วันเดินทาง
"ทำไมพี่สกายจองทริปไม่บอกกันก่อนคะ!?" ฉันถามพี่ชายด้วยความสงสัยเพราะว่าอยู่ ๆ ก็เดินเข้ามาบอกจะกลับประเทศไทยพร้อมกับทริปร่องเรือสำราญ! ซึ่งมันช้ากว่ากลับด้วยเครื่องบินหลายเท่า เพราะเครือสำราญมักจะแวะเทียบท่าอยู่หลายประเทศ"เพราะพี่รู้ไงว่าเธอจะไม่ไปเลยมาบอกวันนี้เลย" สกายมองน้องสาวของเขาที่กำลังแสดงพฤติกรรมทางอารมณ์ ได้เหนือความคาดหมาย"เหอะ นี้มันไฟว์บังคับกันชัด ๆ เลย" ฉันมองพี่ชายตัวเองแล้วยังส่งสายตาดุ ๆ ไปให้ด้วย ถ้าจะถามว่สพี่เธอกลัวไหมนะเหรอ โนจะ! ไม่เคยกลัวเธอเลยออกจะชอบใจด้วยซ้ำ"อารมณ์ร้อนขึ้นนะเราอ่ะ" สกายบอกกับน้องสาวที่ทำสายตาดุดันส่งให้"ก็เพราะใครละ มาบอกวันนี้แล้วทีตัวเองละชิ จ้องตั๋วไฟว์บินกลับอย่างสบายใจ ส่วนน้องมอบทริปร่องเรือให้ไปเองเนี่ยนะ!?" สกาวถามด้วยความไม่พอใจถ้าต้องแล้วไปร่องเรือสำราญด้วยกันเธอจะไม่โหโหเลยนะ นี้เหมือนพาจับไปปล่อยให้เที่ยวเล่นแล้วหาทางกลับเอง"ก็ไม่ได้จะให้ไปคนเดียวสักหน่อย" สกายบอกกลับน้องสาวทันทีเมื่อเห็นสีหน้าเริ่มเปิ่นกังวลของเธอ"แล้วจะให้ไปกับใคร!? แลกกันไหมละพี่ก็เอาตัวเครื่องบินมาให้กาวบนเรือมีห้องพักมากมายหลายห้อง แต่ห้องของสกาวและมอทักรับเป็นห้องเดียวกันที่มีขนาดใหญ่ราวกับห้องสวีท แต่ก็ยังไม่ใช่ เพราะบนเรือสำราญลำนี้ไม่มีห้องสวีทอย่างที่หลายคนเข้าใจเป็นเพียงห้องธรรมดาแค่ใหญ่กว่าห้องพักปกติของนักท่องเที่ยว สามถึงสี่เท่า "ทำไมห้องเราสองคนถึงอยู่ด้วยกันล่ะคะ" สกาวถามด้วยความตกใจเพราะเธอไม่คิดว่าห้องพักของเธอจะอยู่กับเขาที่เขามาพร้อมกันทั้งยังแตะคีย์ ห้องเดียวกันได้อีกด้วย "พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน" หมอทักษ์ตอบออกไปทันทีทำไมเขาจะไม่รู้ก็พ่อถึงขั้นมาขอร้องเขาทั้งที่ปกติไม่เคยจะมีเวลาให้เลยด้วยซ้ำ "ได้ไง แบบนี้เราต้องแจ้งกับพนักงานไหมคะ" สกาวหันมาขอคำปรึกษาของเขาทันทีเมื่อมีสิ่งผิดพลาดเกิดขึ้นกับตนเอง"ไม่เป็นไรหรอกเรานอนด้วยกันก็ได้นี่" เขายังคงตอบออกมาแบบเป็นกันเองไม่ได้ซีเรียสกับห้องพักมาก "ได้เหรอคะ" เธอมองรอบห้องที่มีเตียงขนาดใหญ่พื้นพรมสีสวยรวมทั้งมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายเฉกเช่นทีวีตู้เย็นสัญญาณ WiFi ให้พร้อมหมดครบจบในห้องเดียว "ได้สิครับทำไมจะไม่ได้หรือว่าหนูกลัวอะไรหรือเปล่า" หมอทักษ์ยิ้มออกมาอย่างคนมีความนัยแอบแฝงไปด้วย กลล่อลวงที่ท
