ทุกคนตกตะลึงเมื่อเห็นสิ่งนี้ ไม่มีใครเชื่อในสิ่งที่ตัวเองเห็นด้วยซ้ำพวกเขาไม่เห็นเลยว่าหลินเซียวจะทำได้อย่างไร เขาชกต่อยด้วยหมัดแล้วคนเหล่านั้นก็กระเด็นออกมานี่เป็นครั้งแรกที่ซูหว่านเอ๋อร์เห็นหลินเซียวลงไม้ลงมือ การกระทำของหลินเซียวทำให้เธอตกใจเธอไม่เคยคิดเลยว่า สามีที่ดูไร้ประโยชน์จะมีความสามารถพิเศษเช่นนี้จางเหยาประหลาดใจเมื่อเห็นหลินเซียวได้ลงไม้ลงมือแล้วก็ขับไล่กลุ่มคนไป ดูเหมือนว่าเขาไว้วางใจได้อยู่นะ หลินเซียวเป็นนักสู้ที่ซ่อนอยู่จริงๆ!สำหรับเพื่อนร่วมชั้นเหล่านั้น พวกเขาก็ประหลาดใจมาก ใครจะรู้ว่าไอ้สวะอย่างสามีของซูหว่านเอ๋อร์ จะมีความสามารถในการต่อสู้มากเช่นนี้เมื่อหลินเซียวโจมตีตอนนี้เขาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจะระงับตัวเองและใช้พละกำลังเพียง 10% ไม่เช่นนั้นคนเหล่านี้จะไม่สามารถต้านทานพลังหมัดของเขาได้!หลินเซียวไม่ต้องการให้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นนรกนองเลือดเพื่อไม่ให้ซูหว่านเอ๋อร์ผู้เป็นภรรยาของเขาหวาดกลัวแม้ว่าหลินเซียวไม่ได้ใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ แต่ก็ทำให้ทุกคนตื่นตะลึงแล้ว"ยืนบื้อทำอะไรกันอยู่ ไปจัดการมันหนักๆซะสิ" จ้าวหู่ไม่ยอมแพ้อย่างง่ายดาย จึงให้ลูก
แม้ว่าเขาจะควบคุมพลังของเขาได้ แต่เมื่อเขาลงมือ มันยังคงทำให้ฉากนั้นดูควบคุมได้ยากเล็กน้อย ท้ายที่สุด คนเหล่านี้ก็อ่อนแอมากเมื่อเห็นลูกน้องของจ้าวหู่ก็ไม่มีใครกล้ามีการเคลื่อนไหวใด ๆ สายตาของหลินเซียวราวกับไฟ และเขาจ้องมองไปที่จ้าวหู่แล้วพูดว่า "ทำไมคุณขี้ขลาดขนาดนี้ล่ะ กล้ามีอุบายกับผู้หญิงของผมงั้นเหรอ ถึงตาคุณแล้วล่ะ” หลังเขาพูดจบ หลินเซียวก็เดินไปยังจ้าวหู่จ้าวหู่กลัวมากจนตัวสั่น และขาของเขาค่อย ๆ ถอยไปด้านหลังตอนนี้ซูหว่านเอ๋อร์มีความรู้สึกหลายอย่างรวมกัน ซึ่งยากจะอธิบาย ในสายตาของเธอ ขณะนี้หลินเซียวเป็นเหมือนฮีโร่ที่ไม่มีใครเทียบได้ของเธอ ไม่ว่าความยากลำบากจะใหญ่แค่ไหน เขาก็สามารถต่อต้านอยู่ข้างหน้าของเธอได้!เธอยังดีใจที่หลินเซียวมากับเธอในครั้งนี้ ไม่เช่นนั้นเธอคงไม่รู้ว่ามันจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างจางเหยามองหลินเซียวด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความชื่นชมและความเคารพแต่ในขณะนี้ ฉากที่คาดไม่ถึงก็ปรากฏขึ้นในขณะที่หลินเซียวค่อยๆ เข้าใกล้กับจ้าวหู่ จ้าวหูผู้ซึ่งไม่มีทางหลบหนีได้หยิบปืนออกจากแขนของเขา และชี้ปืนไปที่หัวของหลินเซียว!ทุกคนต่างตื่นตระหนกซูหว่านเอ๋อร์ จางเหยา แล
