14:00น.
มหาลัยER… คณะวิศวกรรมศาสตร์…. ลานเกียร์ วิศวะ ยี่หวา หวันยิหวา…. พรึบ “นี่….” “หืม…?”ฉันหันไปมองยังต้นเสียงและแรงสะกิดไหล่ฉันจากคนที่นั่งอยู่ข้างๆตัวฉันแต่คนละแถวซึ่งเเถวเราอยู่ติดกัน ก็เจอเข้ากับผู้หญิงหน้าตาดีผิวขาวใสแก้มอมชมพูริมฝีปากสีชมพูระเรื่อมัดผมลอนสีน้ำตาลของเธอรวบไว้เป็นหางม้าพร้อมกับผูกโบว์สีขาวไว้ที่ยางมัดผม เธอจัดเป็นผู้หญิงที่ทั้งสวยทั้งน่ารักไปในตัว ลักยิ้มที่แก้มซ้ายของเธอยิ่งดูยิ่งมีเสน่ห์ “หวัดดี^_^”เธอยิ้มให้ฉันและยกมือขึ้นมาโบกทักทายฉัน ฉันนั่งที่ตรงนี้ประจำทุกครั้งที่ประชุมเชียร์ไม่เคยเห็นเธอเลยน่ะ “หวัดดี^_^”ฉันยกมือโบกทักทายเธอกลับไปพลางยิ้มให้เธอไปด้วย “เราชื่อใยไหมนะ…เรียกว่าไหมเฉยๆก็ได้^_^”เธอว่าพลางยกป้ายชื่อที่เธอแขวนคออยู่ให้ฉันดูด้วยท่าทางสดใส “จ้า…เราชื่อหวันยิหวานะ…เรียกว่ายี่หวาเฉยๆก็ได้^_^”ฉันเองก็เอ่ยบอกเธออย่างแนะนำตัวเองกลับไปให้เธอได้รู้จักกันแบบที่ฉันได้รู้จักเธอ “ยินดีที่ได้รู้จักนะ…ยี่หวา^_^”ใยไหมยิ้มให้ฉันอย่างเป็นมิตร ฉันก็พยักหน้าและยิ้มให้เธอกลับไป ก่อนที่เราทั้งคู่จะได้พูดอะไรไปมากกว่านี้ ก็มีผู้ชายในชุดเสื้อช็อปสีแดงออกเลือดหมูเดินเอามือไขว้หลังเข้ามาในลานกว้างของคณะวิศวกรรมศาสตร์แห่งนี้ ทันใดนั้นเสียงพูดคุยของเด็กปีหนึ่งที่พูดคุยกันเสียงจ้อกแจ้กจอแจอยู่เมื่อครู่ก็พากันเงียบกริบลงทันทีเหมือนเราทั้งหมดได้ตกลงกันไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว พรึบ “สวัสดีครับ!”เสียงตะโกนของพี่ว๊ากเปิดฉากเอ่ยทักทายพวกเราขึ้น ทำให้ฉันกับใยไหมหันไปมองหน้ากันทันทีเธอก็ยิ้มแหยๆให้ฉัน ฉันก็ยิ้มบางๆให้เธอและหันกลับไปมองหน้าพี่ว๊ากปีสามต่อ “เป็นยังไงกันบ้าง….สำหรับการเปิดเรียนสองอาทิตย์ของคณะวิศวะ…”พี่ว๊ากเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เข้มแข็งและแข็งกร้าว ฉันก็มองหน้าเขา เขาคือพี่ชายสุดหล่อของฉันเองแหละ พี่ปอน ฉันน่ะต้องเตรียมน้ำผึ้งผสมน้ำมะนาวให้พี่ปอนทุกเช้าอ่ะเวลาที่เขาต้องลงว๊าก ผิดกับเฮดว๊ากที่ยืนพิงเสาเอามือล้วงกระเป๋าใส่แว่นตาดำอยู่ด้านหลังของพี่ว๊ากทั้งสิบคนที่ยืนเรียงแถวหน้ากระดานอยู่ด้านหน้าของพวกเราชาวปีหนึ่งช่างสบายจริงๆพ่อคูณพี่เฮดว๊ากน่ะ “และที่เราทุกคนรู้ดี….ว่าเราจะเข้าเชียร์กันอีกไม่กี่ครั้ง….เราก็จะจบสิ้นกิจกรรมเชียร์กันแล้ว…” “และอาทิตย์นี้….เราจะไปรับน้องและรับเกียร์ที่เปรียบเสมือนหัวใจของชาววิศวะที่ชลบุรี…” “ก่อนเลิกเชียร์ให้ประธานรุ่นไปรับใบขออนุญาตผู้ปกครองที่ปีสองด้วยครับ….” “วันนี้ผมมีธุระกับพวกคุณแค่นี้….”พี่ปอนพูดเสร็จก็ก้าวขาถอยหลังไปหนึ่งก้าวให้เสมอเทียบกับพี่ว๊ากคนอื่นๆก่อนจะค่อยๆหันซ้ายอย่างมีระเบียบแต่ก็ยังคงความขรึมและหน้าตึงอยู่ก่อนจะพากันเดินออกไปจากลานเกียร์แห่งนี้ ปีหนึ่งหลายๆคนต่างพากันถอนหายใจออกมารวมถึงผู้หญิงเพื่อนใหม่คนข้างๆฉันด้วยที่เธอผ่อนลมหายใจหนักกว่าคนอื่นๆเขา “คุยอะไรกัน!!!”