"ตกใจอะไรขนาดนั้นครับ" ปากเขาพูดถามเธอแต่มือกลับเอามาลูกคลึงสะโพกเธอเนี่ยนะ'ต้องการอะไร!' ให้ตายสิคนยิ่งมีอารมณ์และใจง่ายเพราะฮอร์โมนของคนท้องสูงอยู่ "มะ..หมอ~ อย่าบีบมันเจ็บค่ะ" สกาวเริ่มทำตัวไม่ถูกเพราะเขาเริ่มยกเธอขึ้นมาให้เอาขารัดตรงเอว ส่วนช่วงล่างจุดสงวนกลับแนบชิดเสียดสีกัน "จะทำให้เบาที่สุด" เสียงกระซิบเบา ๆ ผ่านใบหูทำให้เธอรู้สึกจั๊กจี้จนต้องย่นหน้าลง เพื่อหลบน้ำเสียงและการสัมผัสจากริมฝีปากของเขา "อ๊าส~" เธอร้องครางออกมาด้วยความเสียวเมื่อถูกสัมผัสและรบเร้า จากมือหนาของเขา"เสียวไหม" มือหนาของหมอทักษ์ค่อยๆ สอดเข้าไปในร่องรักและเริ่มเร่งจังหวะเข้าออกอย่างช้า ๆ สกาวพยายามก้มลงจ้องมองมือแกร่งที่สอดนิ้วเข้ามาในแอ่งร่องรักของเธอ "อยากเห็นหรอครับ" น้ำเสียงสุภาพอ่อนโยนของเขากลับทำให้เธอต้องรู้สึกโอนเอนไปพร้อมกับการรุกเร้าของเขา "ปะ..เปล่านะคะ" เมื่อเห็นว่าสายตาของหมอทักษ์จ้องมองเธอ เธอเองก็รีบสะบัดหน้านี้ในสิ่งที่ต้องการจะมองและอยากรู้ทันที "เหรอครับ" เขามองดูเธอที่รีบหันหน้าหนีในจุดเชื่อมต่อระหว่างนิ้วมือของเขาและร่องรักของเธอ ทั้งยังกั้นขำเอา
"จะไม่ไมไหวแล้ว~" เสียงยาวยานของเธอที่แทบจะไม่มีแรงพูดร้องท้วงขึ้นทันที ดวงตาหยาดเยิ้มเหมือนว่าจะหลับลงก็ไม่ได้เพราะถูกเขาแกล้งไม่ให้เธอได้พักผ่อนตามใจปรารถนา "อีกนิดนะครับ" หมอทักษ์สวนแกนกายเข้าในช่วงสุดท้ายก่อนจะปลดปล่อยของเหลวสีขาวขุ่นเข้าภายในร่องรักของเธอจนฉ่ำเยิ้มและค่อย ๆ หลั่งไหลมันออกมา ."ขึ้นห้องกันเถอะเหมือนคุณแม่คนสวยจะง่วงนอนแล้วนะครับ" ทำเธอเกือบสลบคาสระน้ำขนาดนี้ยังจะมาอ้างว่าเธอง่วงนอนอีกคนบ้า! "อืม~" สกาวพยักหน้าเห็นด้วยเพราเธอเพลียจเกินกว่าจะยืนไหว ภายในห้องนอนบนเรือสำราญที่เปิดไฟอัตโนมัติเมื่อมีคนอยู่ในห้อง "เหนื่อยขนาดนั่นเลยเหรอคะรับ" ทักษมองคนที่หลับตาพริ้มด้วยความเอ็นดู "อื้ม~ อย่ากวน" สกาวพึมพำขึ้นมาทันทีเมื่อถึงมือสัมผัสตรงแก้มนวล"ครับ" คนนั่งมองนึกเอ็นดูเมื่อเห็นว่าเธอนอนสลบเพราะความเหนื่อยและอ่อนเพลียก็รีบจัดแจงข้าวของเครื่องใช้ในห้องเพื่อความสดวกของเขาและคนที่นอนหลับอยู่ ครืน~ ครืน~ ครืน~ "ฮัลโหลครับคุณอา" ชายหนุ่มรับสายทิวเขาทันทีเมื่อมองหน้าจอโทรศัพท์เห็นว่าคนเป็นอาโทรเข้ามา 'เรือออกหรือยัง' ทิ
ปึก ๆ ตับ ๆ.ปึก ๆ เสียงสอดแทรกกระแทกเข้าออกของร่างชายหญิงทำให้น้ำในอ่างกระพือขึ้นมาเล็กน้อย "อ่ะ เบา ๆ เสียว อ่า~ หนูเสียว" สกาวหลับตาพริ้มรับแรงกระแทกด้วยความจำนนอย่างไม่ทันตั้งตัว "คิดว่าชอบนะ" หมอทักษ์กระซิบเบา ๆ ข้างหูเธอเพื่อปลุกปั้นอารมณ์ "ไม่" เสียงปฏิเสธเบา ๆ ของสกาวทำให้เขาต้องยกขาเธอพลิกกลับมาให้หันหน้ามาสบตา "อ๊ะ" สกาวไม่ทันตั้งตัวเมื่อถูกจับตัวพลิกให้หันมาสบตากัน ช่วงล่างทั้งเสียวทั้งหน่วงจนเธอบรรยายอาการเหล่านี้ไม่ถูก "ชอบ" หมอทักษ์ยังคงย้ำคำเดิมและสบตากับเธอมือข้างหนึ่งก็กอดเอวเธอขย่มบนตักเขา