วันต่อมาทิชามาส่งฉันที่บ้าน บอกตามตรงว่าไม่อยากกลับสักเท่าไรเพราะรู้ว่าพ่อคงจะพูดเรื่องว่าที่คู่หมั้นจนน่ารำคาญ
“แกยังไม่บอกเลยนะว่าเมื่อวานคุยอะไรกับคุณคัลเลน เขาจะรับผิดชอบหรือเปล่า” “รับผิดชอบหรอชา ฉันไม่ต้องการให้คนแบบนั้นมารับผิดชอบเลยสักนิด” แค่ได้ยินชื่อก็หงุดหงิดแล้ว ผู้ชายคนนั้นแม้แต่ชื่อฉันยังไม่อยากพูดถึง คนเลวๆ แบบนั้นอย่าให้เจอกันอีกเลย “แต่…..” “อะไรที่เสียไปแล้วก็ช่างมัน ฉันพลาดเองและแกไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้อีก….คิดซะว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น” “ฉันเป็นห่วงแกนะเกล” “ไปก่อนนะ ส่วนแกไม่ต้องตามเข้าไปในบ้านถ้าพ่อรู้ว่าฉันกลับมาก่อนแกจะถูกบ่นไปด้วย” “อื้อ มีอะไรก็ทักแชทมานะเกล” “อือ” ฉันเปิดประตูออกมาจากรถ ก่อนที่ทิชาจะขับรถออกไปจากบ้าน ไม่นานก็มีลูกน้องของพ่อมาช่วยถือกระเป๋าเดินทางที่มีมากกว่าสามใบ “ไม่คิดจะบอกพ่อเลยหรือไง” เพียงแค่ก้าวขาเข้ามาในบ้านก็ได้ยินเสียงของพ่อท้วงขึ้นมาทันที “บอกเรื่องอะไรคะ” “อย่าคิดว่าพ่อไม่รู้นะว่าลูกกลับมาตั้งแต่เมื่อไร” “รู้ก็ดีแล้วค่ะ” ฉันมักจะพูดกับพ่อแบบนี้ จริงๆ ไม่ค่อยสนิทกับพ่อเท่าไร ฉันสนิทกับแม่มากกว่าแต่ตอนนี้แม่ไม่อยู่แล้ว อาจจะมองว่าฉันเป็นคนกร้าวร้าวแต่สิ่งที่ทำพ่อสมควรได้รับ ในวันที่แม่ป่วยหนักอยู่ที่โรงพยาบาลไม่มีแม้แต่เงาของพ่อโผล่มาเยี่ยม ทั้งที่พี่เรย์โทรไปร้องไห้ขอให้พ่อมาดูใจแม่ แต่ก็ไร้เงา และพอรู้เหตุผลก็ยิ่งทำให้โกรธยิ่งกว่าเดิมเพราะพ่อก็แค่ติดเด็กนักศึกษา ไม่ใช่มีงานสำคัญอะไรเลยและจะไม่โกรธขนาดนี้ถ้าวันนั้นไม่ใช่วันที่แม่เสีย ฉันรู้ว่าพ่อเป็นคนเจ้าชู้และพ่อกับแม่ก็ถูกจับให้แต่งงานโดยที่ไม่ได้รักกันแต่ทำแบบนั้นมันใจดำเกินไปหรือเปล่า นี่หรอเบื้องหลังนักธุรกิจใจบุญที่หลายคนต่างชื่นชม ถึงแม้ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนฉันคงไม่มีวันลืม “หัดพูดกับพ่อให้มันดีๆ หน่อยเกลลิน” “แล้วเกลพูดไม่ดีตรงไหน” “อยากถูกทำโทษใช่ไหม!!” พ่อตวาดถามเสียงดัง เมื่อก่อนพ่อมักจะลงโทษฉันบ่อยๆ เพราะดื้อไม่เชื่อฟัง ที่ถูกส่งไปเรียนอเมริกาก็เพราะแบบนี้ “เกลโตแล้วค่ะ” พ่อถอนหายใจออกมาหนักๆ เหมือนพยายามระงับอารมณ์ไม่ให้หงุดหงิดกับฉันไปมากกว่านี้ “พรุ่งนี้เตรียมตัวให้พร้อม บารอนจะมารับลูกไปกินข้าว” บารอน ให้เดาคงเป็นผู้ชายที่พ่อกำลังจับคู่ให้สินะ แบบนี้มันมัดมือชกกันชัดๆ “เกลพูดเรื่องนี้ไปแล้วนะคะ” “พ่อก็พูดไปแล้วเหมือนกัน” “ไม่ค่ะ เกลไม่ไป เกลจะไปช่วยงานที่บริษัท” “งานที่บริษัทมันเป็นหน้าที่ของพี่ชายลูก