอ แล้วดีดตัวโผล่ขึ้นจากน้ำมือเล็กลูบน้ำออกจากใบหน้าลวกๆ มองเพลิงที่กำลังลูบน้ำออกจากใบหน้าเช่นกันด้วยสายตาไม่พอใจ "ทำบ้าอะไรของนาย" เธอแหวใส่เสียงแข็ง คนยิ่งมีอาการไม่เป็นตัวของตัวเองอยู่ ข้างในมันกระสับกระส่าย ใจสั่น หัวใจดวงน้อยเต้นเร็วแรงอย่างบ้าคลั่ง น้ำมูกไหลแถมยังเจ็บตัวกับการกระทำของเขา มีหน้าพามาจุ่มน้ำอีกคิดจะทำอะไรของเขากันแน่"....." เพลิงไม่ได้ตอบกลับทันทีในสิ่งที่หญิงสาวถาม เอื้อมมือทั้งสองข้างไปประคองใบหน้าสวย "มึงอดทนหน่อยแล้วทำตามที่กูบอก กูจะเป็นคนรักษามึงให้หายจากการติดยาเอง" ถึงจะไม่ใช่หมอแต่เขาก็มีวิธีเลิกมัน อยู่ที่เธอด้วยว่าจะให้ความร่วมมือไหม ถ้าไม่ก็คงต้องใช้ความรุนแรงซึ่งเป็นทางถนัดของเขา จะไม่ปล่อยให้เธอทรม
“อ้าว มาถึงกันตั้งแต่ตอนไหน” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นทันทีเมื่อเดินกลับเข้ามาในบ้านตัวเองช่วงพลบค่ำพร้อมกับหลานชาย แล้วเห็นหญิงสาวเดินลงมาจากชั้นสองพร้อมชายหนุ่มร่างสูงกำยำคงจะเป็นหลานเขยสินะ หน้าตามันคุ้นๆแฮะเหมือนเคยเจอที่นี่ไหน?“คุณปู่ สวัสดีค่ะ” เนเน่ยกมือขึ้นประนมไหว้ ก่อนเธอจะเร่งฝีเท้าเข้าไปกอดผู้เป็นปู่อย่างที่เคยทำเวลามาหา “คิดถึงจังเลย” “อะ ขี้อ้อนเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน” นุลูบศีรษะทุยเบาๆกอดหลานกลับ ทั้งก้มหอมกุมผมให้หายคิดถึงคูลจ้องมองคนข้างหลังพี่สาวไม่วางตา เห็นอย่างนั้นเพลิงเองก็จ้องกลับไปเช่นกันด้วยสีหน้าเชิงมีคำถาม ว่าเด็กหนุ่มได้มีปัญหาอะไรกับเขาหรือเปล่า เด็กหนุ่มนิ่งเลือกที่จะเดินเลี่ยงขึ้นไปชั้นสอง แม้จะคับแค้นใจไม่น้อยกับเรื่องที่เพลิงได้เคยกระทำต่อเนเน่ แต่เขาก็ไม่อยากจะยุ่งปล่อยให้เจ้าตัวนั้นเลือกทางเดินของชีวิตเอาเอง“ทำไมวันนี้คุณปู่กลับมาเย็นจังคะ” ใบหน้าสวยแหงนถาม ในขณะที่ยังคงแนบชิดกับอกแกร่งของปู่และกอดเอวท่านอยู่หลวมๆ“แวะไปตีกอล์ฟกับเพื่อนมาน่ะ แล้วนี่เจ้าสองแสบปู่อยู่ไหน” นุตอบพร้อมกวาดสายตามองรอบๆ เมื่อไม่เห็นเหลนตัวน้อยทั้งสองคนจึงถามหา“น่าจะอยู่กับคุณย