และเราก็โล่งใจกันได้ไม่นานก็มีเสียงตวาดของพี่เฮดว๊ากดังขึ้นมาอีก คราวนี้บรรยากาศรอบๆลานเกียร์ได้เข้าสู่โหมดเงียบกว่าเดิมจากตอนที่พี่ว๊ากลงมาเมื่อกี้ซะอีก เพราะที่เรากำลังจะเจอต่อไปนี้คือ พี่เฮดว๊ากหัวหน้าพี่ว๊ากที่โคตรโหดและโคตรดุแถมหน้าตาดีทุกคนโดยเฉพาะพี่คนที่ลงว๊ากอยู่ตอนนี้ พี่พีเค ไตรนภพ “ไม่เห็นหัวพวกผมเลยใช่ไหม!”เสียงทุ้มต่ำที่ยังคงความดังอยู่เท่าเดิมเอ่ยขึ้น เฮดว๊ากคนที่กำลังพูดอยู่และอยู่ตรงกลางของพี่ว๊ากชุดนี้เขาชื่อพี่เค เป็นเพื่อนพี่ชายฉันเอง ปกติเขาก็เป็นคนนิ่งๆไม่พูดไม่ยิ้มอยู่แล้วพอมาเป็นเฮดว๊ากเลยดูน่ากลัวเพิ่มขึ้นไปอีก “เมื่อกี้ปีสองพูด….พวกคุณก็พูดแทรก!”พี่เคว่าพลางเดินไปเดินมาหน้าตาเข้มขรึมถึงเขาจะมีหน้าตาที่หล่อเหลามากแค่ไหนแต่ก็ดูน่ากลัวอยู่ดี ฉันก้มหน้าก้มตาไม่กล้าสบนัยน์ตาสีดำของเขา “พวกคุณพูดอะไรกัน!!!” “ดุจัง”ฉันพึมพำขึ้นเป็นเสียงที่คิดว่าเบาแล้วนะแต่ตรงนี้ในตอนนี้ถึงจะมีคนร่วมเชียร์อยู่เป็นร้อยกว่าคนแต่ทุกคนรวมใจกันเงียบแม้กระทั่งเสียงลมหายใจแทบจะไม่มีถ้าหยุดหายใจกันได้ทุกคนคงทำไปแล้ว เลยทำให้เสียงที่พึมพำของฉันมันดังมากขึ้นผิดปกติจนไปได้ยินถึงหูของพี่เคเข้าอย่างจัง “ใครพูด!”“ใครพูด!”ทันใดนั้นที่เสียงของฉันถึงหูพี่เคเขาก็ตะโกนอย่างไม่สบอารมณ์หาตัวคนที่พูดว่าเขาว่าดุจัง ฉันพูดความจริง ฉันผิดตรงไหน อาจจะผิดตรงที่ฉันพูดแทรกเขาไปก็เป็นได้“ผมถามว่าใคร!!”พี่เคตะโกนดังขึ้นอีกทำให้ทุกคนต่างพากันหันมองมาที่ฉันเป็นจุดเดียว ฉันจึงต้องมองหน้าเพื่อนทุกๆคนและทำสายตาปริบๆให้พวกเขาเพื่อเป็นการขอโทษและรู้สึกผิด“ลุกขึ้นมา….”เสียงพี่เคเบาลงนิดนึงแต่ก็ยังคงดังอยู่เหมือนเดิมนั่นแหละ ฉันจึงต้องค่อยๆลุกขึ้นยืนจนเต็มความสูงสายตาของฉันก็ประสานเข้ากับนัยน์ตาสีดำที่ดุดันของพี่เคเข้าอย่างจังทำให้ฉันรู้สึกเสียวสันหลังวาบขึ้นมา“ชื่ออะไร!”เขาถามฉัน ฉันก็มองหน้าเขา เขาก็รู้ว่าฉันชื่ออะไร ยังจะถามอีกเหรอ“ป้าย?”เสียงแผ่วเบาดังมาจากเพื่อนที่นั่งอยู่ด้านข้างฉันเอ่ยขึ้นทำให้ฉันรู้สึกตัวทันทีว่าป้ายชื่อที่คอฉันมันหายไปแล้วที่จริงมันหายไปตั้งแต่แรกแล้วแต่ฉันแค่ลืมไม่รู้ตัว“ออกมา!!”เสียงตวาดอย่างออกคำสั่งทำให้ฉันต้องก้มหน้าก้มตาเดินไปหาพี่เคอย่างช้าๆมือก็บีบกันแน่นด้วยความกลัว พรึบ“ป้ายชื่อคุณ…ไปไหน?”เขากดเสียงต่ำถามฉัน ฉันก็ก้มหน้าก้มตาไม่ตอบเขาไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปสบแววตาของเขาด้วย“รห
“แต่”ฉันกำลังจะแย้งพี่เคแต่ก็โดนพี่เคยกมือขึ้นห้ามฉันพูดไว้ซะก่อน ฉันจึงต้องเม้มปากเป็นเส้นตรงแน่นและหยุดพูดลงทันที“ลุกขึ้นยืน!!”“เตรียม!!”พี่เคตะโกนเสียงดังสั่งปีหนึ่งทั้งหมด ทุกคนก็รีบลุกขึ้นยืนตรงจัดแถวอย่างเป็นระเบียบอย่างรวดเร็ว“ถอยหลังไป!!”พี่เคตะโกนและเดินเข้าไปหาปีหนึ่งแถวหน้าและเดินเข้าไปเรื่อยๆจนปีหนึ่งด้านหลังสุดต้องค่อยๆถอยหลังไปตามคนด้านหน้าที่ถอยหลังไปเรื่อยๆจนออกไปจากลานเกียร์แห่งนี้“อย่าร้อง”เสียงพึงพำเอ่ยออกมาจากพี่ชายสุดที่รักของฉันที่ยืนหลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ พี่ปอนกำลังบอกให้ฉันอย่าร้อง ฉันจึงพยักหน้ารับคำพี่ปอนและสูดน้ำตาน้ำมูกให้ไหลกลับเข้าไปด้านใน“อีก!!”เสียงพี่เคตะโกนดังจนฉันรู้สึกว่าแก้วคอเขาจะแตกไหมแต่ฉันจะห่วงเขาทำไมในเมื่อเขาเองก็ทำเหมือนไม่รู้จักฉันทั้งๆที่ตอนกลางคืนเรานอนด้วยกันแทบทุกคืน“นั่งลง!!!”สิ้นเสียงของพี่เค เพื่อนๆทั้งหมดก็ต่างพากันหันมองหน้ากันและกันก่อนจะต้องจำใจนั่งลงบนพื้นดินกลางสนามของคณะวิศวะที่ไม่ได้อยู่ในลานเกียร์ที่มีร่มไม้ของต้นไม้ใหญ่ให้พวกเราได้หลบร่มแล้วที่บนลานเกียร์จะถูปูด้วยพื้นปูนซีเมนต์อย่างดี และตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสองโมง แดด
พีเค ไตรนภพ……“ที่ผมสั่งทำโทษพวกคุณ!!”“รู้ไหมว่าเพราะอะไร!!”ผมตะโกนเสียงดังถามรุ่นน้องปีหนึ่งไป ทุกคนก็ต่างก้มหน้าก้มตาไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาสบตาผม“เพราะพวกคุณ….ขาดความสามัคคี!”“คิดจะเอาตัวเองรอดเพียงอย่างเดียว!!”“แล้วอย่างนี้….จะให้ผมว่ายังไง!!”“SOTUS!!”“พวกคุณรู้ความหมายของคำคำนี้ไหม!!”“ถ้าไม่รู้!!”“ลุกขึ้น!!”ผมตะโกนเสร็จปีหนึ่งเกือบสามร้อยคนก็ลุกขึ้นยืนตรงอย่างรวดเร็วใช้เวลาไม่ถึงสามวินาทีด้วยซ้ำไป“จัดแถว!!”ผมสั่งเสียงดังหน้าตาเข้มขรึมจนน่ากลัว“จัดแถว!”ปีหนึ่งก็รับคำผมและจัดการจัดเรียงแถวตัวเองให้เป็นระเบียบพรึบๆๆๆๆ“บูม!!!”ผมเอ่ยสั่งคำลงโทษให้พวกปีหนึ่งไป “บูม!”ปีหนึ่งก็รับคำผมและจัดการเอามือไขว้หลังของคนที่อยู่ข้างๆของตัวเองทันทีและทุกคนก็อยู่ในท่าเตรียมพร้อมที่จะบูม“บูมโซตัส!!”ผมสั่งให้น้องๆบูมโซตัสความหมายของ SOTUS“บูมโซตัส!!”ปีหนึ่งทุกคนก็ตะโกนออกมาเสียงดังอย่างพร้อมเพรียงกัน“สาม…สอง!!”สิ้นเสียงผมปีหนึ่งทุกคนก็เริ่มบูมโซตัสตามที่ผมสั่ง โดยมีผมยืนเอามือไขว้หลังมองการกระทำของน้องๆที่ยังคงขาดความสามัคคีและความพร้อมเพรียงแต่ถือว่ามันดีกว่าตอนแรกๆมากแล้ว“ดังกว่านี้อีก
ยี่หวา หวันยิหวา…“สิบทิศไปนั่งรอยี่หวาก่อนนะคะ…”“แต่แดดมันร้อนมากเลยนะยี่หวา…”“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ…”“งั้นเดี๋ยวเราไปซื้อผ้าเย็นมาให้นะ”สิบทิศว่าอย่างอาสา ฉันก็พยักหน้าเป็นเชิงอนุญาตเขา และเขาก็ยิ้มให้ฉันก่อนจะวิ่งออกไปจากสนามกีฬาแห่งนี้ ฉันที่เพิ่งจะวิ่งไปได้แค่สองรอบก็ถึงกับเหนื่อยหอบแล้วตึกๆๆๆๆๆ“ยี่หวา!”“พี่ปอน!”ฉันเอ่ยเรียกพี่ปอนออกไปอย่างตกใจที่อยู่ดีๆเขาก็วิ่งมาดักหน้าฉัน ฉันจึงต้องหยุดฝีเท้าลงทันทีด้วยความตกใจและแปลกใจ“พอได้แล้ว”“แต่พี่เค?”ฉันกำลังจะแย้งพี่ปอน“ไอ้เคมันบอกให้พี่มาบอกยี่หวาว่าพอได้แล้ว…”“กลับบ้านได้แล้ว…ไม่มีเรียนต่อแล้วไม่ใช่เหรอ?”“ค่ะ”ฉันพยักหน้าตอบพี่ปอนไปว่าฉันไม่มีเรียนต่อแล้ว“แล้วพี่ปอนล่ะ?”ฉันเอ่ยถามพี่ชายสุดที่รักและพี่ชายคนเดียวของฉันไปอย่างสงสัย“พี่ต้องไปประชุมต่ออ่ะและยังต้องทำโปรเจ็คด้วยอ่ะ…ยี่หวากลับเองได้ใช่ไหม?”“ได้ค่ะ…”“วันนี้ไม่ได้ไปทำงานที่ไหนใช่ไหมคะ?”“เปล่า”“ยี่หวาอยากทำงานช่วยแบ่งเบาภาระพี่บ้างจัง”ฉันเอ่ยบอกพี่ปอนไปอย่างนึกเห็นใจพี่ชายฉันที่ต้องทำงานส่งทั้งตัวเขาและฉันเรียนต่อในมหาวิทยาลัยเอกชนที่ค่าเทอมแสนแพงแบบนี้“อย่าเลย…ยี่
