บททั้งหมดของ ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ: บทที่ 101 - บทที่ 110

134

บทที่ 101

ปลายยามเหม่า[1]รุ่งเช้าวันใหม่มาเยือน เสียงสัตว์เล็ก ๆ ร้องกระเซ็นแซ่ วิหคน้อยโผบินออกจากรัง เป็นสัญญาณการเริ่มต้นของวันใหม่ ทว่าภายในถ้ำกลางป่า มีสองร่างหนึ่งสตรีหนึ่งบุรุษนอนเคียงคู่ อิงแอบแนบชิดสนิทกันด้วยสภาพไม่เรียบร้อยนัก อาภรณ์หลุดลุ่ยเสียจนเปิดเปลือยผิวกายช่วงบนไป๋ฟางเซียนครางประท้วงด้วยน้ำเสียงยานคางเมื่อรู้สึกหนาว ก่อนจะตั้งใจเบียดตัวกระชับอ้อมแขนกอดเอวสอบไว้มั่น ใบหน้าซีกซ้ายแนบไปกับแผงอกกว้าง เมื่อได้รับไออุ่นที่ต้องการแล้วมุมปากบางจึงยกยิ้มอย่างพอใจพร้อมหลับตาพริ้มอย่างมีความสุขขณะเดียวกันหลี่เหวินหลางที่ถูกนางเบียดและกอดรัด ก็พยายามข่มใจอย่างหนัก ความเย็นของอากาศไม่ได้ทำให้เขาหนาวแต่อย่างใด ทว่าตามกรอบหน้ากลับปรากฏเหงื่อเม็ดเล็กผุดออกมา ต้นเหตุของความร้อนในกาย เกรงว่าจะเป็นเจ้าของร่างบอบบางที่ซุกซบบดเบียดเนื้อตัวนุ่มนิ่มเข้าหาเขากระมังหลี่เหวินหลางกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก ข่มใจอย่างมากที่จะไม่จับนางมากระแทกกระทั้น ให้สาสมกับความต้องการ ที่ถูกปลุกขึ้นโดยไม่ตั้งใจนี้ “เซียนเซียน ตื่นเถิดเช้าแล้ว” แม้ไม่อยากปลุกเพราะอยากให้นางนอนพักผ่อนให้เพียงพอก็ทำไม่ได้ ด้วยเกรงว่าพว
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 102

“จื่อถิงเล่าเจ้าคะ เห็นจื่อถิงหรือไม่” นางถามด้วยความเป็นห่วงและกังวลกลัวว่าสาวใช้คนสนิทจะเป็นอันใดไป“เรียนคุณหนู”“อะแฮ่ม! ฮูหยิน” ยังไม่ทันที่ตงผิงจะพูดจบหลี่เหวินหลางก็กระแอมไอขัดขึ้น มองคนสนิทของตนด้วยความไม่พอใจ ตงผิงที่ถูกสายตาคมกริบจ้องมองก็กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก พลันคิดว่าเขาผิดอันใด เหตุใดท่านแม่ทัพจึงมองเช่นนั้น ทว่าไม่นานก็รู้ตัว เมื่อเจ้านายของเขาปรายสายตาไปยังไป๋ฟางเซียน บ่งบอกความผิดของเขากลาย ๆ ตงผิงพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะหันไปพูดกับไป๋ฟางเซียนอีกครั้ง“เรียนฮูหยินน้อย จื่อถิงปลอดภัยดีขอรับ ยามนี้นางรออยู่ที่พักชั่วคราว คราแรกดื้อรั้นจะออกมาตามหานายหญิงเสียให้ได้ แต่เป็นข้าที่สั่งห้ามนาง เพราะเห็นว่านางเดินเหินไม่สะดวก เดี๋ยวจะเจ็บหนักกว่าเดิม เนื่องจากข้อเท้าแพลงขอรับ”“งั้นหรือ ดีแล้วที่นางปลอดภัย เจ้าทำถูกแล้วละที่ไม่ให้นางมา ไม่เช่นนั้นคงได้รักษาตัวอีกนานแน่” เมื่อรู้ว่าสาวใช้ของตนปลอดภัยดีก็ถอนหายใจโล่งอก พูดตอบกลับด้วยสีหน้าแจ่มใสขึ้นเมื่อหมดเรื่องแล้วทุกคนจึงเร่งเดินทางออกจากป่า หลี่เหวินหลางประคับประคองโอบอุ้มไป๋ฟางเซียนขึ้นหลังม้าด้วยความทะนุถนอม จนซูเฉินแ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 103