“หนูม่ายต้ายหวันจาห้ายทินยดโตดห้ายจุนป้อนะกะถ้าทินม่ายเท็มจาย หนูแค่หยาดห้ายทินพ่อยวางห้ายจุนแม่กับปวกหนูต้ายเยือกกู้ซีวิดแยะป้อกานเอนต้ายมายกะ ห้ายกวามสุดปวกเยาต้ายมาย (หนูไม่ได้หวังจะให้ตินยกโทษให้คุณพ่อนะคะถ้าไม่เต็มใจ หนูแค่อยากให้ตินปล่อยวางให้คุณแม่กับพวกหนูได้เลือกคู่ชีวิตและพ่อกันเองได้ไหมคะ ให้ความสุขพวกเราได้ไหม)”“จะให้น้ามั่นใจได้ยังไงว่าสิ่งที่พวกหนูกับแม่หนูเลือกมันดีที่สุดแล้ว คนมันสันดานโจรทำเลวมาตั้งแต่เด็ก คิดเหรอว่ามันจะกลับตัวกลับใจมาเป็นผัวที่ดีพ่อที่ดีให้หนูกับแม่หนูได้”“ถึงผมจะเคยเลวเคยทำไม่ดีทำร้ายเนเน่กับลูก แต่ผมสัญญา..ต่อจากนี้ไปผมจะเป็นสามีที่ดีให้กับเธอจะเป็นพ่อที่ดีให้กับลูก จะรักและดูแลพวกเขาให้ดีที่สุดยิ่งกว่าชีวิตของผม” เพลิงละอายใจเอ่ยขัดบอกออกมาเองตามความรู้สึกหลังยืนนิ่งฟังลูกช่วยอยู่นาน ชายหนุ่มไม่ได้ขี้ขลาดที่จะเผชิญหน้าขอให้เด็กหนุ่มเห็นใจยอมไว้ใจให้โอกาสเขาได้ชดเชยในสิ่งที่เคยกระทำกับหญิงสาวและลูกสาวทั้งสองคน แต่แค่ไม่อยากจะมีปัญหาเพิ่มอีก เลยเลือกจะอยู่นิ่งๆ อะไรที่ยอมได้ก็ยอมทว่าลูกคนเล็กกลับช่วยพูดขอจนเขาอดที่จะอยู่เฉยๆไม่ได้ ไม่อยากให้ลูกนั
เย็นวันเดียวกันเสือกำลังขับรถพาแคทและแคนดี้มาหาเพื่อนรักของพวกเธอกับหลานสาวหลังจากที่ทั้งสามคนพากันไปวัดไซส์ตัดชุดแต่งงาน พร้อมกับเลือกโปสต์การ์ดและของชำร่วยรวมไปถึงสถานที่มาเสร็จสรรพ ฟังไม่ผิดหรอกเสือกับแคทกำลังจะแต่งงานกันปลายเดือนหน้านี้แล้วโดยมีแคนดี้จัดการแนะนำจองร้านดังงานดีระดับประเทศซึ่งเป็นของพี่สาวที่เป็นลูกพี่ลูกน้องไว้ให้ทั้งนำทางมา ตามจริงเนเน่ต้องมาด้วยแต่เพราะติดที่ลูกงอแงคิดถึงน้าชายไม่หยุดจึงมาด้วยไม่ได้ เขาเลยต้องพาแวะไปหาเนี่ยแหละทันทีที่รถเลี้ยวเข้ามาจอดสนิทแล้วการ์ดได้เปิดประตูให้ แคนดี้ก็รีบก้าวลงจากรถ ก่อนจะเดินตัวปลิวนำหน้าเพื่อนกับแฟนเพื่อนไปอย่างไม่รีรอ“นี่แคนดี้แกจะรีบไปไหนเนี่ย กลับมาช่วยถือของเล่นหลานก่อนเลยนะ..อย่าเนียนเดินตัวปลิว” แคทหันมาร้องเรียก ขณะกำลังเดินไปหยิบของเล่นที่ซื้อมาฝากหลานสาวหลังรถคนถูกเรียกได้ยินก็หยุดฝีเท้าหมุนตัวกลับมาทำหน้าเจือนๆด้วยความลืมว่ามีของที่ตัวเองซื้อมาให้หลานด้วย “แหะๆ ฉันลืม”“ลืมตลอดแหละแกอะ” ใบหน้าหวานส่ายระอากับนิสัยตีเนียนของเพื่อนรัก พลางหยิบถุงยื่นไปให้สามถุงแคนดี้แบะปากยักไหล่ไม่ยี่หระอุตส่าห์จะตีเนียนสักหน่อยโ