“ใยไหม”เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นทำให้ฉันจำได้ทันทีว่าคือเสียงของใคร“พี่เค^_^”เสียงหวานใสเอ่ยออกไปอย่างดีใจ “นี่ห้องน้ำผู้หญิงนะคะ”ใยไหมว่าอย่างตกใจที่เธอเพิ่งนึกได้ว่านี้มันในห้องน้ำผู้หญิงและพี่เคเข้ามาได้ยังไงก่อน?“ก็ใช่^_^”เสียงทุ้มเอ่ยกลับมาอย่างไม่ใส่ใจตามนิสัยเขาที่ไม่สนคนอื่นหรือคนรอบตัวอยู่แล้ว“แล้วพี่เข้ามาทำไมเนี่ย?”“เข้ามาหาเราไง^_^”พี่เคเอ่ยออกไปด้วยเสียงนุ่มทำให้ฉันรู้สึกแปลกใจโทนเสียงที่พี่เคใช้เรียกใยไหม“ออกไปรอใยไหมข้างนอกก่อน”“อ่ะๆก็ได้”พี่เคว่าอย่างจำใจก่อนฉันจะได้ยินเสียงฝีเท้าของคนสองคนเดินออกไปจากห้องน้ำแห่งนี้ ฉันจึงลุกขึ้นยืนใส่กระโปรงและกดชักโครกทันทีติ๋งฉันที่กำลังจะออกมาจากห้องน้ำที่ทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้วก็ต้องหยุดชะงักและหยิบโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าสะพายของตัวเองขึ้นมาเปิดดูทันทีว่าใครส่งอะไรมาสมาชิกมหาลัยER.1.1:น้องปีหนึ่งกำลังจะงาบเฮดว๊ากสุดหล่อและสุดโหดอย่างพี่เคของเราไปแล้วจ้าสมาชิกมหาลัยER.1.1:ส่งรูปฉันอ่านข้อความพร้อมรูปในห้องแชทของมหาลัยที่มีสมาชิกทั้งหมดของมหาลัยอยู่ในนี้ พร้อมเปิดรูปที่สมาชิกในกลุ่มส่งมา มันคือรูปผู้ชายใส่ช็อปสีแดงวิศวะเปิดประตู
“สิบทิศคะ….”เสียงหวานไพเราะของเด็กสาววัยสิบเก้าปีที่อยู่ในชุดนักศึกษาที่เสื้อนักศึกษาของเธอตัวเล็กรัดติ้วอวดทรวดทรงองค์เอวของเธอที่มีรูปร่างสุดแสนจะเพอร์เฟคกับกระโปรงทรงเอธรรมดาที่สั้นจู๋ของเธอที่เป็นของมหาลัยเอกชนชื่อดังเอ่ยเรียกชายหนุ่มรุ่นเดียวกันกับเธอที่ตัวสูงกว่าเธอที่เขาและเธอจับมือฉันเพื่อจะเดินไปที่รถของสิบทิศที่จอดอยู่ที่ลานจอดรถตึกคณะเศรษฐศาสตร์“ครับ….ยี่หวา…”ชายหนุ่มหันมายิ้มให้ผู้หญิงข้างกายที่เขาจับมือเธอกุมไว้ตลอดทางเดินไปยังลานจอดรถของมหาลัยเอกชนชื่อดังเพื่อจะพาเธอไปส่งที่บ้านของเธอ สิบทิศและหวันยิหวาเป็นแฟนกันมาได้สองอาทิตย์แล้ว ทั้งคู่เรียนอยู่มหาลัยเดียวกันแต่คนละคณะทั้งคู่เป็นเดือนและเป็นดาวของมหาลัยคู่กัน“วันนี้วันอะไรคะ?”หวันยิหวาเอ่ยถามแฟนของเธอพลางยิ้มหวานหยดย้อยทันทีที่เธอนึกคิดได้ เธอเป็นผู้หญิงตัวเล็กผิวขาวใสอมชมพูนิสัยเรียบร้อยอ่อนหวานน่าทะนุถนอม“วัน…วัน…วันอะไรนะ^_^”สิบทิศแกล้งทำเป็นจำไม่ได้ทั้งๆที่เขารู้ว่ามัันคือวันเกิดของเขาเอง คนอะไรจะจำวันเกิดตัวเองไม่ได้ล่ะ “วันเกิดสิบทิศยังไงล่ะค่ะ^_^”หวันยิหวาหรือยี่หวายิ้มหวานให้สิบทิศ สิบทิศก็ทำได้เพียงแต่ยิ้
อีกด้านหนึ่งของมหาลัย ERห้องประชุมเฮดว๊ากคณะ วิศวกรรมศาสตร์…ตึกE19:30น.พรึบ“ไอ้ปอน….”เสียงทุ้มที่นั่งอยู่ที่หัวโต๊ะประจำที่หัวหน้าของเฮดว๊ากเอ่ยเรียกชายหนุ่มหน้าตาหล่อตี๋ที่ก้มหน้าก้มตาลอกการรายงานเพื่อนอยู่อย่างตั้งอกตั้งใจ“ว่า?”ปอนเอ่ยขานตอบเพื่อนสนิทที่ควบตำแหน่งเฮดว๊ากไปแต่ยังไม่ได้เงยหน้าขึ้นไปสบตากับนัยน์ตาสีดำเข้มมือของปอนยังคงไม่ได้วางปากกา“คืนนี้….กูว่ามึงกลับไปอยู่กับน้องมึงก็ได้นะ…”เสียงทุ้มของคนๆเดิมเอ่ยขึ้น เจ้าของใบหน้าเรียวยาวใสจมูกโด่งผิวขาวที่เป็นเจ้าของชื่อว่าพีเค เป็นเฮดว๊ากปีสาม หน้าตาดีหล่อ โหดและโคตรดุมีอาชีพเป็นนักมวย“เดี๋ยวกูใส่ชื่อมึงในรายงานเอง”“ไม่เอาว่ะ…กูเกรงใจ…มันไม่ใช่แค่ครั้งแรก…”คราวนี้ปอนยอมวางปากกาและเงยหน้าขึ้นไปสบตาเข้ากับนัยน์ตาสีดำของพีเคแทน ปอนมองพีเคด้วยสายตาจริงจังและซาบซึ้งกับน้ำใจที่เพื่อนคนนี้มีให้เด็กจนๆกำพร้าอย่างเขาและน้องสาวของเขาตลอดมาเสมอต้นเสมอปลายตั้งแต่วันแรกที่ได้เจอกันและรู้จักกันจนถึงตอนนี้“แล้วมึงไม่เป็นห่วงน้องมึงรึไง?”“ห่วงดิ…แต่ทำไงได้..”ปอนว่าอย่างปลงๆ“วันนี้ตอนที่โดนกูตวาดไปยืนตัวสั่นเทาร้องไห้…”“เชี้ย….กูสตั้