ส่วนมืออีกข้างก็จับประคองท้ายทอยของเธอเข้ามาจูบประกบปากเมื่อเธอทำท่าจะปฏิเสธความชอบที่เขามอบให้ จ๊วฟ ๆ จูฟ "อืม" สกาวรับจูบจากหมอโดยไม่ทันตั้งตัวเพราะเธอยังไม่ทันได้เอ่ยปากพูดปฏิเสธในสิ่งที่หมอหนุ่มยัดเยียดเข้ามาให้เลยด้วยซ้ำราวกับว่าเขารู้ว่าเธอจะพูดปฎิเสธความชอบในสิ่งที่เขาหมอบให้ออกมาปึก ๆ ตรับ ๆ ตับ ๆ ปึก ๆ ช่วงล่างก็สอดส่วนเข้ามาจะน้ำในอ่างกระพือจนล้นออกมาจากอ่างน้ำอยู่หลายครั้ง "อืม อืม อือ" สกาวเริ่มร้องประท้วงให้เขาหยุดจูป
ผ่านมาสองชั่วโมง ทั้งสองคนก็เผลอหลับไหลไปโดยไม่รู้ตัวร่างกายกอดก่ายกันมอบความอบอุ่นบนเตียงนอน เสียงลมหายใจแผ่วเบาและคลื่นทะเลอันมืดหม่นและเงียบสงบกลมทั้งสองให้หลับสบายได้เป็นอย่างดี ..ก๊อก ๆ ก๊อก เสียงเคาะประตูหน้าห้องทำให้หมอทักษ์จำใจต้องตื่นขึ้นมาและมองคนที่หลับสนิท ก่อนจะเดินออกไปเปิดประตูห้องดู "อ่าหารเช้าที่สั่งให้เตรียมไว้เมื่อวานมาเสิร์ฟครับ" พนักงานบอกกลับคนที่เปิดประตูห้องออกมาเจอเขา "ขอบคุณ" หมอทักษ์รับอาหารมื้อเช้าที่เขาบอกกับพ่อครัวไปเมื่อวานให้นำมาส่งที่ห้องเพราะไม่สะดวกออกไปรับประทานพร้อมกับนักท่องเที่ยวคนอื่น ผมมองคนที่หลับสนิทอยู่บนเตียงแม้ว่าคลื่นลมในยามเช้าจะแรงมากกว่าช่วงสาย แต่น้ำทะเลกลับนิ่งสงบ "สกาวครับ สกาวตื่นได้แล้วอาหารเช้ามาส่งแล้วนะ" หมอทักษ์เดินเข้าไปนั่งบนเตียงพร้อมเรียกคนที่หลับสนิทให้ตื่นขึ้นมาทานข้าว มือก็สัมผัสหน้าท้องที่นู้นขึ้นมาตามไตรมาสแต่อาจจะใหญ่กว่าคนปกติทั่วไปเพราะเป็นเด็กแฝด "อืมอย่าพึ่งกวนนะคะ ขอนอนต่อ" สกาวยังคนนอนเซานัวเนียอยู่บนเตียง "ครับ" เขามองคนที่นอนหลับสนิทตลอดทั้งคืนและให้เธอได้พักผ่อน
"หืมคนเยอะมากเลยค่ะ มอง ๆ เข้าไปในร้านแล้วดูอึดอัดอยู่นะ" สกาวที่ถูกหมอหนุ่มขอร้องให้นั่งรถเข็นวีแชร์ บ่นทั้งเงยหน้ามองคนที่คนซัพพอร์ตด้วยการเข็นรถให้เธอ "ครับ ปกติคนก็เยอะอยู่แล้วแบรนด์ใหม่พึ่งเข้าและกำลังดังมาก สินค้าตัวใหม่มักจะได้ขึ้นโชว์บนเรือสำราญก่อนจะถูกนำไปวางจำหน่ายในห้าง" หมอทักษ์มองกระเป๋าแบรนด์ดังราคาหลักหมิ่นที่ครองตลาดในช่วงนี้ และทางแบรนด์มักจะส่งมันมาให้ตั้งโชว์สินค้าและขายลองตลาดภายในเรือสำราญที่มีห้างขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ก็มีสินค้าหลาย ๆ ส่งมาไม่ต่างกัน เพราะนักท่องเที่ยวของเนืองสำราญจะเป็นกลุ่มใหญ่และเฉพาะเจาะจง ชนชั้นได้ดีกว่าห้างสรรพสินค้าทั่วไป "จริงเหรอคะ" หน้าตาตื่นเต้นต่อการรับรู้เรื่องใหม่ ๆ ทำให้สกาวอยากเข้าไปมองและชมสินค้าด้านในแต่ติดที่คนเยอะจนดูเหมือนจะแออัดเกินไป "จริงครับ ลองเข้าไปดูอีกร้านก็ได้ หรูกว่าราคาดีกว่า ซื้อมาไว้ใช้หรือไว้โชว์ก็ไม่เสียหาบยนะครับ" เขาเลื่อนวีลแชร์พาเธอเดินเข้าไปในร้านที่เรียบหรูและดูเหมือนว่าจะแพงกว่าร้านอื่น ๆ "สัวสดีครับ" พนักงานตอนรับเข้าชาร์จและบริการลูกค้าตามที่ได้อบรมมาก่อนที่ทางเจ้าของแบรนด์