อย่าทำอะไรที่พ่อไม่ชอบ อย่าให้ถึงขั้นต้องบังคับ” “พ่อ!!!” ฉันตวาดเสียงดังพร้อมกำมือแน่น มันโกรธที่รู้ว่าคนเป็นพ่อตรงหน้าไม่เคยสนใจและถามไถ่อะไรเลยเอาแต่บังคับบงการชีวิตของฉันตั้งแต่เด็กจนโต “เกลกลับมาตั้งแต่เมื่อไร” เสียงเรียกชื่อตัวเองดังขึ้นฉันรีบหันไปมองก่อนจะเห็นพี่ชายของตัวเองเดินเข้ามาในบ้าน “พี่เรย์” “แอบกลับมาไม่บอกพี่ใช่ไหม” พี่เรย์ถามเสียงดุ “ปิดพี่เรย์ไม่ได้จริงๆ สินะ” ฉันตอบพร้อมรอยยิ้ม ในบ้านหลังนี้มีแค่พี่เรย์ที่ฉันรักมากที่สุด เพราะตั้งแต่แม่เสียไปก็เหมือนว่าเรามีกันอยู่แค่สองคนพี่น้อง “ไม่เอาแบบนี้นะเกล พรุ่งนี้พี่จะให้ลูกน้องตามไป ห้ามขัดด้วย” “นี่พี่เรย์ก็รู้เรื่องที่พ่อจะให้เกลแต่งงานหรอคะ” ฉันขมวดคิ้วมองหน้าพี่ชาย คิดมาตลอดว่าพี่เรย์จะช่วยพูดให้แต่เหมือนมันไม่เป็นอย่างนั้น “บารอนเป็นคนดีนะเกล” “แล้วเรารักกันหรอคะ เราไม่รู้จักกันด้วยซ้ำ” “ไม่เอาน่า เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ได้ทำความรู้จักกันแล้ว” “เกลคิดไปเองหรือเปล่าคะ เหมือนพี่ชายของเกลเปลี่ยนไปมากเลยนะ” ความรู้สึกที่แทรกเข้ามาคือความผิดหวัง และเหมือนว่ากำลังสู้อยู่คนเดียว รู้แบบนี้ฉันคงไม่กลับมาไทยเหมือนเอาตัวเองมาติดกับดัก “ตอนนี้พี่มีปัญหาทางธุรกิจ ถ้าเกลแต่งกับบารอนจะช่วยครอบครัวเราได้เยอะเลยนะ” “นี่หรอคะเหตุผล เกลไม่เห็นจะเข้าใจเลย” “พวกมันมีอำนาจมากกว่า เกลเข้าใจพี่กับพ่อหน่อย” “พ่อกับพี่เรย์นั่นแหละไม่เข้าใจเกล” “ลูกคนนี้ทำไมถึงดื้อด้านขนาดนี้ห๊ะ!!” พ่อที่เงียบอยู่นานตวาดขึ้น แต่มันไม่ได้ทำให้ฉันสะทกสะท้านสักเท่าไร “ปัญหาที่ว่าคือกับคนที่ชื่อคัลเลนหรือเปล่าคะ” “รู้จักมันได้ยังไง” พี่เรย์ขมวดคิ้วถาม ก่อนที่ฉันจะแสยะยิ้มจางๆ แล้วพูดต่อ “จะไม่รู้จักได้ยังไงละคะในเมื่อ…เกลไปนอนกับเขามา”Talk คัลเลน“มึงยิ้มอะไร?” เสียงไอ้คาแลนถามขณะที่ผมกำลังดูภาพถ่ายในมือถือ “แค่เจอเหยื่อที่ถูกใจ” “เรื่องน้องสาวไอ้เรย์มึงจัดการเรียบร้อยแล้ว?” “อืม” ผมพยักหน้าตอบพลางคิดย้อนไปถึงคืนนั้น ใครจะไปคิดว่าผู้หญิงที่ดูเหมือนมากประสบการณ์อย่างเธอจะบริสุทธิ์ ตอนรู้ผมเองก็ตกใจเหมือนกัน จนถึงตอนนี้ก็ยังจำความรู้สึกในคืนนั้นได้ “ไม่กลัวไอ้เรย์มาแหกอกหรือไง” “มีอะไรต้องกลัว มันแค่หมาลอบกัดไม่กล้าสู้ซึ่งๆ หน้า” ผมพูดความจริง อย่างไอ้เรย์ไม่มีอะไรน่ากลัวสักนิด มันชอบลอบกัดซะมากกว่า ทั้งสั่งให้คนมาวางเพลิงโกดังเก็บของ ทั้งลอบยิงไอ้คาแลน หมาลอบกัดอย่างมันก็ทำได้แค่นี้“พูดไปแล้วก็น่าเห็นใจน้องสาวมัน