20:00น.บ้านของพีเค….ยี่หวา หวันยิหวา….“happy birthdayนะคะสิบทิศ^_^”ฉันเอ่ยขึ้นพลางยื่นถาดเค้กรสสตรอว์เบอร์รี่ไปตรงหน้าของสิบทิศแฟนของฉัน เขาที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องครัวก็ค่อยๆลุกขึ้นยืนพร้อมกับส่งยิ้มหวานละมุนมาให้ฉัน“ขอบคุณครับ^_^”“อธิษฐานสิคะ^_^”“ครับ…”สิบทิศว่าก่อนจะหลับตาลงมือทั้งสองข้างกุมกันไว้ตรงหน้าอกก่อนจะอธิษฐานในใจ“ฟู่วๆๆ”สิบทิศเมื่ออธิษฐานเสร็จแล้วเขาก็เป่าเทียนบนหน้าเค้กรูปหัวใจสีชมพูที่ฉันเป็นคนทำเองกับมือ“ขอบคุณนะครับ….แฟนเรา^_^”“ค่ะ^_^”“วันเกิดเราปีนี้….เราขออะไร…ยี่หวาหน่อยได้ไหมครับ?”“ขออะไรคะ?”ฉันมองหน้าสิบทิศพลางขมวดคิ้งงุนงงและสงสัยก่อนจะค่อยๆวางถาดเค้กลงบนโต๊ะกินข้าวที่ห้องครัวบ้านของฉันไม่สิบ้านที่ฉันอาศัยพี่เคอยู่ต่างหากล่ะพรึบ“ยี่หวาก็รู้….ว่าการที่คนเราเป็นแฟนกัน…ไม่ใช่แค่เราคบกันโดยบอกคนอื่นว่าเราเป็นแฟนกันนะ…เราคบกันนะ..”“แต่มันเป็นเครื่องเตือนและบอกให้คนอื่นรู้ว่า….เรามีเจ้าของแล้ว…หรือยี่หวามีเจ้าของแล้ว…”สิบทิศว่าพลางชี้ไปที่ตัวเขาและตัวฉัน“และการที่คนเราจะรักกันมากขึ้น….เราควรจะรวมกันเป็นหนึ่งเดียวกัน…”สิบทิศทำสีหน้าจริงจังและแววตาจริงจ
“นอน….”พีเคว่าพลางกดร่างของหวันยิหวาให้นอนหงายลงไปบนที่นอนตามเดิม ตามด้วยร่างกายของพีเคที่ขึ้นคร่อมร่างเล็กของหวันยิหวาทันที เขาใช้ขาแกร่งทั้งสองข้างของเขาแทรกกลางหว่างขาของหวันยิหวาและออกแรงดันให้เธออ้าขาออกเพื่อเขาจะได้แทรกกลางหว่างขาของเธอได้ง่ายขึ้น พรึบ“อื้อออ…มันจะใส่ได้เหรอคะ…”“เถอะนะ…นอนเฉยๆ”พีเคเอ่ยบอกหวันยิหวาไปในขณะที่เขาได้จับลำกายใหญ่ของเขาถูเสียดสีไปกับเนินสามเหลี่ยมของเธออย่างช้าๆก่อนจะค่อยๆจับลำกายใหญ่ของเขามาถูเสียดสีไปกับใจกลางร่องสวาทของเธอเพื่อเรียกน้ำหวานให้ไหลนองออกมามากขึ้นเพื่อการสอดใส่ที่ง่ายขึ้น ร่างบางสั่นสะท้านไปทั้งร่างขาทั้งสองข้างของเธอสั่นระริกด้วยความเจ็บเมื่อพีเคค่อยๆกดปลายลำกายใหญ่ของเขาเข้าไปในร่องสวาทของเธออย่างช้าๆเพื่อให้ด้านในของเธอคุ้นชินกับลำกายใหญ่ของเขาแต่เป็นเขาเองที่กับเสียวซ่านเมื่อด้านในของหวันยิหวาตอดรัดลำกายใหญ่ของเขาถี่รัวและเส้นทางด้านในก็คับแน่นจนเขาต้องเงยหน้าซีดปากอย่างเสียวซ่าน“อย่าเกร็ง…ฉันก็เจ็บ..”พีเคเอ่ยบอกหวันยิหวาไป เพราะเขาสอดใส่ลำกายของเขายังไปไม่สุดลำเพราะด้านในของเธอถูกห่อหุ้มด้วยเหยื่อพรหมจรรย์ ทำให้พีเคต้องค่อยๆถอ