ไป๋ฟางเซียนฟาดมือลงบนลำแขนแกร่งไม่เบานัก ถลึงตามองเขาเขียวปัด แทนที่หลี่เหวินหลางจะกลัวเขากลับระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังลั่น สร้างความสงสัยให้ผู้คนที่ร่วมเดินทางด้วยยิ่งครั้นเห็นว่านางยังไม่เลิกตีหน้ายุ่งจึงก้มลงไปหอมแก้มนวล พร้อมทั้งกระซิบเสียงทุ้มล่อลวงนางอย่างแสนไพเราะว่า“เซียนเซียน เจ้าสนใจแค่พี่ก็พอ ใครอยากมองก็ปล่อยไป เจ้ามิจำเป็นต้องสนใจหรือใส่ใจ เดี๋ยวพวกเขาทนมองมิได้ก็เลิกมองไปเอง เจ้าอย่าได้กังวลนัก สนใจเพียงพี่ และเรื่องของเราก็พอแล้ว”“สนใจเพียงท่านพี่กับข้าหรือเจ้าคะ” นางถามขึ้นอย่างไม่ค่อยมั่นใจนัก หลี่เหวินหลางดึงบังเหียนม้าบังคับให้เจ้าเสี่ยวเฮยเดินช้าลง ก่อนจะก้มหน้าลงไปใกล้คนตัวเล็ก มองสบตาด้วยสายตาหวานล้ำ ส่งผ่านความรู้สึกรักใคร่ให้นางรับรู้ แล้วจึงพูดว่า“ใช่ สนใจแค่เรา เพียงสองเราก็พอ”ไป๋ฟางเซียนที่ถูกสายตาหวานล้ำตรึงไว้ก็ไม่สามารถละสายตาได้ นางพยักหน้ารับคำช้า ๆ ในขณะที่แก้มทั้งสองข้างแดงปลั่งดังลูกตำลึงสุก และก่อนที่นางจะได้เขินอายไปมากกว่านี้ พวกเขาก็เดินทางมาถึงชายป่ายังจุดที่พักชั่วคราวที่ตงผิงบอกไว้แล้ว จื่อถิงยืนรอกลุ่มคนที่ไปตามหาเจ้านายสาวด้วยความกลัด
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 104

ในที่สุดขบวนเดินทางของหลี่เหวินหลางก็มาถึงเมืองฉางโจว ตรงตามกำหนดเวลาที่คาดการณ์ไว้ เจ้าเมืองถึงขั้นออกมาต้อนรับด้วยตนเอง ด้วยฐานะของหลี่เหวินหลางที่เป็นถึงท่านแม่ทัพขึ้นตรงต่อฮ่องเต้เพียงผู้เดียว เจ้าเมืองฉางโจวเป็นเจ้าเมืองที่อยู่นอกวังหลวงฐานะจึงไม่สูงส่งเท่าอีกฝ่ายนัก นี่ยังไม่รวมถึงภูมิหลังของตระกูลหลี่อีก จะอย่างไรก็ตามไม่ว่าหลี่เหวินหลางจะเป็นแม่ทัพหรือไม่ แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนตระกูลหลี่เขาย่อมต้องไว้หน้าหลายส่วน“โอ ท่านแม่ทัพ ข้ารอท่านอยู่พอดีเลย เหตุใดจึงมาเย็นย่ำเช่นนี้ เกิดอะไรขึ้นระหว่างทางหรือไม่” หวายอันเจ้าเมืองฉางโจวโค้งกายเพียงเล็กน้อยเอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้ม การแสดงออกเต็มไปด้วยธรรมชาติ ไม่นอบน้อมเกินไป ไม่แข็งกระด้างเกินไป แม้จะบอกว่าตนต้องไว้หน้าคนตระกูลหลี่และท่านแม่ทัพผู้นี้หลายส่วน ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะต้องนอบน้อมจนเสียศักดิ์ศรีของเจ้าเมืองหลี่เหวินหลางไม่ได้ใส่ใจท่าทีของอีกฝ่ายมากนัก เขาตอบคำถามอย่างตรงประเด็นว่า “เกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อย พวกข้าถูกกลุ่มโจรมืออาชีพดักซุ่มโจมตีเพื่อหวังปล้นชิง ทว่าตอนนี้โจรกลุ่มนั้นถูกจัดการเรียบร้อยแล้ว ดีที่ข้านำกำลังคนมามากพอค
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 105