หนึ่งเดือนต่อมา..ชีวิตครอบครัวของเนเน่และเพลิงดำเนินกันมาอย่างมีความสุขปะปนกับความทุกข์ใจเรื่องเนติน นับตั้งแต่คืนวันนั้นเจ้าตัวก็ขาดการติดต่อจากคนที่บ้านไปเลย แม้ว่าเนเน่กับคนอื่นๆในครอบครัวพยายามติดต่อไปหาเท่าไหร่อีกฝ่ายก็ไม่ยอมรับสาย ไม่ว่าจะติดต่อผ่านทางลูกน้องคนสนิท ลูกพี่ลูกน้องหรือตายาย พอทุกคนยื่นสายไปให้เนตินก็จะรีบเดินหนีไปทันทีจนคนอื่นๆเอือมระอาเลิกติดต่อไป เหลือเพียงแต่เธอที่ยังคงดั้นด้น“จุนแม่ก๋า.. (คุณแม่ขา)” “หือ?” เจ้าของใบหน้าสวยเลิกคิ้ว พลางช้อนตามองลูกสาวคนเล็กตรงหน้าที่เอ่ยเรียกตนขึ้นขณะนั่งยกโทรศัพท์มือถือแนบหูพยายามต่อสายหาน้องชายครั้งแล้วครั้งเล่าอยู่บนเบาะคอกกั้นในห้องนั่งเล่น ก่อนเพลงพิณจะพูดถามออกมาเสียงสั่นๆราวกับคนจะร้องไห้“ทินโขดอาใยปวกเยาหย๋อกะ ตำมายจุนแม่โตปายม่ายเกยยับซัดที โตกาบก็ม่ายมี (ตินโกรธอะไรพวกเราเหรอคะ ทำไมคุณแม่โทรไปไม่เคยรับสักที โทรกลับก็ไม่มี)” แววตาเด็กหญิงเศร้าสร้อยมองผู้เป็นแม่อย่างตัดพ้อ แทบไม่เหลือคาบร่าเริงอย่างที่ควรจะเป็น “.....” ได้ยินเช่นนั้นเนเน่ก็หน้าเจื่อนลง เธอสงสารลูกจับใจ..มันหลายอาทิตย์แล้วที่เพลงพิณและเพลินลินงอแงบ่น
"....." สันกรามของเจ้าของคำถามบดเข้าหากันอย่างฉุนมาก สองมือกำมัดแน่น ตวัดสายตาคมกริบไปมองเพลิงที่เป็นคนตอบเอง"ใครอนุญาตให้มึงมาอยู่" "ป๊าให้มันมาอยู่ช่วยทำงานแทนตอนพาม๊าไปฮันนีมูน" เป็นโน่บอกตามความจริง "ทำไมไม่ให้เฮียทำ""มันว่างไหมล่ะ""กลับมาแล้วก็ไล่มันออกไป" "ติน.." เนเน่ทนไม่ได้หมายจะพูดช่วยให้น้องชายเข้าใจกันบ้างและปล่อยวางสักที ทันใดนั้นเพลิงก็กุมมือส่ายหน้าห้ามเธอไว้ไม่ให้พูดอะไร เดี๋ยวมันจะบานปลายไปเสียเปล่าๆ"....." ขณะที่โน่เงียบไปอย่างทำอะไรไม่ถูก ซึ่งเนตินเป็นคนไม่ฟังใครและพูดยากมันทำให้เขาค่อนข้างลำบากใจ เพราะนี่ก็ลูกนั่นก็สามีของลูกจะให้ไล่ออกไปมีหวังทั้งลูกทั้งหลานได้หอบผ้าตามไปแน่ ให้ตายยังไงเขาก็ไม่ยอมให้ลูกกับหลานออกไปอยู่ที่อื่นเด็ดขาด"จะไล่มันออกไปได้ไง ก็ป๊ายอมรับมันเป็นลูกเขยแล้ว" เมื่อเห็นผู้เป็นพ่ออึกอักไม่กล้าบอก เนมาร์เลยโพล่งฉวยโอกาสฟ้องก่อตั้งพวกเขม้น หลังทนนั่งฟังเงียบๆมาสักพัก"ฮันนี่!" สถานการณ์ยิ่งคุกรุ่นไม่ค่อยจะดีอยู่ พอเห็นสามีจุดชนวนก๋วยเตี๋ยวจึงปรามให้อยู่นิ่งๆ แล้วกระดุกแขนแกร่งให้ลุกขึ้นพาเด็กๆที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่ให้ออกไปจากห้องนี้ก่อน