“หึ…เดี๋ยวฉันจะเปิดให้เธอดู…และทำตามนะ..รู้ไหม?”“ค่ะ…”หวันยิหวารับคำง่ายๆก่อนจะมองพีเคที่เอื้อมมือไปกดแป้นพิมพ์ของคอมพิวเตอร์เพื่อหาวีดีโอหนังผู้ใหญ่ เขาพิมพ์มันแปปหนึ่งพอเจอเรื่องที่ถูกใจก็กดเปิดดูทันที“ดูนะ…”พีเคเอ่ยบอกหวันยิหวาและเขาก็ขยับตัวมานอนมองร่างของหวันยิหวาที่เกือบเปลือยเปล่า หวันยิหวาก็ตั้งอกตั้งใจดู ในจอคอมพิวเตอร์สี่เหลี่ยมกำลังฉายภาพวิดีโอเคลื่อนไหวของผู้หญิงเปลือยที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวแพงในห้องนั่งเล่น โดยที่มือข้างหนึ่งของเธอลูบไล้ไปตามหน้าอกอวบอิ่มของเธอที่พลางใช้นิ้วเกี่ยยอดปทุมถันสีดำของเธอที่มีจุกใหญ่และขนาดใหญ่กว่าของหวันยิหวา และผู้หญิงคนนั้นก็ค่อยๆอ้าขาออกเผยให้เห็นเนื้อโหนกนูนที่มีขนนุ่มปกคลุมแต่ของหวันยิหวาไม่มี“เธอคงยังเด็ก….ก็เลยยังไม่มีเหมือนของเขานะ..แต่ฉันชอบแบบนี้มากกว่านะ…มองอวบอูมดีกว่า”พีเคว่าทำให้หวันยิหวาแอบยิ้มออกมา เธอค่อยๆอ้าขาตามแบบผู้หญิงในจอคอมพิวเตอร์และเธอก็ค่อยๆลูบปลายนิ้วชี้ไปกับสีข้างของกลีบกุหลาบงามก่อนจะส่งปลายนิ้วลูบไล้ไปตรงกลางร่องสวาทของเธอที่เธอเขี่ยทำไหลน้ำสีเหนียวเยิ้มก็ไหลซึมออกมาจนติดปลายนิ้วของหวันยิหวาแจ๊ะๆๆๆ“อื้ออ”หวันยิ
“อ๊ะๆๆๆๆเสียวหัว…เหมือนน้ำจะแตกแล้ว…”พีเคตะโกนเสียงดังออกมาเขามีความรู้สึกเหมือนตอนที่เขาเริ่มช่วยตัวเองครั้งแรกมันเสียวซ่านไปทั่วทั้งลำกายใหญ่น้ำเริ่มปริออกมาจากตรงรอยแยกและไม่นานร่างของพีเคก็สั่นสะท้านชักกระตุกเกร็งปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นเต็มช่องปากของหวันยิหวา“อึก…”หวันยิหวาที่ลิ้นของเธอรับรู้ถึงรสชาติที่ฝาดแต่พออยู่ไปสักพักก็เป็นรสชาติหวานออกมา น้ำสีขาวขุ่นไหลทะลักออกมาจากช่องปากของเธอ พีเคปล่อยศีรษะของหวันยิหวาให้เป็นอิสระก่อนที่เขาจะถอดถอนลำกายใหญ่ของเขาออกมาจากช่องปากของหวันยิหวาเขานอนหอบหายใจถี่รัวลำกายใหญ่กระตุกไปมาน้ำสีขาวขุ่นยังคงติดอยู่ตรงรอยแยกของส่วนปลายลำกายใหญ่“แผล๊บๆๆ”หวันยิหวายื่นปลายลิ้นเลียไปตามริมฝีปากของเธอเองเพื่อชิมรสชาติและดื่มกินนำ้สีขาวขุ่นที่พุ่งออกมาจากเจ้าโลกยักษ์ของพีเค ทำให้เธอรู้สึกว่ามันอร่อยทั้งหวานทั้งหอมทั้งมันส์…“มานี่สิ….ขอดูของเธอหน่อย…”พีเคว่าก่อนที่เขาจะยันตัวลุกขึ้นนั่งและจับร่างของหวันยิหวามานอนหนุนหมอนแทนที่เขา เธอก็ว่าง่ายยอมทำตามคำสั่งของพีเค“อื้อออ…”“จับตรงนี้…เสียวไหม…”พีเคเอ่ยถามหวันยิหวาไปในขณะที่เขายื่นมือทั้งสองข้างไปบีบคลึงเต้านม
พรึบ “อย่างงั้นแหละครับ….ค่อยๆแบบนี้..” “เด็กดี….”พีเคกระซิบเสียงกระเส่าเมื่อเขาจับทาบทับมือของหวันยิหวาให้รูดขึ้นรูดลงไปกับขนาดกำลายของเขาที่เธอยิ่งรูดขึ้นลงเท่าไหร่มันก็เหมือนจะขยายตัวใหญ่ขึ้นเเข็งขึ้นและดูน่ากลัวขึ้น พรึบ “พี่ขอดูหัวนมหน่อยนะ….ว่าหัวนมของยี่หวาสีอะไร..”พีเคว่าและไม่ได้รอให้คนร่างเล็กเอ่ยอนุญาตเขาก็จับชายเสื้อยืดของเธอถลกขึ้นทำให้เขามองเห็นเอวคอดหน้าท้องที่แบนราบจนมาหยุดอยู่ที่หน้าอกหน้าใจที่เริ่มแข็งของเธอเพราะเธอใกล้จะแตกเนื้อสาวเข้าไปทุกที พรึบ “หัวนมสีชมพูซะด้วย….”พีเคว่าพลางใช้ปลายนิ้วของเขาเขี่ยไปมากับยอดปทุมถันสีชมพูสดของเด็กอายุสิบห้าที่เริ่มรู้จักความเสียวร่างเล็กสั่นสะท้านทำให้พีเคเริ่มขยับใบหน้าหล่อกดปลายจมูกโด่งซุกไซ้ไปกับซอกคอของหวันยิหวาที่เธอนอนทำหน้าเหยเกอย่างเสียวซ่านและรู้สึกว่าที่ความเป็นสาวของเธอจะเริ่มเปียกแฉะมือเล็กก็ยังคงทำตามที่พีเคจับให้รูดขึ้นรูดลงไปกับลำกายใหญ่จนเธอเริ่มรู้สึกว่ามันเริ่มแข็งขึ้นและอุ่นขึ้นเรื่อยๆ “ยี่หวา….ทำให้พี่แบบนั้นได้ไหม?”พีเคละใบหน้าหล่อกระซิบเสียงกระเส่าไปที่ข้างหูของหวันยิหวาพลางชี้นิ้วไปที่หน้าจอคอม
ความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งครั้งแรกของหวันยิหวากับพีเค….. “อ๊าๆๆๆๆๆ” “อื้ออออ…” “อ๊าาาาาห์….”เด็กหนุ่มที่วัยแตกเนื้อหนุ่มได้ร้องครวญครางออกมาเมื่อเขาได้ใช้มือหนานุ่มของเขากำเจ้าลำกายใหญ่ของเขาอยู่พลางรูดอุ้งมือขึ้นลงตามแรงอารมณ์ สายตาคู่คมนัยน์ตาสีดำก็จับจ้องไปยังหน้าจอคอมพิวเตอร์ของตัวเองด้วยแววตาหวานเยิ้มเฉอะแฉะ วัยแตกเนื้อหนุ่มที่เริ่มฝันเปียกเริ่มรู้จักวิธีการช่วยตัวเองอย่างพีเคหนุ่มสิบเจ็ดหน้าตาดีที่มีลำกายที่ใหญ่โตเกิดอายุ เขาทำหน้าเหยเกเมื่อเขาเร่งมือของเขาให้เร็วขึ้นเพื่อสำเร็จความใคร่ให้ตัวเองน้ำตรงกลางส่วนรอยแยกเริ่มไหลซึมออกมาความเสียวแล่นไปทั่วทั้งปลายลำกายใหญ่ แต่แล้วความฝันของเขาก็ต้องเกือบดับลง เมื่อมีร่างเล็กของน้องสาวเพื่อนที่ร่วมอาศัยอยู่ในบ้านของเขาที่เขาเช่าให้เด็กกำพร้าทั้งสองคนได้อยู่ นานๆครั้งเขาถึงจะมานอนที่บ้านนี้ร่วมกับเพื่อนเขาสักครั้งในครั้งนี้ที่เขามาเพราะต้องมาอยู่เป็นเพื่อน หวันยิหวาน้องสาวของเพื่อนสนิทของเขา “พะพี่เค?”หวันยิหวามองหน้าพีเคตาใส ทำให้พีเคที่หาผ้าอะไรมาปิดเจ้าโลกของตัวเองไม่ทันแล้วจึงจับมันตั้งตระหง่านท้าทายสายตาเด็กสาววัยแรกรุ่นอย่างหวั
ภัตตาคารหรูใจกลางเมืองDชั้นที่3ยี่หวา หวันยิหวา19:30น.พรึบ“สวยมาก…ยี่หวา^_^”เสียงเอ่ยชมฉันดังขึ้นมาจากใยไหมที่เธอช่วยฉันแต่งหน้าทำผมและเสื้อผ้านี้เธอก็เป็นคนหามาให้ฉันเสร็จสรรพ ตอนนี้ผมของฉันที่เคยยาวตรงได้ถูกดัดเป็นลอนใหญ่มัดรวบไว้ด้านหลังเป็นหางม้าใบหน้าของฉันแต่งเติมให้เป็นสาวสวยหวานริมฝีปากสีชมพูของฉันถูกแต่งเติมด้วยลิปกลอสแค่นั้นแก้มที่อมชมพูของฉันก็ถูกปัดแก้มสีชมพูอ่อนๆนิดหนึ่งเสื้อผ้าที่ฉันใส่เป็นชุดเดรสสีขาวกระโปรงยาวเลยหัวเข่าแขนสั้นเป็นแขนกระปุกดูเป็นลุคใสๆน่ารักๆ“คุณพ่อของเธอจะชอบฉันไหม?”ฉันเอ่ยถามใยไหมไปในขณะที่เราสองคนเดินเคียงคู่กันเดินไปตามทางเดินของร้านอาหารหรูแห่งนี้ ซึ่งที่นี้มีทั้งหมดสามชั้นเป็นตึกที่ถูกสร้างอยู่ใจกลางเมืองกรุงและชั้นที่เราสองคนจะไปคือชั้นสามนั่นคือชั้นระดับลูกค้าวีไอพีเท่านั้น“ชอบสิ^_^”“ทำไมท่านจะต้องไม่ชอบเธอด้วย?”ใยไหมว่าพลางหันมาขมวดคิ้วมองฉันอย่างพินิจพิจารณา“ก็ดูที่พี่เคพูดออกสื่อไปสิ…ว่าเขาหนีตามฉัน”ฉันบอกใยไหมไปอย่างกังวลใจกับคำพูดที่พี่เคพูดออกสื่อว่าเขาหนีตามฉันตั้งแต่อายุสิบเจ็ด“อืม…ก็จริงนะว่าคุณพ่อของฉันก็รู้จักเธอในรายการสดที
ขณะเดียวกัน….บริษัทส่งออกอะไหล่รถยนตร์สำนักงานใหญ่ห้องท่านประธานบริษัท…พรึบ“ผู้หญิงที่ชื่อหวันยิหวานี่คือใครกัน?”ชายร่างท้วมที่ใส่สูทเต็มยศเอ่ยขึ้นพลางตบมือลงไปบนโต๊ะทำงานของเขา“แฟนคุณหนูครับ”ชายหนุ่มชุดดำที่อายุอ่อนกว่ามากเอ่ยขึ้นทำให้ผู้เป็นนายที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงานขนาดใหญ่หันขวับมองลูกน้องตาเขียดปัด“ฉันรู้แล้ว…ว่าผู้หญิงคนนั้นคือแฟนไอ้เค!”กมลภพเอ่ยขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ทำให้ชายชุดดำก้มหน้าลงอย่างเกรงกลัวผู้เป็นนายทันที“ไอ้ลูกเวร…รักผู้หญิงมากกว่าพ่อ!”