“ฉันกำลังเดินอยู่บนถนนก็ถูกพวกมันจับมาแล้ว!” จางเหยาพูดอย่างน้อยเนื้อต่ำใจได้ยินดังนั้น หลินเซียวก็ยิ่งโกรธขึ้นไปอีก กลับจับจางเหยามาทั้งที่เดินอยู่บนถนน พวกแก๊งชิงหลงไม่เห็นหัวคนอื่นเลยจริงๆ เลวทรามต่ำช้ามาก!“หลินเซียว คุณช่วยฉันด้วยนะ ฉันไม่อยากเห็นหน้าพวกขี้เหร่น่าเกลียดพวกนี้” จางเหยาพูดขึ้นครั้งก่อนจางเหยาประทับใจหลินเซียวเป็นอย่างมาก เขาและผู้หญิงข้างกายที่อยู่ด้านหลังคนนี้เก่งกาจมาก ตอนนี้ทั้งสองคนอยู่ในห้องวีไอพี งั้นเธอก็มีความหวังแล้ว“วางใจเถอะ ผมต้องช่วยคุณให้ปลอดภัยได้อย่างแน่นอน” หลินเซียวพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย“ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ? หรือว่าเห็นตอนที่ฉันถูกจับพอดีก็เลยตามฉันมาถึงที่นี่เพื่อมาช่วยฉันใช่ไหม?” จางเหยาไม่คิดว่าทันทีที่ตัวเองตกอยู่ในอันตราย หลินเซียวก็ปรากฏตัวขึ้น และยังคิดว่าหลินเซียวเห็นตอนที่ตัวเองถูกจับมาจึงรีบมาช่วยตัวเอง“คุณคิดมากเกินไปแล้ว ก็แค่เป็นเรื่องบังเอิญน่ะ ผมมาแก้แค้นเหลยเฉียง แต่ก็ไม่คิดว่าคุณจะถูกมันจับมาโดยบังเอิญแบบนี้” หลินเซียวพูดขึ้นได้ยินหลินเซียวพูดแบบนี้ จางเหยาก็เข้าใจแล้วว่าหลินซียวมาแก้แค้นให้แม่บุญธรรมของตัวเองถ
ใครที่กล้ามุ่งร้ายต่อราชามังกรเทพสงคราม พวกมันมีแค่จุดจบเดียว นั่นก็คือความตาย!อย่างไรก็ตามมาที่คลับสวรรคบนดินก็เพื่อมาล้างแค้นเหลยเฉียงและจำเป็นต้องฆ่าคนอยู่แล้วแต่เหลิ่งซวงไม่ได้ยิ่งเหลยเฉียงตาย แต่คิดจะรอให้หลินเซียวเป็นคนลงมือเองยังไงซะแม่บุญธรรมของหลินเซียวถูกเหลยเฉียงฆ่าตาย งั้นแค้นนี้ก็ควรให้หลินเซียวเป็นคนชำระ“แกยังมีอะไรจะสั่งเสียไหม?” หลินเซียวพูดอย่างเย็นชา“อย่า....ฉันยังไม่อยากตาย.....” เหลยเฉียงขี้ขลาดขึ้นมาและหวาดกลัวเป็นอย่างมากเขาไม่คิดว่าผู้หญิงข้างกายของหลินเซียวจะเก่งกาจขนาดนี้“แกฆ่าแม่บุญธรรมของฉัน แกคิดว่าฉันจะปล่อยแกไปงั้นเหรอ?” หลินเซียวพูดขึ้นแล้วค่อยๆ ก้าวเข้าไปเหลยเฉียงเหลยเฉียงกลัวจนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ก้าวถอยหลังไม่หยุดแต่ด้วยเพราะหลินเซียวยิ่งเดินเข้าไปใกล้เรื่อยๆ เขาก็ยิ่งไม่มีทางให้หนีแล้วและในเวลานี้เอง ก็มีเสียงเท้าวิ่งอย่างเร่งรีบเวลามาจากทางด้านนอกเหลิ่งซวงจับปืนคู่แน่นพร้อมจ่อไปที่ปากประตูอย่างไม่ลังเลเสียงปืนเมื่อครู่ดึงดูดความสนใจของลูกน้องแก๊งชิงหลงได้หลายคนได้ยินยิ่งฝีเท้าแว่วมาอย่างไม่ขาดสาย สีหน้าของเหลยเฉียงก็ยิ้มเ