ผมมองคนที่กำลังจ้องมองถาดอาหารของผมทั้งสีหน้าและท่าทางเหมือนคนที่กำลังร้องของในสิ่งที่ต้องการแต่เธอคงจะมีความเกรงใจอยู่ไม่น้อยเลยไม่กล้าขออีก"แลกกันไหมครับ" ผมถามเธอทันทีที่เห็นสายตาแบบนั้นรู้สึกเอ็นดูอาการที่แสดงออกมาของเธอ มันก็น่ารักดีนะครับ สกาวรีบพยักหน้าตอบรับทันทีอย่างไม่ต้องคิด "แลกค่ะ" น้ำเสียงตอบกลับมีความรู้สึกดีใจอยู่ไม่น้อยที่เธอได้รับในสิ่งที่ต้องการ "ครับ" หมอทักษ์ค่อย ๆ ยกอาหารของเขาให้เธอ "ขอบคุณนะคะ" สกาวมองหน้าคุณหมอที่กำลังสลับสับเปลี่ยน อาหารที่อยู่บนโต๊ะกล่าวขอบคุณเขาด้วยรอยยิ้มหวานจนทำให้คนได้รับบาดใจจนใจสั่นทุกครั้ง "อืม ครับ" มองทักษ์ก็เริ่มลองทานในสิ่งที่หญิงสาวชอบ ก็พอได้นะสำหรับอาหารฟาสฟู๊ดของเธอคนรักสุขอย่างคุณหมอก็ต้องมีหลุดลุคบางใครบางเวลาที่จำเป็น โดยเฉพาะต่อหน้าหญิงสาวที่ทำให้เขาใจสั่นโดยไม่รู้ตัวว่าเกินขึ้นตั้งแต่ตอนไหน ..เมื่อทั้งสองร่วมรับประทานอาหารเสร็จก็พากันกลับขึ้นห้องพักเลย ทั้งยังมีอาหารที่แทบจะไม่ได้แตะต้องเอาให้พนักงานบริการหรือผู้ช่วยในห้องอาหาร เอาไปห่อมาให้อีก สามสี่ถุง "อยากทำอะไรอีกไห
เกิดอะไรขึ้น !! เสียงเอ๊ะอะโวยวายตั้งขึ้นตรงทางเดินหนีไฟของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในต่างประเทศ "คุณทำแบบนี้ได้ยังไง!" เสียงผู้หญิงโวยวายขึ้นทันทีเมื่อเผชิญหน้ากับหมอหนุ่ม "ผมทำอะไรครับ" ผมถามยัยแก่แว่นหนาเตอะด้วยความสับสน เพราะอยู่ ๆ เธอก็มาโวยวายและต้องการเจอผม "ไอ้คุณหมอ!! นี่แก แก" เสียงร้องของหญิงไวกลางคนดังขึ้นพร้อมกับเอามื้อชี้หน้าคุณหมอทักษ์ด้วยความโมโหและโกรธมาก "หึ แกอะไรครับผมอยู่ของผมดี ๆ แล้วนะ ป้าเป็นอะไรมากไหม อยู่ ๆ ก็มาเอ๊ะอะโวยวายรบกวนคนไข้และหมอคนอื่น ๆ" มนุษย์ป้าอีกแล้วสินะเจอแต่ละวันผมแทบจะอัดพารา เป็นตัน ๆ แล้วมั้ง สงสัยหน้าที่การงานผมคงยุ่งไม่พอ "ไอ้คนสารเลว แก ๆ แกทำหลานฉันท้อง!!" "นี่! ป้าถ้าจะกล่าวหากันลอย ๆ แบบนี้ผมฟ้องได้นะครับ" ผมบอกคนที่มาเรียกร้องโวยวาย ทันที ตึก ๆ ตึก หลังจากที่ผมพูดจบก็มีเด็กผู้หญิงรีบวิ่งเข้ามาทันที และำยายามลากแขนคนที่มากล่าวหาผมออกไป"ยะ..ยาย พอเถอะนะ นะคะ ถือว่ากาวขอร้อง" เธอสงสายตาอ้อนวอนไปให้ยัยป้าคนนั่น "ได้ยังไงฮะ มันทำแกท้องก็ต้องรับผิดชอบ!!" คนเป็นยายบอกกล่าวกับหลานสาวอย่างไม