สวยๆ แบบนั้น ไม่น่าเกิดเป็นน้องไอ้เรย์” “อืม น่าเสียดาย” ผมตอบก้อนจะหยิบแก้วไวน์ตรงหน้าขึ้นมาดื่ม คิดถึงเรือนร่างเปลือยของเธอแล้วมันทำให้มีอารมณ์ขึ้นมาดื้อๆ “มึงคงไม่ได้ติดใจน้องสาวศัตรู?” “ก็…น่าสนใจ”“ไอ้คัลเลน!! มึงอย่าแม้แต่จะคิดกูไม่อยากปรองดองกับครอบครัวนั้น” “เออกูรู้ แต่น้องสาวมันก็น่าสนใจจริงๆ” “มึงโดนของ?”“กูอยากซื้อหุ้น ให้มือขวาของมึงไปสืบหน่อยว่าบริษัทมันมีใครถือหุ้นอยู่บ้าง” “มึ
Talk - เกลลิน#วันต่อมา มองตัวเองผ่านกระจกภายในห้องน้ำ รอยแดงที่เด่นชัดอยู่บนแก้มทำให้ร้องไห้ออกมา ไม่คิดว่าพี่ชายของตัวเองจะฟาดฝ่ามือลงบนใบหน้าหลังจากได้ยินฉันเอ่ยคำนั้น ตั้งแต่เมื่อวานฉันก็ขังตัวเองไว้ในห้องไม่กินข้าวไม่ยอมออกไปไหน ไม่ใช่เพราะประชดแต่มันเสียใจเพราะไม่คิดว่าพี่เรย์จะทำแบบนี้ ทั้งพ่อและพี่เรย์โกรธมากและเค้นถามถึงสามครั้งเรื่องที่ฉันพูดไปเป็นความจริงหรือเปล่า ที่บอกว่านอนกับผู้ชายชื่อคัลเลน แน่นอนว่าฉันยืนยันคำเดิมเป็นครั้งแรกที่ฉันรับรู้ได้ว่าพี่ชายที่เคยใจดี คนที่เข้าใจฉันมากที่สุดได้เปลี่ยนไปแล้วจริงๆ มันทำให้รู้สึกเหมือนตัวคนเดียว รู้สึกโดดเดี่ยว ฉันยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาออกจากแก้ม ไม่ชอบที่สุดคือเวลาที่ตัวเองร้องไห้ ไม่ชอบความรู้สึกอ่อนแอ ฉันมักจะถูกชมเสมอว่าเป็นผู้หญิงที่เก่งไม่อ่อนไหวกับอะไรง่ายๆ จนบางครั้งก็ถูกมองว่าเย่อหยิ่งติ้ง~ เสียงแชตเด้งเข้ามาในโทรศัพท์ เรียกความสนใจจากฉันที่กำลังเหม่อลอยให้หน้าก้มลงมองที่หน้าจอ Ticha: เกล แกเป็นยังไงบ้างตอบหน่อยได้ไหมฉันเป็นห่วง Ticha: แกขังตัวเองไว้ในห้องไม่ยอมกินข้าวแน่ๆ เลยใช่ไหม Ticha: ถ้าไม่ตอบฉันจะไปหาแกที่บ้
ฉันใช้จังหวะที่ไม่มีใครอยู่บ้านมาออกไปหาคนที่นัดหมาย ขับรถตามโลเคชั่นมาไกลจากบ้านพอสมควร หน้าจอโทรศัพท์แสดงให้เห็นว่าอีกไม่ถึงห้านาทีจะถึงจุดหมาย ไม่นานรถก็เข้ามาจอดที่คอนโดหรูแห่งหนึ่ง หน้าจอจีพีเอสบอกว่าตอนนี้ถึงจุดหมายแล้วเรียบร้อย ฉันยังนั่งอยู่ในรถไม่ดับเครื่องก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งแชตไปหาคนที่นัดมาที่นี่ฉัน: มาถึงแล้ว ไม่ถึงหนึ่งนาทีเจ้าของแชตที่ส่งไปบอกก็ตอบกลับมาอย่างรวดเร็วราวกับรออยู่ เมื่อได้อ่านข้อความนั้นทำเอาฉันถึงกับขมวดคิ้วCullen: เธอช้าไปยี่สิบนาที ฉัน: ตอนนั้นคุณไม่ได้บอกเวลากับฉันนะ Cullen: ฉันจับเวลาหลังจากพิมพ์ประโยคนั้นCullen: ฉันกำลังให้ลูกน้องลงไปรับ เดินไปรอที่หน้าลิฟต์ เจ้าเลห์!! ฉันกร่นด่าในใจก่อนจะปิดหน้าจอมือถือ ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่จากนั้นก็เดินไปที่ลิฟต์ @ภายในห้องชั้นบนสุดของคอนโดหรูคงไม่ต้องบรรยายว่าห้องจะกว้างใหญ่และหรูหราขนาดไหน ฉันเดินเข้ามาด้านในห้องก่อนที่สายตาจะหยุดโฟกัสไปยังคนที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ เพียงแค่เห็นใบหน้าคมคายความโกรธมันก็พลั่งพลูเข้ามาจนอัดแน่นเต็มอก ก่อนจะเหยียดยิ้มอย่างไม่เต็มใจให้กับคนตัวสูงตรงหน้า“มานั่
“แกจะไม่บอกทางบ้านจริงๆ หรอเกล”“ทำไมต้องบอก ทีเขายังไม่เคยบอกอะไรฉันเลย” “ถึงอย่างนั้นแกก็ไม่ควรไปที่นั่น ถ้าพี่ชายรู้เข้าแกจะซวยเอานะ”“ฉันจะไป แกต้องไปกับฉันด้วย”“แกนี่มันดื้อจริงๆ เลยนะเกล” เกลลิน คือชื่อของฉันหรือจะเรียก เกล ก็ได้ทั้งสอง ฉันเพิ่งกลับจากอเมริกาหลังจากเรียนจบ คิดว่าจะได้กลับมาช่วยธุรกิจของที่บ้านแต่คุณพ่อโทรมาบอกว่าจะให้แต่งงานโดยที่ฉันไม่รู้เลยว่าว่าที่เจ้าบ่าวเป็นใคร สิ่งที่ไม่ชอบมากที่สุดคือการคลุมถุงชน ที่ไปเรียนต่อต่างประเทศก็เพื่อกลับมาช่วยดูแลธุรกิจของครอบครัว ไม่ใช่ต้องมาแต่งงานกับใครที่ไม่ได้รัก เรื่องนี้ฉันต้องเป็นคนเลือกเองฉันเลือกจะกลับไทยก่อนกำหนดโดยไม่บอกให้ที่บ้านรู้และเลือกทำสิ่งที่พี่ชายห้ามอย่างไม่เกรงกลัว จะได้รู้ซะบ้างว่าคนอย่างเกลลินไม่ยอมทำตามคำสั่งของใครได้ง่ายๆ ถึงแม้คำสั่งนั้นจะมาจากคนในครอบครัวก็ตาม ฉันจะทำก็ต่อเมื่ออยากทำจริงๆ ไม่ใช่ตามคำสั่งของใคร“คลับนั่นค่อนข้างเถื่อนนะเกล แกจะไปจริงๆ หรอ” ทิชาเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของของฉันเอ่ยเตือนเป็นครั้งที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้ แต่ก็ใช่ว่าจะฟังเพราะมีคำตอบในใจ “ทำอย่างกับตอนอยู่อเมริกาฉันไม่
Talk คัลเลนผมมองร่างบางที่กำลังบิดเร้าร่างกายทรมานอย่างนึกสนุก ช่างเป็นภาพที่น่าหยิบเอาโทรศัพท์มาอัดคลิปไว้จริงๆ “ร้อนหรอ หื้ม~”“อะ อื้อ”“อยากให้ช่วยไหม” ผมคลานเข่าขึ้นมาบนเตียงก่อนจะดึงผู้หญิงที่ถูกยาปลุกเซ็กส์เล่นงานให้มานอนอยู่ใต้ร่าง“ระ ร้อน ร้อนมากเลย” “ขอร้องสิ แล้วฉันจะช่วยเธอ”“ชะ ช่วยเกล ระ ร้อน อื้อ~” “ถ้าพี่ชายเธอรู้มันคงแตกสลาย ที่เห็นว่าน้องสาวสุดที่รักของตัวเองกำลังอ้าขาอ้อนวอนขอร้องฉันอยู่”“พะ พูดอะไร อื้อ~ ชะ ช่วยเกลนะคะ อ๊า” “อ่า ถ่ายคลิปส่งให้พี่ชายเธอดูดีไหมนะ” เธอโชคร้ายที่เป็นน้องสาวของไอ้เรย์คนที่ผมเกลียดเข้ากระดูกดำ มันส่งคนมายิงพี่ชายของผมจนอาการสาหัส ถ้าจะเอาคืนด้วยการเล่นอะไรสนุกๆ กับน้องสาวสุดที่รักของมันคงไม่ใช่เรื่องผิด คนอย่างผมไม่สนใจอะไรอยู่แล้วเพราะไม่ใช่คนดี ในเมื่อมันทำคนในครอบครัวของผมก่อน ถ้าให้เอาคืนแบบที่มันทำคงง่ายเงินไป การย่ำยีน้องสาวของมันสนุกกว่าเป็นไหนๆ “คนสวย” ผมมองผู้หญิงที่กำลังดิ้นพล่านอยู่ใต้ร่าง เธอสวยถูกใจ แต่น่าเสียดายที่เป็นน้องสาวของคนที่ผมเกลียด “อื้อ~ เกลร้อน อ๊า~ ช่วย อื้อ~”“ฉันช่วยเธอแน่คนสวย” “อ๊า~” มือเล็กเริ