ใบหน้าของซูเฉินบูดบึ้งไม่น่ามอง ใบหน้าของเขาติดจะเบื่อหน่ายไม่พร้อมรับแขก ปรายตามองคนที่มากวนเวลาพักผ่อนของตนด้วยสายตาไม่พอใจนัก พลางถอนหายใจออกมาด้วยความหงุดหงิด“เจ้ารู้จักคำว่าเกรงใจบ้างหรือไม่อาเหวิน ทำไมไม่รอมาพรุ่งนี้เช้าเล่า เล่นเคาะประตูห้องปลุกข้าเช่นนี้ คือมารยาทควรทำหรือ ฮึ?”หลี่เหวินหลางไม่สนใจกิริยาท่าทางโวยวายของสหาย ด้วยรู้ว่าสหายตนผู้นี้หาได้นอนหลับพักผ่อนอย่างที่เอ่ยอ้างไม่ รู้จักกันมาทั้งชีวิตมีหรือที่เขาจะดูไม่ออก ว่ายามนี้สหายตนรู้สึกเช่นไร แววตาตัดพ้อต่อว่ากึ่งหมั่นไส้ที่มองมานั้น แม้เพียงแวบเดียวแต่เขาก็จับสัมผัสได้“อย่ามาพูดมาก เจ้ามิได้หลับนอนจริง ๆ เสียหน่อย”“เหอะ ถึงมิได้หลับนอนแต่ข้าก็ต้องการเวลาส่วนตัวอยู่เงียบ ๆ คนเดียวบ้าง แล้วดูเจ้าสิมาเวลานี้ เพื่อ? เจ้าไม่รู้หรือว่านี่มันยามใดแล้ว”“ต้นยามห้าย[1] แล้วอย่างไร”เห็นท่าทางไม่สะทกสะท้านของสหาย กุนซือหนุ่มก็แทบเอามือกุมขมับ นี่มันยามห้ายนะ ยามห้าย! มันดึกมากแล้วและเลยเวลาพูดคุยมาแล้ว นี่ควรเป็นเวลาพักผ่อนของเขา! แต่สหายกลับมาเคาะประตูห้องเรียกด้วยท่าทีไร้ความรู้สึกผิดเช่นนี้ใช้ได้หรือ มันน่านัก!“เอานา เ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 106

ไป๋ฟางเซียนที่นอนหลับไปเพราะความอ่อนเพลีย ตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงียเล็กน้อย นางความมือไปทั่วเตียงกลับไม่พบร่างที่คุ้นเคยก็ขมวดคิ้ว เจ้าของร่างบอบบางหยัดกายขึ้นพิงหลังเตียงช้า ๆ เปลือกตาค่อย ๆ ขยับเปิด ความเงียบสงัดยามค่ำคืนพานให้นางขบคิดว่ายามใดแล้ว ไม่นานก็คาดว่าตนเองเดาออก หญิงสาวนั่งนิ่งปรับตัวกับสภาวะการตื่นขึ้นมายามดึกเล็กน้อย ก่อนจะลืมตาเสียเต็มตา กวาดตาอย่างสำรวจไปทั่วห้องนอนใบหน้างามฉายชัดถึงความสงสัยว่าเขาไปที่ใด เหตุใดจึงไม่นอนอยู่ที่เตียง นี่กลางยามจื่อ[1] แล้ว ดึกสงัดเช่นนี้เขาจะไปที่ใดได้อีก ไป๋ฟางเซียนพยายามคิดเช่นไรก็หาคำตอบไม่ได้ จึงได้เลิกคิดไป ตัดใจว่าจะนอนต่อก็กลายเป็นนอนไม่หลับ นางถอนหายใจออกมาพร้อมทั้งตั้งท่าผุดลุกขึ้นนั่งอย่างเต็มตัวอีกครั้งไม่นอนแล้ว นั่งรอจนกว่าเขาจะกลับมานี่แหละไป๋ฟางเซียนทำเช่นที่นางคิดจริง แม้จะง่วงงุน หาวนอนจนนับครั้งไปถ้วน ก็ไม่มีทีท่าจะเอนกายลงนอนเลยแม้แต่น้อย จากความสงสัยว่าเขาไปที่ใด อารมณ์ก็เปลี่ยนเป็นหงุดหงิด ดึกดื่นค่อนคืนเช่นนี้ไม่ยอมอยู่ห้อง อย่าให้รู้เชียวว่าไปเถลไถล ไม่เช่นนั้นนางเอาตายแน่กระทั่งเข้าสู่ยามโฉ่ว[2] หลี่เหวินหลางถึ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 107