ผมมองคนที่กำลังจ้องมองถาดอาหารของผมทั้งสีหน้าและท่าทางเหมือนคนที่กำลังร้องของในสิ่งที่ต้องการแต่เธอคงจะมีความเกรงใจอยู่ไม่น้อยเลยไม่กล้าขออีก"แลกกันไหมครับ" ผมถามเธอทันทีที่เห็นสายตาแบบนั้นรู้สึกเอ็นดูอาการที่แสดงออกมาของเธอ มันก็น่ารักดีนะครับ สกาวรีบพยักหน้าตอบรับทันทีอย่างไม่ต้องคิด "แลกค่ะ" น้ำเสียงตอบกลับมีความรู้สึกดีใจอยู่ไม่น้อยที่เธอได้รับในสิ่งที่ต้องการ "ครับ" หมอทักษ์ค่อย ๆ ยกอาหารของเขาให้เธอ "ขอบคุณนะคะ" สกาวมองหน้าคุณหมอที่กำลังสลับสับเปลี่ยน อาหารที่อยู่บนโต๊ะกล่าวขอบคุณเขาด้วยรอยยิ้มหวานจนทำให้คนได้รับบาดใจจนใจสั่นทุกครั้ง "อืม ครับ" มองทักษ์ก็เริ่มลองทานในสิ่งที่หญิงสาวชอบ ก็พอได้นะสำหรับอาหารฟาสฟู๊ดของเธอคนรักสุขอย่างคุณหมอก็ต้องมีหลุดลุคบางใครบางเวลาที่จำเป็น โดยเฉพาะต่อหน้าหญิงสาวที่ทำให้เขาใจสั่นโดยไม่รู้ตัวว่าเกินขึ้นตั้งแต่ตอนไหน ..เมื่อทั้งสองร่วมรับประทานอาหารเสร็จก็พากันกลับขึ้นห้องพักเลย ทั้งยังมีอาหารที่แทบจะไม่ได้แตะต้องเอาให้พนักงานบริการหรือผู้ช่วยในห้องอาหาร เอาไปห่อมาให้อีก สามสี่ถุง "อยากทำอะไรอีกไห
"หืมคนเยอะมากเลยค่ะ มอง ๆ เข้าไปในร้านแล้วดูอึดอัดอยู่นะ" สกาวที่ถูกหมอหนุ่มขอร้องให้นั่งรถเข็นวีแชร์ บ่นทั้งเงยหน้ามองคนที่คนซัพพอร์ตด้วยการเข็นรถให้เธอ "ครับ ปกติคนก็เยอะอยู่แล้วแบรนด์ใหม่พึ่งเข้าและกำลังดังมาก สินค้าตัวใหม่มักจะได้ขึ้นโชว์บนเรือสำราญก่อนจะถูกนำไปวางจำหน่ายในห้าง" หมอทักษ์มองกระเป๋าแบรนด์ดังราคาหลักหมิ่นที่ครองตลาดในช่วงนี้ และทางแบรนด์มักจะส่งมันมาให้ตั้งโชว์สินค้าและขายลองตลาดภายในเรือสำราญที่มีห้างขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ก็มีสินค้าหลาย ๆ ส่งมาไม่ต่างกัน เพราะนักท่องเที่ยวของเนืองสำราญจะเป็นกลุ่มใหญ่และเฉพาะเจาะจง ชนชั้นได้ดีกว่าห้างสรรพสินค้าทั่วไป "จริงเหรอคะ" หน้าตาตื่นเต้นต่อการรับรู้เรื่องใหม่ ๆ ทำให้สกาวอยากเข้าไปมองและชมสินค้าด้านในแต่ติดที่คนเยอะจนดูเหมือนจะแออัดเกินไป "จริงครับ ลองเข้าไปดูอีกร้านก็ได้ หรูกว่าราคาดีกว่า ซื้อมาไว้ใช้หรือไว้โชว์ก็ไม่เสียหาบยนะครับ" เขาเลื่อนวีลแชร์พาเธอเดินเข้าไปในร้านที่เรียบหรูและดูเหมือนว่าจะแพงกว่าร้านอื่น ๆ "สัวสดีครับ" พนักงานตอนรับเข้าชาร์จและบริการลูกค้าตามที่ได้อบรมมาก่อนที่ทางเจ้าของแบรนด์