จ้าวหู่ตกตะลึงอย่างยิ่งเมื่อเห็นว่าปืนของเขาถูกแย่งเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเกิดอะไรขึ้น เขาแค่หัวเราะเสียงดัง และปืนของเขาก็อยู่ในมือของหลินเซียวแล้วก่อนที่ใครจะสังเกตเห็นว่ามันเกิดอะไรขึ้น ปืนในมือของหลินเซียวก็กลายเป็นเศษเหล็กแล้ว“เล่นกับสิ่งนี้เหรอ คุณยังอ่อนอยู่มาก!” หลินเซียวโยนชิ้นส่วนที่แยกออกมาแล้วพูดสำหรับราชามังกรผู้ซึ่งต่อสู้ในสนามรบ ปืน ก็เป็นเพียงแค่ของเล่นเท่านั้นซูหว่านเอ๋อร์และจางเหยารู้สึกเหลือเชื่อเล็กน้อยเมื่อเห็นกลยุทธ์อันเฉียบคมของหลินเซียวในช่วงเวลาสั้นๆ หลินเซียวก็ช่วยสถานการณ์ที่แต่เดิมอันตรายมากไว้ได้หลินเซียวยังมีกลอุบายอะไรที่ซ่อนอยู่อีก?คนที่ตกใจที่สุดคือซูหว่านเอ๋อร์ หลินเซียวที่เธอรู้จักเป็นคนสวะที่ไม่มีงานทำ ทำไมตอนนี้เขาถึงแข็งแกร่งขนาดนี้?ตอนนี้จางเหยามองดูหลินเซียวด้วยความชื่นชมมากยิ่งขึ้น เธอกลายเป็นแฟนคลับตัวน้อยซะแล้วเมื่อเห็นว่าหลินเซียวปลอดภัย เหลิ่งซวงก็รีบวิ่งไปเพื่อที่จะตบจ้าวหู่!ใครก็ตามที่กล้าไม่เคารพราชามังกรจะถูกฆ่าอย่างไร้ความปรานี!ผู้ติดตามยังรีบเร่งวิ่งไป ควักอาวุธออกมาแล้วชี้ไปที่จ้าวหู่และลูกน้องของเขา“หยุด! พวก
สิ่งที่พวกเขาเห็นมีเพียงขาขาวคู่หนึ่งลอยไปมาแม้ว่าเหลิ่งซวงจะโกรธมาก แต่เธอก็ยังควบคุมตัวเองไม่ให้ใช้พละกำลังทั้งหมดเพื่อนร่วมชั้นต่างก็รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นการกระทำของเหลิ่งซวงในเวลาไม่ถึงสิบนาที มีเรื่องน่าเหลือเชื่อมากมายเกิดขึ้นจนพวกเขาไม่สามารถแยกแยะความคิดของตนเองได้เลย“พี่ จะจัดการกับสิ่งเหล่านี้ยังไง?” เหลิ่งซวงถาม“ไอ้สารเลวสองคนนี้อยากจะมีเรื่องกับพี่สะใภ้เธอ” หลินเซียวชี้ไปที่จ้าวหู่และฟู่ตงฮุย แล้วพูดกับเหลิ่งซวงว่า“ทำให้พวกเขาหายไป ทำให้พวกเขารู้ว่ามีบางคนที่เขาลบหลู่ไม่ได้ "ใบหน้าของหลินเซียวมีท่าทีนิ่งสงบราวกับน้ำที่นิ่งเงียบ เขาเพียงแต่พูดด้วยถ้อยคำช้าๆ แต่ทุกคำพูดกลับดูน่าเกรงขามนี่เป็นครั้งแรกที่ซูหว่านเอ๋อร์เห็นหลินเซียวที่เย็นชาและเคร่งขรึมขนาดนี้ ในขณะนี้เขามีนิสัยที่น่าเกรงขาม แม้แต่เธอก็ยังมีความรู้สึกหลงใหลเขาเล็กน้อยคนอื่นไม่เข้าใจว่าหลินเซียวหมายถึงอะไร แต่เหลิ่งซวงเข้าใจในทันที "รับทราบค่ะ"ในฐานะราชามังกร หลินเซียวมีความเด็ดเดี่ยวในสนามรบและไม่เคยที่จะลังเลเหตุผลที่จะฆ่าจ้าวหู่และฟู่ตงฮุยให้หมดสิ้น ไม่เพียงเพื่อปกป้องซูหว่านเอ๋อร์เท่านั้