วันต่อมาหลี่เหวินหลางเร่งดำเนินการ ทำตามแผนการที่ได้วางไว้ทันที เขาไปเยี่ยมเยือนจวนขุนนางต่าง ๆ ที่อยู่ในเมืองหลวง ตรวจสอบกิจการรวมถึงการทำงานของแต่ละฝ่ายอย่างเคร่งเครียด แม่ทัพหนุ่มทำหน้าที่ของตนได้ดียิ่ง ระหว่างการตรวจสอบหากพบว่าผู้ใดกระทำผิดก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายของแคว้น เรียกได้ว่า การทำงานของเขาทำให้เหล่าขุนนางที่มีความผิดหวาดผวาไปเลยทีเดียวอย่างไรก็ตาม ขุนนางกังฉินในเมืองฉางโจวมีไม่มากมายนัก ส่วนใหญ่ล้วนมีแต่คนที่ทำหน้าที่ของตนได้ดี เรื่องขาวดำที่ซุกซ่อนไว้หากไม่เป็นอันตรายต่อแว่นแคว้นและราชวงศ์ หลี่เหวินหลางก็ยินดีมองข้ามแสร้งปิดตาข้างหนึ่งไม่รู้ไม่เห็นไปหลายวันติดกันที่เขาออกไปยังจวนขุนนางต่าง ๆ การแสดงละครตบตาของเขาทำให้ฝ่ายของเสนาบดีโจวเหลียงเกาวางใจขึ้นมาก คนตระกูลโจวที่แอบแฝงลักลอบติดตามแม่ทัพหนุ่ม คอยรายงานข่าวคราวและการกระทำของหลี่เหวินหลางให้เสนาบดีโจวเหลียงเกาทราบเป็นระยะ ๆเสนาบดีโจวเหลียงเกาไม่ใช่คนโง่ปานนั้น เป็นถึงคนหนึ่งในตระกูลใหญ่จะไร้พิษสงและเล่ห์เหลี่ยมได้เช่นไร แม้จะเสียดายที่นักฆ่าทำงานผิดพลาด หลี่เหวินหลางไม่ได้ตกตายตามคำสั่ง ใช่ว่าเขาจะไม่มีวิธีเล่นงา
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 108

เมืองผิงโจวเมืองผิงโจวเป็นเมืองชายขอบ อยู่ทางตอนใต้ของเมืองหลวง ระยะทางไกลอยู่มาก เพราะอยู่เกือบติดเมืองชายแดน หากเดินทางจากเมืองหลวงโดยม้าเร็วคงใช้ระยะเวลา 10-15 วันถึง หากเป็นรถม้าก็ร่วมเดือนได้หลี่เหวินหลางที่ต้นทางอยู่เมืองฉางโจว ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือคนละทิศกับเมืองผิงโจว จึงต้องใช้เวลาเดินทางค่อนข้างนาน แม่ทัพหนุ่มเดินทางโดยเจ้าเสี่ยวเฮยคู่ใจ เร่งเดินทางแทบไม่หยุดพัก ในที่สุดก็เห็นประตูเมืองอยู่ตรงหน้า เขามาถึงแล้ว โดยใช้เวลาเดินทางทั้งสิ้นสิบกว่าวันได้ หากเป็นการเดินทางปรกติคงไม่รวดเร็วเท่านี้ แต่นี่คือการเดินทางที่เร่งถึงขีดสุดจึงใช้เวลาไม่นานเท่าผู้อื่นนั่นเอง“ท่านแม่ทัพจะเข้าไปเลยหรือไม่ขอรับ” องครักษ์ข้างกายเอ่ยถามอย่างสงสัย เพราะเห็นว่าเจ้านายของตนมองประตูเมืองผิงโจวอยู่นานแล้ว“ยังก่อน พวกเราเข้าไปอย่างโจ่งแจ้งไม่ได้ มิเช่นนั้นคนที่กระทำความผิดได้ไหวตัวทันแน่” เขาตอบโดยที่ไม่ละสายตาไปจากประตูเมืองเลยสักนิด“เช่นนั้นท่านแม่ทัพจะเข้าไปอย่างไรเล่าขอรับ เกรงว่าหากไม่ปิดบังใบหน้าจะยังมีคนจำท่านได้ ถึงที่นี่จะห่างไกลจากเมืองหลวงค่อนข้างมาก แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เคยมีใครเห็นห
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 109