ผ่านมาสองชั่วโมง ทั้งสองคนก็เผลอหลับไหลไปโดยไม่รู้ตัวร่างกายกอดก่ายกันมอบความอบอุ่นบนเตียงนอน เสียงลมหายใจแผ่วเบาและคลื่นทะเลอันมืดหม่นและเงียบสงบกลมทั้งสองให้หลับสบายได้เป็นอย่างดี ..ก๊อก ๆ ก๊อก เสียงเคาะประตูหน้าห้องทำให้หมอทักษ์จำใจต้องตื่นขึ้นมาและมองคนที่หลับสนิท ก่อนจะเดินออกไปเปิดประตูห้องดู "อ่าหารเช้าที่สั่งให้เตรียมไว้เมื่อวานมาเสิร์ฟครับ" พนักงานบอกกลับคนที่เปิดประตูห้องออกมาเจอเขา "ขอบคุณ" หมอทักษ์รับอาหารมื้อเช้าที่เขาบอกกับพ่อครัวไปเมื่อวานให้นำมาส่งที่ห้องเพราะไม่สะดวกออกไปรับประทานพร้อมกับนักท่องเที่ยวคนอื่น ผมมองคนที่หลับสนิทอยู่บนเตียงแม้ว่าคลื่นลมในยามเช้าจะแรงมากกว่าช่วงสาย แต่น้ำทะเลกลับนิ่งสงบ "สกาวครับ สกาวตื่นได้แล้วอาหารเช้ามาส่งแล้วนะ" หมอทักษ์เดินเข้าไปนั่งบนเตียงพร้อมเรียกคนที่หลับสนิทให้ตื่นขึ้นมาทานข้าว มือก็สัมผัสหน้าท้องที่นู้นขึ้นมาตามไตรมาสแต่อาจจะใหญ่กว่าคนปกติทั่วไปเพราะเป็นเด็กแฝด "อืมอย่าพึ่งกวนนะคะ ขอนอนต่อ" สกาวยังคนนอนเซานัวเนียอยู่บนเตียง "ครับ" เขามองคนที่นอนหลับสนิทตลอดทั้งคืนและให้เธอได้พักผ่อน
ปึก ๆ ตับ ๆ.ปึก ๆ เสียงสอดแทรกกระแทกเข้าออกของร่างชายหญิงทำให้น้ำในอ่างกระพือขึ้นมาเล็กน้อย "อ่ะ เบา ๆ เสียว อ่า~ หนูเสียว" สกาวหลับตาพริ้มรับแรงกระแทกด้วยความจำนนอย่างไม่ทันตั้งตัว "คิดว่าชอบนะ" หมอทักษ์กระซิบเบา ๆ ข้างหูเธอเพื่อปลุกปั้นอารมณ์ "ไม่" เสียงปฏิเสธเบา ๆ ของสกาวทำให้เขาต้องยกขาเธอพลิกกลับมาให้หันหน้ามาสบตา "อ๊ะ" สกาวไม่ทันตั้งตัวเมื่อถูกจับตัวพลิกให้หันมาสบตากัน ช่วงล่างทั้งเสียวทั้งหน่วงจนเธอบรรยายอาการเหล่านี้ไม่ถูก "ชอบ" หมอทักษ์ยังคงย้ำคำเดิมและสบตากับเธอมือข้างหนึ่งก็กอดเอวเธอขย่มบนตักเขา ส่วนมืออีกข้างก็จับประคองท้ายทอยของเธอเข้ามาจูบประกบปากเมื่อเธอทำท่าจะปฏิเสธความชอบที่เขามอบให้ จ๊วฟ ๆ จูฟ "อืม" สกาวรับจูบจากหมอโดยไม่ทันตั้งตัวเพราะเธอยังไม่ทันได้เอ่ยปากพูดปฏิเสธในสิ่งที่หมอหนุ่มยัดเยียดเข้ามาให้เลยด้วยซ้ำราวกับว่าเขารู้ว่าเธอจะพูดปฎิเสธความชอบในสิ่งที่เขาหมอบให้ออกมาปึก ๆ ตรับ ๆ ตับ ๆ ปึก ๆ ช่วงล่างก็สอดส่วนเข้ามาจะน้ำในอ่างกระพือจนล้นออกมาจากอ่างน้ำอยู่หลายครั้ง "อืม อืม อือ" สกาวเริ่มร้องประท้วงให้เขาหยุดจูป
"จะไม่ไมไหวแล้ว~" เสียงยาวยานของเธอที่แทบจะไม่มีแรงพูดร้องท้วงขึ้นทันที ดวงตาหยาดเยิ้มเหมือนว่าจะหลับลงก็ไม่ได้เพราะถูกเขาแกล้งไม่ให้เธอได้พักผ่อนตามใจปรารถนา "อีกนิดนะครับ" หมอทักษ์สวนแกนกายเข้าในช่วงสุดท้ายก่อนจะปลดปล่อยของเหลวสีขาวขุ่นเข้าภายในร่องรักของเธอจนฉ่ำเยิ้มและค่อย ๆ หลั่งไหลมันออกมา ."