กมลภพว่าพลางเบะปากเล็กน้อยอย่างน้อยใจลูกชายตัวเองที่หนีออกจากบ้านไปตั้งแต่อายุสิบเจ็ดและไม่ยอมกลับบ้านมาหาเขาอีกเลย“คุณหนูหนีตามผู้หญิงไปจริงๆอย่างที่ให้สัมภาษณ์เหรอครับท่าน?”“อยากรู้มากไหม?”“นิดหน่อยครับ…คุณหนูหล่อเหลาขนาดนี้…แฟนคุณหนูต้องสวยสง่ามากแน่ๆเลยครับ”“หึ…ฉันจะตอบแกและให้เงินเดือนสามเดือนกับแก”“จริงเหรอครับ…ท่านใจดีจังจะให้เงินเดือนล่วงหน้ากับผมด้วย”“และพอแกรับเงินเสร็จแกก็ไม่ต้องมาทำงานที่นี้อีกเลย!!”กมลภพเอ่ยเสียงเขียวพลางผ่อนลมหายใจออกฟุดฟิดๆอย่างไม่พอใจสายตาก็จับจ้องไปที่หน้าของพีเคที่อยู่ในโทรทัศน์จอแบนหรูข
สถานีโทรทัศน์มีชื่อเสียงติดอันดับหนึ่งระดับประเทศ…ห้องรายการสัมภาษณ์สด…. สัมภาษณ์พีเค ไตรนภพ นักมวยชื่อดังแห่งยุคนี้…นักข่าวหนึ่ง:ทำไมคุณพีเคที่ชนะจากเวที boxer star ถึงได้สละสิทธิ์การไปแข่งที่ประเทศอังกฤษล่ะค่ะ?พีเค ไตรนภพ:(ยิ้มมุมปาก)ผมคิดว่าที่นั้นไม่ใช่จุดสูงสุดในชีวิตของผมนักข่าวหนึ่ง:ไม่ใช่จุดสูงสุดในชีวิตหรือหน้าที่การงานคะนักข่าวหนึ่ง:เพราะคุณพีเคเป็นนักมวยมืออาชีพการชกมวยของคุณก็เป็นที่น่าเกรงขามในหมู่นักมวยด้วยกันพีเค ไตรนภพ:ครับ..ผมทราบดีและการที่ผมได้เข้าสู่วงการมวยก็เพราะตอนอายุสิบเจ็ด…ผมเป็นเด็กใจแตกครับนักข่าวหนึ่ง:เด็กใจแตกเหรอคะ?(ทำหน้าตกใจมาก)พีเค ไตรนภพ:(ยิ้มมุมปากอย่างเขินอายก่อนจะมองเลยไปยังที่นั่งคนดู)ครับใจแตกหนีออกจากบ้านไปอยู่กับผู้หญิงครับนักข่าวหนึ่ง:(อ้าปากค้าง)ไม่อยากจะเชื่อเลยนะคะว่าผู้ชายนิ่งๆอย่างคุณพีเคนี่จะหนีตามผู้หญิงนักข่าวหนึ่ง:ผู้หญิงคนนั้นต้องสวยมากเลยใช่ไหมคะพีเค ไตรนภพ:ก็น่ารักในแบบของเธอแหละครับพีเค ไตรนภพ:แบบที่โดนใจผมนักข่าวหนึ่ง:ดิฉันนี่ตื่นเต้นมากเลยนะคะ ว่าจะได้สัมภาษณ์กับนักมวยอาชีพอย่างคุณพีเคที่มีชื่อเสียงร่ำลือว่าหน้านิ
พรึบ“ทีนี้….ยี่หวา…จะตกลงเป็นแฟนกับพี่ได้รึยัง…ครับ!”พี่เคเอ่ยออกมาพลางยิ้มแหยๆให้ฉัน เพราะเขาไม่เคยพูดครับกับฉัน ทำให้หัวใจดวงน้อยๆของฉันพองโตขึ้นมาพรึบ“หัวใจของพี่…มันเรียกร้องหาแต่…หวันยิหวา…หวันยิหวา….คนเดียวเลยนะ”พี่เคว่าพลางจับมือฉันไปวางแนบบนหน้าอกข้างซ้ายของเขาที่ตอนนี้หัวใจของเขาได้เต้นรัวแรงไม่รู้ว่าเกิดจากการที่เขาเพิ่งไปวิ่งรอบสนามมาและยังมาต่อสก๊อตจั้มอีกหรือเพราะมันเรียกร้องหาแต่ฉันเหมือนที่พี่เคบอกจริงๆกันแน่“รู้ไหม…ว่าทำไมพี่ไม่เคยมีแฟน…?”พี่เคเอ่ยขึ้น ทำให้ฉันมองหน้าเขาอย่างสนใจในคำพูดของเขา“ไม่รู้ค่ะ….”ฉันตอบเขาไปอย่างไม่รู้จริงๆเพราะตั้งแต่ฉันรู้จักเขามา เขาไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนไหนนอกจากใยไหมที่ตอนแรกฉันนึกว่าเขาจะจีบใยไหมซะอีกพี่เคยิ้มเขินอายให้ฉันก่อนจะยื่นมือหนาของเขามาจับแก้มของฉันและใช้ปลายนิ้วโป้งลูบแก้มของฉันอย่างแผ่วเบาและยิ้มอ่อนโยนให้ฉัน“เพราะพี่มีเมียแล้วไง…”พี่เคว่าเสียงนุ่มนวลแววตาที่เคยแข็งกร้าวของเขาตอนนี้มันกลับเป็นทั้งอ่อนโยนและอ่อนหวานจนฉันต้องเม้มปากเป็นเส้นตรงเพราะน้ำตาแห่งความดีใจของฉันมันกำลังจะไหลรินออกมาพรึบ“ร้องไห้ทำไมครับ?”“