ฉันมาที่คอนโดของทิชา สภาพในตอนนี้มันไม่น่ามองเลยเพราะใบหน้านั้นซีดเอามากๆ แถมยังเจ็บที่ตรงนั้นตลอดเวลาราวกับมีอะไรอยู่ข้างใน “กะ เกลนี่แก” ทิชารีบประคองตัวฉันมานั่งบนโซฟา เธอดูตกใจมากๆ ที่เห็นสภาพแบบนี้ “แกไปทำอะไรมา เมื่อคืนหายไปไหน ทะ ทำไมสภาพถึงแย่ขนาดนี้” “ให้คนของพ่อแกสืบให้หน่อย” ฉันบอกทิชาโดยไม่สนใจคำถามของเธอก่อนหน้านี้“สืบอะไร?” “ประวัติของผู้ชายที่นอนกับฉันเมื่อคืน” ดวงตาของทิชาเบิกกว้างทั้งสองข้างหลังจากได้ยินที่ฉันพูดไปเมื่อครู่ เธอนิ่งราวกับถูกแช่แข็ง “เอาแค่เบอร์ของเขามาก่อนก็ได้ ตอนนี้ฉันต้องการจะคุยกับเขา ด่วนที่สุด” “กะ แกเนี่ยนะ ตายๆ ตายแน่ๆ ถ้าพ่อแกรู้ได้ตายแน่ๆ” ตอนนี้ทิชามีท่าทางที่ตื่นตระหนกรนรานทำตัวไม่ถูก ซึ่งมันก็ไม่แปลกเพราะพ่อของฉันชอบดุแถมพี่ชายก็ยังไม่ต่างจากพ่อ “ชา ทำตามที่ฉันขอก่อนได้ไหมอย่าเพิ่งตกใจ”“ให้ตายสิจะไม่ตกใจได้ยังไง ฉันแทบจะเป็นลมอยู่แล้ว”“เร็วๆ ด้วย ขอด่วนที่สุด”“บอกฉันทีว่าเมื่อคืนเขาไม่ได้ทำอะไรแก” “เห็นสภาพของฉันแล้วคิดว่ายังไงล่ะชา”“ฉันจะเป็นลมจริงๆ นะเกล” ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ ไม่ใช่ว่าไม่คิดอะไรเลยมันแค้นมากๆ และกลัวพ่อกับ
ฉันใช้จังหวะที่ไม่มีใครอยู่บ้านมาออกไปหาคนที่นัดหมาย ขับรถตามโลเคชั่นมาไกลจากบ้านพอสมควร หน้าจอโทรศัพท์แสดงให้เห็นว่าอีกไม่ถึงห้านาทีจะถึงจุดหมาย ไม่นานรถก็เข้ามาจอดที่คอนโดหรูแห่งหนึ่ง หน้าจอจีพีเอสบอกว่าตอนนี้ถึงจุดหมายแล้วเรียบร้อย ฉันยังนั่งอยู่ในรถไม่ดับเครื่องก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งแชตไปหาคนที่นัดมาที่นี่ฉัน: มาถึงแล้ว ไม่ถึงหนึ่งนาทีเจ้าของแชตที่ส่งไปบอกก็ตอบกลับมาอย่างรวดเร็วราวกับรออยู่ เมื่อได้อ่านข้อความนั้นทำเอาฉันถึงกับขมวดคิ้วCullen: เธอช้าไปยี่สิบนาที ฉัน: ตอนนั้นคุณไม่ได้บอกเวลากับฉันนะ Cullen: ฉันจับเวลาหลังจากพิมพ์ประโยคนั้นCullen: ฉันกำลังให้ลูกน้องลงไปรับ เดินไปรอที่หน้าลิฟต์ เจ้าเลห์!! ฉันกร่นด่าในใจก่อนจะปิดหน้าจอมือถือ ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่จากนั้นก็เดินไปที่ลิฟต์ @ภายในห้องชั้นบนสุดของคอนโดหรูคงไม่ต้องบรรยายว่าห้องจะกว้างใหญ่และหรูหราขนาดไหน ฉันเดินเข้ามาด้านในห้องก่อนที่สายตาจะหยุดโฟกัสไปยังคนที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ เพียงแค่เห็นใบหน้าคมคายความโกรธมันก็พลั่งพลูเข้ามาจนอัดแน่นเต็มอก ก่อนจะเหยียดยิ้มอย่างไม่เต็มใจให้กับคนตัวสูงตรงหน้า“มานั่