ขึ้นห้องกันเถอะเหมือนคุณแม่คนสวยจะง่วงนอนแล้วนะครับ" ทำเธอเกือบสลบคาสระน้ำขนาดนี้ยังจะมาอ้างว่าเธอง่วงนอนอีกคนบ้า! "อืม~" สกาวพยักหน้าเห็นด้วยเพราเธอเพลียจเกินกว่าจะยืนไหว ภายในห้องนอนบนเรือสำราญที่เปิดไฟอัตโนมัติเมื่อมีคนอยู่ในห้อง "เหนื่อยขนาดนั่นเลยเหรอคะรับ" ทักษมองคนที่หลับตาพริ้มด้วยความเอ็นดู "อื้ม~ อย่ากวน" สกาวพึมพำขึ้นมาทันทีเมื่อถึงมือสัมผัสตรงแก้มนวล"ครับ" คนนั่งมองนึกเอ็นดูเมื่อเห็นว่าเธอนอนสลบเพราะความเหนื่อยและอ่อนเพลียก็รีบจัดแจงข้าวของเครื่องใช้ในห้องเพื่อความสดวกของเขาและคนที่นอนหลับอยู่ ครืน~ ครืน~ ครืน~ "ฮัลโหลครับคุณอา" ชายหนุ่มรับสายทิวเขาทันทีเมื่อมองหน้าจอโทรศัพท์เห็นว่าคนเป็นอาโทรเข้ามา 'เรือออกหรือยัง' ทิ
"ตกใจอะไรขนาดนั้นครับ" ปากเขาพูดถามเธอแต่มือกลับเอามาลูกคลึงสะโพกเธอเนี่ยนะ'ต้องการอะไร!' ให้ตายสิคนยิ่งมีอารมณ์และใจง่ายเพราะฮอร์โมนของคนท้องสูงอยู่ "มะ..หมอ~ อย่าบีบมันเจ็บค่ะ" สกาวเริ่มทำตัวไม่ถูกเพราะเขาเริ่มยกเธอขึ้นมาให้เอาขารัดตรงเอว ส่วนช่วงล่างจุดสงวนกลับแนบชิดเสียดสีกัน "จะทำให้เบาที่สุด" เสียงกระซิบเบา ๆ ผ่านใบหูทำให้เธอรู้สึกจั๊กจี้จนต้องย่นหน้าลง เพื่อหลบน้ำเสียงและการสัมผัสจากริมฝีปากของเขา "อ๊าส~" เธอร้องครางออกมาด้วยความเสียวเมื่อถูกสัมผัสและรบเร้า จากมือหนาของเขา"เสียวไหม" มือหนาของหมอทักษ์ค่อยๆ สอดเข้าไปในร่องรักและเริ่มเร่งจังหวะเข้าออกอย่างช้า ๆ สกาวพยายามก้มลงจ้องมองมือแกร่งที่สอดนิ้วเข้ามาในแอ่งร่องรักของเธอ "อยากเห็นหรอครับ" น้ำเสียงสุภาพอ่อนโยนของเขากลับทำให้เธอต้องรู้สึกโอนเอนไปพร้อมกับการรุกเร้าของเขา "ปะ..เปล่านะคะ" เมื่อเห็นว่าสายตาของหมอทักษ์จ้องมองเธอ เธอเองก็รีบสะบัดหน้านี้ในสิ่งที่ต้องการจะมองและอยากรู้ทันที "เหรอครับ" เขามองดูเธอที่รีบหันหน้าหนีในจุดเชื่อมต่อระหว่างนิ้วมือของเขาและร่องรักของเธอ ทั้งยังกั้นขำเอา
บนเรือมีห้องพักมากมายหลายห้อง แต่ห้องของสกาวและมอทักรับเป็นห้องเดียวกันที่มีขนาดใหญ่ราวกับห้องสวีท แต่ก็ยังไม่ใช่ เพราะบนเรือสำราญลำนี้ไม่มีห้องสวีทอย่างที่หลายคนเข้าใจเป็นเพียงห้องธรรมดาแค่ใหญ่กว่าห้องพักปกติของนักท่องเที่ยว สามถึงสี่เท่า "ทำไมห้องเราสองคนถึงอยู่ด้วยกันล่ะคะ" สกาวถามด้วยความตกใจเพราะเธอไม่คิดว่าห้องพักของเธอจะอยู่กับเขาที่เขามาพร้อมกันทั้งยังแตะคีย์ ห้องเดียวกันได้อีกด้วย "พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน" หมอทักษ์ตอบออกไปทันทีทำไมเขาจะไม่รู้ก็พ่อถึงขั้นมาขอร้องเขาทั้งที่ปกติไม่เคยจะมีเวลาให้เลยด้วยซ้ำ "ได้ไง แบบนี้เราต้องแจ้งกับพนักงานไหมคะ" สกาวหันมาขอคำปรึกษาของเขาทันทีเมื่อมีสิ่งผิดพลาดเกิดขึ้นกับตนเอง"ไม่เป็นไรหรอกเรานอนด้วยกันก็ได้นี่" เขายังคงตอบออกมาแบบเป็นกันเองไม่ได้ซีเรียสกับห้องพักมาก "ได้เหรอคะ" เธอมองรอบห้องที่มีเตียงขนาดใหญ่พื้นพรมสีสวยรวมทั้งมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายเฉกเช่นทีวีตู้เย็นสัญญาณ WiFi ให้พร้อมหมดครบจบในห้องเดียว "ได้สิครับทำไมจะไม่ได้หรือว่าหนูกลัวอะไรหรือเปล่า" หมอทักษ์ยิ้มออกมาอย่างคนมีความนัยแอบแฝงไปด้วย กลล่อลวงที่ท