จวนเจ้าเมืองตรงหน้าของหลี่เหวินหลางมีชายวัยกลางคนรูปร่างสันทัดเล็กน้อยนั่งอยู่ แม่ทัพหนุ่มหรี่ตามองคนตรงหน้าพลางครุ่นคิด เหตุใดคนที่สมควรมีสง่าราศีของการเป็นเจ้าเมือง ตอนนี้ถึงได้มีใบหน้าอมทุกข์นักเล่า ทั้งยังดูเหมือนไม่ค่อยได้พักผ่อน หรือจะเป็นเพราะการมาของเขาจึงทำให้อีกฝ่ายเป็นเช่นนี้ แม่ทัพหนุ่มสำรวจคนตรงหน้าตรง ๆ อย่างไม่ปิดบัง ก็เห็นว่าเจ้าเมืองผู้นี้นอกจากจะหน้าตาอมทุกข์แล้ว ยามนี้ยังนั่งหน้าถอดสี หัวคิ้วย่นเข้าหากัน จะว่าเคร่งเครียดก็ไม่ใช่กลัดกลุ้มก็ไม่เชิง อาการของคนตรงหน้าพาให้คนที่มารบกวนถึงกับขมวดคิ้ว นี่เขาน่ากลัวปานนั้น?ผิงอานเจ้าเมืองผิงโจวกำลังกลัดกลุ้มอย่างยิ่งยวด คนมาเยือนเป็นถึงคนสนิทขององค์ฮ่องเต้ที่ดำรงตำแหน่งแม่ทัพ ตนเป็นแค่เจ้าเมืองเมืองชายขอบจะไม่ให้กังวลได้เช่นไร เมื่อถูกอีกฝ่ายมาหาถึงที่จวนโดยไม่บอกไม่กล่าวเช่นนี้ ความคิดของเจ้าเมืองตีกันยุ่งเหยิงเป็นอย่างมาก“ข้าน่ากลัวปานนั้นเชียวรึ”“ไม่ใช่ ๆ ข้าเพียงแค่ทำตัวไม่ถูก เพราะไม่คิดว่าท่านแม่ทัพจะมาที่จวนอย่างกระทันหันเช่นนี้ จึงกังวลว่าจะต้อนรับได้ไม่ดีพอ”หลี่เหวินหลางหรี่ตามองคนพูด ก่อนจะถามเข้าประเด็นทันที
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 110

“เป็นอย่างไรบ้างขอรับท่านแม่ทัพ” องครักษ์ผู้หนึ่งเอ่ยถามที่เห็นเจ้านายตนกลับมาด้วยใบหน้าเคร่งเครียด“ไปเรียกคนของเรามา ข้าจะพูดคุยแผนการให้ฟัง”“ขอรับ”ไม่นานคนที่มีตำแหน่งหัวหน้าก็มารวมกันอยู่ในบ้านของนายทหารนับรวมแล้วได้นับสิบคนเลยทีเดียว“เอาละมากันครบแล้วนะ”“ขอรับ”“เส้นทางที่ให้พวกเจ้าไปสำรวจเป็นเช่นไรบ้าง”“มีสามเส้นทางที่สามารถไปยังชายแดนได้ขอรับ หนึ่งคือเส้นทางหลักทั่วไปที่เหล่าพ่อค้าและผู้คนส่วนใหญ่ใช้สัญจรกัน สองเป็นเส้นทางสายรองที่ไม่ค่อยมีคนใช้มากนัก เนื่องจากเส้นทางสายนี้มักถูกโจรปล้นชิงเป็นระยะ ๆ ส่วนเส้นทางที่สาม เป็นเส้นทางลับใช้กันเฉพาะคนขอรับ”หลี่เหวินหลางพยักหน้ารับ ข้อมูลที่คนของเขากล่าวมาตรงกับที่เจ้าเมืองบอกไม่มีผิด เขาเคาะมือลงบนโต๊ะอย่างคนใช้ความคิด พลางวิเคราะห์เส้นทางที่เป็นไปได้ ที่คนของเสนาบดีโจวเหลียงเกาจะใช้ในการเคลื่อนไหวครั้งนี้อย่างเคร่งเครียด“เป็นสามเส้นทางที่น่าสนใจทั้งสิ้น หากใช้เส้นทางหลักก็จะกลายเป็นขบวนสินค้าปรกติ หรือจะใช้เส้นทางรองเพื่อหลีกเลี่ยงกลุ่มคน แล้วถ้าใช้เส้นทางลับที่สะดวกและปลอดหูตาคนมากกว่าล่ะ นับว่าไม่มีเส้นทางใดตัดทิ้งได้เลยนะขอ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
91011121314
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status