Talk - เกลลิน#วันต่อมา มองตัวเองผ่านกระจกภายในห้องน้ำ รอยแดงที่เด่นชัดอยู่บนแก้มทำให้ร้องไห้ออกมา ไม่คิดว่าพี่ชายของตัวเองจะฟาดฝ่ามือลงบนใบหน้าหลังจากได้ยินฉันเอ่ยคำนั้น ตั้งแต่เมื่อวานฉันก็ขังตัวเองไว้ในห้องไม่กินข้าวไม่ยอมออกไปไหน ไม่ใช่เพราะประชดแต่มันเสียใจเพราะไม่คิดว่าพี่เรย์จะทำแบบนี้ ทั้งพ่อและพี่เรย์โกรธมากและเค้นถามถึงสามครั้งเรื่องที่ฉันพูดไปเป็นความจริงหรือเปล่า ที่บอกว่านอนกับผู้ชายชื่อคัลเลน แน่นอนว่าฉันยืนยันคำเดิมเป็นครั้งแรกที่ฉันรับรู้ได้ว่าพี่ชายที่เคยใจดี คนที่เข้าใจฉันมากที่สุดได้เปลี่ยนไปแล้วจริงๆ มันทำให้รู้สึกเหมือนตัวคนเดียว รู้สึกโดดเดี่ยว ฉันยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาออกจากแก้ม ไม่ชอบที่สุดคือเวลาที่ตัวเองร้องไห้ ไม่ชอบความรู้สึกอ่อนแอ ฉันมักจะถูกชมเสมอว่าเป็นผู้หญิงที่เก่งไม่อ่อนไหวกับอะไรง่ายๆ จนบางครั้งก็ถูกมองว่าเย่อหยิ่งติ้ง~ เสียงแชตเด้งเข้ามาในโทรศัพท์ เรียกความสนใจจากฉันที่กำลังเหม่อลอยให้หน้าก้มลงมองที่หน้าจอ Ticha: เกล แกเป็นยังไงบ้างตอบหน่อยได้ไหมฉันเป็นห่วง Ticha: แกขังตัวเองไว้ในห้องไม่ยอมกินข้าวแน่ๆ เลยใช่ไหม Ticha: ถ้าไม่ตอบฉันจะไปหาแกที่บ้
Talk คัลเลน“มึงยิ้มอะไร?” เสียงไอ้คาแลนถามขณะที่ผมกำลังดูภาพถ่ายในมือถือ “แค่เจอเหยื่อที่ถูกใจ” “เรื่องน้องสาวไอ้เรย์มึงจัดการเรียบร้อยแล้ว?” “อืม” ผมพยักหน้าตอบพลางคิดย้อนไปถึงคืนนั้น ใครจะไปคิดว่าผู้หญิงที่ดูเหมือนมากประสบการณ์อย่างเธอจะบริสุทธิ์ ตอนรู้ผมเองก็ตกใจเหมือนกัน จนถึงตอนนี้ก็ยังจำความรู้สึกในคืนนั้นได้ “ไม่กลัวไอ้เรย์มาแหกอกหรือไง” “มีอะไรต้องกลัว มันแค่หมาลอบกัดไม่กล้าสู้ซึ่งๆ หน้า” ผมพูดความจริง อย่างไอ้เรย์ไม่มีอะไรน่ากลัวสักนิด มันชอบลอบกัดซะมากกว่า ทั้งสั่งให้คนมาวางเพลิงโกดังเก็บของ ทั้งลอบยิงไอ้คาแลน หมาลอบกัดอย่างมันก็ทำได้แค่นี้“พูดไปแล้วก็น่าเห็นใจน้องสาวมัน สวยๆ แบบนั้น ไม่น่าเกิดเป็นน้องไอ้เรย์” “อืม น่าเสียดาย” ผมตอบก้อนจะหยิบแก้วไวน์ตรงหน้าขึ้นมาดื่ม คิดถึงเรือนร่างเปลือยของเธอแล้วมันทำให้มีอารมณ์ขึ้นมาดื้อๆ “มึงคงไม่ได้ติดใจน้องสาวศัตรู?” “ก็…น่าสนใจ”“ไอ้คัลเลน!! มึงอย่าแม้แต่จะคิดกูไม่อยากปรองดองกับครอบครัวนั้น” “เออกูรู้ แต่น้องสาวมันก็น่าสนใจจริงๆ” “มึงโดนของ?”“กูอยากซื้อหุ้น ให้มือขวาของมึงไปสืบหน่อยว่าบริษัทมันมีใครถือหุ้นอยู่บ้าง” “มึ