"ขอบคุณนะ.." ชายหนุ่มกล่าวขอบคุณ รั้งศีรษะทุยเข้ามากดหอม "ขอบคุณที่อดทนช่วยเหลือพี่จนครอบครัวเรายอมรับ" "จะขอบคุณทำไม ทุกอย่างมันอยู่ที่ความพยายามของพี่เองทั้งนั้น" เนเน่ยิ้ม แหงนหน้ามองสามีพร้อมกับตอบกลับโดยที่เขาลูบผมเธอไปด้วย "แต่ถ้าไม่ได้เราช่วยเหลือเลย ป่านนี้พี่อาจยังไม่ถูกยอมรับก็ได้""เหรอ แต่เน่ว่าคงไม่ใช่แค่เน่คนเดียวหรอกที่ช่วยเหลือพี่..""....." คิ้วเข้มขมวดเลิกขึ้นอย่างไม่เข้าใจ ยังมีใครอีกเหรอที่คอยช่วยเหลือเขานอกจากเธอ"ยังมีม๊าอีกคนนะ" "ม๊า?" "ใช่ คืนก่อนวันที่จะพาลูกไปหา ถ้าไม่มีม๊ามาคอยพูดให้เน่เลิกสับสนกับความรู้สึกของตัวเอง ป่านนี้คงไม่ได้มาอยู่ด้วยกันแบบนี้หรอก""งั้นพี่ก็ต้องไปขอบคุณม๊าด้วยใช่ไหม" "คงงั้นมั่ง" ใบหน้าสวยแนบลงบนไหล่แกร่งหลังพูดจบ ทว่าไม่ทันไรก็รีบแหงนมองหน้าสามีอีกครั้งเมื่อฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้.."หือ?" การกระทำของคนตรงหน้าทำเอาเพลิงถึงกับงุนงง แต่ยังไม่ทันที่เขาจะเอ่ยถามเสียงใสก็ดังถามขึ้นมาติดๆ"พี่เพลิงลืมอะไรไปหรือเปล่า.." "ลืมอะไร" "ก็..มีป๊าแค่คนเดียวเองนะที่ยอมรับพี่ เฮียกับตินยังไม่ได้ยอมรับพี่เลย" หารู้ไม่ว่าจริงๆเขาไม่ได้ลื
"ว้าว มีแต่ของน่าทานเหมือนเดิมเลย" พอเดินมาถึงห้องอาหารเห็นบนโต๊ะมีอาหารหลากหลายอย่างวางเต็มไปหมด ทำให้ฟีฟายหวนคิดถึงตอนเด็กๆที่เขามักจะมาเล่นและรับประทานอาหารที่นี่เป็นประจำในวันหยุด"มีฉู่ฉี่ปลาทูของชอบพี่ฟีฟายเหมือนเดิมด้วยนะ เหมือนแม่นมรู้ว่าพี่จะมา" ไม่ว่าเปล่าหญิงสาวหย่อนสะโพกนั่งลงพร้อมกับสามี เพลิงเหล่มองทั้งสองคนพูดคุยกันอย่างไม่ชอบใจแต่ก็ไม่ได้ปริปากอะไร ได้แต่ขบกรามแน่น"คนสำคัญก็งี้แหละ" ฟีฟายยักไหล่โอ้อวดมาหย่อนตัวนั่งลงฝั่งตรงข้าม ก่อนแม่บ้านจะมาตักข้าวใส่จานให้ "แล้วนี่ไอ้เนกับไอ้ตินไปไหน ไม่ลงมากินด้วยกันเหรอ" "เนตินอยู่ดูแลงานแทนป๊าที่ญี่ปุ่นยังไม่กลับมาเลยค่ะ ส่วนเฮียน่าจะหอบลูกไปเฝ้าเมียที่มหาลัยแต่เช้าโน้น""ท่าจะหวงเมียจัด""มากๆ มาหนักก็ปีที่แล้วอะ ม๊าบอกซามิชวนก๋วยเตี๋ยวไปซื้อของเป็นเพื่อนและแวะดูหนัง แล้วบังเอิญเจอเพื่อนอีกคณะชวนไปงานวันเกิดที่ผับต่อโดยไม่บอกเฮีย จนมีคนส่งรูปมาถามเฮียรู้รีบบุกไปลากกลับมาทันที สภาพนี่ไม่ต้องพูดถึงเมาเละเทะ เฮียโมโหมากจับล่ามโซ่ไม่ให้ไปเรียนเป็นอาทิตย์" "ฮ่าๆๆ ถึงกับล่ามโซ่เลยอ๋อ""นิ่งเฉยก็ไม่ใช่เฮียสิ" มือเล็กตักข้าวใส่ปาก ไม