เมื่อหลินเซียวเห็นเหลยเฉียงวิ่งปรี่เข้ามาทางเขา เขาก็ได้ชกออกไปตรงๆ กำปั้นกระแทกเหลยเฉียงเข้าตรงระหว่างคิ้ว“อ๊าก!” เสียงกรีดร้องดังขึ้น เหลยเฉียงรู้สึกว่าหัวของเขากำลังมึนๆงงๆ จากนั้นทั้งร่างของเขาก็ได้กระเด็นลอยออกไป“ปัง!” เหลยเฉียงกระแทกกำแพงอย่างแรง เสียงดังสนั่นจากนั้นเหลยเฉียงก็ล้มลงกองกับพื้นและมีรอยเลือดจำนวนมากปรากฏขึ้นบนผนัง หัวของเหลยได้เฉียงแตกไปแล้วในเวลานี้ เหลยเฉียงล้มลงนอนกองไปกับพื้น เนื้อตัวสั่นสะท้าน และใบหน้าของเขาเริ่มซีดลง ตอนนี้เขาไม่ต่างอะไรจากสุนัขที่ใกล้ตายแล้ว และเขาก็ไม่มีแรงที่จะสามารถต่อต้านได้เลยจางเหยารู้สึกเหลือเชื่อมาก เมื่อเห็นหลินเซียวทำให้เหลยเฉียงบาดเจ็บหนักขนาดนี้ด้วยหมัดเดียวเธอมักจะรู้สึกเสมอว่าหลินเซียวถูกคนอื่นคิดว่าเป็นคนขี้แพ้ แต่หลังจากเหตุการณ์ไม่กี่ครั้งเหล่านี้ เห็นได้ชัดว่าหลินเซียวเก็บซ่อนตัวตนไว้อย่างลึกลับมากน่าเสียดายที่ซูหว่านเอ๋อร์ไม่อยู่ที่นี่ตอนนี้ มิฉะนั้น เธอจะต้องประหลาดใจมากอย่างแน่นอนเมื่อเห็นหลินเซียวในเวลานี้หลายคนรู้ว่าแกงค์ชิงหลงมีอิทธิพลมากในเมืองหนานหู แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่แข็งแกร่งมากพอเมื่ออยู
หลินเซียวกล่าว ประโยคนี้เกือบจะเหมือนกับที่เขาพูดที่ตระกูลเยว่ทุกอย่างเลยตอนนี้เหลยเฉียงยังคงมีประโยชน์ในการใช้งานอยู่บ้าง หากเขาถูกฆ่าอย่างรวดเร็ว ก็ดูเหมือนจะตายสบายเกินไปสำหรับเขา เป็นการดีกว่าที่จะปล่อยให้เขาต่อสู้กับความหวาดกลัวไม่รู้จบสักสองสามวันแล้วค่อยจัดการกับมันทีเดียวเหลยเฉียงดีใจมากเมื่อได้ยินว่าเขายังได้มีชีวิตอยู่ต่อ ตราบใดที่เขาได้รับเวลาเตรียมตัวเพียงเล็กน้อย แกงค์ชิงหลงก็สามารถทำลายหลินเซียวได้อย่างแน่นอน “เหลิ่งซวง เอาปืนให้ฉันหน่อยสิ” หลินเซียวกล่าว“ได้ค่ะ” เหลิ่งซวงรู้ว่าหลินเซียวหมายถึงอะไรเป็นอย่างดี และยื่นปืนกลมือในมือของเขาให้หลินเซียวครู่ต่อมา หลินเซียวหิ้วเหลยเฉียงขื้นแล้วชี้ปืนไปที่หัวของเขาแล้วพูดว่า: "ชีวิตของนายอยู่ในมือของฉัน บอกคนของนายหนีให้พ้น ไม่เช่นนั้นนายคงจะต้องตายแน่ๆแล้วล่ะ!"“ได้ครับๆ อย่าเพิ่งหุนหันพลันแล่นไป ฉันจะสั่งลูกน้องว่าอย่าทำอะไรพวกนาย!” เหลยเฉียงรู้ดีว่าหลินเซียวต้องการใช้เขาเพื่อออกคลับเทียนซ่างเหยินเจียนอย่างไรก็ตาม ตราบใดที่เขายังมีชีวิตอยู่ จะมีโอกาสมากมายที่จะสร้างปัญหาให้กับหลินเซียวในอนาคต!“จางเหยา ตามผมมา ผมจะ