วันต่อมาทิชามาส่งฉันที่บ้าน บอกตามตรงว่าไม่อยากกลับสักเท่าไรเพราะรู้ว่าพ่อคงจะพูดเรื่องว่าที่คู่หมั้นจนน่ารำคาญ “แกยังไม่บอกเลยนะว่าเมื่อวานคุยอะไรกับคุณคัลเลน เขาจะรับผิดชอบหรือเปล่า”“รับผิดชอบหรอชา ฉันไม่ต้องการให้คนแบบนั้นมารับผิดชอบเลยสักนิด” แค่ได้ยินชื่อก็หงุดหงิดแล้ว ผู้ชายคนนั้นแม้แต่ชื่อฉันยังไม่อยากพูดถึง คนเลวๆ แบบนั้นอย่าให้เจอกันอีกเลย “แต่…..”“อะไรที่เสียไปแล้วก็ช่างมัน ฉันพลาดเองและแกไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้อีก….คิดซะว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น”“ฉันเป็นห่วงแกนะเกล”“ไปก่อนนะ ส่วนแกไม่ต้องตามเข้าไปในบ้านถ้าพ่อรู้ว่าฉันกลับมาก่อนแกจะถูกบ่นไปด้วย”“อื้อ มีอะไรก็ทักแชทมานะเกล” “อือ” ฉันเปิดประตูออกมาจากรถ ก่อนที่ทิชาจะขับรถออกไปจากบ้าน ไม่นานก็มีลูกน้องของพ่อมาช่วยถือกระเป๋าเดินทางที่มีมากกว่าสามใบ “ไม่คิดจะบอกพ่อเลยหรือไง” เพียงแค่ก้าวขาเข้ามาในบ้านก็ได้ยินเสียงของพ่อท้วงขึ้นมาทันที “บอกเรื่องอะไรคะ” “อย่าคิดว่าพ่อไม่รู้นะว่าลูกกลับมาตั้งแต่เมื่อไร” “รู้ก็ดีแล้วค่ะ” ฉันมักจะพูดกับพ่อแบบนี้ จริงๆ ไม่ค่อยสนิทกับพ่อเท่าไร ฉันสนิทกับแม่มากกว่าแต่ตอนนี้แม่ไม่อยู่แล้วอาจจะมอง
ฉันมาที่คอนโดของทิชา สภาพในตอนนี้มันไม่น่ามองเลยเพราะใบหน้านั้นซีดเอามากๆ แถมยังเจ็บที่ตรงนั้นตลอดเวลาราวกับมีอะไรอยู่ข้างใน “กะ เกลนี่แก” ทิชารีบประคองตัวฉันมานั่งบนโซฟา เธอดูตกใจมากๆ ที่เห็นสภาพแบบนี้ “แกไปทำอะไรมา เมื่อคืนหายไปไหน ทะ ทำไมสภาพถึงแย่ขนาดนี้” “ให้คนของพ่อแกสืบให้หน่อย” ฉันบอกทิชาโดยไม่สนใจคำถามของเธอก่อนหน้านี้“สืบอะไร?” “ประวัติของผู้ชายที่นอนกับฉันเมื่อคืน” ดวงตาของทิชาเบิกกว้างทั้งสองข้างหลังจากได้ยินที่ฉันพูดไปเมื่อครู่ เธอนิ่งราวกับถูกแช่แข็ง “เอาแค่เบอร์ของเขามาก่อนก็ได้ ตอนนี้ฉันต้องการจะคุยกับเขา ด่วนที่สุด” “กะ แกเนี่ยนะ ตายๆ ตายแน่ๆ ถ้าพ่อแกรู้ได้ตายแน่ๆ” ตอนนี้ทิชามีท่าทางที่ตื่นตระหนกรนรานทำตัวไม่ถูก ซึ่งมันก็ไม่แปลกเพราะพ่อของฉันชอบดุแถมพี่ชายก็ยังไม่ต่างจากพ่อ “ชา ทำตามที่ฉันขอก่อนได้ไหมอย่าเพิ่งตกใจ”“ให้ตายสิจะไม่ตกใจได้ยังไง ฉันแทบจะเป็นลมอยู่แล้ว”“เร็วๆ ด้วย ขอด่วนที่สุด”“บอกฉันทีว่าเมื่อคืนเขาไม่ได้ทำอะไรแก” “เห็นสภาพของฉันแล้วคิดว่ายังไงล่ะชา”“ฉันจะเป็นลมจริงๆ นะเกล” ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ ไม่ใช่ว่าไม่คิดอะไรเลยมันแค้นมากๆ และกลัวพ่อกับ