“ตอนนี้ยังไม่จองโรงแรม แต่ในวันแต่งงานพวกคุณสามารถไปที่บ้านซูก่อนได้นะ ถึงเวลานั้นผมจะให้คนขับรถมารับพวกคุณทั้งหมดไปที่โรงแรม” หลินเซียวไม่ได้เล่าถึงโรงแรมรุ่ยหลงโดยตรง ถ้าเขาบอกสถานที่จัดงานแต่ง ให้ทุกคนรอตอนนี้ การเซอร์ไพรส์ก็จะหายไป“ถ้าอย่างนั้นก็ตกลง ถึงเวลาเราจะไปบ้านซู และรอให้คุณไปรับหว่านเอ๋อร์กับเรา!”“งานแต่งงานกำลังจะมาถึงอีกไม่กี่วันแล้ว ฉันนับวันรออยู่เรื่อยๆ”“หว่านเอ๋อร์และฉันมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก ฉันจะมางานแต่งของเธอแน่นอน”……หลังจากที่ทุกคนทักทายกันไม่กี่คำ หลินเซียวก็ขับรถออกไปพร้อมกับซูหว่านเอ๋อร์และจางเหยา“หลินเซียว ถ้าคุณชวนเพื่อนร่วมชั้นของฉันมางานแต่งงาน คุณแน่ใจจริงๆ เหรอว่างานแต่งงานจะจัดขึ้นได้ดี” ซูหว่านเอ๋อร์ถาม“ที่รัก เกิดอะไรขึ้นกันนะ คุณยังไม่เชื่อใจผมหรอ?” หลินเซียวหัวเราะ“ไม่ใช่ว่าฉันไม่เชื่อคุณ ฉันแค่สงสัยนิดหน่อย” ซูหว่านเอ๋อร์ก็ลืมตาขึ้นในครั้งนี้ หลินเซียวไม่ใช่ผู้แพ้อย่างแน่นอน เขาซ่อนมันไว้อย่างลึกซึ้ง ในขณะนี้ ซูหว่านเอ๋อร์รู้สึกว่าหลินเซียวแปลกไปนิดหน่อย เธอถึงกับรู้สึกว่าเธอไม่เข้าใจหลินเซียวเลยจริงๆ“หว่านเอ๋อร์ ตอนนี้ฉันตั
มีลูกค้าบางคนในโรงแรมได้ยินเสียงการต่อสู้กัน ก็เลยโทรหากรมกำกับดูแลกรมกำกับดูแลเมื่อทราบเรื่องว่ามีคนทะเลาะวิวาทต่อยตีกัน จึงได้ส่งคนมายังสถานที่เกิดเหตุพอมาถึงที่ห้องวีไอพี คนของกรมกำกับดูแลก็เห็นภาพตรงหน้าอันโหดร้าย รอยเลือดบนพื้นยังไม่ทันแห้งดี ลูกน้องของเหลิ่งซวงกำลังควบคุมตัวของจ้าวหู่และฟู่ตงฮุยอยู่ลูกน้องของเหลิ่งซวงสวมใส่เสื้อผ้าธรรมดา คนของกรมกำกับดูแลไม่มีทางรู้ตัวตนของพวกเขาเลย คิดว่าคงจะเป็นคนที่ทะเลาะวิวาทต่อตีกันธรรมดาคนของกรมกำกับดูแลไม่มีการลังเลแต่อย่างใด ควักปืนออกมาจ่อไปยังพวกของเหลิ่งซวงลูกน้องของเหลิ่งซวงก็ก้าวออกมา และจ่อปืนกลับไปเช่นกัน บรรยากาศของทั้งสองฝ่ายเปลี่ยนไปตึงเครียดเล็กน้อยสีหน้าคนของกรมกำกับดูแลตกตะลึง คนพวกนี้เป็นใครกันแน่ คิดไม่ถึงเลยว่าจะพกปืนกันด้วย!“พวกแกไม่มีทางให้หนีแล้ว ตอนนี้วางอาวุธลงซะ ยังมีโอกาสผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ ถ้าขัดขืนล่ะก็ โดนยิงตายกันหมดนี้แน่!” หัวหน้าทีมพูดขึ้น“ทุกท่านใจเย็นกันก่อนสิ มีอะไรเข้าใจผิดกันแล้ว คุณดูนี่สิว่าคืออะไร ….” เหลิ่งซวงก็คิดไว้แล้วว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้น เธอจึงเตรียมการไว้พร้อมตั้งแต่แรกอยู