“โอเค!” หลินเซียวพูด แล้วยื่นปืนกลมือให้เหลิ่งซวง จากนั้นจึงพาจางเหยาออกจากคลับเทียนซ่างเหยินเจียนเหลยเฉียงถูกจับเป็นตัวประกัน และคนของเขาเริ่มรวมตัวกันล้อมรอบตัวเขา“หยุดอยู่ตรงนั้น พวกแกอยากให้ฉันตายรึไง” เหลยเฉียงตะโกนตอนนี้เขาอยู่ในอาการตื่นตระหนก หากเหลิ่งซวงยิงปืนออกไปตรงๆ ทุกอย่างก็จะจบเมื่อได้ยินเสียงตะโกนของเหลยเฉียง คนของเขาก็ไม่กล้าเข้าใกล้“ยืนตรงนี้เฉยๆ ถ้ากล้าแม้แต่ขยับ ฉันจะลงมือฆ่าเดี๋ยวนี้ล่ะ!” เหลิ่งซวงกดปืนกลเข้าใส่เหลยเฉียงแล้วถอยกลับอย่างช้าๆเหลยเฉียงไม่กล้าเคลื่อนไหวใดๆ ในเวลานี้ เพราะยังมีปืนที่จ่อเขาอยู่ด้านหลังเขาทำได้เพียงยืนอยู่ตรงนั้น รอให้เหลิ่งซวงจากไปอย่างช้าๆสำหรับคนของเขา ไม่มีใครกล้าที่จะทำอะรเลย และพวกเขาทั้งหมดก็ได้เฝ้าดูเหลิ่งซวงจากไปอย่างช้าๆพวกเขาพบว่ามันเหลือเชื่อมากที่เหลิ่งซวงสามารถพกปืนกลมือได้จริง ๆ เธอไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอนหลินเซียวและจางเหยาเพิ่งขึ้นรถออฟโรด เหลิ่งซวงก็ตามออกมาทันทีจากนั้นเหลิ่งซวงก็ขึ้นไปบนที่นั่งคนขับแล้วขับออกไป ……คลับเทียนซ่างเหยินเจียนหลังจากที่เหลิ่งซวงจากไป เหลยเฉียงก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาล้ม
“โอเค แต่อย่าบอกเธอนะว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนี้ ไม่ต้องพูดถึงว่าเราฆ่าคนไปมากมายเพราะอะไร” หลินเซียวบอกกับจางเหยา“ทำไมเหรอคะ?” จางเหยามองหลินเซียวด้วยความสับสนและถาม“เพราะฉันไม่อยากให้เธอกังวล ดังนั้นคุณควรหยุดพูดเรื่องนี้สักที” หลินเซียวอธิบาย“ไม่ว่ายังไงก็ตาม ฉันต้องหาเหตุผลที่จะบอกหว่านเอ๋อร์ ไม่เช่นนั้นฉันจะย้ายไปอยู่ที่วิลล่าได้ยังไง” จางเหยาถาม“คุณสองคนมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน คุณยังต้องหาเหตุผลพิเศษอะไรที่จะได้อยู่กับเธอสักสองสามวันรึไง?” หลินเซียวยิ้มเล็กน้อย“อ่อใช่ ขอบคุณมากนะคะสำหรับคืนนี้ ถ้าคุณไม่มา ฉันก็นึกภาพไม่ออกเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น!” จางเหยามองหลินเซียวด้วยใบหน้าขอบคุณ“ไม่เป็นไร คุณเป็นเพื่อนที่ดีของหว่านเอ๋อร์ดังนั้นผมก็ควรช่วยคุณและผมก็ยังช่วยคุณโดยบังเอิญอีกต่างหาก” หลินเซียวพูดอย่างสงบ“ตอนนี้ฉันมาคิดดูแล้ว มันเหลือเชื่อจริงๆเลยนะ คุณปรากฏตัวหลังจากที่ฉันถูกจับ นั่นหมายความว่าเรามีวาสนาต่อกันแล้วใช่ไหมคะ?” จางเหยากล่าว“นี่ไม่ใช่โชคชะตา พูดได้ว่าเป็นแค่เรื่องบังเอิญ ในฐานะนักเขียน คุณควรรู้ว่าความบังเอิญคืออะไรใช่ไหม” หลินเซียวกล่าว“เอาล่ะ เอาเป็นตาม