ใบหน้าสวยส่ายไปมา พลางหันกลับมาเลือกชุดต่อ ในขณะที่อีกคนเปิดลิ้นชักหยิบกล่องบุหรี่พร้อมไฟแช็กในตัว เดินต่อไปยังระเบียงเพื่อระบายความหงุดหงิดและเจ็บใจในเวลาเดียวกันที่ภรรยาเห็นคนอื่นสำคัญกว่าคำสั่งตนเพลิงเปิดบุหรี่ออกมาแล้วจุดสูบ เพียงไม่กี่นาทีเนเน่ก็เดินออกมาในชุดเสื้อแขนยาวไหมพรมคอวีสีขาว กางเกงผ้ามัดยอมพาสเทลขายาวทรงหลวมสีขาวดำตามสไตล์การอยู่บ้านของเธอ ดวงตากลมโตกวาดมองไปรอบๆห้องหลังไม่เห็นสามี ก่อนสะดุดตรงประตูระเบียงที่ถูกเปิดคาไว้จนเห็นแผ่นหลังแกร่งของเจ้าตัวที่ยืนสูบบุหรี่อยู่เธอดึงยางรัดผมจากข้อมือออกมามัดด้วยความรำคาญ พร้อมกับเดินนวยนาดเข้าไปหา เพลิงเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาใกล้ๆก็ไม่ได้สนใจพ่นควันบุหรี่ขาวคลุ้งออกจากปาก"พี่จะลงไปกินข้าวไหม หรือจะเข้าห้องไปทำงานต่อ เน่จะได้ให้แม่บ้านยกข้าวขึ้นมาให้" ริมฝีปากอวบอิ่มเปล่งเสียงถาม "....." แล้วคำตอบที่ได้กลับมาคือความเงียบ ชายหนุ่มสูดควันบุหรี่เข้าเต็มปอด พลางทอดสายตามองบรรยากาศรอบๆทั้งพ่นมันออกมาราวกับไม่ได้ยินในสิ่งที่เธอถาม"พี่เพลิง ได้ยินที่เน่ถามไหม" เห็นอย่างนั้นหญิงสาวจึงย้ำถาม มือเล็กเอื้อมจับท่อนแขนแกร่งดึงเขาให้ห
"ฮึ่ย.." เจ้าพ่อมาเฟียใหญ่ขบกรามฮึดฮัดทันทีที่ถูกตัดสาย เขายกโทรศัพท์มือถือออกจากหูปามันใส่ฝาผนังห้องนอนอย่างแรงปึก! เพล้ง! แรงกระแทกอย่างหนักส่งผลให้มันแตกกระจายไปคนละทิศละทางโดยที่เจ้าของได้แต่นั่งนิ่งๆมองโทรศัพท์มือถือของตัวเองเละไม่มีชิ้นดี ใบหน้าแดงก่ำไปถึงใบหู พร้อมกับฝ่ามือทั้งสองข้างกำแน่นทำเอาดินไม่กล้าจะพูดอะไรออกมา"อื้อ~" แนทที่สะดุ้งรู้สึกตัวตั้งแต่ได้ยินเสียงสามีอาละวาดลั่นอยู่ก่อนแล้ว ลืมตาตื่นอย่างงัวเงียด้วยความหงุดหงิดเมื่อมาได้ยินเสียงกระแทกของวัตถุบางอย่างดังสนั่นขึ้นอีก เธอยันตัวลุกขึ้นเดินไปคว้าชุดคลุมหน้าตู้เสื้อผ้ามาสวมใส่ แล้วเดินออกไปจัดการกับเจ้าของกระทำเพราะรู้สึกเอือมระอามากและเพียงก้าวพ้นกรอบประตูก็เห็นสามีนั่งอารมณ์ฉุนเฉียวอยู่บนโซฟาคนละตัวกับลูกน้อง โดยที่พื้นนั้นเต็มไปด้วยเศษซากโทรศัพท์มือถือ"เป็นบ้าอะไรของแด๊ด ฮะ! ดึกดื่นป่านนี้แล้วมันใช่เวลามาอาละวาดไหม" แนทตวาดถามด้วยความโมโห น้ำเสียงเกรี้ยวกราดของเธอทำเอาโน่ตวัดสายตามอง ก่อนจะค่อยๆสงบสติอารมณ์ยกมือขึ้นลูกหน้าตัวเอง และดินยังคงนั่งเงียบๆแต่เสมองไปทางอื่นหลบสายตาดุดันที่สลับมองมา"ก็ไอ้เวรนั่นมัน