วันเดินทาง "ทำไมพี่สกายจองทริปไม่บอกกันก่อนคะ!?" ฉันถามพี่ชายด้วยความสงสัยเพราะว่าอยู่ ๆ ก็เดินเข้ามาบอกจะกลับประเทศไทยพร้อมกับทริปร่องเรือสำราญ! ซึ่งมันช้ากว่ากลับด้วยเครื่องบินหลายเท่า เพราะเครือสำราญมักจะแวะเทียบท่าอยู่หลายประเทศ "เพราะพี่รู้ไงว่าเธอจะไม่ไปเลยมาบอกวันนี้เลย" สกายมองน้องสาวของเขาที่กำลังแสดงพฤติกรรมทางอารมณ์ ได้เหนือความคาดหมาย "เหอะ นี้มันไฟว์บังคับกันชัด ๆ เลย" ฉันมองพี่ชายตัวเองแล้วยังส่งสายตาดุ ๆ ไปให้ด้วย ถ้าจะถามว่สพี่เธอกลัวไหมนะเหรอ โนจะ! ไม่เคยกลัวเธอเลยออกจะชอบใจด้วยซ้ำ "อารมณ์ร้อนขึ้นนะเราอ่ะ" สกายบอกกับน้องสาวที่ทำสายตาดุดันส่งให้ "ก็เพราะใครละ มาบอกวันนี้แล้วทีตัวเองละชิ จ้องตั๋วไฟว์บินกลับอย่างสบายใจ ส่วนน้องมอบทริปร่องเรือให้ไปเองเนี่ยนะ!?" สกาวถามด้วยความไม่พอใจถ้าต้องแล้วไปร่องเรือสำราญด้วยกันเธอจะไม่โหโหเลยนะ นี้เหมือนพาจับไปปล่อยให้เที่ยวเล่นแล้วหาทางกลับเอง "ก็ไม่ได้จะให้ไปคนเดียวสักหน่อย" สกายบอกกลับน้องสาวทันทีเมื่อเห็นสีหน้าเริ่มเปิ่นกังวลของเธอ "แล้วจะให้ไปกับใคร!? แลกกันไหมละพี่ก็เอาตัวเครื่องบินมาให้กาว
หมอทักษ์เดินออกจาห้อง ผอ./อาของเขาด้วยความหนักใจเขาผู้ไม่เคยทันเล่ห์เหลี่ยมอาตัวเองยิ่งรู้สึกคิดหนักมากขึ้นไปอีกหลายเท่า "แล้วเมื่อไหร่จะได้รู้ละ" ผมเริ่มไม่มีอารมณ์ทำงานแล้วเพราะว่าสิ่งที่รอมาเป็นอาทิตย์กลับถูกคุณอาแย่งไปเก็บไว้เอง "คุณหมอครับวันนี้มีคนไข้มารอพบครับ" เสียงแพทย์หนุ่มหน้าตาดีบอกกับเขาทันทีเมื่อเห็นว่าหมอทักษ์เดินกลับเข้ามาในแผนก "อ่อ โอเคครับ" หมอทักษ์ตอบรับคำบอกกล่าวก็จะเดินเข้าห้องตรวจประจำตัวของเขาเพื่อไปพบเจอคนไข้ที่ไม่มีคิวนัด "คุณหมอสวัสดีค่ะ" สกาวมองคนไม่สบอารมณ์เดินเข้ามาในห้องทำงานจึงกล่าวทักทายอย่างร่าเริง "มาได้ไงใครมาส่ง" หมอทักษ์จากที่ไม่มีอารมณ์จะทำอะไรก็รู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันทีเมื่อ 'กำลังใจ' ตัวน้อยมาหาถึงที่ทำงาน "ขับรถมาเองค่ะ" สกาวยิ้มอย่างอารมณ์ดีเพราะพี่ชายอนุญาตให้ขับเลยได้รอรถยนต์บนท้องถนนและสิ่งแรกที่เธอคิดได้ก็คือขับรถมาอวดเขาถึงโรงพยาบาล "ให้อนุญาตให้ครับมาครับ พี่ชายเราเหรอหืม" ผมถามคนที่นั่งยิ้มอย่างภูมิใจจึงไม่กล้าเอ่ยขัดความสุขแม้ภายในใจจะห่วงความปลอดภัยของเธอมาก ก็แสดงอาการเต็มที่ไม่ได้ "ใช่แล