“นายใหญ่ หลินเซียวกล้าที่จะบุกถิ่นของเราพร้อมกับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพวกเขาเตรียมพร้อมมาอย่างดีและแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ผมคิดว่าเราจำเป็นที่จะต้องมีแผนที่รัดกุมนะครับ!” หลี่ซุนที่ปรึกษาของแกงค์ชิงหลงกล่าว“ที่ปรึกษาหลี่ นายมีแผนอะไรไหม” เจิงจินหลงถามกลยุทธ์ของหลี่ซุนนั้นยอดเยี่ยมมาก ด้วยความช่วยเหลือของเขา แกงค์ชิงหลงได้กวาดล้างกองกำลังทั้งหมดในเมืองหนานหู โดยตรง และแกงค์ชิงหลงก็ยึดครองตำแหน่งของแกงค์ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหนานหูอย่างมั่นคงดังนั้นตำแหน่งของหลี่ซุนในแกงค์ก็สูงมากเช่นกันอาจกล่าวได้ว่าบารมีของเขานั้นเป็นรองแค่เจิงจินหลงนายใหญ่แกงค์เท่านั้นและเจิงจินหลงยังต้องฟังความคิดเห็นของหลี่ซุนในหลายๆเรื่อง“เท่าที่ผมรู้ วันนี้หลินเซียวไปบุกตระกูลเยว่และสร้างความยุ่งยากครั้งใหญ่ในงานวันเกิดครบรอบ 80 ปีของหญิงชราแห่งตระกูลเยว่ เขาเอาชนะมือดีทั้งหมดของตระกูลเยว่และทำให้เยว่ยี่เฟิงลูกชายคนโตของตระกูลเยว่กลายเป็นคนพิการ แล้วก็จากไปอย่างปลอดภัย” หลี่ซุนกล่าว “แล้วเรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับแกงค์ชิงหลงของเราเหรอ?” เจิงจินหลงถาม“เหตุการณ์ทั้งสองนี้แสดงให้เห็นว่าหลินเซียวมีพล
“เราสองคนนอนด้วยกันดีกว่านะ? คืนนี้เรามานอนคุยกันยาวๆ กันเถอะ” ซูหว่านเอ๋อร์กล่าว“จะไม่เป็นอะไรจริงๆเหรอ หลินเซียวจะทำยังไงถ้าฉันนอนกับแก เขาจะไม่โอเคหรือเปล่า?” จางเหยารู้สึกแปลกๆถ้าเธอนอนกับซูหว่านเอ๋อร์ ทั้งๆที่หลินเซียวก็อยู่ที่วิลล่าด้วยกันเพราะพวกเขาเป็นคู่รักกันและเธออาจจะรบกวนช่วงเวลาส่วนตัวของพวกเขา ถ้าหากว่าเธอนอนกับซูหว่านเอ๋อร์ แล้วหลินเซียวจะนอนที่ไหน?“ไม่เป็นไร เขาไม่สนใจหรอก ยังไงมันก็แค่ไม่กี่วันเอง เพราะงั้นเขาไม่คิดอะไรมากหรอก” ซูหว่านเอ๋อร์พูดอย่างเขินอายเล็กน้อย“โอเค งั้นเรามานอนด้วยกันเถอะ” จางเหยาพยักหน้าแล้วพูดไม่ว่ายังไงเธอก็ไม่กล้านอนคนเดียวในคืนนี้แม่บุญธรรมของเขาถูกฆ่าตายและการแก้แค้นก็ยังไม่สำเร็จ ตอนนี้ หลินเซียวเองก็ไม่มีกะจิตกะใจที่จะทำอะไรกับซูหว่านเอ๋อร์ด้วยอยู่แล้วหลินเซียวเข้าไปที่ห้องข้างๆของซูหว่านเอ๋อร์และนอนหลับทั้งคืนซูหว่านเอ๋อร์กลับมาทำงานที่หนานหูกรุ๊ปจางเหยาพักอยู่ในวิลล่าและจินตนาการถึงนิยายของเธอเองหลินเซียวยังรู้สึกว่าไม่เหมาะสมที่จะอยู่ในวิลล่ากับจางเหยา เขาจึงขอให้เหลิ่งซวงขับรถไปส่งเขาที่บ้านเกิดของแม่บุญธรรมในชนบท