Talk คัลเลนผมมองร่างบางที่กำลังบิดเร้าร่างกายทรมานอย่างนึกสนุก ช่างเป็นภาพที่น่าหยิบเอาโทรศัพท์มาอัดคลิปไว้จริงๆ “ร้อนหรอ หื้ม~”“อะ อื้อ”“อยากให้ช่วยไหม” ผมคลานเข่าขึ้นมาบนเตียงก่อนจะดึงผู้หญิงที่ถูกยาปลุกเซ็กส์เล่นงานให้มานอนอยู่ใต้ร่าง“ระ ร้อน ร้อนมากเลย” “ขอร้องสิ แล้วฉันจะช่วยเธอ”“ชะ ช่วยเกล ระ ร้อน อื้อ~” “ถ้าพี่ชายเธอรู้มันคงแตกสลาย ที่เห็นว่าน้องสาวสุดที่รักของตัวเองกำลังอ้าขาอ้อนวอนขอร้องฉันอยู่”“พะ พูดอะไร อื้อ~ ชะ ช่วยเกลนะคะ อ๊า” “อ่า ถ่ายคลิปส่งให้พี่ชายเธอดูดีไหมนะ” เธอโชคร้ายที่เป็นน้องสาวของไอ้เรย์คนที่ผมเกลียดเข้ากระดูกดำ มันส่งคนมายิงพี่ชายของผมจนอาการสาหัส ถ้าจะเอาคืนด้วยการเล่นอะไรสนุกๆ กับน้องสาวสุดที่รักของมันคงไม่ใช่เรื่องผิด คนอย่างผมไม่สนใจอะไรอยู่แล้วเพราะไม่ใช่คนดี ในเมื่อมันทำคนในครอบครัวของผมก่อน ถ้าให้เอาคืนแบบที่มันทำคงง่ายเงินไป การย่ำยีน้องสาวของมันสนุกกว่าเป็นไหนๆ “คนสวย” ผมมองผู้หญิงที่กำลังดิ้นพล่านอยู่ใต้ร่าง เธอสวยถูกใจ แต่น่าเสียดายที่เป็นน้องสาวของคนที่ผมเกลียด “อื้อ~ เกลร้อน อ๊า~ ช่วย อื้อ~”“ฉันช่วยเธอแน่คนสวย” “อ๊า~” มือเล็กเริ
“แกจะไม่บอกทางบ้านจริงๆ หรอเกล”“ทำไมต้องบอก ทีเขายังไม่เคยบอกอะไรฉันเลย” “ถึงอย่างนั้นแกก็ไม่ควรไปที่นั่น ถ้าพี่ชายรู้เข้าแกจะซวยเอานะ”“ฉันจะไป แกต้องไปกับฉันด้วย”“แกนี่มันดื้อจริงๆ เลยนะเกล” เกลลิน คือชื่อของฉันหรือจะเรียก เกล ก็ได้ทั้งสอง ฉันเพิ่งกลับจากอเมริกาหลังจากเรียนจบ คิดว่าจะได้กลับมาช่วยธุรกิจของที่บ้านแต่คุณพ่อโทรมาบอกว่าจะให้แต่งงานโดยที่ฉันไม่รู้เลยว่าว่าที่เจ้าบ่าวเป็นใคร สิ่งที่ไม่ชอบมากที่สุดคือการคลุมถุงชน ที่ไปเรียนต่อต่างประเทศก็เพื่อกลับมาช่วยดูแลธุรกิจของครอบครัว ไม่ใช่ต้องมาแต่งงานกับใครที่ไม่ได้รัก เรื่องนี้ฉันต้องเป็นคนเลือกเองฉันเลือกจะกลับไทยก่อนกำหนดโดยไม่บอกให้ที่บ้านรู้และเลือกทำสิ่งที่พี่ชายห้ามอย่างไม่เกรงกลัว จะได้รู้ซะบ้างว่าคนอย่างเกลลินไม่ยอมทำตามคำสั่งของใครได้ง่ายๆ ถึงแม้คำสั่งนั้นจะมาจากคนในครอบครัวก็ตาม ฉันจะทำก็ต่อเมื่ออยากทำจริงๆ ไม่ใช่ตามคำสั่งของใคร“คลับนั่นค่อนข้างเถื่อนนะเกล แกจะไปจริงๆ หรอ” ทิชาเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของของฉันเอ่ยเตือนเป็นครั้งที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้ แต่ก็ใช่ว่าจะฟังเพราะมีคำตอบในใจ “ทำอย่างกับตอนอยู่อเมริกาฉันไม่