“อย่า! ฉันยังไม่อยากตาย!” จ้าวหู่ข้อร้องวิงวอนขึ้น“ไว้ชีวิตหมาตัวนี้ด้วยเถอะนะนะครับ ผมก็แค่ปากพล่อยไป ไม่ได้คิดจะทำอะไรคุณผู้หญิงของราชามังกรเลยนะครับ!” ฟู่ตงฮุยหวาดกลัวจัดเมื่ออยู่ต่อหน้าความตาย จ้าวหู่และฟู่ตงฮุยก็กลัวจนขี้ราดเยี่ยวราดพวกเขาปล้นฆ่าคนจริง และก็ถือได้ว่าโหดร้ายทารุณเป็นอย่างมาก แต่เมื่อตนเองต้องอยู่ต่อหน้าสถานการณ์แบบนี้ ในใจก็เต็มไปด้วยความกลัวถึงขีดสุดตอนนี้จ้าวหู่เสียใจที่ทำเรื่องพวกนี้ลงไป ตัวเองไม่ควรมีความคิดชั่วๆ ต่อภรรยาของหลินเซียวเลย ตอนนี้แม้แต่ชีวิตต่ำต้อยก็รักษาไว้ไม่ได้แล้วฟู่ตงฮุยก็เสียใจอย่างที่สุดเช่นกัน ตนยังไม่ได้ทำอะไรเลยแท้ แค่ไปงานเลี้ยงกับเสวียลี่ลี่และอยากโชว์พาวเอาหน้า จากนั้นก็คิดไม่ดีกับภรรยาของหลินเซียวแค่นั้นเอง สุดท้ายก็ตาย!“ลงมือ!” เหลิ่งซวงออกคำสั่ง“ปังปังปัง!”เสียงปืนดังกึกก้องจ้าวหู่และฟู่ตงฮุยได้ตายไป……หลินเซียวได้ส่งจางเหยามาถึงใต้ตึกของคอนโดจางเหยายังเป็นกังวลว่าหลินเซียวจะไม่มีทางจัดงานแต่งได้ทัน ก็เลยพูดขึ้นไปว่า: “หลินเซียว ถ้าคุณมีปัญหาด้านทุนทรัพย์ก็บอกฉันได้นะคะ ฉันก็อยากจะให้หว่านเอ๋อร์มีเงินแต่งงานท
“เฮ้อ ถ้ารู้ว่าเธอจะมีวันนี้นะ ฉันก็คงจะไม่ทำกับเธอแบบนั้นหรอก” ตอนนี้ท่านย่าซูเสียใจอย่างถึงที่สุดเธอพูดขึ้นต่ออีกว่า: “เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ไม่ว่ายังไงก็ต้องให้เธอช่วยเหลือตระกูลซูสักหน่อย”“ท่านย่าครับ ตอนแรกที่ท่านย่าไล่ซูหว่านเอ๋อร์กับหลินเซียว หลินเซียวเหมือนจะบอกว่า ถ้ามีเรื่องอะไรก็อย่ามาขอให้ซูหว่านเอ๋อร์ช่วยเหลือ ตอนนี้พวกเราไปขอร้องเธอ งั้นศักดิ์ศรีของท่านย่าก็จะ…..” ซูจื้อเฉียงพูดขึ้น“ฉันอายุปูนนี้แล้ว จะไปขอร้องเธอด้วยตัวเองได้ยังไง เรื่องนี้ให้พวกเธอสองคนพี่น้องไปจัดการจะดีกว่า ถ้าหว่านเอ๋อร์ช่วยตระกูลซูของเราได้จริงๆ พวกเธอสองคนก็จะถือว่าได้ทำผลงานชั้นยอดให้กับตระกูล”“แต่ว่านะครับท่านย่า ตอนแรกผมเอ่ยปากออกไปแล้วว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะไปขอให้เขาช่วย ถ้าตอนนี้กลับคำ มันดูขายขี้หน้ามากเหมือนกันครับ ผมไม่อยากไปเลย” ซูจื้อเฉียงพูดขึ้นด้วยอาการร้อนรนเล็กน้อย“ใช่ค่ะ หนูก็ไม่อยากไป แค่คิดว่าเธอต้องใช้โอกาสนี้ทำให้หนูต้องอับอาย หนูก็รู้สึกว่ามันไร้ศักดิ์ศรีมากเลยค่ะ” ซูชิงเอ๋อร์ก็ไม่อยากไปขอร้องซูหว่านเอ๋อร์เช่นกัน“ศักดิ์ศรี? ศักดิ์ศรีมันกินไม่ได้นะหลาน ตอนนั้นใครให้พว